BlogGang.com : : zermendo : เลนส์โปรเกรสซีฟที่ดีที่สุด บนกรอบแว่นสายตาปกติ

ตัวอย่าง

ธันวาคม 2559

				1	2	3
4	5	6	7	8	9	10
11	12	13	14	15	16	17
18	19	20	21	22	23	24
25	26	27	28	29	30	31

3 ธันวาคม 2559

เลนส์โปรเกรสซีฟที่ดีที่สุด บนกรอบแว่นสายตาปกติ

เลนส์โปรเกรสซีฟที่ดีที่สุด บนกรอบแว่นสายตาปกติ

Rodenstock Multigressiv MyView 2 เลนส์โปรเกรสซีฟที่ดีที่สุดสำหรับกรอบแว่นตาปกติ

ขอเกริ่นนำเล็กน้อยถึงสาเหตุที่เขียนเรื่องเลนส์ตัวนี้นะครับ เนื่องจากมีหลายท่านถามกันมาเยอะว่าเลนส์โปรเกรสซีฟตัวไหนดีที่สุดและมันดียังไง ก็เลยจะเขียนให้เข้าใจกันง่ายๆนะครับสำหรับผู้ที่มีงบพอที่จะเลือกเลนส์ที่ดีที่สุดตัวหนึ่งในโลก

เริ่มที่พื้นฐานที่ต้องรู้เกี่ยวกับเลนส์โปรเกรสซีฟ

เรื่องแรกที่เราต้องรู้ก็คือเลนส์โปรเกรสซีฟเป็นเลนส์ที่ออกแบบมาเพื่อคนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปที่เริ่มมีปัญหาสายตายาวตามอายุ(มองใกล้ๆแล้วมัว) ส่วนคนที่ยังไม่มีปัญหาสายตายาวตามอายุไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ครับ

เรื่องที่สองเลนส์โปรเกรสซีฟทำงานอย่างไร เลนส์โปรเกรสซีฟเป็นเลนส์ที่แบ่งพื้นที่การมองบนตัวเลนส์ออกเป็น 3 โซนหลักๆครับ คือ โซนมองไกล(อยู่ด้านบนของตัวเลนส์) โซนมองใกล้(อยู่ด้านล่างของตัวเลนส์) และโซนที่มีการไล่ระดับค่าสายตา(อยู่ในส่วนกลางของเลนส์)

เรื่องที่สามเลนส์โปรเกรสซีฟจะมีพื้นที่ที่ไม่สามารถใช้งานได้เนื่องจากเกิดค่าสายตาเอียงที่เราไม่ต้องการโผล่ขึ้นมาในบริเวณด้านข้างของตัวเลนส์ทั้งซ้ายและขวา ซึ่งไม่สามารถทำให้หายไปได้ แต่สามารถลดการรบกวนลงได้โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น

ต่อจากนี้เราจะมาพูดถึงเลนส์ Rodenstock Multigressiv MyView 2 กันครับว่าเพราะอะไรผมถึงกล้าพูดว่าเลนส์ตัวนี้ดีที่สุดสำหรับกรอบแว่นตาปกติ

เลนส์ตัวนี้ประกอบด้วยเทคโนโลยีที่ใส่เข้าไปดังนี้

Variable Inset & PD Optomize Inset

Wavefront Technology

Retina Focus Principle

HOA:High Order Aberration Consideration

ILT Experience

3D Freeform

EyeLT technology

Spherical Optimization

Unique Customization

มาถึงตรงนี้หลายท่านนั่งเกาศีรษะแกรกๆ ไม่รู้ว่าแต่ละชื่อที่เขียนมามันคืออะไร แล้วประโยชน์ที่ได้รับคืออะไร เพราะฉะนั้นผมจะมาอธิบายให้ฟังแบบเข้าใจง่ายๆตามนี้ครับ

เริ่มที่ตัวแรก Variable Inset & PD Optimize Inset เราต้องรู้จักคำว่า Inset กันก่อนครับ Inset คือระยะห่างของตาเวลาที่เรามองไกลและมองใกล้
ลองนึกภาพตามนะครับ เวลามองไกลตาเราจะมองออกไปตรงๆ แต่เวลาที่เราอ่านหนังสือ ตาทั้งสองข้างจะวิ่งเข้ามาด้านในเพื่อให้ตาทั้งสองข้างยังคงโฟกัสอยู่ในจุดเดียวกัน
ลองเทสตัวเองดูก็ได้ง่ายๆครับ ลองเอามือถือถ่ายรูปที่หน้ากระจกดูครับ รูปแรกให้ถ่ายโดยที่มองไปที่ตาตัวเองที่อยู่ในกระจก รูปที่สองให้ถ่ายโดยมองตาตัวเองที่อยู่ในมือถือ
แล้วลองเปรียบเทียบรูปทั้งสองดูครับ เราจะเห็นว่ารูปที่สองที่เรามองตาที่อยู่ในมือถือ จะดูเหมือนตาเราเหล่เข้า เพราะเรามองวัตถุที่อยู่ใกล้กว่านั่นเองครับ
ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของ Inset นั้นในคนที่มีสายตามากกับสายตาน้อยจะมีการเปลี่ยนแปลงไม่เท่ากัน
เทคโนโลยี Variable Inset คือการนำเอาค่าสายตามองไกลกับค่าสายตามองใกล้ไปคำนวนเพื่อหาระยะห่างของทั้ง 2 ตำแหน่งได้แม่นยำยิ่งขึ้น
จึงทำให้ไม่ว่าเราจะมีค่าสายตาเท่าไหร่ก็ตามคนที่มีค่าสายตาต่างกันจะได้เลนส์ที่มีระยะห่างของจุดมองไกลกับจุดมองใกล้ตรงกับความเป็นจริงมากขึ้น
ในส่วนของ PD Optimize ก็เช่นเดียวกัน PD คือระยะห่างของตาทั้ง 2 ข้าง คนที่มีระยะห่างของตาทั้ง 2 ข้างกว้างก็จะมีการเหลือบตาเข้ามากกว่าคนที่มีระยะห่างของตาทั้ง 2 ข้างที่แคบกว่า
เมื่อนำตัวแปลทั้ง 2 อย่างที่มีผลต่อ Inset มาคำนวนก็จะทำให้เราได้เลนส์ที่มีค่า Inset ที่ตรงกับตาของเรามากที่สุด ผลที่ได้ก็คือเราจะได้มุมมองที่กว้างเต็มประสิทธิภาพของตัวเลนส์ในทุกระยะ

Wavefront Technology เป็นเทคโนโลยีที่ใช้การคำนวนในระดับสูง มาคำนวนความคลาดเคลื่อนของแสงที่เกิดจากหลายๆตัวแปรของกรอบแว่นตา เช่นความโค้งของกรอบแว่น มุมเทของกรอบแว่น ระยะห่างของเลนส์กับลูกตา
เพื่อนำไปออกแบบโครงสร้างเลนส์ ที่เหมาะสม และได้มุมมองที่ดีที่สุดในทุกโซนของเลนส์โปรเกรสซีฟ

Retina Focus Principle เป็นเทคโนโลยีที่ใช้การคำนวนเพื่อชดเชยค่าสายตาบนตัวเลนส์ โดยอ้างอิงจากตำแหน่งที่เราใส่แว่นจริง เพื่อให้ทุกตำแหน่งบนเลนส์มีค่าสายตาที่เหมาะสม
ทำให้ได้ภาพที่คมชัดในทุกระยะการมองและช่วยลดการเมื่อยล้าเนื่องจากการเพ่งมองในระยะใกล้เป็นเวลานาน

HOA:High Order Aberration Consideration เป็นเทคโนโลยีที่ใช้การคำนวนในระดับสูงของ Wavefront Technology มาคำนวนร่วมกับขนาดของรูม่านตา
ซึ่งการเปลี่ยนแปลงขนาดของรูม่านตาจะขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยคือ ความสว่าง และ ระยะวัตถุที่เรามอง เมื่อเราอยู่ในที่ๆมีแสงสว่างเยอะๆรูม่านตาก็จะหดเล็กลง แต่ถ้าเราอยู่ในที่ๆแสงน้อยรูม่านตาก็จะขยายกว้างขึ้น
ในส่วนของการมองวัตถุที่อยู่ในระยะไกลขนาดของรูม่านตาจะขยาย แต่ถ้าเรามองวัตถุที่อยู่ในระยะใกล้อย่างเช่นอ่านหนังสือขนาดของรูม่านตาจะหดเล็กลง สิ่งที่ได้ก็คือความคมชัดในทุกระยะและในทุกสภาวะแสง

ILT Experience คือการนำเอาค่าพารามิเตอร์ที่เกิดจากการสวมแว่นบนหน้ามาใช้ในการคำนวนโครงสร้างเลนส์ เช่น ระยะห่างจากเลนส์ถึงตา ความโค้งของกรอบแว่น มุมเทของหน้าแว่น
ซึ่งค่าทีนำมาคำนวนจะเป็นค่าเฉลี่ยที่ได้จากการวัดบนกรอบแว่นตาธรรมดาที่ได้มาตรฐาน จึงทำให้โครงสร้างเลนส์ที่ได้มีมุมมองที่เหมาะสมมากยิ่งขึ้น

3D Freeform เป็นเทคโนโลยีการขัดเลนส์ที่มีอิสระในการออกแบบค่อนข้างสูง และมีความละเอียดสูงเนื่องจากใช้หัวเข็มที่มีขนาดเล็กมากในระดับไมครอน
ทำให้ได้ความแม่นยำในการผลิตในทุกค่าสายตา ซึ่งสามารถให้ความละเอียดได้ในระดับ 0.01D

EyeLT technology เทคโนโลยีเฉพาะของโรเด้นสต็อกที่มีการชดเชยค่าสายตาเอียงที่เกิดจากการหมุนของตา เมื่อมีการเปลี่ยนตำแหน่งการมองจากระยะไกลมาระยะใกล้
ทำให้ได้ภาพที่คมชัดในทุกระยะ และได้มุมมองที่ดีขึ้นในทุกระยะการมอง

Spherical Optimization คือการนำเอาค่าสายตาสั้นยาวมาคำนวนเพื่อชดเชยความคลาดเคลื่อนของโครงสร้างที่เกิดจากความโค้งของเลนส์
เนื่องจากความโค้งเลนส์ในแต่ละค่าจะให้โครงสร้างเลนส์ที่ดีที่สุดแค่ 1 ค่าสายตา แต่การนำเอาค่าสายตาสั้นยาวมาคำนวนชดเชยทำให้สามารถฉีกข้อจำกัดในเรื่องของความโค้งเลนส์ไปได้
ทำให้ได้โครงสร้างที่ดีในทุกๆค่าสายตา

Unique Customization คือการนำค่าที่กล่าวมาข้างต้นซึ่งเป็นค่าเฉพาะของบุคคลนั้นมาคำนวนรวมกันทุกตัวแปลเพื่อให้ได้โครงสร้างเลนส์ที่ดีที่สุดก่อนจะทำการผลิต
จึงมั่นใจได้ว่าทุกคนจะได้เลนส์ที่ดีที่สุดสำหรับตัวเองเมื่อใช้บนกรอบแว่นตาปกติเสมอ