ตุลาคม 2549
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
18 ตุลาคม 2549
 
 

เรื่องของความรัก : My First Love

เค้าว่ากันว่า คนเรา มักจะลืมรักครั้งแรกไม่ได้… เราเห็นด้วยเลยล่ะ เพราะเราก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน…

รักครั้งแรกของเรา มันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ มารู้ตัวอีกที ก็รักเค้าเข้าแล้ว.. “เค้า” มีอายุรุ่นเดียวกับเรา เคยเรียนโรงเรียนเดียวกัน เคยเรียนวิชาเลือกเดียวกัน

เรากับเค้ารู้จักกันมาตั้งแต่ม.1 เราได้รู้จักกันก็เพราะว่าเราเรียนวิชาเลือกเดียวกัน วิชา “คหกรรม” น่าแปลกนะที่ผู้ชายลงเรียน “คหกรรม” ตอนเราเห็นเค้าครั้งแรกเรายังคิดว่าเค้าไม่ใช่ผู้ชายแท้เลย (ขำ) เราก็เคยบอกเค้า ตลกดี.. แต่เราก็แอบชอบเค้าตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเห็นเค้าแล้วล่ะ ตอนแรกๆที่เริ่มรู้จักกันก็เป็นเพื่อนกันธรรมดาๆไม่มีอะไร ต่อมาเค้าก็โทรมาหาเรา เราจำไม่ได้แล้วว่าเค้าได้เบอร์เราไปยังงัย แล้วเราได้เบอร์เค้ามายังงัย.. อืม.. นั่นแหละ เราก็เลยเริ่มคุยกันทางโทรศัพท์ ส่งข้อความหากัน ส่งเมลล์หากัน แต่เราก็ต้องระวังไม่ให้ทางบ้านรู้ เพราะมีเรื่องแบบนี้ในวัยเรียนมันไม่ดี ทางบ้านเราเค้าว่าจะเสียการเรียนได้ เราเคยแลกไดอารี่กันด้วยนะ คือมันเป็นความคิดของเราเองแหละ น่ารักดี เวลาเอามาอ่านแล้วขำขำ แบบว่า.. อะนะ ทำไปได้งัยเนี่ยะ?? แต่ว่าตอนนี้ไดอารี่เล่มนั้นไม่อยู่แล้วล่ะ..เสียดายจัง เอ้อ เข้าเรื่องต่อดีกว่า เรื่องราวในอดีตตอนนี้เรายังจำไม่มีวันลืม ตอนคบกันใหม่ๆน่ะ เค้าพาเราไปนั่งร้าน “นมสด” แต่เราก็พาเพื่อนไปเป็นกลุ่มนะ เค้าก็พาเพื่อนไปเหมือนกัน เค้าเกิดวันที่ 19 ตุลา เราก้อให้ของขวัญเค้า เราให้สร้อยคอแบบผู้ชายน่ะ เราบอกเค้าว่าค่อยถอดออกถ้าเค้าเลิกชอบเราแล้ว เค้าก้อใส่ไว้ตลอดเลย น่ารักดีนะ พอถึงวันปีใหม่ เค้าก้อให้ของขวัญเรา แต่บังเอิญวันนั้นเราไม่ได้ไปโรงเรียน เค้าเลยฝากไว้ที่เพื่อนเรา เพื่อนเรามันแกล้งเราเอาไปแอบ แล้วมันก็ทำแตก T_T คือมันเป็นนาฬิกาทรายทำจากแก้วน่ะ เราก็… ไม่รู้จะว่างัย ก็ได้แต่บอกว่า “ไม่เป็นไร” เพราะคนนั้นคือเพื่อนสนิทเรา ถ้าไม่ใช่เพื่อนสนิทนะ เราเลือกคบไปแล้ว (เหอะๆๆ) ในช่วงนั้นอ่ะ เค้าน่ารักมากเลย เราก็คบกันมาเรื่อยๆ พอปิดเทอมฤดูร้อน เราก็ห่างๆกัน เค้าก็ไปเจอผู้หญิงคนใหม่ เป็นเด็กคนละโรงเรียนกัน เค้าก็เลยเลิกติดต่อกับเรา ก็สรุปว่า “เราเลิกกัน” แต่คงใช้คำนี้ไม่ได้หรอก เพราะเราไม่ได้ตกลงกับเค้าซักหน่อยว่า “เราเป็นแฟนกัน” ตอนนั้นน่ะ เค้าถอดสร้อยที่เราให้ออกแล้วด้วยนะ เค้าถึงขนาดกับย้ายไปพักที่หอพักข้างโรงเรียนผู้หญิงคนนั้นเลยนะ เราก็..น้อยใจนิดๆ ตอนกุ๊กกิ๊กกับเราไม่เห็นเค้าทุ่มเทขนาดนี้เลย.. เราสืบจนรู้มาว่าผู้หญิงคนนั้นชื่ออะไร เรียนห้องไหน เรารู้มาว่าเค้ารู้จักกับผู้หญิงคนนั้นบนรถตุ๊กตุ๊กแล้วก็จัดการขอเบอร์ซะตอนนั้นเลย เราก็เจอผู้หญิงคนนั้นบนรถตุ๊กตุ๊กเหมือนกัน คือเราเห็นป้ายชื่อเค้าน่ะ เราถามผู้หญิงคนนั้นว่า ชื่อ ..(ชื่อเล่น).. ใช่มั๊ย ผู้หญิงคนนั้นตอบว่าใช่ รู้ได้งัย เราก้อถามว่ารู้จัก (ชื่อแฟนเค้า) มั๊ย ก็ตอบว่ารู้จัก เราก้อเลยบอกว่าเราเป็นเพื่อนกับคนนั้นน่ะ สรุปว่าตอนนั้นเราก็รู้จักกับผู้หญิงคนใหม่คนเค้าแล้ว.. พอถึงวันวาเลนไทน์ (ตอนนั้นเราอยู่ ม.2 แล้วนะ) เราบอกเค้าว่าเราจะให้กุหลาบดำเค้า เค้าบอกว่าเค้าจะรอรับ แล้วเราก้อเอาไปให้เค้าจริงๆ เค้าก็รับนะ แต่เค้าเตรียมดอกไม้ช่อใหญ่มากไว้ให้ผู้หญิงคนนั้นด้วยล่ะ เราไม่เห็นหรอก แต่เพื่อนเราบอกมา.. อ้อ ตอนเรียนม.2 เค้าเปลี่ยนวิชาเลือกแล้วนะ มันเป็นวิชาเย็บปักถักร้อยน่ะ ผู้ชายจะเรียนก็ยังงัยอยู่ นั่นแหละ ยิ่งทำให้เรากะเค้าห่างกันตอนต้นเทอม.. พอขึ้น ม.3 เราได้ข่าวมาว่าเค้าเลิกกับผู้หญิงคนนั้นแล้ว แล้วเค้าก็กลับมาติดต่อกับเราอีก เราถามเค้าว่าเลิกกันทำไม เค้าบอกว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ค่อยเรียบร้อย เค้าไม่ชอบ.. ผู้ชายก็เงี๊ยะ!! ตอนเข้าประชุมสายชั้น อาจารย์หัวหน้าสายชั้นถึงกับประกาศว่า “คู่ไหนที่อยู่ห้องหนึ่งกับห้องสองจะกลับมาคบกันใหม่ครูก็รู้นะ” คือตอนประชุมเค้าจะประกาศข่าวต่างๆนะ เพื่อนก็โห่กันใหญ่ -_-” คือ เราเรียนห้องหนึ่ง เค้าอยู่ห้องสองน่ะ นั่นแหละ สรุปว่าเราก็กลับไปคบกับเค้าอีกครั้ง ระหว่างที่เราคบกับเค้า เราเจอแฟนเก่าเค้าด้วยนะแล้วแฟนเก่าเค้าก็ทักเราด้วยล่ะ ดีนะที่แฟนเก่าเค้าไม่รู้ว่าเรากับเค้ามีความสัมพันธ์กันยังงัย

ตอนนั้นน่ะ เราได้พบกับเพื่อนเก่าตอนเรียนป.5 คนนั้นเคยชอบเราด้วยล่ะ (อิอิ) ชื่อเมฆ ตอนเราเจอกันอีกเราก้อคุยโทรศัพท์กันบ้าง คือเราเรียนพิเศษที่เดียวกันน่ะ แต่อยู่คนละโรงเรียนกัน เมฆเรียนโรงเรียนเดียวกับผู้หญิงคนนั้นน่ะ เมฆน่ารักขึ้นเยอะ เราเลยชอบเมฆ (อิอิ) แต่ว่าเรากับเมฆก็เป็นแค่ “เพื่อน” กันนะ อืม.. ตอนม.3 เราก็คบกับเค้าไปประมาณเทอมครึ่ง มีอยู่ครั้งนึงเค้าโทรหาเราตอนเราอยู่โรงเรียน เค้าก็อยู่โรงเรียนนะ เรารับโทรศัพท์และเดินคุยจนถึงมุมตึกแล้วเลี้ยว เจอเค้ากำลังเลี้ยวอยู่อีกด้านพอดี เหมือนในหนังเลย (คิคิค) ระหว่างที่เราคบกันเราก็แค่คุยโทรศัพท์กัน ไม่ได้ไปไหนมาไหนด้วยกันหรอก หลังจากนั้นเค้าก็มีคนใหม่อีก!! ด้วยความที่เราโกรธมาก เราก็เลยไปเขียนด่าเค้าไว้ที่โต๊ะเรียนวิทยาศาสตร์ อาคารเรียนใหม่ และเราก็หนีหน้าเค้ามาโดยตลอดจนจบม.3 เพราะกลัวโดนด่ากลับ (เหอะๆๆ) พอเค้าได้อ่านเค้าก็พยายามตามหาเรานะ แต่ไม่มีทางเจอเราหรอก 55+ เราไม่รู้ว่าเค้าตามทำไม แต่เรากลัวน่ะ เลยไม่กล้าเจอหน้า -_-” หลังจากที่เราเลิกกันอีกครั้ง เราก็เลยคบกับเมฆ เมฆก็น่ารักดีนะ หน้าตาก้อคล้ายๆเค้านั่นแหละ ก็เราชอบแนวนี้นี่.. เราก้อคบกับเมฆมาเรื่อยๆน่ะ จนถึง ม.4 ตอนเปิดเรียนใหม่ๆ เราได้ข่าวว่าเค้ายังพยายามตามตัวเราไม่เลิก แต่เพื่อนเราบอกว่าเค้ามีอะไรจะพูดด้วย เราบอกเพื่อนให้ไปถามเค้าก่อนว่าหายโกรธเราแล้วยัง เค้าไม่โกรธเราแล้ว เราเลยยอมพบกับเค้า เค้าอยากพบเรา เพื่อที่จะขอคืนดีกันอีก.. ถ้าเป็นคนอื่นคงไม่มีทางไปคืนดีกับผู้ชายแบบนี้แล้วใช่มั๊ยล่ะ แต่ว่า.. เราก็กลับไปคบกับเค้าอีก ดูเหมือนของตายของเค้ายังงัยไม่รู้ แต่ก็อะนะ ก็เราชอบเค้าหนิ..เฮ่อ.. เราก็เลยต้องเลิกติดต่อกับเมฆ เพราะเค้ารู้จักเมฆด้วย ไปรู้จักได้ยังงัยก็ไม่รู้.. เค้าขี้หึงและขี้น้อยใจพอควรน่ะ ตอนนั้นเค้าติด…ด้วย เค้าเคยฝากมันกับเราด้วยนะ เค้าบอกว่าอาจารย์คงไม่ตรวจถ้าอยู่กับเรา คือเค้าฝากกล่องน่ะ เราแอบเปิดดู ก็เลยรู้ เราก็เลยไปปรึกษากับเพื่อน เพื่อนเลยไปขอให้เค้าเลิก เราก็เลยผสมโรง ขอให้เค้าเลิกเพื่อเรา.. เป็นของขวัญวันเกิดเราก็ยังดี.. เราไม่เคยได้ของขวัญวันเกิดจากเค้าเลยนะ เลิกกันไปก่อนถึงวันเกิดเราทุกที.. เค้าก็พยายามเลิกมันจริงๆด้วยล่ะ แล้วเค้าก็เลิกได้ ตอนเราคบกันเค้ามารอเราตอนเช้าทุกวันเลย คือเราจะมาโรงเรียนเช้าน่ะ เค้าก็เลยมาเช้าด้วย น่ารักจริงๆเลย มีอยู่วันนึงเรามาสาย เราไม่เห็นเค้าที่แถว ก็เลยเดินไปดูที่ๆเรากะเค้านั่งกันอยู่ประจำ เห็นเค้ายืนอยู่ เราถามว่าทำไมไม่ไปเข้าแถว เค้าตอบว่า ก็รอคุณงัย (กรี๊ดดดดด) เค้าสุภาพและค่อนข้างโรแมนติกนะ แต่ค่อนข้างฉวยโอกาสด้วย คือ ตอนเช้าของวันนึง เค้าบอกว่ามีอะไรจะบอกเรา แต่บอกที่ที่เรานั่งกันอยู่ไม่ได้ เค้าพาเราไปหลังอาคารเรียน แล้วบอกให้เราเอาหูมา เค้าจะกระซิบ เราก็ค่อนข้างงงเพราะว่ามันไม่มีใครแล้วทำไมต้องกระซิบด้วย เราก็ยื่นหูไป แล้วเค้าก็… แล้วเราก้อเดินกลับมาที่นั่ง เค้าถามว่าโกรธมั๊ย เราก็พูดอะไรไม่ออก >_< นั่นก็เป็นเหตุการณ์นึงที่เรายังจำไม่ลืมเลยล่ะ ปีนี้เราได้ของขวัญวันเกิดจากเค้าด้วยนะ เค้าให้เราไปเป็นเพื่อนเค้าทำธุระ แต่เราติดเรียนพิเศษ ก็อย่างที่บอก เค้าขี้น้อยใจน่ะเราก็เลยต้องโดดเรียนพิเศษไปแป๊บนึง ปรากฎว่าเค้าไปซื้อของขวัญวันเกิดให้เรา แล้วเค้าก็นั่งรถกลับมาส่งเราที่เรียนพิเศษด้วย น่ารักที่ซู้ดดด แต่ยังงัยก็ตาม ความหวานมันอยู่ได้ไม่นาน เราคบกันได้เทอมนึง เทอมสองเราก็เลิกกันอีก เค้าบอกเราว่าเราขาไม่สวย เค้าชอบดูผู้หญิงที่ขา เวงกำ งั้นก็ตามสบายเลยนะ ข้ออ้างเยอะเหลือเกิน เค้าคบกับเพื่อนเก่าของเรา เรียนคนละห้องกัน ก็แรง (เปรี้ยว) พอควร ถ้าเค้าชอบสไตล์นั้นเราก็ไม่รั้งเค้าไว้หละ เพราะเราคงเป็นแบบนั้นไม่ได้ เพื่อนเก่าคนนั้นเป็นเพื่อนสนิทกับเพื่อนสนิทของเรา เราเลยรู้จักกันและกลับมาคุยกันและเป็นเพื่อนกันอีก แต่กับเราเธอก็ดีนะ เป็นนางเอกอีกแล้วเรา -_-” .. อีกแล้ว เราโกรธเค้าอีกแล้ว เราหาเรื่องใส่ตัวอีกแล้ว เราส่งข้อความไปเครื่องแม่เค้า บอกว่าเค้ามีแฟนแล้วชื่อ… บังเอิญเค้าเป็นคนอ่านข้อความก่อนถึงมือแม่ เราก็เลยซวย คราวนี้เราหนีเค้าไม่พ้นเพราะต้องไปเรียนอาคารที่เค้าเรียนอยู่ประจำ เค้าเจอเราก็เข้ามาจับแขนไม่ให้เราหนี แล้วถามว่าส่งไปทำไม น่ากลัวมากกกกก คือเค้าจะดีและสุภาพเฉพาะกับผู้หญิงที่เค้าคบด้วยน่ะ กับคนอื่นอย่าหวังเลยว่าเค้าจะเป็นสุภาพบุรุษ ซึ่งในตอนนั้น เราตกเป็น “คนอื่น” สำหรับเค้าไปแล้ว เราก็ต้องออมชอมเพราะรีบไปเรียน จากนั้นเรากับเค้าก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก จน ม.5 เค้าย้ายไปเรียนที่เซนต์จอห์น เรารู้จากเพื่อนน่ะว่าเค้าจะย้ายโรงเรียน แต่เราก็ไม่ได้ติดต่อหาเค้า เรารู้มาว่าเค้าคบกับผู้หญิงคนใหม่ได้ไม่นาน.. อย่างเนี๊ยะแหละ ของมาเร็วก็ไปเร็ว.. ระหว่างที่เราเรียน ม.5 เราก็เรียนภาษาอังกฤษ AUA ไปด้วย เราโชคดีที่สอบได้เลเวล10 เลยไม่ต้องจ่ายตังค์มากเพราะมันมีถึงเลเวล15 เราสนิทกับเอมมี่มาก เอมมี่เคยสอนว่าให้จำไว้ว่าถ้าแฟนเก่ามาขอคืนดีอย่ากลับไปคืนดีอีก เพราะเค้ามีประสบการณ์นั้นมาแล้ว เราก้อคิดอยู่ในใจว่า (สอนช้าไปแล้วค่ะ -_-” ตลกดีนะ)

หลังจากเราเลิกกับเค้า เราได้ไปเป็นล่ามแปลภาษาอังกฤษที่งานวิ่งมาราธอนนานาชาติ พบผู้ชายคนนึง น่ารักดี เราก็เลยเข้าไปคุยด้วย ชื่อวัน วันอายุน้อยกว่าเราปีนึง อยู่คนละจังหวัดกับเรา และเป็นอิสลาม… ครอบครัวเราไม่ชอบอิสลาม แต่เราก็เฉยๆนะ เรากับวันก็คบกันมาเรื่อยๆ เราเข้าใจว่าวันชอบเราและคิดว่าเราเป็นแฟนกันมั้ง ฟังจากการคุยโทรศัพท์กันนะ มันก็สมควรคิดอย่างนั้นอยู่หรอก เพราะเราคุยกับวันอย่างกับว่าเป็นแฟนกัน แต่เราไม่ได้คิดอย่างที่วันคิดนะ เรากลัวบาปเหมือนกันที่หลอกวัน แต่ก็ไม่รู้จะทำยังงัย ถึงตอนนี้ เราก็ยังคุยโทรศัพท์กันอยู่บ้าง วันมาเที่ยวสงขลาปีละครั้ง มาเพื่อ “มาหาเรา” ตอนนี้วันก็อยู่ที่สงขลา แต่เราไม่ได้รับโทรศัพท์วัน และไม่ได้ไปหาวัน เราบอกวันแล้วนะว่าไม่ต้องมา แล้วยังดื้อจะมาอีก เรื่องนี้เราก็ไม่รู้ทำงัยดีเหมือนกัน เราไม่กล้า “บอกเลิก” จะปล่อยไว้เฉยๆ ก็ไม่รู้จะเป็นยังงัย ก็ลองเฉยไปซักพักแล้วกัน..

กลับมาเรื่องเรากับเค้าดีกว่า.. หลังจากที่เค้าเริ่มไปเรียนที่กรุงเทพฯได้ไม่นาน เข้าไปใหม่ๆก็ไม่ค่อยจะมีเพื่อน เค้าก็โทรมาหาเรา เราก็คุยโทรศัพท์กับเค้านานๆครั้ง จนถึงตอนปิดเทอม ม.6 เดือนตุลา เราต้องขี้นไปสอบวิชาเฉพาะของแพทย์จุฬา เรากะว่าจะไม่บอกเค้า จะไม่ติดต่อเค้าเวลาเราอยู่กรุงเทพฯ แต่เพื่อนเรากลับโทรไปบอกน่ะ เค้าเลยโทรมาหาเรา และนัดไปเที่ยวกัน เราได้กลับไปสนิทกับเค้าอีก เราไปเที่ยวกับเค้าแค่ 2 วัน แต่ก็กลับค่ำ เค้าก็มาส่งเราที่คอนโด คือเราไปกับเพื่อนและพักอยู่ที่คอนโดเพื่อนน่ะ อ้อ ก่อนที่เราจะไปกรุงเทพฯ เค้าลงมาที่สงขลา เค้าร้องเพลงออกอัลบั้มรวม ก็เลยเอาแผ่นซีดีมาให้เรา เรานัดกับเค้าที่หาดใหญ่น่ะแต่เราก็ไปกับเพื่อนอีกคนนึง เป็นเพื่อนของเค้าด้วย อืม..นั่นแหละ เพื่อนคนนี้ถามเค้าว่าคิดยังงัยกับเรา จะกลับไปคบกันอีกรึปล่าว เราบอกเพื่อนไปก่อนแล้วว่าเราคงไม่กลับไปเป็นแฟนกันอีก เพราะคิดๆดูแล้ว เพื่อนคบกันได้ยาวนานกว่าแฟนเยอะ เค้าก็คิดเหมือนกับเรา เค้าบอกเพื่อนเราไปเหมือนที่เราบอกเพื่อนนั่นแหละ แต่หลังจากเรากลับมาจากกรุงเทพฯ เค้าโทรมาหาเราทุกวันเลย มีอยู่วันนึงเค้าวางสายไปแล้ว แล้วเค้าก็โทรมาใหม่ พูดว่าลืมบอกว่าเรา “ฝันดีนะ” หลังจากที่เค้าไปอยู่กรุงเทพฯ เค้าเป็นสุภาพบุรุษขึ้นเยอะเลย เค้าไม่ได้เป็นสุภาพบุรุษเฉพาะกับผู้หญิงของเค้าแล้วนะ แต่เค้าเป็นสุภาพบุรุษกับทุกคนเลย เค้าเปลี่ยนไปมาก แต่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นนะ ระหว่างที่เราคุยกัน มันเหมือนกับว่าเรากลับมาเป็นแฟนกันอีก เป็นครั้งที่ 4 แล้วมั้ง ถ้านับไม่ผิดนะ เค้าอยากให้เราขึ้นไปเรียนกรุงเทพฯ เราบอกว่าเราจะพยายาม แต่คงมีหนทางเดียวคือเราสอบแพทย์จุฬาได้ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลย เค้าหวังมาตลอดให้เราสอบได้ ตอนวันประกาศเค้าโทรหาเราบ่อยมาก เค้ารอนับถอยหลังวันประกาศผลด้วยนะ เราเสียใจมากที่ทำให้เค้าผิดหวัง สำหรับตัวเราเอง เราไม่เสียใจหรอกที่เราสอบไม่ได้ เพราะเรารู้ตัวอยู่แล้ว ตอนสอบแอดมิดชั่น เราต้องเป็นคนสมัครให้เค้า ทำทุกอย่างให้เค้าหมดเลย เค้าไม่ค่อยจะสนใจตัวเองเท่าไหร่ ตอนยื่นเลือกคณะ เค้าก็ไม่ได้ยื่นไป เพราะ “ไม่มีใครทำให้” เราก็รู้สึกผิดนิดๆนะที่ไม่ได้ช่วยเค้าให้เสร็จเรื่อง แต่ตอนนั้นเรายุ่งอยู่กับสอบสัมภาษณ์ของรับตรง มอ.น่ะ คือเรามีที่เรียนตั้งแต่รับตรงแล้วงัย เราก็เลยไม่ได้สมัครแอดมิดชั่น และก็เลยไม่ได้ถาม ไม่ได้สมัครให้เค้าด้วย เพราะเวลาเราจัดการเรื่องของเค้า เราจะจัดการไปพร้อมกับของเรา พอดีเราไม่ได้สมัคร ก็เลยลืมเรื่องของเค้าไป -_-” “ขอโทษนะ” แต่ตอนนี้เค้าก็มีที่เรียน ได้เรียนอย่างที่เค้าอยากเรียน ถึงแม้จะไม่ใช่สิ่งที่อยากเรียนมากที่สุด แต่มันก็เหมาะสมกับเค้าแล้วล่ะ ตรงกับแน วทางการทำงานของเค้าด้วย ^_^
เค้าบอกเราว่าถ้าเราเรียนกรุงเทพฯ เราจะเริ่มต้นกันใหม่ และเค้าจะไม่ทำให้เราเสียใจ… ก้อนะ เรารู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอก เพราะเราไปไหนไม่ได้ เราต้องเรียนที่นี่ พ่อแม่วางรากฐานไว้ให้ที่นี่ ถึงตอนนี้ เราจบมา ก็ต้องทำงานที่นี่อีก เพราะมันเป็นสัญญาระหว่างเรากับกระทรวงสาธารณสุขน่ะ หลังจากเข้าเรียนมหาวิทยาลัย เราก็คุยโทรศัพท์กันบ้าง นานๆครั้ง เราลืมเค้าไม่ได้ เราคิดถึงเค้ามาตลอด เมื่อไม่นานมานี้เค้าบอกว่าจะลงมาสงขลา แต่เราก็ไม่ได้ไปเจอเค้า เพราะเค้าไม่ได้มาหาดใหญ่ เราส่งข้อความหาเค้า บอกว่า “I can’t stop loving you” เราไม่รู้ว่าเค้าคิดยังงัย จากประสบการณ์ที่ผ่านๆมา เค้าจะไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้กับผู้หญิงที่เข้าหาเค้าก่อน เราคิดว่าเค้าคงไม่อยากติดต่อกับเราแล้วเพราะข้อความนั้น… เพราะเค้าไม่ได้ส่งกลับ และไม่ติดต่อมาเลย เราก็ตั้งใจไว้ว่าเราจะไม่ติดต่อเค้าไปก่อน จนกว่าเค้าจะติดต่อเรามาเอง ในที่สุด เมื่อวานเค้าก็โทรมาหาเรา ตอนสามโมงสิบสามนาที แต่เราไม่ได้รับ T_T เพราะเรากำลังหนีโทรศัพท์ “วัน” อยู่ วันมาสงขลาและอยากให้เราไปพบ แต่เราไม่อยากไป ก็อย่างที่ได้เล่าไปแล้ว.. และแล้ว วันนี้ตอนแปดโมงเช้า เค้าก็โทรมาหาเราอีก โทรมาเพื่อที่จะบอกว่าตอนนี้กำลังกลับกรุงเทพฯ เค้าลงมางานศพยาย แต่ต้องรีบไปรีบกลับ เพราะเค้ามีธุระ คุยไปคุยมาสัญญาณมันไม่ค่อยดี เค้าเลยบอกว่าจะโทรมาใหม่เมื่อถึงกรุงเทพฯ เอ้อ ช่วงที่เค้าลงมาน่ะ เค้าต้องเฝ้ายาย เพราะยายไม่สบาย เค้าเลยไม่ได้ลงมาหาดใหญ่ เราเลยไม่ได้เจอกัน.. อืม นั่นแหละ ในที่สุดเราก็ได้คุยกะเค้าอีกครั้ง.. เราอยากรู้ว่าต่อไป เรากับเค้าจะเป็นยังงัย.. แต่เราไม่ได้หวังว่าเราจะกลับไปคบกะเค้าอีก หรือว่าเราจะเป็นคู่กันหรอก “ความรัก ขอแค่ให้คนที่เรารักมีความสุขก็พอ” เราเข้าใจคำนี้จริงๆ


เนี่ยะอะน้า รักครั้งแรก มันยากที่จะลืมจริงๆ อ้อ แต่เราขอค้านอย่างนึง เรื่องที่ว่า มีแฟนแล้วจะเสียการเรียนน่ะ เราอ่ะ สอบได้คณะที่เราอยากเรียนนะ และก็ไม่ทำให้ใครผิดหวังด้วย (ยกเว้นอยู่คนนึง) แต่ยังงัยก็ตาม เราต้องรู้จักแบ่งเวลาให้ถูก และไม่ควรออกนอกลู่นอกทาง ตอนนี้เราเรียน Medicine, PSU น่ะ


>> I Love You, aikkiwsung <<




 

Create Date : 18 ตุลาคม 2549
0 comments
Last Update : 18 ตุลาคม 2549 21:16:35 น.
Counter : 1023 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 

zixzent
Location :
สงขลา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add zixzent's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com