Group Blog
 
All blogs
 

Review: BIOTHERM Life Plankton™ Mask มาส์กที่สาวกแพลงตอนต้องมี!




สวัสดีค่า Blog นี้เป็นรีวิวสกินแคร์ตัวแรกของปี 2016 เลยนะคะ ปกติก็ไม่ค่อยได้รับงานทดลองสกินแคร์อยู่แล้ว

แต่เพราะนี่เป็น Life Plankton Mask ทรายไม่ลองไม่ได้จริงๆค่ะ ตั้งแต่ถวายตัวเป็นทาสให้กับ Biotherm Life

Plankton™ Essence แล้ว มันหลงหัวปักหัวปำจริงๆ ย้อนไปเมื่อต้นปีที่แล้วนะคะ ทรายได้พาไปทำความรู้จัก

กับ Essence บำรุงผิวจาก Biotherm ที่สร้างปรากฎการณ์เป็นกระแสแบบห้างแตกในปีที่แล้ว ของขาดแบบ

บ้าคลั่งมาก เพราะว่ามันดีจริงๆค่ะ






ปีนี้เค้าปล่อยหมัดเด็ดอีกแล้ว เปิดตัว BIOTHERM Life Plankton™ Mask ให้ได้เห็นกันเมื่อราวๆเดือน

พฤศจิกายน แต่เริ่มขายจริงๆอย่างเป็นทางการทั่วโลกเมื่อวันที่ 15 มกราที่ผ่านมานี้เองค่ะ (พารากอนแอบ

มีขายพิเศษก่อนใครตั้งแต่กลางเดือนธันวา) คาดว่ามีหลายคนได้ลองแล้วหละ ตัวทรายเองก็ได้รับโปรดักส์

สำหรับสื่อมาก่อนหน้านั้นเพื่อทดลองใช้ค่ะ ทรายตื่นเต้นมากเลยพอพี่พีอาร์บอกว่า แพลงตอนมีมาส์กแล้ว

และมันเป็นแบบ Sleeping Mask ที่ทรายชอบด้วย คาดหวังเอาไว้มากเลยค่ะ เพราะเรารักตัว Essence มาก


พอได้โปรดักส์จริงมาบอกเลยประทับใจตั้งแต่ขนาด แพ็คเกจจิ้ง เนื้อผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงอุปกรณ์ที่ออกแบบมา

ให้ใช้คู่กัน มันดูดีไปหมด พูดแล้วจะหาว่าอวย คือตั้งใจอวยจริงๆแหละ อะไรที่ชอบก็มักจะเวิ่นได้ไม่จบไม่สิ้น55






BIOTHERM Life Plankton™ Mask มาพร้อมกับแปรง Smart Brush นะคะ จริงๆขายเป็นแบบอุปกรณ์เสริม

ราคา 300 บาทค่ะ จะซื้อหรือไม่ซื้อก็ได้ แต่ว่ามีก็ดีเพราะว่าเค้าออกแบบมาให้หัวแปรงเหมาะกับเนื้อของมาส์ก

แล้วก็ในการจุ่มแปรงลงไปตรงๆ 1 ครั้งแบบที่ทรายทำในรูป แปรงมันจะเก็บเนื้อมาส์กขึ้นมาในปริมาณที่เค้า

ได้ทำการคำนวนไว้ให้แล้วเรียบร้อยว่า พอเหมาะพอดีกับการทามาส์ก 1 หน้า (ถ้าใครหน้าเล็กมากก็อาจจะพอ

เหลือมาทาที่คอได้ด้วยค่ะ) ซึ่งทรายลองแล้ว เป๊ะเวอร์!








คุณสมบัติหลักๆเลยของมาส์กตัวนี้ก็คือ เป็น Healing Mask ช่วยปลอบประโลมผิวจากมลภาวะต่างๆที่เรา

ต้องเผชิญตลอดทั้งวันและฟื้นฟูโครงสร้างผิวเรา ปกติแล้วตัว Essence เองก็จะคุณสมบัตินี้เหมือนกันนะคะ

แต่พอมาในรูปแบบมาส์กจะเข้มข้นมากยิ่งขึ้นใน ลักษณะแบบ Extreme soothing & intense repair เลยค่ะ





เนื้อมาส์กเค้าออกแบบมาเป็น Essence in Mask เพื่อช่วยให้ Life Plankton™ สามารถทำงานได้ดี

และช่วยให้ประสิทธิภาพในการฟื้นบำรุงสามารถทำได้ต่อเนื่องเป็นเวลายาวนานขึ้น เพราะว่ามีลักษณะแบบ

Hydrogel ตัวนี้เค้าพัฒนาให้มีการควบคุมการปล่อยความเข้มข้นของ Life Plankton™ ให้ทีละชั้นผิว โดยที่

ลงได้ลึกถึง 5 ชั้นผิว และล็อคความเข้มข้นของ Life Plankton™ เอาไว้ได้ยาวนาน มันเลยต่อเนื่องและฟื้นฟู

ได้ตลอดทั้งคืน ไม่ใช่แค่ทาไปตอนแรกแล้วก็จบเลย






ตัว Life Plankton™เค้าสามารถไปกระตุ้นการสร้าง Collagen ในชั้นผิวของเราได้นะคะ เค้าจะไปกระตุ้น

เซลส์ไฟโบบลาสต์ของเราเพื่อให้ขยันไปทำหน้าที่สร้างเส้นใยคอลลาเจน อิลาสติน แล้วก็สร้างเซลส์ผิวใหม่

โครงสร้างใหม่ที่แข็งแรงก็จะช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย การร่วงโรยของผิวได้ค่ะ เป็น Anti-Aging ด้วย

จริงๆแล้วเรื่องผิวของเรา ถ้าเอาภาษาบ้านๆเลยนะคะ อธิบายง่ายๆก็เหมือนกับบ้าน ถ้าโครงสร้างดีแข็งแรง

ผิวเราจะสุขภาพดีค่ะ โครงดีก็จะทนทาน ถ้าโครงไม่ดีก็ถล่มได้






ตอนครั้งแรกที่ทรายทา ทรายแอบตกใจอยู่เหมือนกัน ตอนที่ปาดลงผิวปุ๊ป เห้ยทำไมเย็น คือเย็นโดยที่

เราไม่ได้เอาเข้าตู้เย็นนะคะ ทรายวางไว้ในห้องเฉยๆ และรู้สึกเหมือนเย็นมากขึ้นจนเราไม่แน่ใจว่ามันเย็น

หรือว่าชา หรือว่ายิบๆอะไรหรือเปล่า? แต่หน้าก็ไม่แดงนะ ก็เลยไปถามทางแบรนด์ว่า รู้สึกแบบนี้ตอนที่

ใช้ครั้งแรก เราคิดไปเองหรือเปล่า ทางนั้นเค้าหัวเราะเลยค่ะ เพราะว่ามันเป็น Cooling Effect ของมาส์ก

ตัวนี้ ที่ออกแบบมาให้สามารถปรับลดอุณหภูมิผิวลงไปได้ถึง 5องศา ประโยชน์คือ ทุกครั้งที่เรามาส์กผิว

ด้วย Life Plankton™ Mask ผิวของเราจะได้รับการปลอบประโลมและรู้สึกสดชื่นขึ้นค่ะ 


ทรายชอบมากเพราะว่าในการทำงานของทราย มันดูเหมือนสบายนะ แต่จริงๆแล้วมันเหนื่อยมาก เครียด

แล้วก็ใช้งานร่างกายเยอะมากๆ ผิวหน้านี่โรยไปตามร่างเลยค่ะ จากเมื่อก่อนทรายไม่เคยมีรอยคล้ำใต้ตา

เลยนะ เดี๋ยวนี้ดูรูปหน้าสดทรายสิ มาแล้ว T_T เป็นเพราะเราได้พักผ่อนน้อยมาก แต่โชคดีค่ะ ที่ทรายชอบ

บำรุงผิวตัวเอง ไม่ว่ายังไงก็จะไม่ลืมล้างหน้าทาครีมก่อนนอน ไม่ขี้เกียจเรื่องแบบนี้ตัวเนื้อผิวเองก็เลย

ยังดูเด้งพอใช้ได้อยู่ มาส์กช่วยได้เยอะนะคะพูดจริงๆ นี่เสพย์ติดพวก Sleeping Mask มาหลายปีแล้ว

เพราะมันใช้ง่ายทาแล้วก็นอนไปเลย อย่าง Life Plankton™ Mask ก็เหมือนกันค่ะ ใช้ทาเป็นตัวสุดท้าย

แบบปิดจบแล้วพร้อมนอน ตื่นมาผิวจะรู้สึกต่างมาก มันจะยังรู้สึกชุ่มชื้นอยู่เกือบเหมือนตอนทาครีมเสร็จ

ใหม่ๆก่อนนอน อันนี้พูดจริงๆลองสังเกตดูค่ะ ไม่100% แต่ใกล้เคียงมาก เมื่อเทียบกับมาส์กแบบนี้ตัวอื่น

ที่สำคัญสำหรับคนบ้าพลัง ตัวนี้ใช้ได้ทุกวันนะคะ ใช้เป็น Routine เลยก็ได้



(หน้าสดจริงๆนะ ก่อนนอนทามาส์กไว้ ตื่นมาล้างหน้าแล้วก็ถ่ายเลย ดูแพนด้าสิ5555 แต่ผิวดีนะ)




เชื่อว่าถึงตอนนี้เริ่มมีคำถามแล้วหละ ว่าใช้อันนี้แล้วต้องใช้ตัว Essence ด้วยไหม? หรือต้องเลือกอย่างใด

อย่างหนึ่งเท่านั้นพอ? ทรายคงต้องตอบว่าแล้วแต่ความต้องการ และกำลังทรัพย์เลยค่ะ ส่วนตัวแล้วใช้คู่

มาตลอด คือทรายไม่อยากลดตัว Essence ออกไปเพราะใช้แบบนี้มานานแล้ว ส่วนตัวมาส์กเอง มันก็

เหมาะที่จะใช้แค่ช่วงกลางคืนเท่านั้น กลางวันถ้าใครต้องแต่งหน้าอย่านะคะ อันนี้ขอเตือน เพราะลองแล้ว

ตัวเนื้อมาส์กอย่างที่บอกมันเป็น Hydrogel พอมันเคลือบผิวแล้วมันจะเหมือนมีฟิล์มบางๆหุ้มไว้ จริงๆมอง

แล้วไม่เห็นนะคะ สัมผัสก็ไม่เป็นไรไม่รู้ด้วยซ้ำ แต่ลงรองพื้นเท่านั้นแหละ หลุดมาเป็นขุยๆแผ่นๆเต็มหน้าเลย

ยังลงไปได้แค่แก้ม วิ่งไปล้างออกเลย อุตส่าห์จะลักไก่แบบทาตัวนี้แล้วพุ่งตัวออกจากบ้านเลย ดับฝันค่ะ

เพราะฉะนั้นเค้าออกแบบมาให้ใช้กลางคืน ก็ไม่ต้องไปฝ่าฝืนฉลากเค้านะคะ 5555555






และคำถามที่ทรายคิดเผื่อเพื่อนๆค่ะ เชื่อว่ามีคนสงสัยเหมือนกันแน่นอน แต่ทรายตอบเองไม่ได้หรอก

เพราะทรายเป็นพวกใช้แล้วคิดยังไงก็เขียน ทรายอ่านส่วนผสมไม่เป็น ก็เลยไปขู่เข็ญเอ๊ยไปถามทาง

แบรนด์มาให้เองเลย เรื่องข้อแตกต่างระหว่าง Life Plankton™ Mask และ Aquasource Night Spa

เค้าตอบว่างี้นะคะ


“ ผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 ตัวจะใช้เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการบำรุงเหมือนกัน โดยสามารถใช้เป็น Sleeping Mask ค่ะ


แต่ส่วนที่แตกต่างระหว่าง 2 ตัวนี้คือ  Aquasource Night Spa จะเน้น benefit ในเรื่อง hydration ค่ะ และเนื้อสัมผัสก็จะโอบอุ้มผิวได้ดีทำให้ผิวคงความชุ่มชื้นตลอดค่ำคืน ตื่นมาพร้อมผิวหน้าใสฉ่ำน้ำ


ส่วน Life Plankton Mask จะเน้นในเรื่องการฟื้นบำรุงผิวให้อ่อนเยาว์ลงและปลอบประโลมผิวค่ะ เนื้อสัมผัสจะซึมซาบได้เร็วกว่า และจะค่อยๆ ปลดปล่อย Life Plankton และสารสำคัญต่างๆตลอดคืน ทำให้รู้สึกได้ถึงการเผยผิวใหม่เพียงชั่วข้ามคืนค่ะ”


พิจารณาจากผิวเราก่อน ว่าเราต้องการแก้ปัญหาเรื่องไหน แล้วก็เลือกเอานะคะว่าอยากใช้อะไร ดีทั้งคู่อ่ะ

แต่ส่วนตัวทรายเคยบอกไปตอนเขียนบล็อก Night Spa ว่าถ้ามีมาส์กแพลงตอนออกมา ทรายคงกราบถวายตัวเป็นสาวกแน่นอน แล้วมันก็มาจริงๆ สวรรค์! และก็ไม่ผิดหวังเลย ปริ่มมาก กระปุกใหญ่มากทรายว่าทรายใช้

ได้เป็นชาติแน่ ทรายไม่ได้ทาทุกวันค่ะ อาทิตย์ละ 3-4วันได้ ถ้าทาทุกวันคิดว่าคงร่อยหรอกว่านี้มาก ตอนมานี่

มันเต็มกระปุกเลยนะคะ นี่พร่องไปราวๆ 30%แล้ว คนที่เด็ดสุดน่าจะเป็นพี่ปูเป้แกใช้ทุกวันจนมันเหลือแบบ

ใกล้หมดแล้ว ทรายแบบเห้ยพี่ ทาหรือโบกค๊าาาาา ไซส์เค้า 75ml นะคะ ราคา 2,100 บาท วางขายแล้ว

ไปลองกันได้เลย วันนี้ทรายรู้สึกว่าตัวเองเขียนเยอะมากก 2หน้า A4แล้วอ่ะ พอดีกว่า แล้วไว้พบกันใหม่ค่ะ



*ตัวนี้ทรายแอบใส่ไว้ในวีดีโอ Favorite 2015 ด้วยหละ เพราะว่าทรายได้มาตอนปลายปีก็จริง 

แต่สำหรับทรายมันปังมากเลยอ่ะ




Disclaimer : Sponsor Content by BIOTHERM

Information: https://www.facebook.com/biothermthailand/?fref=ts






 

Create Date : 19 มกราคม 2559    
Last Update : 19 มกราคม 2559 14:17:52 น.
Counter : 60932 Pageviews.  

เมื่อต้นอยากเล่าถึง Biotherm Homme Force Supreme Cream สกินแคร์ที่ออกแบบมาเพื่อผู้ชายโดยเฉพาะ




วีดีโอวันนี้นอกจากทรายจะไปรู้จักกับสกินแคร์ที่ทำออกมาเพื่อผู้ชายโดยเฉพาะของ Biotherm แล้ว 
ยังมีผู้ชายมาเป็นแขกรับเชิญด้วยค่ะ ไม่ใช่ใครที่ไหนแฟนทรายนี่แหละ จริงๆต้องบอกว่าเค้าเป็นแฟน
แบรนด์นี้ค่ะ เสพย์ติดมาจากทรายเอง ทรายใช้สกินแคร์ของไบโอเธิร์มหลายตัว เห็นว่ามีไลน์ที่ผลิต
มาเพื่อผู้ชายโดยเฉพาะ เค้าก็อยากใช้บ้าง พอให้ใช้ก็กลายเป็นสาวกเต็มตัว นางใช้มานานแล้ว 

วันนี้ไหนๆเค้าก็มีโปรดักส์ใหม่ออกมาพอดี ก็เลยชวนมาพูดถึงสักทีด้วย ทรายเชื่อว่ามีหลายคนที่ทำหน้าที่คล้ายกับทราย คือต้องบังคับให้แฟนดูแลตัวเอง หรือหาอะไรให้เค้าใช้ ดังนั้นก็คิดว่าวีดีโอนี้อาจจะเป็นไอเดียให้ได้เนอะ ใกล้ช่วงเทศกาลแล้วด้วย เผื่อนึกของขวัญไม่ออกก็สกินแคร์นี่แหละ บอกถึงความห่วงใยและใส่ใจแบบทุกระเบียดนิ้วจริงๆ



Disclaimer: Sponsored Content by Biotherm







 

Create Date : 02 ธันวาคม 2558    
Last Update : 2 ธันวาคม 2558 20:04:31 น.
Counter : 2718 Pageviews.  

Review: Cow Brand Bouncia Body Soap ครีมอาบน้ำฟองครีมนุ่มมากจากญี่ปุ่น




Cow Brand Bouncia Body Soap เป็นครีมอาบน้ำที่มีชื่อเสียงมากและได้รับรางวัลการันตีคุณภาพ
จาก Cosme ญี่ปุ่น ถึง 5ปีซ้อน  ตอนนี้มีนำเข้ามาจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการแล้วค่ะ 
ใครที่เคยไปเที่ยวญี่ปุ่นคงต้องได้ยินชื่อเสียงเกียรติศัพท์กันมายาวนาน แต่ใครที่ยังไม่เคยรู้จักเลย 
มาทำความรู้จักกันค่า



Disclaimer : Sponsored Content by Mandom 




 

Create Date : 17 พฤศจิกายน 2558    
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2558 2:56:57 น.
Counter : 4207 Pageviews.  

Pure 5 Essence Mask มาส์กคอตตอนแท้100%จากญี่ปุ่น 7แผ่นใน1ซองคุ้มเวอร์!




วันนี้มีมาส์ก Imported จากญี่ปุ่นมาแนะนำให้รู้จักกันค่ะ มีมาขายแล้วในบ้านเรานี่แหละ 
ปกติเครื่องสำอางญี่ปุ่นก็รู้อยู่ว่าดีอยู่แล้วเนาะ แต่อันนี้นำเสนอความคุ้มค่า 1ซองมีให้ 7แผ่นด้วย 
ราคาแค่ 249บาท ตกแล้วแผ่นละราวๆ 35บาทเอง  มีให้เลือกใช้ 3สูตรตามปัญหาผิว ลองดูค่า 
ใครชอบมาส์กหน้าน่าจะชอบเลย 


ps.วัตสันตอนนี้ลดอยู่เหลือ 199บาท เพื่อนๆในเพจบอกมาค่า



Disclaimer: Sponsored Content by MANDOM







 

Create Date : 06 พฤศจิกายน 2558    
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2558 2:34:02 น.
Counter : 1519 Pageviews.  

[Beauty Rescue] : เล่าประสบการณ์ฟอกสีฟันครั้งที่ 3 ด้วยเทคโนโลยี ZOOM



สวัสดีค่า Blog วันนี้ทรายมีประสบการณ์จะมาเล่าให้ฟัง เกี่ยวกับการฟอกสีฟันค่ะ สำหรับเพื่อนๆ

น้องๆคนไหนที่สนใจหาข้อมูลเรื่องนี้อยู่ เราอาจจะไม่ได้มีความรู้ทางวิชาการมาให้ แต่เรามีประสบการณ์

ตรงที่ฟอกมาแล้วถึง 3 ครั้งจะมาเล่าให้ฟังเป็นฉากๆเลย ครั้งนี้ก่อนอื่นเลยต้องขอขอบคุณ LDC Dental

มา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ที่ชวนไปดูแลสุขภาพปากและฟัน ไปๆมาๆดันขอทำฟอกสีฟันซะงั้น 5555






ทรายมารับบริการที่ LDC Dental สาขา งามวงศ์วานนะคะ เค้าอยู่ถนนเดียวกันกับเดอะมอลล์เลยค่ะ

อยู่ตรงข้ามและเยื้องๆกับพันทิพ งามวงศ์วาน ก่อนถึงแยกใหญ่ๆค่ะ สถานที่กว้างขวางมาก ที่จอดรถเพียบ

ตัวแผนกต้อนรับจะอยู่ชั้น2 ชั้น1เป็นลานจอดรถค่ะ ส่วนชั้น3เป็นห้องทันตกรรม ใครที่พาคนมาเป็นเพื่อนด้วย

ไม่ต้องกลัวเบื่อเลยเพราะมุมพักผ่อนเยอะ มีชา กาแฟ น้ำหวาน และขนมบริการ ส่วนเด็กๆก็มีมุมของเล่น

หลอกล่อด้วยค่ะ แฮ่ะๆ (เห็นเด็กในรูปไหม นางวิ่งไปทั่วเลย - -‘) มาถึงก็แจ้งว่าจะทำอะไรและกรอกประวัติ

ระหว่างนั้นเค้าจะวัดความดันก่อนด้วยค่ะ จริงๆควรโทรจองก่อนนะคะ เผื่อคุณหมอมีเคสจะได้ไม่ต้องมาเก้อ

มีคุณหมอหลายคนแต่ก็มีลูกค้าเยอะเหมือนกันค่ะ จริงๆที่นี่มีสาขาเยอะมากค่ะ ในเขตกรุงเทพ+ปริมณฑล

คือมี 21 สาขา ต่างจังหวัดที่กำลังจะเปิดอีก 11 สาขา เยอะมากกกกกกกก ใครใกล้ที่ไหนก็ลองดูค่ะ Click









ปกติแล้วการฟอกสีฟันทรายจะทำทุกปีนะคะ ปีนี้เนี่ยเป็นครั้งที่3ที่ทำ ยังจำประสบการณ์ครั้งแรกได้อยู่

คือแบบว่าทรมานมากๆ แค่อ้าปากลมปะทะฟันก็สั่นสะท้านไปทั้งร่างแล้ว แต่อันนั้นคือการฟอกแบบธรรมดา

ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีพิเศษอะไรที่ฮิตๆกัน ครั้งที่ 2ของทราย ก็เลยไม่ค่อยอะไรละ เพราะเตรียมใจมาเยอะ

และไม่ได้ฟอกธรรมดาละ มันก็ไม่ค่อยสะท้านเท่าไหร่  พอมาครั้งนี้ ครั้งที่ 3 ก็ต้องบอกเลยว่าค่อนข้างรู้งานค่ะ 

ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก ไปถึงคุณหมอก็จะเช็คสุขภาพช่องปากเราก่อนอยู่ดี แต่ว่าเวลาจะฟอกสีฟันก็ไม่ควร

มีปัญหาแบบแผลในปาก เหงือกบวมหรือเจ็บฟันอยู่ อะไรแบบนี้นะคะ ต้องรักษาก่อน ของทรายสบายดีไม่มีฟันผุ

และไม่มีหินปูน สามารถทำได้เลย ถ้ามีหินปูน คุณหมอจะขูดออกให้ก่อนค่ะ 






เทคโนโลยีในการฟอกของทรายครั้งนี้ใช้ Zoom นะคะ ขั้นตอนจะแบ่งฉายแสงเป็น 3 ช่วง ช่วงละ 15นาที

ก่อนอื่นเลยคุณหมอจะเทียบสีฟันของเรากับสีฟันตัวอย่างก่อนค่ะ ว่าตอนนี้เราอยู่ในระดับไหน และหลังฟอก

น่าจะได้ระดับไหน อันนี้ต้องแอบภูมิใจนิดนึง ที่ผ่านมาปีกว่าแล้วหลังจากฟอกครั้งก่อน แต่ทรายยังดูแลรักษา

สีฟันให้อยู่ในระดับขาวดีมากได้ สีฟันตอนนี้ระดับ B1 ค่ะ คือ ขาวที่สุดใน Rank B คุณหมอบอกว่าทำเสร็จ

ก็น่าจะได้ที่ขาวสุดของทั้งหมดเลยคือ A1 ค่ะ  เตรียมเวลามาเผื่อๆทำสักชั่วโมงครึ่งถึง2ชั่วโมงนะ









ท้าวความกลับไปตอน3ปีที่แล้ว ก่อนทำครั้งแรก ทรายอยู่แบบเหลืองรั้งท้ายเลยนะคือแบบอีก 2ซี่จะต่ำสุดแล้ว

อะไรแบบนี้ ตอนนั้นแย่มาก ไม่สามารถทาลิปสัส้มได้เลย ยิ้มทีนี่ดูเสียบุคลิกมากๆ ด้วยความที่เป็นคนเอเชีย

และเป็นคนที่มีเชื้อสายจีนเต็มตัว มันเหลืองจากกระดูกค่ะ ฟันไม่ได้สกปรกนะ มันจะไม่เป็นปัญหาอะไรถ้าเรา

ไม่ได้ทำงานในสายงานที่ต้องพกพาความมั่นใจไปเต็มที่ในทุกที่ ทรายฟันเรียงกันสวยตั้งแต่เกิด แต่เรื่องสีฟัน

บอกตรงๆว่าสะกิดใจมาตั้งแต่มหาลัยแล้วค่ะ พยายามบอกตัวเองว่าไม่เป็นไรหรอก ใครๆก็เหลือง แต่เชื่อไหม

หลังจากที่ได้ฟอกครั้งแรกแล้ว โอ้โหบอกตัวเองว่า รู้งี้ทำนานละเหอะ ไม่น่ากลัวอะไรไม่เข้าท่าเลย เพราะอ่าน

มาเยอะ มโนไปเยอะ เลยไม่กล้า หลายคนบอกเจ็บมาก หลายคนบอกเสียวฟันไปตลอดชีวิต เครียดสิ พอได้ลอง

ติดใจเลยค่ะ 5555  เดี๋ยวมาเล่าความรู้สึกต่อ บอกขั้นตอนก่อนนะ



อ่อพอคุยเรื่องเฉดสีฟันกันจบแล้ว ก็เป็นอันว่าเริ่มพิธีได้ คุณหมอก็จะอธิบายว่าจะใช้เวลาฉายแสงแบ่ง

เป็นช่วงละ 15นาทีนะ แล้วก็ถ้าสมมติว่าเจ็บจากน้ำยากัดเหงือก หรือว่าเสียวฟันจนทนไม่ได้แล้ว ต้องบอกหมอ

จะได้หยุดก่อน เพราะแต่ละคนก็มีเลเวลไม่เหมือนกันเนอะ ตรงนี้ทรายเองก็ขอเล่าตรงๆว่า ฟอกสีฟันมันไม่เจ็บค่ะ

ฟันไม่ได้เจ็บไม่ได้เป็นอะไร ที่เจ็บคือเหงือก หากคุณหมอยาแนว(กั้นเขื่อน)ที่ฟันไม่ดี น้ำยาฟอกมันจะไหลไปโดน

ทีนี้มันจะกัดเหงือก เค้าเรียกว่าเหงือกเบิร์น ซึ่งจะหายเองใน 1-2วัน การทาวิตามินEช่วยให้หายเร็วขึ้น ก่อนทำ

ก็อาจจะขู่คุณหมอเล็กน้อยว่าให้ช่วยปราณีตกับตรงนี้  ทำครั้งนี้เราไม่เป็นอะไรเลยนะคะ มีเจ็บที่กระพุ้งแก้มนิดๆ

เป็นเพราะอุปกรณ์ถ่างปาก ที่เป็นยางสีฟ้าค่ะ คุณหมอบอกว่าเพราะช่องปากเล็กเวลาที่จะง้างใส่ไปมันเลยตึง

ซึ่งทั้ง3ครั้งที่ผ่านมาก็แบบนี้ 55555 อ้าค้างๆแบบนี้เมื่อยนะคะ แต่ไม่นานเอาออกก็หาย







ทีนี้พอฉายแสงเราจะเริ่มรู้สึกร้อนวูบๆแปลกๆที่ฟัน แล้วก็มีความเสียวเล็กๆโผล่มาเป็นระยะในเฟสแรกค่ะ

บางคนอาจจะสบายดีไม่เป็นอะไรเลยก็ได้ ขึ้นอยู่กับฟันแต่ละคนนะ ของทรายพอทำเฟสที่2เสร็จ มันมีอาการ

บางซี่ที่เสียวมากแบบขนลุก คุณหมอก็เลยให้พอดีกว่า และสีที่ได้ก็ไปถึง A1 แล้วด้วย ดังนั้นมันไม่จำเป็นว่า

จะต้องทำครบถึง 3 เฟสนะคะ ถ้าคุณหมอเค้าดูแล้วว่าโอเค สีได้ที่ต้องการแล้วก็พอได้เลย 


ความสนุกมันเริ่มตรงนี้ค่ะ มันจะมีอาการเสียวแปลบๆ วูบๆ ขนลุกๆ เป็นระยะ บางทีเสียวจนเข่าอ่อน บางที

ก็แค่แบบจั๊กจี๋ และจะเป็นแบบนี้ไป 1-2 วัน ส่วนตัวทรายเป็นไม่ถึงวันนะคะ นอนหลับตื่นมาก็หายแล้ว ดังนั้น

อันนี้อยากแนะนำให้นัดหมอบ่ายๆเย็นๆ แบบทำเสร็จกลับบ้านนอนเลย ไม่งั้นจะมีชั่วโมงวูบวาบนานไปค่ะ

เดี๋ยวจะรู้สึกทรมาน แต่ทั้งหมดที่เล่ามา ไม่มีอะไรสะท้ายเท่าการฟอกแบบธรรมดาครั้งแรกนะคะ อันนั้นคือ

บอกตรงๆขอบาย ในชีวิตไม่เอาอีกแล้ว ขาวนาน ขาวมากจริๆง แต่เสียวไปถึงสันหลังเลยค่ะ แทบเดินไม่ได้

เพราะเสียวฟัน สาบานว่าไม่ได้พูดเกินจริง ฟอกด้วยZoom นี้แทบจะเกิดเอฟเฟ็คพวกนี้น้อยมากๆสำหรับเรา





(ฟอกเสร็จสดๆ)



คนที่ฟอกสีฟันมาใน 1-3 วันแรก (เป็นไปได้ก็อาทิตย์แรกเลยค่ะ) ไม่ควรทานอาหารที่มีสีจัดๆ หรือดื่มน้ำ

ที่มีสีนะคะ มันจะติดไปที่สีฟันทำให้ฟันเราหมองเร็ว ยิ่งวันแรกหลังทำ นี่ต้องระวังมากๆเลย ทรายทาอาหาร

ได้ปกตินะคะ แต่ว่าเลี่ยงน้ำเย็น น้ำอุ่น ทรายว่ามันไปกระตุ้นให้เสียวฟัน  แต่เคี้ยวข้าวได้ปกติ มันไม่ได้ฟอก

ไปถึงฟันกรามของเราค่ะ ฟอกแค่ 8 ซี่หน้าเท่านั้น ป้อนข้าวให้ตัวเองสอดเข้าไปลึกๆที่กราม ก็ไม่มีปัญหาแล้ว



สำหรับเรื่องที่เค้าเล่ากันมาว่า จะเสียวฟันไปตลอดชีวิต ส่วนตัวทรายว่ามันไม่จริง ทรายสบายดีไม่ได้เป็นอะไร

คุณหมอบอกว่าสำหรับฟันทราย หมอว่าเว้นไปสัก2ปีค่อยมาฟอก สีก็ยังดีอยู่เลย ไม่ต้องมาทุกปีแล้ว เพราะว่า

ดูแลฟันดี แล้วสีเปลี่ยนน้อย ทรายจะบอกว่ามันมีเคล็ดลับคือ เราต้อง Maintain สีฟันที่บ้านเองด้วย ใช้ตัวฟอก

สีฟันแบบที่ต้องไปพิมพ์ถาดฟันกับคุณหมอน่ะค่ะ ถ้าฟันไม่ได้เป็นอะไรพิมพ์ครั้งเดียวก็ใส่ได้หลายปีแล้ว เวลาที่

อยู่บ้านก็ใส่ไว้ หรือตอนนอนถ้าไม่กลัวน้ำลายยืด มันจะช่วยดูแลสีฟัน ยืดอายุออกไปได้อีกนานเลย ซื้อแค่น้ำยา

เพิ่มก็โอเคแล้ว ทรายเองก็นานๆทำที ไม่ได้ทำบ่อยนะคะ นานมากๆ แต่มันก็ดีจริงๆ ฟอกสีที่คลีนิก มันเหมือน

แบบเหมาะกับคนที่อยากขาวเลย เห็นทันตา แต่ฟอกสีฟันที่บ้าน มันเหมาะมากกับคนที่ไม่รีบ คุณหมอบอกว่า

อันนี้เนี่ย ขาวจริงและขาวนานกว่าฟอกที่คลีนิกด้วยซ้ำ ถ้าขยันทำนะ 







(หลังฟอก 5วัน แสงธรรมชาติ VS สปอร์ตไลท์ แสงไหนก็ขาว ไม่หลอกตาด้วย)




มาถึงส่วนที่ทุกคนอยากรู้เนอะ ค่าเสียหาย 


  • การฟอกสีฟันด้วย Zoom ที่นี่ราคาปกติอยู่ที่ 13,000 บาทค่ะ  ถ้าช่วงโปรโมชั่นจะอยู่ที่ 11,000 บาท
  • การฟอกสีฟันแบบZoom + ทำเองที่บ้าน ราคาปกติอยู่ที่ 17,000 บาท โปรโมชั่น 13,000 บาท


*มันอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปควรโทรถามดีที่สุดนะคะ







ทรายว่าทรายเล่าจนหมดเปลือกแล้วหละ ไม่ได้บังคับหรือโน้มน้าวให้ใครไปทำนะคะ แต่ถ้าใครที่คิดว่า

อยากจะทำอยู่แล้ว อ่านประสบการณ์ของทรายไว้ จะได้เตรียมตัวถูกเนอะว่าควรทำอะไรบ้าง อ่อ อีกเรื่อง

ลืมเลยว่า ไม่ต้องทาปากไปนะคะ ตอนแรกทรายทาไปสวยงามเลย คุณหมอจับเช็ดออกหมดเลยค่ะ 555

แล้วพบกันใหม่ใน blog หน้านะคะ สวัสดีค๊า Smiley







Disclaimer : Sponsored Content by LDC Dental

Information : //www.ldcdental.com











 

Create Date : 03 กันยายน 2558    
Last Update : 3 กันยายน 2558 20:45:40 น.
Counter : 30722 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  

feonalita
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 908 คน [?]




 photo icon_facebook_48_zpsb497412b.png photo icon_instagram_48_zps84436242.png photo icon_youtube_48_zpsfc801391.png photo icon_twitter_48_zps6e17cf8d.png photo icon_pinterest_48_zps16047ffb.png

FEONALITA: Beauty & LifeStyle Blog✰
คำว่า"สวย"ของแต่ละคน มีคุณค่าไม่เท่ากัน
∙•The Beauty of an Individual◀•∙

บล็อคนี้เริ่มสร้างเมื่อวันที่ 22-11-2006 ค่ะ

feonalita@gmail.com feonalita@gmail.com





Golden Rose Liquid Matte Lipstick “London
“Citra THREE 4D-Plus Eye Palette พาเลทอายแชโดวซัมเมอร์ครบทุกสี
Canmake New Collection ฟรุ้งฟริ้งหลายสิ่งน่ารักจากญี่ปุ่น Winged Liner & Chocolate Lips Inspired by Kylie Jenner
No 7 Matte Lip Crayon & Precision Lips Pencil 9สี LANCOME Juicy Shaker Full Collection










New Comments
Friends' blogs
[Add feonalita's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.