สุรัชดา โหราพยากรณ์ดวงชะตาด้วยหลัก ดารา-โหราศาสตร์ ..ร่วมแก้ไขปัญหา ผ่อนคลายชะตากรรม ด้วยจิตสัมผัส ไพ่ทาโรต์
<<
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
28 กันยายน 2553

ชนะหมอดูกันดีกว่า!!!!

ในฐานะนักพยากรณ์ ที่ต้องอ่านดวงชะตา
หลายครั้งที่ต้องเจอกับคำถาม
ของคนที่ชอบดูหมอ ที่รู้ดีเหลือเกิน
นี่นะ หมอคนนี้ว่าดวงแตก ดวงเป็นพินทุบาทว์
บอกว่าเคราะห์ร้ายหนัก จะต้องตาย
บอกว่าต้องเลิกกับสามี...มากมายสารพัด
แล้วจะต้องทำยังไง??

ผู้เขียนก็ต้องถอนใจหนึ่งเฮือก
แล้วตอบด้วยความรู้ของนักเรียนโหราศาสตร์
ที่กำลังศึกษา ที่ได้ร่ำเรียนมาว่า
ดวงชะตา ก็คือ แผนที่ คือ พิมพ์เขียว
ที่กำหนดมาจากกรรม การกระทำในอดีตชาติของเรา
ที่พระเจ้าปรานี ให้เราได้รู้ล่วงหน้า
ให้เราได้แก้ไข ไม่ใช่ให้เราท้อ
ปล่อยตัวไปตามยถากรรม

ลองอ่านบทความข้างล่างนี้นะคะ
แล้วจะรู้ว่าการเอาชนะดวงชะตาเรา ไม่ใช่เรื่องยาก
การเอาชนะคำทำนายทายทักของ..หมอดู...นักพยากรณ์
ก็ง่ายนิดเดียว!!!!
ขอแต่เพียงให้เราได้รู้จากท่าน..ก่อน...เท่านั้น!!!
************************

กรรมเหนือหมอดู
โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก
จาก คอลัมน์รื่นร่มรมเยศ หนังสือพิมพ์มติชน
ฉบับวันอาทิตย์ที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๔๙ หน้า ๖


ผมเป็นศิษย์โหร แต่มิได้เป็นโหร
หลวงพ่อเจ้าคุณพระภัทรมุนี
หรือมหาอิ๋น เจ้าอาวาสวัดทองนพคุณ ธนบุรี (สมัยนั้น)
เป็นโหราจารย์ชั้นยอด
สมัยนั้นมีโหราจารย์ที่ดังอยู่เพียงสองท่านเท่านั้น คือ
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (อยู่ ญาโณทยมหาเถระ)
ซึ่งต่อมาเป็นสมเด็จพระสังฆราช
อีกรูปหนึ่งคือพระภัทรมุนี
แต่โหรสมัยก่อนเขามิได้ทายส่งเดช
อย่างหลวงพ่อเจ้าคุณพระภัทรมุนี
ท่านเป็นที่ปรึกษาทางจิตใจให้แก่ศิษย์มากกว่าเป็นหมอดู
เรื่องประเภทไหนควรทาย ไม่ควรทายท่านมี "จรรยาบรรณ"
บางทีกว่าจะทายได้สักราย
ท่านคำนวณแล้วคำนวณอีกถึงสองสามวันก็มี
ไม่แน่ใจท่านก็ไม่ทาย

มีเรื่องเล่าว่า หนุ่มสาวคู่หนึ่งจูงมือมาให้หลวงพ่อ
กำหนดวันแต่งงานให้ ท่านดูๆแล้ว บอกว่า
ท่านไม่สามารถให้ฤกษ์ได้ ขอให้ไปหาสมเด็จฯวัดสระเกศ
สองคนก็ไปหาสมเด็จฯ และก็ได้ฤกษ์ไป
มีผู้ถามสมเด็จฯภายหลังว่า ทำไมเจ้าคุณอิ๋นไม่ให้ฤกษ์
สมเด็จฯบอกว่า "เจ้าคุณท่านดูแล้วสองคนนี้จะอยู่ด้วยกันไม่ตลอด
แต่อาตมาถือว่า เขาเป็นคู่กันต้องได้แต่งงานกัน
ส่วนต่อไปนั้นจะเป็นอย่างไรเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
จึงให้ฤกษ์แต่งไป"

ถูกทั้งสองรูป
รูปหนึ่งมองว่าถ้าจะแต่งงานกันก็ควรไปได้ตลอด
อีกรูปหนึ่งมองว่า ดวงมันเป็นคู่กันก็ต้องได้แต่งงานกัน
ส่วนจากนั้นไป จะอยู่ด้วยกันยืดหรือไม่
เป็นเรื่องของทั้งสองคน แล้วแต่จะมอง

เมื่อผมสอบเปรียญเก้าประโยคได้แล้ว
หลวงพ่อพยายามชักจูงให้ผมเรียนโหราศาสตร์
ผมก็ยืนยันว่า ไม่อยากเป็น "หมอดู"
หลวงพ่อบอกว่า โหร มิใช่หมอดู
เราศึกษาโหราศาสตร์ให้เชี่ยวชาญ
เพื่อนำไปใช้ในการแก้ปัญหาชีวิต ไม่จำเป็นต้องพยากรณ์ใคร
คล้ายจะบอกว่า โหราศาสตร์ กับพยากรณ์ศาสตร์แยกกันได้
แต่ผมก็เห็นโหรส่วนมากท่านก็พยากรณ์ทั้งนั้น

ผมแย้งว่าพระพุทธเจ้าท่านตำหนิเป็น "ติรัจฉานวิชชา" มิใช่หรือ
ท่านตอบว่า ถ้าเอาคำจำกัดความว่า ติรัจฉานวิชชาคือ
วิชชาที่ขวางต่อการบรรลุมรรคผลนิพพาน
เณรเรียนนักธรรมบาลี ก็เข้าเกณฑ์นี้ทั้งนั้น
ผมจำนนท่าน แต่ผมก็ไม่ยอมเรียนอยู่ดี
ไม่งั้นป่านนี้เป็นหมอดูแม่นๆ ไปแล้ว

หลวงพ่อเล่าว่า ปราชญ์โบราณท่านเรียนโหราศาสตร์ทั้งนั้น
สมเด็จพระจอมเกล้าฯรัชการที่สี่
สมเด็จมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส เป็นต้น
ก็ทรงเชี่ยวชาญโหราศาสตร์ทั้งนั้น
แต่ก็ไม่เห็นท่านใช้โหราศาสตร์พยากรณ์ใครเป็นอาชีพ
แล้วท่านก็เล่าเรื่องที่ต่างๆ ให้ผมฟัง
แล้วก็ตื่นเต้นด้วยความดีใจที่ได้รับรู้เรื่องราวเก่าๆ
ชนิดจะไปหาอ่านที่ไหนไม่ได้

ก่อนทรงศึกษาโหราศาสตร์นั้น
พระวิชรญาณ (สมเด็จพระจอมเกล้าฯ รัชกาลที่สี่)
ทรงได้รับพยากรณ์จากหลวงตาเฒ่ารูปหนึ่ง
ดูเหมือนชื่อ ทอง แห่งวัดตะเคียนว่า จะได้ราชสมบัติแน่นอน
รับสั่งว่าให้เป็นจริงเถอะ จะสมนาคุณอย่างงามเลย
แล้วในที่สุดก็ทรงได้ขึ้นครองราชย์จริงๆ
ทรงรำลึกถึงหลวงตาเฒ่าวัดตะเคียนขึ้นมา
ตั้งพระทัยจะไปนมัสการ
ก็ทรงทราบว่า หลวงตาเฒ่ามรณภาพไปนานแล้ว
จึงทรงปฏิสังขรณ์เป็นการบูชาคุณหลวงตาเฒ่า
แล้วพระราชทานนามวัดใหม่ว่า วัดมหาพฤฒาราม
(แปลว่า วัดที่สร้างถวายพระผู้เฒ่า)

เมื่อทรงเชี่ยวชาญในโหราศาสตร์แล้ว
ก็มิได้ทรงใช้วิชาโหราศาสตร์ทำนายทายทักอะไร
นอกจากทรงวิพากษ์วิจารณ์ดวงพระชาตา
ของพระราชโอรสบางองค์
ดังทรงวิจารณ์ดวงพระชาตากรมหมื่นพิชิตปรีชากร
ที่โหรทั้งหลายว่าเป็นดวงแตก เอาดีไม่ได้
ว่าถ้าถอดดวงให้ละเอียดแล้ว กลับเป็นดวงดีอย่างยิ่งเป็นต้น

และทรงสามารถใช้โหราศาสตร์แก่เคล็ดได้อีกด้วย
ดังทรงเห็นว่าดวงพระชาตาพระอนุชาธิราชแข็งมาก
จะได้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน
เมื่อถูกอัญเชิญลาสิกขาเพื่อไปครองราชย์
พระองค์จึงทรงสถาปนาพระอนุชาธิราช
ให้เป็นกษัตริย์พระองค์หนึ่งพระนามว่า
พระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ว่ากันว่าทรงแก้เคล็ดทางโหราศาสตร์

สองสามวันมานี้มีข่าวโหร หรือหมอดูแม่นชื่อ หมอดูอีที
(ขอประทานโทษถ้าฟังมาผิด) เป็นชาวพม่า
ทำนายดวงนักการเมืองดังๆ มามาก
หลายท่านก็ว่าทำนายได้แม่นยำ
อย่างป๋าเหนาะท่านว่า
ท่านเองก็เคยให้หมอดูอีทีทำนาย แม่นมาก
"ขนาดเงินกระเป๋าผม ยังทายได้เลยว่า
มีใบพัน ใบห้าร้อย ใบร้อยกี่ใบๆ และแต่ละใบเลขอะไร"
แล้วท่านเล่าต่อ หมอเขาก็เตือนว่า
ระวังจะถูกหลักหลัง ดวงทำบุญคนไม่ขึ้น
หมอยังบอกว่าใครควรคบไม่ควรคบ
ถึงตรงนี้เสียงนักข่าวแทรกขึ้นว่า
"แล้วหมอบอกหรือเปล่าว่าคนหน้าเหลี่ยมไม่ให้คบ"
ป๋าท่านก็บอกว่าไม่เอาแล้วๆ อย่าถามมาก
อะไรประมาณนั้น

หมอดูที่ทายแม่นยังกับตาเห็น มีมาทุกยุคทุกสมัย
แต่ส่วนมากทายอดีตและปัจจุบันค่อนข้างแม่น
แต่ทายอนาคตไม่ค่อยแม่น
นานๆ จะทายอดีตค่อนแม่นยำ

ดังกรณีซินแส มองหน้าพระหนุ่มสองรูปกำลังเดินบิณฑบาตอยู่
แล้วก็หัวเราะชอบใจ พระหนุ่มสองรูปถามว่า หัวเราะอะไร
ซินแสตอบว่า
"ลื้อสองคงนี้จะได้เป็นพระเจ้าแผ่งลิง (แผ่นดิน)"
แล้วก็หัวเราะเห็นฟันเหลือง
คราวนี้ พระคุณเจ้าทั้งสองรูปหัวเราะบ้าง
ดังกว่าเสียงของซินแส ไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้อย่างไร
สองคนเป็นพระเจ้าแผ่นดินพร้อมกัน!

ถ้าซินแสแกมีอายุยืนยาวจนได้เห็นว่า
อดีตพระหนุ่มสองรูปนั้นได้เป็นพระเจ้าแผ่นดินจริง
คือ พระสินได้เป็นสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
พระทองด้วงได้เป็นพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
แกก็คงหัวร่อชอบใจที่แกพยากรณ์แม่นจริงๆ

ทำไมการพยากรณ์อดีตจึงแม่น พยากรณ์อนาคตไม่แม่น
ตอบง่ายนิดเดียว เพราะชีวิตคนมิได้ขึ้นอยู่กับโหราศาสตร์
เป็นเงื่อนไขอย่างเดียว
มันย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามเงื่อนไขปัจจัยอีกมากมาย
อดีตนั้น "นิ่ง" แล้ว
ไม่มีเงื่อนไขอะไรมาผลักดันให้เป็นอื่นได้
เพราะฉะนั้น การทำนายทายทักจึงมักจะตรง
แต่ปัจจุบันและอนาคต มันยังเคลื่อนไหว
เพราะเหตุปัจจัยอีกหลายอย่าง ยังไม่นิ่ง

เงื่อนไขที่สำคัญที่สุดคือ "กรรม" (การกระทำ) ของคนๆ นั้นอง
เขาทำทั้งกรรมดีและกรรมไม่ดีคละกันไป
สิ่งเหล่านี้แหละมีแนวโน้มจะให้ผลในอนาคต
ไม่ว่าดี หรือไม่ดี

พูดอีกนัยหนึ่ง เราเป็นผู้กำหนดอนาคตเราเอง
ถ้าต้องการให้ชีวิตเป็นไปอย่างใด
ก็ต้องสร้างเงื่อนไขที่ดีๆ ไว้ให้มาก แล้วอนาคตจะไปดีเอง
ตรงข้ามถ้าสร้างแต่เงื่อนไขไม่ดี อนาคตก็เป็นไปตามนั้น


ลองฟังนิทานชาดกนี้ดู พระราชาสองเมืองทำสงครามกัน
ผัดกันแพ้ผลัดกันชนะ ถึงฤดูฝนก็หยุดพักสิ้นฤดูฝนก็รบใหม่
เป็นอย่างนี้มานาน จนมีคนไปถามฤๅษีว่า
พระราชาองค์ไหนจะชนะ ฤๅษีก็ไปถามพระอินทร์อีกต่อ
พระอินทร์บอกว่าพระราชาเมือง ก.จะชนะ เมือง ข.จะพ่ายแพ้
ข่าวนี้ก็ไปเข้าพระกรรณของพระราชาทั้งสององค์
ที่ได้รับคำทำนายว่าจะชนะ ก็ดีใจ ประมาท
เลี้ยงฉลองกันมโหฬารตั้งแต่ยังไม่รบ
ไม่ฝึกปรือกองทัพให้พร้อม สบายใจว่าจะชนะแน่
ส่วนพระราชาที่หมอทำนายว่าจะแพ้ ก็ไม่ยอมถอดใจ
ตั้งหน้าตั้งตาฝึกปรือกองทัพอย่างเข้มงวด
วางแผนรุกแผนรับไว้อย่างพร้อมสรรพ

เมื่อถึงคราวรบจริง เรื่องก็กลับตาลปัตร
ฝ่ายที่ว่าจะชนะ ก็ถูกตีกระจุย
ฝ่ายที่ว่าจะแพ้ ก็กำชัยชนะไว้ได้
พระราชาองค์ที่ฤๅษีว่าจะชนะ
จึงไปต่อว่าฤๅษีหาว่าทำนายส่งเดช
ฤๅษีก็หน้าแตกไปตามระเบียบ
จึงไปต่อว่าพระอินทร์หาว่าทายซี้ซั้ว
ทำให้แกผู้นำคำทำนายไปเผยแพร่เสียหน้า
พระอินทร์กล่าวว่า
"ไม่ผิดดอก ถ้าปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองของมัน
พระราชา ก.จะชนะแน่นอน
แต่บังเอิญว่ามีเงื่อนไขใหม่เข้ามาเกี่ยวข้องคือ
ความพากเพียรพยายามฝึกฝนฝึกปรือกองทัพ
ของพระราชาเมือง ข. การณ์จึงกลายเป็นตรงกันข้าม"

แล้วพระอินทร์จึงกล่าวปรัชญาว่า
"คนที่พยายามจนถึงที่สุดแล้ว แม้เทวดาก็กีดกันไม่ได้"


อีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องของเหลียวฝาน
ที่มิสโจ แปลไว้ในหนังสือ โอวาทสี่ของเหลี่ยวฝาน
ที่พิมพ์เผยแพร่มาหลายครั้งแล้ว

เหลี่ยวฝานเดิมชื่อเสวียห่าย ได้พบผู้เฒ่าข่ง
ผู้เฒ่าทำนายว่าจะได้เป็นขุนนาง
ปีไหนจะเป็นอย่างไรบอกไว้หมด
และว่าท่านเหลี่ยวฝานจะไม่มีบุตร
และจะตายเมื่ออายุได้ 53 ปี

คำพยากรณ์ของท่านผู้เฒ่า แม่นยำมาตลอด
จนท่านคิดว่าชะตาชีวิตคนเราถูกฟ้าดินกำหนดมาแล้ว
ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ เลยไม่คิดที่จะขวนขวายพยายามต่อไป
ปล่อยให้เป็นไปตามฟ้าลิขิต
ต่อมาท่านได้พบพระเถระนาม ฮวิ๋นกุ ท่านได้สอนว่า
ชะตาชีวิตเป็นสิ่งไม่แน่นอน อนาคตเราต้องสร้างเอง
คนทำดีชะตาก็ดี ทำชั่วชะตาก็ชั่ว
เมื่อต้องการอนาคตดี ต้องทำดี
ถ้าประกอบแต่ความไม่ดี แม้ชีวิตดีมาแล้วก็กลายเป็นร้ายได้

เหลี่ยวฝานได้เล่าคำทำนายของท่านผู้เฒ่าให้พระเถระฟัง
ว่าที่ท่านทำนายไว้ถูกต้องแม่นยำมาตลอด
ยังเหลือแต่สองข้อสุดท้าย คือจะไม่มีบุตร และสิ้นชีวิตเมื่ออายุ 50

พระเถระกล่าวว่า ให้ตั้งปณิธานว่าจะทำดีให้มาก
สั่งสมบารมีให้มาก ไม่ยอมตนอยู่ในอิทธิพลของคำพยากรณ์ต่อไป
บุญกุศลใดที่ทำด้วยความจริงใจ บริสุทธิ์ใจ
แม้กระทำครั้งเดียว ก็เท่ากับกระทำหมื่นครั้งทีเดียว


ท่านก็เชื่อพระเถระ ตั้งหน้าทำแต่ความดีงาม
สำรวจความดีความชั่วของตนเองว่า
วันหนึ่งๆทำความชั่วอะไรบ้าง ความดีอะไรบ้าง
แล้วพยายามลบความชั่วด้วยความดีเรื่อยๆ
จนมีความดีเพิ่มมากขึ้น แล้วท่านก็ชนะชะตาชีวิต
คือได้บุตรชายคนหนึ่ง เมื่อถึงอายุ 50 ปี ก็
มิได้ตายดังคำทำนายของผู้เฒ่าข่ง อยู่มาถึงอายุ 69 ปี

ท่านจึงแน่ใจว่า คนเราถ้าไม่ขวนขวายพยายาม
ปล่อยชีวิตไปตามยถากรรม ก็ตกอยู่ใต้อิทธิพลของฟ้าดิน
แต่กรรมเท่านั้นที่เป็นตัวกำหนดอย่างแท้จริง
นั่นคือเราต้องสร้างอนาคตของเราเอง

คนที่พยายามพึ่งตัวเองด้วยการกระทำแต่ความดีถึงที่สุดแล้ว
ย่อมอยู่เหนือโชคชะตา


ถ้าใครคิดว่าชีวิตถูกลิขิตมาอย่างใดก็ย่อมเป็นอย่างนั้น
แก้ไขไม่ได้เลย ผู้นั้นถึงจะเป็นคนคงแก่เรียนเพียงใด
ก็นับว่าโง่อยู่นั้นเอง




 

Create Date : 28 กันยายน 2553
3 comments
Last Update : 28 กันยายน 2553 18:33:47 น.
Counter : 2605 Pageviews.

 

มีหมอดูทำนายว่าผมชะตาถึงฆาตในปีนี้ แต่ผมตั้งใจว่าจะยังไม่ตาย

 

โดย: 9A 28 กันยายน 2553 22:02:39 น.  

 

ขอบคุณค่ะ สำหรับข้อมูลดีๆ ที่มีให้
ปีหน้าดาวเสาร์ กาลากิณีเข้าทับลัค ตกคราส นระโสโร
กลัวเหมือนกันค่ะ แต่พยายามสร้างความดี ทำดีทุกอย่าง
ดวงก็ตกมาตั้งแต่ปี 51 คุณพ่อเสีย จนปานนี้ก็ยังไม่ดีขึ้นเลย การค้าขายก็แย่กว่าเดิม แต่ก็สู้ทุกอย่าง
ไม่มีที่พึ่งอื่นนอกจากคุณพระรัตนตรัย
คุณบิดามารดา คุณครูบาอาจารย์ และตนเอง
แต่เมื่อวันเกิด ได้ไปถือศีล สิ่งศักดิ์ได้ประทาน
พระมาให้หนึ่งองค์ ตกลงมาจากพระมหาเจย์ดี
ลงมาตรงหน้า ก็เอาไปคืนวัด แต่พระท่านให้เอามาบูชา
ก็ดีใจค่ะ จะเอามาบูชาคล้องคอติดตัวไว้ก่อนค่ะ
พระมหาเจย์ดีนี้ อายุ สี่สิบกว่าปีแล้วค่ะ เป็นทีที่พระต้องมาทำวัตรเช้า สวดมนต์ทุกวัน
พระองค์เล็กจะอยู่บนมหาเจย์ดี
เรียงเป็นรูปพญานาค ติดอยู่ที่ประตูสี่ด้าน
(รูปมีอยู่ที่บล็อคค่ะ)

 

โดย: เทียมฟ้า (เทียมฟ้า ) 3 ตุลาคม 2553 12:35:12 น.  

 

คุณเทียมฟ้าคะ ลองตรวจดูดวงหน่อยนะคะ
ที่บอกว่าดาวเสาร์เป็นกาลกิณี นี่ เป็นเสาร์เดิมใช่ไหมคะ แล้วตอนนี้ ดวงจร เสาร์อยู่ในภูมิไหน
แล้วในดวงชะตา เสาร์อยู่ในเรือนอะไรคะ คุณบอกว่าปีหน้าเสาร์จรจะทับลัคนา แสดงว่าคุณเทียมฟ้าเป็นคนลัคนาราศีตุลย์หรือคะ? ดูหน่อยนะคะ แล้วคุยกัน

 

โดย: กระติ๊ดแดง 4 ตุลาคม 2553 20:20:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


กระติ๊ดแดง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




นนท์รภัส พยากรณ์....nonrapat@yahoo.com
New Comments
[Add กระติ๊ดแดง's blog to your web]