๏๏๏ จิตรกรเอกผู้ลำเค็ญ..วินเซนต์๏๏๏


อุปัฏฐิตาฉันท์ ๑๑
แด่วินเซนต์ วิลเลียม แวนโก๊ะ ...ด้วยหัวใจ



(๑)
๏ ราตรีศศิงาม...............และอร่ามนภาพราว
คราเขียนอุระราว............ผิว์ทะท้าวละเลงสี -
ฟ้าเทาขณะป้าย.............สิระบายระทมมี
มองด้วยศมนีย์*.............อรดี ณ คิมหันต์ ๚
(๒)
๏ แสงเงารุจิรา...............กระจะตา ณ ไพรวัลย์
ทอดผ่านคิริอัน...............ฐิติยั้งตระหง่านคง
ร่างเส้นผิว์พินิจ...............และลิขิตวนาพงษ์
มาลาจะประจง................จิตคงละเลงไป ๚
(๓)
๏ งานศิลปะนี้.................มิจะมีวิธีใด
อ้างอิงนิติใคร.................ดุจให้ประหลาดฤๅ
เขียนลมขณะพัด.............และนิทัศน์ขยับมือ
ป้ายสีมติคือ...................มุติสื่อสนองตน ๚
(๔)
๏ เขียนรูปฤตุหนาว..........อุระร้าวและอับจน
แต่งแต้มมหิดล...............และสกลสะอ้านงาม
คลุมด้วยหิมะมวล............ขณะง่วนระบายความ
เป็นภาพปริณาม..............และนิยามนิรันดร ๚
(๕)
๏ มองภาพ มน เพ่ง..........สิเชลงนิพนธ์กลอน-
กาพย์ฉันท์ขณะตอน.........อุระร้อนหทัยครวญ
เข้าใจนยะนี้....................และวิธีสิสื่อมวล-
เรื่องราวนิติถ้วน...............สิคระหวนคะนึงนาน ๚
(๖)
๏ คุณคล้ายดุจทุกข์........มิสนุกเกษมศานต์
ว้าวุ่นทรมาน.................จิระกาลสะท้านทรวง
จึ่งคิดวิธิคลาย...............สิสลายระทมปวง-
อ่อนล้าสละยวง.............และระลวงสยบลง ๚
(๗)
๏ เพียงอิสระนั้น.............บ่มิหวั่นฤทัยคง-
หมั่นขีดและผจง.............ดุจบ่งประสงค์จริง
หากมีทุรชน...................สิวิจลวิจารณ์ชิง-
ชังว่า นรศฤงค์*..............มิวิจิตรตระการตา ๚
(๘)
๏ พวกเขาบ่มิฟัง.............จรคั่ง*ทุวาจา
ไร้ซึ่งสติมา-...................จะวิเคราะห์และไตร่ตรอง
ตราบสิ้นบริคนห์ ..............อนุชนประสงค์มอง
เป็นแบบนิติต้อง-.............สิสนองและบูชา ๚
(๙)
๏ ราตรีศศิงาม..............ชุติวามสบายตา
ไม้ดอกผลิ ฤ ว่า.............สิประภาประดุจไฟ
มวลเมฆ ณ นภา.............ผิว์ถลาละลิ่วไกล
แปลกตาคละประไพ........สิสลับละไมคง ๚
(๑๐)
๏ มวลภาพบ่มิเลือน.......ดุจเหมือนสถิตตรง-
ปรากฏมุติบง................คติตรง ณ ดวงตา-
วินเซนต์ ฯ ขณะเขียน.....และมุเพียรละเลงครา-
รุ่งโรจน์รวิจ้า..................สิสว่างกระจ่างครัน ๚
(๑๑)
๏ ทุ่งข้าวกระจะนัก..........ดุจลักษณ์ ณ อำพัน
โศกเศร้า ตม นั้น.............สรพัน ณ หทัย
เคยทุกข์และระทม...........บ่มิสมระเริงใด
กลับชื่นรติใคร่................ณ ทิวากระไรมี ฯ
(๑๒)
๏ โอ้ว่าจิตรกร................ฤ ฉะอ้อนและโศกี
แม้ไร้รติที่-....................นรชนสิให้มา
หากแม้นมตินั้น...............ดุจมั่นนิรันดร์นา
ปราศสุข ณ อุรา..............มิมล้างและเปลี่ยนไป ๚
(๑๓)
๏ ราตรีศศิงาม...............ระดะวามนภาไกล
ฆ่าตนเพราะอะไร............ฤ หทัยมิไตร่ตรอง
เปรียบผัวภริยา...............รติมาสลายกอง
ฤาคุณสิคะนอง...............วิเคราะห์ผอง มิ ตรองดี ๚
(๑๔)
๏ ฉันควรอธิบาย............และขยายระบานี*
บอกว่าปฐพี..................มิเหมาะที่สิควรคุณ-
ผู้ซึ่งมนงาม...................มุจะข้ามนิยามดุลย์
เขียนรูปและพิธุร*..........ผิว์สลดและวุ่นใจ ๚
(๑๕)
๏ ราตรีศศิงาม...............และอร่ามนภาไกล
ภาพเขียนระดะไป...........ณ นิวาสและปราศชน
ภาพเขียนสิริลักษณ์........และวิจักขณ์คละรูปตน
ไร้ชื่อสิฉงน...................ดุจคนปะปนกัน ๚
(๑๖)
๏ สายตามิผละหนี..........ผิว์ฤดีมิลืมวัน
โลกหล้าสรพัน...............มิสลายมลายเลือน
คล้ายมวลนรชน.............และวิกลจริตเบือน
เสื้อผ้าดุจเหมือน............สติเฟือนคละเกลื่อนตา ๚
(๑๗)
๏ แปลกหน้าขณะพบ.......ฤ ประสบอนาถา
โปรดจงกรุณา................มุทุตาและเกื้อกูล
ดุจไม้ศุจิแย้ม.................ผิว์กุหลาบและแหลมบูรณ์
ถูกบีบสิกระลูน*..............มิเสถียรจรูญใด- ๚
(๑๘)
๏ ยังเกลื่อนหิมะขาว........อุระร้าวและร่ำไร
ยามนี้ระบิใด..................ดุจะได้กระจ่างจริง
รู้ว่าขณะนี้......................มุติที่สิอ้างอิง
คุณบอกมติสิ่ง.................ผิว์พะพริ้ง*ณ ผลงาน ๚
(๑๙)
๏ คุณคล้ายดุจทุกข์.........มิสนุกเกษมศานต์
ว้าวุ่นทรมาน...................จิระกาลสะท้านทรวง
จึ่งคิดวิธิคลาย.................สิสลายระทมปวง-
อ่อนล้าสละยวง...............และระลวงสยบลง ๚
(๒๐)
๏ เพียงอิสระนั้น.............บ่มิหวั่นฤทัยคง-
หมั่นขีดและผจง.............ดุจบ่งประสงค์จริง
หากมีนรชน...................สิวิกลวิจารณ์ชิง-
ชังว่า นรศฤงค์*..............มิวิจิตรตระการตา ๚
(๒๑)
๏ โอ้ว่าจิตรกร................ฤ ฉะอ้อนและโศกา
แม้ไร้รติครา-.................ทุรชนประณามใด
หากไร้มุทิตา-.................มติพาระทมใจ
บางทีรติใฝ่....................ดุจไร้นิรันดร ๚ะ๛






Create Date : 20 มกราคม 2551
Last Update : 24 พฤษภาคม 2552 23:04:15 น.
Counter : 1914 Pageviews.

5 comment
ไขว่คว้า
เมฆวิปผุชชิตาฉันท์ ๑๙

๏ กะกากากากากากะกะกะกะกะกา
กากะกากา..............................กะกากา





๏ สงบนิ่งยามตรึกตรองพิเคราะห์อุทกธาร
ซึ่งกระเซ็นซ่าน.......................และเฟื่องฟอง
ประสงค์มัจฉาอันต่างวิริยะคะนอง
แน่นนทีผอง...........................ระเริงชล
ทว่ายังแต่หมายมีนคหณะปะปน
ล้วนระเหหน..........................คละคล่ำไป
ขยับกายทั้งอุ้งมือเปะปะขณะสมัย-
ทั้งระรื่นใน.............................กระแสสินธุ์ ๚



๏ และมุ่งหมายมัจฉาซึ่งอภิรติสะทิน-
นาฏล้ำศิลป์.............................สง่างาม
กระโจนแหวกว่ายเพลิดเพลิน ณ สลิลวิราม
ทั้งพยายาม..............................จะเร่งแซง
ขนาดใหญ่น้อยเรียงรายและวิจรณแผลง-
ผ่านนทีแรง.............................และเชี่ยวเกิน
พินิจเห็นเช่นนั้นหมีหฤทยมิเพลิน
เพียงจะประเมิน....................ประมาณปลา ๚



๏ ตะปบว่องไวเชี่ยวชาญพิริยะดุจคว้า
ควานเขม้นหา.........................มิลามือ
สง่าผ่าเผยโดดเด่นสุรอชิรคือ-
ทั้งสิบันลือ-.............................ตะเบ็งเสียง
เขยิบย่างทั้งว่องไวบ่มิมุทะลุเพียง
เพ่งและเดินเลี่ยง....................ตลิ่งพลัน
สนุกแท้แม้เยือกเย็นและวิจลฉะนั้น
มัสยาหวั่น-.............................และหวาดกลัว ๚



๏ กระจายแหวกว่ายซุกซ่อน ณ สริเหมาะเจาะทั่ว
พุ่งทะยานตัว.........................ตลอดทาง-
ชลาลัยใสเย็นยิ่งวิสมยฉวาง
ธรรมชาติสร้าง-.....................และรังสรรค์
เสมือนชมดนตรีลีลาศ ภรตคติอัน-
แสนวิลาวัลย์.........................ฉะนั้นหนา
ประจักษ์บทบาทแห่งหมีพิริยะคณะปลา
อัศจรรย์พา-..........................ระรื่นใจ ๚ะ๛







Create Date : 01 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 1 พฤศจิกายน 2550 17:29:54 น.
Counter : 1400 Pageviews.

4 comment
สุวรรณภูมิ


ดิลกวิเชียรฉันท์ .. ( เอ !! ขอไปคิดก่อน เขียนยังไง)




Create Date : 28 กันยายน 2549
Last Update : 11 เมษายน 2550 16:58:44 น.
Counter : 673 Pageviews.

1 comment
โศก คืนพระจันทร์เต็มดวง


อินทรวิเชียรฉันท์

..๏ ครั้นรัตติกาลเยือน.......ศศิเคลื่อนนภาพราว
พลันให้หทัยหนาว............อุระร้าวมิเสื่อมคลาย
..๏ ครุ่นคิดคะนึงหา..........ฤ ยุพาสิกลับกลาย
เชยชิดสนิทชาย-.............นระอื่นและชื่นชม ๚

..๏ ครั้นแสงพระจันทร์ส่อง..สิริผ่องประภาสม
ฤๅน้องมโนรม.................ฤ สิชมเสมือนกัน
..๏ เพรียกเพ้อละเมอถึง....และคะนึงมิเว้นวัน
ข่มใจมิใฝ่ฝัน..................รตินั้นก็ลุกลาม ๚

..๏ แผ่วผ่าวพระพายพัด.....และอุธัจประชิดตาม
ครั้นจิตพินิจความ.............มิสงบและบรรเทา
..๏ เหยียบย่ำกระหน่ำจิต...วิปริต ฤ หนอเรา
หม่นหมองมิบางเบา..........ขณะเศร้าและอาลัย ๚

..๏ ยามเมื่ออดีตนั้น..........ปริพันธ์กวีให้
กล่อมเจ้าระรื่นใจ.............อภิรมย์และสมปอง
..๏ ร้อยคำประพันธ์พจน์....นยะบทกวีผอง
เอื้อนอรรถรสพ้อง............สรพันและเย้ายวน ๚

..๏ เชยชิดสนิทเจ้า..........ผิว์กระเซ้าสิเสสรวล
ตรึงในฤทัยชวน-.............อนุจินต์ถวิลหา
..๏ ดาวเดือนสิเคลื่อนคล้อย....ดุจลอยและร้างลา
ตราบเมื่อสุรีย์จ้า..............ลลนา ฤ เช่นกัน ๚

..๏ สิ้นรักประจักษ์จิต........บ่สนิทสนมพลัน
ลืมเลือนอดีตนั้น..............มิตระหนักและภักดี
..๏ คืนนี้นภาพราว.............ศศิวาวสกาวศรี
แต่ข้าพเจ้ามี-...................ปริเทวนาการ ๚

..๏ คร่ำครวญคะนึงหา- .....วนิดาบ่เว้นวาร
เจ้าลืมเกษมศานต์............ณ อดีตกาลฤๅ ? ๚ะ๛



Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2549
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2549 22:57:07 น.
Counter : 2748 Pageviews.

0 comment
รักยืนยง(love will keep us alive)


สัทราฉันท์ ๒๑

๏ ฉันยืนอยู่เด่นและเดียวดาย...ละธุระอุระสบาย
อย่างสงบคลาย-....................ระทมทรวง
ปราศกังวลรุมและสุมดวง-........จิตะมุจะจรลวง*-
พ้นพิภพห้วง..........................มหันต์หาว ๚

๏ เธอยังเร่งหานิวาสคราว-.......พละ ณ มนะมิด่าว
หากแสดงราว.......................อะคร้าวนัก
ที่เร้นกายซึ่งประสงค์พัก..........อภิรติผิว์ประจักษ์
แม่จุฬาลักษณ์......................มิพรากกัน ๚

๏ แม้นความสูญเสียสิโรมรัน....ขณะจิตบ่มิพรั่น
อย่างมิไหวหวั่น....................ประคัลภ์คง
อีกยามโดดเดี่ยวและเปลี่ยวจง-..สติพิเคราะห์สละหลง
จึ่งวิจักขณ์บ่ง........................และปลงใจ ๚

๏ ยามนี้เธอมั่นเสมอใน-.........รติมธุระกระไร
มอบสว่างให้........................เสมอมา
ฉันยังคงชีพ ณ โลกา.............และมฤทุกะสง่า
ยืนตระหง่านกล้า...................มิล้าเลย ๚

๏ หากยากจนทนหิวมิพลั้งเปรย-..วจนะกวิมิเผย
ยังสิชิดเชย.........................นิรันดร์กาล
คงรักตราบเมื่ออวิญญาณ.......สมฤติผิว์ประสาน
ซึ่งทหัยนาน.......................และยืนยง ๚

๏ ขอเพียงเธอวางวิตกลง.......ละอรติและพวง
อย่างยะยรรยง....................ผจงฉันท์
ยามฉันพบเธอมิจาบัลย์.........กวิสิบริพันธ์
เอ่ยวจีนั้น...........................นะขวัญเอ๋ย ๚

…( สร้อย…)…

๏ หากยากจนทนหิวมิพลั้งเปรย-...วจนะกวิมิเผย
ยังสิชิดเชย.........................นิรันดร์กาล
คงรักตราบเมื่ออวิญญาณ.......สมฤติผิว์ประสาน
ซึ่งทหัยนาน........................และยืนยง ๚ะ๛



Create Date : 25 มกราคม 2549
Last Update : 25 มกราคม 2549 12:33:03 น.
Counter : 808 Pageviews.

0 comment
1  2  3  

จังงัง
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]