★ ★This is just the beginning of my journey ^^ ★ ★
Group Blog
 
All Blogs
 

เมื่อวันหยุดฉันกลับไทยไม่ได้ จึงตามเพื่อนไปโกเบ K O B E Japan

 สวัสดีค่ะเพื่อนๆ พิงกลับมาอีกแล้ว

ช่วงนี้ว่างหลายวันค่ะ เลยคิดว่าจะมาเขียนซักหน่อย
ตอนแรกก็คิกว่าจะเขียนเรื่องอะไรดี เพราะเพิ่งกลับมาจากจอร์เจีย และสเปน
แต่พอมาค้นๆ รูปดู เอ๊ะ ... มี Destination นึงที่เตรียมรูปไว้แล้วแต่ลืมเขียนซะงั้น

นั่นคือประเทศโปรดของคนไทย
ญี่ปุ่นนั่นเองค่ะ

เมื่อหน้าหนาวที่ผ่านมา (ที่นานมาแล้ว)
พิงหยุดหลายวันค่ะ อยากกลับเมืองไทยแต่กลับไม่ได้
เพราะไม่มีที่นั่งเลยค่ะ
พวกพิงใช้สิทธิ์จ่ายค่าตั๋วพนักงานแค่ 10% ดังนั้น พวกเราเป็น Last Priority อยู่แล้วค่ะเวลาขึ้นไฟลท์
และประกอบกับเป็น High Season ของเมืองไทย

โอเค ไม่กลับก็ได้ !!!

ประกอบกับต่ายเพื่อนสนิทมีไฟลท์บินไปทำงานที่โอซาก้าพอดี กับมีฝ้ายเพื่อนอีกคนหยุดเหมือนกัน
เราจึงตัดสินใจกันว่า ป่ะ!! ตามต่ายไปกันเถอะ 555
ไม่ต้องเสียค่า รร. ด้วย ขอนอนด้วย

ว่าแล้ว เราก็ไปกันเลยค่ะ

*พิงขอออกตัวก่อนนะคะว่าในส่วนของรายละเอียดอาจจะลงได้ไม่ครบ
เรื่องราคาค่าตั๋ว สายรถ และอื่นๆ เพราะว่ามันค่อนข้างมาแล้ว ลืม!!
ขอโทษด้วยนะคะ คราวหลังจะไม่ขี้เกียจ เที่ยวไปอัพไป
บล๊อคนี้ก็ดูรูปไปก่อนนะจ๊ะ

เราออกเดินทางกันจากโดฮาประเทศกาต้าร์ค่ะ เวลาเดินทางถ้าจำไม่ผิดก็น่าจะเกือบ 10 ชมค่ะ (กรี๊ด)
หน้าสดกว่านี้ไม่มีอีกแล้ววว


พอมาถึงสนามบิน เราตกลงกันว่าจะไม่เข้า รร. ค่ะ จะรออยู่ที่สถานี แล้วจะไปทานข้าวกันที่
Yodobashi ค่ะ ตึกโยโดบาชิตามความเข้าใจของคนไทยคือตึกที่ขายเครื่องใช้ไฟฟ้า electronics
ทุกชนิด รวมถึงกล้องด้วยค่ะ แต่หารู้มั้ยว่าชั้น 8 ที่ขายอาหาร มีร้านอาหารอร่อยๆ ซ่อนอยู่เพียบ

เอาล่ะ ออกมาจากแอร์พอร์ท ก็นั้งบัสไปที่ Osaka Station ค่ะ นัดกันไว้ที่นั่น
ออกมาจะมีที่ขายตั๋ว ซื้อโลด

 photo ko2_zpsv8jo8bex.jpg


ญี่ปุ่นนี่เค้าจริงจัง มีฝากกระเป๋าใต้ท้องและมี tag กระเป๋ากันหายด้วย
 photo ko3_zpstecdlk6r.jpg

เอาล่ะ เมื่อพิงกับฝ้ายไม่ได้เข้า รร. ก็ต้องมาหาที่ไว้กระเป๋าก่อนค่ะ ใน Station จะมีล๊อคเกอร์หลาย
ขนาดให้เลือกค่ะ ราคาแตกต่างกันไป

 photo ko4_zpslxvle1wd.jpg

 photo ko5_zpsr2w6bsij.jpg


เมื่อฝากของแล้ว ก็รอต่ายไปเปลี่ยนชุดมาจากโรงแรม เสร็จแล้วก็ไปร้านชาบูร้านโปรด
ถ้ามาช้า (เหมือนพวกเรา) ก็ต้องต่อแถวกันจนหางแถวตวัดไปอีกสองรอบอ่ะค่ะ

 photo ko6_zpsyagaytwg.jpg

วันแรกก็จบไปแค่นี้ค่ะ เพราะเรามาถึงก็เป็นเวลามื้อเย็นพอดี
ยังจำได้ว่าตอนนั้นยังหนาวมากๆ เลยนะ

วันรุ่งขึ้นจริงๆ พวกเรามีหลายแผนมากว่าอยากไปไหนดี
จริงๆ เรายังไม่เคยไปโกเบค่ะ แล้วไม่ไกลด้วย เดินทางด้วยรถไฟ JR นี่แป๊บเดียว
ถ้าจำไม่ผิดที่แค่ครึ่งชั่วโมงได้
แต่ใครที่หวังจะได้เห็นพวกเราไปกินเนื้อโกเบต้องขอโทษด้วยนะคะ
คือเพื่อนพิงสองคนมะกินเนื้ออ่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวไว้รอโกเบรอบหน้าๆๆ

ตื่นเช้ามาก็มั่นหน้าไปยังโอซาก้าสเตชั่นอีกครั้งเพื่อหารถไฟไปโกเบค่ะ
Breakfast กันแถวนั่นค่ะ
 photo ko1_zpsd9457422.jpg

เอาล่ะ ขึ้นรถไฟฉึกฉักกันเล้ยยยย
 photo ko2_zps02bf6286.jpg


เรานั่งรถไฟกันมาถึงสถานี Shin Kobe ค่ะ จุดหมายแรกเราจะไปไหว้พระกันที่ศาลเจ้า Ikuta Shrine ค่ะ

เอาล่ะ ล้างมือเพื่อความเป็นสิริมงคลกันก่อนค่ะ
 photo ko3_zpsd495d480.jpg

สัญลักษณ์ของวัดค่ะ
 photo ko4_zps2c4f9ad1.jpg

เจอหนุ่มยุ่นใจดีอาสามาถ่ายรูปให้ค่ะ เลยโชคดีมีรูปสามคน
 photo ko5_zps44fb0b7f.jpg

ท่าโพสไม่ได้เกี่ยวกับวัดเลย
 photo ko6_zps3930e7da.jpg

 photo ko43_zps7728314a.jpg

ไหว้พระแล้วก็มีมุมเครื่องรางค่ะ อันนี้เป็นเรื่องความรักค่ะ ผู้ชายพกสีขาว ผู้หญิงพกสีแดง
ผ่านมาจะปีนึงแล้ว พิงกับแฟนก็ยังพกติดกระเป๋าไว้ตลอด
 photo ko8_zps555cdeae.jpg

 photo ko7_zpsf5122ad8.jpg

ถ้าเขียนคำอธิษฐาน สามารถเอามาแขวนไว้ตรงนี้ได้ค่ะ เจอภาษาไทยเพียบอีกตามเคยค่ะ
 photo ko10_zps7e5b267f.jpg

ตอนนั้นเจอมุมนี้ ใบไม้กำลังเปลี่ยนสีสวยงามมากๆ ค่ะ
 photo ko9_zpsc0db77a3.jpg

จบจากวัด ต่อไปนี้ก็ไปเที่ยวชิวๆ ถ่ายรูปเล่นกันบ้างค่ะ
ที่ต่อไปที่เราจะไป เดินขึ้นเขาไปอีกไม่ไกลคือหมู่บ้าน Kitano ค่ะ

มีเรื่องเล่าว่าในคริสตศตวรรษที่ 19 ตอนที่ญี่ปุ่นเริ่มเปิดท่าเรือให้มีการค้าขายกับชาวต่างชาติ
ก็มีกลุ่มพ่อค้าวาณิชผู้ร่ำรวยชาวต่างชาติมาสร้างหมู่บ้านอยู่อาศัยกันอยู่ที่นี่ค่ะ
ตอนนี้เปิดเป็นสถานที่ให้ท่องเที่ยวค่ะ

 photo ko13_zps204a1879.jpg

สวยเนอะ อย่างกับเซ็ตฉากไว้ถ่ายหนังเลย

เค้าบอกว่านี่คือ Starbucks สาขาที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นนะ
 photo ko11_zpsb339aed0.jpg

 photo ko12_zpsda22388e.jpg

เราก็เดินเล่นถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนานค่ะ

มากับเพื่อนยังไงก็สนุกค่ะ
 photo ko15_zpsd7ec45f4.jpg

 photo ko14_zpsce17b7fe.jpg

 photo ko16_zpsf5e65d89.jpg

 photo ko41_zps12060784.jpg

อลังการดีว่าม้ายย??
 photo ko18_zps7972d687.jpg

หน้าบ้านก็จะมีเจ้าตัวนี้ ตอนนั้นพิงอ่านมานะแต่ลืมไปแล้ว
แต่ประมาณว่าลูบจมูกหมูตัวนี้แล้วจะมีแต่โชคดี ร่ำรวยค่ะ
 photo ko19_zps1192a7a6.jpg

 photo ko20_zpsebf891c9.jpg



เข้าไปชมด้านในกันบ้างค่ะ มุ้งมิ้งน่ารักมาก

 photo ko21_zps413f3d33.jpg

ดีเทลเล็กๆ น้อยๆ เป็นอะไรที่น่ารักมากค่ะ
 photo ko22_zps6b81f7c2.jpg

 photo ko23_zps03d5e117.jpg

 photo ko24_zpsba45276e.jpg

มีห้องหนังสือ และห้องอาหาร
 photo ko25_zps70a5f4f2.jpg

 photo ko26_zps0ebb4eef.jpg

ชอบรูปนี้มาก มันทำให้นึกถึงว่าพวกเรามีความสุขกันมากแค่ไหน
 photo ko27_zps8e4527e4.jpg



ก่อนออกจากโกเบเราแวะร้านกาแฟน่ารักมาก ทานเค้ก และจิบชากาแฟด้วยกันมั้ยคะ ??

 photo ko28_zps65a2f8ac.jpg

 photo ko45_zps3ac15466.jpg


ร้านสวยมากจริงๆ ค่ะ

เอาล่ะ ออกจากโกเบกลับมาเดินเล่นกันที่ชินไซบาชิ ที่ๆ คุ้นเคยค่ะ
 photo ko30_zps25b7c0f0.jpg

คนไทยเยอะตามเคย
 photo ko31_zpsd8ca3bdc.jpg

มุมบังคับค่ะ
 photo ko32_zps8d1e958a.jpg

แล้วนี่เลย Ipudo Ramen ของจริง!! อร่อยที่สุด!!!


 photo ko29_zps9b33ffe4.jpg


จำได้ว่าวันนั้นช้อปกันไปเยอะมากกกก แล้วเราสามคนก็ซื้อเสื้อที่มันเป็น set เดียวกันมาด้วย
วันต่อไปก็ใส่ออกไปกินข้าวกันเลย

น่าร้อคมากอ่ะ!!!

 photo ko44_zps7df295a4.jpg

เอาล่ะ มาที่ตึกโยโดบาชิเหมือนเดิมมม มีร้านซูชิจานหมุน ที่อร่อยมากๆอยู่ร้านนึง
ที่สำคัญ ราคาเทียบกับเมืองไทยไม่ได้เลย
บอกเลยว่าที่ญี่ปุ่น คุณภาพพรีเมี่ยมและราคาถูกมากด้วยนะคะ

เป็นแบบสายพานค่ะ เวลาสั่ง สั่งอย่างงิ
 photo ko33_zpsdd8b0195.jpg

มาที่นี่คราวนี้โชคดีหน่อยที่เรา 3 คนได้ภาษาญี่ปุ่นกันหมดเลย
เพื่อนจะเก่งกว่าด้วยซ้ำเพราะเค้าเรียนเป็นเมเจอร์มาค่ะ

 photo ko33_zpsdd8b0195.jpg

เอาล่ะ และนี่คือรูปร่างหน้าตาของอาหารค่ะ!!

 photo ko34_zpsaf8acd78.jpg

 photo ko36_zps6eb3f017.jpg

 photo ko35_zps16627378.jpg

 photo ko37_zps7694a539.jpg

 photo ko38_zpse6d0a784.jpg

กินเยอะมวกกกกก
 photo ko39_zps7c49a100.jpg

ทริปใกล้จบลงแล้วจ้า
ไปเจอเจ้าตัวนี้ที่แอพอท สอยมาอย่างรวดเร็ว

 photo ko40_zpsa529bed1.jpg

จบแล้วค่ะ ทริปสั้นๆ ที่แสนประทับใจครั้งนี้
ดีใจมากๆ ที่มีเพื่อนดีๆ มีครอบครัวอบอุ่น และได้กินของอร่อยๆ

ความสุขพิงมีแค่นี้จริงๆ นะ simple สุดๆ!!

เจอกันรอบหน้านะคะ

สวัสดีค่ะ




 

Create Date : 17 กรกฎาคม 2558    
Last Update : 18 กรกฎาคม 2558 0:39:56 น.
Counter : 3040 Pageviews.  

เมื่อฉันกลายมาเป็นหัวหน้าคนใหม่ของสายการบิน

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ พิงกลับมาแว้ววว

ห่างหายไปนานก็เพราะว่าช่วงหลังๆ จะได้ไปแต่ destination เดิมๆ ค่ะ
อีกอย่าง ตอนนี้อะไรๆ มันก็ไม่เหมือนเดิมแล้วค่ะ
คือเมื่อก่อนตอนพิงมา ตอนเขียนเยอะๆ ได้ไปนู่นมานี่เยอะๆ คือ พิงสามารถบินได้ทุกที่ค่ะ
แต่ตอนนี้ ด้วยการเติบโตของบริษัท ทำให้เราสั่งเครื่องบินมาใหมาเป็นจำนวนมากค่ะ
ยกตัวอย่างเช่น Boeing 787 Dreamliner ก็จะบินแค่แถบ Europe และ Scandinavian ค่ะ
ซึ่งพิงไม่ได้ license ตัวนี้เพราะ license เต็มค่ะ
พิงบิน Airbus 319 320 321 330 340
Boeing 777 (เครื่องนี้บินกรุงเทพก็พอใจแล้วค่ะ) + US visa
ดังนั้นเครื่องใหม่ล่ามาแรงอย่างนกยักษ์ Airbus380 และ A350 ก็อดไปค่ะ
(คนเก่าแก่ย่อมได้ของเก่าแก่ค่ะ) 555

พูดแต่เรื่องรุ่นเครื่องบินเพื่อนๆ คงงง และเบื่อแย่เลยใช่มั้ยคะ 555
แต่ก็อยากให้เข้าใจเนอะ ตามสายการบินที่มีเครื่องหลายๆ รุ่น ลูกเรือก็จะแบ่งกันไปตามรุ่น ตาม Route ค่ะ

ตอนนี้สายการบินพิงบอกเลยว่า ตั้งแต่มีผู้บริหารคนใหม่ เราเรียกกันชื่อเล่นว่า
"พี่กุหลาบ"
อะไรๆ ก็ดีขึ้นมากค่ะ ความเป็นคนกลับมาอีกครั้ง
แคมเปญที่พี่ท่านเริ่มมาก็เช่น ให้ buddy ticket 10 ใบ
หมายถึงตั๋วสตาฟราคาถูก จะให้ใครก็ได้ 10 ใบค่ะ เมื่อก่อนจะให้ได้แต่พ่อแม่พี่น้องเท่านั้นค่ะ
อีกอันนึงที่เพิ่งเห็นคือ เวลาลูกเรือไปนั่ง Airport standby ตอนนี้อนุญาติให้ใช้มือถือและ tablet ได้ค่ะ
เมื่อก่อนกฏโหดมาก อยู่ใน uniform ยังไงก็ห้ามใช้เครื่องมือสื่อสารค่ะ

มีอีกหลายเรื่องเลยค่ะ ซึ่งพิงค่อนข้างโอเคกับผู้บริหารคนนี้มากๆๆๆๆๆ
พิงเคยเจอเค้าครั้งนึงค่ะ ตอนเค้ามาใหม่ๆ เดินมากับ CEO ค่ะ
ระหว่างนั้นเค้าก็มาถามว่า เราจะไปไหน safe flight นะ คือ เค้าดูสนใจกับน้องๆ พนักงานทุกคน
ตอนนี้ใช้ชีวิตง่ายขึ้นนะคะ เค้ากำลังนำความมีชีวิตชีวาขึ้นมา

แต่บางเรื่องที่พิงไม่ชอบก็มีนะคะ 5555 เช่น

เมื่อก่อน เวลาที่ใคร senior แล้ว มันจะเป็นระบบเลื่อนขั้นอัตโนมัติค่ะ
เช่น ถ้าเคยติดตามมาก่อน ตอนที่พิงได้ promotion business class & first class 
ก็จะเป็นระบบแบบอัตโนมัติ ซึ่งก็คือเรียกไปเทรนเลยค่ะ ไม่มีการเชคอะไร ใดๆ ทั้งสิ้น

แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้วค่ะ ไม่ว่าจะเลื่อนขั้นเป็นอะไร จะต้องมีการสอบข้อเขียน สอบเขียน
สอบสัมภาษณ์ก่อนทุกครั้งค่ะ 

ตอนนี้พิงได้เลื่อนเป็นหัวหน้าแล้วนะคะ หรือที่คนไทยเรียกกันติดปากว่า Purser ค่ะ
ง่ายขึ้นไปอีกก็เรียกว่า In flight supervisor ค่ะ 
ที่สายการบินกาต้าร์แอร์เวย์ จะมีหัวหน้าเล็ก กับหัวหน้าใหญ่ค่ะ
หัวหน้าเล็ก (Cabin Senior or CS) in charge เครื่องบินลำเล็ก (ผู้โดยสารไม่เกิน 170 คน) 
ถ้าเป็นเครื่องใหญ่ เราจะดูแล Economy cabin ทั้งหมดค่ะ 

หัวหน้าใหญ่ (Cabin Service Director or CSD)  in charge เครื่องบินลำใหญ่ค่ะ 

ตอนนี้เพื่อนๆ ก็จะเรียกล้อๆ ว่า CS พิงค่ะ หรืออีกชื่อเล่นคือ "เทาเล็ก"
เพราะตอนนี้เราเปลี่ยนมาใส่เครื่องแบบสีเทาค่ะ ถ้าเทาใหญ่จะหมายถึง CSD ค่ะ
ตอนนี้เพื่อนๆ ในกลุ่มบ้างก็ปฏิเสธตำแหน่ง เพราะทำเฟิร์สคลาสมันแสนนนนสบายยย (มาก)
บ้างก็ยังไม่โดนเรียกค่ะ เค้าอาจจะสุ่มๆ เอาก่อนค่ะ (มั่วนะคะ)

ภาพจากวันที่เรียนจบค่ะ

 photo IMG_2716_zpsvk2a8vxh.jpg

ตอนแรกพิงไม่อยากได้หรอกค่ะ เพราะภาระมันจะมากขึ้น เงินก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นขนาดนั้น
ที่สำคัญ ในตารางเราจะได้บิน turnaround เยอะ 
หมายถึง เราจะไม่ได้บินไปนอนตามประเทศต่างๆ เท่าไหร่ เพราะเราดูแลเครื่องเล็ก 
รูทที่บินก็ไม่น่าจะเกิน 5-6 ชม ( เกินกว่านั้นน้ำมันหมด 555) จึงจะได้บินแบบไปๆ กลับๆ
(ถ้านึกไม่ออกก็ประมาณว่าบินกทม เชียงใหม่เสร็จ ก็ไปบิน กทม ขอนแก่นต่อ)

แต่ทีนี้ มาคิดกันอีกที..

มันเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ลอง ได้พัฒนาความสามารถของตัวเอง
เพราะพิงและเพื่อนๆ จะพูดกันเสมอว่า ตอนนี้หลับตาทำงานยังได้เลย
มันเริ่มไม่มีอะไรท้าทายแล้วค่ะ ทุกอย่างมันเหมือนทำงานได้เงินไปวันๆ
ตอนนี้ที่ company เห็นความเป็นไปได้ในตัวเรา แสดงว่า เราต้องทำได้สิ พิงเลยบอกเพื่อนๆ
"เอาวะ ! พิงจะลองดู"
แล้วถ้าหากไม่ชอบ ยังไงพิงก็มีแพลนอยากลาออกอยู่แล้ว (บินมา5 ปี ร่างกายพังหมดแล้วค่ะ)
ลองรับโอกาสนี้ดู ไม่เสียหาย เริ่มเร็วเป็นเร็ว ล้มเร็ว จะได้ลุกใหม่เร็วๆ

ปัญหาบางอย่างที่เริ่มจะเจอตอนนี้คือเรื่องอายุค่ะ 
สำหรับคนเอเชีย เน้นว่าคนเอเชียนะคะ ไม่ใช่แค่พิง
จริงๆ อายุ 27 ดูยังไงมันก็ดูไม่น่าเคารพเชื่อถือ 5555 สำหรับการเป็นหัวหน้า
ลูกเรือ F2 (economy) มักจะถามพิงทุกครั้งเลยว่านี่ยูอายุเท่าไหร่?
เทอดูเด็กมากเทียบกับการเป็นหัวหน้า
(ซึ่งถ้าเป็นชาติเกาหลีหน้าจะเด็กหนักลงไปอีก คนไทยควรภูมิใจนะ เอเชียหน้าเด็กจริงๆ)
หลายๆ ครั้งที่ต้องคุม ต้องออกคำสั่งกับคนที่อายุมากๆ กว่า วันนั้นบินกับคนไทยอายุ 33
เคยบินกับฝรั่งผู้ชายอายุ 35

สื่งที่ต้องทำให้เค้าฟังเราให้ได้คือ การทำตัว professional
ซึ่งเพื่อนๆ ที่เคยอ่านเรื่องราวของพิงมาบ้างน่าจะรู้ว่า 

"พิงมันก็แค่คนบ้าคนหนึ่ง 5555"

ตอนนี้ที่ทำได้คือ ในงานต้องเป๊ะ นอกงานก็เล่นปกติ (ยังโดนลูกเรือแกล้งแหย่อยู่เลย)

ที่พิงไม่อยากให้เกิดขึ้นคือ

"การสูญเสียความเป็นตัวเอง"

พิงจะไม่ยอมใหัปัจจัยอื่นๆ มาเปลี่ยนความเป็นตัวเราเด็ดขาดค่ะ

เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ เป็นกำลังใจให้พิงด้วยนะคะในบทบาทใหม่

สำหรับทุกคนก็เช่นกันค่ะ ไม่ว่าในเรื่องอะไร

"ถ้าคุณเชื่อว่าคุณทำได้ คุณก็จะทำมันได้"


สวัสดีค่ะ




 

Create Date : 01 มิถุนายน 2558    
Last Update : 2 ตุลาคม 2558 16:31:21 น.
Counter : 3628 Pageviews.  

จาก Osaka สู่ Kyoto ตอนที่1


Happy New year 2015 to all คร่าาาาาาาาาา


  สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ พิงกลับมาแล้วค่ะ
สำหรับคนที่คิดว่าพิงหายไปแล้ว ยังค่ะ ชั้นยังไม่ตายยยย!!!
Reincarnate กลับขึ้นมาอีกครั้งค่ะ

วันนี้จะพาไปเที่ยวเกียวโตอีกครั้งนึงค่ะ หลังจากประมาณปีที่แล้วที่พิงเคยพาไปตอนซากุระบาน
ตอนนั้นเป็นแบบเต็มสตรีมกว่านี้ค่ะ ใครพลาด กดอ่านย้อนหลังได้นะคะ
รูปสวยมาก แต่คนไม่ค่อยสวยค่ะ

เอาล่ะค่ะ ปีนี้ หน้าหนาว สายการบินของพิงได้เพิ่มชั่วโมงการเลย์โอเวอร์
(หมายถึง ชั่วโมงที่เราจะได้อยู่ประเทศนั้นๆ) ขึ้นมาอีก 1 วันเต็มๆ เลยค่ะ ในหน้าหนาว

ทำไมต้องในหน้าหนาวล่ะ?
เพราะว่า ปกติแล้ว ไฟลท์ขากลับจากโอซาก้ามาโดฮา มัน 12 ชั่วโมงค่ะ
ปกติ เราจะได้พักบนเครื่องประมาณ 3 ชั่วโมงค่ะ
แต่ตอนนี้บริษัทขอถอดการพักนี้ออก จึงเพิ่มเวลาพักที่ประเทศนั้นๆ ให้เราแทนค่ะ
ขากลับ 12 ชั่วโมงทุกคนไม่ได้พักจึงมีสภาพเยี่ยงซอมบี้เด้อ!!

เอาล่ะค่ะ

วันนี้พิงจะออกเดินทางไปเกียวโตอีกครั้ง เราตั้งต้นกันที่ Osaka Station
พิงอยากจะพูดมากเลยว่ามันเป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ไม่ชัวร์ไง
คือมันใหญ่มากๆ ในความคิดของพิงค่ะ

จริงๆ ใครติดตาม IG จะรู้ว่าถึงพิงจะพูดญี่ปุ่นได้นิดหน่อย แต่พิงไม่ค่อยได้ไปญี่ปุ่น
ดังนั้น พิงจะไม่รู้ทาง ไม่รู้อะไรทั้งสิ้นค่ะ
แต่เพื่อนร่วมทางแสนน่ารักของพิง 2 คน ไม่รู้ยิ่งกว่าพิงอีกค่ะ
คนอยู่มาก่อนจึงต้องเป็นผู้นำ 5555

เริ่มมาที่สถานีค่ะ พิงก็ตะโกนโหวกเหวกกันตามสไตล์ว่า
"เฮ้ยกี่บาทวะ ไหนเกียวโต ไหนๆ ห่านนนน สายไหนวะ???" พร้อมคำหยาบอีกมากมาย

แล้วก็มีเสียงผู้ชายใจดีคนนึงเอ่ยขึ้นมาข้างๆ ว่า

"560 เยนครับ ซื้อตู้ตรงนั้นเลย"


พวกเราเริ่มหน้าเจื่อนด้วยความอาย  .... "ขอบบบคุนนนค่ะะ!"

เราออกเดินทางกันด้วยรถไฟ JR ความเร็วสูงค่ะมันจะมี 2 แบบนะคะ
1. Local จะจอดทุกสถานีจนถึงเกียวโต ซึ่งจะใช้เวลามากกว่า
2. Rapid พุ่งไปเกียวโตเลย ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น เร็วมากๆ เลยค่ะ

การเลือกรถไฟ หากอ่านป้ายไม่ออก ให้สังเกตตรงตัวรถไฟเลยค่ะ
จะมีไฟวิ่งๆ ติดไว้ว่า Rapid หรือ Local ค่ะ

ที่แรกที่เราจะไปกันอีกครั้งคือ ศาลเจ้า Fushimi Inari Taisha (Shrine) ค่ะ

พอถึงเกียวโตสเตชั่นแล้ว เปลี่ยนสายไปสายนารา นั่งไปแค่ 2 สถานีค่ะ จะถึง
เราถามพนักงานว่าต้องซื้อตั๋วเพิ่มยังไง เค้าบอกไม่ต้องค่ะ
ค่อยไปจ่ายเพิ่มตอนถึงก็ได้ค่ะ ไปจ่ายกับเครื่องในรูปนี้เลยค่ะ

 photo os4_zps2d6bbb1c.jpg

นี่คือหน้าตาเครื่องปรับยอดตั๋วค่ะ สะดวกสบายมากๆ
หยอดตั๋วเข้าไป เค้าก็จะบอกราคาที่เราต้องใส่เพิ่มค่ะ

เดินออกมาจากสถานี ตามฝูงชนไปเลยค่ะ
(คนไทยทั้งน้านนนน จะนินทาใครเม้ามอยอะไรระวังนะจ๊ะ
ก็จะเห็นศาลเจ้าสีแดง แสดงว่าเรามาถึงแล้วจ้า

 photo os5_zps0f1c26d2.jpg

วันนี้ฟ้าเปิดอากาศสดใส แต่แบบหนาวมากนะคะ ช่วงเดือนธันวา


ก่อนจะเข้าวัดหรือศาลเจ้าในญี่ปุ่นทุกๆ ที่เราต้องล้างมือก่อนค่ะ
 photo os6_zpsbcd93523.jpg

มี Instruction บอกค่ะ ว่าต้องเทน้ำใส่มือไหนก่อน ล้างปาก
อยากจะบอกว่า น้ำเย็นมากกกกก มือที่แบบแข็งเลยค่ะ
แทบไม่รู้สึก

นี่คือสัญลักษณ์สำคัญของที่นี่เลยค่ะ ซุ้มประตูสีแดงยาวววว สุดลูกหูลูกตา
 photo os9_zps9383e553.jpg

พิงไม่เคยเดินจนสุดเลยค่ะ

 photo os7_zpsa2b73d6a.jpg

นี่คือแผนที่ค่ะ กว้างใหญ่ไพศาลมาก

บางทีหนูก็กลัวสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะเคืองนะ เพราะมาที่ถ่ายรูปกันอย่างเดียวเลยค่ะ

มีที่ให้โยนเหรียญ ขอพร และสั่นกระพรวนค่ะ
แต่เค้าห้ามถ่ายรูป กระพรวนลูกใหญ่ๆ (มาก) จะแขวนไว้ด้านบนค่ะ
ให้ไปสั่นกระพรวนเมื่อโยนเหรียญลงไปแล้ว
สั่นยากนิดนึงค่ะ ต้องพยายามหน่อย แล้วขอพรนะคะ

ด้านข้างมีพิธีกรรมค่ะ ต้องมีคุณพี่ security นั่งเฝ้าเลย นักท่องเที่ยวคนไหน
เข้าใกล้ พี่แกจะมีไม้ยาวๆ เป็นสัญลักษณ์ห้ามถ่ายรูปค่ะ
เราก็ไปยืนดูซักพัก สวยงามมาก หลอนๆ นิดนึง
เดานะคะ เหมือนเป็นการปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย มีพัด มีกระพรวน
แต่ประทับใจค่ะ สวยงาม

ใครอยากเขียนขอพรก็ตรงนี้เลยค่ะ เห็นมีภาษาไทยเพียบเลย

 photo os8_zps4a4c2809.jpg

หิวแล้ววว ทำไงดีนะ
มีเป็นร้านค้า ร้านอาหารแบบชาวบ้านแถวๆ นั้นเลยค่ะ
หลายร้าน ดูแบบ Authentic ดี มาเพิ่มพลังกันด้วยข้าวหน้าปลาไหลค่ะ

 photo os23_zps94353df8.jpg

พิงสั่งเพราะเห็นเค้าตากปลากันหน้าบ้านเลยค่ะ
พิงเคยไปทานอาหารญี่ปุ่นที่ไทย (ร้านประจำ)
สังเกตเห็นว่า ปลาไหลที่เราสั่ง มันจะมาในแพคสูญญากาศ
คือเชฟไม่ต้องทำอะไรแล้ว หั่นอย่างเดียว
เห็นนี่สดๆเลย เลยอยากจะลอง
ไม่ผิดหวังค่ะ อร่อยผิดกัน
ที่โกรธนิดนึงคือมันแพงกว่าข้างนอกอ่ะค่ะ คงขายนักท่องเที่ยว
โถ่ป้า....ทำไมทำงี้นะ

อากาศหนาวๆ ต้องชาเขียวร้อนๆ เลยค่ะ
 photo os10_zps72955c98.jpg

โต๊ะเราขอเติมจนป้าเอากามาตั้งให้เลย ฮ่าๆๆๆ

ที่ดีอย่างนึงคือที่ญี่ปุ่นเรื่องห้องน้ำไม่ใช่ปัญหาเลย
ในวัดก็มี ในสถานีก็มี เพราะว่าสถานีส่วนใหญ่จะมีสภาพเป็นห้างไปด้วยค่ะ

เล่าถึงเรื่องห้องน้ำ ขอคั่นก่อน

พิงรู้สึกมานานแล้วว่าที่ญี่ปุ่น งานทุกงานของคนทุกคนเป็นงานที่มีเกียรติ
และทำกันอย่างจริงจังมาก เช่น ที่สเตชั่น
มีคุณป้าผู้ดูแลห้องน้ำ จริงจังมาก สะอาดมาก วิ่งห้องนู้น ออกห้องนี้
ขยันขันแข็งๆ สุดๆ ทั้งๆ ที่เป็นงานที่ใครอาจจะยี้ แต่คุณป้าเต็มที่
เวลาพิงเจอผู้ดูแลห้องน้ำ ถ้าที่ไทยก็เช่นที่ Terminal 21
จะมีพี่ๆ ถ้าไม่ลืมก่อนออก พิงจะขอบคุณหรือยิ้มให้ทุกครั้ง

เหมือนเป็นบุคคลที่ทุกคนมองข้าม แต่พิงเคยอ่านมาว่า
ทุกคนคือกลไกที่ทำให้สังคมขับเคลื่อนไปได้

ตัวอย่างต่อมาค่ะ คุณลุงพนักงานขับรถที่โรงแรม
พลขับที่นี่ส่วนใหญ่ จะมีชุดเครื่องแบบจริงจังมาก มีหมวก ใส่สูท มีบั้ง
และตั้งใจทำงานมากค่ะ การต้อนรับผู้โดยสารขึ้นรถ ลงรถ
หมดรอบแล้ว ก็ต้อเช็คสำรวจว่ามีใครลืมของหรือใหม่
รถสะอาดสำหรับผู้โดยสารรอบต่อไปหรือไม่
มีการประกาศข้อมูลที่สำคัญตลอดเวลา ดูตั้งใจทำงานกันมากๆ

ต่อมาค่ะ พนักงานกดลิฟท์
ที่ตามห้างใหญ่ๆ ในเวลา Rush Hour จะมีพนักงานแต่งตัวยูนิฟอร์มน่ารักสไตล์เค้าล่ะ ตั้งหน้าตั้งตาทำหน้าที่ของตนเอง อยู่ในที่เล็กๆ แคบๆ เป็นเวลาหลายชั่วโมง มันต้องมีเบื่อมีเหนื่อยบ้างล่ะ แต่พิงมักจะได้รับการบริการที่ดีเสมอค่ะ

อ่ะ เรื่องสุดท้ายแล้วกันค่ะ
พิงติดรายการเทยเที่ยวไทย (มากกก) แล้วเป็นตอนที่พาไปช๊อปที่โอซาก้าพอดี
จะมีช่วงพ่อค้าแซ่บ คือช่วงที่จะเนียนไปคุยสัมภาษณ์กับพ่อค้าหน้าตาดี
มีร้านนึงขายทาโกยากิค่ะ พี่ๆ เทยก็ถามว่า ยืนอยู่หน้าเตาทั้งวัน เหนื่อยบ้างมั้ย
เค้าท่าทางสดใสร่าเริงมาก บอกว่า เหนื่อยนะ Demo Tanoshiiii พร้อมกับชูมือ
มันแปลว่า เหนื่อย แต่สนุกมากกว่า

น่ารักจริงๆ

พิงไม่ได้บอกว่า ญี่ปุ่นน่าชื่นชมไปซะทุกเรื่อง ทุกที่มี 2 ด้านเสมอ
พิงแค่อยากชื่นชมเรื่องระเบียบวินัย และความขันขันแข็งค่ะ

(อ้อ รู้ยัง ที่ญี่ปุ่นไม่รับทิปนะคะ เค้าทำงานตามหน้าที่จริงๆค่ะ เลิศ)

จุดหมายต่อไปที่เราจะไปคือ "วัดน้ำใส" ที่คนไทยชอบเรียกกันค่ะ

กลับมาตั้งต้นที่สเตชั่น ซื้อบัตรตั๋ววันรถบัส 500 เยน หรือ 550 นี่ล่ะ
ไม่คุ้มเลย เพิ่งรู้ว่ารถนี่ก็ไปศาลเจ้ามะกี้ด้วย

ส่วนตัวพิงชอบการเดินทางด้วยรถไฟมากกว่าค่ะเพราะมันไม่ติด
ยิ่งที่กรุงเทพนี่มันเป็นอะไรที่แพลนเวลาได้ง่ายมาก
ขอบคุณที่อย่างน้อยบ้านเมืองเราก็มีรถไฟเนอะ

ความเซ็ง ได้ยินมาแล้วล่ะว่าวัดปิดปรับปรุงตรงวัดที่เป็น Main
เลยได้รูปมานิดหน่อย
วัดนี้ถ้าคนสูงอายุมาจะลำบากหน่อยนะคะ เพราะว่าต้องเดินขึ้นเนินไปพอควรค่ะ

อ้อเรื่องรถบัส ในแผนที่ๆ ขอมาเค้าจะมีบอกเลยค่ะว่าสายอะไร ไปแหล่งท่องเที่ยวหรือวัดไหนบ้างค่ะ (เมืองท่องเที่ยวนี่เนอะ)

 photo os11_zps8d5eb0d6.jpg

ด้านในปิดนะจ๊ะ นี่ด้านหน้าค่ะ

 photo os12_zpsa6697a87.jpg

ก็จะพอได้บรรยากาศแบบกรุบกริบ

เที่ยวชมวัดกันซักพักก็มาเดินเล่นร้านขายของที่ระลึกที่ไม่ค่อยจะเปิดกันค่ะ

 photo os14_zps87f33b91.jpg

ของที่นี่น่ารักสุดๆ ขออนุญาติใช้คำว่า ของมันตอแหล๊ ตอแหล!!

 photo os15_zps994d1548.jpg

 photo os13_zps54b8cee4.jpg

(คนละตอแหลมั้ย? )

เดินลงมาเจอร้านนี้เลย น่ารักมากกกก ชื่อไรนะ โตโตโร่ป่าว (ไม่รู้จัก)
 photo os16_zps2fef7d31.jpg

ตกแต่งบรรยากาศน่ารักสุดๆ
 photo os17_zps900f3585.jpg

 photo os18_zpse7e6f994.jpg

เค้าบอกว่า ถ้าใบไม้มี 5 แฉกจะโชคดี (แต่นี่มันเกิน กรูจะโชคดีไหม)

แถวๆ นั้นที่เด็ดเลยค่ะ มีร้านชาเขียว ขายทุกอย่างเป็นชาเขียว เค้ก ไอศครีม ทุกอย่าง แต่อิ่มมาก ม่ายหวาย เลยขอแวะจิบชาเขียวร้อนๆ
 photo os20_zpsf326a923.jpg

หนายๆ สั่งอะไรดี
 photo os19_zps2fd732c9.jpg


 photo os21_zps46338cce.jpg

นี่เลย พิงจะบอกว่าชาเขียวนี้ทำให้พวกพิงตื่นกันแบบ ตื่นนนนทั้งวัน
ทั้งๆ ที่ทำไฟลท์มาอย่างเหนื่อย เจอนี่เข้าไปไม่มีคำว่าง่วงเลย
ให้พลังงานสุดๆ เวิร์คมาก กลับไป รร ต้องนั่งดูทีวีต่อก่อน
(ออกจาก รร 9 โมงเช้า ถึงโรงแรมเที่ยงคืน ฮ่าๆๆๆๆ)

ทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยกลับไปสเตชั่น เจอจุดไวไฟฟรี เล่นเน็ตหน่อย
ตอนนี้แฟนคงคิดว่า พิงหายไปไหนน๊านนานทั้งวัน
 photo os22_zps9403cc95.jpg

หมดสภาพเลย

ตอนเย็นพิงไปเดินชินไซบาชิกันต่อ (ที่บอกว่ากลับ รร เที่ยงคืน 555)

ปิดท้ายอีกนี๊ดดดด ด้วยร้านบุฟเฟ่ต์แถว รร ค่ะ
 photo os1_zpsde1a49db.jpg

 photo os2_zps5164370e.jpg

อ้อๆ ไปญี่ปุ่น ขาเมาโปรดอย่างลืม 2 อย่างนี้ค่ะ หอมมากเหมือนน้ำผลไม้ แต่มีแอลกอฮออลล์นะจ๊ะ

 photo os3_zps59d3b300.jpg
สวัสดีปีใหม่และพบกันใหม่ตอนหน้านะคะ พาไปเที่ยวโกเบค่ะ




 

Create Date : 02 มกราคม 2558    
Last Update : 2 มกราคม 2558 21:23:22 น.
Counter : 3635 Pageviews.  

(คั่นเวลา) รูปกรุบกริบจากเมลเบิร์นในวันที่ใบไม้เปลี่ยนสี

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ
เวลาพิงหายไปนานๆ ถึงแม้มีคนรออ่าน หรือไม่มีพิงก็จะรู้สึกผิดไปเอง
ที่แน่ๆ เลยพิงรู้สึกผิดกับจุดประสงค์ตัวเองเวลาที่ดองเรื่องที่จะเขียนไว้นานๆ
เพราะจุดประสงค์จริงๆ ของบล๊อคนี้คือ พิงต้องการจะเก็บไว้อ่านในวันนึงที่พิงไม่ได้ทำงานนี้อีกค่ะ
พอดองไว้นานๆ พิงก็จะลืม เป็นคนความจำสั้น (งานนี้ทำให้สมองลดประสิทธิภาพลง)
ยิ่งเรื่องเม้าท์ของแต่ละไฟลท์พิงก็จะลืมไปเลย บางเรื่องก็มันส์ อยากเล่า แต่พิงลืมอ่ะค่ะ เง้อ..

ก่อนจะเข้าเรื่อง (เที่ยว) ช่วงที่ผ่านมา เป็นช่วงแห่งความสูญเสีย โดยเฉพาะในวงการ Aviation
เรื่องของสายการบิน Malaysian Airlines ทั้งสองเหตุการ มีสายการบินของอัลจีเรีย ใต้หวัน
และอีกหลายเหตุการณ์ที่ไม่ได้ออกข่าวใหญ่โต ทำให้พิงยิ่งรู้สึกว่าชีวิตเป็นอะไรที่ไม่แน่นอน
วันนี้เรายังอยู่ตรงนี้ พรุ่งนี้จะไปอยู่ตรงไหนก็ไม่รู้

พิงคิดถึงหัวใจที่รอคอยคนที่เรารัก "กลับบ้าน" หรือรอที่จะเจอหน้าด้วยความคิดถึง
มันเป็นความรู้สึก "ใจสลาย" อย่างแท้จริง
บางคน เสียคนที่รักไปทั้งครอบครัวในคราวเดียวกัน มันคงยากมากสำหรับคนๆ หนึ่งที่จะรับกับเรื่องนี้

ที่พิงทำได้คือขอเป็นอีกกำลังใจเล็กๆ ให้ผู้ที่ยังมีชีวิตที่ต้องดำเนินต่อไปทุกคนนะคะ
และตัวพิงเอง ก็จะพยายามใช้ชีวิต และดูแลตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อพ่อแม่ และคนที่รักพิงค่ะ

ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวของเพื่อนร่วมอาชีพ
พิงชอบQuote คำนึงมากค่ะ เห็นเพื่อนๆ ลูกเรือโพสกันหลายคนว่า

"Cabin crew don't die, they just fly higher"

ขอให้ทุกท่านไปสู่สุขติ อยู่ในภพภูมิที่ดีค่ะ

(ห่อเหี่ยวตั้งแต่เริ่มเลย)
ขออนุญาตมาเขียนในนี้นะคะ เพราะพิงไม่เคยเขียนอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ทาง Social เลย
เพราะตอนนั้นยังอึ้งอยู่จริงๆ ค่ะ

อ่ะ

ปรับอารมณ์มาดูรูปกันดีกว่า

พิงไปเมลเบิร์นมาซักพักแล้วค่ะ จริงๆ ค่อนข้างจะไปบ่อยเลยทีเดียวค่ะ ไปแบบไม่ได้ขอ
ที่นี่เป็นอีกเมืองๆ หนึ่งในโลก เรียกว่า ประเทศดีกว่า เพราะว่าประเทศออสเตรเลียสำหรับพิง
เป็นอีกประเทศที่น่าอยู่มากๆ คนท้องถิ่นน่ารัก และมี mixed culture จากคนเอเชียเยอะ
รู้สึกสะดวกสบายมากทุกครั้งเวลาพิงมาที่นี่ค่ะ

มาทุกครั้งก็ต้องเดินมาที่ Federation Square ค่ะ (หาเน็ตฟรีใช้)
 photo mel1_zps22eafa6c.jpg

บริเวณนี้มีตึกสวยๆ ดีไซน์แปลกๆ และเป็นที่จัด events ต่างๆ ของเมืองค่ะ

ช่วงนี้ใบไม้เปลี่ยนสีสวยมากๆ และอากาศดีมากๆเลยค่ะ โชคดีจังตอนนั้นพิงเช็คนึกว่าฝนจะตก แต่ก็สบายๆ ค่ะ

 photo mel3_zps5e32a14e.jpg

มีคนมาเดินเล่นหรืออกกำลังอยู่ตลอดค่ะ Yarra River

 photo mel2_zps4e4939ae.jpg

 photo mel4_zps2aa916ba.jpg

นี่เป็นทางที่พิงคุ้นเคยเวลาออกไปทานข้าวในเมือง เดินเล่นช๊อปปิ้งเสร็จก็เดินกลับโรงแรมค่ะ

 photo mel5_zpsbb3ea14f.jpg

ขออภัยที่รอบนี้รูปมีนิดเดียวซ้ำไปซ้ำมา เพราะถ้าเป็น destination ที่ไปบ่อยๆ รูปก็จะน้อยลงตามความบ่อยค่ะ (ความขี้เกียจนั่นเอง)

Entry หน้าจะพาไปเที่ยวหังโจวค่ะ คนที่ตาม IG พิงอาจจะเห็นรูปบ้างแล้วค่ะ

พูดถึง IG พิงค่อนข้างจะเซ็งพอสมควร มีหลังไมค์มาถามพิงพอสมควรเลยค่ะว่าขอให้รับ IG หน่อย จากแฟนบล๊อค ตอนนี้พิงค่อนข้างจะหาชื่อคนที่มาขอแอดยากนิดนึงเพราะว่าไม่ได้รับแอดมาพักนึงแล้วค่ะ Request ก็เลยจะกองๆ อยู่หน่อย
วันนั้นพิงพลาด ไปเปิด Public เพื่อที่จะให้เพื่อนคนนึงแอดเข้ามาได้เลยโดยอัติโนมัติ
พลาดค่ะ ใครไม่รู้มาหมดเลย 2000 กว่าคน
ทั้งผู้หวังดี และไม่หวังดี รวมทั้งหวังดีประสงค์ร้าย ฮ่าๆๆๆๆๆ

สำหรับหังโจวพิงคิดว่าเริ่มจะฮิตขึ้นมาบ้างในประเทศไทยเนื่องจากเห็นบางสายการบินเปิดรูทบินไปที่นี่ค่ะ บล๊อคนี้ขอคั่นเวลาไว้ก่อนให้รู้ว่าพิงยังมีตัวตนอยู่ละกันเนอะ

บล๊อคก็ไม่ได้อัพ Youtube ก็ไม่ได้ทำ เพราะช่วงนี้พิงกลับไทยบ่อยไม่ค่อยว่างค่ะ

Anyway!!

คิดถึงทุกคนนะคะ

รักษาตัวดูแลสุขภาพกันด้วย โดยเฉพาะที่ไทยฝนตกตลอดเวลา Take care ค่ะ!




 

Create Date : 02 สิงหาคม 2557    
Last Update : 2 สิงหาคม 2557 6:11:03 น.
Counter : 3009 Pageviews.  

Maldives Paradise - Embudu Island

 photo mle9_zps729bb501.jpg

(เปิดมาด้วยรูปพาโนราม่าแบบเบี้ยวๆ ขออภัย)

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ คราวนี้พิงกลับมากับการนำภาพที่ไปเที่ยยวมัลดีฟมาฝากค่ะ

คราวนี้เราเปลี่ยนเกาะกันบ้าง คราวที่แล้วเราไปกันที่เกาะนึง คราวนี้ไปกันที่ Embudu Island ค่ะ

เมื่อเราแลนด์แล้ว เข้าพักที่โรงแรม Hule Hule ใกล้ๆ สนามบินเหมือนเคย พอเดินเข้าโรงแรมไป ก็เจอลูกเรือสายการบินเราเนี่ยแหละ พวกที่เค้ามาถึงเมื่อวาน รอพวกเราอยู่ เพื่อที่จะชวนไปเกาะกันค่ะ

คนยิ่งไปเยอะมันยิ่งถูก ฮ่าๆๆๆๆๆ

ค่าเสียหายครั้งนี้ 100 USD ค่ะ

พูดจริงๆ เลยว่าถ้าเราจัดทริปกันเองมันจะถูกกว่าแบบเกินครึ่งค่ะ (อันนี้โรงแรมจัดทุกอย่างให้ ทั้งเรือและค่า)

และอีกอย่างนึง เกาะนี้ไม่มีอะไรมาก พิงเห็นเพื่อนคนอื่นไปเกาะอื่นมา แบบดูสวยกว่า คึกคักกว่า และ activity เยอะกว่าค่ะ


แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะค่ะ ที่นี่ก็ยังสวยมากๆ อยู่ดี เหมาะสำหรับการมาฮันนีมูน เพราะมันเงียบมากค่ะ

ออกเดินทางกันในช่วงสายๆ ค่ะ ไปด้วยเรือโรงแรม เวลาเดินทาง 30-40 นาทีค่ะ นั่งหลับ ๆเม้าท์ๆ ไปเดี๋ยวก็ถึงนะคะ

 photo mle2_zpsfa28d6c6.jpg

ป่ะไปกันเลย ต้องหาเสื้อให้เข้ากะสีกระเป๋าด้วย
 photo mle1_zps5717ebd8.jpg

น้ำใสขนาดนี้จริงๆ สวยมาก
 photo mle15_zps6c61c8d1.jpg

ถึงฝั่งแล้วจ้า ก็เดินเข้าไปในรีสอร์ทกันเลย
 photo mle3_zps1db963b5.jpg

เหล่าผู้ร่วมชะตากรรม
 photo mle4_zps6d8007de.jpg

ล๊อบบี้ พื้นยังเป็นทราย
 photo mle5_zps071b88b9.jpg

แล้วเค้าก็แจ้งเวลาว่าบุฟเฟ่ต์อาหารกลางวันเริ่ม 11 โมงค่ะ

นั่งถ่ายรูปกับน้ำทะเลใสๆ
 photo mle6_zpsa7aa7e34.jpg

ลงรูปน้อยหน่อยนะคะ ลงเฉพาะที่มันพอจะลงได้อยู่ค่ะ

 photo mle7_zps61486b51.jpg

หาดและทุกอย่างมันดู private มากค่ะ ถ้าใครจะนอนค้างก็ได้นะคะ ที่นี่ก็เหมือนเป็นเกาะส่วนตัวและเป็นรีสอร์ทปกติค่ะ

 photo mle8_zps7f130aea.jpg

เท้าอ้วนๆ น้ำใสสสสสสสสสสสสสสสสุดๆ ไปเลยค่ะ
นอนอาบแดดจนกลับมาดำอีกแล้วรอบนี้

 photo mle16_zps8377f866.jpg

ลากสีเหลืองๆ มานอน นอนสบาย support หลังมาก นั่งกันจนหลับไปเลยค่ะ

 photo mle17_zpsfce707c4.jpg

พี่นีน่าค่ะ ไม่รู้ใครอาจจะคุ้นๆ หน้ารึเปล่า เมื่อก่อนพี่นีน่าเป็นพิธีกรรายการเด็กอยู่ที่ไทยค่ะ แล้วก็ไปเป็นนางแบบโกอินเตอร์อยู่ที่อินเดีย โว้ววววว.....

อะเคได้เวลาอาหารกลางวันกันแล้วค่ะ
 photo mle10_zps32f0b5a9.jpg

ไลน์บุฟเฟ่ต์ก็งั้นๆ นะคะ ไม่ดี แต่ก็ไม่เลวค่ะ

 photo mle11_zps07f92f1a.jpg

ฟรายส์หาความกรอบไม่เจอเลยค่ะ เหนี่ยวมาก ฮ่าๆๆ

กินข้าวเสร็จก็ออกมาเดินสำรวจรอบเกาะดีกว่า ปลาเยอะมาก และยังมีเจ้านกตัวนี้ยืนจ้องปลาในน้ำอยู่ด้วย
 photo mle13_zps7e5dbd5b.jpg

ชมหาดไปเรื่อยๆ บ่ายแล้ว เดี๋ยวเย็นๆ เราก็กลับกันแล้วค่ะ
 photo mle12_zps87fde643.jpg

ตกเย็นเรือก็มารับกลับเข้าที่พักค่ะ พวกพิงก็ฟิตมากไปว่ายน้ำนั่งดื่มอะไรชื่นใจๆ กันต่อ (แหะๆ)


ไปทะเลทีไรก็มีความสุขทุกทีสิน่า....

สวัสดีค่ะ




 

Create Date : 09 มีนาคม 2557    
Last Update : 9 มีนาคม 2557 23:15:35 น.
Counter : 3293 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  

Bloody Distance
Location :
Doha Qatar

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [?]




สวัสดีค่ะ ขอต้อนรับสู่ blog ของพิงค่ะ พิงคือหญิงไทยที่ได้มีโอกาสมาอยู่ต่างแดนค่ะ มาแชร์ประสบการณ์กันค่ะ
New Comments
Friends' blogs
[Add Bloody Distance's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.