Group Blog
 
All blogs
 

ช่วงบ้าห้านาทีของแมวคุณ

แปลโดยคุณ ทิวลิบ โพสไว้ที่ห้องแมวค่ะ

"
เรื่อง มาทำความรู้จัก ช่วงบ้าห้านาทีของแมวคุณ แปลมานะคะ
เนื้อหาสาระจริง แต่แปลใส่ตามอารมณ์ของคนแปลค่ะ

แมวจะมีเวลาที่อยู่ดี ๆ เปลี่ยนจากแมวขี้เกียจมาเป็นแมวเทอร์โบในชั่วพริบตา
แค่เสี้ยววินาทีบ้านคุณจะมีจรวดมีชีวิตแถมหางพุ่งปรู๊ดอยู่ในบ้าน และทุก ๆ วัน
มันจะเกิดขึ้นในเวลาเดิม ๆ เหมือนถูกสาป บางทีก็ถึงกับทำข้าวของเสียหายด้วย

หลังจากช่วงบ้าห้านาทีของแมวเทอร์โบผ่านไป เธอก็จะกลับมาเป็นแมวเชื่องนอน
หวดเหมือนเดิม ทำความสะอาดตัวเอง แล้วกลับไปนอนตามเดิม มัน..มัน เกิดอะไรขึ้น

ไม่มีลางสังหรณ์หรือซินแสไหนจะมาฟันธงให้ อยู่ดี ๆ เธอจะลุกพรวดขึ้นมาไล่กวด
กันเป็นบ้าเป็นหลัง กระโจนจากที่นึงไปอีกที่นึง เหาะราวกับนกว่างั้นเถอะ บางทีก็
โดดขึ้นที่สูงปรี๊ด แล้วโดดลงตุ๊บมาในชั่วพริบตา บางทีถ้าคุณดันไปยืนขวางทาง
เสือเผ่นของเธออยู่ เธอก็จะหยุดรอเดี๋ยวนึง แล้วจะวิ่งทะยานต่อไปทันที

อาการแบบนี้เดือดร้อนถึงต้นตระกูลเลยนะเนี่ย ทำให้คนเค้าต้องมาสืบสาวกันว่า
เธอมาจากต้นตระกูลไหน เผ่าพันธ์ใด ทำไมเธอจึงเหมือนลิงมากกว่าเหมือนแมว
อย่างนี้ พวกสายพันธ์ที่มาจากแมวป่าก็จะเทอร์โบมากหน่อย

++ช่วงไล่ล่าหาเหยื่อ++

ส่วนมากอาการนี้จะออกตอนเช้ามืด หัวค่ำ หรือไม่ก็ตอนพระจันทร์เต็มดวง เพราะ
มันเป็นช่วงเวลาที่มีแสงสลัว ๆ ที่ใช้บดบังตัวเองได้ เป็นเวลาที่แมวป่าออกล่า
เหยื่อ สำหรับแมวบ้าน ก็เป็นสัญขาติญาณดิบอย่างหนึ่งเหมือนกัน และที่สำคัญ
เค้าจะต้องกำจัดพลังงานที่มีมากในตัวเอง

ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายพันธ์ของแมวด้วย ยิ่งถ้ามีสองตัวหรือมากกว่านั้นอยู่ด้วยกัน ก็
สามารถมีอานุภาพทำลายล้างข้าวของในบ้านได้มากขึ้น

แมวบางตัวจะลอคคอทาสแมวไว้เป็นตัวประกัน เพื่อเอาไว้เล่นล่าเหยื่อ ถ้าคุณแม้
แต่จะเดินไปแค่ก้าวเดียว เธอก็จะโดดมางับขาเหมือนคุณโดนงูฉก แล้วก็เลื้อยหนี
ไป แล้วจะกลับมาใหม่เมื่อคุณไม่ต้องการ สำหรับแมวเด็ก ช่วงนี้ไมใช่ แค่ช่วง
เวลาบ้าห้านาที แต่สามารถขอต่อเวลานอกออกไปได้ถึงครึ่งชั่วโมง

++จะปราบเจ้าตัวน้อยยังไง++

ยาขนานเอกสุดคือ เล่นกับเธอให้ถูกเวลาที่เธอต้องการจะเล่น เมื่อพลังงานของ
เธอเพิ่มมากขึ้นจนจะทะลุปรอด และช่วงนี้ คุณ ต้องไม่รอให้เธอออกปาก

ดังนั้นคุณจึงต้องครีเอท ศัตรูของเธอขึ้นมา อะไรก็ตามที่สามารถโยนไปได้รอบ
ห้อง แน่หล่ะ อย่าโยนไปให้มันใกล้กับของที่มันจะแตก ไม่งั้นคุณก็จะซวยต้องมา
นั่งเก็บเอง กล่องหรือที่ที่เธอสามารถจะเข้าไปปลดปล่อยสัญชาติญาณการหลบ
และไล่ล่าของเธอได้

ถ้าเกิดอาการนี้ตอนกลางดึกทำไง คุณก็ควรจะนอนนิ่งเฉย อย่าเคลื่อนไหว แต่
อย่าถึงกับไม่หายใจเลยนะตรงนี้ขอหายใจปกติ อย่าแรง ใช้ความสงบสยบเคลื่อน
ไหวไว้ แมวส่วนมากเหมือนนักแสดง ไม่มีคนดูก็ไม่อยากโชว์ ไม่มีคนเล่นด้วยก็
เลิกไปเอง

แต่ก่อนเข้านอน ให้ดูว่าก่อนนอนเธอได้สลายพลังงานกันไปบ้างหรือยัง ตรงนี้คุณ
ต้องเสียสละเวลามาเล่นกับเธอก่อน หลังจากช่วงเวลาที่เธอพอใจจบลง เธอก็จะ
เลิกไปเอง

วันนึง ๆ เธอก็แค่ต้องการโชว์เทคนิคใหม่ ๆ ให้คุณเห็นว่าเธอไม่ได้กินกับนอนเป็น
อย่างเดียว แต่สามารถทำอย่างอื่นได้ด้วยนั่นคือความภูมิใจของเธอ จงเสียเวลาดู
เถิด

++ช่วงเวลาออดอ้อน เอาใจ++

รู้ไม๊ การที่เราลูบไปบนตัวแมว มันไม่ได้เป็นการลูบส่งเดชไปเฉย ๆ นะ ถึงแม้ใคร
บางคนอาจจะจะคิดยังงั้นก็เถอะ มันมีความหมายด้วย

ช่วงเวลาที่เราลูบขนเค้าเนี่ย บางทีเค้าจะสยายเล็บออกมาจิกเนื้อเรา ตามความ
เห็นของผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมของแมวนั้น (อันนี้ไม่ได้เสริมแต่งนะคะ ) เค้า
บอกว่า ...แมวไม่รู้หรอกว่ากำลังทำอะไรอยู่..( อะไรจะเพลิดเพลินขนาดนั้น) ก็
อาจจะประมาณได้ว่า เป็นช่วงเคลิ้มฝันไปกับความสุขสบายที่ได้รับจากการสัมผัส
การลูบสัมผัสคือชนวนแห่งการมีสุขภาพ ความอบอุ่นและการมีความสุขของแมว
และ มันเรียกช่วงเวลาของการที่เคยเป็นลูกแมวกลับมาด้วย

แต่ ถ้าช่วงนี้ สังเกตว่ามีอาการประหลาดออกมา เช่น หางเริ่มสั่น หายใจครืด ๆ
กระตุกขน ก็ขอให้หยุดการลูบไล้ไว้ก่อน แล้วก็ ค่อย ๆ เปิดการเจรจากับเธอดีๆ
ไปจนถึงไปชวนเธอเล่นอะไรสนุก ๆ ก่อน ก็จะทำให้เธอได้เผาผลาญพลังงานและ
ลืมอาการหลงไหลความสุขจนเกินขอบเขตนี้ไปได้

"

สัญชาติญาณตามธรรมชาติของสัตว์ ถึงแม้จะเป็นสัตว์เลี้ยงก็ยังไม่หายไปนะคะ




 

Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2550    
Last Update : 21 มีนาคม 2551 17:47:29 น.
Counter : 1017 Pageviews.  

เรื่องของแมวอ้วน

คุณ mr. pawin ได้โพสไว้ในกระทู้เกี่ยวกับแมวอ้วน
งได้ระบุที่มาของข้อมูลไว้แล้วค่ะ ขออนุญาตนำมาลงเป็นความรู้เพิ่มเติม
สำหรับคนที่พลาดกระทู้นะคะ

เอามาจาก //www.petgang.com อะครับ

แมวกินจุ

เรื่องบางเรื่องไม่คิดว่าจะเป็นเรื่อง แต่ก็เป็นจนได้ เช่นเรื่องกิน กินกันอยู่
ทุกวันแต่ก็เป็นปัญหา ฉบับที่แล้วคุยกัน เรื่องแมวเบื่ออาหาร ฉบับนี้ตรงข้ามกันเลย
คือ แมวกินจุ กินอาหารมากจนผิดปรกติ จะมีปัญหาหรือไม่

น่าติดตามครับ เพราะเรื่องยุ่งๆ ในอนาคตมักมาจากความเข้าใจผิดใน
ปัจจุบันของผู้เลี้ยงนี่แหละครับ ปัญหาแมวกินจุ ผิดปรกติหรือไม่ ต้องเข้าใจ
ธรรมชาติของแมวก่อน ผู้เลี้ยงต้องคอยดูแลแมวให้ดี เริ่มจากต้องรู้จักพฤติกรรม
การกิน ว่าตามธรรมดาเค้ากินอย่างไร

ธรรมชาติของแมวเป็นสัตว์กินเนื้อครับเค้าจึงชอบกินเนื้อสัตว์มากกว่าข้าว
มีหลายท่านยังเข้าใจผิด สังเกตได้ว่าผู้คนในสมัยก่อนมักนำปลาทูคลุกข้าวให้แมว
กิน ใส่ปลาแต่น้อย หนักข้าวเสียมาก เจ้าเหมียวจึงไม่ค่อยกินข้าว
เลือกกินแต่ปลาจนหมด เจ้าของก็นึกว่าแมวกินน้อย เลียอาหารคำสองคำก็อิ่ม
สำนวนไทยที่ว่า "กินเหมือนแมวดม" คงเกิดจากความเข้าใจผิดนี้เอง และในแต่ละ
ครั้งแมวมักกินไม่นานแต่กินได้บ่อยตามที่เค้าต้องการ

ปัญหาแมวกินจุที่เกิดจากเจ้าของ การให้อาหารแบบปล่อยให้แมวกิน
เองอย่างเต็มที่ กินกันทั้งวัน เป็นสาเหตุของโรคอ้วนครับ และโรคอ้วนส่งผลให้
เกิดความผิดปรกติในระบบอื่นๆตามมา เช่น โรคข้อกระดูกเสื่อมเนื่องจากเกิด
ปัญหาแรงเสียดกดของน้ำหนักตัวแมว โรคหัวใจ โรคตับ ถ้าเจ้าของขุนแมวจน
อ้วนเกินเหตุ โรคร้ายย่อมเกิดขึ้นตามมา การให้อาหารที่ถูกต้อง

ควรให้ทั้งแบบกินเองเป็นบางมื้อ และทั้งแบบให้เป็นเวลาซึ่งผู้เลี้ยงสามารถ
ควบคุมปริมาณอาหารและการกินได้อย่างแม่นยำ การกินจุอย่างผิดปรกตินั้นจะ
ทราบได้ต้องเริ่มด้วยการบันทึกข้อมูลการกินและบันทึกน้ำหนักของแมว ควรทำ
อย่างน้อยทุกๆ สองสัปดาห์ครั้ง จะได้มีข้อมูลว่าเมื่อเจ้าเหมียวกินอาหารเข้าไปใน
ขนาดที่กำหนดแล้ว

มีอัตราการเจริญเติบโตเป็นอย่างไร อาหารที่กินปริมาณเหมาะสมหรือไม่ ข้อสรุป
เบื้องต้นที่ได้จากการบันทึกมีสองกรณี คือ กินอาหารจุแล้วน้ำหนักตัวเพิ่ม และกิน
อาหารจุน้ำหนักตัวไม่เพิ่มบางตัวกลับลดลง

กรณีที่แมวกินจุน้ำหนักตัวเพิ่ม ทำให้เกิดโรคอ้วน แมวเริ่มอ้วนหรือไม่
นั้นสังเกตได้จากรูปร่างทางด้านบน ถ้ามองลงมาจากด้านบนแล้วเห็นว่ารูปร่างของ
แมวเหมือนลูกกระสุนปืนกล่าวคือ ส่วนหัวเล็ก ส่วนอกตลอดจนท้องและสะโพก
ใหญ่เสมอเท่ากันหมด แสดงว่าเริ่มอ้วนแล้ว และผู้เลี้ยงต้องเริ่มควบคุมปริมาณ
อาหารที่ให้ รวมทั้งสรรหากิจกรรมลดความอ้วนให้แมวร่วมด้วย เช่นหลอกล่อให้
เค้ากระโดดโลดเต้น

กรณีที่แมวกินจุแต่น้ำหนักตัวไม่เพิ่ม ในที่นี้หมายถึงไม่ได้มีอาการผิด
ปรกติอื่นๆ ร่วม ไม่ผ่ายผอม ไม่ถ่ายท้องหรือไม่มีอาการอาเจียน เรียกว่าอาการ
ภายนอกเป็นปรกติดี กรณีนี้สิ่งที่เจ้าของควรตระหนัก คือ เรื่องของอาหารการกิน
ควรชั่งตวงปริมาณอาหารก่อนว่าเค้ากินอาหารแล้วร่างกายนำไปใช้ได้มากน้อยแค่
ไหน แล้วปริมาณที่กินเข้าไปกับการขับถ่ายออกมาเมื่อเทียบกันแล้วเป็นอย่างไร

ถ้ากินมากถ่ายมากต้องมาตรวจดูกันแล้วว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เกิดจาก
อาหารที่กินเข้าไปหรือเกิดจากระบบร่างกายของแมวเองที่ผิดปรกติ ไม่สามารถ
ย่อยอาหารและนำเข้าไปใช้ได้จึงทำให้แมวหิวบ่อยและกินจุ กรณีที่แมวกินจุแต่
น้ำหนักตัวกลับลดลง อย่างนี้น่าเป็นห่วง เพราะถือว่าผิดปรกติ สิ่งที่ต้องสังเกตร่วม
ด้วย คือ อาการอื่นๆ เช่น กินอาหารจุแต่น้ำหนักตัวลด มีอาการขาดน้ำ ตัวแห้ง
กินน้ำเยอะปัสสาวะบ่อย

แมวหลายตัวมีลักษณะนี้ และโรคที่เข้าข่ายน่าสงสัย คือ โรคเบาหวาน นอก
จากอาการข้างต้นแมวบางตัวอาจมีอาการท้องเสียร่วม บางตัวมีปัญหาแก้วตา
เสื่อม เป็นฝ้า บางตัวมีแผลแฉะที่ง่ามเท้าหรือที่ขาเรื้อรัง หากพบอาการต่างๆ ที่
กล่าวมารีบพาแมวไปตรวจร่างกายเสียแต่เนิ่นๆ เพราะโรคเบาหวานรักษาได้ และ
ถ้าเจ้าของสามารถดูแลแมวได้อย่างดี

ใส่ใจในการให้ยา เข้มงวดเรื่องการควบคุมอาหาร เค้าสามารถมีชีวิตอยู่
กับเราได้อีกนาน แต่ถ้าไม่เอาใจใส่โรคนี้ก่อปัญหากับอวัยวะอื่นๆ ในร่างกายของ
แมวอีกมากมายตามมา โรคของพยาธิในระบบทางเดินอาหาร เป็นสาเหตุสำคัญ
อย่างหนึ่งซึ่งทำให้แมวกินจุ แต่กลับผ่ายผอม น้ำหนักตัวลดลง อาทิ พยาธิตัวตืด
ในทางเดินอาหารพบได้เสมอในแมวตัวที่กินอาหารดิบๆ กินหนูและสัตว์เลื้อย
คลาน หรือปลาดิบๆ เพราะอาหารอันโอชะของมันเหล่านี้มักมีตัวอ่อนของพยาธิตัว
ตืดแฝงอยู่ คอยแย่งอาหารกิน เมื่อแมวกินอะไรเข้าไปแทนที่ร่างกายจะได้ดูดซึม
ของดีๆ ไปใช้ กลับถูกตัวพยาธิแย่งกินเสียหมด สังเกตได้ว่าแมวหิวเก่งและกินจุ
เพราะมันต้องเลี้ยงพวกกาฝากพวงใหญ่ในทางเดินอาหารด้วย จะทราบว่ามีพยาธิ
ในทางเดินอาหารหรือไม่

ให้สังเกตการขับถ่ายประกอบด้วย หากถ่ายออกมาแล้วมีพยาธิตัวแบนๆ
อาจยาวเป็นหลายๆ นิ้วหรือสั้นเป็นท่อนๆ บ่งได้ว่าประสบปัญหานี้เข้าแล้ว ควรนำ
แมวพร้อมกับเก็บตัวอย่างอุจจาระของเค้าไปตรวจสามารถรักษาได้ไม่ยาก เพียง
แค่ป้อนยาถ่ายพยาธิตามที่สัตวแพย์ระบุไว้ให้ หมั่นทำซ้ำตามที่คุณหมอสั่ง ขณะ
เดียวกันต้องคอยดูเจ้าเหมียวอย่าปล่อยให้ไปเที่ยวไล่กินหนูอีก และเจ้าของต้อง
ปรับอาหารการกินโดยปรุงให้สุก สามารถขจัดปัญหาเรื่องพยาธิได้เช่นกัน

โรคของตับอ่อนไม่สามารถสร้างน้ำย่อยออกมาย่อยอาหารได้ตามปรกติ
พบได้ชัดเจนว่าแมวกินเก่ง หิวบ่อย แต่ในขณะเดียวกันร่างกายกลับผอมโซ ถ่าย
ท้องอย่างรุนแรง และสิ่งที่ถ่ายออกจะพบว่าเป็นอาหารที่ยังไม่ย่อย เรียกว่ากิน
อะไรเข้าไปเวลาถ่ายแทบไม่ต่างจากที่กิน อุจจาระของแมวจะเหลวมาก มีกลิ่น
แรง ถ่ายหลังจากที่กินอาหารเข้าไปไม่นาน

กินจุใช่ว่าจะดี กินมากไปก็มีปัญหา การเลี้ยงแมวที่ดี คือ ให้อาหารอย่าง
พอเหมาะ ไม่ให้มากจนเกินไป หากสงสัยว่าเจ้าเหมียวมีความผิดปรกติ อย่ารอช้า
รีบพาแมวไปตรวจร่างกายหรือขอคำแนะนำจากสัตวแพทย์

สรุปว่ากินจุไม่ว่าคนหรือแมวก็มีปัญหาทั้งนั้นแหละครับ โรคอ้วนไม่ได้เกิด
ขึ้นเฉพาะกับคนเท่านั้น พบได้กับแมวเช่นกัน สาเหตุของปัญหาส่วนหนึ่งเกิดจาก
ค่านิยมของเราซึ่งเคยคิดว่าสัตว์อ้วนแสดงถึงสุขภาพที่ดี อีกส่วนเกิดจากการไม่ใส่
ใจเมื่อแมวกินมากกว่าปรกติ ในเบื้องต้นถ้าพบว่าแมวมีรูปร่างอ้วนคงต้องพาไปพบ
สัตวแพทย์

เนื่องจากต้องตรวจดูให้แน่ใจก่อนว่าความอ้วนของสัตว์นั้นไม่ได้เกิดจาก
ความเจ็บป่วยจนทำให้สัตว์มีรูปร่างดังกล่าว เมื่อมั่นใจแล้วว่า ไม่มีโรคใดๆ ทำให้รูป
ร่างอ้วนผิดปรกติเช่นนี้ แต่เหตุที่อ้วนเพราะร่างกายมีการสะสมของไขมันมากไป
นั่นเอง ต่อจากนั้นเราต้องให้แมวมาสู่การลดน้ำหนัก เพื่อปรับสภาพร่างกายให้เข้า
สู่สภาวะที่สมดุล เหตุที่แมวอ้วนเนื่องจากการใช้พลังงานที่ได้รับจากอาหารน้อย
กว่าพลังงานที่บริโภคเข้าไปในแต่ละวัน ว่าง่ายๆ คือ

กินเข้าไปมากแต่ใช้น้อย มันจึงมีส่วนที่เหลือซึ่งเก็บสะสมไว้ในรูปของไขมันพอก
พูนตามร่างกาย

เทคนิคการลดความอ้วนให้แมว ตามปรกติเจ้าแมวในบ้านเรามีน้ำหนักอยู่
ประมาณ 4 กิโลกรัม จัดว่ามีรูปร่างเพรียวบาง โครงสร้างเล็กตัวไม่โตอย่างแมว
ฝรั่งเค้า

ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าเราเอาแมวอ้วนมาชั่งน้ำหนักตัวได้ 6. 4 กิโลกรัม ลบออก
ด้วยน้ำหนักตัวเหมาะสม จะพบว่าแมวมีน้ำหนักเกินไปถึง 2.4 กิโลกรัม งานของ
เราคือการนำน้ำหนัก 2. 4 กิโลกรัม หรือส่วนเกินนี้อออกไปให้ได้ ถ้าถามต่อว่า
ง่ายไหมที่จะขจัดน้ำหนักตัว 2.4 กิโลกรัมออกไป จะว่าง่ายก็ไม่ง่าย จะว่ายากก็
ไม่ยาก ทั้งนี้ขึ้นกับความสามารถของท่านผสานกับความเอาใจใส่ต่อแมว

น้ำหนักตัวส่วนเกินของแมว เช่น ส่วนเกิน 2.4 กิโลกรัม ใช้เวลาลดน้ำหนัก
นานแค่ไหน บางท่านบอกว่า 7 วัน บางท่านบอกว่า 14 วัน บางท่านบอกว่า 1
เดือน ถ้าเราลองเทียบดูจะพบว่าแมวหนัก 6.4 กิโลกรัม ถ้าจะลดน้ำหนักลง 2.4
กิโลกรัม คิดเป็น 37.5 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักตัวที่ต้องหายไป ไม่น้อยนะครับ
ระยะเวลาที่เหมาะเราสามารถหาได้ครับ ตามปรกติการลดน้ำหนักตัวที่เหมาะสมใน
สัตว์นั้นลดได้มากที่สุดอยู่ที่ 2 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักตัว และลดได้น้อยที่สุดคือ
0.5 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักตัว

แมวหนัก 6.4 กิโลกรัม ถ้าลดน้ำหนัก 2 เปอร์เซ็นต์ จะลดได้ 0.12
กิโลกรัมต่อสัปดาห์ และถ้าลดน้ำหนักลง 0.5 เปอร์เซนต์ต่อสัปดาห์จะลดได้ 0.03
กิโลกรัมต่อสัปดาห์ เรานำน้ำหนักตัวออกไป 2.4 กิโลกรัม จะใช้เวลาไวที่สุดที่ 20
สัปดาห์ และใช้เวลานานที่สุดที่ 80 สัปดาห์ นี่คือหลัการคิดเรื่องระยะเวลาที่ควรทำ
ให้แมวลดน้ำหนักตัวอย่างเหมาะสม จะเห็นว่าใช้เวลาไวที่สุดถึง 5 เดือนและนานที่
สุด 1 ปีกับอีก 7 เดือน โอ้โห นานอยู่ไม่หยอก เพราะฉะนั้นค่อยเป็นค่อยไปครับ
ขืนลดน้ำหนักฮวบฮาบลงไปไวมาก กลับส่งผลเสียต่อร่างกายครับ

หลังจากทราบเรื่องระยะเวลากันแล้ว มานั่งคิดกันต่อว่าจะให้กินอะไรดี เพราะถ้า
ขืนกินแบบเดิมอีก และปริมาณเท่าเดิมคงไม่แคล้วต้องเป็นหมูตอนเช่นเดิม การ
ให้อาหารควรขอคำแนะนำจากสัตวแพทย์โดยตรงครับต้องคำนวณหาปริมาณ
พลังงานที่แมวต้องใช้ในแต่ละวันอย่างเหมาะสมก่อน

เมื่อทราบแล้วจะได้นำมาประกอบการเลือกอาหารให้แมวกินได้อย่างถูก
ต้อง เพระอาหารแต่ละยี่ห้อก็ต่างกันไป บางยี่ห้อมีสูตรอาหารลดน้าหนักที่
สามารถให้กินได้ทั้งเป็นแบบอาหารกระป๋องและแบบเม็ดซึ่งสะดวกต่อการให้มาก
เค้าจะระบุอยู่ที่ข้างซองโดยตรงว่าอาหารสำหรับลดน้ำหนักแมว วิธีการให้อาหาร
ควรให้วันละหลายๆ ครั้งถ้าทำได้ควรให้วันละ 3-4 ครั้ง โดยให้บ่อยๆ ตามปริมาณ
ที่กำหนด

ไม่ควรให้วันละ 1 ครั้งแบบเทให้คราวละมากๆ เพราะแมวจะทิ้งช่วงการกิน
อาหารนานเกินไป เมื่อจัดการเรื่องการกินซึ่งเป็นการรับเอาพลังงานเข้าไป มาสู่
การจัดการเรื่องการใช้พลังงาน เพื่อเอาพลังงานที่มันสะสมเหลือเฟือระบายออก
ไปบ้าง การออกกำลังกาย

การเล่นเกมช่วยกระตุ้นให้แมวที่รักได้มีกิจกรรมทำ ได้ขยับแข้งขา ได้
กระโดดโลดเต้น เป็นเรื่องที่ต้องทำควบคู่ไปด้วย ราคาของเล่นที่ใช้ล่อแมวให้
กระโดด ตบหรือตะปบ ก็ไม่แพงเลยครับ รูปร่างเหมือนเบ็ดตกปลาที่มีเหยื่อเป็น
นกปลอมหรือหนูปลอม เมื่อเราถือแล้วกวัดไกวไปมาอยู่เหนือศีรษะแมว เค้าจะเริ่ม
สนใจและอยากจะตะครุบเล่น

มันพร้อมกระโดดตบ แต่เราต้องยั่วให้เค้ารู้สึกสนุกก่อน จะได้เล่นกันอย่าง
ต่อเนื่อง หรือลูกบอลยางที่มีเสียงปี๊ดๆ หมั่นโยนให้แมววิ่งไล่ตบทำบ่อยๆ เข้า เจ้า
เหมียวจะติดใจ การออกกำลังกายนั้นควรทำอย่างต่อเนื่องประมาณ 10-15 นาทีใน
แต่ละวันครับ การวัดผล เรื่องนี้คงต้องใจเย็นๆ สักนิดครับ เพราะเราให้เวลานาน
หลายเดือนในการวัดผลเมื่อครบหนึ่งเดือน ทีนี้ลองจับแมวมาชั่งน้ำหนักตัวดู โดย
ใช้เครื่องชั่งที่มีความละเอียดเพราะแมวตัวเล็กมาก บางทีลงไป 1- 2 ขีด เครื่องชั่ง
ไม่ละเอียดพอ แสดงผลไม่แตกต่างหรอกครับ แล้วคุณจะหมดกำลังใจไปเปล่าๆ

ความอ้วนของแมวเป็นเรื่องที่เราสามารถเอาชนะได้ เพราะเจ้าแมวเองคงไม่
อยากเจ็บไข้ได้ป่วยเพราะโรคอ้วนอยู่เหมือนกัน อะไรที่เป็นสาเหตุโน้มนำทำให้
เกิดปัญหาได้ขจัดไปเสียเถิดครับ แมวจะได้อยู่กับเราไปนานๆ


ยาวหน่อยนะคะ แต่ความรู้แน่นเอี้ยด




 

Create Date : 04 มกราคม 2550    
Last Update : 21 มีนาคม 2551 17:50:20 น.
Counter : 5557 Pageviews.  

สิ่งไม่ดี 10 ประการที่คุณไม่ควรให้แก่สัตว์เลี้ยงของคุณ

ข้อมูลจากห้องจตุจักรแหละค่ะ ขอบคุณท่านเจ้าของข้อมูลด้วยนะคะ (ใครไม่รู้)

1. กระดูก
- กระดูกเป็นเป็นสิ่งไม่ดีต่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยง ร่างกายสุนัขและแมว
ไม่สามารถทนของแข็งอย่างกระดูกได้ หากรับประทานเข้าไปกระดูกอาจติดคอ
หรือหากเข้าไปได้ถึงในลำไส้ สุนัขหรือแมวของคุณคงจะถูกช่วยโดยการผ่าตัด
เป็นแน่

2. ช็อกโกแล็ต
- ช็อกโกแล็ตมี Theobromine ซึ่งส่งผลต่อการเพิ่มจังหวะการเต้นของหัวใจ,
กระตุ้นระบบสมองส่วนกลาง และเสี่ยงต่ออาการตีบหรือคอดของเส้นเลือด
และแสดงออกในรูปแบบตั้งแต่อาเจียน, ท้องร่วง, กระสับกระส่าย
จนถึงหัวใจทำงานผิดปกติ, หมดสติจนถึงตาย อาการเหล่านี้แสดงให้เห็นเร็วมาก
เพียง 4-6 ชั่วโมงหลังรับประทาน ดังนั้นควรจะปรึกษาสัตวแพทย์ทันทีที่สัตว์เลี้ยง
ของคุณได้รับประทานช็อกโกแล็ตลงไป

3. แอลกอฮอล์
- แอลกอฮอล์เป็นสิ่งที่สัตว์เลี้ยงของคุณควรหลีกเลี่ยง เพราะแอลกอฮอล์ปริมาณ
เพียงนิดเดียว ก็สามารถทำให้แมวหรือสุนัขเมาเดินโซเซชนข้าวของ หรือทำให้ตัว
เองบาดเจ็บได้แล้ว นอกจากนั้นอาจทำให้มันไม่สามารถบังคับการขับถ่ายในขณะ
นั้นๆได้อีกด้วย สำหรับแอลกอฮอล์ในปริมาณสูง จะกดประสาทส่วนกลาง ทำให้
การหายใจและหัวใจทำงานผิดปกติ และอาจร้ายแรงถึงขั้นตายได้

4. นม
- ท่านอาจคิดว่านมเป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับสุนัขและแมวของคุณ แต่ที่จริงแล้ว
ร่างกายของสัตว์เหล่านั้น ไม่สามารถรับแล็คโตสในปริมาณมากๆได้ จนทำให้เกิด
อาการท้องร่วงนอกจากนี้สัตว์เลี้ยงมักจะขาดเอ็นไซน์ ในการย่อยน้ำตาลในนม
ทำให้เกิดอาการอาเจียน, ท้องเสีย หรืออาการผิดปกติในลำไส้

5. แฮมหรืออาหารที่ทำจากสัตว์ชนิดอื่นที่มีรสเค็ม
- อาหารเหล่านี้เป็นอันตรายต่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยงมาก นอกจากจะมีปริมาณ
ไขมันสูงแล้ว ยังมีรสเค็มจนอาจเป็นสาเหตุของอาการปวดท้องอย่างรุนแรง
ยิ่งกว่านั้นสุนัขสายพันธ์ใหญ่ๆ หากได้รับประทานอาหารที่มีรสเค็มแล้ว มักจะดื่ม
น้ำมากจนเกิดอาการที่เรียกว่า bloat ซึ่งเป็นอาการ ที่เกิดจากภาวะที่มีปริมาณแก๊ส
ในท้องมากเกินไป และจะตายในไม่กี่ชั่วโมงต่อมาหากไม่ได้รับการรักษา หรือ
ปฐมพยาบาลที่ถูกต้อง

6. หัวหอม
- หัวหอมประกอบไปด้วย allyl propyl disulfide ซึ่งเป็นสารที่สามารถทำลายเซล
เม็ดเลือดแดง และส่งผลให้สัตว์เลี้ยงเกิดอาการโลหิตจาง อ่อนแอและมีปัญหาใน
การหายใจ ดังนั้นควรพาสัตว์เลี้ยง ไปพบสัตวแพทย์ทันทีที่มันรับประทานหัวหอม
เข้าไป

7. คาเฟอีน
- คาเฟอีนประกอบไปด้วย methylated xanthine ซึ่งกระตุ้นการทำงานของระบบ
ประสาทส่วนกลาง และการทำงานของหัวใจ นอกจากนั้นในหลายชั่วโมงต่อมาอาจ
แสดงอาการกระสับกระส่าย อาเจียน ในสั่นจนถึงขั้นเสียชีวิต

8. อโวคาโด
- อโวคาโดมีปริมาณไขมันสูง ซึ่งส่งผลให้เกิดอาการปวดท้อง และอาเจียน
นอกจากนั้นเมล็ตของมันยังเป็นพิษ และอาจไปตกค้างในลำไส้จนสัตว์เลี้ยงของ
คุณต้องถูกผ่าตัดเลยทีเดียว

9. ปลาทูน่า
- แปลกใจใช่มั๊ยคะว่าทำไมปลาทูน่าจึงส่งผลไม่ดีต่อแมวที่รักได้ คือกล้ามเนื้อ
หัวใจของแมวต้องการ กรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า Taurine เพื่อรักษา
ประสิทธิภาพการทำงาน ปลาทูน่าที่เราทานกันไม่มีกรดอะมิโนชนิดนี้
และหากแมวรับประทานทูน่าเหล่านั้นอาจทำให้การทำงานของหัวใจมีปัญหา
หากท่านอยากให้แมวได้ลิ้มรสปลาทูน่า ท่านก็ควรแน่ใจก่อนว่าปลาทูน่านั้น
เป็นทูน่าเฉพาะสำหรับแมว เพราะมันจะถูกเพิ่ม Taurine ให้เหมาะสมกับร่างกาย
ของแมว

10. ลูกเกด และองุ่น
- จากการศึกษาพบว่าการรับประทานลูกเกด และองุ่นในสัตว์เลี้ยงอาจทำให้ไต
ทำงานหนักมากขึ้น




 

Create Date : 22 ธันวาคม 2549    
Last Update : 21 มีนาคม 2551 17:53:50 น.
Counter : 1290 Pageviews.  

รวม Tip แมวเด็ก

จากหนังสือ รู้ไหม แมวคิดอะไรอยู่ เขียนโดย GWEN BAILEY แปลโดย
อาสยา ฐกัดกุล

ยำๆ ความรู้เกี่ยวกับแมวเด็ก

ยีนที่แมวได้รับถ่ายทอดมาจากพ่อของมัน เป็นเครื่องช่วยตัดสินว่ามันจะมีความ
เป็นมิตรมากน้อยแค่ไหน ยีนทางฝ่ายแม่ก็มีผลบ้างแต่ถ้าแม่แมวมีความเป็นมิตร
อยู่แล้วจะมีลูกที่เข้าสังคมได้ดีกว่า เพราะมันจะคอยสอนให้ลูกรู้ว่าไม่มีอะไรที่น่ากลัว

แมวจะคบหาสมาคมกับมนุษย์ได้ดีแค่ไหน ขึ้นอยู่กับความถี่ในการเข้าสังคมของ
มันเมื่อมันมีอายุระหว่าง 2 - 7 สัปดาห์ ถ้ามันมีประสบการณ์ที่ดีหลายๆ ครั้งตั้งแต่
เด็ก มันก็จะโตขึ้นเป็นแมวที่มีมนุษยสัมพันธ์ดีและเข้ากับผู้อื่นได้ง่าย

แมวจะเริ่มหัดทำเสียงครางในลำคอเมื่อมันอายุได้หนึ่งอาทิตย์

แมวที่โตแล้วจะปรับตัวเข้ากับสมาชิกใหม่ที่เป็นลูกแมวเล็กๆ ได้ดีกว่าแมวโตด้วยกัน

ลูกแมวเล่นเพื่อพัฒนาทักษะของตนเองโดยการไล่จับสิ่งที่เคลื่อนไหว ซึ่งอาจจำ
เป้นต่อการมีชีวิตรอดของมันเมื่อโตขึ้น

เล็บของลูกแมวเกิดใหม่จะยื่นออกมาตามปรกติ ต่อมากล้ามเนื้อของมันจึงจะ
คอ่ยๆ พัฒนาขึ้นจนหดเล็เข้าไปอยู่ในผิวหนังที่ใช้ห่อหุ้มได้

เมื่อลูกแมวเล็กมากและอยู่แต่ในรัง แม่แมวจะเลียลูกเพื่อกระตุ้นให้พวกมันขับ
ถ่าย แม่แมวจะทำเช่นนี้ทุกครั้งหลังให้นม จนกว่าลูกแมวจะโตพอที่จะเดินออกไป
ขับถ่ายนอกรังเอง

ลูกแมวจะกินนมแม่จนอายุได้ประมาณ 5-6 อาทิตย์ และจะหย่านมเมื่อแม่นำเหยื่อ
กลับมาป้อน หรือเมื่อเจ้าของป้อนอาหารแข็งให้

ลูกแมวจะหมดแรงเมื่อถูกยกขึ้นโดยการดึงหนังที่คอ ดังนั้นแม่แมวจึงสามารถคาบ
ลูกไปไหนมาไหนได้ง่ายตอนที่มันต้องการย้ายรัง

ถ้าเราทำให้แมวรู้สึกพอใจเมื่อพบเราบอ่ยๆ เราก็จะสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น
กับมันได้อย่างรวดเร็ว ลูกแมวเมื่อโตขึ้นมันก็จะค่อยๆ เรียนรู้ไปเองว่าคนไหนไว้ใจ
ได้และคนไหนต้องเลี่ยงให้ห่าง คนที่ให้อาหารมัน เล่นเกมกับมัน หรือหาที่พักผ่อน
ที่ปลอดภัยให้ ก็จะกลายเป้นคนโปรดของมันไปในที่สุด

ในช่วงอาทิตย์แรกๆของชีวิต ยิ่งลูกแมวได้รับการดูแลอย่างอ่อนโยนมากเท่าไร
มันก็จะยิ่งกลายเป็นแมวที่เป็นมิตรกับมนุษย์มากขึ้นเท่านั้น ลูกแมวที่มีคนคอย
ดูแลอย่างน้อยสี่คนขึ้นไปในช่วงอาทิตย์แรกๆ จะโตขึ้นเป็นแมวที่ผ่อนคลายและ
เป็นมิตรกับคนทุกคน


อ่านกันเล่นเพลินๆ นะคะ




 

Create Date : 02 ธันวาคม 2549    
Last Update : 21 มีนาคม 2551 17:54:52 น.
Counter : 1070 Pageviews.  

1  2  

ban_ri
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




ขอต้อนรับทุกท่านสู่ บันริ ฟาร์ม แมว

เราไม่ได้เพาะแมวขาย แต่เรามีแมว
หลากสี หลายสายพันธ์

สีเทา สีน้ำตาล สีดำ สีขาว
ลายเสือเข้ม ลายเสืออ่อน

เราไม่มีแมวสายพันธ์ราคาสูง
แมวทุกตัวของเรามาจากข้างถนน

หลายตัวถูกทิ้งขว้าง หลายตัว
ก็เป็นลูกๆ ที่เกิดมาในฟาร์ม

ฟาร์มแมวของเรามีสองสาขา
ตามความสะดวกของแม่แมว

แมวของเรามีไว้เพื่อความบันเทิง
และความสุข เพียงอย่างเดียว

Friends' blogs
[Add ban_ri's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.