Work hard, play harder
ตั้งแต่มาทำงานที่นี่ ท้องพี่ต้องสตรองอย่างแรง อันเนื่องมาจากว่า โดยเฉลี่ย 2 เดือน เราจะมีไปกินข้าวเย็นกัน ซึ่งเรื่องกินพี่สตรองมาก แต่ที่ต้องฝึกปรือเพิ่มเติม คือความต้านทานด้านแอลกอฮอล์
หลายๆคนน่าจะเคยทราบมาว่า พวกซาลารี่มัง หรือซาลารี่แมน Salary man คนญี่ปุ่นนี่ จะปาร์ตี้กันหนักอยู่ แต่ส่วนมากจะเป็นผู้ชาย เรากะน้องบัญชีก็เป็นเพียงแค่ผู้หญิงไทยตัวเล็กๆ (555) ที่ไม่ค่อยได้เที่ยวกลางคืนมาสักระยะ ระดับแอลกอฮอลล์ในร่างกายก็ลดน้อยลง ผันผวนสวนกระแสกับอายุที่เพิ่มขึ้น
ปกติหลักๆ ในออฟฟิศเราคือจะมีนายที่ประจำอยู่ไทย 1 คน มีเรากับน้องบัญชี ก็เป็น 3 คน ถ้ามีไปกินกันเอง แค่เราสามคนนี้ ก็จะกินกันไปตามมีตามเกิด แล้วแต่ว่าร้านที่ไปเป็นแบบไหน ส่วนมากนายจะเลือกแถวๆใกล้ๆออฟฟิศ
ถ้าอย่างนายที่ไม่ได้ประจำอยู่ที่ไทย แต่จะมาเกือบๆทุกเดือนนั้น ส่วนมากมักจะติดโชวจูมาด้วย อันเนื่องจากเป็นของขวัญให้กับลูกค้าบ้าง และเราอาจจะได้อานิสงฆ์มาบ้างในบางครั้ง ฮี่ๆ ถือเป็นความโชคดีที่ได้ลอง เพราะถ้าปกติเราก็จะได้กินแค่เบียร์ (ของบ้านเรา) หรือเหล้า+โซดา เอิ๊กๆ นี่พี่ไม่ได้ขี้เมาจริงๆนะ
มีครั้งก่อนนายถือสิ่งนี้มาวางบนโต๊ะตอนกินอาหาร เห็นทีแรกก็งงว่า นายเอาน้ำยาปรับผ้านุ่มมาทำไม
แท้จริงแล้วมันก็คือโชวจูแบบพกพา 555
นายเล่าให้ฟังว่า โซจูเนี่ย มีทั้งของญี่ปุ่น และเกาหลี พอดีเราไม่ค่อยได้ติดซีรีย์เกาหลี เลยไม่รู้
พอมานี่ก็เลยได้ลองอะไรหลายๆอย่างมากขึ้น อย่างเช่น ค็อกเทลหลากหลายมาก จำชื่อไม่เคยได้ สาเกร้อน สาเกเย็น เหล้าบ๊วย โชวจู ไวน์แดง ไวน์ขาว สปาร์คคลิ่งไวน์หลายรส เบียร์เองก็ได้ลองหลายยี่ห้อ อย่างอาซาฮี คิริน แต่ให้มานึกตอนนี้นะว่า แต่ละยี่ห้อเป็นยังไง ตอบไม่ได้ เพราะดื่มได้มั่วมาก แต่ละครั้งนี่ต้องมีได้ดื่มอย่างน้อย 2 ชนิด จะเมาก็เพราะแบบนี้แหล่ะ
เคยมีอยู่ครั้งนึงที่เราดื่มกันหลากหลายมาก เช้าอีกวันก็ต้องมาทำงาน น้องอีกคนบอกท้องเสีย มาทำงานไม่ไหว ส่วนเราอาการเมาค้างสาหัสอยู่ เช้ามาแต่เช้ามานั่งอึน และวิ่งไปอาเจียนอยู่ 2 รอบ ปวดหัวหนักมาก นายกับยามาโมโตะซังเลยออกไปหาลูกค้ากันแค่ 2 คน ทิ้งเราเฝ้าออฟฟิศ แถมบอกว่า ถ้าไม่ไหวก็กลับไปนอนเถอะ
ด้วยสปิริตอันแรงกล้า ความรับผิดชอบต้องมา เลยอยู่เฝ้าออฟฟิศจนถึงบ่าย 3 แล้วบอกนายขออนุญาต หอบสังขารกลับบ้านก่อน ไม่ไหวจริงๆ 555
หลังจากนั้นเวลาดื่มก็จะเพลาๆลงเพราะไม่อยากให้เสียงาน และไม่อยากมานั่งปวดหัวจะแตกอีกแล้ว ส่วนน้องอีกคนที่ลาไปนี่โดนแซวตลอดเลย ทุกครั้งที่มีไปกินข้าวเย็นกันเลยว่า พรุ่งนี้ห้ามท้องเสียนะ เอิ๊กๆ
และสำหรับคนญี่ปุ่นเท่าที่สัมผัสมา ความรับผิดชอบต่องานสูงมาก อย่างนายเรานี่ หลังจากกินข้าวเย็นกันเสร็จ เค้าก็มีไปต่อกับอิชิโนะซังและลูกค้าที่ซี้กัน ส่วนเรากลับบ้าน เช้ามาแกก็มานอนหลับฟุบคาโต๊ะ พอเห็นเรามาก็ลุกขึ้นนั่งกึ่งนอน พร้อมตาแดงๆ เราเลยรู้แล้วว่า แกคงจะเมาและแฮงค์หนักมากแน่ๆ เลยไปชงกาแฟดำมาให้ แกซดพรวดเดียว ค่อยตาสว่างขึ้นมาหน่อย ทำงานไปได้ไม่นาน สักพักทุกคนก็เริ่มมากัน ต่างทำงานกันไป นายก็อาศัยงีบเป็นช่วงๆ แล้วพอ 11 โมงก็ต้องขับรถไปหาลูกค้าต่อ
นี่คือแบบเป็นตัวอย่างที่เรารู้สึกว่า นายเรานี่สุดๆจริงๆ ไม่เคยได้ทำงานกับคนญี่ปุ่นจริงจังมาก่อน ก็เลยพึ่งมารู้ เคยอ่านในข่าวที่ว่า Salaryman ชาวญี่ปุ่นที่ขยันทำงานมาเช้า กลับดึก แถมยังต้องไปสังสรรค์กับลูกค้าต่อ และเมาหลับบนรถไฟฟ้าเยอะมาก ยังเอารูปพวกนี้และ แกล้งแซวนายประจำเลยว่าอย่าไปหลับบนรถไฟฟ้านะ อายเค้า อิอิ
ถือว่าเราโชคดีที่ได้เข้ามาอยู่กับบริษัทญี่ปุ่นแบบนี้ ได้ประสบการณ์อะไรใหม่ๆเยอะมากเลย
ขอบคุณค่ะ
Create Date : 27 พฤษภาคม 2559 |
|
9 comments |
Last Update : 30 พฤษภาคม 2559 13:07:08 น. |
Counter : 1416 Pageviews. |
|
|
|