La'venir Cleansing Liquid II  สวัสดีค่ะ วันนี้ขอมารีวิว Cleansing อีกตัว เนื้อLiquid สไตล์ไบโอเดอร์ม่าอีกแล้ว เจ้าตัวนี้คือ La'venir Cleansing Liquid IIค่ะ เป็นขวดหัวปั๊ม พกพาสะดวกค่ะ แข็งแรงมีฝาปิด  แต่ค่าเสียหายออกจะโหดไปนิสส 125ml. 700บาทค่ะ แต่เมื่อเทียบกับที่ส่วนตัวเคยใช้แล้ว ตัวนี้คุณภาพถือว่าดีมากๆค่ะ อย่างเช่นไปโอเดอร์มา (ขวดสีชมพู) เช็ดตาเวลาแต่งตาเต็มจะไม่หมด แต่ตัวนี้หมดค่ะ เลยจะมาลองพิสูจน์ด้วยการลบคิ้วและตาค่ะ วันนี้ติดขนตาปลอมด้วย (แต่ถอดไปแล้ว) เพราะฉะนั้นเลยยังมีคราบกาวติดอยู่ค่ะ โดยด้านขวา(ของรูป)จะเป็นข้างที่ใช้La'venirลบนะคะ ส่วนข้างซ้ายจะเก็บไว้ให้เห็นถึงความแตกต่าง อิอิ กดปั๊มๆออกมาใส่สำลี  ก่อนเช็ดค่ะ เช็ดแล้ว...เช็ดครั้งเดียวนะคะแปะทิ้งไว้ 30วินาที ผลลัพธ์ที่ได้ก็เป็นแบบนี้ค่ะ คราบกาวหลุดออกหมดเลยอาจจะเหลือมาสคาร่าอยู่บ้างประปราย ซูมชัดๆ  เมคอัพที่ติดออกมากับสำลี ผลลัพธ์ก็ตามราคาค่ะ เห็นผลลัพธ์ดีกว่าแบรนด์อื่นๆที่เคยใช้มา อันนี้สังเกตจากความเอาอยู่ในการลบอายเมคอัพนะคะ ใช้แล้วหน้าชุ่มชื้นไม่แห้งค่ะ (ส่วนตัวเป็นคนผิวแห้ง) คุณสมบัติที่ทางแบรนด์เคลมมาค่ะเช็ดเครื่องสำอางออกได้อย่างสะอาดล้ำลึกถึงรูขุมขน ด้วยสารทำความสะอาดสูตรอ่อนโยนต่อผิว ช่วยชะล้างเครื่องสำอาง สิ่งสกปรก คราบเหงื่อ ฝุ่นละออง และควันพิษที่อุดตันในรูขุมขนให้หลุดออกได้อย่างง่ายดาย และบำรุงผิวในขั้นตอนเดียวกันด้วยสารสกัดจากถั่วลันเตา (PisumSativum Extract) ช่วยลดเลือนริ้วรอยจุดด่างดำ ให้ผิวขาวกระจ่างใส, สารFerulic acid สารสกัดชาเขียว (Green Tea Extract) และ Vitamin E ช่วยในการต่อต้านการเกิดริ้วรอยก่อนวัย พร้อมสารสกัดจากว่านหางจระเข้ (Aloe extract), และ Mannitolช่วยปกป้องและบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นไม่แห้งตึง ให้ความรู้สึกเย็นสบายสดชื่น ไม่ระคายเคือง จึงเหมาะกับทุกสภาพผิวแม้ผิวบอบบางแพ้ง่าย แต่อย่างที่บอกค่ะราคามันค่อนข้างแพงไปหน่อย อาจจะต้องคิดนิดนึงก่อนซื้อ อิอิ  วันนี้ก็เอามาเล่าให้ฟังแค่นี้ก่อนนะคะ ไว้โอกาสหน้าเจอกันค่ะ สวัสดีค่ะ ^_^   Create Date : 21 มีนาคม 2557     Last Update : 21 มีนาคม 2557 21:32:00 น. Counter : 636 Pageviews.   1 comment Share Tweet

Jordana Cosmetics เครื่องสำอางเริ่ดๆที่ควรมีไว้ในครอบครอง  สวัสดีค่ะ วันนี้กลับมารีวิวเครื่องสำอางค่ะ นั่นก็คือ Jordana Cosmeticsนั่นเอง เป็นแบรนด์จากอเมริกาค่ะ ราคาถูกและคุณภาพดี วันนี้ก็เลยเอามารีวิวให้ดูกัน ประกอบสำหรับใครที่มองหาเครื่องสำอางราคาถูกคุณภาพดีค่ะ แบรนด์ของอเมริกา สัญชาติก็การันตีคุณภาพอยู่แล้วนะในความรู้สึกส่วนตัว วันนี้ที่เอามารีวิวก็จะมี บลัชออน, บรอนเซอร์, อายแชโดว์เนื้อครีม, ดินสอเขียนคิ้ว, อายไลน์เนอร์ และลิปสติกจ้าา  เรามาดูกันที่ละตัวเลยดีกว่านะคะ เริ่มที่ตาก่อนดีกว่า Eye Shadow เนื้อครีม สีทองกับสีเงินค่ะ เป็นอะไรที่ไม่อยากแกะมาใช้มาก เสียดาย อิอิ คือมันเหมาะกับการไปงานกลางคืนมาเลยค่ะ วิ้งระยะ 500เมตรจริงๆ กลิตเตอร์ใหญ่มาก ที่เห็นเป็นปุ่มๆนั่นแหละค่ะ สี 01 Brushed Silver กับสี 09 Beloved Bronzeค่ะ  อย่างที่บอก กลิตเตอร์วิ้งมาก วิ้งสุดๆ ส่วนพิกเมนต์แน่นค่ะ ไม่แข็งนะปาดง่าย ทาตาเสร็จ กรีดตาบ้าง Eye Linerค่ะ ตัวนี้เป็นแบบปากกาเมจิค เขียนง่ายมากกแห้งเร็วมากก  แต่ติดไม่ค่อยทนเท่าไหร่ค่ะ มือใหม่ใช้ตัวนี้ได้เลยนะ มันกรีดง่ายจริงๆ หัวเรียวแหลม เส้นเวลากรีดออกมาค่ะ ได้ประมาณนี้ มาเขียนคิ้วกันบ้าง ชอบดินสอเขียนคิ้วของแบรนด์นี้มากๆเลย เป็นแบบออโต้ค่ะ เนื้อนุ่ม เขียนง่าย มีสองสีนะคะ สีน้ำตาลอ่อนกับสีน้ำตาลเข้ม ชอบมากก ใช้ทุกวันเลยแท่งนี้ เนื้อจะเป็นแบบนี้ค่ะ คือใช้ทุกวันจริงๆตัวนี้แนะนำเลย ด้านซ้ายเป็นสีน้ำตาลเข้มนะคะ ส่วนด้านขวาเป็นสีน้ำตาลอ่อน มาดูบลัชออนกันบ้างค่ะ มีบรอนเซอร์ด้วย สีชมพู คือสี 17 Rougeค่ะ เป็นสีชมพูหวานๆน่ารักๆ ปัดออกมาระเรื่อๆดูสุขภาพดีค่ะ  เนื้อสีแน่นมาก เพราะฉะนั้นห้ามมือหนักค่ะ 555 บรอนเซอร์ Classic Bronze พิกเมนต์แน่นเช่นกัน เนื้อสีจะออกส้มๆหน่อยค่ะ เหมาะกับซัมเมอร์ดี ปาดออกมาได้แบบนี้ค่ะ สุดท้ายแล้ว นำเหนอ ลิปสติกค่ะ ที่เอามารีวิววันนี้มี 3 เฉดค่ะ สีส้ม, สีชมพู และสีนู้ดค่ะ แพกเกจจิ้งจะเป็นฝาใสๆโชว์สีลิป แล้วตัวแท่งจะเป็นสีเงินค่ะ อีกรุ่นนึงเนื้อ Matteตัวแท่งจะเป็นสีทองค่ะ ไล่จากซ้ายไปขวา #190 Apricot Glaze, #183 Candied Pink และ # 128 Nude เนื้อครีมมี่ค่ะ ใช้แล้วปากไม่แห้งเลย สีใสๆดีค่ะ หมดแล้วค่ะกับการรีวิวผลิตภัณฑ์จาก Jordana หวังว่าคงจะชอบกันนะคะ  ไปละค่า สวัสดีค่ะ ^_^ ขอบคุณ Jordana Cosmetics มากๆเลยนะคะที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆมาให้ลองใช้ค่ะ สนใจสั่งซื้อที่ตัวแทนจำหน่ายได้นะคะ  Fanpage Jordana Cosmeticsค่ะ //www.facebook.com/JordanaCosmeticsThailand   Create Date : 20 มีนาคม 2557     Last Update : 20 มีนาคม 2557 23:24:31 น. Counter : 1186 Pageviews.   1 comment Share Tweet

Pureviviตัวเด่นกับBiodermaตัวดัง ตัวไหนดีนะ?  สวัสดีค่ะ....วันนี้จะมาเปรียบเทียบ Make-up Removerสองสัญชาติให้ชมกันนะคะ อย่างที่เรารู้กัน คุณสมบัติและกิตติศัพท์ของ Bioderma เมคอัพรีมูฟเวอร์จากฝรั่งเศสนี่เลื่องลือกันมากเลยว่าเทพจริงๆ ทั้งคุณสมบัติเช็ดแล้วให้ความสะอาด สดชื่นมีหลายสูตรสำหรับทั้งผิวมัน, ผิวแห้งไปจนถึงผิวแพ้ง่าย  แต่ก็นั่นแหละ...ราคาค่อนข้างสูงเลยทีเดียวค่ะ ยิ่งในไทยล่ะก็หลักพันกันเลยทีเดียว ทีนี้ก็มี Make-up Remover สัญชาติญี่ปุ่นแบรนด์ Purevivi เข้ามาในไทยให้เราๆได้ใช้กัน ในราคาที่น่าสนใจมากๆ คือถูกกว่า Bioderma เกินครึ่งและเคลมคุณสมบัติเหมือนกันเป๊ะๆ - ไม่มีน้ำหอม - ไม่มีแอลกอฮอลล์ - เช็ดรอบดวงตาได้ เป็นต้น แถมกลิ่นยังอ่อนๆเหมือนกันด้วยค่ะ แทบจะไม่มีกลิ่นกันเลยทีเดียว เปรียบเทียบราคาในไทยนะคะ 500ml. Purevivi ราคาปกติ  590บาท แต่ตอนนี้มีโปรโมชั่นเหลือ 400กว่าบาทเองค่ะ และสำหรับ Bioderma รู้แค่ที่วัตสัน 250ml. ก็ 890 แล้วค่ะ ราคาแตกต่างออกไป ก็แน่นอนว่าจะต้องมีบางอย่างที่แตกต่างกันค่ะ วันนี้ต้องจะมาพิสูจน์เปรียบเทียบกันให้ดูในเบื้องต้นนะคะ ว่าเจ้าสองตัวนี้ มันแตกต่างกันอย่างไร สำลีสองก้อน 1ก้อน สำหรับ Bioderma และ อีก 1 ก้อน สำหรับ Pureviviค่ะ ตาสองข้างที่มีทั้งอายแชโดว์, อายไลน์เนอร์ และมาสคาร่าค่ะ  ( ถ้ารูปไม่ชัดยังไงก็ต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยนะคะ ^^") มาเริ่มพิสูจน์กันเล้ยย !! หยดผลิตภัณฑ์ลงบนสำลี 10หยดเท่าๆกันค่ะ ถึงก้อนของBiodermaจะดูใหญ่กว่า แต่ปริมาณผลิตภัณฑ์เท่ากันนะคะ สังเกตุจากบริเวณที่สำลีชุ่มไปด้วยผลิตภัณฑ์ค่ะ  หลังจากเช็ดออกมา เช็ดบริเวณดวงตานะคะ แปะทิ้งไว้ข้างละ 30 วินาทีค่ะ เมคอัพที่ติดสำลีออกมาค่ะ ดวงตาหลังจากลบเครื่องสำอางด้วยผลิตภัณฑ์ทั้งสองแบรนด์แล้ว ได้ผลลัพธ์ออกมาแล้วค่ะ Purevivi จะสามารถลบเมคอัพได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่า Bioderma สังเกตุได้ว่าขนตาและเปลือกตาที่ใช้ Bioderma ยังคงมีมาสคาร่าและอายไลน์เนอร์ติดอยู่ ขนตามันจะดูแข็งๆกว่าข้างที่ใช้ Pureviviอ่ะค่ะ เพราะมีเมคอัพติดอยู่ แต่ถ้าถามในเรื่องของความรู้สึกอ่อนโยนต่อผิว อันนี้ขอยกให้ Biodermaค่ะ เพราะรู้สึกว่า Biodermaพอใช้แล้วมันจะเย็น แต่ตัว Purevivi จะรู้สึกว่าเมื่อเข้าตาแล้วจะแสบมากกว่า Biodermaค่ะ สรุป...ในความรู้สึกส่วนตัวPureviviสามารถล้างเมคอัพได้หมดจนกว่า Bioderma แต่ในทางกลับกัน Biodermaให้ความรู้สึกสดชื่นกว่า Pureviviค่ะ ยังไงถ้าถูกใจก็ลองหาซื้อมาใช้กันดูนะจ๊ะ วันนี้ไปก่อนนะคะ บ๊ายบายย   Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2557     Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2557 15:01:11 น. Counter : 3409 Pageviews.   1 comment Share Tweet

Maquiyarse's Favorite อะไรบ้างนะที่ใช้แล้วชอบ จึงมาบอกต่อจ้าา =] เห็นใครๆเค้ามี Favorite ต้องเลยอยากจะมีบ้าง อิอิ ^^" วันนี้นำเอา Favoriteมาให้ดูค่ะ ผลิตภัณฑ์พวกนี้คือใช้ๆปลื้มจริงๆ เลยอยากนำมาเสนอให้ได้ชมกันค่า มีทั้งสกินแคร์ไปจนถึงเมคอัพเลย ^_^ มีอะไรบ้าง มากองรวมกันตรงนี้  มาเริ่มกันที่ผลิตภัณฑ์ตัวแรกกันเลยดีกว่าค่ะ บำรุงผิวกายก่อนนิดนึง โลชั่นจากJergensค่ะ สูตร Soothing Aloe Relief ต้องเป็นคนผิวแห้งถึงแห้งมากค่ะ ได้เจ้าตัวนี้มาช่วยดีมากๆเลย กลิ่นหอมอ่อนๆค่ะ ทาแล้วรู้สึกผ่อนคลายดี จริงๆมีหลายสูตรค่ะ Over Night Repairก็ชอบค่ะอันนั้นกลิ่นจะไม่ใช่ธรรมชาติเหมือนสูตรนี้ มาที่ผิวหน้ากันบ้าง  บำรุงผิวกันก่อน ผลิตภัณฑ์เล็กๆน้อยๆของคนขี้เกียจอย่างต้อง บอกก่อนเลยว่า มีนิสัยไม่ดี คือ สนใจแต่งหน้ามากกว่าบำรุง 555 แต่เค้าก็ไม่ได้ละเลยนะ ตัวแรกก่อนเลยค่ะ Nivea Aqua Sensation Wake Up Effect Moisturizer อ่านรีวิวเต็มๆ คลิก เลยจ้าา ตัวนี้เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า สำหรับสาวๆที่แต่งหน้าบ่อยค่ะ ผิวสูญเสียขาดน้ำ  ที่เด็ดมากก็คือ เวลาวันชิวๆเบาๆสบายๆ ไม่ต้องลงไพรม์เมอร์ค่ะ จัดตัวนี้อยู่ได้ชิวพอประมาณเลย อีกตัวกันแดดบ้าง Kinesysค่ะ สาเหตุที่ชอบก็คือมันไม่เหนียวและฉีดทับเมคอัพได้ ปลื้มมากๆเลย คือถ้าเวลาลืมลงกันแดดก็ฉีดทับไปเลยค่ะ ไม่ต้องมานั่งลบหน้า สกินแคร์หมดแล้ว มาที่เมคอัพกันบ้างเลยค่ะ ลงรองพื้นกันก่อน Favoriteนี้ขอหยิบ Make-up Forever HD Foundation ลูกรักมาอวดค่ะ เดี๋ยวนี้ราคาลงมามาก ซื้อเคาน์เตอร์ลด10% อยู่ที่ 1,570เอง ประมาณนี้ค่ะ เนื้อFoundationจะไม่ปกปิดมากนะคะ  แต่ มันถ่ายรูปขึ้นกล้องดีนะ สมกับเป็น HDเลย ถ้าใครต้องการปกปิดมีอีกรุ่นนึงค่ะที่เหมาะสำหรับคนอยากจะได้แบบFull Coverageนิดนึง ต้องใช้สี N110ค่ะ ขาวอมชมพู ขาวสุดในไทยเลยค่ะ  แต่ก่อนเคยคิดว่าตัวเองผิวขาวเหลืองนะ แต่ทำไมใช้อะไรๆก็ดร็อปลงไปหมด เพราะฉะนั้นคนเอเชียอย่างเราๆก็ไม่ได้ผิวโทนเหลืองเสมอไปนะคะ เคยเชื่อบีเอซื้อมาผิดสีเลย ทาแล้วเปื่อยมาก อิอิ (บ่นจัง) ถัดมา...แต่งตากัน =] ก่อนจะทาอายแชโดว์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการรวมตัวของอายแชโดว์ เราจึงจำเป็นที่จะต้องพึ่งเจ้าตัวนี้ค่ะ Too Faced Shadow Insurance บีบนี้ดดดเดียว ทาได้ทั่วเปลือกตา สีติดทน ผ่านค่ะ ^_^ อันนี้นำเสนอมากๆค่ะ กับพาเล็ตฮอตฮิตเรียกได้ว่าเป็น 1 ใน Issuesของปี 2013เลยทีเดียวนะ กับUrban Decay Naked Palette 3นั่นเองค่ะ ที่ซื้อมาเพราะว่าไม่ใช่ตามกระแสนะ แต่เพราะเห็นมันโทนชมพูๆกุหลาบๆ เลยคิดว่ามันตรงกับการแต่งหน้าของเราดี เลยจัดมาค่ะ คิดว่าได้ใช้บ่อยแน่นอน สีทุกสีจะปนชมพูๆ ม่วงๆนะคะ แม้แต่สีดำ Black Hearthก็ยังไม่ดำสนิทเลยอ่ะ มีติ่งชมพูม่วงๆปนอยู่ด้วย มีทั้งเนื้อแมต, ชิมเมอร์ และกลิตเตอร์ค่ะ กลิตเตอร์ก็เจ๋ง พูดเลย Swatch นิดๆ ต่อมาค่ะ กรีดตากัน กับ Eye Linerจาก The Face Shopค่ะ ซื้อมาตอนทางแบรนด์มาจัดบูธเซล เหลือแท่งละ 200กว่าบาทเอง เลยจัดมาลองค่ะ ผลที่ได้กันน้ำได้ดีค่ะ คุณภาพติดทนเกินครึ่ง หัวพู่กันก็ไม่เล็กหรือไม่ใหญ่จนเกินไปค่ะ แท่งสีทองหรูหรา เส้นที่กรีดออกมาค่ะ กรีดตาแล้วลืมปัดมาสคาร่าต้องไม่ดีแน่ๆ The Magnumจาก Maybellineค่ะ สีเหลืองลายเสือ ตัวนี้ทนน้ำ, ทนฝน และทนทุกสิ่งอย่างระดับ 10ค่ะ ล้างยากมากกก แต่ก็ชอบมาก เพราะมันเป็นมาสคาร่าที่ทำให้ต้องมีตาไม่เป็นหมีแพนด้า เพราะหนังตาค่อนข้างมันค่ะ แล้วทำให้ขนตาดูหนาขึ้นด้วยนี่ชอบมากๆเลย เพราะเป็นคนขนตาบางและตกค่ะ แปรงโค้งรับกับรุปตา ถัดมาที่เรื่องของคิ้วกันบ้าง อิอิ ตามนี้ค่ะ โดย Favoriteนี้ขอนำเสนอผลิตภัณฑ์แต่งคิ้วแบบฝุ่นจาก Kateค่ะ Kate Designing Eyebrow มีสีเรียงมาให้แต่งตามได้เลยค่ะ 1, 2และ 3 สีเข้มสุดสีที่ 3ใช้ทาบริเวณกลางคิ้วนะคะ อ่อนสุดหัวคิ้ว สีกลางหางคิ้วค่ะ ได้คิ้วสวยๆแล้ว ก็ต้องมาปัดมาสคาร่าค่ะ ตัวนี้จาก Maybellineอีกเช่นเคย มี 3สีนะคะ อันนี้สีเข้มที่สุด หัวแปรงกลมๆค่ะ เข้ากับรูปคิ้วได้ดีมากๆเลย แนะนำเลยอีกตัวค่ะ ราคาไม่แพงและดีอีกด้วยค่ะ ตามสไตล์ของ Maybellineเลย ปัดแก้มกันบ้าง Favoriteนี้ขอหยิบออกมาสองตัวค่ะ สีแรกTarte สี Splendor ตัวนี้สีแน่นมากๆๆ สีชมพูน่ารักๆ หว๊านหวานมีชิมเมอร์ค่ะ ขนาดเล็ก มาพร้อมกับเซ็ต Special ของ Sephoraค่ะ สีแบบนี้ชมพูหวานๆ เหมาะกับสาวหวานสุดๆ สีแน่นชัดลื๊มมม และที่สุดของเจ้และสาวๆทุกนางก็คือ Nars Orgasmเลย อมตะจริงๆ สีชมพูอมส้มค่ะ เข้าได้กับทุกสีผิวเลย ไม่เข้มไม่อ่อนจนเกินไปนะคะ ปะทะคู่แท้ที่จะต้องมาพร้อมกันก็คือ Nars Laguna บรอนเซอร์ค่ะ  ที่ชอบเพราะว่าสีกำลังดีค่ะ ไม่อ่อนเกินไปจนมองไม่เห็นว่า ฉันคอนทัวร์ตรงไหนไปแล้วเนี่ย และไม่เข้มเกินไปจนโดดค่ะ สรุปว่ามันพอดีๆ แยกออกมาจากเซ็ต Sephora Specialเหมือนเดิมค่ะ ปลื้มมมม หน้ามาแล้ว ตามาแล้ว คิ้วมาแล้ว ดั้งก็มาแล้ว ขาดไม่ได้เลย ปากต้องมาค่ะ ก่อนจะลงลิปเราก็ต้องมีปากที่ไม่แห้งแตก ดูนุ่มสวยใช่ไหมคะ ใครมองหาลิปบาล์มเทพๆอยู่ แนะนำเลยค่ะ Carmex  เนื้อปิโตรเลียมเจลลี่ กลิ่นไม่หอมเลย แต่ทาแล้วเย็นๆ ที่สำคัญดีเวอร์ๆค่ะ สครับปากไปในตัวปากนุ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และทีสำคัญไม่แตก ไม่เป็นขุยเลยค่ะ มากันที่ลิปแท่งโปรดทาทุกวันเลย กับ  Mac สี Please Me ชมพูบาร์บี้ เนื้อแมตนะคะ บอกก่อนว่าเวลาจะทาทุกครั้งลิปบาล์มจำเป็นอย่างยิ่งค่ะ เพราะหากถ้าไม่ได้ทาลิปบาล์มนานๆ พอลงตัวนี้ปากก็พร้อมจะแตกได้ในทันทีค่ะ แต่สีสวยมากๆเลยน้าา เหมาะกับการทาในทุกๆโอกาสค่ะ ดูใสๆดี หมดแล้วค่ากับการรีวิว My Favorite ครั้งแรก อิอิ หวังว่าคงจะถูกใจกันนะคะ วันนี้ไปละค่ะ บ๊ายบายค่าา ^_^ แบบวีดีโอลิงค์นี้จ้าา ^^ https://www.facebook.com/photo.php?v=459563717502974&set=vb.277918315667516&type=2&theater   Create Date : 29 มกราคม 2557     Last Update : 31 มกราคม 2557 13:38:52 น. Counter : 850 Pageviews.   3 comment Share Tweet

พาเล็ตอลังการงานสร้าง Sephora Make-up Academy Palette แล้วคุณจะต้องกรีดร้อง สวัสดีค่า วันนี้ขอมารีวิวพาเล็ตอลังการงานสร้างฝุดๆจาก Sephoraนะคะ พาเล็ตนี้พอเห็นก็เกิดอาการมือไม้สั่นพร้อมกับกรีดร้องว่า "มันต้องเป็นของชั้น!!" 555 ค่ะ..แล้วมันก็เป็นของชั้นแล้วจริงๆ เลยจัดมา 2,500บาทกับร้านพรีออเดอร์ตามสไตล์ แต่ราคาจริงๆมัน 49.5 USD หรือ ประมาณ1,500บาทเองนะเธอ และอีกอย่างร้านในไทยที่เอาเข้ามาขายราคา2,990นู่นเลยค่ะ สูงลิบลิ่วเลย เพราะฉะนั้นราคาที่ต้องซื้อมาเรียกได้ว่าถูกมากๆเลยทีเดียว มาในกล่องแบบนี้ค่ะ เค้าบอกว่าครีเอทลุคได้เป็นล้านลุคเลย พร้อมกับลุคต่างๆที่สามารถแต่งได้โดยพาเล็ตนี้ด้วยค่ะ มีอะไรให้เล่นบ้างน้าา?? ^_^ อายแชโดว์ 72สี, อายไลน์เนอร์เนื้อครีม 18สี, บลัชออน 7, คอนซีลเลอร์อีก 3, อายไพรม์เมอร์กับลิปไพรม์เมอร์อย่างละ 1, ลิปกลอสอีก 28 จบครบเริ่ด !! กล่องลิ้นชักก๊องแก๊งหน่อยนึง แต่ไม่ได้ก๊องแก๊งจนเกินไป และเมื่อเทียบกับราคาแล้วให้ผ่านค่ะ ชอบกระจกมาก เปิดออกมาตั้งแต่งหน้า ระดับของกระจกตรงหน้าเป๊ะได้สบายๆ เปิดออกมาตรงกลางจะเจอกับกองทัพพาเล็ต Eye Shadow เครื่องสำอางอย่างหนึ่งที่ไม่มีทางใช้หมดในชาตินี้ (เพราะซื้อกันไม่จบไม่สิ้นจริงๆ สีมันไม่เหมือนกันเนอะ อิอิ คนเราต้องแต่งอะไรตามโอกาสสิ ซ้ำๆได้ไง^_^) มาพร้อมกับแปรงอายแชโดว์ 2อัน พู่กันทาลิป1อัน และสำหรับกรีดอายแชโดว์อีก 1อันค่ะ หลังจากลองแล้ว Pigmentสีค่อนข้างดีทีเดียวค่ะ ถ้าเทียบกับ Coastal Scentsซึ่งอยู่ในRangeราคาที่เท่าๆกันส่วนตัวนะคะ Sephoraกินขาด เทียบกันที่Pigmentนะ เพราะสองแบรนด์นี้ยังมีกองตกร่องอยู่เท่าๆกันค่ะ Swatchไม่หมดนะคะ ต้องขอโทษด้วย แอบอู้เอาเวลาอ่านหนังสือมาทำรีวิว อิอิ ว่างๆจะนั่งSwatchทั้งหมดให้ดูเลยนะคะ ^_^ พยายามเอาทั้งโทนอ่อน, กลาง และเข้มนะคะ ตามรูปบนซ้ายสีอ่อนโทนเขียวค่ะ, สีฟ้านี่สีกลาง และสีเหลืองกะดำแมตโทนเข้มค่ะ มีกลิตเตอร์สีเงินด้วยอ่ะ ปลาบปลื้มม  ด้านข้างขวาค่ะ พบกับ EyeLinerเนื้อครีม หลายสีสามารถครีเอทลุคได้ตั้งแต่ Everyday Look, Casual Lookไปจนถึงลุคแฟนซีกันเลยทีเดียว พูดถึงเนื้ออายไลน์เนอร์ สีไม่ทนเลยค่ะ แต่กรีดง่ายอยู่นะ ใช้เป็นเบสของอายแชโดว์จะแจ่มว้าวมากๆเลย อ่ะSwatchให้ดู มากมายหลายสี รูปนี้มืดไปนิดนะคะ ถ่ายกลางคืนแขนดำเลย มีคอนซีลเลอร์ค่ะ ตั้งแต่ผิวขาว, ผิวกลาง ไปจนถึงผิวเข้มครบ ตามนี้ บลัชออน โทนชมพูกับโทนส้มค่ะ มีครีมบลัชด้วยอันนึง เนื้อสีดีใช้ได้เลย พร้อมกับEye Primerอีก 1หลุมใหญ่ค่ะ ย้ายมาด้านซ้ายกันบ้าง คือจริงๆที่ซื้อมาโปรดปรานอายแชโดว์มากๆในมโนภาพ แต่พอเอาเข้าจริงๆแล้ว ปลื้มลิปกลอสมากที่สุดเลย ไม่เหนียวเหนอะหนะค่ะ ที่สำคัญทาแล้วออกสีจริงๆเหมือนลิปคัลเลอร์เลย  ครบทุกโทนตั้งแต่มีชิมเมอร์, ไม่มีชิมเมอร์, ชมพู, ส้ม, นู้ด, แดง, น้ำตาล และม่วงก็ยังมี ว่ากันว่าโทนม่วงกำลังมา เข้าทางเลย และลิปไพรม์เมอร์ค่ะ จบแล้วค่ะกับพาเล็ตนี้ ฟินมากๆเลย ไปแล้วค่ะวันนี้ สวัสดีค่าา    Create Date : 07 มกราคม 2557     Last Update : 7 มกราคม 2557 18:50:29 น. Counter : 1510 Pageviews.   4 comment Share Tweet

• Webmaster - BlogGang

• Maquiyarse
• BlogGang.com