[Eyes] Review : MAC Extra Dimension Eyeshadow สี Modern Pewter อายแชโดว์พิกเม้นแน่นเนื้อแจ่มๆจากแม็ค ช่วงที่ผ่านมาไอเท็มหลายอย่างที่ใช้ประจำหยิบใช้บ่อยและดี แต่ไม่ค่อยได้เอามารีวิวละเอียดๆให้ดูกัน บางไอเท็มเป็นคอลเลคชั่นลิมิเต็ด รีวิวไม่ทันให้สาวๆดูเผื่อช็อปกัน หวังว่ารีวิวนี้น่าจะทัน ให้สาวๆช็อปนะ ไอเท็มที่พูดถึงเป็นไอเท็มของแมค (Mac Cosmetics) แบรนด์โปรดเมเลย มาจากคอลเลคชั่น MAC Extra Dimension  เป็นคอลเลคชั่นที่เน้น ความเป็นเมทัลลิค เนื้ออายแชโดว์  หรือ ไฮไลท์ที่แตกต่างจากรุ่นอื่นๆที่ MAC ทำ สีสันหลากหลายทีเดียว รุ่นนี้เป็นคอลเลคชั่นลิมิเต็ด นั่นคือ มีของจำกัด ไม่อยู่ในเคาเตอร์ตลอดไป แต่เมว่ายังหาได้ในช็อปไทยบางสีอาจหมด บางสีอาจมี  แต่ช่วงที่ผ่านมาเมยังเห็นอยู่นะ มาดูสีที่เมเลือกมาดีกว่า Modern Pewter เป็นสีเมทัลลิคสีออกทองๆที่อมเทาอมเขียว ของจริงจะออกเหลืองกว่าในรูปนิดนึง เรียกว่า รีเฟคหรือสะท้อนแสงแบบเมทัลลิค พิมพ์ลายสวยมาก  มี font MAC และลายคลื่น  ขนาดอายแชโดว์ใหญ่กว่า อายแชโดว์แมคปกติ  ไซส์เท่า Mineralize Eyeshadow เนื้อเบา ซูมสีให้ดูกันใกล้อีกที Swatch สำหรับคอลเลคชั่นนี้ทุกตัว ลักษณะเนื้อผลิตภัณฑ์จะเป็นลักษณะ Cream to Powder คือดูเหมือนอายแชโดว์ปกติแต่พอปาดมาจะรู้สึกลื่นเหมือนเนื้อครีม  แต่พอทาที่ตาจะให้ความรู้สึกเหมือนอายแชโดว์ผง แต่ติดทนสีชัดกว่า เน้นให้พิกเม้นที่ชัดเม็ดสีที่ค่อนข้างแน่น เหมือนชื่อคอลเลคชั่นเลย เนื้อไม่ใกล้เคียง Mineralize ของเค้าเลยนะ  อันนั้น พิกเม้นไม่แจ่มเท่าตัวนี้ เน้นวิ้งมากกว่า เมลองเอาบนนิ้วมาปาดลงมืออีกที เมปาดครั้งเดียวนะ ไม่มีย้ำ หลังจากลองใช้แล้ว เมชอบมากให้ความเงาแบบเมทัลลิคแบบที่เมชอบ ไม่ใช่วิ้งหยาบๆ เม็ดสีแน่นและชัด ให้ความรู้สึกติดทนเพิ่มขึ้น คิดว่าถ้าซื้อไฮไลท์มาจะเริ่ด เพราะเนื้อไฮไลท์คงเนียนและละเอียดสีชัดแบบนี้ เนื้อแบบเดียวกันเลย แต่ไฮไลท์ตลับใหญ่มากกกกกก ใช้ไม่ทัน ในคอลเลคชั่นนี้มีสีโทนเมทัลลิคให้เลือกเยอะพอตัว คิดว่าสีอื่นเช่นสีเข้มๆ  น่าจะเห็นความแน่นของเม็ดสี ชัดกว่าตัวนี้ เมปาดลงมือมาหมดทุกสีแล้ว ย้ำจริงๆว่าพิกเม้นแน่น เนื้อเนียน ใครชอบสไตล์แบบนี้ น่าจะถูกใจ ลองแต่งบนตาให้ดู เมชอบใช้บนกับสีน้ำตาลเทา แล้วใช้ตัวนี้แตะกลางตาบ้าง  ทั่วตาบ้าง ด้วยความที่มันเป็นโทนสีอ่อนถึงกลาง  พอจะช่วยไฮไลท์หรือเป็นสีหลักในการแต่งก็ได้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับสาวๆนะคิดว่า เคาเตอร์ไทยบางที่ยังคงมี ต้องหาดูหน่อย ส่วนราคา อยู่ในเรทเท่ากับ Mineralize Eyeshadow  เลยแต่เมจำราคาไม่ได้ ซื้อมาเดือนกว่าๆแล้ว ขี้ลืมจริงๆ >"< วันนี้ไปแล้ว enjoy กับวันหยุดที่จะถึงนี้นะจ๊ะ xoxo   Create Date : 31 พฤษภาคม 2555     Last Update : 23 สิงหาคม 2555 22:11:25 น. Counter : 2720 Pageviews.   1 comment Share Tweet

[Eyes] Review : Maybelline Colour Tattoo 24 Hours Eyeshadow ครีมอายแชโดว์เจิดๆจากเมเบลลีน สวัสดีค่ะ ทุกคน วันนี้มารีวิว ยั่วน้ำลายกันอีกแล้วววววววว เป็นสิ่งที่ช่วงหลังๆใช้แต่งหน้าบ่อย ทั้งในคลิปฮาวทูหรือแต่งประจำวันก็ตาม หลายคนถามถึงเพราะใช้บ่อยๆแต่ยังไม่เคยรีวิว วันนี้จัดไปฮะ เจ้านี่เลยยยยย Maybelline Colour Tattoo 24 Hours Eyeshadow หลายคนอาจสงสัย เออ แล้วมันคืออะไร ???? มันเป็นอายแชโดว์เนื้อครีม คุณสมบัติก็ทั่วไปคือ ใช้เป็นเบส Eye Primer ก่อนแต่งตา  หรือใช้แต่งเป็นสีหลักเลยก็ได้ อารมณ์เหมือน MAC Paint Pot  หรือ Make Up for ever Aqua Cream ที่เห็นๆกัน แต่ราคาต่างกันเยอะมากทีเดียว มีบางสีไปซ้ำหรือใกล้เคียงด้วย  (เมจำราคาแบบชัวร์ไม่ได้ แต่เมเบลลีนตัวนี้อยู่ที่ร้อยต้นๆ 2xx-3xx แต่แม็คอยู่ที่ร้อยปลายๆ 8xx-9xx ถ้าเมจำไม่ผิดนะ) ส่วนตัวเมจะชอบใช้เนื้อครีมแบบนี้ลงก่อนใช้อายแชโดว์แบบฝุ่นอยู่แล้ว เลยสนใจมากเป็นพิเศษ สิ่งสำคัญอีกอย่าง คือ เค้าบอกว่าติดทนมาก ไม่เยิ้ม ไม่เลื่อนระหว่างวัน บวกกับกระแสที่ต่างประเทศดีมาก ตามนิสัยเมขวนขวายไปหามาลองอีกเหมือนเดิม (เมฝากพี่ที่รู้จักซื้อมานะคะ ยังไม่มีในไทยตอนนี้ แต่ได้ข่าวว่าทางเมเบลลีนในไทย อาจนำเข้ามา ถ้าสาวไทยอยากเล่นกัน อิอิ ลองรอดูกันก่อนเนอะ ^^) ความจริงเค้ามี 10 สีเลยนะ แต่เมเลือกมาเฉพาะโทนสีที่น่าสนใจและได้ใช้แน่ๆ ชื่อสีไล่เรียงตามลำดับภาพบนเลยจ้า นั่งเขียนไปดูรูปไปก็กรี๊ดในใจนะมองเท่าไหร่สีก็สวย 5555 Tough as Taupe / Bad to the Bronze / Audacious Asphalt Bold Gold / Fierce & Tangy / Edge Emerald SWATCH Tough as Taupe  - เป็นครีมแชโดว์สีเทาอมม่วง เนื้อแมตด้าน  น่าสนใจมากเพราะน้อยแบรนด์ ที่จะทำแบบครีมแล้วเป็นเนื้อด้านได้ โดยไม่รู้สึกว่าเป็นเนื้อแป้งเลย Bad to the Bronze -  เป็นสีบรอนซ์น้ำตาลทองแดง สีสวยมาตรฐานอยู่แล้ว เนื้อครีมมี่ ใช้ง่ายได้ทุกโอกาสเลย Audacious Asphalt - สีเทาดำเมทัลลิค สีนี้สวยและเหมาะเป็นเบสให้สโมกกี้มากๆ  พิกเม้นชัดเจนเนื้อนิ่มดีเหมือนกัน 3 สีด้านบนเป็นสีที่ใช้บ่อยมาก Bold Gold - สีทอง ชัดเจนเหมาะสำหรับคนชอบแต่งตาโทนสีทองอยู่แล้ว Fierce & Tangy / Edge Emerald - สีส้มแทงเจอรีนกับสีฟ้าอมเขียว  เป็นสีที่แปลกและแรงมาก เหมาะกับหน้าร้อนแต่งหน้าสีสันสดใสมากๆ  แถมเป็นสีที่แบรนด์ดังๆทำสีจัดๆเคยทำ เป็นการพิสูจน์เลยว่าแบรนด์ราคาไม่แพง เราเอื้อมถึงก็ทำสีสวยๆได้เหมือนกันนะ ^^ มีสี Pomegranate Punk ที่ไปเหมือนกับ Idyllic ของแม็คด้วย เพราะเมดันมีแม็คแล้วเลยไม่ได้สอยมา โดยรวมแล้ว  ครีมอายแชโดว์ของเมเบลลีนรุ่นนี้ เนื้อนิ่ม ครีมมี่ มากๆ ใช้ง่ายๆ  สีที่เมเลือกมาพิกเม้นชัดแจ่ม แต่มีบางสีที่เมเห็นรีวิวที่อื่นๆอาจมีบ้างที่ไม่ชัดมาก แล้วแต่สี ความติดทน ติดทนมาก ไม่เยิ้มเลยสำหรับเปลือกตาของเม ช่วยขับสีอายแชโดว์ได้มาก เรียกว่าประทับใจแบบสุดๆ  ทำให้เมแต่งตาแล้วรู้สึกสีมันเด่นและมีอะไรมากขึ้น สำหรับตอนนี้อาจยังไม่มีในไทย เมแนะนำให้ลองหาแบรนด์อื่น ที่มีสีใกล้เคียงมาลองใช้ดูก่อนก็ได้นะ แล้วแต่ใครสะดวกแบบไหน เท่าที่เมลองหาดู จะมี MAC / Make Up for Ever / Chanel / Canmake  และอีกหลายแบรนด์เลยทำที่ครีมอายแชโดว์ แต่ผลลัพธ์อาจจะได้ต่างกันไปหน่อย คิดว่าคงได้ทำฮาวทูโดยใช้เจ้าพวกนี้เรื่อยๆแน่นอน ฮาวทูก่อนหน้านี้ก็มีใช้บ้างแล้วลองย้อนดูได้นะจ๊ะ ใครชอบใช้ครีมอายแชโดว์แบบเม ลองดูตัวนี้เป็นตัวเลือกนะ แล้วเจอกันบล็อคหน้าจ้า Disclaimer : ซื้อเองค่ะ   Create Date : 01 พฤษภาคม 2555     Last Update : 23 สิงหาคม 2555 22:09:48 น. Counter : 10308 Pageviews.   2 comment Share Tweet

[Eyes] Review : NYX Slide-On Pencil Eyeliner ไลเนอร์เนื้อดีที่เว็ปนอกเคลมคล้าย UD สวัสดีค่า ทุกคน วันนี้มีรีวิวเมคอัพให้ดูกัน ในส่วนของอายไลเนอร์ ช่วงนี้ได้ลองไลเนอร์เยอะมาก หลายแบรนด์ทำออกมาใหม่ตลอด แบรนด์นี้เป็นหนึ่งแบรนด์ที่เมสนใจ เพราะกูรูยูทูปที่เมชอบมาก Allison (Amarixe) เค้าชอบ และเคลมว่าคล้าย Urban Decay แถมราคาถูกกว่าอย่างนี้ มันก็น่าลองใช่มั้ย ที่พูดถึงคือเหล่าเจ้านี้เลย NYX Slide-On Pencil liner   ชื่อก็ทำออกมาอ่านแล้วใกล้เคียง Glide-On ของ UD เลย ทั้งหมดนี้ เมสั่งจากเว็ปนอกนะคะ ใครเจอไปรูปเมไปอยู่ในเว็ปไทยไหน บอกด้วยนะ จะไปจัดการ 555 ตัวด้ามจะเป็นสีตามสีไลเนอร์ ปลอกดำ หัวดินสอ  เป็นดินสอแบบเหลา เนื้อนิ่มนะ  เมซื้อมา 16 สี O_O หน้ามืด อารมณ์ว่าใช้ไม่หมดแน่ชาตินี้ 555 แต่ที่ซื้อเพราะอยากเล่นสีไลเนอร์ให้เข้ากับสีเวลาแต่งตามากขึ้น มีชื่อสีและเบอร์ตามด้ามแท่งเลยจ้า และนี่คือ Swatch ของสีทั้งหมด ส่วนตัวเมรู้สึกว่า เป็นไลเนอร์ที่เนื้อนิ่มและลื่นดีมาก  ส่วนใหญ่พิกเม้นดีและแน่น ใช้เขียนอินเนอร์ได้ไม่ปัญหาเลย มีแค่บางสีที่ดูเป็นกลิตเตอร์และจับกันเป็นก้อน ส่วนความติดทน สีเข้มอาจมีแพนด้าบ้าง แต่ส่วนตัวเมไม่กังวลเรื่องนี้เท่าไหร่  เพราะมักเป็นธรรมดาของไลเนอร์เนื้อนิ่มมากๆ  ใช้อายแชโดว์สีเดียวกันแพ็คย้ำเข้าไปก็โอเคแล้ว ถ้าถามว่ามาแทน Urban Decay ได้เลยรึเปล่า บอกเลยว่า สีที่เป็นสีสันส่วนใหญ่แทนได้เลย จ่ายถูกกว่าได้ของใกล้เคียง Urban Decay แต่ก็ย้ำกว่าไม่ใช่ทุกสี ส่วนไลเนอร์สีดำสนิทหรือน้ำตาล  เมไม่ได้สอยมาเพราะ ตอนนี้มีแบรนด์สีเข้มในดวงใจแล้วที่ไม่แพนด้า NYX Slide-On ตัวนี้อย่าที่บอกเลยว่า ซื้อมาเพราะ อยากเล่นสีไลเนอร์จริงๆ ตอนนี้สนุกกับมัน คิดว่าถ้าสอย Urban Decay คงไม่ได้สีเยอะขนาดนี้ เมซื้อมาตกแท่งละ 200 นิดๆ ในเว็ปไทยอาจขายแพงกว่านี้หน่อย แต่เทียบกับ UD ตกแท่งละ 500 กว่าบาท ก็ถือว่าคุ้ม โดยรวมประทับใจส่วนใหญ่ มีแค่บางสีที่ไม่เวิค สีที่เป็นสีเด่นๆ เมจะใช้เป็น อายแชโดว์เบส ด้วยก็ได้  หรือบางทีก็ใช้เขียนอินเนอร์ หรือ กรีดคู่กับไลเนอร์สีดำ เป็นดับเบิ้ลก็เก๋ดี ว่าแต่ชอบสีไหนกันค่ะ ทุกคน ^o^ Disclaimer : ซื้อเองค่ะ   Create Date : 18 เมษายน 2555     Last Update : 23 สิงหาคม 2555 22:09:25 น. Counter : 3183 Pageviews.   1 comment Share Tweet

Review n' Swatch : Wet n' Wild Coloricon [Comfort Zone - I'm Getting Sunburned - Knock on Wood] สวัสดีค่ะ ทุกคน มาอีกแล้วววววว หลังจากที่ดองไอเท็มพวกอายพาเลต บอกว่าจะแต่งให้ดูกันตลอดเวลา แต่ก็ไม่ได้ทำซักที วันได้ฤกษ์ละค่า ความจิงอายพาเลตแบบนี้ ใช้ง่ายนะสำหรับเม เพราะเราไม่ต้องมานั่งจับคู่สีเอง เค้าเซตมาให้เลย หยิบง่ายใช้คล่อง เมเป็นคนชอบแต่งตาอยู่แล้ว เลยมีอายพาเลตเยอะเหมือนกัน เอามาแต่งบนตาให้ดูกันทั้งหมดไม่ไหวแน่ๆ เลยเลือกเอาไอเท็มที่มีไม่เยอะชิ้น มาทยอยแต่ง และ Swatch ให้ดูกันก่อนละกันเนอะ วันนี้เป็นแบรนด์ที่สอยมานาน อย่างที่บอกว่าดองไว้ มีช่วงนึงฮิตกันเยอะ นั่นคือ Wet n' Wild นั่นเอง เป็น Drugstore Brands ที่อยู่ในอเมริกา (ถ้าจำไม่ผิดนะฮะ) ราคาไม่แพง แพ็คเกจไม่ได้หรูหราอะไร (เรียกว่าธรรมดากิ๊กก๊อกเลยแหละ) แต่พิกเม้นชัด เนื้อสีดี และมีหลายเฉดให้เลือกเยอะ มาดูแบบที่เป็น Trio จัดเซตแบบสามสีก่อน อันนี้แตกระหว่างขนส่งมา ซิกๆ เยินอย่างที่เห็นฮะ จุดเด่นอีกอย่างคือ เค้าจะพิมลายบนเนื้ออายแชโดว์ไว้ด้วยว่าสีนี้ใช้ทำอะไรตรงไหน เช่น Browbone - ทาช่วงโหนกคิ้ว มักจะเป็นสีอ่อน วิ้งสว่างๆ Eyelid - ทาทั่วเปลือกตาเป็นสีเบส Crease - ไว้คัดเบ้า Definer - ไว้เน้นความลึกจุดต่างๆ เช่น คัดเบ้าตา หรือเขียนตามขอบตาบนและล่าง - I'm Getting Sunburned - สีชมพูวิ้งเงินเหลือบเงิน สีดำอมแดงชิมเมอร์แดงม่วงๆคล้ายสีเปลือกมังคุด สีทองชิมเมอร์จัดๆ จับสีได้แปลกดีเลยสอยมา ^^ On my eye - เมว่าเหมาะกับงานกลางคืนมากเลย สีจัดพิกเม้นแน่น วิบวับดีมากๆ แต่งเป็นสโมกกี้อายได้เลย - Knock on Wood - สีชมพูอ่อน ชิมเมอร์เล็กน้อย สีน้ำตาลเหมือนช็อคโกแลตนม ชิมเมอร์ สีแดงอมน้ำตาลนิดๆ ชิมเมอร์ โทนนี้เห็นแล้วชอบ เนื้อดี สีดูนุ่มนวล On my eye - แต่งแล้วดูนุ่มนวลนะ ไม่จัดเกิน แต่งได้ทุกวัน สุดท้ายออกมาแบบเซตใหญ่แต่เมเลือกแค่โทนที่คิดว่าได้ใช้บ่อยๆมา แหะๆ - Comfort Zone - เป็นการไล่เฉดอ่อนไปเข้มแบบเบสิก มีสองสีให้เลือกคือ น้ำตาล และ เขียว มาดู Swatch สีกัน มีสีนึงที่กรี๊ดมาก คือ สี Definer ของโทนสีเขียว พอ Swatch ออกมาแล้วมันคือ สีน้ำตาลที่มีชิมเมอร์เหลือบเขียวเยอะๆ เป็นโรคชอบสีเหลือบ นั้นคือเหตุผลที่เอาพาเลตนี้มา ฮ่าๆๆๆๆ ชอบๆ On my eye - โทนน้ำตาลสีเบสิก แต่ก็สวยดีเนอะ แต่งได้ทุกวัน On my eye - โทนเขียวดูเหลือบลึกลับนิดดี ชอบๆ ก่ะว่าจะลองไปแต่งให้เข้มขึ้นอีก ^^ ข้อดี - ราคาไม่แพง พิกเม้นดี สีชัดแน่น ติดทน ใช้ไพรเมอร์สีจะเด่นขึ้นอีกเยอะ ข้อเสีย - หาซื้อยากนิดนึงในไทย เนื้อเบาแตกง่ายมาก ไม่เหมาะกับพกพา โดยส่วนตัวแล้วพิกเม้นแน่นแบบนี้ ถือว่าถูกใจมากๆ ก่ะว่าจะไปนั่งส่องสีดูมาเพิ่ม อิอิ ส่วนแหล่งที่ซื้อคงต้องหาร้านที่รับหิ้วในเว็ป แนะนำให้ลอง Google ดูเนอะ เพราะเมก็เสิร์ชจากกูเกิ้ลเหมือนกัน คิดว่ามีแน่นอนจ้า Contact Lens ที่ใส่วันนี้ของ Neo Glamour Gray จ้า มาสคาร่าที่ใช้ วันนี้เน้นหนาและงอน ของ Fairy Drops ชอบมาก ใช้มานานแต่ไม่เคยเอามาพูดถึง ตอนนี้ใกล้หมดอาุยุละ 555 หวังว่าจะชอบกันนะคะ ไว้เมจะมาทำ Swatch แบบนี้ให้ดูกันอีก ^^ บ๊ายบายยยยย Disclaimer : I bought by own money   Create Date : 01 พฤศจิกายน 2554     Last Update : 23 สิงหาคม 2555 22:06:59 น. Counter : 4279 Pageviews.   9 comment Share Tweet

Review : ไลเนอร์แบบดินสอ Maybelline Master Liner vs 2in1 Impact Shadow Liner สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เจอกันอีกแล้วช่วงนี้อัพเดทกันบ่อยๆนิดนึงอย่างเพิ่งเบื่อกันเนอะ ดองรีวิว ฮาวทูไว้เยอะเลยอยากทำออกมาเรื่อยๆตอนนี้ จากที่จั่วหัวกันไว้ว่าเมจะมาหาไลเนอร์ดินสอเหมาะๆเจ๋งๆจากไลเนอร์ของเมเบลลีน ซึ่งเป็นไอเท็มที่หาซื้อค่อนข้างง่าย ตอนนี้มีในครอบครองอยู่ 2 รุ่น แล้วเกิดสงสัยว่า แล้วมันต่างกันยังไงล่ะ??? แล้วมันควรจะใช้อันไหน เมื่อไหร่ ยังไง ใช้แทนไอตัวดังๆที่หายากตัวไหนได้บ้าง มาเริ่มที่ตัวแรกกับรุ่นเก่าก่อนหน้านี้ 2 in 1 Impact Shadow Liner แว๊บแรกที่เห็น เฮ้ยยย !!! เหมือน Urban Decay Glide-On eyeliner ที่ชอบและติดใจมากด้วยหัวและด้ามที่คล้ายกันมาก เป็นแบบเหลา แล้วก็ยังเหมือน Dolly wink pencil liner ที่เมมีอีกด้วย ความจิงมีมากมายหลายสี แต่ที่เมหยิบมาคือ ดำกับน้ำตาลอ่อน หลังจากได้ลองแต่งและปาดแล้วกรี๊ดตรงที่เนื้อนุ่มและลื่นมาก เหมาะสำหรับการเขียนอินเนอร์ไลเนอร์ชิดเส้นขนตา และด้วยความที่เป็นหัวดินสอมนๆจะได้ไลเนอร์ที่ดูนุ่มๆเส้นหนานิดนึง ดูธรรมชาติดีแถมยังเบลนเป็นอายแชโดว์ได้ด้วย วันนี้ท้าตัวเองด้วยการลองกรีดไลเนอร์สองข้างคนละรุ่นกันไปเลย ข้างที่กรีดด้วยตัว 2in1 ตั้งแต่เช้าถึงเย็น ออกมีย้วยแพนด้าลงมาบางๆบ้างตั้งแต่หัวตาถึงหางตา แต่ยังพอลบหรือเช็ดออกได้ มาสรุปกันนิดนึง ข้อดี : เนื้อนุ่ม ลื่นมาก เขียนง่าย ข้อเสีย : ยังมีแพนด้าลงมา หัวดินสอใหญ่เขียนบริเวณเล็กๆยาก ถ้าเป็นหัวหมุนจะใช้ง่ายกว่า ข้อแนะนำ : ดินสอรุ่นนี้เมจะใช้กรีดไลเนอร์ก่อนลงลิควิดไลเนอร์ ลิควิดไลเนอร์จะลดอาการแพนด้าได้เลย และเป็นไลเนอร์ที่เขียนอินเนอร์ง่ายด้วย มาดูรุ่นที่ 2 Maybelline Master Liner รุ่นนี้เพิ่งออกใหม่สดๆร้อนๆ เป็นไลเนอร์เนื้อครีมแบบหมุนออกมาคล้ายๆกับ Dejavu ด้ามแดง กับ Lavshuca pencil liner ที่เมใช้อยู่ รุ่นนี้มีแค่ 2 สี คือดำกับน้ำตาลเข้ม หลังจากลองกรีดรู้เลยว่าเนื้อไม่นุ่มเท่าตัว 2in1 แต่ก็ยังนุ่มพอที่จะเขียนอินเนอร์ชิดขอบตาได้ และหัวค่อนข้างเล็กทำใ้ห้เก็บรายละเอียดได้ดี เวลาใช้ควรหมุนขึ้นเล็กน้อยไม่ต้องเยอะ สามารถเขียนได้ทั้งไลเนอร์เส้นเล็กและหนา ปริมาณที่ให้ก็ยาวอยู่ ส่วนตัวชอบสีน้ำตาลเข้มเป็นพิเศษเพราะสามารถกรีดให้ตาคมได้ดูธรรมชาติดี จากที่ลองกรีดอีกข้างเช้าถึงค่ำ ผลคือมีเลือนลงมาช่วงหางตานิดหน่อยแต่ไม่แพนด้า แค่เช็ดช่วงหางตานิดหน่อยก็เหมือนเดิม สรุปนิดนึง ข้อดี : หัวเล็ก นิ่มพอที่จะเขียนอินเนอร์ได้ ไม่แพนด้า ข้อเสีย : สีำดำพอลองเขียนบนตายังรู้สึกไม่ดำสนิทพอต้องลงทับอีกหน่อย ข้อแนะนำ : สามารถใช้กรีดเดี่ยวๆไม่ต้องใช้คู่ไลเนอร์แบบลิควิดก็ได้ จะเห็นได้ว่าทั้งสองตัวลักษณะการใช้งานแตกต่างกัน เมว่าขึ้นกับความชอบเลย ถ้าใครชอบเนื้อนุ่มๆเส้นหนาหน่อย เขียนไม่ต้องเก็บรายละเอียดมาก เบลนด์ให้เบลอๆได้ ก็ใช้ 2in1 ไป แต่ถ้าใครชอบเส้นเล็กคมๆ อารมณ์เลือกวาดจุดเล็กๆได้ดังใจ ดูธรรมชาติเน้นติดทน เขียนอินเนอร์ได้ ก็เลือกใช้ Master Liner ได้ เทคนิคเพิ่มเติมที่เมใช้ในการเขียนและแก้ไลเนอร์ที่แพนด้าหรือสีอ่อนเกินไป คือการกรีดทับด้วยไลเนอร์แบบลิควิด เส้นจะคมและชัดขึ้นลดแพนด้าด้วย ส่วนตัวเมว่าไลเนอร์แบบดินสอเป็นไลเนอร์ที่ใช้และเขียนง่ายๆกว่าลิควิด ใครที่เพิ่งเริ่มกรีดเมแนะนำให้ใช้ดินสอแบบนี้ แต่ก็เลือกใช้ให้ตรงกับความชอบ ของทุกคนและกันเนอะ ^^ รีวิวเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของเมที่ได้จากการลองใช้ อย่างเพิ่งเชื่อจนสนิทใจจนกว่าจะได้ลองเองหรือหาข้อมูลเพิ่มเติมจ้า วันนี้ไปแล้วติดตามอัพเดทเพิ่มเติมได้จากเพจเนอะ facebook.com/Buccii.mePage บ๊ายบายยยยย   Create Date : 03 กันยายน 2554     Last Update : 23 สิงหาคม 2555 22:06:27 น. Counter : 9878 Pageviews.   7 comment Share Tweet

• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com