Group Blog All Blog
|
Review ✱ เลือก Cleansing ให้ถูกกับผิวกันค่ะ สวัสดีค่ะ ขอออกตัวก่อนว่า บทความนี้นำมาจาก FB fanpage: Cosmetic Knowledge from Dr.Naphatsornมายด์คิดว่าเป็นความรู้ใหม่ เลยรวบรวมให้อ่านกันค่ะ เรียกได้ว่าในยุคปัจจุบันนี้ Cleansing เป็นสิ่งจำเป็นมาก ถ้าหน้าเราสะอาด ผิวเราก็จะขาวเปล่งปลั่งมีส จริงๆไม่อยากให้มองว่า Cleansing เป็นแค่ผลิตภัณฑ์สำหรับล้าง ถ้าเราไม่ได้แต่งหน้าจะ ใครเคยลองแบบว่า วันว่างๆอยู่บ้านเฉยๆ ไม่ต้องแต่งหน้าอะไรเลย แล้วพอจะนอนลองเอา สำลีชุบ Cleansing เช็ดดู สำลีนี่เรียกว่า ดำเลยนะคะ ถึงจะไม่ได้แต่งหน้า แต่ความมันที่ผิวเราสร้างออ ถ้าแบ่ง Cleansing แอดมินขอแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ กลุ่มแรกคือ กลุ่มที่ใช้ตอนหน้าแห้ง กับ กลุ่มที่ใช้ตอนหน้าเปียก เรามาดูไปทีละกลุ่มดีกว่านะ กลุ่ม Cleansing ที่เช็ดหน้าตอนหน้าแห้ง Cleansing กลุ่มนี้มักจะเป็นตัวเช็ดทำ เราจะแบ่งเป็น - Cleansing water - Cleansing milk (lotion น้ำนม) - Cleansing cream - Cleansing oil แอดมินจะชอบบอกเสมอว่าเราคว เพราะอะไร ลองมาดูดีกว่าค่ะ หลายๆคนมักจะคิดว่า Cleansing water ตัวเดียวจบหมดทั้งตา ปาก และเบสเมคอัพ แต่จริงๆแล้ว Cleansing water ต่อให้เคลมมาดิบดีแค่ไหน ก็ยังไม่ควรเอามาล้ เพราะอะไรหรอ?? เพราะ Cleansing water ประกอบด้วย "น้ำ" กับ "Surfactant" ซึ่ง Surfactant พวกนี้ สามารถทำปฏิกิริยากั ส่วนของ Cleansing lotion (แบบน้ำนม) และ Cream พวกนี้ประกอบด้วย น้ำ กับ น้ำมัน เหมือนเป็นลูกครึ่งค่ะ Surfactant ที่มักจะอ่อนโยนลงมาถ้าเทีย กรณีนี้นับรวมถึงที่เป็นแบบ สุดท้ายคือ Cleansing oil ประกอบด้วยน้ำมัน กับ Surfactant ที่ละลายได้ใน OIl ซึ่งพวกนี้มักจะอ่อนโยนกว่า และน้ำมันก็ไม่ได้ทำร้ายอะไ แต่จะให้เอา Cleansing oil มาทาทั้งหน้าก็ไม่ไหวใช่มั้ เรามาทำความรู้จักกับ เจ้าสารที่เรียกว่า Surfactant คำนี้แปลเป็นไทยว่า สารลดแรงตึงผิว แต่แปลแล้วก็ไม่ได้รู้เรื่อ ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยถูกต้องต เจ้าสารทำความสะอาดที่ว่านี้มีคุณสมบัติในการทำความสะอ เพราะตัวของมันจะมีส่วนหัวท สรรพสิ่งบนโลกใบนี้จะมีด้วย ละลายในน้ำ หรือ ละลายในน้ำมัน หรือไม่ก็ไม่ละลายในอะไรเลย เวลาเราล้างหน้า สิ่งสกปรกที่ละลายน้ำได้ก็จ ส่วนที่ไม่ละลาย ถ้าขัดๆถูๆหน่อยมันก็หลุดออ แต่เจ้าสิ่งสกปรกที่ไม่ละลา (ลองดูรูปที่ให้ไว้ดูค่ะ) ส่วนของสารทำความสะอาด 1. Surfactant ประจุบวก (Cationic surfactant) จะมีหัวเป็นบวก สารพวกนี้ไม่ค่อยเจอเท่าไหร แต่จะเจอกับพวกครีมนวดผม และตัวมาสค์หมักผม เพราะพวกนี้มันจะจับกับโปรต สารกลุ่มนี้ส่วนมากมักจะระค 2. Surfactant ประจุลบ (Anionic surfactant) เป็นตัวหลักในกลุ่มทำความสะ 3. Surfactant สองประจุ (Amphoteric surfactant) พวกนี้มีทั้งบวกและลบ ขึ้นกับค่า pH ของผลิตภัณฑ์ ถ้าเป็นบวก ก็ให้ผลเคลือบปรับสภาพผิว ถ้าเป็นลบก็ทำความสะอาดไป พวกนี้เช่นที่ลงท้ายด้วย Betaine หรือมีคำว่า ampho ในชื่อสาร กลุ่มนี้มีความอ่อนโยนเพิ่ม 4. Surfactant ที่ไม่มีประจุ (Nonionic surfactant) พวกนี้ไม่มีประจุเลย มักจะมีความอ่อนโยนกับผิวมา เราเจอในสูตรที่เขา Claim ว่าไม่มีฟอง หรือพวกอ่อนโยน สารกลุ่มนี้มีเยอะและค่อนข้ คนส่วนใหญ่ จะคิดว่าถ้ามีฟอง จะทำความสะอาดได้สะอาดหมดจด แต่ความเป็นจริง ความสามารถในการทำความสะอาด แต่ถึงรู้ทั้งรู้ แอดมินเองก็ชอบให้ Cleanser มีฟองอยู่ดี กลับมาที่ Surfactant นะคะ พวกนี้เวลาเขาอยู่ในน้ำ ในความเข้มข้นต่ำๆ เขาจะเรียงตัวกันอย่างสะเปะ บางครั้งก็จะลอยขึ้นไป แล้วเอาหางชี้ออกไปสู่อากาศ แต่เมื่อความเข้มข้นสูงขึ้น ลักษณะการเรียงตัวเป็นวงกลม และความเข้มข้นจุดนี้ ที่เป็นจุดต่ำสุดที่ Surfactant มาเรียงตัวกันเป็นไมเซลล์ เราเรียกว่าเป็น Critical micellar concentration (CMC) ซึ่งความรู้ว่าสารพวกนี้มีก แต่เพื่อการตลาด อยู่ดีๆ ก็เกิดคำว่า Micellar solution ขึ้นมา นับว่าเป็นการตลาดที่สวยหรู ดังนั้น Micellar solution คืออะไร?? คือ สารละลายที่มีความเข้มข้นขอ ถ้าเราเลือก Surfactant ชนิดที่ค่อนข้างอ่อนโยนมาทำ มันก็จะอ่อนโยนตามชนิดของ Surfactant ค่ะ แต่ถ้าถามว่าตัวไหนอ่อนโยนบ บางคนอาจจะทน Surfactant ตัวนี้ได้ แต่อีกคนมาใช้แล้วรู้สึกแห้ ดังนั้นถ้าอยากรู้จริงๆ คงต้องลองค่ะ ถึงจะตอบได้ |
sweetie_mild
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?] ชื่อมายด์นะคะ ❥ วิศวกรโยธา ❥ ชอบแต่งหน้า ❥ ชอบกิน กินเยอะด้วย ❥ ชอบถ่ายรูป หลงใหลกล้องฟิลม์ บางครั้งก็ to be a backpacker ☺ มีเพจด้วย ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ ( /) ❤ ( . .)/ c()() มี facebook fanpage ด้วย ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ |