“กนกวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช” สู่ “มิสเอิร์ธ 2005” “ช่อง 7 สี” เตรียมส่ง “กนกวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช” สู่ฟิลิปปินส์ร่วมชิงมงกุฎความงาม “มิสเอิร์ธ 2005” สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบก ช่อง 7 ส่ง นางสาวกนกวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช สาวงามเจ้าของตำแหน่ง รองอันดับ 1 มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2548 เข้าร่วมประชันความงามกับสาวสวยจากทั่วโลกเพื่อชิงมงกุฎความงาม มิสเอิร์ธ 2005 ซึ่งจะออกเดินทางไปยังประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมของกองประกวดฯ ในวันศุกร์ที่ 30 กันยายน 2548 เวลา 11.10 น. โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 620 สำหรับการประกวดรอบตัดสินจะจัดขึ้นในคืนวันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม 2548 ณ University of the Philippines Theater กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ สำหรับชุดราตรีที่จะใช้สวมใส่ในการประกวดฯ ครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากห้องเสื้ออารดา โดย คุณณภาดา สุทธิบุญญาเกษม ส่วนชุดไทยประจำชาติได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท ดีด้า วิดีโอโปรดักชัน จำกัด โดย คุณสยม สังวริบุตร สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบก ช่อง 7 ผู้ดำเนินการจัดประกวดมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ได้รับสิทธิ์อย่างเป็นทางการจาก CAROUSEL PRODUCTIONS INC. ในการจัดส่งตัวแทนสาวไทยเข้าร่วมประกวดมิสเอิร์ธ 2005 ระหว่างวันที่ 1-25 ตุลาคม 2548 ณ ประเทศฟิลิปปินส์ สำหรับ ช่อง 7 สี ส่งตัวแทนเข้าร่วมการประกวดเอิร์ธ มาเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน นับตั้งแต่ปี 2001 โดยปีที่ผ่านมา น.ส.รัชดาวรรณ นาคประเสริฐ รองอันดับ 1 มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2547 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 คนสุดท้ายในการประกวดมิสเอิร์ธ 2004 รวมรูปหมอเกด หมอเกดพาความนุ่มนวลแบบไทย สู้ศึกขาอ่อนมิสเอิร์ธ หลังจากส่ง น้อด-ชนันภรณ์ รสจันทร์ มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สเข้าประกวดนางงามจักรวาลแล้ว คราวนี้ก็ถึงคิว หมอเกด-กนกวรรณ เศรษพงศ์วนิช รองอันดับ 1 มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ต้องสู้ศึกโชว์ความสวยระดับอินเตอร์บนเวทีประกวดมิสเอิร์ธ ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งจะเริ่มขึ้นในเดือนตุลาคมนี้ โดยก่อนออกเดินทางไปประกวด “หมอเกด” ได้ไปลองสวมใส่ชุดแต่งกายประจำชาติ และชุดราตรีที่จะใช้บนเวทีประกวด ที่ช่อง 7 ต้นสังกัดเมื่อวันอังคาร (20 ก.ย.) ที่ผ่านมา เครื่องแต่งกายที่หมอเกดเตรียมไปใส่ประกวดครั้งนี้ มีชุดราตรีสั้น 2 ชุดสำหรับสวมออกงาน และราตรียาวสีชมพูที่จะใส่บนเวทีประกวด ซึ่งเป็นชุดที่หมอเกดบอกว่าภูมิใจที่สุด เพราะเป็นชุดราตรียาวผ้าชีฟองสีชมพูแบบสากลผสมผสานความเป็นไทย ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากชุดไทยโบราณ คาดเข็มขัดเงินแบบโบราณ นอกจากนี้ ยังมีชุดไทยประจำชาติ ที่เน้นความสง่างามสุภาพนุ่มนวลของสตรีไทย โดยนำแบบอย่างมาจากเครื่องแต่งกายของสตรีสูงศักดิ์ในสมัยอยุธยาตอนปลาย ท่อนบนห่มด้วยสไบกว้างปิดบั้นเอว และห่มทับด้วยผ้าตาดทองสีเลือดหมู นุ่งผ้าจีบหน้านางเป็นผ้ายกทองสีเขียวใบไม้ คาดด้วยปั้นเหน่ง แต่งเครื่องประดับด้วยพาหุรัด ทับทรวง สังวาลย์ ต่างหู รัดข้อมือรูปนาค และแหวน นอกจากนี้ หมอเกดยังได้เตรียมโถเบญจรงค์สูงประมาณ 1 ฟุต ซึ่งสื่อถึงความเป็นไทย ไปร่วมประมูลที่กองประกวดมิสเอิร์ธจัดขึ้นด้วย หมอเกดบอกด้วยความมั่นใจว่า ขณะนี้เธอเตรียมความพร้อมในการเดินทางไปประกวดอย่างเต็มที่แล้ว โดยจะพรีเซ้นต์ความเป็นกันเอง และความมีน้ำใจตามแบบฉบับคนไทย ให้เพื่อนสาวงามจากชาติต่างๆ ได้ประจักษ์ และเธอจะพยายามทำอย่างดีที่สุด โดยขอแรงใจจากคนไทยทุกคนช่วยส่งใจเชียร์เธอด้วย. "ขอแค่เข้ารอบแรก" หวังเล็กๆ ของหมอเกด บนเวทีมิสเอิร์ธ หลังจากกองประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์กำลังอลหม่านกับข่าวคราวคลุมเครือของ "แองจี้" อัจฉรา แมคคาย กรณีสละมงกุฎมิสไทยแลนด์เวิลด์ วิกหมอชิตกลับเตรียมตัวเดินหน้าส่งตัวแทนสาวไทยเข้าประกวดบนเวทีมิสเอิร์ธ 2005 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นธรรมเนียมติดต่อกันมา 4 ปีแล้วของเวทีมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สที่ส่งตัวแทนสาวไทยเข้าชิงชัยบนเวทีนี้ สำหรับปีนี้ได้ "เกด" พ.ญ.กนกวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช รองอันดับ 1 มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2548 เป็นตัวแทนประเทศไทย โดยเธอเปิดเผยถึงการเตรียมตัวครั้งนี้ว่า มีโอกาสศึกษาข้อมูลของเวทีนี้มาบ้าง เนื่องจากรูปแบบการประกวดไม่ได้เน้นการแสดงความสามารถพิเศษมากนัก แต่เน้นนำเสนอการเดินแบบเหมือนกับนางแบบ ทำให้ต้องเตรียมตัวเรื่องการเดินแบบเป็นพิเศษ "การเดินแบบนางแบบจะต่างจากการเดินบนเวทีนางงาม ของต้องไม่ยิ้ม และกระฉับกระเฉง ว่องไวกว่า ซึ่งก็ยากมากแต่ก็น่าสนใจ นอกจากเรื่องการเดินแล้ว เกดก็จะเตรียมตัวเรื่องข้อมูลประวัติศาสตร์ไทยไว้ด้วย อย่างของประมูลที่นำไปเป็นโถเบญจรงค์ เราสามารถบอกเล่าได้ว่ามีความเป็นมาอย่างไร อีกเรื่องที่ต้องเตรียมตัวคือความมั่นใจ ความมีน้ำใจและรอยยิ้ม โชคดีส่วนตัวเป็นคนยิ้มง่าย อารมณ์ดี คิดว่าไม่น่ามีปัญหา" หมอเกดเล่าไปพร้อมกับโปรยยิ้มเป็นระยะ นอกเหนือจากการเตรียมตัวด้านข้อมูล อีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ เครื่องแต่งกายที่สะท้อนความเป็นไทย โดยเฉพาะชุดไฮไลท์อย่างชุดไทยประจำชาติ โดยปีนี้ได้นำรูปแบบเครื่องแต่งกายของสตรีสูงศักดิ์หรือ "นางใน" ในสมัยอยุธยาตอนปลายมาเป็นจุดเด่น เน้นความสง่างามสุภาพนุ่มนวลของสตรีไทย โดยใช้วิธีนุ่งจีบห่มสไบตามสีประจำวัน ท่อนบนห่มด้วยสไบกว้างปิดบั้นเอว ห่มทับด้วยผ้าทรงสะพักสีเลือดหมู ท่อนล่างนุ่งผ้าจีบหน้านาง เป็นผ้ายกทองสีเขียวใบไม้ คาดปั้นเหน่ง ส่วนพัตราภรณ์ประดับ ประกอบด้วย พาหุรัด ทับทรวง สังวาลย์ ต่างหู รัดข้อมือรูปนาง และแหวน ส่วนชุดราตรีที่หอบหิ้วไปส่วนใหญ่เป็นราตรีสั้นสีสันสดใสราว 3-4 ชุด สำหรับงานเลี้ยงกลางคืน จากการออกแบบของห้องเสื้ออารดา โดยชุดราตรีสำคัญที่จะใช้ขึ้นเวทีประกวดได้รับแรงบันดาลใจจากชุดไทยโบราณ แต่นำมาประยุกต์ผสมผสานระหว่างรูปแบบโบราณกับสไตล์ปัจจุบัน ผ่านผ้าชีฟองเนื้อบางเบาสีชมพู แม้จะมีการเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี แต่เมื่อปีที่ผ่านมาสำหรับเวทีมิสเอิร์ธ 2004 ก็ได้ตัวแทนสาวไทยเคยฝ่าด่านมาจนถึงรอบ 8 คนสุดท้ายมาแล้วจากฝีมือของ "ตุ๊กตา" รัชดาวรรณ นาคประเสริฐ รองอันดับ 1 มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2547 จึงทำให้อดถามไม่ได้ว่าจะมีโอกาสเจริญรอยตามรุ่นพี่ที่ปูทางไว้บ้างหรือเปล่า "กับการประกวดเกดไม่ได้หวังอะไรมาก ถ้าเป็นไปได้ขอแค่เข้ารอบแรกก็ดีใจแล้ว ที่ผ่านมาก็ขอคำแนะนำจากพี่ๆ ที่เคยไปประกวดต่างประเทศมาบ้าง อย่าง เอมมี่ (มรกต กิตติสาระ มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2547) ลูกจันทร์ (จันจิรา จันทร์โฉม มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2545) พี่ๆ ก็แนะนำว่าให้เราเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด พยายามมีส่วนร่วมในทุกกิจกรรมของกองประกวดให้ได้มากที่สุด" หมอเกดตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจ งานนี้หมอเกดมีเวลาเตรียมตัวได้มากหน่อย เพราะไม่ต้องห่วงเรื่องงานรักษาคนไข้ เนื่องจากย้ายสังกัดจากโรงพยาบาลที่ประจำอยู่ มาประจำที่กระทรวงสาธารณสุขเรียบร้อยแล้ว เรียกว่าผู้ใหญ่ไฟเขียวให้แสดงฝีมือเต็มที่ โดยกำหนดการเดินทางจะมีขึ้นในวันที่ 30 กันยายน เวลา 11.10 น. และรอบตัดสินจะมีขึ้นในวันที่ 23 ตุลาคม ที่ ยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ ฟิลิปปินส์ เธียเตอร์ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ หมอเกดวอนคนไทยให้กำลังใจ ประกวดมิสเอิร์ธ 2005 ที่ฟิลิปปินส์ หมอเกด รองอันดับ 1 มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2005 พร้อมสู้ศึกเวทีประกวดมิสเอิร์ธ ที่ฟิ ลิปปินส์ เตรียมขนชุดสตรีสูงศักดิ์สมัยอยุธยา และชุดราตรียาวประยุกต์ ขึ้นประชันกับสาวงามทั่ว โลก พร้อมขอกำลังใจจากชาวไทย ให้คว้าตำแหน่งกลับมา เมื่อวันที่ 20 กันยายน ที่ผ่านมา สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบก ช่อง 7 ได้ให้สื่อมวลชน เข้า บันทึกภาพพร้อมสัมภาษณ์ พญ.กนกวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช รองอันดับ 1 มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2005 ในฐานะตัวแทนสาวไทยที่เข้าร่วมประกวดมิสเอิร์ธ 2005 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ในชุดราตรี สั้น ราตรียาว และชุดไทยประจำชาติ ก่อนจะเดินทางโดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 620 ไปทำ กิจกรรมร่วมกับกองประกวดมิสเอิร์ธ ในวันที่ 30 กันยายนนี้ เวลา 11.10 น. สำหรับชุดประจำชาติ และชุดราตรีสั้น ราตรียาว ที่พญ.กนกวรรณลองสวมใส่ให้สื่อมวล ชนได้บันทึกภาพมีด้วยกัน 4 ชุด โดยเฉพาะชุดราตรียาวและชุดประจำชาติ จะเป็นชุดที่สวมใส่ขึ้น เวทีประกวดในรอบตัดสิน ทั้งนี้ ชุดราตรียาวเป็นผ้าชีฟองสีชมพู ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากชุด ไทยโบราณ นำมาสร้างสรรค์บนผ้าชีฟองเนื้อบางเบา ตกแต่งด้วยเครื่องประดับเงินโบราณ ให้ ความรู้สึกผสมผสานระหว่างยุคโบราณและปัจจุบัน เป็นฝีมือการตัดเย็บของห้องเสื้ออารดา ส่วน ชุดไทยประจำชาติ ที่ได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท ดีด้า วิดีโอโปรดักชั่น จำกัด นำแบบมาจาก เครื่องแต่งกายของสตรีสูงศักดิ์ในสมัยอยุธยาตอนปลาย เน้นความสง่างามสุภาพนุ่มนวลของสตรี ไทย มีการนุ่งจีบห่มสไบตามสีประจำวัน ซึ่งชุดดังกล่าวเป็นชุดที่ใช้สำหรับนุ่งห่มในวันพฤหัสบดี ท่อนบนห่มด้วยสไบกว้างปิดบั้นเอว และห่มทับด้วยผ้าทรงสะพักสีเลือดหมู ซึ่งเป็นผ้าตาดทอง ท่อนล่างจะนุ่งผ้าจีบหน้านาง เป็นผ้ายกทองสีเขียวใบไม้ คาดด้วยปั้นเหน่ง ส่วนพัตราภรณ์ที่นำมา ประดับ ประกอบด้วย พาหุรัด ทับทรวง สังวาลย์ ต่างหู รัดข้อมือรูปนาค และแหวน หมอเกด รองมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส เผยว่า หลังรับตำแหน่งแล้ว ตนได้ย้ายมาช่วยราช การที่กระทรวงสาธารณสุข ที่แผนก ฟู้ด เซฟตี้ หรือศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยด้านอาหาร เป็น เวลา 1 ปี ขณะนี้ก็กำลังทำเรื่องมาอยู่ที่คลินิกตรวจผู้ป่วยนอก(OPD) ของกระทรวง จะได้ไม่ลืม วิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมา อยากรักษาผู้ป่วย ทุกวันนี้ตนต้องใช้วิธีการอ่านหนังสือ เพื่อเป็นการอัพ เดทข้อมูลอยู่ตลอดเวลา และหลังจากนี้ ถ้าใช้ทุนครบ 3 ปีแล้ว ตั้งใจว่าจะเรียนต่อทางด้าน จักษุ แต่ทั้งนี้ ก็ต้องอยู่ที่ทุนที่มีให้ด้วย ส่วนการเรียนด้านผิวหนัง ซึ่งเป็นสื่งที่ชอบมาตั้งแต่สมัย เป็นนักศึกษาแพทย์คงต้องรอดูอีกที "ตอนนี้ย้ายมาช่วยราชการที่แผนก ฟู้ด เซฟตี้ ซึ่งเป็นแผนกที่ทำงานวิจัยและจัดสัมม นาด้านวิชาการเกี่ยวกับเรื่อง ฟู้ด เซฟตี้ และฟู้ด สแตนดาร์ด ของประเทศไทย และนานาชาติทำ ทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ มีอะไรทำหมด พิมพ์งานทุกอย่าง เมื่อมีโอกาสได้สัมผัสงานตรงนี้ก็อยาก เรียนรู้ให้หมด เป็นคนอื่นก็คงไม่ทำ แต่ก็คิดถึงงานรักษาผู้ป่วยมาก อยากช่วยคนมากกว่าทำงาน ด้านวิชาการ" ส่วนการเดินทางไปประกวดมิสเอิร์ธ ที่ฟิลิปปินส์นั้น หมอเกดบอกว่า ทุกวันนี้ตนได้เตรียม ตัวเพื่อเข้าร่วมประกวดค่อนข้างเยอะ แต่ที่เตรียมมากที่สุดคือ ความมีน้ำใจ รวมทั้งความมั่นใจ และรอยยิ้ม แต่โชคดีว่าตนเป็นคนยิ้มง่าย และเป็นคนอารมณ์ดีอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังไปเรียนแต่ง หน้า ทำผม เพื่อที่จะช่วยเหลือตัวเองให้มากที่สุด "สำหรับชุดราตรียาวและชุดไทยประจำชาตินั้น เกดได้ให้คำแนะนำกับดีไซเนอร์บ้างแต่ไม่ มากนักว่าชุดอย่างนี้เหมาะสมกับเราไหม ส่วนภาพรวมทั้งหมดของชุดขึ้นอยู่กับดีไซเนอร์ เพราะเราไม่ใช่ดีไซเนอร์ จะให้แนะนำทั้งหมดคงเป็นไม่ได้ ชุดที่ชอบมากที่สุด คือ ชุดราตรียาว เป็นชุดที่ประยุกต์ระหว่างความเป็นสากล กับวัฒนธรรมไทยได้อย่างลงตัว " นอกเหนือจากชุดราตรียาวและชุดไทยประจำชาติ ที่หมอเกดจะนำไปอวดโฉมต่อสายตา ชาวโลกแล้ว คุณหมอคนสวย ยังเตรียมโถเบญจรงค์ ไปประมูลในการประกวดครั้งนี้ด้วย พร้อม กับกล่าวอ้อนขอกำลังใจจากชาวไทยด้วยว่า "อยากขอแรงใจจากคนไทยทุกคนให้ช่วยเชียร์ด้วย เกดจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด" หลังจากเหินฟ้าสู่ฟิลิปปินส์ แล้ว พญ.กนกวรรณจะทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนสาวงามจากทั่ว โลก จากนั้นในวันที่ 23 ตุลาคม ก็จะขึ้นเวทีเพื่อประกวดรอบตัดสิน ที่ยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ เดอะ ฟิลิปปินส์ เธียเตอร์ ในกรุงมะนิลา 7สีส่ง'หมอเกด'ชิงมงกุฎมิสเอิร์ธ ได้รับสิทธิ์จาก Carcusel Productions Inc. ในการส่งตัวแทนสาวไทยขึ้นประกวดมิสเอิร์ธ 2005 ระหว่างเดือนตุลาคมนี้ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ช่อง 7 สี ตัดสินใจส่งหมอเกด-กนกวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช รองอันดับ 1 มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2005 เข้าร่วมประชันความงามกับสาวสวยทั่วโลก เพื่อชิงมงกุฎมิสเอิร์ธ 2005 ซึ่งจะมีกำหนดเดินทางไปยังประเทศฟิลิปปินส์ในวันศุกร์ที่ 30 กันยายนนี้เวลา 11 โมงเช้า โดยสายการบินไทย ทีจี 620 ก่อนจะลงประกวดรอบตัดสินในคืนวันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคมนี้ ณ ยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ ฟิลิปปินส์ เธียเตอร์ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เวทีประกวดมิสเอิร์ธปีนี้เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ที่ช่อง 7 สีได้ร่วมส่งสาวงามเข้าประกวด ซึ่งปีที่ผ่านมา น.ส.รัชดาวรรณ นาคประเสริฐ รองอันดับ 1 มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ปี 2547 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 คนสุดท้าย ส่วนหมอเกด-กนกวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช ตัวแทนสาวไทยปีนี้ ถือเป็นหนึ่งในตัวเก็งมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สคู่กับน็อด-ชนันภรณ์ รสจันทร์ กระทั่งได้ครองตำแหน่งรองอันดับ 1 ปัจจุบันเพิ่งย้ายจาก รพ.สระบุรี เข้ามาช่วยงานอยู่ในกระทรวงสาธารณสุข สำหรับชุดราตรีที่หมอเกด-กนกวรรณ จะใช้สวมใส่ในการประกวดมิสเอิร์ธ ได้รับการสนับสนุนจากห้องเสื้ออารดา โดยณภาดา สุทธิบุญญาเกษม เป็นชุดราตรียาวผ้าชีฟองสีชมพู ได้รับแรงบันดาลใจมาจากชุดไทยโบราณ นำมาสร้างสรรค์ค์บนผ้าชีฟองเนื้อบางเบา ตกแต่งด้วยเครื่องประดับเงินแบบโบราณ ให้ความรู้สึกผสมผสานระหว่างยุคโบราณและปัจจุบัน ส่วนชุดไทยประจำชาติ บริษัท ดีด้า วิดีโอ โดยสยม สังวริบุตร เป็นผู้สนับสนุนซึ่งนำแบบมาจากเครื่องแต่งกายของสตรีสูงศักดิ์ในสมัยอยุธยาตอนปลาย เน้นความสง่างามสุภาพนุ่มนวลของสตรีไทย มีการนุ่งจีบห่มสไบตามสีประจำวัน และชุดดังกล่าวเป็นชุดสำหรับนุ่งห่มในวันพฤหัสบดี ท่อนบนห่มด้วยสไบกว้างปิดบั้นเอว และห่มทับด้วยผ้าทรงสะพักสีเลือดหมูซึ่งเป็นผ้าตาดทอง ท่อนล่างจะนุ่งผ้าจีบหน้านาง เป็นผ้ายกทองสีเขียวใบไม้ คาดด้วยปั้นเหน่ง ส่วนพัตราภรณ์ที่นำมาประดับ ประกอบด้วยพาหุรัด, ทับทรวง, สังวาลย์, ต่างหู, รัดข้อมือรูปนาค และแหวน. ถึงคิว"หมอเกด"ร่วมเวที"มิสเอิร์ธ" หายเหนื่อยจากการร่วมจัดงานมิสยูนิเวิร์ส เวทีนางงามวิกหมอชิต มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สได้ฤกษ์ส่ง "หมอเกด"กนกวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช รองอันดับ 1 มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2548 บินลัดฟ้ามุ่งตรงสู่เกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ร่วมประชันความงามกับสวยงามจากหลายประเทศทั่วโลกเพื่อชิงมงกุฎจากเวที มิสเอิร์ธ 2005 งานนี้กองประกวดเฟ้นหาชุดราตรีสวยเก๋ถึง 3 ชุดจากห้องเสื้ออารดา เตรียมให้หมอเกดแพ็กใส่กระเป๋าเพื่อเพิ่มดีกรีความสวยพร้อมที่จะไปประชันความงาม โดยชุดราตรีที่จะใส่ขึ้นเวทีประกวดนั้นเป็นชุดราตรียาวผ้าชีฟองสีชมพู ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากชุดไทยโบราณ นำมาสร้างสรรค์บนผ้าชีฟองเนื้อบางเบา ตกแต่งด้วยเครื่องประดับเงินแบบโบราณ ให้ความรู้สึกผสมผสานระหว่างยุคโบราณและปัจจุบัน นอกจากนั้น ยังมีอีก 1 ชุดไทยประจำชาติจากดีด้า วิดีโอโปรดักชัน จำกัด ซึ่งเป็นเครื่องแต่งกายของสตรีสูงศักดิ์ในสมัยอยุธยาตอนปลาย เน้นความสง่างามสุภาพนุ่มนวลของสตรีไทย มีการนุ่งจีบห่มสไบตามสีประจำวัน สำหรับชุดนี้เป็นชุดที่ใช้นุ่งห่มในวันพฤหัสบดี โดยท่อนบนห่มด้วยสไบกว้างปิดบั้นเอว และห่มทับด้วยผ้าทงสะพักสีเลือดหมูเป็นผ้าตาดทอง ท่อนล่างจะนุ่งผ้าจีบหน้านางด้วยผ้ายกทองสีเขียวใบไม้ คาดด้วยปั้นเหน่ง ส่วนพัตราภรณ์ที่นำมาประดับ ประกอบด้วยพาหุรัด ทับทรวง สังวาลย์ ต่างหู รัดข้อมือรูปนาค และแหวน หมอเกด กล่าวถึงการเตรียมตัวสำหรับการประกวดว่า เตรียมตัวค่อนข้างเยอะ เราต้องมีความเป็นตัวของตัวเอง แต่สำคัญที่สุดคือความมีน้ำใจ นอกจากนี้ ยังต้องมีความมั่นใจและรอยยิ้ม โชคดีที่ตัวเองเป็นคนยิ้มง่ายค่อนข้างอารมณ์ดี ตอนนี้ก็เรียนแต่งหน้าทำผม จะพยายามช่วยตัวเองให้มากที่สุด ซึ่งจริงๆ แล้วที่กองประกวดก็จะมีพี่เลี้ยงไว้ค่อยช่วยดูเรื่องแบบนี้ ชุดที่นำไปครั้งนี้มีทั้งหมด 4 ชุด เป็นชุดราตรี 3 ชุด ส่วนใหญ่เป็นราตรีสั้นใส่งานกาลาดินเนอร์ มีราตรียาว 1 ชุดสำหรับขึ้นเวทีประกวด สำหรับชุดที่นำไปประกวดครั้งนี้มีส่วนร่วมบ้างนิดหน่อยตอนที่ไปร้านก็ดูว่าแบบไหนเหมาะกับเราแต่ต้องขึ้นอยู่กับดีไซเนอร์ด้วย ส่วนเรื่องการเตรียมตัวเรื่องการเดินบนเวทีที่เวทีนี้นั้นค่อนข้างจะเน้นที่การเดินแบบพรีเซ้นต์ชุด ก็ได้ไปเรียนเพิ่มเติมที่สถาบันพัฒนาบุคลิกภาพแล้ว นอกจากนั้น ยังเตรียมโถเบญจรงค์ไปร่วมประมูลในการประกวดครั้งนี้เพราะสวยและเป็นสิ่งที่แสดงเอกลักษณ์ความเป็นไทยค่อนข้างมาก ซึ่งเราต้องเตรียมเรื่องข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องเบญจรงค์ไปพรีเซ้นต์ให้ดีราคาประมูลจะได้สูงๆ น้องเกดหยอดลูกอ้อนทิ้งท้ายฝากบอกก่อนที่จะเดินทางไปประกวดมิสเอิร์ธ 2005 ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ในวันศุกร์ที่ 30 ก.ย. นี้ ซึ่งการประกวดรอบตัดสินจะมีขึ้นในวันที่ 23 ต.ค. นี้ว่า น้องเกดขอกำลังใจจากทุกๆ ท่านสำหรับการประกวดครั้งนี้ด้วยนะคะ "หมอเกด"เหินฟ้าไปประกวดมิสเอิร์ธ เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 ก.ย. พ.ญ.กนกวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช หรือน้องเกด รองอันดับ 1 มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ประจำปี 48 ได้เดินทางออกจากประเทศไทยโดยสารการบินไทย เที่ยวบินที่ทีจี 620 เพื่อเข้าร่วมประกวดมิสเอิร์ธ 2005 ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 23 ต.ค. นี้ ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ โดยมีนายธเนศ นางนพวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช บิดามารดา รวมทั้งพี่สาว-น้องสาวของพ.ญ.กนกวรรณ เดินทางมาส่งด้วยบรรยากาศอันอบอุ่น พ.ญ.กนกวรรณกล่าวว่า ก่อนเดินทางได้เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์หลายแห่งทั้งพระที่บ้าน วัดพระแก้ว ศาลหลักเมือง และศาลเจ้าพ่อเสือขอให้เดินทางปลอดภัย และมีโอกาสเข้ารอบลึก ๆ เพราะว่ารู้สึกตื่นเต้นมาก ที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศคนเดียว ต่างจากทุกครั้งที่มีสมาชิกในครอบครัวร่วมเดินทางไปด้วย แต่ไม่รู้สึกวิตกกังวลอะไร ตั้งใจจะทำให้ดีที่สุด เน้นความมั่นใจ ความเป็นตัวของตัวเอง ไม่แสร้งและตั้งใจทำให้ดีที่สุด ส่วนข้าวของที่นำติดตัวไปด้วยนอกจากเสื้อผ้าแล้ว ยังมีอาหารแห้ง ที่เตรียมไป เช่น บะหมี่สำเร็จรูปประเภทถ้วยประมาณ 20 ถ้วย โดยตั้งใจจะแบ่งให้เพื่อนร่วมห้อง นอกจากนี้ยังนำโถเบญจรงค์ไปร่วมประมูลเพื่อนำเงินเข้าองค์กรการกุศลของประเทศเจ้าภาพ. พ.ญ.กนกวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช รองอันดับ 1 มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2548 เดินทางเข้าร่วมประกวดมิสเอิร์ธ 2005 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ เช้าวันนี้ (30 กันยายน 2548) พ.ญ.กนกวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช รองอันดับ 1 มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2548 เดินทางเข้าร่วมประกวดมิสเอิร์ธ 2005 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 760 เวลา 11.10 น. โดยมีครอบครัว เพื่อนๆ รวมทั้ง น.ส.พรทิพย์ ประเสริฐสงค์ รองมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2548 เดินทางไปส่งด้วย   Create Date : 21 กันยายน 2548 5 comments Last Update : 1 ตุลาคม 2548 19:27:20 น. Counter : 3016 Pageviews. Share Tweet

เอาใจช่วยละกันเน๊อะ   โดย: jayjayกะน้องถ้วยฟู 21 กันยายน 2548 8:37:25 น.

ทำให้ดีนะ คว่ามงกุฎมาให้ได้นะหมอเกด   โดย: กวาง IP: 203.156.130.62 1 ตุลาคม 2548 14:49:05 น.

คนไทยสู้ๆ ครับ เอ้อ แล้วอย่าลืมกลับมารักษาคนไข้ด้วยนะครับ คนไข้(หนุ่ม) กำลังรออยู่   โดย: JasonSจัง!!! 2 ตุลาคม 2548 2:17:13 น.

Fashion is not only about appearance. It is a state of mind. It conveys information about you to the world. Dressing fashionably will make you feel great. Read this fashion advice to make a positive statement about yourself. Nike Outlet //www.aachendom.de/   โดย: Nike Outlet IP: 192.99.14.34 22 ธันวาคม 2557 23:18:48 น.

Would you like to know how you can use coupons for your benefit? If coupons are used the right way, you could save a lot of money every day. Read the article below to find ways to find and use coupons most effectively. North Face Outlet //www.isossychildren.com/northface-outlet.asp   โดย: North Face Outlet IP: 192.99.14.34 26 ธันวาคม 2557 1:51:33 น.