10 เมษา 53 ทหารและพลเรือนล้มตาย ใครได้ประโยชน์
อยากขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายตั้งสติคิดให้ดี เหตุการณ์วันที่ 10 เมษา เมื่อมีการยิงอาวุธหนัก และมีการล้มตายทั้งสองฝ่าย ใครได้ประโยชน์สูงสุดครับ ในการสืบสวนสอบสวน เราต้องดูแรงจูงใจ (motive) และความสามารถ (capability) ประกอบกัน ซึ่งผมวิเคราะห์ได้ดังนี้ เรื่องแรงจูงใจ คนที่ได้ประโยชน์มีเพียงแกนนำเสื้อแดง พรรคเพื่อไทย และคุณทักษิน เพราะจะได้มีศพไปแห่ จะได้ทำให้คนเกลียดชังรัฐบาลมากขึ้น ทำให้มีแรงกดดันให้นายกฯลาออกหรือยุบสภามากขึ้น ส่วนด้านพรรคร่วม อาจได้ประโยชน์บ้าง ถ้าเหตุการณ์รุนแรง สร้างแรงกดดันมากพอให้นายกอภิสิทธิ์ยอมแก้รัฐธรรมนูญอย่างที่เขาต้องการ ก่อนยุบสภา คุญชวลิตและพวกก็อาจได้ประโยชน์ ถ้านายกฯถูกบีบให้ลาออกและตัวเองได้มีโอกาสกลับมาเป็นนายกฯของรัฐบาลแห่งชาติที่อาจถูกจัดตั้งขี้น ส่วนเสื้อเหลืองและพรรคการเมืองใหม่นั้น ไม่ได้ไม่เสียอะไรมากจากการนี้ ที่เสียเต็มๆคือคุณอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์ เพราะถ้าไม่มีการใช้อาวุธหนักและไม่มีคนตาย ฝ่ายทหารย่อมสามารถควบคุมกลุ่มเสื้อแดงและสลายการชุมนุมได้ในเวลาไม่กี่วัน เพราะกำลังมีมากกว่า เรื่องก็จะกลับไปเหมือนสงกรานต์ที่แล้ว เพราะเสียงคนกรุงเทพเริ่มไม่เอากับเสื้อแดงแล้ว ในช่วงก่อนวันที่ 10 ไม่มีความจำเป็นต้องไปเสี่ยงใช้อาวุธหนักให้เกิดความสูญเสีย ส่วนที่เสียมากที่สุดก็คือทหารเหล่าพยัคฆ์บูรพาที่มีอำนาจอยู่ในปัจจุบัน เพราะจะทำให้ประชาชนจำนวนมากเกลียดทหาร โดยเฉพาะถ้าทหารบางคนเกิดบ้าเลือด ยิงประชาชนตายเป็นใบไม้ร่วงเพื่อแก้แค้นใหกับเพื่อนที่ตาย (ซึ่งเคราะห์ดีที่ไม่เกิดขึ้น มิฉะนั้นเสื้อแดงจะตายกันหลายร้อยคน ไม่ใช่สิบกว่าคนแบบนี้) ไม่ต่างจากช่วงหลังพฤษภาทมิฬ และเมื่อกระแสตีกลับ อำนาจที่มีก็จะหลุดไป ถ้าพรรคเพื่อไทยกลับมา ก็จะทั้งอนุพงษ์ทั้งประยุทธก็จะถูกปลดถูกเช็คบิลกันทุกคน และงบก็จะถูกตัดไม่เหลือ ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นต้องสร้างสถานการณ์เลย แค่ปราบไปแบบปกติแบบสงกรานต์ที่แล้วก็เรียบร้อยแล้ว เรื่องความสามารถนั้น คนที่สามารถสั่งให้คนไทยมายิงคนไทยด้วยกันแบบนี้ได้ ต้องมีเงินทองพอสมควร และมีเครือข่ายของพวกที่อยู่ด้านมืดอยู่ ซึ่งมีกันแทบทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อสีไหน พรรคไหน ยกเว้นสองกลุ่มคือ กลุ่มนายกอภิสิทธิ์และคนใกล้ชิดอย่างกรณ์ สาธิต ปณิธาน หรือศิริโชค เพราะเป็นพวกนักเรียนนอก ชนชั้นสูง จึงไม่มีเครือข่ายแบบนี้ เว้นแต่คุณสุเทพคนเดียวที่น่าจะพอมี อีกกลุ่มคือกลุ่มพยัคฆ์บูรพา ประวิทย์-อนุพงษ์-ประยุทธ ไม่ใช่เพราะไม่มีกำลัง แต่เป็นเพราะกำลังที่จงรักภักดีที่สุดของพวกเขาก็คือทหารพวกที่ถูกยิงมากที่สุด ทหารกลุ่มเดียวกันย่อมไม่มีทางตั้งใจยิงพวกเดียวกันเอง จึงเป็นไปไม่ได้ที่คนกลุ่มนี้จะเป็นคนสั่ง เพราะสั่งไปลูกน้องก็ไม่มีทางทำ ดังนั้น ถ้าวิเคราะห์จากทั้งสองด้านข้างบน ก็พอจะอนุมานได้ว่า นายกอภิสิทธิ์ไม่ได้เป็นคนสั่งฆ่าแน่นอน เพราะไม่มีทั้งแรงจูงใจ และความสามารถ ฝ่ายทหารระดับสูงก็เช่นเดียวกัน คุณสุเทพอาจสั่งหรือบงการอยู่เบื้องหลังได้เพราะมีความสามารถที่จะทำได้ แต่คุณสุเทพไม่มีแรงจูงใจ กลุ่มที่มีพร้อมทั้งแรงจูงใจและสามารถคือกลุ่มคุณทักษินและบริวารใกล้ชิดทั้งหลาย รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ซึ่งเราก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่า คนเหล่านี้ ต่างฝ่ายต่างก็ออกมากดดันนายกฯและพรรคประชาธิปัตย์อย่างสุดๆอยู่ในขณะนี้ หลายคนอาจไม่เชื่อ แต่ผมคิดว่าวาระสุดท้ายของคุณทักษินและพวกใกล้จะมาถึงแล้ว เพราะถ้าหากความจริงถูกเปิดโปงขึ้นมา ว่าคนที่สั่งการให้มีการฆ่าทั้งทหารและประชาชนเสื้อแดงนั้น ไม่ไช่ใครอื่น แต่คือคุณทักษินและพวก บรรดาเสื้อแดงใจบริสุทธิ์ที่รู้ความจริงว่าตัวเองถูกหลอก จะกลับไปจัดการคนกลุ่มนี้เองอย่างสาสมเอง เป็นเรื่องไม่แปลกที่ทรราชย์จะถูกจัดการด้วยน้ำมือของคนของตัวเอง มุสโสลินี และเชาเชสคู เป็นตัวอย่างที่ดี แกนนำเสื้อแดงก็รู้เรื่องนี้ดี จึงต้องพยายามให้ PTV ออกอากาศต่อไปให้ได้ เพราะเพื่อป้องกันไม่ให้มวลชนเสื้อแดงหันไปหาสื่ออื่นนอกเหนือจากสื่อของตัวเอง และจะต้องกดดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโดยเร็วก่อนที่สถานการณ์จะพลิกผันและความจริงเริ่มปรากฏ ผมเชื่อว่า ตอนนี้ มีเสื้อแดงจำนวนไม่น้อยที่อยู่ให้เหตุการณ์เริ่มรู้ตัวแล้วว่า มันมีอะไรไม่ชอบมาพากลในคืนนั้น แต่ยังไม่กล้าพูด กล้าออกมาเปิดตัวแสดงความคิดของตนเอง หนึ่งเพราะกำลังสับสนไม่แน่ใจ สองกำลังอยู่ในสภาพไม่อาจทำใจให้ยอมรับได้ว่า ตัวเองเข้าใจผิดสนับสนุนคนผิดมาตลอด สามอยู่ในอาการกลัว กลัวที่จะถูกดูถูกเหยียดหยามจากคนใกล้ตัวที่เคยเตือนสติ เคยต่อล้อต่อเถียงกันมา สี่ไม่ช่องทางที่จะแสดง และห้ากลัวที่จะถูกเก็บ เพราะถ้านักรบโรนินเหล่านี้ฆ่าคนไทยด้วยกันเองเพื่อประโยชน์ทางการเมืองได้ ทำไมจะหันมาฆ่าคนเสื้อแดงกลับใจที่จะหันมาเปิดเผยความจริงไม่ได้ ดังนั้น เราต้องพยายามสร้างช่องทางให้เสื้อแดงกลับใจเหล่านี้ ได้มีโอกาสให้ความจริงอีกด้านหนึ่งกับกลุ่มเสื้อแดงด้วยกัน ค่อยๆทำให้ความจริงปรากฏขึ้นมา ถ้าอ่านจากที่ผมวิเคราะห์ข้างบน หลายคนคงเชื่อว่าผมสนับสนุนคุณอภิสิทธิ์ ซึ่งก็เป็นความจริง แต่ผมก็อยากให้ความจริงปรากฏออกมาอย่างแท้จริงเช่นกัน ว่า ใครเป็นคนฆ่าและใครเป็นคนสั่งฆ่าตัวจริง ถ้านายกฯอภิสิทธิ์เป็นคนสั่ง ผมก็จะพร้อมจะกลับความคิด และหันมาต่อต้านเขาจนถึงที่สุด แต่ถ้าเป็นคนอีกกลุ่ม ผมก็ขอเรียกร้องให้อีกฝ่ายทำอย่างเดียวกัน ความจริงเท่านั้นที่จะทำให้เราเห็นทางไปข้างหน้าอย่างถูกต้องได้ ผมอยากจะท้าทาย ให้ทุกฝ่ายเอาหลักฐาน พยาน คลิปวิดีโอ ภาพ ฯลฯ ออกมาวิเคราะห์วิจารณ์กันให้มากที่สุด ผมไม่เห็นด้วยกับการมาพูดเรื่องนามธรม เรื่องความรับผิดชอบ หรือการหาทางออกจากวิกฤติในเวลานี้ เพราะนี้ไม่ใช่เวลาที่จะเอาสำนวนโวหาร เอาความเห็นความเชื่อที่ไม่เหมือนกันมาโต้แย้งกัน แต่เป็นเวลาที่จะต้องเอาเรื่องจริงที่เกิดขึ้นมาวางบนโต๊ะ แล้วพิจารณาอย่างถี่ถ้วนว่า แท้ที่จริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้น ซึ่งมันไม่ได้ยากเลย เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลาเพียง 5-6 ชั่วโมง และมีพยานแวดล้อม พยานบุคคล ตลอดจนกล้องบันทึกภาพต่างๆเป็นจำนวนมาก ถ้าเอามาคุยกันให้หมด แล้วทำการจำลองสถานการณ์และปะติดปะต่อลำดับของเหตุการณ์และตำแหน่งที่พยานต่างๆอยู่ในแต่ละเวลา โดยสื่อต่างๆไม่จะเป็นทีวี วิทยุ โทรทัศน์ ควรจะต้องทำรายการเหล่านี้ ให้พยานต่างๆออกมาให้ข้อมูลกันมากๆ คิดว่า ไม่เกิน 1 เดือน ทุกคนก็จะเห็นภาพชัดเจนว่าอะไรเป็นอะไร จากนั้น เมื่อความจริงปรากฏแล้ว สังคมไทยจะเห็นทางออกเอง พร้อมกันนี้ จากหลักฐานที่ปรากฏจนถึงปัจจุบัน ก็ชัดเจนว่ามีคนชุดดำกลุ่มหนึ่งออกมาช่วยเสื้อแดงสู้กับทหารโดยใช้อาวุธหนัก เช่น M79 และ ปืนไรเฟิล (M16 และ อาก้าร์) ถ้าเราจับคนเหล่านี้ได้แม้เพียงคนเดียว การสืบสวนสอบสวนก็จะขยายผลได้ เพราะคนกลุ่มเดียวกันนี้เอง ที่น่าจะเป็นผู้สังหารเหยื่อเสื้อแดงที่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ผมจึงใคร่ขอเรียกร้องให้ประชาชนผู้รักความเป็นธรรม เรี่ยไรเงินมาให้เป็นสินบนนำจับ ให้กับคนที่สามารถชี้ช่องให้ตำรวจสามารถจับคนเหล่านี้ให้ได้ หรื่อไม่ก็มอบให้คนเหล่านี้บางคนที่พร้อมจะหักหลังพวกเดียวกันเอง พร้อมที่จะออกมาให้ปากคำเพื่อทำความจริงให้ปรากฏออกมา ผมคิดว่าสักสินบนนำจับสัก 20 ล้านบาทก็น่าจะเพียงพอ ซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่มากเลย เพื่อจะแลกกับความจริงที่จะได้ ถ้ามีใครที่น่าเชื่อถือ ประกาศตัวออกมาเป็นตัวตั้งตัวตีในเรื่องนี้ ผมเชื่อว่าจะมีประชาชนผู้รักความถูกต้องออกมาให้การสนับสนุนเป็นจำนวนมาก รวมทั้งผมด้วย รัฐบาลอาจจะทำก็ได้ แต่เงื่อนไขการจ่ายเงินของทางรัฐนั้นยุ่งยาก อาจทำให้ไม่ใครไว้ใจว่าสุดท้ายตัวเองจะได้เงินจริงๆหรือไม่ ผมจึงคิดว่า เงินเรี่ยไรจากประชาชนน่าจะได้ผลมากกว่า สุดท้ายนี้ ถ้าเห็นด้วยกับการวิเคราะห์และข้อเสนอของผมข้างต้นนี้ ก็ขอให้ส่งต่อกันออกไปมากๆด้วย เพื่อบ้านเพื่อเมืองของเราครับ ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ด้วย ผู้เขียน : K.อาทิตย์ (www.manager.co.th)
Create Date : 14 เมษายน 2553 | | |
Last Update : 14 เมษายน 2553 11:46:16 น. |
Counter : 378 Pageviews. |
| |
|
|
|