|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | |
|
|
|
|
|
|
|
ตรวจสุขภาพกระต่ายง่ายๆด้วยตัวเอง
ตรวจสุขภาพกระต่ายง่ายๆด้วยตัวเอง
การตรวจและดูแลสุขภาพกระต่ายด้วยตัวเอง
กระต่ายที่ไม่มีพันธุกรรมที่ผิดปกติและไม่โรคติดตัวมาจากฟาร์มที่เรารับเขามา เมื่อมาอยู่ในความดูแลของเราแล้ว หากเขาได้รับอาหารและน้ำอย่างถูกต้อง ได้อยู่ในกรงที่สะอาด มีพื้นที่ออกกำลังอย่างเหมาะสม ได้รับความรักความเข้าใจอย่างอบอุ่น และได้รับการดูแลสุขภาพอย่างถูกต้องเป็นประจำ ก็สบายใจได้เลยว่า โอกาสที่จะเจ็บไข้ได้ป่วยนั้น แทบจะไม่มีเลย
กระต่ายเป็นสัตว์ฉลาด อ่อนไหว และชอบสังคม ดังนั้นสุขภาพจิตของกระต่ายก็เป็นเรื่องสำคัญ และส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพกายของกระต่าย กระต่ายที่เครียดมีแนวโน้มที่จะไม่สบายบ่อยและอายุสั้น ส่วนกระต่ายที่เข้ากับคนหรือกระต่ายตัวอื่นไม่ได้หรือไม่ได้ออกกำลังกายเพียงพอจะเบื่อ ไม่ค่อยเคลื่อนไหว และนำไปสู่โรคอ้วน
ดังนั้น คุณจึงควรหมั่นสังเกตุกระต่าย ตรวจสุขภาพง่าย เพื่อให้พบสัญญาณต่างๆ (ถ้ามี) โดยเร็ว ยิ่งรักษาเร็ว ก็ยิ่งหายง่าย ไม่เรื้อรัง เจ้าของก็ไม่ลำบาก กระต่ายก็ไม่ทรมาน
การดูแลสุขภาพกระต่ายในเบื้องต้นนั้นทำได้ง่ายด้วยตัวคุณเอง ได้แก่
1. การตรวจและดูแลสุขภาพประจำวัน
2. การตรวจและดูแลสุขภาพประจำเดือน
ในแต่ละวันขอให้สังเกตุ 1.การกิน 2. อึ 3. ฉี่ 4.พฤติกรรมภายนอก สิ่งเหล่านี้เป็นตัวบ่งชี้สุขภาพของกระต่ายได้ง่ายและดีที่สุด และใช้เวลาแค่แป๊ปเดียวในตอนที่เราให้อาหาร เราก็รู้ว่าวันนี้เขากินอาหารไหม กินหญ้าไหม กินน้ำไหม ก้มดูถาดรองกรงซะหน่อยว่า อึปกติ ก้อนกลมแห้งดีไหม ฉี่สีปกติไหม
การตรวจและดูแลสุภาพประจำวัน
การกิน
การกระต่ายที่ไม่สบายจะไม่กิน หรือบางทีอาหารเม็ดที่เราให้อาจชื้นเพราะสภาพอากาศ หรือโดนน้ำ โดนฉี่กระต่าย เราต้องรีบเปลี่ยนให้เขา อาหารชื้นอาจมีเชื้อราเป็นอันตรายหากกระต่ายกินเข้าไป การไม่กินอาจเป็ฯเพราะเขามีอาการเจ็บปวดภายใน หรือท้องอืด ต้องสังเกตุอย่างอื่นร่วมด้วย หรือปรึกษาคุณหมอ
กระต่ายไม่กินน้ำหรือกินน้อย ลองเช็คขวดน้ำว่าปิดฝาแน่นเกินไปไหม ลูกปืนฝืดหรือเปล่า ลองเอานิ้วแตะๆดู กรณีที่กินน้ำน้อยลง ให้รีบเช็คขวดน้ำทันทีว่า ปิดฝากแน่นเกินหรือไม่ ลูกปืนปิดน้ำที่ปลายท่อ ค้างหรือฝืดหรือเปล่า โดยเอาปลายนิ้วแตะถี่ ๆ เบาๆ ที่ลูกปืน กระต่ายที่กินน้ำไม่ได้ จะกินหญ้าแห้งและอาหารเม็ดได้น้อย
หรือการไม่กินอาหาร ไม่กินน้ำ เกิดจากความผิดปกติที่ปากและฟันหรือไม่ เขาอาจแทะซี่ลวดของกรงเล่นจนปากเจ็บ บางทีฟันหัก ปากอักเสบ (บวมแดง) หรือเป็นสัญญาณบ่งบอกอาการฟันยาว ฟันเก ซึ่งต้องให้คุณหมอดูแลและตัดฟันกันต่อไป อาการฟันยาวและฟันเกไม่สามารถปล่อยทิ้งไว้ได้นะคะ ต้องได้รับการจัดฟันหรือตัดฟันเท่านั้นเท่านั้น มิฉะนั้น อาการผิดปกตินี้จะทำให้กระต่ายเจ็บปวดจนไม่กินอาหาร กินไม่ได้ และตายในที่สุด
การกินอาหารน้อยลงบางครั้งอาจเกิดจากความเครียด หรือเบื่ออาหาร หรือประท้วงบางอย่าง แต่มักจะเป็นแค่วันเดียว ถ้าเป็นนานกว่านี้ควรปรึกษาหมอโดยด่วน
ถ้าปากและฟันปกติ แต่กินอาหารน้อยลงหรือไม่กินเลย กินน้ำน้อยลง ประกอบกับอึมีขนาดเล็กลงและน้อยลง เกิน 24 ชม. อาจเป็นอาการท้องอืด ควรพาหาหมอโดยด่วน
แต่ถ้ากระต่ายไม่กินและไม่อึเลย นั่นคือสัญญาณอันตรายระดับสูง ขอให้รีบพาไปหาหมอให้เร็วที่สุด เพราะถ้าเขาไม่กิน-ไม่อึ เกิน 24 ชั่วโมง เขาอาจจากเราไปได้ง่าย ๆ
อึกระต่าย
ต่อมาสังเกตุอึ ว่าเป็นปกติ กลม แห้ง ขนาดสม่ำเสมอ ปริมาณปกติไหม ลักษณะของอึเป็นอย่างไร อึและฉี่ของกระต่าย เป็นสิ่งบอกเหตุด้านสุขภาพของกระต่ายได้ดี หมั่นสังเกตทุกเช้า-เย็น
อึของกระต่ายปกติ จะเป็นเม็ดกลม ค่อนข้างแห้ง เหมือนยาลูกกร ขนาดหล่นออกมาจากก้น จับได้ไม่เละไม่เหม็นติดมือ
อึแบบที่สอง อึพวงองุ่น หรือ อึดินน้ำมัน อึชนิดนี้จะเกิดขึ้นหลังจากกระต่ายกินอาหารเข้าไปประมาณ 8 ชั่วโมงและจะผลิตออกมาในช่วงเช้ามืด-ช่วงเช้า การผลิตอึพวงองุ่นนี้เกิดจากการที่ลำไส้ของกระต่ายไม่สามารถดูดซึมสารอาหารและวิตามินบางชนิดได้ทันและออกมาเป็นอึพวงองุ่นนี้ ในอึพวงองุ่นนี้จึงอุดมไปด้วยสารอาหารดี ๆ และวิตามินจำนวนมาก และยังมีจุลชีพที่มีประโยชน์มากมาย ดังนั้น เมื่อกระต่ายปล่อยอึพวงองุ่นออกมา จะก้มลงกินอึพวงองุ่นจากก้นของตัวเองเลย เว้นแต่บางตัวอ้วนจนก้มไม่ลงก็อาจอึออกมาที่พื้นแล้วค่อยกิน แต่ในกรณีที่พบอึพวงองุ่นเรี่ยราด (เยอะจนมันกินไม่หมด) มักเกิดจากการให้อาหารที่มีระดับพลังงานสูง เช่น โปรตีนหรือไขมันสูง ซึ่งจะไม่ดีนักเพราะแสดงว่าเราให้โปรตีนและไขมันเกินความจำเป็นของกระต่าย จึงควรลดอาหารเม็ดลงและเพิ่มหญ้าแห้ง
ต่อมาเป็นอึแบบสายสายสร้อย อึสายสร้อยมีลักษณะเหมือนอึปกติหลายๆก้อนถูกเชื่อมกันเป็นเส้นๆ เหมือนสายสร้อยด้วยขนที่เขากินเข้าไปเวลาแต่งตัว กระเพาะไม่สามารถย่อยสลายขนได้ จึงถูกขับออกมาพร้อมอึ พันๆกับอึออกมาเป็นสายสร้อย อึแบบนี้ยังไท่น่าตกใจ เพราะแสดงว่าขบวนการขับขนออกจากท้องของเขายังทำงานได้อยู่ แต่ถ้ามีปริมาณมากขึ้นๆ หลายๆวัน อึก้อนเล็กลง อันนี้ถือว่าเริ่มอันตราย ควรให้ยาแก้ก้อนขน ซึ่งก็ไม่ได้แก้อะไรนอกจากจะเป็นสารหล่อลื่นเหมือนจาระบี ที่จะทำให้อึและขนลื่นหลุดออกมาได้ง่าย ๆ เท่านั้น ที่ควบคู่กันไปคือ ลดอาหารเม็ดและเพิ่มหญ้าแห้งและหญ้าขนให้มาก เพื่อเสิรมสร้างไฟเบอร์มากพอจะสร้างอึให้เพียงพอได้
ภาวะก้อนขน หรือ Hair Ball ที่จะเป็นอันตรายต่อน้องต่าย ไม่ใช่อึมีขนที่เราเห็น แต่เป็นขนที่ไม่ได้ออกมากับอึต่างหาก ขนที่ไม่ยอมติดออกมากับอึนั้นน่าจะเกิดจากการที่เขากินขนเข้าไปมากในขณะเดียวกันก็กินอาหารที่มีเส้นใยอาหารน้อยไป ปริมาณก้อนอึที่จะขับแล้วลากเส้นขนออกมาจากระบบย่อยอาหารจึงมีน้อยไป ประกอบกับสารเมือกที่ใช้เคลือบเพื่อหล่อลื่นก้อนอึ ให้ไหลตัวได้คล่อง ๆ มันถูกขนซับไว้ ขนจึงตกค้างในระบบย่อยอาหารมากขึ้นเรื่อย ๆ และจับตัวเป็นก้อน จนขวางทางเดินอาหาร ทำให้ระบบการย่อยอาหารต้องหยุดทำงาน และตายในเวลาอันรวดเร็ว
สุดท้ายคือ อึที่เป็นสัญญาณอันตรายมี 2 แบบ อย่างแรก อึยาสีฟัน ลักษณะไม่เป็นก้อน เละ เหลว เลอะก้นกระต่าย และเหม็นผิดปกติ แสดงว่ามันท้องเสีย กับอึที่ยังเป็นเม็ด แต่ออกมาพร้อมกับมูกเป็นเมือก ขุ่น ๆ ข้น ๆ อาจมีเศษหญ้าเขียวที่ย่อยไม่หมดปนออกมาด้วย ถ้าอย่างนี้ ให้รีบเก็บตัวอย่างอึใส่ถุงพลาสติกแล้วพาไปหาหมอให้เร็วที่สุด
การท้องเสียของกระต่าย อาจจะไม่ได้เกิดจากอาหารผิดสำแดงอะไร คือ อาจเกิดจากความเครียดของกระต่ายเอง เมื่อกระต่ายเครียดร่างกายจะขับสารเคมีบางอย่างออกมา ทำให้ภาวะของจุลชีพช่วยย่อยอาหารในกระพุ้งลำไส้ (caecum) ผิดปกติไป ความสมดุลย์ของจุลชีพอันประกอบด้วยแบคทีเรีย โปรโตซัว และยีสต์ ในสำไส้ก็รวน อาจมีโปรโตซัวมากเกินปกติ กระต่ายก็ถ่ายเป็นมูกได้ กินยาเช้าเย็น 5 วันก็หายสนิท แต่ถ้าเกิดจากอาหารสกปรกมีเชื้อบิดหรือเชื้ออีโคไล แบบนี้อันตรายมาก
ปกติแล้ว ฉี่กระต่ายจะใส สีออกเหลืองหรือเหลืองเข้ม ที่ปกติน้อยลงแต่ยังไม่ถือเป็นสัญญาณอันตราย คือฉี่ขุ่น ๆ สีขาวหรือขาวอมเหลือง อันนี้ เกิดจากการที่เขากินอาหารที่มีโปรดีนและแคลเซียมสูงเกินความต้องการ ร่างกายเขาก็ขับออกมาทางฉี่ เมื่อแห้งจะเป็นคราบตะกรันขาว ๆ หรือเหลืองอ่อน ๆ ติดตามพื้นกรงหรือพื้นห้องน้ำกระต่าย ถ้าพบอย่างนี้ก็ลดอาหารที่โปรดีนและแคลเซียมสูงลงหน่อย อาหารที่ว่าซึ่งมักเป็นสาเหตุของฉี่ขุ่นขาว คือ ต้นถั่วแห้งที่ชื่อ อัลฟัลฟ่า (Alfalfa) อันนี้ควรลดลง และให้เขากินน้ำให้มาก ๆ สำหรับผมเองไม่รู้จะบอกเขาให้กินน้ำเยอะ ๆ ได้ อย่างไร เลยใช้วิธีลดหญ้าอัลฟาฟ่าและเพิ่มหญ้าขนกับผักให้มากชึ้น ในหญ้าขน และผักสดมีน้ำมากจะช่วยให้ฉี่ใสขึ้น
ฉี่กระต่าย
ปกติแล้ว ฉี่กระต่ายจะใส สีออกเหลืองหรือเหลืองเข้ม ที่ปกติน้อยลงแต่ยังไม่ถือเป็นสัญญาณอันตราย คือฉี่ขุ่น ๆ สีขาวหรือขาวอมเหลือง อันนี้ เกิดจากการที่เขากินอาหารที่มีโปรดีนและแคลเซียมสูงเกินความต้องการ ร่างกายเขาก็ขับออกมาทางฉี่ เมื่อแห้งจะเป็นคราบตะกรันขาว ๆ หรือเหลืองอ่อน ๆ ติดตามพื้นกรงหรือพื้นห้องน้ำกระต่าย ถ้าพบอย่างนี้ก็ลดอาหารที่โปรดีนและแคลเซียมสูงลงหน่อย อาหารที่ว่าซึ่งมักเป็นสาเหตุของฉี่ขุ่นขาว คือ ต้นถั่วแห้งที่ชื่อ อัลฟัลฟ่า (Alfalfa) อันนี้ควรลดลง และให้เขากินน้ำให้มาก ๆ โดยใช้วิธีลดหญ้าอัลฟาฟ่าและเพิ่มหญ้าขนกับผักให้มากชึ้น ในหญ้าขน และผักสดมีน้ำมากจะช่วยให้ฉี่ใสขึ้น
ฉี่กระต่ายที่ อาจจะ เป็นสัญญาณอันตรายคือ ฉี่สีแดงเข้ม ที่ว่า อาจจะ เป็นอันตรายก็เพราะ ฉี่สีแดงมีสาเหตุหลัก 2 อบ่าง คือ
1.แดงเพราะสารสีแดงในอาหาร เช่นแครอท อันนี้ไม่เป็นไร แค่เปลี่ยนอาหารและหาทางให้เขาได้รับน้ำมากขึ้นเสีย สีของฉี่ก็จะหายแดงใน 2-3 วัน
2.แต่ถ้าฉี่สีแดงเพราะไตทำงานผิดปกติ หรือมีเลือดปนออกมานี่อันตรายแน่ อาการนี้จะทราบได้หากเราพบว่า แม้จะงดอาหารที่มีสีแดงหรือสีส้มลงแล้ว ฉี่ก็ยังแดงอยู่หลายวันติด ๆ กัน ควรพาไปหาหมอพร้อมกับตัวอย่างฉี่ (เก็บโดยใช้หลอดฉีดยาดูดขึ้นมา) เป็นดีที่สุด
พฤติกรรมภายนอก
กระต่ายที่เคยร่าเริง กลับหงอยและซึมผิดปกติ เป็นสัญญาณให้คุณตรวจอัตราการกินอาหารและน้ำรวมทั้ง อึ-ฉี่ และคลำดูท้อง ถ้ายังไม่พบสิ่งบอกเหตุอันตราย ให้สังเกตอย่างถี่ถ้วนมากขึ้นต่อไปอีก ถ้า 2-3 วันยังซึม ไม่ดีขึ้น ควรไปพาหาหมอ
แต่ถ้าอาการซึมนั้นมีอาการหมดแรง คอตกขาอ่อนแรง รีบพาไปหาหมอให้เร็วที่สุดครับ เพราะเขาอาจตกใจอย่างรุนแรง อาจโดนแมลงต่อยหรือได้รับสารพิษอะไรจากไหนที่เราไม่รู้เลย
ถ้าดมดูพบว่าในช่องหูมีกลิ่นเหม็น ๆ มีขี้หูหนาเตอะ กระต่ายเกาหูเกาตัวมากเกินปกติ เป็นอาการของการมีพยาธิผิวหนัง และ/หรือ ไรในหู ถ้าพบอาการครั้งแรก ไปหาหมอดีกว่า ให้คุณหมอสั่งยาให้ ส่วนใหญ่คุณหมอจะหยดยาที่หลังตอนบน (บริเวณระหว่างไหล่ 2 ข้าง) การหยดยาครั้งหนึ่งจะคุมพยาธิผิวหนังและพยาธิภายในร่างกายบางขนิดรวมทั้งพยาธิหัวใจได้ประมาณ 1 เดือน ลองคุยกับคุณหมอดูครับ ถ้าคุณหมอท่านเห็นว่าเรามีความรู้ที่จะคำนวณขนาดยาให้เหมาะกับน้ำหนักกระต่ายแต่ละตัวและหยดยาเองเป็น(ตามที่คุณหมอสอน) ท่านอาจจะให้ยาเราเอามาเก็บไว้หยดเองในเดือน ต่อ ๆ ไปก็ได้
การตรวจดูหูและขนกระต่าย บ่อย ๆ จะช่วยให้เราพบความผิดปกติได้ทันท่วงที เพราะนอกจากจะพบพยาธิผิวหนังและไรแล้ว ถ้าเจอบริเวณใดมีขนร่วงมาก ผิวหนังมีสีผิดปกติ บวมแดง หรือแข็งหนาเป็นปื้น นั่นหมายถึงว่าคุณอาจเจอเชื้อราที่เกาะตามหู ขาและก้นกระต่าย หรือร้าย ๆ อาจเจอโรคเรื้อนทั้งเรื้อนแห้งและเรื้อนเปียก แบบนี้ พาไปหาคุณหมอเลยครับ ระหว่างนั้น ก็ให้คนล้างกรงและของใช้ของน้องต่ายทุกชิ้น รวมทั้งพื้นและผนังห้องที่กระต่ายอยู่ ด้วยน้ำผสมเด็ทตอล ให้สะอาด มิฉะนั้น เชื้อมันคงยังกระจายเต็มห้องเต็มกรงรักษาเท่าไรก็ไม่หายขาด
กระต่ายที่ปกติดี เวลานอนนิ่ง ๆ จมูกจะดุกดิกขึ้นลงถี่ ๆ ตามจังหวะหายใจ ท้องจะกระเพื่อมเป็นกิจกรรมเข้าจังหวะกับการดุกดิกของจมูก ถ้าปล่อยให้วิ่งจนเหนื่อยแล้วจับเข้ากรง เขาจะนอนพิงผนังกรงแล้วหายใจถี่ยิบ และแรงจนกรงสั่นเห็นน้ำในขวดน้ำกระเพื่อมชัดเลย
กระต่ายที่ระบบการหายใจไม่ปกติ หรือเป็นหวัดจะพบว่ากระต่ายอาจมีการจามดัง ฟิด ๆ อัตราความเร็วในการหายใจไม่ค่อยคงที่ จมูกที่เคยชื้น นิด ๆ จะเปียกจนเห็นได้ เท้าหน้า ที่เขาเอาเช็ดจมูกเป็นประจำก็เลยพลอยเปื้อนน้ำมูกเปียก ๆ จนขนราบแบนไม่ฟูเหมือนเคย และถ้าเพิ่มความรุนแรงอีกระดับ จะเห็นน้ำมูกใส ๆ หรือข้นเขียว (เหมือนน้ำมูกคน) ออกมาทางรูจมูกด้วย
กระต่ายเป็นหวัด ถ้าพาไปพบหมอเสียแต่แรก การรักษาก็ไม่ใช่เรื่องน่าวิตก แต่หากทิ้งไว้จนเชื้อแพร่กระจาย อาจตามมาด้วยอาการปอดบวม ซึ่งรักษายากกว่ามาก จึงควรรีบพาไปพบคุณหมอโดยเร็ว
การจามของกระต่าย อาจไม่ใช่เรื่องระบบทางเดินหายใจบกพร่องเสมอไป น้ำเข้าจมูกจากการที่ต้องตะแคงตัวตะแคงหัวกินน้ำ เพราะขวดน้ำอยู่ต่ำเกินไป /การกินน้ำจากถ้วยแล้วน้ำเข้าจมูก /ฝุ่นและผงจากหญ้าแห้ง สิ่งเหล่านี้และอีกหล่าย ๆ อย่าง ก็ทำให้กระต่ายจามฟิด ๆ ได้ แต่ก็แค่เดี๋ยวเดียว ไม่นานก็หาย ดังนั้น การจะตีความการจามว่าควรพาไปหาหมอหรือไม่จึงต้องตีความร่วมกับสิ่งบอกเหตุอื่น ๆ ที่เล่ามาข้างต้นด้วย
การตรวจอุณหภูมิร่างกายกระต่าย
ลองจับหูกระต่ายร้อนหรือเย็นกว่าที่เคยไหม ปกติหูกระต่ายจะอุ่นเล้กน้อย แต่ถ้ากระต่ายตัวร้อนผิดปกติแสดงว่ามีไข้หรือมีการอักเสบที่ใดที่หนึ่ง แต่ถ้าเย็น แสดงว่าการเผาผลาญอาหาร (Metabolism) ของเขาลดลง อาการหูเย็นที่ร่วมกับอาการซึม อาจตีความได้ว่า มีอาการเครียดหรือช็อคเล็ก ๆ ขอให้เพิ่มความถี่ถ้วนในการดูแลอาการและอาหาร-น้ำ อึ ฉี่ ให้มากขึ้น
ต้องตรวจก่อนที่เขาจะออกกำลังกายนะคะ ถ้าเขาวิ่งจนเหนื่อย หูก็จะร้อนกว่าเดิมแน่นอน อาจทำให้คุณเข้าใจผิดได้
การตรวจและดูแลสุขภาพประจำเดือน
1. ลูบไล้ให้ทั่วตัว ขนกระต่ายที่สุขภาพดีข้องลื่นเป็นมัน ชนิดที่ลูบพักเดียว แล้วเอามือเรามาถูกัน มือเราจะลื่นจนรู้สึกได้ และขนที่ลูบย้อนจะคืนตัวเร็วเป็นทรง
2. ตรวจดูว่าไม่มีขนส่วนใดของร่างกายที่ลีบแบน หรือหลุดร่วงผิดปกติ ที่ว่าผิดปกติคือ หลุดอยู่กระจุกเดียว กรุณาอย่าสับสนกับการผลัดขน เพราะกระต่ายมีระยะผลัดขนทุก ๆ ประมาณ 3 เดือน ขนที่ร่วงจากการผลัดขนจะค่อย ๆทยอยร่วงทั้งตัวระหว่างที่ผลัดขน ขนจะไม่สวย ไม่เป็นระเบียบ เพราะมีทั้งขนใหม่ขนเก่าปนกัน แต่ขนยังคงลื่นเป็นมันและผิวหนังยังคงสวย นุ่ม ไม่มีสะเก็ด ไม่มีปื้นแข็ง
3. เอามือลูบกระดูกสันหลังจากต้นคอลงมาทางหาง กระต่ายที่รูปร่างดี นั้นเราจะรู้สึกได้ว่ากระดูกเป็นแนว ใต้เนื้อนุ่ม ๆ แต่ถ้าลูบไม่ค่อยเจอกระดูก เจอแต่เนื้อหนาบึ้ก แปลว่าเขาอ้วนไปหน่อยแล้ว ในทำนองเดียวกันแต่กลับกัน ถ้าลูบปั๊บ กระดูกครูดมือเลย ก็ผอมเกิน
4. กดสะโพกโดยใช่สองมือแตะสองข้างสะโพกกระต่ายแล้วบีบโดยดันมือเข้าหากัน สัมผัสของมือทั้งสองจะต้องเหมือนกันไม่เยื้องไม่บิด
5. คลำท้อง โดยทำคล้าย ๆ กับที่ทำกับสะโพก แต่ต้องนุ่มนวลและเบามือที่สุดเพื่อหาดูว่ามีก้อนอะไรแข็งผิดปกติหรือไม่ ขั้นตอนนี้กระต่ายจะดิ้น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะรำคาญสุด ๆ หรือจั๊กจี้ ให้ระวังด้วย
6. ค่อย ๆคุย จ๊ะ ๆ จ๋าๆ ไปเรื่อย ๆ ขณะที่ตรวจดูตาและขอบตา ว่ามีร่องรอยการอักเสบหรือไม่ การอักเสบนี่ จะเห็นชัดว่าเนื้อรอบ ๆ ขอบตาจะเป็นสีชมพูเข้ม ขนก็ไม่มากเท่าที่ควร อาการตาอักเสบ สถานเบาเกิดจากเล็บที่คมเกินไป สถานหนักคือเกิดจากท่อน้ำตาอักเสบหรือตัน
ทั้งสองอาการควรรีบพาไปหาหมอ ถ้าอักเสบธรรมดา คุณหมอจะสั่งยาหยอดตาให้มาหยอด วันละ 3 ครั้ง สองสามวันก็หาย
แต่ถ้าท่อมน้ำตาตัน อันนี้เป็นเรื่องใหญ่ คุณหมอต้องทำการล้าง (Flush) ท่อน้ำตาให้ หมอเองก็ไม่อยากทำเราเองก็ทรมานใจ เพราะกระต่ายจะเจ็บและเครียดมาก แต่มันจำเป็นก็ต้องทำ กลับมาแล้วก็ต้องหยอดตา ต้องกินยาแก้ปวดและกันการอักเสบต้องอุ้มต้องโอ๋ไปอีกหลายวัน
7. การตรวจเท้าและเล็บ ให้ยกเท้าขึ้นมาดูทีละเท้า แหวกดูร่องระหว่างนิ้วว่ามีร่องรอยของเชื้อราหรือบาดแผลหรือสิ่งสกปรกคาอยู่หรือไม่ และตรวจเล็บว่ายาวและแหลมเกินไปไหม มีเล็บบิ่นเล็บหัก เบี้ยวหรืองอหรือเปล่าถ้าจะเป็นก็ต้องตัดเล็บให้บ้าง แต่ถ้าไม่ชัวร์ก็วานบุคลากรทางการแพทย์เขาทำให้ดีกว่า เพราะถ้าตัดลึกไปอาจได้เลือด สั้นไป ก็ไม่ดี เพราะกระต่ายต้องใช้เล็บในการแต่งตัวตลอดเวลา ขั้นตอนนี้ กระต่ายก็มักจะดิ้นเหมือนกัน ต้องช่วยกันสองคนถึงจะดี
8. ที่ยากมาก ๆ คือการตรวจฟัน ถ้าจะให้ง่ายขึ้น ก็ต้องจับนอนหงาย ทำให้ปากอ้าแล้วก็เอาดินสอที่พันด้วยกระดาษสอดเข้าไปเหมือนเด็กโดนทำโทษให้คาบไม้บรรทัด ได้แล้วก็รีบดูว่า ฟันยาวผิดปกติไหม มีรอบบิ่นรอยหักหรือเปล่า กระต่ายก็มีฟันผุนะ ให้ดูดี ๆ ด้วย พอดูเสร็จ รีบปล่อยแล้วให้สับปะรดหรือมะละกออบแห้งเป็นรางวัล 1 ชิ้น อาการเครียดก็หายเป็นปลิดทิ้ง
9. ที่ก้น และฝ่าเท้า มักเป็นจุดที่กระต่ายจะเปื้อนเป็นประจำทั้งดิน(จากสนามหญ้า) ทั้งอึและฉี่ที่เปื้อนตามพื้นกรง ถ้าพบว่าเปื้อนมาก ก็เอาผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดออกเสียบ้าง
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆส่วนใหญ่ จาก //www.bunnydelight.com
Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2554 |
|
24 comments |
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2554 4:01:14 น. |
Counter : 145285 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: karkung 12 กันยายน 2554 0:47:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: kampu IP: 27.130.188.12 4 ตุลาคม 2554 14:09:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: เดวี่กะพัตเตอร์ IP: 27.55.3.77 26 ธันวาคม 2554 9:06:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: sr IP: 192.168.8.20, 203.113.113.99 28 มิถุนายน 2555 10:57:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: machi IP: 27.130.92.90 17 สิงหาคม 2555 16:09:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: ไออู๊ด IP: 110.49.242.53 27 สิงหาคม 2555 19:02:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: ไออู๊ด IP: 110.49.242.53 27 สิงหาคม 2555 19:10:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: Amy IP: 58.9.184.124 2 กันยายน 2555 7:42:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: ต้นน้ำ IP: 101.51.118.9 7 มิถุนายน 2556 17:21:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: นู๋ไหม IP: 1.0.158.252 25 กรกฎาคม 2556 14:06:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: แพร IP: 101.108.53.4 14 กันยายน 2556 22:31:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: แพร IP: 101.108.53.4 14 กันยายน 2556 22:33:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: ยุ้ย IP: 27.55.152.106 23 ธันวาคม 2556 22:02:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: กระต่าย IP: 101.108.218.55 12 เมษายน 2557 11:57:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: แพรว IP: 49.237.213.62 12 มีนาคม 2559 16:40:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: มิ้น IP: 1.47.168.200 5 เมษายน 2559 9:29:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: มิ้น IP: 1.46.97.120 7 เมษายน 2559 22:59:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: momod 8 เมษายน 2559 15:16:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: บัณฑิตา นิลเพ็ชร IP: 223.24.148.31 26 พฤศจิกายน 2560 8:11:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: พลอย IP: 49.49.251.251 25 มีนาคม 2562 17:11:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: ข้าว IP: 49.230.5.9 23 มีนาคม 2564 6:22:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: Nan IP: 101.109.132.141 27 ตุลาคม 2564 10:11:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: เพง IP: 184.22.59.127 15 พฤศจิกายน 2564 12:01:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: เมย์ IP: 223.24.160.247 11 กุมภาพันธ์ 2565 22:19:49 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Black Friday DSLR Camera