2วัน กับหนัง 3เรื่อง: Percy Jackson, Wolfman และ Book of Eli
ไปต่างจังหวัดมาอาทิตย์ๆกว่าค่ะ ไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากนอนอยู่บ้านและกินนนๆๆๆๆ เท่านั้น กลับกรุงเทพมาก็เลยออกไปตระเวณดูหนังที่เราพลาดๆดูไปค่ะไปดูหนังคนเดียวมันเปล่าเปลี่ยวใจ แต่เรามันคนโสด ถ้าจะรอเพื่อนก็คงบดูทรหดแบบนี้ไม่ได้ เพราะงั้นก็ เอาวะ คนเดียวก็คนเดียววันพุธ ดูหนัง 2เรื่องต่อกันเลยค่ะ เริ่มด้วย percy jackson & the olympians the lightning thief ตอน 4 โมงเย็นค่ะ ที่ดูเรื่องนี้ก่อนก็เพราะว่า เพื่อนเราบอกว่า พระเอกน่าร๊ากกก น่ากิน ก็เลยเอาเรื่องนี้ก่อนค่ะเรื่องก็เกี่ยวกับ เพอร์ซี่ เด็ชายคนนึงที่วันนึงได้มารู้ว่าตัวเองเป็นลูกชายของเทพโพไซดอนที่เกิดกับคนธรรมดา เท่านั้นยังไม่พอ ยังถูกกล่าวหาว่าเป็นคนขโมย สายฟ้า ของมหาเทพซูสไปซะอีกก เรื่องราวมันก็เลยเริ่มต้นขึ้นนั่นแหละค้าา ถึงดารานำจะไม่ใช่คนเด่นคนดังอะไรแต่ก็ดูไม่ติดขัดอะไรค่ะ ส่วนตัวคิดว่าเนื้อเรื่องเราๆก็พอจะเดาออกว่ามายังไงและจะไปยังไงต่อ ดูแล้วก็ โอเค น่าๆดี ไม่เครียด เราชอบเพราะพระเอกกับไอรองเท้าบินได้ของพระเอกนั่นแหละเรื่องนี้มีดาราดังๆโผล่มานิดๆหน่อยๆหลายคนเลย อย่างเพียซ บรอสแนน อูม่า เทอร์แมน ฌอน บีน แถมยังมี Melina Kanakaredes หรือที่เราๆรู้จักกันก็คือ สเตลล่า โบนาเซร่า แห่ง CSI NY นั่นเอง บอกตรงๆว่าดูพระเอกค่ะ ดูไปดูมา บางมุมพระเอกหน้าคล้ายๆซี ศิวัฒน์ อะ (ถามจริงๆว่าไม่มีใครคิดเหมือนเราบ้างหรอ) เห็นพระเอกเรื่องนี้แล้วอยากกินเด็ก 5555***ออกโรงมาแล้วต่อด้วย Wolfman ต่อเลย ช่างเป็นอะไรที่ตรงข้ามกับความน่ามองน่ารัก และตื่นตาตื่นใจ ของ Percy มากมายค่ะ เรื่องนี้เป็นหนังย้อนยุค ประมาณ ปี 1950s ของอังกฤษ ในเมือง แบล๊คมัวร์ เมื่อลอว์เรนซ์ นักแสดงละครเวทีที่อาศัยอยู่ในอเมริกาได้กลับมาบ้านเพื่อตามหาพี่ชายที่หายตัวไปและได้พบกับมนุษย์หมาป่าเข้า จนตอนหลังตัวเองกลายเป็นหมาป่าไปด้วยเนื้อเรื่องก็เดาได้อีกและ แถมก็น่ากลัว อี๊ๆ อะค่ะ มีฉากแบบเห็นไส้ เห็นสมองอะไรอย่างนี้ (อืมม ก่อนหนังฉายเค้าก็บอกแล้วว่า 18+)ดูออกมาแล้ว เราก็เฉยๆ โชคยังดี ค่าตัวหนัง 60 บาทเท่านั้นค่ะ*************วันพฤหัส(วันนี้) ไปดู Book of Eli มา รอบ ทุ่ม20 ส่วนตัวที่ไปดูหนังเรื่องนี้เพราะชอบ เดนเซล วอชิงตัน เราว่าเค้าเป็นคนดำที่หล่อที่สุดอะแสดงหนังก็เก่ง สนุกทุกเรื่องเลยเรื่องนี้ก็เกี่ยวกับอีไล ชายที่เก็บรักษา หนังสือเล่มหนึ่ง ที่กล่าวกันว่าจะเปลี่ยนโลกได้ ซึ่งในตอนนั้น ยุคสมัยที่เจริญที่สุดของมนุษย์ผ่านพ้นไป สังคมมนุษย์ล่มสลาย ดวงอาทิตย์สาดแสงแผดเผาลงมาบนโลกอีไลมีหน้าที่นำหนังสือไปเดินทางไปยังทิศตะวันตกหนังเรื่องนี้เป็นหนังศาสนาค่ะ หนังสือเล่มนั้น ก็คือ ไบเบิ้ลอะค่ะ ซึ่งกล่าวกันว่า ถูกเผาไปหมด ทั้งโลกเหลืออยู่แค่เล่มเดียวเท่านั้นส่วนตัวคิดว่าถ้าเราเป็นคนที่นับถือศาสนาคริสต์ เราคงซาบซึ้งกับหนังเรื่องนี้มากกว่านี้อะค่ะแต่เราคนพุทธ ดูแฃ้วก็ออกจะเฉยๆ นับถือในความมีศรัทธาและเลื่อมใสของเค้าก็เท่านั้นอะค่ะเฮ้ออออสรปว่า 3 เรื่อง เรากลับชอบหนังเด็กๆ ง่ายๆ เว่อร์ๆมากที่สุดแหะ
เห็นด้วยว่าพระเอกหน้าเหมือน ซี
หนังเดาทางได้ ตามสไตล์หนังเด็ก
แต่ก็สนุกดีค่ะ
นาน ๆ ดูหนังไร้สารพิษแบบนี้บ้างก็ดีค่ะ