บล๊อกนี้ต้องใส่รหัสผ่าน เฉพาะผู้ได้รับอนุญาตเท่านั้น













อีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า "นางฟ้าของฉัน" จะเข้าทำการผ่าตัดสมองแล้ว

ฉันเป็นห่วงเธอมาก .. ทุกวินาทีฉันจะภาวนาให้เธอปลอดภัยหายเป็นปกติ







ย้อนไปเมื่อปีที่แล้ว ที่เราเริ่มรู้จักกัน

เธอมีอาการซึมเศร้า เธอบ่นปวดหัวมาก เธอต้องทนทรมานร้องไห้ทุกเวลา

เราสื่อสารกันทางMSNตลอด เมื่อคุยกันไปไม่กี่ประโยค เธอก็บ่นปวดหัวอีกแล้ว

ฉันรู้สึกสงสารเธอจับใจ จึงได้อธิษฐานว่า

ถ้าหากมีหนทางใดที่ฉันทำให้เธอยิ้ม หัวเราะและลืมอาการเจ็บปวดได้ ฉันก็จะทำ







ฉันคุยกับเธอถึงเรื่องการปล่อยวาง

พักหลังเราสนิทกันมากขึ้น เธอตั้งฉายาให้ฉันว่า "จอมวายร้าย"

และยังมีอีกหลายฉายานับไม่ถ้วน

แต่โดยสรุป เธอบอกว่าฉันเป็นคนชอบกวนประสาท

เธอเริ่มมีเสียงหัวเราะ เธอเปลี่ยนเป็นคนสดใส

หลังจากนั้น ฉันก็ไม่เคยได้ยินเธอบ่นปวดหัวอีกเลย








"นางฟ้าของฉัน" เธออย่าวิตกกังวลหรือได้กลัวกับการผ่าตัดครั้งสำคัญนี้เลยนะ

เพราะคนกวนประสาทอย่างฉันจะอยู่เคียงข้างเธอตลอดเวลาและฉันจะไม่ไปไหนทั้งสิ้น อิอิ!












ปล.เพลงนี้เป็นเพลงประจำตัวของฉัน ที่อยากให้เธอฟังอีกครั้ง

เพราะคิดว่า เสียงแซ็กโซโฟนของฉันนี้ จะทำให้เธอหายจากโรคร้ายทั้งปวง ฉันเชื่อมั่น


















free counters







 

Create Date : 01 ธันวาคม 2553
14 comments
Last Update : 1 ธันวาคม 2553 18:18:43 น.
Counter : 925 Pageviews.

 

เอาใจช่วยอีกแรงคะ ขอให้การผ่าตัดผ่านไปด้วยดี

 

โดย: คนอ่อนไหวกับใจอ่อนหวาน 1 ธันวาคม 2553 16:22:30 น.  

 

ขอให้การผ่าตัดผ่านไปด้วยดีครับ

 

โดย: Don't try this at home. 1 ธันวาคม 2553 17:07:15 น.  

 


เอาใจช่วยนะคะ เชื่อว่าทุกสิ่งต้องผ่านไปได้ด้วยดี

 

โดย: น้ำค้างเดือนหก 1 ธันวาคม 2553 17:23:40 น.  

 

สวัสดี MM,

แวะมาทักทาย เจอบรรยากาศลุ้นๆ เต็มไปด้วยกำลังใจ

ขอให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี

ให้โบจัง ผ่านฉลุย ราบรื่นในการผ่าตัดนะ

 

โดย: เลื้อย 1 ธันวาคม 2553 17:24:58 น.  

 

กำลังใจดีขนาดนี้

แป๊บๆ คุณโบก็กลับมาหัวเราะร่วนกะจอมวายร้ายMM แล้วแหละเนาะ

มาเป็นกำลังใจให้คุณMM จะได้ช่วยส่งต่อกำลังใจไปให้นางฟ้าอีกที...

 

โดย: piGipo 1 ธันวาคม 2553 17:40:04 น.  

 

เป็นกำลังใจให้ค่ะ

 

โดย: เศษไม้ใบหญ้า 1 ธันวาคม 2553 18:03:13 น.  

 

เอาใจช่วยน้องโบ ด้วยอีกแรง ให้ผ่านไปได้ด้วยดีนะคะ

คิดถึงเสมอ

 

โดย: เจน และ เคนจัง (Hamugo ) 1 ธันวาคม 2553 18:03:31 น.  

 

ขอส่งกำลังใจให้ทั้งMMและน้องโบนะคะ

 

โดย: keng_toshi 1 ธันวาคม 2553 18:34:17 น.  

 

แอบอ่านมานานแระ น่ารักจริง ๆ ทั้งนางฟ้าและจอมวายร้าย อิ อิ
แต่ comment ไม่ได้เพราะเป็นบัตรผ่าน วันนี้มีโอกาสขอฝากให้จอมวายร้ายไปบอกนางฟ้าว่าขอเอาใจช่วยทั้งการผ่าตัดและ ..... นะจ๊ะ

 

โดย: micky IP: 58.11.85.131 1 ธันวาคม 2553 21:36:30 น.  

 

ไอ้โง่!!!!

V

V

การผ่าตัดสมองผ่านกล้อง
(Endoscopic neurosurgery)
ด้วยการผ่าตัดแบบใหม่ที่ใช้กล้องแบบเดียวกับที่ใช้ผ่าตัดถุงน้ำดีหรือไส้ติ่ง สอดเข้าไปผ่านรูจมูกเพื่อเอาเนื้องอกสมองออก โดยที่ไม่ต้องลงมีดผ่าตัดใด ๆ ที่ผิงหนัง และไม่ได้เปิดกะโหลกศีรษะแต่อย่างใด ไม่มีการโกนผม ในบางรายอาจไม่ต้องฟักฟื้นหลังผ่าตัดในห้อง ICU รวมทั้งอาจเดินกลับบ้านได้ภายใน 2-3 วันหลังผ่าตัด

โรคทางสมองที่สามารถรักษาด้วยการผ่าตัดผ่านกล้องส่องเข้าไปทางรูจมูก ส่วนใหญ่จะเป็นการนำเอาเนื้องอกในกลุ่มของต่อมใต้สมองออกมา โดยที่ไม่ต้องทำลายหรือยุ่งเกี่ยวกับเนื้อสมอง ความจริงการผ่าตัดวิธีนี้มีมานานแล้วเรียกว่า Transsphenoidal surgery เพียงแต่ว่าวิธีดั้งเดิมแพทย์อาจจะต้องลงมีดที่เหงือกเหนือฟันบน และสอดเครื่องมือเข้าทางช่องปาก จากนั้นเครื่องมือผ่าตัดจะถูกสอดเข้าไปในโพรงจมูกอีกทีหนึ่งเพื่อเอาเนื้องอกออก แน่นอนว่าวิธีนี้ก็ไม่เห็นรอยแผลเป็นที่ผิวหนัง แต่ในความเป็นจริงผู้ป่วยอาจได้ของแถมหลังผ่าตัด เช่น ชาปาก เสียวฟัน ฟันโยก ปากบวมทำให้เคี้ยวอาหารไม่ได้หลายวัน แต่ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ การผ่าตัดเอาเนื้องอกต่อมใต้สมองออกด้วยวิธีการผ่าตัดผ่านช่องปากดังกล่าวดูจะเป็นเรื่องล้าสมัยไปแล้ว

ในยุค 2000 มีวิธีใหม่ที่เรียกเป็นเทอมทางการแพทย์ว่า Endoscopic transnasal transsphenoidal approach คือแทนที่จะลงมีดที่ช่องปากแล้วผ่าตัดโดยใช้กล้องจุลทรรศน์ ศัลยแพทย์ระบบประสาทจะนำกล้องส่องเข้าไปในโพรงจมูกโดยตรง ปลายกล้องจะมีเลนส์และไฟส่องเพื่อให้เห็นว่ากำลังอยู่ตรงไหนในโพรงจมูก หลายคนอาจงงว่าแล้วมันไปเกี่ยวอะไรกับสมอง คุณหลับตาแล้วลองนึกเวลาที่ลงไปเล่นน้ำในสระหรือทะเล แล้วสำลักน้ำขึ้นจมูก คุณจะรู้ปวดจี๊ด ๆ ที่เหนือโพรงจมูก อาการปวดนี้เป็นเพราะประสาทสมองที่ต่อกับสมองของคุณนั้นรู้สึกเจ็บ เส้นประสาทดังกล่าววางตัวอยู่เหนือโพรงจมูกของคุณ และต่อเชื่อมเข้าไปในสมองอีกทีหนึ่ง จะว่าไปแล้วนอกจากจะเรียกว่า “ดวงตาเป็นหน้าต่างของสมองแล้ว (ไม่ใช่ดวงใจ) จมูกก็เป็นเหมือนประตูสู่สมองนั่นเอง” ด้วยเหตุที่นี้เอง ทำให้การเอาสมองออกจากศพในการทำมัมมี่ในสมัยโบราณ สามารถทำได้โดยไม่ต้อเปิดกะโหลกศีรษะ (นี่แสดงว่าชาวอียิปต์โบราณก็รู้จัก MIS แล้วนั่นเอง แต่ไม่ใช่เพื่อการรักษาสมอง แต่เป็นการรักษาศพไม่ให้เน่า) หรือถ้ายังจำได้กับข่าวว่าคนตกน้ำแล้วลำลักน้ำครำจนทำให้เชื้อโรคเข้าสู่สมองได้ก็เข้าได้โดยผ่านทางโพรงจมูกด้านบนที่เองครับ

เหนือโพรงจมูกจะเป็นฐานกะโหลกศีรษะที่มีต่อมใต้สมองและเจ้าเนื้องอกที่เกิดจากต่อมใต้สมองวางตัวอยู่ ด้วยการผ่าตัดวิธีนี้ เมื่อกล้องส่องไปจนถึงโพรงจมูกด้านบนแพทย์ก็สามารถทำทางเดินหรืออุโมงค์เล็ก ๆ (ทำเล็ก ๆ ได้เพราะเครื่องมือที่ใช้ผ่าตัดเล็กลงกว่าเดิมมาก) เพื่อเข้าสู่ฐานสมองและเอาเนื้องอกออกมาผ่านรูเล็ก ๆ นี่เอง

ด้วยวิธีดังกล่าวศัลยแพทย์ระบบประสาทจึงสามารถเอาเนื้องอกในสมองออกมาได้โดยไม่ต้องเปิดกะโหลกศีรษะแต่อย่างใด อีกทั้งไม่มีแผลผ่าตัดให้เห็น ไม่มีอาการชาปาก เสียวฟัน อาจมีเพียงความรู้สึกแน่นจมูกเพราะถูกทำมิดีมิร้ายด้วยการสอดเครื่องมือผ่าตัดผ่านทางรูจมูก แต่มักเป็นอยู่ไม่เกิน 1-2 วัน แล้วก็จะดีขึ้นเอง ตามประสบการณ์ของผมวิธีนี้สามารถลดระยะเวลาการอยู่ในโรงพยาบาลได้มาก จากเดิมที่ถ้าต้องลงมีดขนาดใหญ่ทำให้สมองมีการบอบช้ำมาก ต้องผ่าตัดหลายชั่วโมง และพักฟื้นใน ICU เป็นสัปดาห์ แต่วิธีใหม่นี้ที่เร็วที่สุดที่ผมเคยผ่าตัดไว้คือ 40 นาที ไม่ต้องอยู่ใน ICU วันรุ่งขึ้นลุกเดินและรับประทานข้าวได้ กลับบ้านได้เร็วที่สุดคือ 2-3 วันหลังผ่าตัด นับเป็นเรื่องที่ดีมากสำหรับผู้ป่วยที่ถึงแม้ว่าจะโชคร้ายต้องมาผ่าตัดสมอง แต่เป็นความโชคดีบนความโชคร้ายที่มีทางเลือกมากขึ้นในการผ่าตัดหากไม่สามารถผ่าตัดด้วยวิธีนี้ มีวิธีอื่นอีกหรือไม่?


นอกเหนือไปจากการใช้กล้องส่องโดยไม่ต้องลงมีดที่ผิวหนังและโกนผมแล้ว ในโรคทางระบบประสาทและสมองบางอย่างอาจยังจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดด้วยวิธีการเปิดกะโหลกศีรษะอยู่ดี แต่อย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว “เทคโนโลยีก้าวไกลจริง ๆ วิทยาการทางการแพทย์ก็ก้าวไปไกลเช่นกัน” หลายคนที่ยังต้องผ่าตัดด้วยการเปิดกะโหลกศีรษะ แต่ทำได้ด้วยการผ่าตัดโดยใช้หลักการที่เรียกว่า MIS คือให้เจ็บตัวน้อยที่สุด พักฟื้นสั้นที่สุด กลับไปทำงานได้เร็วที่สุด เช่น ผู้ที่เป็นเนื้องอกสมองในฐานกะโหลกด้านหน้า เส้นโลหิตสมมองโป่งพองและแตกออก (Ruptured aneurysm) เลือดคั่งในสมองจากเส้นโลหิตฝอยแตก (Stroke) ซึ่งพบได้บ่อยมากแทบทุกวัน ไม่เลือกว่าจะรวยหรือจน ยิ่งรวยยิ่งเป็นมากคงเพราะเครียดมากทำให้เส้นโลหิตแตก ทำให้เป็นอัมพาตครึ่งซีก ชาครึ่งซีก หรือแม้แต่อุบัติเหตุเลือดคั่งในสมอง เหล่านี้ก็สามารถรักษาได้โดยใช้หลักการ MIS เช่นกัน

การผ่าตัดสมองด้วยหลักการ MIS ในบางรายก็ไม่ต้องโกนผมหรือหากต้องโกนผมก็ทำแต่เพียงกันผม แบบที่ช่างตัดผมทำกัน เช่น กันไรผมด้านหน้า กันจอนด้านข้าง กันผมบริเวณท้ายทอย เป็นต้น แผลผ่าตัดก็มีขนาดประมาณ 4-5 ซม. กะโหลกศีรษะที่ต้องเปิดก็มีขนาดเท่าเหรียญสิบบาท การผ่าตัดใช้เวลาสั้นลงเป็นอันมาก เร็วที่สุดที่เคยผ่าตัดในรายที่เป็นเนื้องอกคือไม่เกิน 1 ชั่วโมง การผ่าตัดเส้นโลหิตฝอยแตกก็ประมาณ 40 นาที ทำให้ผู้ป่วยไม่ต้องรับความเสี่ยงจากการดมยาสลบนาน ๆ (ยิ่งดมนานเท่าไร ความเสี่ยงจากการเกิดโรคแทรกซ้อนก็มากเท่านั้น) อีกทั้งสมองยังได้รับบาดเจ็บจากการผ่าตัดน้อยมากจนแทบไม่มีเลย ทำให้โอกาสในการฟื้นตัวเร็วกว่าเดิมมาก เป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลหลังผ่าตัดที่จะตามมาซึ่งอาจจะมากกว่าค่าผ่าตัดด้วยซ้ำไป

โดยสรุปแล้วการผ่าตัดสมองในปัจจุบันมีทางเลือกมากขึ้น หากมีใครเจ็บป่วยด้วยโรคทางสมอง ก็อย่าตกใจเกินกว่าเหตุ การผ่าตัดสมองในปัจจุบันไม่เหมือนเมื่อ 20-30 ปีก่อนที่ต้องสวดมนต์ภาวนาและทำใจว่าญาติของเราอาจไม่ได้อยู่กับเราหรือไม่เหมือนเดิมอีก ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันทำให้การผ่าตัดสมองเป็นเรื่องง่ายกว่าแต่ก่อนมาก โดยหลักการในปัจจุบันแล้ว “ผู้ป่วยเดินมาโรงพยาบาลก็ต้องเดินกลับนั่งรถเข็นมา อย่างน้อยก็ต้องให้นั่งหรือดีกว่าถ้าเดินกลับเองได้” ดังนั้น การปรึกษาแพทย์ทางสมองเป็นสิ่งสำคัญ อย่ากลัวที่จะถามไถ่ขอคำแนะนำจากแพทย์เพื่อให้ได้ข้อมูลการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมและปลอดภัยมากขึ้นสำหรับตัวคุณเองหรือญาติที่รักของคุณไงครับ..

ตารางเปรียบเทียบวิธีการผ่าตัดทั้งสองแบบ

ขั้นตอนการผ่าตัดวิธีที่ทำกันโดยทั่วไป
- โกนผม มักโกนศีรษะจนหมด
- การลงมีดที่ผิวหนัง มักลงเป็นแผลใหญ่ยาวประมาณ 10-20 ซม.ทำให้มีการปวดแผลผ่าตัดมาก และหลังผ่าตัดอาจมีปัญหาเรื่องการงอกของเส้นผมได้มาก
- ระยะเวลาการผ่าตัด ขึ้นกับความรุนแรงของโรค โดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 3-4 ซม. ไปจนถึง 12-20 ซม.
- การเสียเลือดระหว่างผ่าตัด ขึ้นกับความรุนแรงของโรค แต่มักเสียเลือดมากโดยเฉพาะรายที่ต้องเปิดกะโหลกศีรษะใหญ่ ทำให้ต้องได้รับเลือดบริจาคมากกว่าปกติ
- การพักฟื้น ใน ICU อาจจะนานเป็นเดือน หรือโดยทั่วไปประมาณ 5-10 วัน
- การจำหน่ายออกจากโรงพยาบาล ขึ้นกับความรุนแรงของโรค อาจนานเป็นเดือน หรือทั่วไปประมาณ 7-10 วันเพื่อตัดไหม

วิธีใช้กล้องหรือ MIS
- ไม่โกนเลย หรือโกนแต่น้อยมากจนอาจดูไม่ออกว่าโกนผม
- ไม่มีการลงมีดที่ผิวหนัง หรือถ้ามีก็เล็กกว่าปกติมาก
โดยประมาณ 5-8 ซม.การเปิดกะโหลกศีรษะ ขนาดเส้นศูนย์กลางประมาณ 10-20 ซม. ไม่มี หรือถ้ามีก็ประมาณ 3-5 ซม. (เหรียญสิบบาท)
- ขึ้นกับความรุนแรงของโรค โดยทั่วไปอยู่ที่ 40 นาที
จนถึง 2-3 ซม.
- ขึ้นกับความรุนแรงของโรค แต่สามารถลดอัตราการเสียเลือดได้มากกว่าวิธีดั้งเดิม ทำให้โอกาสได้รับเลือดเสริมน้อยลง
- อาจไม่ต้องใช้ ICU ผู้ป่วยสามารถอยู่ในห้องพิเศษกับญาติได้ทันทีหลังผ่าตัด หรือถ้าต้องอยู่ ICUก็ใช้เวลาประมาณ 2-5 วัน
- การจำหน่ายออกจากโรงพยาบาล ขึ้นกับความรุนแรงของโรค โดยทั่วไปอยู่ที่ 5-10 วัน หรือในบางรายไม่ต้องตัดไหมก็สามารถกลับออกจากโรงพยาบาลได้ภายใน 3 วัน

ข้อมูลจาก..... Faculty of Medicine, Siriraj Hospital,Mahicol University.

 

โดย: ค๊อปเตอร์ใบไม้ (arlendil ) 1 ธันวาคม 2553 22:51:05 น.  

 

ไม่ต้องเป็นห่วงเค้านะ......

 

โดย: ค๊อปเตอร์ใบไม้ (arlendil ) 1 ธันวาคม 2553 22:52:39 น.  

 

ค๊อปเตอร์ใบไม้

^

อ้าววมาได้ไง นึกว่าถูกวางยาสลบไปแล้วซะอีก

 

โดย: MM (ongchai_maewmong ) 1 ธันวาคม 2553 22:55:16 น.  

 

ขอให้กลับมาแข็งแรงไวๆนะคะ ^^
มาเอาใจช่วยด้วยอีกหนึ่งคน

 

โดย: pim IP: 192.193.160.8 2 ธันวาคม 2553 16:22:42 น.  

 

MM

ปีนี้กะว่าจะพาเคนจังไปเล่นหิมะ ที่ ฟูจิซังเหมือนเคยนะ
หรือไปทาง ฮอกไกโด ยังไม่ใจจ๊ะ

เดี๋ยวเอารูปมาฝากนะ

แต่ตอนนี้ยังไม่ไป รอให้หนาวกว่านี้ก่อนนะคะ

 

โดย: Hamugo 2 ธันวาคม 2553 17:04:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


MM Story
Location :
Singapore / Bangkok / Sapporo - Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




free counters
New Comments
Group Blog
 
 
ธันวาคม 2553
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
1 ธันวาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add MM Story's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.