เด็กต่างจังหวัด จากอำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด

noiiii
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




Group Blog
 
<<
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
17 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add noiiii's blog to your web]
Links
 

 

การปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์

เทคโนโลยีการเกษตร

นิพนธ์ สุขสะอาด/เรื่อง ชาญวิทย์ สมศักดิ์/ภาพ

ตามไปดูการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ ของ พ.ท.จรัญ หนูเนียม

นายทหารนอกราชการ ยศพันโท ผู้มีใจรักอาชีพเกษตร ทำมาแล้วหลายอย่าง ทั้งส้มเขียวหวาน กระท้อน มังคุด เริ่มต้นทำได้ดี แต่มาจบลงด้วยปัญหาเรื่องราคาและไม่คุ้มทุน สุดท้ายต้องหันมาปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ เริ่มเห็นความหวังชัดเจน เพียงอายุ 1 ปี ให้ผลผลิตแล้ว จะขายได้ช่วงเมษายนที่จะถึง คาดว่าจะขายได้ราคาดีแน่นอน

พันโทจรัญ หนูเนียม อดีตนายทหารกรมสรรพาวุธทหารบก สังกัดกองทัพบก อายุ 69 ปี ตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ 63/6 หมู่ที่ 7 ตำบลท่าดี อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช นับได้ว่าเป็นนายทหารที่มีจิตใจรักงานด้านการเกษตรมากเป็นพิเศษ โดยได้ทำการเกษตรในที่ดินแปลงนี้ ซึ่งมีพื้นที่ 17 ไร่เศษ ทำเป็นสวนส้มเขียวหวาน ปรับมาทำสวนกระท้อน สวนมังคุด และปลูกแซมด้วยพืชไร่ พืชผัก หรือพืชล้มลุกอื่นๆ อยู่ตลอดเวลา และสุดท้ายหลังจากปลดเกษียณเมื่อ 9 ปีก่อน ก็ได้ทุ่มเทให้กับงานสวนเพิ่มขึ้น

โดยพยายามทำทุกทางเพื่อลดต้นทุนการผลิตลง เช่น การทำปุ๋ยหมักไว้ใช้เอง ทำน้ำหมัก ทำสารขับไล่แมลง และพยายามศึกษาเรียนรู้ หาความรู้เพิ่มโดยการอ่านตำรา ไปศึกษาดูงาน เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรต่างๆ ที่ทางราชการ หรือเอกชน รวมทั้งการหาความรู้เรื่องการตลาดจำหน่ายผลผลิต แต่ดูเหมือนว่าความสำเร็จจะมีค่อนข้างน้อย เมื่อเปรียบกับความขยันและความตั้งใจจริง เพราะต้นทุนการผลิตมีแต่จะสูงขึ้น แต่ราคาผลผลิตกลับลดต่ำลงทุกปี

เลยต้องตัดสินใจเปลี่ยนอีกครั้ง หันมาทำเป็นสวนมะนาว โดยปลูกลงในวงบ่อซีเมนต์ ที่เริ่มให้ผลผลิตแล้ว และคาดว่าจะขายได้ราคาดีแน่นอน เพราะจะบังคับให้ออกผลนอกฤดูเท่านั้น

พันโทจรัญ เล่าว่า เมื่อปลายปี 2549 ได้มีโอกาสรับทราบข้อมูลเรื่องความสำเร็จของการปลูกมะนาวพันธุ์พิจิตร 1 ซึ่งเห็นว่าเป็นพันธุ์ที่ต้านทานโรค ให้ผลดก ผลโต น้ำมาก และให้ผลผลิตเร็ว ประกอบกับที่ตนเองคิดจะปรับเปลี่ยนอาชีพการทำสวนมังคุดเป็นพืชอื่นอยู่พอดี จึงได้ตัดสินใจเดินทางไปศึกษาดูงานและซื้อกิ่งพันธุ์มะนาว พันธุ์ดังกล่าวมาจากจังหวัดพิจิตร จำนวน 500 กิ่ง นำมาปลูกแทนในพื้นที่สวนมังคุดเดิม โดยโค่นมังคุดทิ้ง แล้วปรับพื้นที่ให้เสมอ ทำคูระบายน้ำ แล้วนำวงบ่อซีเมนต์ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เมตร สูง 50 เซนติเมตร มาวางเรียงให้ได้ระยะห่าง 3x4 เมตร ที่ก้นวงบ่อใช้ฝาซีเมนต์ขนาดเดียวกันมาวางรองเพื่อป้องกันไม่ให้รากต้นมะนาวชอนไชลงถึงพื้นดิน เมื่อเตรียมวงบ่อซีเมนต์เสร็จ จัดวางระบบน้ำ นำกิ่งพันธุ์ลงปลูก ขณะนี้ปลูกไปแล้ว 500 ต้น โดยปลูกลงในวงบ่อซีเมนต์ 200 ต้น และปลูกลงดิน 300 ต้น

มีขั้นตอนการดำเนินงานดังนี้

1. การเตรียมดินปลูก โดยใช้หน้าดิน 2 ส่วน ผสมกับปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก 1 ส่วน และเพิ่มโดโลไมต์เล็กน้อย ผสมคลุกให้เข้ากันดี นำไปใส่ในวงบ่อซีเมนต์จนเต็ม

2. การนำกิ่งพันธุ์ลงปลูก เจาะหลุมตรงกลางวงบ่อซีเมนต์ให้ลึกพอประมาณ นำกิ่งพันธุ์มะนาวที่เตรียมไว้ (อาจเป็นกิ่งชำถุงหรือตัดตุ้มก็ได้) ลงปลูกกลบดินให้แน่น และปักไม้ผูกยึดลำต้นป้องกันลมโยก

3. การให้น้ำ ถ้าฝนไม่ตกจะต้องรดน้ำทุกวัน วันละ 1-2 ครั้ง จะให้น้ำครั้งละน้อยๆ โดยเปิดสปริงเกลอร์ ใช้เวลาเพียง 5 นาที ต่อครั้ง ถ้าให้น้ำมากกว่านี้ น้ำจะชะล้างเอาดินในท่อออกมาด้วย ทำให้ดินยุบตัวเร็ว

4. การให้ปุ๋ย หลังจากปลูกจะต้องให้ปุ๋ยเคมีสูตรเสมอทุกเดือน เดือนละ 1 ครั้ง ครั้งละ 1 ช้อนแกง ถ้าดินยุบตัวก็ต้องเติมดินที่ผสมปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกให้ได้ระดับตามดิน เมื่อมะนาวมีอายุ 8 เดือน ให้ปุ๋ย สูตร 8-24-24 ต้นละ 1 ช้อนแกง

5. การบังคับการออกดอก ประมาณเดือนสิงหาคม-กันยายน หลังจากให้ปุ๋ย สูตร 15-15-15 ประมาณ 1 ช้อนแกง ให้น้ำพอปุ๋ยละลาย จึงงดการให้น้ำอย่างสิ้นเชิงเป็นเวลา 15-20 วัน แต่ถ้าฝนตกจะต้องหาพลาสติคคลุมโคนต้นทุกต้น เมื่อเห็นว่าใบมะนาวเริ่มเฉา จึงให้น้ำตามปกติ ให้ปุ๋ย สูตร 8-24-24 อัตรา 2 ช้อนแกง ต่อต้น ประมาณ 15 วัน มะนาวจะเริ่มแตกยอดอ่อนและออกดอกมาในคราวเดียวกัน ในช่วงระยะดอกจะต้องดูแลโดยการฉีดพ่นสารสะเดา หรือสารขับไล่แมลงอื่นๆ

ส่วนในช่วงติดผลจะต้องฉีดพ่นสารกำจัดเชื้อราบ้าง และให้ปุ๋ย สูตร 15-15-15 อัตรา 1-2 ช้อนแกง ต่อต้น ทุก 20 วัน มะนาวที่ติดผลอ่อนในช่วงเดือนพฤศจิกายน จะเก็บเกี่ยวได้ประมาณเดือนเมษายน 2551 ซึ่งคาดว่าจะขายได้ราคาดีแน่นอน เพราะจากสถิติที่ผ่านมาทุกปี มะนาวในท้องตลาดจะขาดแคลน มีการซื้อขายกันอยู่กิโลกรัมละ 80-120 บาท ซึ่งมะนาวพันธุ์พิจิตร 1 จะมีขนาดผลค่อนข้างโต น้ำหนักประมาณ 12-15 ผล ต่อกิโลกรัม ในปีแรกคาดว่าจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ประมาณ 1,500 กิโลกรัม (ต้นที่ให้ผลแล้วประมาณ 50 ต้น) ข้อดีของการทำสวนมะนาวรูปแบบนี้ก็คือ การดูแลจัดการง่าย ใช้แรงงานน้อย ให้ผลผลิตเร็ว

พันโทจรัญ ยังกล่าวว่า ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน สวนของตนจะเป็นแปลงเรียนรู้ทางการเกษตรของคนในชุมชนอยู่ตลอด จะไม่มีการปกปิดข้อมูลหรือเทคนิคที่มี รวมทั้งการแบ่งปันปัจจัยการผลิตที่พอจะให้ ได้แก่ เพื่อนบ้าน และตนจะเป็นผู้ประสานงานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นสถานีพัฒนาที่ดิน กรมวิชาการเกษตร สำนักงานเกษตรอำเภอ สำนักงานเกษตรจังหวัด ฯลฯ ที่จะเข้ามาจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถ่ายทอดความรู้ สาธิต ขณะนี้ตนเองเป็นคณะกรรมการศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบลท่าดี เป็นอาสาสมัครเกษตรของอำเภอลานสกา และเป็นจุดเรียนรู้ทางการเกษตรด้านไม้ผล เป็นต้น

นับว่าเป็นความตั้งใจดีของคนที่มีความพร้อมทั้งภูมิปัญญา ฐานะ และจิตใจที่เป็นกุศล ที่ใช้เวลาหลังเกษียณเพื่อทำประโยชน์ให้แก่ตนเอง ครอบครัว และชุมชนไปพร้อมๆ กัน นอกจากจะได้งาน ยังได้ออกกำลังกายทุกวัน และได้ความเพลิดเพลินใจ จึงส่งผลให้พันโทจรัญ หนูเนียม วัย 69 ปี ยังคงมีสุขภาพกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ ไม่มีโรค และหนุ่มอยู่ตลอดเวลา จนไม่น่าเชื่อ

ผู้ใดสนใจติดต่อขอดูงาน ประสานงานไปได้ที่ โทร. (081) 968-1438 ได้ทุกวัน




 

Create Date : 17 มีนาคม 2551
1 comments
Last Update : 17 มีนาคม 2551 16:28:56 น.
Counter : 5506 Pageviews.

 

ขอบคุณที่นำข้อมูลมาให้ได้รู้ เพราะสนใจอยู่เหมือนกัน
หลังเกษียณ เป็นอะไรที่ทำอยู่ที่บ้าน อยากเห็นรูปจัง
ไปดูงานคงไปได้ยากเพราะไกลเหลือเกิน

 

โดย: amatavaja 17 มีนาคม 2551 17:07:49 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.