|
|
|
|
|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
เทคนิคการร้องเพลงกับพี่กบ ต่อกันเลยครับ natural voice discovery
ใครพึ่งมาอ่านอะไรยังไง ก้อย้อนกลับไปอ่านตอนแรกๆ ได้ก่อนนะครับ มีหลายความรู้ให้ได้อ่านกันเลยครับ ว่างๆ แวะเข้าไปเยี่ยมชม //www.gobsaovanit.com กันได้นะครับผม
---------------------------------------
ความเข้าใจในดนตรีช่วยเรื่องการฝึกใช้เสียง และการร้องเพลงอย่างไร
การใช้เสียงมาจากความต้องการของผู้พูดผู้ร้อง นั่นคือการที่เราสั่งให้ร่างกาย สร้างเสียงให้ตามที่คิด ที่รู้สึก เพราะฉะนั้นอารมณ์ที่เกิดขึ้นจากความเข้าในใจดนตรี คือลีลาของทำนอง เนื้อ จังหวะ สไตล์เพลงต่างๆจึงเท่ากับการช่วยสั่งให้ร่างกายผลิตเสียงออกมาอย่างมีทิศทาง การฝึกใช้เสียงก็จะได้เสียงที่ดีมีคุณภาพชัดเจน การร้องเพลงก็จะได้ทั้งเสียงที่ดีมีคุณภาพและมีอารมณ์ออกจากความเข้าใจที่ลึกซึ้งของผู้ร้องเอง เรียกว่าร้องเพลงได้เป็นเพลง ฝึกใช้ความเข้าใจของดนตรีสำหรับการฝึกเสียง และร้องเพลงอย่างไร
ผู้เรียนจะได้เรียนความเข้าใจในดนตรีจากการฝึกเสียงและร้องเพลงกับเปียโนที่ครูผู้สอนเล่นให้ การร้องกับเครื่องดนตรีสดที่บรรเลงประกอบให้เช่นนี้ คือการฝึกทักษะดนตรีทางอ้อม (ที่ต้องเรียนไปพร้อมๆกับการร้องแบบฝึกหัดฝึกใช้เสียง) เช่น การฝึกฟังเสียงเครื่องดนตรีสด-คอร์ด-การนับจังหวะ-การเปลี่ยนคีย์ (Ear Training) และการช่วยเสริมสร้างอิสระทางความคิดของผู้ฝึกที่มีกับเพลง เช่น การร้อง-รับส่งอารมณ์-คิวกับผู้เล่นสด-สไตล์เพลง ทำให้ผู้ฝึกมีความมั่นใจมากขึ้น ไม่หวาดกลัวเมื่อต้องร้องกับเครื่องดนตรีสด หรือเพลงที่มี ท่อนเพลง ห้องเพลง หรือคอร์ดที่ต่างจากเพลงต้นฉบับ ซึ่งความมั่นใจที่เกิดขึ้นนี้จะเป็นตัวหล่อหลอมให้ผู้เรียนค้นพบเอกลักษณ์ของเสียง-การร้องเฉพาะตัว และหาความเป็นตัวของตัวเองได้เร็วขึ้น
หากผู้เรียนไม่มีความรู้ด้านดนตรีเลย จะสามารถเข้าใจวิธีการเรียนแบบ ‘Natural Voice Discovery’ ได้ไหม
ผู้เรียนไม่จะเป็นต้องมีความรู้ทางดนตรีใดๆ เพราะคุณๆจะสามารถได้ยิน เข้าใจ และรู้สึกถึงความเป็นดนตรีจากการเรียนแบบ ‘Natural Voice Discovery’ นั่นเอง หากผู้เรียนสามารถเล่นเครื่องดนตรีเพื่อประกอบการซ้อมให้ตนเองได้ด้วย จะดีมาก เช่นเปียโน เพราะ เสียงอะคูสติกธรรมชาติของเปียโนช่วยให้ได้ยินมิติของเสียงได้ดีกว่าการฟังเสียงโน้ตจากแผ่นซีดี ดีวีดีซึ่งแบน เป็นเสียงสังเคราะห์ แม้จะอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่ไม่เล่นเครื่องดนตรีใดๆก็ตาม
ประโยชน์จากการเรียนแบบ ‘Natural Voice Discovery’
แน่นอนว่า นอกเหนือจากการฝึกใช้เสียงที่ถูกต้อง กล่าวคือ ใช้เสียงได้เต็มประสิทธิภาพดั่งใจสั่งแล้ว สุขภาพกาย-จิตก็จะแข็งแรงขึ้น มีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น ประโยชน์ที่สำคัญที่สุดซึ่งไม่มีใครมองเห็นมากนัก นั่นคือ ผู้เรียนจะสามารถสัมผัสใจ-กายของตัวเองได้อย่างลึกซึ้ง ทำให้รู้จักตัวเองและควบคุมทั้งใจ-กายของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งสิ่งนี้มีประโยชน์กับทุกๆคน ทุกๆวัย แม้ผู้เรียนจะไม่ได้ใช้เสียงเป็นอาชีพก็ตาม
ต้องใช้เวลาในการเรียน การฝึกนานเท่าไร จึงจะพอ
เนื่องจากการพัฒนาเส้นเสียงและกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการเปล่งเสียงนั้น ไม่สามารถสร้างได้ข้ามวันข้ามคืน เพราะกล้ามเนื้อต้องค่อยๆสร้างความแข็งแรง เราต้องยอมรับว่าการเรียน-ฝึกทักษะการใช้เสียงเป็นวิชาทักษะ ซึ่งหมายความว่าผู้เรียนจะต้องให้เวลา ใช้เวลากับการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอเป็นสำคัญ แต่ละคนอาจเรียนรู้ได้ช้าเร็วต่างกัน ความขยันในการฝึกฝนต่างกัน ดังนั้นถ้าจะให้บอกตายตัวว่าเป็นระยะนานเท่าไร คงพูดได้ไม่ชัดเจนนัก แต่ถ้าหากจะพูดถึงเนื้อหาที่ต้องรู้และฝึกตามลำดับที่ควรจะเป็น ใช้เวลาน้อยที่สุด 1 ปี สำหรับระยะเวลาเรียนและการซ้อมแบบมีสติอย่างสม่ำเสมอ (เรียนอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ชม. หรือ 52 ชม. ต่อปี / ฝึกฝนเองอีกอย่างน้อยวันละ 2 ชม.หรือ 730 ชม. ) ผู้เรียนควรจะใช้เสียงและร้องเพลงได้ดี ใช้งานได้ ทั้งนี้และทั้งนั้นเรื่องของดนตรีคงยังไม่จบอยู่แค่นี้ ผู้ร้องก็คงยังต้องเพิ่มเติมความรู้ความเข้าใจสไตล์เพลงใหม่ๆ และฝึกฝนค้นหา พัฒนาเทคนิคการใช้เสียงใหม่ๆต่อไป
Create Date : 30 กันยายน 2550 |
|
0 comments |
Last Update : 30 กันยายน 2550 19:09:54 น. |
Counter : 1031 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
Plagao |
|
|
|
|