ฝรั่งเศส: Mars Gate and The Castle of Montmedy - Ardenne France

Mars Gate and The Castle of Montmedy - Ardenne France

...ประตูชัย และ ปราสาทเก่าแก่ มอนต์มิดี้...

วันที่ 16 มิย 13

ก่อนที่จะมุ่งหน้าเดินทางกลับประเทศลักเซมเบิร์ก จำเป็นต้องเที่ยวแบบเผื่อเวลาสำหรับการเดินทางกล้บ

การท่องเที่ยวในวันนี้จึงเป็นการเดินทางแบบสบายๆ

เป้าหมายแรกในการเดินทางเที่ยวคือ ขับรถยนต์ชมรอบๆตัวเมือง Reims (เร็มส์)

สถานที่แรกที่เห็นแล้วต้องสะดุดตา สะดุดใจนั่นคือ Mars Gate หรือ Porte de Mars ประตูชัยอนุเสาวรีย์โรมันที่เก่าแก่ที่สุดของ Reims

ประตูชัยถูกสร้างขึ้นสมัยโรมัน ที่เข้ามาใน Reims ก่อนคริสตกาล 58 BC

ประตูชัยมีขนาด 108 * 43 ฟีท ประกอบด้วยประตูโค้ง 3 ประตู

ที่มีชื่อว่า Mars มาจากชื่อของเทพพระเจ้าแห่งสงครามของโรมัน

มิได้หมายถึง ประตูดาวอังคาร นะคะ อย่าเข้าใจผิด

ประตูชัยเรียกว่าตามชื่อวัดที่อยู่ใกล้ๆเคียงกัน ซึ่งจริงๆคือ...ประตูชัยแห่งเทพเจ้ามาร์ส Mars หรือ เทพเจ้าแห่งสงคราม

ประตูชัยนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมเกียรติแก่พระเจ้าออกุสตุส เมื่อ Agrippa ทำถนนที่ดียิ่งใหญ่ให้แก่ตัวเมือง

นอกจาการชมประตูเมืองแล้ว ยังมี  เชมเปญจน์ เฮ้าส์ ให้เลือกชมและเข้าดื่มด่ำรสชาติเชมเปญจน์และชมความสวยงามของอาคารความหรูหราของผู้ผลิต

เชมเปญจน์ที่ขึ้นชื่อมีชื่อเสียงได้แก่ Veuve Clicquot Ponsardin , Pommery, Perrier-Jouet เป็นต้น

เมื่อเที่ยวชมเมืองจุใจถึงเวลากลับลักเซมเบิร์ก ต้องกลับไปทำงานต่อ แต่ก่อนกลับแวะ Montmédy

The Citadel of Montmédy หรือปราสาทมอนต์มิดี้

 ตั้งอยู่ในเมือง Montmédy  ทางตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นเขตชายแดนของลักเซมเบิร์กและเบลเยียม

 ซึ่งเมืองนี้มีชื่อเสียงในเรื่องของปราสาทที่เก่าแก่

ตอนที่เดินทางไปปราสาทกำลังบูรณะ ทั้งโบสถ์ ตึกอาคาร นอกจากการเดินชมรอบๆ ยังมีพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชม

เพื่อศึกษาวิถีชีวิตการดำเนินชีวิตของคนสมัยก่อน

 

 

 

ในปี 1221 The Citadel of Montmédy ถูกสร้างขึ้นบนเนินเขาโดยท่านเคานท์ Chiny Montmédy ที่เป็นเมืองหลวงของ Montmédy

ต่อมาถูกครอบครองของลักเซมเบิร์ก เบอร์กันดี ออสเตรีย และสเปน ที่สลับสับเปลี่ยนการครอบครอง

ในศตวรรษที่ 16 มีการสร้างปราสาท The Citadel of Montmédy ทดแทนปราสาทเดิม ในสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 5 ของสเปน

 ในปี 1545 ซึ่งสร้างด้วยก้อนหินที่มีความสูงกว่า100 เมตรเหนือระดับพื้นดินของเมือง ในสมัยนั้นยังเป็นเมืองขึ้นของสเปนิชเนเธอร์แลนด์

ต่อมาในปี 1657 ปราสาทถูกยึดครองโดยกองทัพพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส และกลายเป็นเมืองของฝรั่งเศสในปี 1659 (ตามสนธิสัญญา Pyrenees ป็นสนธิสัญญาสงบศึกระหว่างฝรั่งเศสกับสเปน)  

ในศตวรรษที่ 17 Vauban ทหารวิศวกรชาวฝรั่งเศสสร้างป้อมปราการทางทหารด้านนอกคูเมืองและกำแพงเพื่อป้องกันการบุกโจมตีของข้าศึก

ระหว่างการปฎิวัติฝรั่งเศสในปี 1791 ปราสาทแห่งนี้เป็นเคยจุดปลายทางที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และครอบครัว

คิดจะอพยพหนีปัญหารุนแรงในเมืองปารีสแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ  พระองค์ถูกจับได้ระหว่างการเดินทางเสียก่อน

หลังจากปี 1870 Séré de Rivières สร้างตึกหลายตุกเพื่อเพิ่มจำนวนทหารในปราสาท  ปราสาทนี้ยังถูกใช้ในระหว่างการเกิดสงครามโลกอีกด้วย

ภาพวาดของพระแม่มาเรีย

วิงวอนพระเจ้า

โบสถ์ที่กำลังบูรณะ

ลานน้ำผุ

 

ตึกบ้านเรือนที่ยังมีคนอาศัยอยู่

 

บ้านในฝรั่งเศสแทบจะทุกหลังที่จะต้องตกแต่งด้วยดอกไม้ เพิ่มความสวยงาม

สีสันตามขอบประตูหน้าตา ที่พบเห็นได้มากตามชนบทฝรั่งเศส

 

 

บ้านสีสันต่างๆ สีชมพูอมม่วง

 

 

 

ประตูหน้าต่างสีเขียว

 

 

เวลาเดินชมปราสาทเก่าๆแบบนี้ทีไร ทำให้นึกย้อนไปถึงความเป็นอยู่ของผู้คนในอดีต

ทำให้นึกถึงอัศวินขี่ม้า ยิ่งได้เห็นสะพานไม้ที่ต้องชักระลอกด้วยโซ่ขนาดใหญ่ที่กั้นระหว่างตัวปราสาทและภายนอก

ทำให้จินตนาการไปถึง โรบินฮูด หรือไม่ก็หนังแบบสไตล์สมัยวิคตอเรีย

การเที่ยวฝรั่งเศสคงจบเพียงแค่นี้

Au revoir la France ....... ลาก่อนฝรั่งเศส... จนกว่าจะได้พบกันใหม่

 

 

 

Create Date : 20 มิถุนายน 2556 Last Update : 24 กรกฎาคม 2556 5:30:16 น. Counter : 2332 Pageviews.		10 comments
Share Tweet