YOKOSO JAPAN : มนุษย์กระป๋อง (4)
วันนี้ตื่นแต่เช้าตั้งใจจะไปตลาดสึกิจิ เพื่อดูกิจกรรมการประมูลปลาสำหรับการนำไปทำ ซูชิ อาหารชื่อดังของญี่ปุ่น
5.00 เวลาที่เริ่มประมูลปลา............แต่เป็นเวลาที่เราเพิ่งตื่น
6.00 เวลาที่ออกจากที่พัก
เช้าวันนี้ดูเป็นเช้าที่ดูคึกคัก คนหนาตากว่า 2 วันที่ผ่านมา
'วันนี้เป็นวันจันทร์'
'มิน่า ทำไมคนเยอะ'
เราลงสถานีรถไฟใต้ดิน เพื่อไป สถานีอุเอะโนะ สถานีที่มีชุมทางหลายสาย เพื่อต่อไปที่ สถานีสึกิจิ
พอเราออกมาจากรถไฟที่ สถานีอุเอะโนะ 'โอ้ คุณพระ' ภาพที่ปรากฎต่อหน้าพวกเรา คือ คน คนคนคน คนคน คน คนคน คนมากมายมหาศาล
ไม่ใช่ ควรเรียกว่า ฝูงชน ฝูงชน ฝูงชนมากกว่า ฝูงชนที่ลงบันไดมาจากด้านบนอย่างไม่ขาดสาย
ทุกคนสวมชุดคล้ายๆกันหมด เป็นยูนิฟอร์มของชาวโตเกียว ชุดโค๊ทยาวถึงหน้าแข้ง สีดำ ผูกเนคไท ในมือถือกระเป๋าเอกสาร ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย เดินลงบันไดคล้ายจังหวะการวิ่ง
'ปึ๊ก ปึ๊ก ปึ๊ก ปึ๊ก ปึ๊ก ปึ๊ก ปึ๊ก' เสียงจังหวะก้าวเท้ายาว เสียงดัง และเร็วของฝูงชนนี้ แทบจะเป็นจังหวะเดียวกันทั้งหมด
พวกเราในชุดลำลองแบบนักท่องเที่ยว ที่แปลกแยกออกมาจากฝูงชน ได้แต่ยืนตะลึงกับภาพที่เห็น
'แล้วจะไปยังไงกันว่ะเนี่ย'
คือเราจะต้องเดินข้ามไปอีกฝั่ง แต่มีฝูงชนนี้เดินผ่านข้างหน้าเราอย่างไม่ขาดสาย เร็วและเยอะเหมือนน้ำเชี่ยว ไม่มีช่องว่างให้เราแทรกตัวข้ามไปได้
พวกเราต้องเดินขนาน ไปตามจังหวะของพวกเค้า และค่อยๆ เขยิบตัวออกข้างทีละก้าว เหมือนขับรถเปลี่ยนเลนถนน
'เออ ลืมไปว่านี่เป็นช่วงชั่วโมงเร่งด่วนของโตเกียว ซึ่งหนังสือแนะนำว่าเราควรหลีกเลี่ยง'
'แล้วทำไมเพิ่งมาบอก'
ภาพฝูงชนเดินขวักไขว่ไขว้กัน ในระหว่างการเดินเราต้องคอยมองไปรอบรอบว่า จะมีใครเดินมาชนหรือเปล่า หรือไปเกะกะทางเดินใครหรือเปล่า
ท่ามกลางฝูงชนขวักไขว่นี้ ผู้ชายคนหนึ่งในชุดยูนิฟอร์มของชาวโตเกียว นอนหงายลงกับพื้นสถานี ข้างข้างเสา
เจ้าหน้าที่สถานีสองคน พร้อมกล่องพยาบาล กำลังปฐมพยาบาลที่หัวของผู้ชายคนนั้นที่มีเลือดออกไหลมาจากหน้าผาก
ท่ามกลางฝูงชนขวักไขว่นี้ ก็ยังคงขวักไขว่อยู่ ไม่มีใครสนใจสิ่งที่เกิดขึ้นเลย ยกเว้นนักท่องเที่ยวแต่งตัวประหลาด 4 คน ที่มองอย่างสงสัย ว่าเกิดอะไรขึ้น
'เค้าตกรถไฟหรือเปล่า' พวกเราเริ่มคาดเดา
'หรือไม่ก็เดินเร็วจนชนเสา' พวกเรายังคงเดินไปตามจังหวะการเดินของฝูงชน
เราเดินมาถึงชานชลา พร้อมกับแถวของคนยืนต่อคิวกันเป็นระเบียบเรียบร้อย
เราตัดสินใจไปต่อแถวที่สั้นที่สุด
รถไฟมาแล้ว ภาพของคนบนรถไฟแน่น แน่น แน่น เห็นได้ชัดจากภายนอกว่าไม่มีที่ว่างเลย
'เราจะได้ขึ้นไหมว่ะเนี่ย' เมื่อคนบนรถไฟได้พยายามเบียดตัวออกมาจำนวนพอสมควร ทำให้เราพอมีหวังที่จะขึ้นไปได้
คนที่ออก เดินออกมาหมดแล้ว คนที่ยืนต่อแถวกันข้างนอกก็เริ่มเข้าไปบ้าง
แต่เราคงต้องรอคันต่อไป เมื่อเห็นว่าคนยังยืนออกันที่ประตูทางเข้าอยู่อีก 5-6 คนข้างหน้าเรา และไม่มีทีท่าว่าจะเข้าไปได้อีกแล้ว
ตรืด...ตรื๊ด...ตรื๊ด เสียงสัญญาณว่าประตูจะปิดแล้ว (เสียงเหมือน BTS บ้านเราเลย)
ทันใดนั้น ผู้ชายร่างท้วม ใส่แว่น ที่ยืนข้างหน้าผม ยืนเป็นคนสุดท้ายของแถว ก็พยายามเอาตัวและแขนดันเข้าไป
ได้ผล...คนเข้าไปได้บ้าง แต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น และแถวก็ไม่ขยับแล้ว พี่อ้วนแว่นของผมก็ยังยืนอยู่ข้างนอกตัวรถอยู่
พี่อ้วนแว่น จึงตัดสินใจหันหลังและใช้เท้ายันพื้นให้หลังของเค้าดันให้คนเข้าไปอีก
'โอ้ คุณพระ มันดันกันอย่างนี้เลยเหรอว่ะ' ผมยังคงลุ้นพี่อ้วนแว่นต่อไป
ตอนนี้พี่อ้วนแว่น เข้าไปได้ครึ่งตัวแล้ว
ตรืด...ตรื๊ด...ตรื๊ด เสียงสัญญาณดังอีกครั้ง
เมื่อมีสัญญาณเตือนอีกรอบ พี่อ้วนแว่นเอามือชูขึ้นเพื่อจับขอบบนของประตูและเป็นอีกแรงที่จะดันตัวเองเข้าไป คราวนี้เข้าไปได้เกือบทั้งตัวแล้ว
ตรืด...ตรื๊ด...ตรื๊ด เสียงสัญญาณดังอีกครั้งแล้ว
ตอนนี้เจ้าหน้าที่สถานีที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้เดินเข้ามาแล้ว
'เค้าคงจะเตือนพี่อ้วนแว่น ให้ไปคันหลัง' ผมยังคงลุ้นต่อ
ประตูเริ่มขยับจะปิดแล้ว
แต่ ไม่......ภาพที่เห็นไม่ตรงกับสิ่งที่คิด เจ้าหน้าที่กางมือออกเพื่อยันประตูไม่ให้ปิด และช่วยดันพี่อ้วนแว่นด้วย !!!!
เจ้าหน้าที่ช่วยดันจนผู้โดยสารพ้นแนวประตู และช่วยเก็บขอบของปลายเสื้อ และกระเป๋าของผู้โดยสาร ไม่ให้ประตูหนีบ และค่อยๆปล่อยให้ประตูปิด !!!
ตอนนี้นักท่องเที่ยวแต่งตัวประหลาด 4 คน ที่ยืนอยู่ข้างหน้าแถว ได้แต่ยืนตะลึงกับสิ่งที่เกิดตรงหน้า
เมื่อรถไฟเริ่มขยับตัวออก ผมมองตามกระจกของประตูรถไฟ
เป็นภาพของคนในรถไฟที่แก้มชิดกับกระจกของประตู เห็นแก้มซ้ายบ้าง ขวาบ้าง บางคนหยีฟัน บ่งบอกถึงความแน่นของฝูงชนในรถไฟได้
'ต่อไปก็เป็นตาเราแล้วสินะ' ผมนึกถึงแก้มตัวเอง ที่อาจจะต้องสัมผัสกระจกประตูรถไฟ แทนที่จะเป็นแก้มหญิง
และในอีกไม่ถึง 2 นาที รถไฟคันใหม่ก็มา และเมื่อผมได้เข้าไปในนั้นแล้ว ผมแทบจะไม่ได้ออกแรงเดินเลย ตัวผมเดินไปตามแรงดันจากข้างหลัง และมือไม่ต้องเกาะที่ราวใดใด มันมีแรงดันจากทุกทิศทางและสามารถทรงตัวผมอยู่ได้ จริงจริงแล้ว เท้าผมกำลังเขย่งอยู่ เพราะกลัวจะมีคนมาเหยียบเท้า
'โอ้ คุณพระ' มันแน่นมาก มันทำให้ผมนึกถึง ปลากระป๋อง
ผมนึกไปถึง พี่อ้วนแว่น ทำไมแค่อีก 2 นาทีถึงรอไม่ได้ เคยได้ยินมาว่า คนญี่ปุ่นเป็นคนตรงเวลามาก แต่ 2 นาทีไม่น่าจะทำให้สายเท่าไหร่
หรือถ้ามองอีกแง่ เค้าอาจจะรู้สึกว่า รถไฟคันหนึ่งควรจะบรรจุคนได้เต็มอัตราของมัน เพราะถ้าไม่เช่นนั้นคนข้างหลังอย่างพวกเราอาจจะรอไปอีก 2 ขบวน เป็นการทำให้รถไฟได้ใช้ประสิทธิภาพเต็มที่
ไม่รู้ได้ ความแน่นในรถไฟ อาจทำให้มนุษย์กระป๋องคนนี้คิดมากไปเอง
อ่านตอนที่ 1 YOKOSO JAPAN : โตเกียวเกียวโต (1)
อ่านตอนที่ 2 YOKOSO JAPAN : ทางเท้าไม่มีคน ถนนไม่มีรถ (2)
อ่านตอนที่ 3 YOKOSO JAPAN : โตเกียวหลากมุม (3)
P A T 03 -
Create Date : 21 พฤษภาคม 2552 |
Last Update : 21 พฤษภาคม 2552 19:47:00 น. |
|
22 comments
|
Counter : 873 Pageviews. |
|
|
เหมือนตอนที่ได้รางวัลอย่างไม่คาดคิดยังไงยังงั้นเลยค่ะ
เว่อร์ไปมั๊ยนี่
เดินเที่ยวในชั่วโมงเร่งด่วนก็ดีนะคะ
ได้เห็นภาพที่คิดว่ามีแต่ในหนังเท่านั้น
"เป็นภาพของคนในรถไฟที่แก้มชิดกับกระจกของประตู
เห็นแก้มซ้ายบ้าง ขวาบ้าง บางคนหยีฟัน บ่งบอกถึงความแน่นของฝูงชนในรถไฟได้"
^
^
ช่างบรรยายจนภาพลอยออกมาอย่างชัดเจนค่ะ