กุมภาพันธ์ 2559

 
1
2
3
4
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
 
 
All Blog
๋ตะลุย Japan เคยไปซะที่ไหน ลองดูซิ 5 (ตลอนทัวร์ กินไข่ดำ ดูภูเขาไฟ ณ ฮาโกเน่)
ตอนที่ 3 (ดูซากุระใกล้ๆ วัดเซ็นโซจิ แต่คนไทยเรียกอาซากุสะ)
ตอนที่ 4 (ไปนอนเล่นที่ฮาโกเน่กัน)
ตอนที่ 6 (เที่ยวมิโตะ ก่อนบินกลับบ้านนิดนึง)

4 ตอนผ่านไป เขียนช้าจริงเรา
มาต่อตอนที่ 5 กันอย่างว่องไวดีกว่าค่ะ...
โชว์รูปแป๊บ



สวยหล่ะซิ อิอิ
จากความเดิมตอนที่แล้ว อะไรนะ...อ้อ
นอนหนาวมาก ณ เรียวกังแห่งหนึ่ง ใจกลาง ฮาโกเน่
เริ่มจากเช้าวันนั้น พูดเลยว่า ไม่ตื่นค่ะ 555
กว่าจะได้ออกโน้นนนนเกือบ 10 โมงค่ะ หนาวมาก
แต่ตอนเช้าฝนไม่ลงแล้ว เลยถ่ายรูปต่อได้
ถนนสายนี้ที่พักเยอะนะคะ ดูใหญ่ด้วย
ที่พักแถบนี่น่าจะเป็นแนวเรียวกังซะส่วนใหญ่





เราก็เดินออกมาจากที่พักค่ะ เช็คเอ้าแต่เช้าเลย
กลับไปยังจุดที่เราลงจากรถไฟ
นั่งรถไฟย้อนกลับไป 3 สถานี ไปลงที่
สถานี Gora
คือจะเอากระเป๋าและสมบัติทั้งหมดไปโยนใส่ในล็อกเกอร์ค่ะ
จะได้ไม่ต้องแบกไง





และแล้วรถไฟก็มาแล้วววววว



ด้วยความที่เรามีบัตร Hakone Free Pass
มันเลยทำให้เราสามารถนั่งจากไหนไปไหนกี่รอบก็ได้
นั่งไปเถอะ เพราะจ่ายไปหมดละ 5555 ดี๊ดี



พอมาถึงสถานีโกระ เราก็ทำการเก็บกระเป๋าลง
ล็อกเกอร์
หยอดไปเลย 300 เยน งกนิดนึง ไขๆ เก็บๆ เสร็จจบ
และก็เดินเล่นซิค่ะ อิอิ
ตรงนี้จะเป็นสถานีเชื่อมต่อระหว่าง รถไฟ กับรถราง แล้วก็มีรถเมลล์วิ่งด้วยนะ
ทำให้ตรงนี้มีร้านขายของฝากตั่งกันเรียงราย
และเราก็เดินผ่านร้านนี้ แวะซิค่ะ



ขายอะไรนะ



ดังโงะ บอกเลยว่า ไม่เคยกินค่ะ
แบบว่าหลายอย่างจุง โรยโน้นนี่นั้น เห็นแล้วนึกถึงลูกชิ้นอะ
คนแบบว่าซื้อละนั่งกินกันในร้านเลยค่ะ
กินกับน้ำชาร้อน ๆ ด้วย



ก็จัดซิค่ะ จะได้รู้ว่าอร่อยอ่ะป่าว
อิอิ อันนี้สั่งแบบออริจินอล รึป่าว?? ไม่รู้
โรยงา น้ำตาล ปะ ลองคิดก็แบบน่าจะหวานๆ



กัดคำแรก รู้เรื่องเลย 5555555
ไม่เป็นไปอย่างที่คิดเลยซะนิด
ถ้าคุณเคยกิน กะลอจี้ นี่แหล่ะ ใช่เลย ชัดเจน
แป้งเหนียวๆ โรยงา น้ำตาล เป๊ะเลย แถวบ้านขายไม่เกิน 20 บาท
แต่อันนี้ 380 เยนจ้าาา



แล้วก็จัดนี่เลย ชอคกาแลต อันนี้เอออออออ 216 เยน
ชอบของที่ญี่ปุ่นเค้าผลิตออกมาว่างจำหน่ายนะคะ
เพราะเค้าจะใส่ใจในตัวแพคเกจจิ้ง ที่มองแล้วแบบ คือดีจัง
แค่มองไป อร่อยรึป่าวก็ไม่รู้ แต่แพคเกจสวย อยากได้อะ



แล้วในร้านก็ยังมีนี่เลยยยยย "ไข่ดำ"
ไข่ดำ หรือ
ไข่ดำกำมะถัน ที่เมือง Owakudani นี้ เค้าบอกเอาไว้ว่า
ถ้ากินไข่ดำ 1 ฟอง เราจะมีอายุเพิ่มขึ้น 7 ปี
มันจึงกลายเป็นของฝากประจำเมืองไปโดยปริยาย


และชอบญี่ปุ่นอีกอน่างตรงที่ว่า
เค้าจะต้องมีของฝากที่มีสัญลักษณ์ประจำที่นั้นๆ ขายอยู่ทตลอดๆ ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตาม
และที่นี่ก็ยังจะมีทั้ง รีแลคคุมะเกาะไข่ดำ คิดตี้ก็ฟูจิก็มี ดีๆๆๆๆๆ

เมื่อทานแล้ว เราก็ไปกันต่อดีกว่าค่ะ
คราวนี้เราก็ต้องนั่งรถไฟที่เรานั่งมานั้นแหล่ะค่ะ
เพื่อไปนั่งกระเช้าต่อ



ก็นั่งต่อไปอีก 5 สถานีค่ะ ไปลงที่สถานี  Sounzan




คนค่ะคน เยอะไปม้ายยยยยยยยยย



พอมาถึง เราก็ต้องมาต่อคิว เพื่อขึ้นกระเช้ากันต่อค่ะ



มาแล้วกระเช้าของเรา ไปกันๆๆ



อุ๊ตะ!!! ฝนตกอีกแล้ว ตกทำไมกันเนี้ยยยยยยย
มันหนาวมากนะตัวเธอออออออออ



พอมาถึง จุดจอดจุดแรก สถานี Owakudani เราก็จะถึงอาคารนี้กันค่ะ
ตอนแรกแบบว่า แทบอยากจะพุ่งออกมาดูวิวอย่างว่องไว
แต่พอออกมาปุ๊บ แม่เจ้า........หนาวไปม้ายยยยยยยยย
ต้องแบบวิ่งออกมา พอไม่ไหวแล้ว ก็วิ่งกลับเข้าไป
เพราะข้างในอาคารเค้าเปิด
ฮีตเตอร์นั้นเอง



แต่ดีนะที่พอมาถึงฝนก็เบาลงแล้ว จนเกือบหยุดสนิท นี่ไงค่ะ โอวาคุดานิ
เมืองที่เคยมีการระเบิดของภูเขาไฟ จนทำให้เกิดกำมะถันเต็มไปหมดเลย



พอมองไปทาซ้าย แบบว่า อะไรก็ไม่รู้ ถ่ายเก็บไว้ก่อน



และพอมองไปทางขวา
ตรงนี้เป็นทางที่จะเดินขึ้นไปบนเขาค่ะ



รถเพียบเลย



เค้าขึ้นไปกินไข่ดำตรงบ่อน้ำแร่กัน
ขึ้นกันไปซะเยอะเลย
แต่เราไม่ไปนะคะ บอกเลย หนาวจะตายอยู่แว้ววว ไม่ไหวๆๆๆ
กลับเข้าไปข้างในกันดีกว่า หุหุ



ด้านในก็เช่นเคยค่ะ ของกิน และของฝาก 555
กว่าจะมาถึงก็เกือบเที่ยงเข้าไปละ
หิวมากกกกกกกกกกจริงๆ หาอะไรกินก่อน



มองไปก็ไข่ดำอีกแว้ว
กินซะหน่อย จะได้รู้ไว้ว่า เคยมากินไข่ดำที่นี่แล้วนะ 555



มีขายชาและขนมปังไส้กรอกด้วยนะคะ


สรุป กินหมดค่ะ หิวมาก



และนี่คือสิ่งที่เราเจอมัน สตอเบอรี่
แบบว่า ลูกใหญ่ สวยงาม น่ากินจุง กล่องละ 650 เยน เอามากินซะดีๆ หุหุ
เมื่อเราทำการช้อปและกินจนเริ่มหายหิวแล้ว
เราก็นั่งกระเช้าไปกันต่อเลยค่ะ



ดีนะ ฝนหยุดตกแล้ว ค่อยมองเห็นโลกภายนอกหน่อย
แล้วเราก็มาถึง ท่าเรือโทเง็นไดถึงก็ประมาณเที่ยงครึ่งค่ะ



พอเรามาถึงแล้ว เราก็ต้องมาดูเวลาเรือออกค่ะ
โดยท่าเรือจะมีอยู่ 2 ท่านะคะ



ภาพจาพ //www.hakone-kankosen.co.jp

จากภาพนะคะ เราลงจากกระเช้าลอยฟ้า อยู่ที่ท่าเรือ โทเง็นได
และเราจะทำการนั่งเรือเพอร์เซอร์ ลำสีเขียวๆ ผ่านศาลเจ้าฮาโกเน่จินจะ
ไปลงที่ท่าเรือโมโตะฮาโกเน่นะคะ



โดยในส่วนของเรือนั้นมีหลายโซนด้วยกัน
ถ้าเรามีตั๋วฮาโกเน่ฟรีพาสอยู่แล้ว ก็ขึ้นได้เลยค่ะ
แต่!!! ถ้าเราอยากขึ้นไปด้านบนสุดของเรือ หรือโซนวีไอพี 555
จะทำให้คุณสามารถชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของที่นี่ได้โดยง่าย
แค่เพียงอัพเกรดตั๋วค่ะ วันเวย์ 400 เยน จัดไปค่ะ หุหุ



ได้มาแว้วววว อิอิ
เมื่อได้มาแล้วก็ต้องเดินลงไปชั้นล่างค่ะ เพื่อไปยังท่าเรือ



อุ้ยๆๆๆๆ สวยจังๆๆๆ



เดินผ่านประตูออกไปกันเลยยยยย



นี่ไง เรือของเรามาแล้ววววว
ขึ้นเรือกันเลยดีกว่า



มาถึงก็เจอกับคุณลุงที่คอยยืนต้อนรับเราอยู่
ชุดแดงได้ใจมาก 555



ตรงนี้ก็จะเป็นที่นั่งแหล่ะค่ะ นั่งชมวิวได้เพลินๆ



มีขนมขายด้วยนะ



นี่ไงห้องของเรา



เมื่อขึ้นมาด้านบนก็มองไปรอบซิค่ะ
อู้วววววว คนเยอะจัง



เมื่อมองมาอีกฝั่งก็ต้อง ว๊าวววววววววว
แต่อากาศบนนี้มันหนาวมาเลยนะ บรึ๊ยยยยยยยย



และแล้วเรือก็ออกจากฝั่ง







อันนี่โรงแรมโอดะคิวยามะค่ะ



นี่ไงๆๆ ศาลเจ้าฮาโกเน่จินจะ



สวยจัง



เมื่อมาถึงฝั่ง ก็ลงจากเรือซิค่ะ
และเราก็จะเจอกับ เสาโทริอิ แบบว่าใหญ่มาก

มาถึงแถบนี้ก็บ่าย ๆ ไปแล้วค่ะ
ก็เลยเดินเล่นในเมืองนิดหน่อย



นี่คือ รถขายของสดค่ะ
มองเข้าไปจะเจอกับ เนื้อสด ปลาสด
ขายกันริมถนนแบบนี่เลยทีเดียว



อันนี้ร้านอะไรก็ไม่รู้ค่ะ อ่านไม่ออกนะ 555



รถเล็กน่ารักจัง



อันนี้เอิ่มมม ที่สั่นกระดิ่งตามวัดรึศาลเจ้านี่แหล่ะค่ะ



ส่วนนี่ เรียกอะไรนะ หลุมศพ ช่ายๆๆๆ
คือแบบว่าเคยเห็นแต่ในซีรีย์อะไรอย่างนี้ ไม่เคยเห็นของจริงไง
เลยถ่ายไว้เป็นวิทยาทานแก่ตัวเรา



นี่เหมือนจะเป็นร้านที่ขายพวกโปสการ์ดนะคะ
แบบว่ามีตู้ไปรษณีย์สีแดงๆ ด้วย





และด้วยความหิว ดราจึงได้ทำการ แวะหาของกินกันอีกแล้วจ้าาาา
พอทานเสร็จเรียบร้อยเราก็ต้องเดินทางกันต่อค่ะ
การเดินทางต่อไปของเราคือ รถเมล์ เรียกให้สวยงามคือ รถบัสนั้นเอง



นี่คือตารางเวลาและสายรถค่ะ



และนี่คือราคาค่ะ
เราต้องกลับไปลงที่สถานีโกระ ที่เมื่อเช้าเราได้ฝากกระป๋าเอาไว้



นี่คือสายรถบัสค่ะ
เราต้องนั่งจาก Motohakone-ko ไปลงที่ Gora
ถ้าให้ง่ายคือต้องนั่งสาย Y สีฟ้าต่อเดียวถึงเลยค่ะ
แต่ ณ จุดนี้ รถไม่ได้มาตลอดเวลาค่ะ
เมื่อรถสายดีแดงมาก่อน เราจึงโดนขึ้นไปเลยค่ะ
พร้อมให้พนักงานบนดูบัตรฮาโกเน่ฟรีพาสด้วย
แล้วก็ไปลงที่ Yunessun-mae ค่ะ
ชอบรถที่นี่มากมายๆๆเลยค่ะ
แบบว่าบอกทุกป้ายเลยค่ะว่า ป้ายถัดไปคือที่ไหน อีกกี่นาทีไปถึง
เหมือนเรานั่งอยู่ใน BTS หรือ MRT เลย แต่ดีกว่า 555
พอลงปุ๊บเราก็รอรถสายไหนก็ได้ค่ะ เพราะเข้า Gora หมดเลย



นี่คือรถบัสที่เรานั่งมา
และนี่คือความเลิศเลอของญี่ปุ่นค่ะ
ณ ตรงนั้น คือรถจอด และ รถต้องยูเทิร์น กลับไปสู่ทางที่มา
แต่การกลับรถของเค้าคือ พื้นหมุน
แม่เจ้าๆๆๆๆๆๆๆๆ หนูตกใจแรง
พื้นตรงวงกลมที่รถอยู่ตรงนั้น มันหมุนได้



แล้วรถก็ค่อยๆหมุนอย่างช้า
เมื่อหมุนเสร็จเรียบร้อย รถก็ขับจากเราไป
โอ้วววว ดีงามมากมาย ชอบๆๆๆ



อุ้ย...รถไฟมา รอแป๊บนึงนะ



และเราก็เดินตรงไปสู่สถานีรถรางกันค่ะ
เพื่อกลับไปยังสถานี Hakone Yumoto



รอรถรางแป๊บนึงนะ



ซากุระเต็มเลย สวยดีเนอะ



จะ 4 โมงเยน แล้วนะเออ



มาแล้วจ้าาาา



มาถึงก็ทำการจับจองที่นั่งกัน



แต่เมื่อรถรางออกปุ๊บ เราก็ยืนจับจองท้ายโบกี้กันเลยดีกว่า
เพื่อการถ่ายภาพที่สนุกสนานของเรา
แต่ว่าแต่ ตรงนี้รางมันแปลกๆเนอะ
และแล้วรถรางก็จอดนิ่งสนิท
คือเรามาจากรางล่าง จะไปรางบน
รึจากรางบนจะไปรางล่างหว่า



นั้นไงรถรางอีกคันมาแล้ววว



และแล้วเจ้าหน้าที่ก็เดินมาจากหัวฝั่งโน้นนน มายังฝั่งที่เรายืนอยู่
เพื่อเดินรถต่อไป



พอสับรางอีก พนักงานขับรถก็จากเราไป ซึ่งทำให้เราได้ภาพที่สวยงาม



มีการรอดอุโมงด้วย
และแล้ว เราก็มาถึงแล้ว
และเราก็ทำการรอรถโรแมนคาเพื่อกลับไปยังโตเกียวค่ะ



บะบาย ไปละนะ ฮาโกเน่
บอกเลยว่า เป็นการมาที่ประทับใจอย่างแรง
ชอบอ่ะ เมืองอะไรก็ไม่รู้ มีของเล่นเยอะจัง 555

และเมื่อเรามาถึงสถานีชินจูกุประมาณ 6 โมงครึ่งค่ะ
แต่คืนนี้ เราต้องเดินทางต่อไปยังเมืองอิบาระกิค่ะ
การเดินทางก็ต้องนั่งจาก ชินจูกุ ไปยัง อุเอโนะค่ะ



จัดไป 320 เยนจ้า



และเมื่อมาถึงแล้ว เราก็ต้องซื้อตั๋วอีก 1 ต่อ เพื่อนั่ง JR Yamanote Line
ไปลงที่เมือง Mito
นั่งเขียวอ่อน ต่อเขียวเข้ม เปลี่ยนไปอีกสาย ต่อไปลายน้ำเงิน เกือบสุดสายโน้น



2270 เยนค่ะ
ตอนนี้ก็ 2 ทุ่มครึ่งแล้ว ระยะเวลาในการเดินทางก็ 2 ชั่วโมงค่ะ



ขวดเล็ก ดี๊ดี อยากกินค่ะ กดตู้มา 130 เยนค่ะ



ญี่ปุ่นหนาวมาก พูดเลย



และแล้วเราก็มาถึงแล้วค่ะ 4 ทุ่มครึ่ง
เมื่อออกมาจาก JR แล้ว สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือ
ทำไมมันหนาวอย่างนี้เนี้ยยยยยยยย ย๊ากกกกกกกก



และตรงหน้า JR แม้จะหนาวขนาดนี้ ก็ยังมีคนมายืนร้องเพลง
มันใช่เวลาไหมเนี้ย



และมีคนมาเล่นสเก็ตบอร์ด เวลานี้และหนาวแบบนี้เนี้ยนะ ???





ซากุระสวยเนอะ



แวะมินิมาร์ทนิดนึง และเราก็เจอกับ โค้กเขียว ไม่เคยเห็น ถ่ายซะ



น้ำแข็งใส่แก้วด้วย แปลกจัง...

และคืนนี้เราจองห้องพักไว้ที่
สไมล์ โฮเต็ล มิโตะ ผ่านทางอโกด้าค่ะ
รีวิวห้องพักนิดนึง





ห้องพักที่นี่ 2 คน ห้องปลอดบุหรี่ ราคา 1300 บาทนะคะ
เราว่าไม่แพงนะ
และดีงามตรงที่ มีฮีตเตอร์ด้วย รักเลย เพราะว่าหนาวมากกกกก



ตอนแวะมาร์ท ไปสอยน้ำแอปเปิ้ลมา แบบว่า อร่อยอ่ะ

ค่ำคืนนี้ ขอจบการเล่าเรื่องราวตลอดทั้งวันนี้ละกันนะคะ
สรุป ใครมีโอกาสได้ไปญี่ปุ่น ขอแนะนำค่ะ
"ฮาโกเน่" ดีงามมากมาย เราช๊อบชอบ
มันแบบ ธรรมชาติมาก กิจกรรมมีหลายอย่าง วิวสวย
โอ๊ะ อยากไปอีกอะ
 ไว้มาต่อในวันถัดไปนะคะ สำหรับวันนี้ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ บะบายยย




Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2559
Last Update : 17 มีนาคม 2559 22:46:05 น.
Counter : 2765 Pageviews.

2 comments
  
ดูภาพ อ่านคำบรรยาย ช้า ๆ ทำให้นึกอยากไปเที่ยวแบบนี้บ้าง

ถ่ายภาพสวย อยากจะโหวตให้แต่หมดกระเป๋า ไม่เป็นไรไว้ค่อย
มาดูบล๊อกใหม่ครับ
โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:12:03:27 น.
  
ขอบคุณมากเลยคร่า ^^ @ไวน์กับสายน้ำ
โดย: Yaichom16 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:12:18:34 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Yaichom16
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]



ใน Blog นี้คงจะมีเรื่องเที่ยวซะส่วนใหญ่แหล่ะคะ ^^