:: เบคอนรีวิว :: ....... หนีกรุงไปขึ้นเหนือ นอนสบายที่ Butterfly Resort @ Chiangmai....
ฮารุๆๆๆ
สวัสดีครับ พีน้องชาวบล็อคทุกท่าน ... ไม่ได้มาอัพบล็อคสะนานนม ... ( ดูเป็นคำขึ้นต้นประจำของผมไปแล้ว 555)
ตอนนี้สนุกกับการเล่น Multiply มากกว่า บล็อคแก็งเลยร้างๆไปบ้าง ต้องขออภัย ...
วันนี้จะพาไปดูที่พักที่เชียงใหม่ครับ ... เป็นทริป 3 วัน 2 คืน ... จากการ่วมสนุกกับ KTCWorld ได้ไปนอนที่ Butterfly Resort รีสร์ทเปิดใหม่ ที่เปิดตัวมาได้พักนึงครับ
ตามมาเลย
งานนี้ KTC ใจดีมาก เค้าให้พาเพื่อนไปได้อีก 3 คนรวมตัวผมด้วยก็เป็น 4 คน ....
แต่ก่อนออกเดินทาง 1 วัน รุ่นน้องที่สนิทคนนึงที่ตั้งใจจะไปด้วยไม่สบายครับ เลยต้องขอถอนตัวไป
สรุปว่าทริปนี้ มีเหลือกัน 3 คน ... (จริงๆ ก็มีแกะน้อยอีก 3 ตัวนะ )
ทริปนี้ ขอชิลล์ครับ เราออกเดินทางโดยรถไฟครับ ตู้นอนชั้นสอง ราคาราวๆ 7-8 ร้อยบาท ...
ที่ขึ้นรถไฟก็สนองความต้องการของเพื่อนครับ มันชอบนั่งรถไฟไปเชียงใหม่
เออ.... ไหนๆ ก็หลวมตัวยอมมากะเราก็ต้องตามใจมันหน่อย ..
ค่อนข้างฉุกละหุก กับรางวัลที่ได้รับ ...ผมไปจองตั๋วก่อนออกเดินทาง 1 วัน รอบหัวค่ำ นั้นตั๋วตู้นอนเต็มแล้วครับ เหลือแต่รอบ 6 โมงเย็น ...
จะว่าไปก็เสี่ยงกับการเดินทางเหมือนกัน จากออฟฟิศมาหัวลำโพง
รถขบวนนี้ออก 18.00 น. เอาเข้าจริง ผมมาถึง ราว 17.45 ได้ ...
ส่วนเจ้าเพื่อนตัวดีนี่ มาถึงหัวลำโพง 18.20 น.
แต่โชคดีไปเพราะรถไฟดีเลย์ 555+
นึกว่า จะเหลือแค่ 2 คนไปทริปนี้สะแล้ว - -'
จริงๆก็ทำใจเรื่องดีเลย์ไว้นิดหน่อยบ้างอยู่แล้ว แต่ก็นึกในใจ ... นี่มันจะดีเลย์กันตั้งแต่ออกตัวเลยเหรอเนี่ย
จะว่าไปก็นานมากแล้วที่ได้นั่งรถไฟตู้นอนระยะทางยาวๆแบบนี้ ... ต้องย้อนไปสมัยเรียนมหา'ลัยนู้นแหละครับ
ตอนนั้น ได้นั่งไปเที่ยวอีสานตอนบน ไปกับเพื่อนๆหลายคนก็สนุกดี
ผมว่าเสน่ห์ของการนั่งรถไฟคือ.... มันไม่ถึงสักทีนี่แหละครับ
เมื่อได้เดินทางไปกับเพื่อนที่เราไม่ได้เจอกันนานมาก พอมันมีเวลาบนรถไฟ ....มันเหมือนว่าเราได้กลับมามี เวลาพูดจากันเยอะขึ้น
ไม่ต้องเร่งรีบกับการเดินทาง เพราะรู้อยู่แล้วว่า ถ้าเราเลือกรถไฟแสดงว่าเราไม่ได้สนใจว่ามันต้องถึงจุดหมายรวดเร็ว ...
ดูเลขหน้าตั๋ว ...
ขบวนนี้แหละ ไม่ผิด ....
เรามาถึงก่อน แต่เพื่อนยังไม่มา ... จะก้าวขึ้นก็ ยังไงอยู่
เลยยืนต่อรองกับเจ้าหน้าที่ประจำตู้ว่า
พี่ ๆ ... ช่วยรอเพื่อนผมอีกสัก 5 นาทีได้มั้ย ...
พี่ตอบ ..ไม่ได้หรอก เค้าออกตรงเวลา (เราก็พยักหน้า งึมๆ )..ไม่ทันน้องก็ต้องให้เพื่อนไปขึ้นสถานีหน้า ...
พูดเสร็จ นายสถานีประกาศ ขบวน กทม เชียงใหม่ ดีเลย์ ครึ่ง ชั่วโมง นะคร้าบบบบบ...
โชคดี เป็นบ้า ...
.....
มองดูนาฬิกา ...
ราวๆ 18. 30 ได้แล้ว ....
ในที่สุด....
... เสียงล้อรถไฟเสียดสีกับรางเหล็ก พร้อมเสียง ปู้น เบาๆ อันแสนคลาสสิคดังขึ้น ขบวนม้าเหล็กค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากสถานีหลักของประเทศอย่างหัวลำโพง บ่งบอกว่า การเดินทางของเราได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
กวาดดูด้วยสายตา แล้วพบว่ากว่าร้อยละ 80 ของผู้โดยสารในโบกี้นอนตู้นี้ เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติสะมากกว่า
คงจะเหมาะกับการเดินทางที่ค่าใช้จ่ายไม่สูง ออกเดินทางค่ำๆ ถึง เชียงใหม่เช้า ได้เที่ยวต่อได้เลยทันที แถมยังได้นอนพักเก็บแรงแบบยืดขาได้สะดวกอีกด้วย ....
เริ่มค่ำ ... ท้องก็เริ่มหิว ...รีบวิ่งมาขึ้นรถไฟหลังเลิกงาน ก็ไทม่ได้ซื้อของกินตุนไว้ เลยได้ลองสั่ง Dining in Train
สั่งอะไรไป จำไม่ได้แล้วเหมอืนกัน เป็นอาหารเซ็ท ... รสชาติกลางๆ ไม่แย่ ไม่อร่อยมาก ...
หลังจากได้ลิ้มลองอาหารบนรถไฟ
ตะวันคล้อยลับฟ้าไปนานพอสมควร
มองดูนาฬิกาก็เกือบๆจะ 3 ทุ่มได้แล้ว ...จากบทสนทนาที่สนุกออกรสชาติในหัวค่ำ ตอนนี้หลายคนเริ่มหันหัวตัวเองเข้าสู่ที่นอนเพื่อเก็บแรง
พนักงานก็ถยอยมาปรับที่นั่งให้เป็นเตียงนอน....
ป้าคนนี้บอกผมว่า ทำหน้าที่นี่มากว่า 6 ปีแล้ว
... ผมถามแกไปว่า ... ป้าใช้เวลาเร็วที่สุดในการปรับเตียงกี่นาที
ป้าแกก็หัวเราะ คงนึกในใจ (แกร) จะรู้ไปทำไม .... ป้าก็บอกไม่เคยลองจับเวลาเหมือนกัน ...
ผมเลยลองแอบๆ จับเวลาดู ปรากฏว่าไม่น่าจะเกิน 1 นาทีด้วยละมั้งครับ ... แหม.... เร็วทันใจจริงๆ
ตามกำหนดการในหน้าตั๋วบอกเอาไว้ว่าเราจะถึงราว 8 โมง .... จากการดีเลย์ตอนออกตัวเมื่อวาน เกือบ 1 ชั่วโมง ทำให้เช้านี้เรามาถึง เชียงใหม่ราว 10 โมง ...
(มาจากไหนอีก1 ชั่วโมงฟะ ... )
ผ่านถ้ำขุนตาน .... ก็บอกได้ว่าเราอยู่ใกล้ เจียงใหม่แล้วนะ เจ้า
.....
....
เก็บของต่างๆลงจากรถไฟ
...เดินออกมายังทางเข้าสถานี เหล่าแท็กซี่ สามล้อ สองแถวแดง ก็มารายล้อมอยู่รอบนักเดินทาง สำหรับผมเลือกที่จะเดินออกมาจากบริเวณนั้นและไปหาสามล้อด้านนอกดีกว่า ...
กางแผนที่ พร้อมกับโบกสามล้อคันนึง บอกว่าต้องการไป สันผีเสื้อ แกตีราคามา 100 บาท .... ก็โอเค
สำหรับคนต่างถิ่นอย่างเรา ..ไม่รู้หรอกครับว่ามันแพง หรือถูก แต่ราคาอยู่ในระดับพอรับได้ ว่าแล้วก็กระโจนขึ้นรถไปเลย ...
ระหว่างอยู่บนรถก็มองท้องฟ้า .... บรรยากาศเหมือนอยู่ในช่วงที่มีเมฆเยอะ ปกคลุมครับ มีแดดก็จริง แต่ฟ้าไม่ใสเลย ...
ซึ่งก็เป็นแบบนี้ตลอกทั้งทริป 3 วัน 2 คืนเลย แถมวันสุดท้ายก่อนกลับ เจอฝนลูกใหญ่สั่งลาอีกต่างหาก
...แต่อย่างว่าตอนที่ไป เมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน ก็ยังถือเป็นช่วง Low Season ของเชียงใหม่อยู่เลย
จากสถานีรถไฟเชียงใหม่ราว 15 นาที ..... งงๆ หลงๆ พอเป็นพิธี ...อยู่สักแปบก็มาถึงรีสอร์ท
ด้วยความที่รีสอร์ทพึ่งเปิดใหม่ .... ชื่อเสียงยังคงไม่ได้ติดหูมาก อาจทำให้คนขับรถยังงงๆ บ้าง เราก็ต้องช่วยๆ กันสังเกตครับ
จุดสังเกตอีกอย่างก็เป็นกำแพงของรีสอร์ทที่ประดับไปด้วย ผีเสื้อตามชื่อ ดังในภาพนั่นแหละครับ ที่นี่ไม่มีป้ายชื่อรีสอร์ทด้วยนะครับ ...
ตอนไปถึงนั้น ผมไปถึงพร้อมกับ อีกคณะนึงด้วย พอดีเลยครับ ....
อ้อ ...ลืมบอกไป ทริปครั้งนี้ KTC เค้าคัดมา 4 กลุ่ม 4 ก๊วนเข้าร่วมกิจกรรมครับ เกือบทั้งหมดก็รีวิวใน BP ไปหมดแล้วละครับ เหลือผมเนี่ยแหละ ชอบดองรูปเป็นอาชีพ 555+
ว่าแล้วก็แจ้งกับ ฟร้อนท์ ว่า มาถึง รับเวลคั้ม ดริงค์ เข้าเช็กอิน พักผ่อนกันก่อนเลย....
Butterfly Resort ....
ได้ยินชื่อก็ไม่คุ้นครับ เพราะเป็นรีสอร์ทใหม่กิ๊ก ... พนักงานบอกว่า สร้างเสร็จมาตั้งแต่ช่วงต้นปี ... หลังจากกลางปีนี้ไป ก็จะพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวกันแล้ว ....
พนักงานแจ้งว่าไลน์อาหารเช้ายังไม่เก็บ ...
เข้าทางเลยแวะไปหม่ำๆ ก่อนเข้าห้องครับ
ออมเล็ท 1 ที่ ค๊าบบบบบ
ภาชนะ ถ้วย จาน ชาม ของที่นี่นำเข้ามาจากต่างประเทศครับ (จำไม่ได้แล้วว่ามาจากประเทศใด)
ลวดลายวิจิตรสวยงามใช้ได้เลย
บริเวณล็อบบี้ แบบเปิดโล่ง ...
ห้องพักของเราวันนี้ก็อย่างที่เห้นในรูปครับ
เป็นบ้านไม้ร่วมสมัย สองชั้น แบ่งเป็น ห้องชั้นบน และห้องชั้นล่าง ผมนอนชั้นบนกับ ม่ามี๊ของลูกแกะสามตัว ส่วนเพื่อนนั้นนอนชั้นล่างครับ
เจ้าประติมากรรม ด้านหน้า นี่ ...เพื่อนๆ มองว่าเป็นอะไรกันครับ ...
ไข่มังกร ...
เม็ดม่ะม่วง ....
หรือกบ ?
หน้าบ้านมีเก้าอี้ไว้นั่งเล่น ...
ตลอด 3 วัน ผม ไม่ค่อยได้นั่งเท่าไหร่ครับ
เค้าจะออกแบบให้บานแต่ละหลังเชื่อมถึงกันได้นะครับ โดยมีแผงไม้ กั้นเอาไว้แบบบังตาเท่านั้น
ถ้ามากันเยอะๆ ก็จองห้องแบบติดกัน ก็สมารถเดินไปมาหาสู่ได้สบาย
มาดูภายในห้องพักครับ ...
เดินเข้ามาจะเจอชุดโซฟานั่งเล่นก่อนครับ ...
ห้องพักมีทั้งสิ้น 19 ห้อง เป็น Deluxe แบบที่ผมและก๊วนพัก 18 ห้อง แล้วก็แบบ Villa Suite อีก 1 หลัง หมาะกับครอบครัวใหญ่ที่ต้องการความเป้นส่วนตัวครับ
มองจากโซฟาไป ก็จะเจอเตียงนอนถัดออกไป ...
เตียงนอนนิ่มๆ ครับ
ปกติผมจะไม่ค่อยชอบรีสอร์ทที่ใช้ผ้าปูเตีงแบบเป็นลวดลายๆ เท่าไหร่ ชอบแบบสีขาวๆ เรียบๆ มากกว่า
แต่ที่ butterfly เค้าเลือกใช้ลวดลายได้ สวยดีนะ แอบชอบ ...
มองตรงสักรูป ...
จะว่าไปข้อด้อย อย่างนึงคือ แสงไฟในห้องค่อนข้างสว่างไม่พอกับ ความมืดของห้องครับ .... ช่วงกลางวันแสงจากหลอดไฟจะสูแสงข้างนอกไม่ได้ มันจะทำให้ห้องมืดๆ นิดนึงครับ
แต่โรแมนติกดีนะ (ตรงไหน)
....
..
ห้องนี้อยู่ชั้นสอง ....
เอ.... แล้วห้องน้ำละ อยู่ไหนอะ ...
ตามมาครับ ห้องน้ำถูกออกแบบให้อยู่ที่ด้านล่าง โดยต้องลงบันไดลงไป ...
เก๋มะ ?
ห้องน้ำครับบบบบ
อ่างจากุชชี่ด้วยนะ ... เดินทางมาเหนื่อยๆ นอนแช่น้ำ ตีพุง ..สบายใจเป็นที่ซู้ดดด...
ห้องน้ำที่นี่ จัดได้ว่าค่อนข้างจะหวาบหวิวใช้ได้เลยครับ
เป็นประตูกระจกทุกด้าน ...
มีผ้าม่านเลื่อลงมาปิดบังตาได้ก็จริง .... แต่ก็ปิดได้ไม่สุดครับ....
Open air shower ....
ใครจะอาบแบบเปลือยกาย ต้องใจกล้านิดนนึงนะครับ เพราะว่าโอเพ่นแบบได้ใจมาก...
มาอาบจังหวะไม่ดีนี่ ห้องข้างๆ แอบเห็นได้เลยนะ
มุมสวยๆ ของรีสอร์ทครับ
เป็นมุมจุดขายของรีสอร์เลยทีเดียว .....
เรียกความน่าสนใจให้กับผมได้อย่างดีมาก เมื่อเห็นมุมนี้ในเว็บไซท์ของรีสอร์ท ก่อนจะได้มาเข้าพัก
นั่งชมจากด้านบนของอาคารส่วนกลาง ก็จะเห็นบรรยากาศริมน้ำปิง .... พร้อมความเขียวขจีของ สามหญ้ารอบๆ รีสอร์ท เคียงด้วยต้นไม้ใหญ่ที่ปกคลุมความร่มรื่นไว้
รีสอร์ทยามค่ำคืนสักรูป ....
โดยรวมค่อนข้างประทับใจกับทริปนี้ไม่น้อยครับ ... ขอบคุณผู้จัดงานทุกท่านตั้งแต่ทีม KTCWorld ไปจนถึง ทีมงาน Buttrefly Resort ... ที่สำคัญขอบคุณ เพื่อนผู้ร่วมเดินทางที่ยอมหลวมตัวไปกับกระผมด้วย..
รีวิวในห้อง Blueplanet ไว้สมบูรณ์แล้วสองตอน ตามไปชมได้ครับ....
//www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8268227/E8268227.html
//www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8272334/E8272334.html
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมารับชมครับ ว่างๆจะพยายามมาขยันอัพบล็อคอีกครับ อิ อิ ...
Create Date : 02 กันยายน 2552 |
|
13 comments |
Last Update : 3 กันยายน 2552 20:56:41 น. |
Counter : 4948 Pageviews. |
|
|
|