YOKOSO JAPAN : มนุษย์กระป๋อง (4)




วันนี้ตื่นแต่เช้าตั้งใจจะไปตลาดสึกิจิ เพื่อดูกิจกรรมการประมูลปลาสำหรับการนำไปทำ ซูชิ อาหารชื่อดังของญี่ปุ่น

5.00 เวลาที่เริ่มประมูลปลา............แต่เป็นเวลาที่เราเพิ่งตื่น

6.00 เวลาที่ออกจากที่พัก

เช้าวันนี้ดูเป็นเช้าที่ดูคึกคัก คนหนาตากว่า 2 วันที่ผ่านมา

'วันนี้เป็นวันจันทร์'

'มิน่า ทำไมคนเยอะ'

เราลงสถานีรถไฟใต้ดิน เพื่อไป สถานีอุเอะโนะ สถานีที่มีชุมทางหลายสาย
เพื่อต่อไปที่ สถานีสึกิจิ







พอเราออกมาจากรถไฟที่ สถานีอุเอะโนะ
'โอ้ คุณพระ' ภาพที่ปรากฎต่อหน้าพวกเรา คือ คน คนคนคน คนคน คน คนคน คนมากมายมหาศาล

ไม่ใช่ ควรเรียกว่า ฝูงชน ฝูงชน ฝูงชนมากกว่า
ฝูงชนที่ลงบันไดมาจากด้านบนอย่างไม่ขาดสาย

ทุกคนสวมชุดคล้ายๆกันหมด เป็นยูนิฟอร์มของชาวโตเกียว
ชุดโค๊ทยาวถึงหน้าแข้ง สีดำ ผูกเนคไท ในมือถือกระเป๋าเอกสาร
ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย เดินลงบันไดคล้ายจังหวะการวิ่ง

'ปึ๊ก ปึ๊ก ปึ๊ก ปึ๊ก ปึ๊ก ปึ๊ก ปึ๊ก'

เสียงจังหวะก้าวเท้ายาว เสียงดัง และเร็วของฝูงชนนี้
แทบจะเป็นจังหวะเดียวกันทั้งหมด





พวกเราในชุดลำลองแบบนักท่องเที่ยว ที่แปลกแยกออกมาจากฝูงชน ได้แต่ยืนตะลึงกับภาพที่เห็น

'แล้วจะไปยังไงกันว่ะเนี่ย'

คือเราจะต้องเดินข้ามไปอีกฝั่ง แต่มีฝูงชนนี้เดินผ่านข้างหน้าเราอย่างไม่ขาดสาย
เร็วและเยอะเหมือนน้ำเชี่ยว ไม่มีช่องว่างให้เราแทรกตัวข้ามไปได้

พวกเราต้องเดินขนาน ไปตามจังหวะของพวกเค้า และค่อยๆ เขยิบตัวออกข้างทีละก้าว เหมือนขับรถเปลี่ยนเลนถนน

'เออ ลืมไปว่านี่เป็นช่วงชั่วโมงเร่งด่วนของโตเกียว
ซึ่งหนังสือแนะนำว่าเราควรหลีกเลี่ยง'

'แล้วทำไมเพิ่งมาบอก'



ภาพฝูงชนเดินขวักไขว่ไขว้กัน ในระหว่างการเดินเราต้องคอยมองไปรอบรอบว่า
จะมีใครเดินมาชนหรือเปล่า หรือไปเกะกะทางเดินใครหรือเปล่า

ท่ามกลางฝูงชนขวักไขว่นี้ ผู้ชายคนหนึ่งในชุดยูนิฟอร์มของชาวโตเกียว
นอนหงายลงกับพื้นสถานี ข้างข้างเสา

เจ้าหน้าที่สถานีสองคน พร้อมกล่องพยาบาล
กำลังปฐมพยาบาลที่หัวของผู้ชายคนนั้นที่มีเลือดออกไหลมาจากหน้าผาก

ท่ามกลางฝูงชนขวักไขว่นี้ ก็ยังคงขวักไขว่อยู่ ไม่มีใครสนใจสิ่งที่เกิดขึ้นเลย
ยกเว้นนักท่องเที่ยวแต่งตัวประหลาด 4 คน ที่มองอย่างสงสัย ว่าเกิดอะไรขึ้น

'เค้าตกรถไฟหรือเปล่า' พวกเราเริ่มคาดเดา

'หรือไม่ก็เดินเร็วจนชนเสา' พวกเรายังคงเดินไปตามจังหวะการเดินของฝูงชน







เราเดินมาถึงชานชลา พร้อมกับแถวของคนยืนต่อคิวกันเป็นระเบียบเรียบร้อย

เราตัดสินใจไปต่อแถวที่สั้นที่สุด

รถไฟมาแล้ว ภาพของคนบนรถไฟแน่น แน่น แน่น
เห็นได้ชัดจากภายนอกว่าไม่มีที่ว่างเลย

'เราจะได้ขึ้นไหมว่ะเนี่ย'
เมื่อคนบนรถไฟได้พยายามเบียดตัวออกมาจำนวนพอสมควร
ทำให้เราพอมีหวังที่จะขึ้นไปได้

คนที่ออก เดินออกมาหมดแล้ว
คนที่ยืนต่อแถวกันข้างนอกก็เริ่มเข้าไปบ้าง

แต่เราคงต้องรอคันต่อไป
เมื่อเห็นว่าคนยังยืนออกันที่ประตูทางเข้าอยู่อีก 5-6 คนข้างหน้าเรา
และไม่มีทีท่าว่าจะเข้าไปได้อีกแล้ว

ตรืด...ตรื๊ด...ตรื๊ด เสียงสัญญาณว่าประตูจะปิดแล้ว (เสียงเหมือน BTS บ้านเราเลย)

ทันใดนั้น ผู้ชายร่างท้วม ใส่แว่น ที่ยืนข้างหน้าผม ยืนเป็นคนสุดท้ายของแถว
ก็พยายามเอาตัวและแขนดันเข้าไป

ได้ผล...คนเข้าไปได้บ้าง แต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น และแถวก็ไม่ขยับแล้ว
พี่อ้วนแว่นของผมก็ยังยืนอยู่ข้างนอกตัวรถอยู่

พี่อ้วนแว่น จึงตัดสินใจหันหลังและใช้เท้ายันพื้นให้หลังของเค้าดันให้คนเข้าไปอีก

'โอ้ คุณพระ มันดันกันอย่างนี้เลยเหรอว่ะ' ผมยังคงลุ้นพี่อ้วนแว่นต่อไป

ตอนนี้พี่อ้วนแว่น เข้าไปได้ครึ่งตัวแล้ว

ตรืด...ตรื๊ด...ตรื๊ด เสียงสัญญาณดังอีกครั้ง

เมื่อมีสัญญาณเตือนอีกรอบ
พี่อ้วนแว่นเอามือชูขึ้นเพื่อจับขอบบนของประตูและเป็นอีกแรงที่จะดันตัวเองเข้าไป
คราวนี้เข้าไปได้เกือบทั้งตัวแล้ว

ตรืด...ตรื๊ด...ตรื๊ด เสียงสัญญาณดังอีกครั้งแล้ว

ตอนนี้เจ้าหน้าที่สถานีที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้เดินเข้ามาแล้ว

'เค้าคงจะเตือนพี่อ้วนแว่น ให้ไปคันหลัง' ผมยังคงลุ้นต่อ

ประตูเริ่มขยับจะปิดแล้ว

แต่ ไม่......ภาพที่เห็นไม่ตรงกับสิ่งที่คิด
เจ้าหน้าที่กางมือออกเพื่อยันประตูไม่ให้ปิด และช่วยดันพี่อ้วนแว่นด้วย !!!!







เจ้าหน้าที่ช่วยดันจนผู้โดยสารพ้นแนวประตู และช่วยเก็บขอบของปลายเสื้อ
และกระเป๋าของผู้โดยสาร ไม่ให้ประตูหนีบ และค่อยๆปล่อยให้ประตูปิด !!!

ตอนนี้นักท่องเที่ยวแต่งตัวประหลาด 4 คน ที่ยืนอยู่ข้างหน้าแถว
ได้แต่ยืนตะลึงกับสิ่งที่เกิดตรงหน้า

เมื่อรถไฟเริ่มขยับตัวออก ผมมองตามกระจกของประตูรถไฟ

เป็นภาพของคนในรถไฟที่แก้มชิดกับกระจกของประตู
เห็นแก้มซ้ายบ้าง ขวาบ้าง บางคนหยีฟัน บ่งบอกถึงความแน่นของฝูงชนในรถไฟได้

'ต่อไปก็เป็นตาเราแล้วสินะ' ผมนึกถึงแก้มตัวเอง
ที่อาจจะต้องสัมผัสกระจกประตูรถไฟ แทนที่จะเป็นแก้มหญิง



และในอีกไม่ถึง 2 นาที รถไฟคันใหม่ก็มา
และเมื่อผมได้เข้าไปในนั้นแล้ว ผมแทบจะไม่ได้ออกแรงเดินเลย
ตัวผมเดินไปตามแรงดันจากข้างหลัง และมือไม่ต้องเกาะที่ราวใดใด
มันมีแรงดันจากทุกทิศทางและสามารถทรงตัวผมอยู่ได้
จริงจริงแล้ว เท้าผมกำลังเขย่งอยู่ เพราะกลัวจะมีคนมาเหยียบเท้า

'โอ้ คุณพระ' มันแน่นมาก มันทำให้ผมนึกถึง ปลากระป๋อง

ผมนึกไปถึง พี่อ้วนแว่น ทำไมแค่อีก 2 นาทีถึงรอไม่ได้
เคยได้ยินมาว่า คนญี่ปุ่นเป็นคนตรงเวลามาก แต่ 2 นาทีไม่น่าจะทำให้สายเท่าไหร่

หรือถ้ามองอีกแง่ เค้าอาจจะรู้สึกว่า รถไฟคันหนึ่งควรจะบรรจุคนได้เต็มอัตราของมัน
เพราะถ้าไม่เช่นนั้นคนข้างหลังอย่างพวกเราอาจจะรอไปอีก 2 ขบวน เป็นการทำให้รถไฟได้ใช้ประสิทธิภาพเต็มที่

ไม่รู้ได้ ความแน่นในรถไฟ อาจทำให้มนุษย์กระป๋องคนนี้คิดมากไปเอง







อ่านตอนที่ 1 YOKOSO JAPAN : โตเกียวเกียวโต (1)

อ่านตอนที่ 2
YOKOSO JAPAN : ทางเท้าไม่มีคน ถนนไม่มีรถ (2)

อ่านตอนที่ 3
YOKOSO JAPAN : โตเกียวหลากมุม (3)





P A T 03 -


Create Date : 21 พฤษภาคม 2552
Last Update : 21 พฤษภาคม 2552 19:47:00 น. 22 comments
Counter : 873 Pageviews.

 
เข้ามาด้วยความคาดไม่ถึงว่ามีตอนที่ 4 แล้ว

เหมือนตอนที่ได้รางวัลอย่างไม่คาดคิดยังไงยังงั้นเลยค่ะ

เว่อร์ไปมั๊ยนี่


เดินเที่ยวในชั่วโมงเร่งด่วนก็ดีนะคะ

ได้เห็นภาพที่คิดว่ามีแต่ในหนังเท่านั้น

"เป็นภาพของคนในรถไฟที่แก้มชิดกับกระจกของประตู
เห็นแก้มซ้ายบ้าง ขวาบ้าง บางคนหยีฟัน บ่งบอกถึงความแน่นของฝูงชนในรถไฟได้"

^
^

ช่างบรรยายจนภาพลอยออกมาอย่างชัดเจนค่ะ





โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 21 พฤษภาคม 2552 เวลา:20:17:35 น.  

 
อยากไปเที่ยวญี่ปุ่นจังเลย
แต่พลาดโอกาสทุกครั้ง

สบายดีนะคะ


โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 21 พฤษภาคม 2552 เวลา:20:57:20 น.  

 
สวัสดีค่ะ

อุแหม่ มีแซวนะค่า แพท ย่อมาจาก แพทเทิร์น ค่ะ ภาษาวงการงานฝีมือ หุหุ

อ่านบล๊อคนี้แล้วก็เห็นภาพเลยค่ะ
เพราะเจอเหตุการณ์คนแน่นแบบนี้เหมือนกัน
ตอนจะขึ้นก็เลือกตู้ที่มีผู้หญิงยืนต่อแถวด้วยคะ
พอเข้าไปก็ตกใจ ผะ ผู้ชายทั้งน้านนนนเลย ฮือ
ทำไงดีฟร่ะ ไหนไหนก็ไหนไหนแล้ว ทนๆ เบียดไปเหอะ
โอ้วคุณพระช่วย พี่แกดันจนตัวเราลีบเลย หายใจไม่ออก
ดันจนแบบเรานึกในใจ จะดันกันไปถึงหน่ายฟร่ะ แย่แล้ว โอยๆๆๆ
พอตอนหลุดออกมาได้ เพื่อนที่ไปด้วยกันดันเพลินกับอกผู้ชายข้างใน 555
(จริงๆ แล้วเค้าฟังไม่ทันว่าถึงแล้ว)
เราถึงกับต้องตะโกนเรียกเลยค่ะ แถมบอกให้คนขับที่ออกมากดปุ่มรออีกตะหาก
ช่างกล้า

แล้วก็ชุดสูทดำๆๆๆๆ ที่เห็นเต็มพรืด
วีคิดว่า มันเหมือน "ฝูงนกเพนกวิน" ไม่มีผิดเลย
เดินกันฉับๆๆ ทุกคนมีสปีดที่เท่ากันหมด รู้สึกมันเครียด เร่งรีบ
แต่ก็เป็นข้อดีของเค้านะคะ ที่ดูตื่นตัว ถึงแม้ว่าจะดูเครียดไปหน่อยก็ตามที


โดย: oanotai วันที่: 21 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:59:50 น.  

 
เป็นการอ่านคำบรรยายภาพที่ดูน่ากลัวจริงๆ ขนาดนั้นกันเลยนะคะ


โดย: Neilnuch_T วันที่: 22 พฤษภาคม 2552 เวลา:7:19:20 น.  

 
พี่โตสชอบป้ายสีสันสดใสที่สถานที่รถไฟจังโจ .. สีสดสะใจดี
ว่าแต่ว่า.. รู้ความหมายของมันบ้างไม๊อ่ะน่ะ

แล้วก็ชอบรูปม้านั่งที่เรียงเป็นทางยาวววว.... นั่นมากๆ เลยด้วย
ดูแล้วมันได้อารมณ์สงบดีจังแฮะ

เล่าเรื่องตรงใต้รูปป้ายสีๆ อ่านแล้วได้อารมณ์ตื่นเต้นมากๆ เลย
ทั้งๆ ที่มันไม่น่ามีภาพอะไรที่น่าตื่นเต้นเลยนอกจากภาพของพวกเฮียๆ
หน้าตี๋ทั้งหลายเดินหน้าตั้งฉับๆๆๆๆ เบียดเสียดกันเพื่อที่จะไปทำงาน

หนังสือแนะนำน่ะ .. เค้าควรจะอ่านตั้งแต่ตอนวางแผนเที่ยวนะโจนะ เพราะงั้น
ถ้าพี่โตสเป็นหนังสือแนะนำเล่มนั้น พี่ก็จะตอบว่า .. แล้วทำไมเพิ่งจะมาอ่านล่ะคุณ

ส่วนเรื่องพี่อ้วนแว่น .. แบบว่าอ่านไปก็เห็นภาพไปเลยจริงๆ นะ
ยิ่งตอนท้ายที่เจ้าหน้าที่มาช่วยยันให้พี่อ้วนแว่นได้ยัดเนื้อเข้าไปในกระป๋อง .. เห็นภาพจริงๆ เลยล่ะ
ส่วนสาเหตุที่พี่แกไม่สามารถรอได้แค่นาทีสองนาทีนั่นน่ะ
พี่ว่าคนเราในโลกนี้เป็นกันเยอะนะ .. ซึ่งพี่ว่ามันเป็นคล้ายๆ กับ
สัญชาตญาณความเร่งรีบของพวกเค้า ที่พวกเค้าเองก็อาจจะไม่รู้เหมือนกันว่า
ทำไมต้องเร่งรีบขนาดนั้น และถ้าเราถามเค้าตรงๆ ว่ารออีกนิดหน่อยไม่ได้จริงๆ หรือ
เค้าก็คงจะตอบแบบไม่ค่อยมั่นใจว่า... อื้อ... นั่นดิเนอะ

จริงๆ แล้วอ่านตรงช่วงที่โจอธิบายถึงบรรยากาศยามเช้า ณ สถานีรถไฟแห่งนี้แล้ว
มันให้ความรู้สึกของคำว่า "ปากกัดตีนถีบ" ได้เหมือนกันนะ
ยิ่งตรงที่โจบรรยายบรรยากาศแก้มแนบประตูนั่นน่ะ .. อ่านแล้วค่อนข้างเศร้าล่ะ
นึกถึงภาพรถเมล์ช่วง rush hour ของบ้านเราด้วยแหละ ที่เค้าต้องเผชิญ
กับสภาพอย่างนั้นกันทุกวันๆ ก็เพื่องานเพื่อเงินจริงๆ เลยเนอะ

เจ้าหน้าที่ที่สถานนีเค้าน่ารักน่าชื่นชมจังเลยอ่ะโจ มีการช่วยเก็บชายเสื้อ
กับกระเป๋าของผุ้โดยสารให้เรียบร้อยก่อนที่จะปล่อยให้ประตูปิดด้วย
ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาที่ใครๆ ก็น่าจะทำ .. แต่... ในความเป็นจริงแล้ว พี่โตสว่ามีหลายๆ คนในโลกนี้ที่เค้าไม่แคร์ไม่แยแสอะไรตรงนี้เลย ที่คิดประมาณว่า.. ไม่ใช่หน้าที่อะไรเงี้ย...

สรุปแล้วไม่รู้ใช่ไม๊อ่ะเนี่ยว่าผู้ชายที่นอนหงายผึ่งอยู่ที่พื้นเค้าเป็นไรไป

บล๊อกนี้ภาพน้อยจัง.....

ส่วนคำถามที่โจถาม (แบบมีไนยะและกวนเบื้องล่างสุดของร่างกาย
) ไว้ที่บล๊อกพี่โตสว่า....
-- เห็นสะพานแขวนแบบนี้แล้ว ตอนเดินมันแกว่งแกว่ง ไหมพี่
อ่ะ ผมหมายถึงสะพานนะพี่ อย่าคิดลึกอย่าคิดลึก --
จริงๆ พี่ตอบเอาไว้ที่บล๊อกแล้วล่ะ .. แต่เผื่อโจไม่มีเวลาว่างไปอ่าน
ก็เลยเอามาแปะให้อ่านตรงนี้เลยละกัน .. บริการถึงบล๊อกคับป๋ม
อ่ะตอบ.....
ไอ้ที่แกว่งไกวที่ว่า... ไม่ว่าโจจะหมายถึงสะพานหรืออะไรก็เหอะ
คำตอบรวมๆ เลยก็คือ มันแน่นหนา (ยัง) ไม่แกว่งไกวเฟ่ย....

ช่วงนี้งานเยอะเปล่าโจ


โดย: Chini วันที่: 22 พฤษภาคม 2552 เวลา:10:09:50 น.  

 
ห้าาาา ตอนนี้สนุกสะใจดีมากๆเรยพี่โจ

นับว่าไปถึงโตเกียวของจิง...ได้เจอทั้งฝูงคน ทั้งพี่อ้วนแว่น

สุดยอดไปเรย ยังไม่เคยเจออะไรขนาดนั้น ห้าาา

แต่ดีนะที่รีบกลับไปก่อน เพราะตอนนี้ญี่ปุ่นแทบจะเป็นบ้าเพราะหวัดหมูไปแล้ว

ตอนนี้ต้องใช้ชีวิตท่ามกลางความหวาดกลัว จะหาผ้าแมสค์มาปิดปากก้ไม่ได้

เพราะไม่ว่าจะไปร้านไหนก้ Sold Out หมดเลยอ่ะ


โดย: Unravel วันที่: 22 พฤษภาคม 2552 เวลา:10:50:50 น.  

 
^
^
โถ! ต้นต้นที่น่าฉงฉาน

+ เชื่อมั้ย ตรงที่นายจั่วหัวบล็อกไว้ เราเดาเอาไว้ก่อนอ่านเนื้อหาว่านายน่าจะเขียนถึงเรื่องที่คนยุ่นปี่เค้าชอบมีตู้อัตโนมัติ แล้วเอาทุกอย่างยัดใส่กระป๋องเอาไว้ รอให้คนมากดซื้อ ... แต่ที่ไหนได้ กลายเป็น "มนุษย์(อัด)กระป๋อง" จริงๆ ไปซะฉิบ หุๆ

+ อ้อ! ขอตอบคำถามคงค้างของนายจากบล็อกเราก่อน ... บาหลี ไม่ได้แอบไปน้า ต้องเรียกว่าทริป(ตัดสินใจไป)กะทันหันมากกว่า ไปมาเมื่อต้นเดือนมีนาที่ผ่านมานี่เองครับ ... ใช่แล้ว ช่วงนั้นนายกำลังพักบล็อกพอดีอ่า

+ ขอบคุณนะที่(กัดฟัน)ชมรูป แหม! เซ็ตนี้ออกจะเบลอๆ มัวๆ ซัวๆ เต็มไปด้วยหมอกฝนอ่า ต้องรอเซ็ตถัดไป แดดแจ๋เลยล่ะ ... ส่วนรูปเบลอๆ นั่น พอดีเอาไปผ่านกระบวนการของประตูน้ำโพลีคลีนิค (ลบรอยสัก ปานแดง ปานดำ ทีนส์กา สิวฝ้า ราคี) มาอ่ะครับ เอิ๊กๆ

+ มีเรื่องนึงที่เรารู้เลยว่าเวลาชาวต่างชาติหลายๆ ประเทศมาบ้านเรา แล้วอาจรู้สึกแปลกใจ เพราะในประเทศตะวันตก น่าจะรวมถึงญี่ปุ่น หรือแม้แต่สิงคโปร์เองก็ตาม เวลาขึ้นลงบันไดเลื่อน ถ้ามาด้วยกันเค้าจะยืนในแนวขั้นบน - ขั้นล่าง เพื่อจะได้ไม่กีดขวางคนที่รีบกว่า ... ก็คือเหมือนมีแถวช้า (ยืนไหลไปตามบันได) กับแถวเร็ว (เดินไปพร้อมกับการเลื่อนของบันได)
... แต่บ้านเรา แหม! เล่นยืนขวางกันทั้งซ้ายขวา คุยกันกระหนุงกระหนิงเลยเชียว บางทีผมหมั่นไส้ก็แกล้งทำเป็นเดินขึ้นไป แล้วพูดขอทางพวกเค้าอ่ะครับ ... อยากหวานกันดีนัก โสน้าหน้า เหอๆๆ

+ อืม ... ขนาดนอนสลบเหมือดเลือดหัวออกท่ามกลางฝูงชนพลุกพล่านขนาดนั้น เจ้าหน้าที่เค้ายังใส่ใจเข้ามาดูแลอีกเนาะ ถ้าเป็นบ้านเรา ตานั่นอาจโดนเหยียบตายไปแล้วก็เป็นได้ เหอๆๆ (จริงๆ บ้านเราคนมีน้ำใจก็เยอะนะ แต่มันก็แล้วแต่สถานการณ์อ่า)

+ เคยอ่านเกี่ยวกับหนังญี่ปุ่นที่ใช้หลายๆ สถานการณ์ของความแน่นเป็นปลากระป๋องบนรถไฟนี่เอง เอามาสร้างเป็นหนัง ... อย่างเช่น มีเด็กผู้หญิงกล่าวหาชายคนหนึ่งว่าทำอนาจารเธอบนรถไฟจนถึงกับขึ้นโรงขึ้นศาล ... เอากะเค้าสิ ยังอุตส่าห์คิดพล็อตออกมาได้อีกเนาะ

+ เรื่องของพี่อ้วนแว่น เพื่อนบรรยายได้ฮาปนสาระดีอ่ะครับ ชอบๆ ... และทำให้ผมนึกถึงเหตุการณ์เมื่อ 2-3 ปีก่อน ตอนไปดูพลุที่ศูนย์สิริกิติติ์ แล้วต้องขึ้นรถไฟใต้ดินไป โอ้! ประมาณใกล้เคียงกับที่เพื่อนบรรยายนี่เลย ผมยืนโหนบาร์อยู่นี่แทบจะต้องโก่งตัวเข้าไปหาคนที่นั่ง เพราะโดนเบียด จนไม่มีที่ว่างสำหรับลำตัวให้ยืนตรงๆ ได้อ่ะครับ (ซึ่งคนที่อยู่แถวประตู ก็คงน่าจะประมาณที่เพื่อนบรรยายนี่แล)

+ หนุกดีๆ แต่ละตอนของเพื่อน ก็มีการสอดแทรกประเด็นทางสังคมต่างๆ กันไป เด๋วรอลุ้นตอนต่อไปว่าจะเป็นเรื่องอะไรอ่า


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 23 พฤษภาคม 2552 เวลา:2:09:26 น.  

 
เห็นภาพมั่ก ๆ เพราะตอนนี้ก็เบียดอยู่ในรถไฟไทย(รฟท)บ้านเราเหมือนกัน บางวันถือถุงมาไม่ต้องถือเลยเพราะแรงเบียดทำให้ถุงไม่ตก -"-
แต่อ่านแล้วก็นึกขำในคำบรรยาย แต่ถ้าอยู่ในเหตุการณ์คงขำไม่ออกเนอะ
เรื่องสะดือมีไว้ทำอะไร ตอนนั้นตอบเอื้อว่า ตอนเอื้ออยู่ในท้องแม่สายสะดือจะมีไว้เป็นทอส่งอาหารจากแม่ไปที่เอื้อ พอเอื้อออกจากท้องแม่แล้วเอื้อก็ไม่ต้องใช้สายสะดือแล้ว เพราะมีกระเพาะอาหารเป็นของตัวเอง สายสะดือก็หลุดไป เหลือแต่สะดือไว้ให้ดูต่างหน้า ^_^


โดย: แม่เด็กชายเอื้อ (viji ) วันที่: 23 พฤษภาคม 2552 เวลา:18:14:21 น.  

 
นี้แค่อ่านนะค่ะยังรู้สึกไปอยู่ในกระป๋องด้วยเลย
ช่างเป็นเมืองที่วุ่นวายจริงๆ
แต่ก็สวยละเนอะ


โดย: ท้องฟ้าเสียงเพลงทะเล วันที่: 24 พฤษภาคม 2552 เวลา:22:20:54 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่โจ


กะก๋าและสองหมิงกลับมาแล้วครับ อิอิอิ








โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 25 พฤษภาคม 2552 เวลา:6:04:41 น.  

 
รอลุ้นตอนต่อไป


โดย: Unravel วันที่: 25 พฤษภาคม 2552 เวลา:12:29:58 น.  

 
สนุกและทึ่งมาก
แบบว่าลุ้นกับพี่อ้วนแว่นคนนั้นตลอด
นึกว่าพี่แกจะลดละแล้ว
นับถือในความพยายามจริงๆ

พี่โจอย่าไปมีเรื่องกับเค้านะ
ฮ่าฮ่า

ได้ภาพของโตเกียวเมืองแห่งฝูงชนมาก

ปล. เชียงคานตอนต่อไปรออยู่แล้วนะคะ





โดย: pangz วันที่: 25 พฤษภาคม 2552 เวลา:15:22:54 น.  

 
โตเกียวคงจะเหงา ญี่ปุ่นก็คงจะหงอย
หากไม่ได้ โจมาช่วยเติมเต็มให้มันดูมีเสน่ห์
ด้วยเรื่องราว ด้วยตัวอักษร ด้วยลูกเล่น ด้วยภาพสวยๆ
ได้พบเห็นและจินตนาการตามบรรยากาศที่เล่าให้ฟัง

มันทำให้ที่นี่ดู พิเศษ ขึ้นมาแล้วก็อยากไปตามรอยเท้ามั่ง
ดูซิว่า .. จะมีอาการอย่างโจมั่งหรือเปล่า อิอิ


สารภาพตามตรง ก่อนหน้ารู้สึกไม่ดีกับที่นี่เท่าไหร่เลย


ปล. แอบคิดไปว่าเด็กในห้องเรียนของอ.โจคงตาแป๋วแหววคอยฟังเลคเชอร์หรือเรื่องราวที่น่าสนใจของอาจารย์คนนี้

คิดถูกใช่มั๊ยคะ? ? ?


โดย: พี่ปุ๊ก ^^ IP: 125.24.83.113 วันที่: 29 พฤษภาคม 2552 เวลา:11:46:35 น.  

 
แวะมาอ่านอีกครั้งค่ะ

เพลิดเพลินดี




โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 29 พฤษภาคม 2552 เวลา:23:45:51 น.  

 
สภาวะปลากระป๋อง ผมก็เคยโดนมาเหมือนกันคับ

มันอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก

ปล. ปูเสื่อลุ้นอยู่นะคับ ^^


โดย: foscarnet วันที่: 4 มิถุนายน 2552 เวลา:15:32:46 น.  

 
หวัดดียามเช้าครับพี่โจ

หยุดอยู่ที่บล้อก 4 นานแล้วนะเนี่ย 5555
ผมเริ่มเบื่อวาดหมื่นตาแล้วครับ
ตอนนี้กำลังสนุกอยู่กับราฟาเอลครับ อิอิอิ







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 มิถุนายน 2552 เวลา:7:03:57 น.  

 
อ่ะ.... นึกว่าอัพบล๊อกแหล่วซะอีก....

เห็นว่าช่วงนี้โจ (คล้ายๆ กับว่าจะ) ไม่ค่อยว่าง เพราะงั้น
เวลาเห็นโจโผล่หัวมาที พี่โตสก็นึกว่าโจอัพบล๊อกซะอีกอ่ะดิ

ขอบคุงคับที่ไปมั่วอวยพรวันเกิดให้พี่โตส

พอดีพี่ไม่ได้ใส่วันเกิดไว้ในโพรไฟล ก็เลยไม่มีการ์ดอวยพรครึกครื้นจากเพื่อนๆ มีแต่อวยพรกันแค่วงใน .. แบบมั่วต่อๆ กันไปอะไรเงี้ย...

โจซำบายดีเปล่า .. ว่างไปนั่ง เหล่สาวที่ไหนบ้างเปล่าเนี่ย.. หรือว่าหมดสิทธิ์เหล่แล้ว .. หรือว่ากำลังสร้างฐานในการเหล่สาวให้มั่นคงยิ่งขึ้นอย่างแข็งขันอยู่ล่ะ

ปล. ได้ไปบล๊อกเจ้าวินมันหรือเปล่าเนี่ย.. ได้รู้หรือยังอ่ะเนี่ยว่าวินมันกำลังเจออยู่ในห้วงของพายุทอร์นาโด


โดย: Chini วันที่: 5 มิถุนายน 2552 เวลา:8:48:33 น.  

 
^
^
ขอบคุณครับเจ๊ นายโจไปเยี่ยมผมมาเมื่อคืนแล้วครับ แต๊งค์เพื่อนหลายๆ ด้วยเน้อ


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 5 มิถุนายน 2552 เวลา:10:01:37 น.  

 
ดองบล็อกเพราะงานยุ่งแน่ๆเลย

แต่ก็คงดีกว่า งานไม่ยุ่งนะคะ

ดูแลสุขภาพและพักผ่อนให้เพียงพอด้วยนะ คุณ F0

จะได้ทำงานไปนานๆ






โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 5 มิถุนายน 2552 เวลา:17:15:28 น.  

 
ไม่เคยไปญี่ปุ่นซักที

แต่เท่าที่พี่บรรยายมา เห็นภาพเลย

ปลากระป๋องอัดแน่นเต็มที่เลย

ดีแล้วคับที่ไม่เกิดกับรถไฟฟ้าบ้านเรา


โดย: foscarnet วันที่: 8 มิถุนายน 2552 เวลา:21:10:40 น.  

 
โอ้ ตอนนี้ resume ไว้นานจริงๆ


โดย: Unravel วันที่: 10 มิถุนายน 2552 เวลา:16:37:49 น.  

 
ตอนที่ห้า ฮ่าฮ่าฮ่า

555 555 555 555 555

มะไหร่จะมา



โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 13 มิถุนายน 2552 เวลา:11:08:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

fzero
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2552
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
21 พฤษภาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add fzero's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.