Review ===>โหมด : คลีนซิ่ง Review :เครื่องสำอางที่เคยผ่านหน้าตาอันด้านหนาของเรา สภาพหน้าเป็นผิวผสมจ๊ะเหี่ยวบริเวณแก้มแต่เยิ้มบริเวณจมูก(ทีโซน) โหมด : คลีนซิ่ง ครีมเช็ดเครื่องสำอาง POINT MAKE-UP REMOVER FASIO ตัวนี้เป็นตัวที่ทำความสะอาดลึกล้ำล้ำลึก(จะซ้ำคำทำไม) เพราะทดลองมาจนหมดขวดแล้วของเค้าดีจริงๆครับพี่น้อง ก็มีหลายคนในโต๊ะเครื่องแป้ง(ชื่อใหม่ล่าสุด)แนะนำกันมา เพราะว่ามาสคาร่าของ fasio จะล้างยากราวเอาจาระบีมาทา(อันนี้ล้อเล่นจ้า เดี๋ยวแฟนแบรนด์นี้มีเคือง) ดังนั้นการทำความสะอาดก็ต้องแน่จริงถึงล้างออก ตอนแรกซื้อมาเพื่อล้างเฉพาะตา แต่ลองเช็ดหน้าก็สะอาดดี แต่ว่าจะรู้สึกแห้ง ไม่เหนอะหนะ แต่เราชอบแบบเหนอะหนะ ก็เลยไม่ได้ใช้แล้วใช้แค่ลบมาสคาร่ากับไอน์ไลน์เนอร์ เป็นอีกตัวที่ใช้ล้างได้แจ่มจรัส ราคา : ช่วงเซลล์ 150 -160 ราคาปกติราว 230-260 บาท สถานที่ซื้อ : ร้านวัตสันและเคาเตอร์ FASIO ตามห้างสรรพสินค้า CLEANSING CREAM POLA รุ่นที่เราใช้ไม่มีในเว็บ สงสัยเลิกผลิตเลยเอารุ่นใกล้ๆกันมาแทน ครีมเช็ดเครื่องสำอางตัวนี้เคยใช้คั้งแต่สมันเด็กๆ(มใปลายถึงมหาลัย)แบรน POLA ไม่ค่อยมีคนรู้จัก แต่คุณภาพดีนะ เพราะแม่เราใช้มานาน ติดแต่ว่าเวลาเราใช้เราชอบเป็นสิว(ดีจริงรึนี่) คือจะชอบเป็นเวลาใช้ครีมบำรุงน่ะแต่ถ้าเป็นพวกคลีนซิ่งบ่มีปัญหาใดๆ เราว่าเวิคร์มาก ตอนที่ใช้ครีมเช็ดเครื่องสำอางตัวนี้ รู้สึกว่าหน้านุ่มมากๆอ่ะ เหมือนว่าได้บำรุงไปด้วย แต่ไม่แน่ใจว่าช่วงนั้นหน้าดีด้วยรึป่าว แต่รู้สึกว่าเป็นครีมเช็ดเครื่องสำอางที่บำรุงตัวหนึ่ง เม็ดเล็กๆยิบๆจะหายไปหมดเลย แบบเวลาลูบหน้าที่มีสิวใต้ผิวหนังเม็ดจิดๆ ใช้ครีมนี้เช็ดหายเกลี้ยง แต่สมัยนั้นใช้แค่ครีมกันแดดกะแป้งเด็กก็เลยไม่มีอะไรให้อุดตัน เลยมีคุณสมบัติเหมือนบำรุงพร้อมเช็ดแป้งฝุ่นกะครีมกันแดดออกไปนั่นเอง ราคา : จำไม่ค่อยได้ ประมาณ 300 บาทไม่รู้ตอนนี้ขึ้นราคารึยังได้ข่าวว่าน่าจะเลิกผลิตไปแล้วด้วยอ่ะเพราะมันถูก สถานที่ซื้อ : ร้านชอปของ POLA ที่เราสะดวกมีที่ เซนทรัลพระราม 3 White Tea Cleansing Massage Cream Sungrace ครีมเช็ดเครื่องสำอางตัวนี้ใช้อยู่ปัจจุบันปกติเคยใช้แบบกระปุกเทาอมม่วงหรือน้ำตาล(อันนั้นแบรนด์Covermak แต้ๆ) แล้วแต่จะสื่อสารตัวนั้นล้างดีมากๆ เครื่องสำอางที่หนาราวสีย้อมผ้าก็ยังเช็ดได้สะอ๊าดสะอาด(ตอนรับปริญญาใช้เช็ดอย่างเมามัน) แต่ตอนเราไปซื้อดันหมด โหย!!! ก็เลยถอยตัวนี้ออกมาแทน กลิ่นใกล้เคียงกัน เนื้อครีมก็ด้วย แล้วมันต่างกันตรงไหน?(แบรนด์ลูก?) เค้าบอกว่าตัวนี้จะช่วยด้านความขาว(จริงรึ?) ก็กำลังลองดูอยู่ปัญหาเราคือหน้าชอบเป็นเม็ดสิวเล็กๆจิ๋วๆ ก็สังเกตดูก็หลุดออกมาดีนะ ส่วนความขาวคาดว่าไม่ต่างแตก ดังนั้นคุณภาพจึงเป็นที่น่าพอใจที่สำคัญกระปุกใย้ใหญ่ ใช้ได้น๊านนาน ราคาย่อมเยาว์ พอใจฮ่ะ ราคา : 441-500 บาท(แล้วแต่ช่วงโปรโมชั่น) สถานที่ซื้อ : เคาเตอร์ Covermark ทั่วไป โฟมล้างหน้า Neutrogena Deep Clean Facial Cleanser, For Normal to Oily Skin ตัวนี้คือโฟมล้างหน้าที่ใช้ตัวปัจจุบันกำลังเห่อ (ไม่ได้เห่อสิวนะ) รู้สึกใช้แรงๆมาเยอะ(มีส่วนผสมนั่นนู้นนี่น่ะ)เลยขอกลับสู่สามัญเจลเหลวๆใสๆ เคยใช้สูตรธรมดาเป็นหลอดๆมานานและตอนนั้นก็รู้สึกดีนะมันไม่แห้งตึงแต่เราเบื่อที่มันไม่มีกลิ่น แบบบางทีชอบกลิ่นหอมๆของโฟมเลยเลิกใช้ไป พอหน้าสิวบุกก็เลยลองหาไรอ่อนๆมาล้างก็รู้สึกว่า มันก็ดีนี่นาเลยถอยตัวนี้มาเป็นขวดเห็นว่าแบบนี้เป็นแบบdeep ยังไม่ได้ลองใช้เลย ห้าๆๆ จะรีวิวทำด๋อยอะไร แต่คิดว่าคุณสมบัติคงคล้ายๆกัน อันนี้แบบสะอาดล้ำลึก ถ้าใช้แล้วผลเป็นไงจะมารายงานอีกทีครับผ้ม ราคา : 150 (ที่บูต กำลังลดราคาอ่ะ) -200 กว่าๆ สถานที่ซื้อ : ร้านวัตสัน บูต ร้านขายยา ซุปเปอร์มาเกตทั่วไป MISSHA Cleansing Foam(with tea tree oil ingredients) โฟมของ Missha ตัวแรกที่เราลองใช้ ก็เพราะถูกที่สุดไงล่ะเหอๆ ตอนนั้นกะจะแวะเข้าไปซื้อแค่เบสมาลองใช้ปรากฏว่า เพิ่มอีกนิดได้ของแถมเลยซื้อมาลองใช้ ก็โอเคนะใช้แล้วกันสิว แต่บางทีก็จะเบื่อกลิ่นที่เป็นน้ำมันทรีทีอ่ะ ก็เลยไม่ได้ใช้แล้ว อันนี้เป้นเนื้อโฟมแบบครีมสีขาวมีกลิ่นทรีทีออย มีฟองพอสมควรล้างสะอาดสดชื่นไม่หน้าตึง คุณสมบัติรักษาสิวโอเคเลย ราคา : 325 บาท( เป็นสมาชิกที่มียอดสะสม 3000 แต้มได้ส่วนลด 5%) สถานที่ซื้อ : ชอป Missha สาขาสีลม -สยาม - มาบุญคลอง สบู่มาดามเฮง(ต้นตำรับนะไม่มีรูปเลยเอารูปกันสิวมาแทน มันจะวางใกล้ๆกัน) อันนี้อยากรู้ว่าเป็นไง ไม่ได้ซื้อสูตรกันสิวมาอ่ะมันแพงกว่าประมาณ 40 บาท(รุ่นส่งออกนอกปาไป 60 บาท) แต่เอารูปมาโชว์เพื่อ? ให้ดูว่ามันจะวางใกล้ๆกันไง ของเราหน้าปกจะเป็นมาดามเฮงหน้าตาซิ้มดูดุๆนิดนึงอ่ะ ห้าๆๆ อันนี้ตอนที่ล้างหน้าจะสดชื่นนะแล้วก็หน้าขาวผ่องอย่างแรง ฟองมากมายก่ายกอง เนื้อสบู่นิ่มละลายน้ำง่ายดายมากๆ เป็นจำพวกสมุนทรไพรอ่ะแหละ สิวก็หายผดก็หาย แต่ทว่าแห้งอย่างแรง แบบจะรู้สึกหน้าตึง(ตึงแบบแห้งนะไม่ใช่ผิวตึงหน้าเด้ง)เอามากๆ ขนาดเราผิวผสมค่อนไปทางมัน ก็เลยเอามาใช้ฟอกตัวแทน แต่ค่อนข้างเปลืองเพราะมันนิ่มละลายน้ำง่าย เราจะตัดแบ่งใช้เอา(งกเหลือคณา) รู้สึกอาบแล้วผิวจะผ่องๆดี แต่ก็ไม่ได้ขาวปุบปั๊บเหมือนตอนฝอกหน้านะ กลิ่นจะเย็นๆแบบไทยๆแล้วก็สดชื่นดีจ้า ราคา : 29-35 บาท สถานที่ซื้อ : ท๊อปซุปเปอร์มาเกต แล้วก็วัตสันและร้านขายยาทั่วไป โทนเนอร์ MISSHA Skin (with tea tree oil ingredients) ใช้สืบเนื่องมาจากการซื้อโฟมก็ใช้คู่ๆกันไปจ๊ะ ก็ดีนะสูตรนี้คือกันสิวและถูกสุดในหมวดคลีนซิ่งของทั้งร้านแว้ว กลิ่นก็จะทำนองเดิมนั่นแหละ ใช้สบายไม่แสบหน้าเพราะเราเคยใช้พวกโทนเนอร์ของนูโทรจีน่า(รุ่นไฟน์แฟเนส )อันนั้นเราแสบหน้า คิดว่าหน้าหนาแต่เจอพวกโท นเนอร์ก็แสบได้ง่ายๆแสดงว่าบางลงแล้ว (ไม่น่าดีใจเลย) ก็คุณสมบัติระงับสิวหน้าไม่มัน แล้วก็ไม่แห้งตึง ใช้ได้ดี ปัจจุบันก็ยังใช้ตัวนี้อยู่จ๊ะ ราคา : 325 บาท( เป็นสมาชิกที่มียอดสะสม 3000 แต้มได้ส่วนลด 5%) สถานที่ซื้อ : ชอป Missha สาขาสีลม -สยาม - มาบุญคลอง วันนี้ขอจบโหมดคลีนซิ่งแต่เพียงเท่านี้ก่อนนะจ๊ะ เดี๋ยวันหน้าจะเอาโหมดอื่นๆมาเพิ่มเติม ขอขอบคุณรูปภาพ //www.pola.com/products.htm //www.fasio.info/th/index.html //www.occ.co.th/home.asp //misshathailand.com   Create Date : 11 กรกฎาคม 2550     Last Update : 11 กรกฎาคม 2550 13:01:17 น. Counter : 2070 Pageviews.   2 comment Share Tweet

จากการแต่งหน้าสู่ขั้นตอนการดูแลรักษาและบำรุง ส่วนตัวเป็นคนเบื่อง่ายอ่ะ ก็จะแบบใช้ไปทั่วน่ะนะ อันดับแรกเลยต้องเรื่องการทำความสะอาดตอนนี้เรามีตัวทำความสะอาดแบบคลีนซิ่งประมาณสามตัว แต่ที่ถูกกะเราจะเป็นพวกครีมมากกว่าน้ำนม ครีมแบบมันจะได้นวดทำให้ต่อมน้ำเหลืองทำงานได้ดีขึ้นรู้สึกหน้าจะนุ่มและใสดี แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ไปเอาครีมมาใช้ให้แม่ซื้อให้ยังไม่ได้ไปเอา 1.POLA ราคาแม่จะลดได้เหลือประมาณ230-250 บาท ถูกน่ะแต่คุณภาพดีนะ คือสะอาดแล้วก็รู้สึกผิวหน้านิ่มนวล 2.ปัจจุบันที่ใช้จะเป็นพวกน้ำมันซะส่วนใหญ่ก็มีของ FASIO อันนี้อยากลองเห็นเค้าว่ามันสะอาดจริง ตอนซื้อมันลดราคาอยู่ประมาณ150 รึป่าวจำไม่ได้ แต่สะอาดจริงนะ แต่เหมือนใช้โทนเนอร์เช็ดๆเอาอ่ะ สะอาดแต่แบบไม่รู้สึกได้บำรุงก็จะใช้เช็ดเครื่องสำอางก่อนแล้วค่อยไปล้างต่อในห้องน้ำ 3.ในห้องน้ำจะมีเป็นตัวนี้ ZiiiT อันนี้ไม่ได้ตั้งใจซื้อเล้ย ตอนแรกเห็นราคามัน 99 แต่จริงๆ 205 เอ้าเค้าปิดราคามาผิด ซวยเลย ไหนๆซื้อไปแล้วก็ใช้ มันจะเป็นน้ำมันที่โดนน้ำแล้วจะเป็นครีมนมแบบเจือจาง(ห้าๆ) ก็จะชะโลมหน้าแล้วตามน้ำไป แต่อันนี้ก็สะอาดใช้ได้ มันใช้ล้างเครื่องสำอางได้เลย คงคล้าย DHC แต่อันนั้นแพงไม่มีปัญญาใช้ เลยใช้อันนี้ไป ก็สะอาดใช้ได้ล่ะ 4.อีกตัวนี้จะเป็นเพียวแอนด์มาย อันนี้ก็ประมาณ 120 บาทเป็นน้ำมันใช้ล้างหน้าได้ แต่สรรพคุณเค้าบอกว่าใช้นวดให้สิวเสี้ยนหลุดก็ใช้บ้าง นานๆครั้งนวดๆไปก็รู้สึกว่าสิวอุดตันหลุดออกมาเยอะ แต่ต้องตั้งใจนวดหน่อยต้องนวดนานๆด้วย บางทีขี้เกียจก็จะไม่ใช้ หลังการล้างเครื่องสำอางก็ถึงขั้นการชำระล้าง ปกติก็ใช้โฟมตัวเดียวนะแหละ ตอนนี้เห่อ missha ก็ใช้สูตรกรีนที ตัวนี้ถูกสุดและ 320 บาทมั้ง ใช้ดีป้องกันสิวด้วย แต่ก็ยังเป็นสิว(เพราะสกปรก?) ห้าๆ น่ะก็เดี๋ยวจะลองขยับไปใช้ตัวอื่นๆ ถ้าเงินอำนวย ล้างหน้าเสร็จก็ตามด้วยโทนเนอร์ จะใช้ของ กรีนทีสูตรเดียวกันน่ะแหละ กลิ่นจะออกแนวยาชาเขียวหน่อย แต่กันสิวดี สะอาดใช้ได้ รูปทรงก็แปลกๆดี ขั้นต่อไปก็เป็นการบำรุงตอนนี้จะใช้พวกหลอดเล็กๆลองๆเทสๆไปเรื่อย จะมีของเพียวแอนด์มายแล้วก็พริมโรสอี บวกกะครีมอิลมัลชั่นของโพลาและของเทสเตอร์ต่างๆนานาๆ ตอนนี้ซาจิ๊บกำลังใช้ของmissha เราก็เลยได้อานิสงของแถมมาลองใช้ มันดีจริงๆนะครับท่าน   Create Date : 20 เมษายน 2550     Last Update : 20 เมษายน 2550 18:26:03 น. Counter : 229 Pageviews.   2 comment Share Tweet

ขอแต่งหน้าบ้างเหอะ เห็นชาวบ้านหน้าใสกิ๊งไอ้เราก็อดรนทนมิได้ อยากล๊องอยากลอง!!! จะว่าไปเพราะได้เข้ามาในห้องลุมพินีของพี่น้องพันทิพย์นี่ล่ะ เลยเกิดกิเลสอยากลองจนไม่สามารถหยุดยั้งได้แล้ว จะออกมาลิเกหรือสวยธรรมชาติ(ลงโทษ)ก็คงต้องลองดูอีกทีนิ ข้อมูลที่ได้มาจากพันทิพย์มากมายก่ายกอง ก่อนจะริอาจแต่งหน้า สมควรมีสกินแคร์ที่ดูแลหน้าได้ดีซะก่อน สมควรเลือกให้เหมาะสมกับสภาพผิวหน้า บางคนใช้ตัวนึงถูกแต่อาจจะไม่เวิคร์กับอีกคน เรื่องนี้คงวัดไม่ได้จากว่าใครใช้แล้วดีจะใช้ตามเค้านะเจ้าคะ ทางที่ดีก็ควรจะซื้อมาแล้วทดสอบดู โดยทดสอบอาการแพ้เริ่มต้นก็ทดสอบโดยทาทิ้งไว้ตรงผิวที่อ่อนไหวที่ซู๊ด(อย่าคิดไปไกล....ทะลึ่ง!!!) ใต้ท้องแขนท้องขานั่นไง ลองทดสอบทาดู ถ้าไม่เห่อคันขะเยอหรือปวดแสบปวดร้อนรวดร้าวก็เป็นอันว่าโอเช แต่บางกรณีถ้าผ่านขั้นท้องแขนแล้ว เริ่มใช้กะหน้าไปพักนึงแล้วมันดันเป็นสิวก็ให้ลองหยุดพักเว้นวรรคสักครู่ ถ้าสิวหายก็แสดงได้ว่ามันไม่แมทกะผิวหน้าเราจริงๆ อาจจะนำมาประยุกต์ใช้กับแขนขาต่อไปได้ หรือไม่ก็นำไปบริจาคให้เพื่อนพ้องพี่น้องต่อไป ในบางกรณีที่สินค้าที่เราอยากใช้มันราคาแพงสูงระยิบก็ขอแนะนำให้หาซื้อเซตเล็กๆมาลองใช้ดูก่อน เผื่อเกิดกรณีมิใช่คู่แท้ของหน้าเราจะได้บอกลากันง่ายๆหน่อยไม่รู้สึกเจ็บช้ำน้ำใจมากจ๊ะ ต่อมาก็เป็นขั้นตอนของการเริ่มเลือกอุปกรณ์และเครื่องสำอางสำหรับประทินโฉมหรือโบ๊ะให้เริ่ดๆเชิดๆกันเด้อคะเด้อ เราเองก็เป็นมือใหม่ เพิ่งลองยังไม่รู้อะไรมากหรอก(ยังเสร่อมาพูอีกคิดดูเอา) แต่จากข้อมูลที่ได้ประมวลมาก็พอจะสรุปได้สำหรับมือใหม่ด้วยกันดังนี้ ว่าด้วยเรื่องของ make up base หลังจากบำรุ๊งบำรุงหน้าแล้ว ก่อนจะแต่งหน้าก็สมควรจะทากันแดดไว้ เป็นอันรู้กันว่าบ้านเรามันเป็นเช่นไรนะคะพี่น้อง ถ้าจะพูดถึงขั้นตอนต่อจากการปกป้องแล้ว ก็คงเป็นการปรับสภาพพื้นผิว ก่อนราดคอนกรีต (นี่หน้าคนนะ!!!) แต่ละคนมีผิวหน้าไม่เหมือนกัน ดังนั้นเราก็ควรปรับสภาพให้มันเรียบเนียนและอำพรางจุดบกพร่องให้สิ้นซาก สิ่งที่ขอแนะนำ ก็คือ make up base ตัวนี้มันคืออะไร แต่ก่อนก็ไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไร ปัจจุบันก็ไม่ค่อยเกทนัก(จะพูดทำเพื่อ?) แต่รู้สึกจะเป็นคล้ายๆผู้ช่วยรองพื้น ปรับสภาพผิวให้มีสีกลมกลืนเสมอภาคกัน คือดำก็ดำให้หมด เฮ้ยไม่ใช่ เท่าที่ลองใช้ดูก็จะช่วยพรางพวกร่องรอยสิวและรูขุมขนให้มันเนียนขึ้นนะ เคยเห็นพวก นางแบบเกาหลีใช่มะๆ เบสบางตัวก็จะมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความกระจ่างใสให้หน้ากิ๊งแบบนั้นแหละ ส่วนมากเบสที่มีสีแปลกๆ เช่นเขียว ม่วง (เคยคิดว่าทาไปแล้วหน้าจะเขียว จะม่วงไปเลยมั้ยน่ะ)ก็จะมีคุณสมบัติในการปกปิดต่างกันไป เช่นสีเขียวปกปิดรอยแดงจ้ำที่เกิดจากสิวหรือสภาพผิว สีม่วงใช้สำหรับปรับสีผิวด่างดำให้กลมกลืน อันนี้ก็ไม่มีคำแนะนำมากมายนะจ๊ะ บางคนจะใช้เบสปกปิดเป็นบางส่วนก่อนการรองพื้น แต่ในกรณีของเราใช้ทาทั้งหน้าแทนรองพื้นอ่ะ ออกมาก็ดีนะ ผ่องดี แต่การใช้ก็ต้องอยู่ในปริมาณที่พอเหมาะและการเกลี่ยที่สมดุล เพราะถ้าโบ๊ะมากไปจะกลายเป็นผีจูออนได้ จะหาว่าไม่เตือนเหอๆ make up base ขอแนะนำ 1. Missha แบรนด์นี้ มีเบสให้เลือกมากมายหลากหลาย ราคาย่อมเยาว์ ตัวธรรมดาไม่มีบำรุง ราคา 320 -350 บาท รุ่น DSW เป็นหลอดแบนสีเขียวอันนี้เราก็ใช้ จะมีตัวบำรุงคล้ายๆสารอะไรจากท้องทะเลลึก(เกลือ!!!) ก็โอเคนะ ถอยมาในราคา 467 จริงๆราคาเต็ม 550 แต่ช่วงนั้น เค้าลด 15% อ่ะ แล้วก็อีกตระกูลเป็น WS เป็นตระกูลน้องกุหลาบเอ้ยน้ำกุหลาบ สูตรนี้อ่อนโยนสำหรับผิวแพ้ง่าย ขวดสีชมพู อันนี้ก็ราคา 550 บาท อีกรุ่นเป็นเบสประเภทผสมครีมกันแดดและอะไรต่อมิอะไรมากมาย ตกลงเบสหรือครีมบำรุง(ป่อย) อันนี้ก็จะราคา 750-1000 กว่าๆ ใครสนใจก็เลือกใช้กันได้นะ 2.อันนี้น่าจะเป็นเบสได้รึป่าวหว่า ก็ครีมกันแดดของบิโอเรอ่ะขวดสีขาว เห็นว่ามีส่วนผสมของเบสสำหรับหน้ากระจ่างใส ไม่เคยใช้อ่ะแต่เคยเห็นคนแนะนำ อันนี้คุ้มดีได้ทั้งกันแดดด้วย ราคาก็ย่อมเยาดีแท้ 300กว่าๆนะ แล้วแต่ที่จะทุบราคาขาย หาได้ในซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไป 3.ครีมกันแดดของ ไมนัสออยซัน สีเนื้อ(ivory)ถ้าเป็นสีขาวไม่แน่ใจว่ามันจะเหมือนมั้ย ตอนแรกเราไม่รู้จักเบสเราคิดว่าไอ้ครีมกันแดดตัวนี้มันคล้ายรองพื้น แต่คิดว่าคงเป็นเบสสีเนื้อมากกว่า เราใช้ตัวนี้มานานแล้ว ราคาช่วงลดก็ประมาณ 180 แต่ราคาที่เราซื้อปกติจะ 220 บาท รับรองทาแล้วกิ๊ง(ถ้าไม่แพ้นะ) แต่ต้องเกลี่ยดีๆหน่อยล่ะ ไม่งั้นวอกเป็นหย่อมๆ 4.เมเบอรีล หลอดเขียวๆอันนี้ก็เริดนะ หน้าผ่องมากจนเว่อร์ไปนิดๆแต่ก็โอเคอ่ะขาวดี ส่วนมากจะเป็นสีเนื้อซะส่วนใหญ่ มีหลายเบอร์คงต้องเลือกดูเอานะ ราคาก็ประมาณ 350 กว่าๆถ้าจำไม่ผิด แป้งสำหรับกลบเกลื่อน ของเรานี่ไม่ชอบแป้งพัพผสมรองพื้นเพราะ ทาไม่เป็น ป่อยยยยยยย เราจะเป็นคนมีซาลาเปาสองลูกบนหน้า เวลายิ้มจะเกิดร่องน้ำลึกรอบปากที่น่าเกลียดมากๆ ก็เลยทาแป้งพัพแป้งเค้กแล้วไม่ประสบความสำเร็จกับชีวิตเลย จึงหันมานิยมชมชอบกะแป้งฝุ่น ซึ่งแป้งพวกนี้ก็จะมีข้อดีคือบางเบาเป็นธรรมชาติ ข้อเสียคือจืดจางตามกาลเวลาได้ง่าย แต่เราก็ยังจงรักภักดีกับแป้งฝุ่นต่อไป มันสบายหน้าดีอ่ะ แป้งฝุ่นที่เคยๆใช้มานะ 1.คิวเพลซไอวอรี่ ก็ดีนะแต่รู้สึกมันจะเป็นก้อนง่ายไม่ค่อยเรียบเนียนไปกะผิว คืออณูเนื้อแป้งยังไม่ละเอียดพอเลยไม่กลมกลืนไปกับผิวมั้ง แต่ก็พอใช้ได้ราคาจำไม่ได้ แต่ไม่เกิน 200 หรอก ถ้าเป็นสมาชิกซื้อวันพุธที่2-3ของเดือน ลด 20% แต่ถ้าปกติสมาชิก็ 15% นี่ล่ะ บางทีซื้อ 1ตัวอีก1ตัวครึ่งราคา (ขยันขายจริงๆ) 2.POLA แป้งใยไหม อันนี้ก็ใช้ปัจจุบัน ชอบ เนื้อละเอียด ตบนิดหน่อยก็โอเช แป้งละเอียดบางเบาพอสมควร เคยใช้ของแม่เลยซื้อมาใช้บ้าง กระปุกจะใหญ่อลังและดูลิเกนิดๆ ราคา 800 กว่าบาทแต่ถ้ารีฟิลจะประมาณ 500 กว่าบาทนะ ตัวนี้ก็โอเคแต่คนคงไม่ค่อยรู้จักกันอ่ะ กล่องด้านนอกลิเกอลัง แป้งด้านใน ใช้มาจะปีและไม่หมดง่ายๆ 3.Tell me ใช้ดีจึงบอกเพื่อน ตัวนี้เป็นแป้งฝุ่นกระปุกเล็กๆ ใช้ต่อมาจากแม่ ก็ดีอ่ะ เนื้อละเอียด ใช้ได้แต่หมดไปแล้วไม่ได้ซื้อต่อเลยไม่รู้ราคาเท่าไร 4.พวกแป้งวิ๊งๆของเด็กเอาะๆ ก็พวกจอนสัน พอนด์ นาทรีฟ พวกนี้ก็โอเคนะ ราคาก็ไม่แพงมาก กระปุกเล็กก็ราวๆ 20-25 บาท เคยไปลองเทสนาทรีฟมา ก็ออกสีเนื้อๆ ทาแล้วเนียนดีแต่จะไม่คอยเบาเพราะคิดว่าเม็ดแป้งคงใหญ่ แต่ก็โอเคใช้ได้ในวันที่อยากแต่งหน้าสบายๆชิวๆ แต่งตาให้เริดสยบทุกสิ่ง หน้าเรียบแป้งปกปิด ต่อมาก็ถึงการลงสี ส่วนที่เราให้ความสำคัญที่สุดก็คือดวงตา ว้าว!! จะชอบเวลาลงสีที่ตาเป็นพิเศษเลยอ่ะ แบบมันมีหลายสีสวยๆแต้มปาดไม่ยากหรอก หาโทนสีที่มันกลมกลืนกันก็พอ เราจะชอบโทนสี ส้มทอง แล้วก็ชมพู สีฟ้ากะเขียวก็อยากลองใช้นะ แต่เราใช้แล้วมันดูเว่อร์เลยไม่ค่อยได้ใช้ แต่ก็จะแอบหยิบมาใช้บ่อยๆแอบทาตรงเปลือกตาด้านในที่มันพับๆไม่ค่อยเห็นสี(แล้วจะทาทำเพื่อ...สนองกิเลสไงห้าๆ) สีโทนนี้จะเหมาะกะสาวๆหมวยๆ อีถึกอย่างเราคงไม่เวิคร์ (แต่ก็อยากใช้ งี๊ดๆ) อันนี้คงไม่มีตัวไหนแนะนำ คนส่วนมากจะแนะนำให้ใช้แบบที่ราคาแพงๆหน่อยยี่ห้อดีๆเพราะมันอยู่ชิดกะตา จริงๆพวกอายชาวโดว์เนี้ยมันมีหลายราคามากมายนะ แบบข้างถนน10-20 บาทก็มี แล้วก็พวกแอนนาซุยหรือชาแนลที่ขายข้างถนนก็ยังมีแต่เราไม่ได้ซื้ออ่ะกลัวแพงและไม่ชัวร์ แต่ครั้นจะไปใช้พวกยี่ห้อแบบนี้ก็ไม่มีปัญญา มันแพง เราเลยสตาร์ทที่นี่เลย ร้านคอสเมดา(ร้านที่แบบว่าเปิดเพลงแดนซ์ๆกระจาย) ร้านพวกนี้จะมีอยู่ที่ไหนบ้างหว่า อืมที่เราไปซื้อบ่อยๆก็ อนุเสาวรีย์ฝั่งแฟชั่นมอลชั้นล่างข้างๆบันไดเลื่อน แล้วก็มาบุญคลองชั้นเดียวกะ ทางเชื่อม BTS เดินเข้าไปลึกๆหน่อยก็จะเจออ่ะ มีอายแชโดว์และบรัชออนครบครันเลยล่ะ ราคาก็มีหลายเกรด แต่คิดว่ามันคุณภาพก็โอเคนะ เราใช้อายแชโดวของที่นี่ 79 หรือ 89 นี่ล่ะ ลองใช้ดูของถูก แต่ไม่มีปัญหาแพ้อะไรนะ เพียงแค่เวลาล้างหน้าพยายามล้างให้สะอาดๆก็พออ่ะ ไม่งั้นของถูกของแพงก็คงทำตาเยินได้ หลังจากการทาสีจนสาแก่ใจสิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือขนตา เราจะชอบมากๆเลยหุๆ การปัดมาสคาร่า มันจะแบบอัศจรรย์อ่ะขนตายาวขึ้น พอดัดแล้วงอน (ชาวบ้านเค้าว่า มันก็ธรรมดานี่ยะ) คือเคยใช้รุ่นที่ธรรมดาๆแล้วมันก็แค่ดำขึ้น แต่พอลองใช้รุ่นที่แบบมีต่อขนตาแล้วแบบมันเดิ้น!!! ยาวๆงอนๆพอดัดน่ะหู้ยแทบงอทะลุเปลือกตาบน ชอบมากๆ ขนตานี่สำคัญนะทำให้ตาสวยและหวานจะแบบเออทำหน้าตาให้ดูน่ารักขึ้นมาได้เลยล่ะ อยากลองติดขนตาปลอม แต่ว่าไม่สามารถกลัวกาวกะขนตาจริงๆจะหลุดไปด้วยกัน ยิ่งกว่าบวชชีซะอีก รุ่นที่ใช้อยู่ของเจทเซตราคาถูกย่อมเยาว์ และขนยาวไม่แพนด้านะ หลุดออกมาก็จะเป็นเส้นๆไม่เลอะเทอะขอแนะนำ จริงๆแต่งตาที่สำคัญอีกอย่างก็คืออายไลน์เนอร์ อันนี้เห็นพี่น้องสาวๆสวยๆมั่นๆเค้าใช้กัน เขียนแล้วมันจะเท่ห์และเฉี่ยวน่ะ คนที่กรีดเลิศๆจะดูดีมากๆเลย แต่เราไม่สามารถเลยเว้นวรรคไว้เพียงเท่านี้ ตอนนี้ก็จะแค่ทาอายชาวโดว์และปัดมาสคาร่าบ้างเท่านั้นเอง แก้มสาวระเรื่อๆพอเป็นพิธี เคยไปใช้บรัชออนของจีโนที่ขายในคอสเมด้า เราไม่ชอบอ่ะสีมันแรดดี แต่แดงไป เหมือนก้นลิงจ๋อ เราเลยใช้ของ IN2IT ที่ถอยมาตัวแรกเป็นประจำสีมันจะออกครีมๆหน่อย ปกติหน้าเราจะแดงฉานราวกะโดนตบอยู่แล้วเลยอยากใช้สีนวลๆแบบผสมขาวๆเอามากกว่า การปัดก็ไม่มีไรเลยปัดไปเรื่อยๆจนได้สีพอใจ แล้วก็จบมันก็จะเลือนหายไประหว่างวันตามประสา แต่เราคิดว่าสีแก้มมีนิดๆหน่อยก็โอแล้วล่ะ ปัดมากไปมันจะเหมือนโดนตบ เคยโดนปัดแบบนั้นตอนรับปริญญาถ่ายรูปมาราวกะโดนตบ เลยเข็ด พยายามคุมโทนอ่อนๆไว้ จะได้เบรกอายุได้ด้วยห้าๆ ปากที่ใช้กินอย่างหนักหน่วง เราจะไม่ค่อยทาลิปนะเพราะเราไม่ชอบกินรสลิป ปากจะกินของตลอดเวลาไม่หยุดไง ที่เคยใช้ก็จะมีแต่พวกกรอสมัน ใช้ของแชปสีฟ้ากันแดดด้วย ไม่รู้กันได้แค่ไหน แต่รสมันคล้ายๆวานิลลาก็เลยชอบ มีมิสทีนของจิ๊บบี้ไม่ใช้เลยให้มา ก็สีโอเคนะ ชมพูมุขๆแต่กลิ่น(น้ำหอม)แรงไม่รู้จะใช้หมดมั้ย ปกติไม่ทาปากก็แค่ลิปมันนี่ล่ะต่อวัน เท่านี้ก็พอแล้ว   Create Date : 14 มีนาคม 2550     Last Update : 14 มีนาคม 2550 9:44:52 น. Counter : 1382 Pageviews.   4 comment Share Tweet

• Alway366::ชีวิตเป็นประจำถ้าขยันเขียน
• BlueComment:: หนังเพลงหนังสืออยากแนะนำ
• MakeUp:: อยากสวยเกิดใหม่ก็ช่วยไม่ได้
• MyBoom ::เรื่องที่กำลังอิน
• PicOnMem :: รูปหลอนถ่ายติด(ได้ไง)วิญญาณ

• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com