Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2552
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
10 สิงหาคม 2552
 
All Blogs
 

ฟุตบอล โอลิมปิก เกมส์ 2008 ที่กรุงปักกิ่ง (บทส่งท้าย)

ฟุตบอลหญิงรอบชิงชนะเลิศ บราซิล 0 สหรัฐอเมริกา 1

พอกรรมการเป่านกหวีดหมดเวลาการแข่งขัน ผมยังงงอยู่เลยว่าแข้งสาวบราซิลแพ้สหรัฐได้ยังไง คิดไปคิดมาก็รู้ว่าการครองบอลที่มากกว่า บุกก็มากกว่า ขาดอย่างเดียวคือยิงประไม่ได้ ก็ไม่มีความหมาย ยิ่งเห้นนักเตะสาวร้องไห้กัน ผมก็ยิ่งสงสาร ทำไงได้กีฬามันก็ต้องมีแพ้มีชนะเป็นของธรรมดา อดทนไว้รอโอลิมปิกที่ลอนดอนอีก4ปีข้างหน้าก็ได้ แล้วเจอกันชิงแชมป์โลกปีหน้า





วันพฤหัสบดี 21 สิงหาคม 2551
สนาม : เวิร์กเกอร์ สเตเดียม กรุงปักกิ่ง
ผู้ชม : 70000
ผู้ตัดสิน : M Vasquez (Uruguay).
ผู้ทำประตู :
บราซิล :
สหรัฐ : คาร์ลี่ ลอยด์ 96'

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
บราซิล : 12 -บาร์บาร่า, 2-ซิโมเน่, 4- ทาเนีย (กัปตันทีม), 5-เรนาตา คอสตา, 16-เอรีก้า, 6 -มายคอน, 7-ดานิเอล่า, 8-ฟอร์มีกา, 9-เอสเตอร์, 10-มาร์ตา, 11-คริสติอาเน่

สหรัฐ : 1-โฮป โซโล, 2 -ฮีทเธอร์ มิตต์ศ, 3-คริสตี้ รามโพเน (กัปตันทีม), 15-เคท มาร์คกราฟ, 17-ลอรี่ คาลุปนี่, 5-ลินด์เซย์ ทาร์พลีย์, 7 -แชนนอน บ็อกซ์ 9-ฮีทเธอร์ โอเรลลี่, 11-คาร์ลี่ ลอยด์, 16-แองเจล่า ฮูคลีส, 8-เอมี่ โรดริเกซ (12-ลอเรน เชนี่ย์ น. 71)


ปักกิ่ง 2008แชมป์ : สหรัฐอเมริกา
รองแชมป์ : บราซิล
อันดับสาม : เยอรมัน
อันดับสี่ : ญี่ปุ่น
ดาวซัลโวสูงสุด : คริสติอาเน่ (บราซิล) 5 ประตู


เอเธนส์ 2004
แชมป์ : สหรัฐอเมริกา
รองแชมป์ : บราซิล
อันดับสาม : เยอรมัน
อันดับสี่ : สวีเดน
ดาวซัลโวสูงสุด : คริสติอาเน่ (บราซิล), เบียร์กิต ปริ๊นซ์ (เยอรมัน)


ซิดนี่ย์ 2000
แชมป์ : นอร์เวย์
รองแชมป์ : สหรัฐอเมริกา
อันดับสาม : เยอรมัน
อันดับสี่ : บราซิล
ดาวซัลโวสูงสุด : ซุน เหวิน (สาธารณรัฐประชาชนจีน)


แอตแลนต้า 1996
แชมป์ : สหรัฐอเมริกา
รองแชมป์ : สาธารณรัฐประชาชนจีน
อันดับสาม : นอร์เวย์
อันดับสี่ : บราซิล
ดาวซัลโวสูงสุด : แอนน์ คริสตัน อาโรเนส (นอร์เวย์), ลินดา เมดาเลน (นอร์เวย์), เปรตินญ่า (บราซิล)



ทีมแข้งสาวสหรัฐฯ ผงาดคว้าเหรียญทองฟุตบอลหญิงโอลิมปิก หลังต้องดวลเดือดกับคู่ปรับอย่าง "แซมบ้า" ทีมชาติบราซิล ในเวลาทำอะไรกันไม่ได้เสมอกันอยู่ 0-0 ช่วงต่อเวลา คาร์ลี่ ลอยด์ ก็กลายเป็นฮีโร่ซัดประตูให้สหรัฐฯเอาชนะบราซิลไปได้ ส่วนอันดับสามเป็นของเยอรมัน ที่เอาชนะญี่ปุ่นไป 2-0

"สาวแซมบ้า" บราซิล รองแชมป์โลก 2007 และรองแชมป์โอลิมปิก 2004 ลงแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศเจอกับ "สาวแยงกี้ส์" สหรัฐอเมริกัน แชมป์โอลิมปิกสองสมัยปี 1996 และ 2004 และ แชมป์โลกสองสมัยปี 1991 และ 1999 เป็นการรีแม็ตช์รอบชิงเหรียญทองเมื่อสี่ปีที่แล้วโดยที่หลายคนมองว่าบราซิลเหนือกว่าเพราะสหรัฐเปลี่ยนผู้เล่นรุ่นใหม่เข้ามาหลายคนส่วนบราซิลเกือบจะเป็นทีมชุดเดิมที่แพ้ต่อสหรัฐในการต่อเวลาพิเศษเมื่อสี่ปีที่แล้ว

เกมในครึ่งแรกเล่นกันอย่างสูสีมีโอกาสยิงไม่กี่ครั้งเท่านั้นเองรวมทั้งจังหวะดีที่สุดของบราซิลช่วงนาทีที่ 42 จากการกระชากบอลหลุดขึ้นไปทางซ้ายใกล้เขตโทษก่อนจะยิงไปทางเสาไกลแต่โดน คริสตี้ รามโพเน กองหลังกัปตันทีมสหรัฐเคลียร์ออกไปได้ และก่อนจบครึ่งหลังแค่สองนาที แองเจล่า ฮูคลีส ได้โอกาสยิงไกลระยะ 22 หลาแต่ออกหลังไปก่อนจะจบลงครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0 ครึ่งหลังทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนตัว และยังเล่นเหมือนเดิมโดยช่วงนาทีที่ 53 บราซิลได้เปิดลูกเตะมุมทางซ้าย มายคอน เล่นสั้นกับมาร์ตา ก่อนจะไหลให้มาร์ตา กระชากหนี ฮีทเธอร์ มิตต์สแบ็คขวาสาวสวยของสหรัฐเรียบเส้นหลังเข้าไปในเขตโทษก่อนจะเปิดด้วยเท้าซ้ายไปหน้าประตูแต่โดน โฮป โซโล ผู้รักษาประตูสหรัฐคว้าเอาไว้ได้

เกมโดยรวมช่วง 15 นาทีแรกของครึ่งหลังนี้ทางบราซิล และนาทีที่ 63 มิตต์ส กองกลางสหรัฐขึ้นโหม่งแย่งบอลกระแทกด้านหลังของ ดานิเอล่าล้มลงหนาอรกอบเขตโทษระยะ 19 หลา แต่ ดานิเอล่า ยิงไม่ดีโดน คาร์ลี่ ลอยด์ เข้าไปบล็อคได้ และถัดมาซิโมเน่ กองหลังบราซิลยิงไกลเกือบกลางสนามแต่โด่งข้ามคานออกไป

ต่อมานาทีที่ 71 สหรัฐเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนแรกส่ง ลอเรน เชนีย์ ลงไปแทน เอมี่ โรดริเกซ แต่อีกสองนาทีถัดมาบราซิลเกือบได้ประตูออกนำเมื่อ มาร์ตา ได้บอลเข้าไปในเขตโทษทางซ้ายแล้วยิงด้วยเท้าซ้ายระยะ 8 หลาแต่โดนโซโล ใช้แขนปัดออกไปหน้าประตู และเคท มาร์คกราฟ กองหลังเพื่อนร่วมทีมเตะสกัดออกไปได้

ช่วงนาทีที่ 89 สหรัฐมีโอกาสจะได้ประตูแห่งชัยชนะเมื่อ ฮีทเธอร์ โอเรลลี่ เดี่ยวเข้าไปเผชิญหน้ากับ บาร์บาร่า ผู้รักษาประตูบราซิลแต่เป็นการล้ำหน้าเสียก่อน และช่วงเวลาที่เหลือไม่สามารถอะไรกันได้จบลงใน 90 นาทีเสมอกันอยู่ 0-0 ต้องเล่นต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาทีเพื่อหาทีมแพ้ชนะและหากยังเสมอกันอยู่จะตัดสินด้วยการเตะลูกโทษตัดสินต่อไป

ช่วงการเล่นต่อเวลาพิเศษทางบราซิลก็ยังเร่งเกมรุกเข้าใส่สหรัฐโดยการขึ้นบอลทางแนวริมเส้นทางสองข้างเนื่องจากสหรัฐตัดเกมในแดนกลางเอาไว้ได้ทั้งหมด และนาทีที่ 93 เอมี่ โรดริเกซ ได้โอกาสกระชากบอลไปทางซ้ายเข้าไปใกล้เขตโทษก่อนจะตัดสินใจยิงไกลแต่โดน บาร์บาร่า รับเอาไว้ได้

และนาทีที่ 96 แฟนบอลสหรัฐอเมริกได้เฮเมื่อ คาร์ลี่ ลอยด์ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษแล้วแตะเข้าซ้ายก่อนจะยิงด้วยเท้าซ้ายไปทางเสาไกล บาร์บาร่าพุ่งปัดแต่ไม่ทันบอลเข้าประตูไปให้สหรัฐนำ 1-0

ต่อมานาทีที่ 101 สหรัฐเปลี่ยนเอา นาตาชา คาอี กองหน้าสาวหน่งเดียวจากฮาวายลงไปแทน ฮีทเธอร์ โอเรลลี่ เพื่อนำกองหน้าที่ยังสดและแกร่งกว่าไปกดดันแนวรับของบราซิล และอีกสองนาทีถัดมาบราซิลส่ง โรซาน่า ลงไปแทน ซิโมเน่ และจบลงในช่วงครึ่งแรกของการต่อเวลาพิเศษสหรัฐนำอยู่ 1-0

ช่วงครึ่งหลังบราซิลบุกหนัโจมตีแนวรับของสหรัฐที่ยังไม่พลาด และอาศัยการโต้กลับ และนาทีที่ 113 นาตาชา คาอี ทำฟาวล์ มายคอน จึงโดนใบเหลืองเตือน และ มาร์ตา เปิดโค้งหวังจะยิงแต่ออกหลังไป

และนาทีที่ 116 ลอยด์ ได้โอกาสกระชากบอลจากหน้ากรอบเขตโทษเข้าไปในเขตโทษ และยิงด้วยเท้าซ้ายไปเสาไกลแต่ไปชนเสาอย่างน่าเสียดายต่อมานาทีสุดท้ายสหรัฐเปลี่ยนเอา สเตฟานี ค็อกซ์ ลงไปแทน เอมี่ โรดริเกซ และบราซิลมีโอกาสตีเสมอเมื่อเปิดลูกเตะมุมจากทางขวาแต่ ดานิเอล่ายิงไม่ตรงกรอบ และช่วงเวลาที่เหลือบราซิลพยายามแต่ไม่สามารถทำได้จบลงสหรัฐชนะไป 1-0 เป็นการคว้าแชมป์โอลิมปิกสมัยที่สามในสี่ครั้งที่แข่งขัน ส่วนบราซิลได้แค่รองแชมป์สมัยที่สองเท่ากับว่าฟุตบอลบราซิลยังไม่สามารถคว้าเหรียญทองโอลิมปิกได้เลยทั้งชาย และหญิง

















































--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ฟุตบอลชาย ชิงเหรียญทองแดง บราซิล 3 เบลเยียม 0




วันศุกร์ 22 สิงหาคม 2551
สนาม : Shanghai Stadium, Shanghai
ผู้ชม : 50705
ผู้ตัดสิน :Thomas Einwaller (Austria)
ใบเหลือง : Ronaldinho (26), João Silva (72), Marcelo Silva Junior (86), Thiago Silva (90)
ผู้ทำประตู :
บราซิล : ดีเอโก้ 28', โจ 45' 91'
เบลเยียม :
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
บราซิล: เรนาน,ราฟินญ่า,อเล็กซ์ ซิลวา,เฮอร์นานเดส,เบรโน่(ติอาโก้ ซิลวา น.71),มาร์เซโล่,อันแดร์สัน,รามิเรซ,โรนัลดินโญ่,ดีเอโก้,โจ

เบลเยียม: โลแกน เบลลี่ย์,เซปป์ เดอ รูเวอร์,โธมัส เฟอร์แมเล่น,เซบาสเตียน โปกอญอลี่,ทอม เดอ มูล,ฟาริส ฮารูน,เควอน มิรัลเลส(อองตวน ฟานเดน บอร์เร่ น.59),แยน เฟอร์ตองเก่น,มาร์เท่น มาร์เท่นส์(แลนดรี้ มูเลโม น.59),เฌโรน ซิเมอายส์,มูสซ่า เดมเบเล่


"แซมบ้า" บราซิล กู้ศักดิ์ศรีคืนมาได้บ้างคว้าเหรียญทองเป็นรางวัลปลอบใจหลังเปิดฉากยำ "ปีศาจแดงแห่งยุโรป" เบลเยียม 3-0 โจ หอกป้ายแดงแห่งแมนเชสเตอร์ ซิตี้ รับบทพระเอกเหมาคนเดียว 2 ประตู

เปิดฉากครึ่งแรก บราซิล บุกเข้าใส่ตามฟอร์มแค่นาที 5 โรนัลดินโญ่ ทำฮือฮาจากจังหวะ อันแดร์สัน ผ่านมาให้ โจ โขกชงต่อ ดินโญ่ พยายามจักรยานอากาศแต่ทว่าเป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน ขุนพลแซมบ้าเดินหน้าต่ออีก 4 นาทีถัดมา โรนัลดินโญ่ จ่ายให้ โจ ได้ยิงแต่ไม่ผ่านมือนายทวารปีศาจแดงแห่งยุโรป เกมดำเนินมาถึงนาที 28 ความพยายามของ บราซิล ประสบความสำเร็จได้ประตูขึ้นนำ 1-0 รามิเรซ จ่ายไปทางขวาให้ ราฟินญ่า แบ็กจอมบุกตบเข้ากลางให้ ดีเอโก้ ยิงเข้าไป

พอเสียประตู เบลเยียม ตั้งใจเปิดเกมรุกมากยิ่งขึ้นและได้เสียวเหมือนกันในนาที 35 มาร์เท่น มาร์เท่นส์ กระชากบอลทางซ้ายเบียดเอาชนะ ราฟินญ่า ก่อนผ่านเข้ากลางแต่ไม่มีใครชาร์จโดนเลย เกมของปีศาจแดงแห่งยุโรปค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ อีก 2 นาทีถัดมา มาร์เท่นส์ ซึ่งเล่นได้เด่นมากหลุดเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษทางขวาแฉลบ เบรโน่ ผ่านหน้าปากประตู เหลืออีก 5 นาทีจะพักเบรก เบลเยียม พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูตีเสมออย่างน่าเสียดายจากจังหวะสวนกลับ มาร์เท่น หลุดเข้าไปแปเล่นทางหนีมือนายทวารเซเลเซาแล้วแต่ทว่าโชคร้ายชนหัว เบรโน่ โหม่งสกัดทิ้งแบบเส้นยาแดงผ่าแปด


"ปีศาจแดงแห่งยุโรป" มีลุ้นอีกครั้งจากลูกเตะมุมทางซ้าย โธมัส เฟอร์แมเล่น ทะยานโหม่งเช็ดหลุดเสาสองออกไป ทว่า บราซิล มาได้ประตูที่สองนาทีสุดท้ายพอดี โรนัลดินโญ่ รอจังหวะก่อจ่ายไปทางขวาทะลุให้ รามิเรซ ยิงติดเซฟผู้รักษาประตูปัดออกมา โจ โหม่งซ้ำดาบสองบนเส้นประตูเข้าไป จบ 45 นาที "แซมบ้า" นำ 2-0

เข้าสู่ครึ่งหลังเกมค่อนข้างเนือยลงไปโดย บราซิล ค่อนข้างเน้นครองบอลเอาแน่นอนไว้ก่อนกระทั่งนาที 75 น่าจะได้ประตูที่สาม โรนัลดินโญ่ ชิพเข้าไปในกรอบเขตโทษทางซ้ายให้ มาร์เซโล่ เติมขึ้นมาหวดเต็มข้อบอลไปติดขาผู้รักษาประตูเบลเยียมเสียก่อน อีก 7 นาทีให้หลัง เบลเยียม ยังขาดความเฉียบขาดในการพังประตูเหมือนเดิม เซปป์ เดอ รูเวอร์ หลุดเข้าไปยิงเผาขนแต่ถูกปฎิเสธโดยนายทวาร เรนาน

บราซิลเน้นตั้งรับต่ำมากทำให้ตัวแทนจากยุโรปไม่สามารถพาบอลไปถึงพื้นที่สุดท้ายได้ต้องอาศัยสับไกนอกกรอบระยะ 25 หลาของ เควอน มิรัลเลส แต่ยังไม่ผ่านมือนายทวารเซเลเซาอยู่ดีในนาที 86 บราซิล มาได้ประตูปิดท้ายตอกย้ำชัยชนะในช่วงทดเจ็บ 1 นาทีพอดี เริ่มจาก มาร์เซโล่ จ่ายให้ ดีเอโก้ ส่งต่อ โรนัลดินโญ่ ไหลถึง โจ อาศัยความสามารถเฉพาะตัวกระชากเข้าไปยิงสวนตัวนายทวารเบลเยียมตุงตาข่าย หมดเวลาการแข่งขัน "แซมบ้า" ถล่ม 3-0

ข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์คิกออฟ ฉบับที่ 3320


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

รางวัลปลอบใจ ของทีมบราซิล


สวัสดีครับพี่-น้อง จบไปแล้วครับกับเส้นทางของทีมชาติบราซิลในศึกฟุตบอลโอลิมปิก 2008 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน และก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ทัพแซมบ้า ทำไปไม่ถึงดวงดาวตามเคย เหมือนเคย เช่นเคยกับอดีตที่ผ่านมา

บางคนบอกว่าเพราะอาถรรพ์มหกรรมโอลิมปิก บางคนอาจจะโทษดวง แต่จริงๆ แล้ว ไม่มีสิ่งใดซับซ้อน เหตุผลเดียวที่ บราซิล ไม่มีเหรียญทองคล้องคอ ก็เพราะว่า อาร์เจนตินา เป็นฝ่ายที่ดีกว่าอย่างเป็นเอกฉันท์ทั้งในแง่ของรูปเกม และผลลกอร์ หลังจบ 90 นาทีในเกมที่สนามเวิร์คเกอร์ สเตเดี้ยม เมื่อวันอังคารที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา


เมื่อเราได้เห็นผ่านหน้าจอทีวีว่า ลิโอเนล เมสซี่ เพลย์เมกเกอร์ร่างจิ๋ว "ฟ้าขาว" จัดการควบบอลเข้าป่วนแนวรับ เซเลเซา ครั้งแล้วครั้งเล่า ๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า ๆ ตรงข้ามกับ โรนัลดินโญ่ ที่ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าคอยพลิกบอลไปมาที่กลางสนาม และเมื่อนำไปรวมกับการจบสกอร์สุดเฉียบของ เซร์คิโอ อเกวโร่ 2 ลูกรวดในช่วงต้นครึ่งหลัง ทำให้เกมปิดฉากลงตั้งแต่หัววัน


สิ่งที่น่าผิดหวังที่สุดของทัพแซมบ้า บนแผ่นดินมังกร น่าจะอยู่ที่การขาดดาวยิงตัวความหวัง ที่จะสามารถพึ่งพาทีเด็ดทีขาดได้ในนาทีสำคัญ ทั้งๆ ที่ บราซิล เคยอุดมไปด้วยดาวยิงชื่อก้อง อย่าง โรนัลโด้, โรมาริโอ, อาเตรียโน่ และ เบเบโต้ แต่ในครานี้ เซเลเซา กลับต้องไปฝากความหวังไว้กับ ดาวยิงระดับธรรมดา อย่าง โจ ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ราฟาเอล โซบิส จาก เรอัล เบติส แถม อเล็กซานเดร ปาโต้ หัวหอกอนาคตไกล กลับลืมฟอร์มถล่มประตูไว้กับต้นสังกัดในอิตาลี จนถูกดร็อปเป็นตัวสำรอง นั่งสบายก้นใน 3 เกมหลัง


ผลที่ออกมาคือ ชัยชนะแบบเจียนอยู่เจียนไป ในเกมนัดเปิดสนามกับ เบลเยียม และ แคเมอรูน มาจากการเติมขึ้นมาพังตาข่ายของกองกลางเชิงรับ อย่าง เอร์นานเดส หรือแม้กระทั่งฟูลแบ็กจอมบุกอย่าง มาร์เซโล่ แล้วแฟนบอลส่วนใหญ่ก็ถูกฟอร์มไล่ระเบิดยิง นิวซีแลนด์ 5-0 ต่อด้วยวางระเบิดบอมส์ เจ้าภาพต่ออีก 3-0 ในรอบแรก ลวงตาเข้าอย่างจัง


ชัยชนะ 3-0 เหนือ เบลเยียม ม้ามืดประจำทัวร์นาเมนต์ ในเกมชิงอันดับ 3 อาจะจะช่วยเยียวยาแผลใจของแฟนบอล แซมบ้า ได้บ้าง ซึ่งหากไม่รวมเกมถูก "ฟ้าขาว" ยำเละ ตลอด 5 เกมที่เหลือ บราซิลเก็บชัยแบบไม่เสียประตูครบทั้ง 5 เกมที่ลงชิงชัย ซึ่งก็ถือว่าเป็นสถิติที่สวยหรูดูดีทีเดียว สำหรับเหรียญทองแดงโอลิมปิกเหรียญนี้ ถือเป็นการเพิ่มเหรียญรางวัลในตู้สะสมเกียรติยศของทีมชาติบราซิลเพิ่มขึ้นอีก 1 เหรียญ ต่อจาก 2 เหรียญเงิน ในปี 1984 และ 1988 และอีก 1 เหรียญทองแดงใน "แอตแลนต้าเกมส์" ที่สหรัฐอเมริกา เมื่อปี 1996 โดยยังไม่เคยได้เหรียญทองเลยสักเหรียญ ทั้งๆ ที่มีดีกรีเป็นถึงแชมป์โลก 5 สมัยเข้าไปแล้ว


เหยินน้อย กล่าวหลังได้เหรียญ มาคล้องคอว่า "เรามาที่นี่เพื่อเหรียญทอง แต่เราไม่คู่ควรที่จะเอาชนะ อาร์เจนตินา ได้ ตอนนี้เหรียญทองแดงอาจจะไม่สำคัญสำหรับมุมมองของชาวบราซิล แต่เราจะภาคภูมิใจกับมันในอนาคตอย่างแน่นอน"


ดาวเตะ เอซี มิลาน เคยร่วมใส่เสื้อสีเหลืองทอง ล่าเหรียญโอลิมปิก มาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อปี 2000 ที่ ซิดนี่ย์ ออสเตรเลีย ร่วมกับ เพื่อนร่วมทัพอย่าง อเล็กซ์ และ เอดู แต่ ดินโญ่ ในวัย 20 ปี ก็พาทีมไปไกลได้เพียงรอบ 8 ทีมสุดท้าย หลังถูก แคเมอรูน แชมป์ในปีนั้น ซึ่งอุดมไปด้วยขุนพลตัวเก๋าอย่าง ซามูเอล เอโต้, พาทริค เอ็มโบม่า และ เฌเรมี่ เฉือนเอาชนะไปได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ และนี่อาจเป้นโอลิมปิก เป็นครั้งสุดท้าย หลังมีข่าว ฟีฟ่า เตรียมยกเลิกโควตาผู้เล่นอายุเกิน 23 ปี ในโอลิมปิกตั้งแต่ครั้งหน้าเป็นต้นไป



ในขณะที่ ดีเอโก้ จอมทัพเจ้าปัญหาของ แวร์เดอร์ เบรเมน ซึ่งยังมีอนาคตอึมครึมกับต้นสังกัด หลังแหกค่ายฝ่าฝืนคำสั่งศาลกีฬา บินตรงมาปักกิ่ง ร่วมกับ ราฟินญ่า ฟุลแบ็ก ชาลก้ 04 ก็แสดงความเห็นด้วยว่า "เราสมควรได้รับการเคารพในฐานะทีมนักฟุตบอลทีมหนึ่ง เพราะเราได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อยู่บ้างหลังจากที่แพ้ อาร์เจนตินา ทุกๆ คนมาที่เมืองจีนก็เพื่อเหรียญรางวัล และเราก็ได้มันมาแล้ว มันไม่ใช่สิ่งที่เราคาดหวังตั้งแต่แรกๆ ก็จริงอยู่ แต่มันก็เป็นหนึ่งในรางวัลที่สำคัญยิ่ง"


บทสรุปแบบไม่เป็นไปตามเป้าของ บราซิล ครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่ออนาคตอันคลอนแคลน ไร้ความมั่นคง ของ คาร์ลอส ดุงก้า โดยตรง แม้เจ้าตัวเพิ่งจะพาทีมเก็บแชมป์ โคปา อเมริกา ไปเมื่อกลางปีก่อน แต่หลังจากนั้น เซเลเซา กลับมีผลงานที่ค่อยๆ ตกต่ำลงเรื่อยๆ โอเคว่า เหรียญทองแดง อาจไม่ใช่สิ่งที่ทำกันได้ง่ายๆ แต่มันไม่ใช่เรื่องที่กองเชียร์แซมบ้า ซึ่งรับไม่ได้แม้แต่อันดับ 2 จะนิ่งดูดายไปตลอดแน่


ประกอบกับการที่ร่วงไปอยู่ในอันดับ 5 จาก 10 ทีมของตารางแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนอเมริกาใต้ เข้าไปอีก หากผลงานฟาดแข้งกับ ชิลี และ โบลิเวีย ช่วงต้นเดือนหน้าออกมาไม่สวย นี่ก็น่าคิดเหมือนกัน ว่าเหรียญทองแดงโอลิมปิก จะปลอบใจทัพ แซมบ้า ในเวลานั้น ได้จริงหรือไม่

เจาะข่าวฮอต โดยก๊องส์ //www.siamsport.co.th

ประตูที่ 1

บอลโลกที่อัฟริกา เราว่าบราซิลได้ไปแน่ค่ะ แต่เห็นบราซิลเล่นแบบแอนตี้ฟุตบอลอย่างนี้ ไม่ชินตาเหมือนกันนะ

โดย: la liga fan วันที่: 23 สิงหาคม 2551 เวลา:22:07:28 น.


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ส่งท้ายภาพประทับใจในปักกิ่งเกม

























































 

Create Date : 10 สิงหาคม 2552
0 comments
Last Update : 10 สิงหาคม 2552 13:49:50 น.
Counter : 2320 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ล่องแม่ปิง
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




อังกฤษเป็นชาติที่เริ่มเล่นฟุตบอล แต่บราซิลเป็นชาติที่สอนการเล่นฟุตบอล

มีคำพูดธรรมดาๆประจำฟุตบอลโลกอยู่ประโยดหนึ่งว่า"ฟุตบอลโลกที่ไม่มีบราซิล ก็ไม่ใช่ฟุตบอลโลก"


จะจริงเท็จประการใด แฟนบอลทั่วโลกยังไม่เคยทราบ เพราะที่ผ่านมา 20 ครั้ง และครั้งที่ 21 ในปี 2018 บราซิลยังคงได้เข้ามาเล่นรอบสุดท้ายอิกครั้ง ในฐานะเจ้าภาพ


ผมยังนึกไม่ออกว่าหากบราซิลไม่สามารถผ่านเข้ามาเล่นในรอบสุดท้ายของฟุตบอลโลก ฟุตบอลโลกในปีนั้นจะขาดอะไรไปบ้าง....มนต์ขลังลีลาแซมบ้า. สีเขียว-เหลืองที่แต่งแต้มฟุตบอลโลกทุกครั้งเสมอมา หรือกองเชียร์ที่แต่งองค์ทรงเครื่องกันมา น้องๆขบวนพาเหรดงานคานิวัล ผมว่าคงไม่เกิดขึ้นในรุ่นของผมนะครับ
Friends' blogs
[Add ล่องแม่ปิง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.