ประวัติและตำนานการเปิดกรุ
ประวัติและตำนานการเปิดกรุ

พระเครื่องสกุลพระกำแพงทุ่งเศรษฐีมีตำนานชัดเจนกรุและปีที่สร้าง ได้พบจารึกบนแผ่นลานเงินในกรุขณะรื้อพระเจดีย์องค์ใหญ่ของวัดพระบรมธาตุ เมืองนครชุมเหตุการณ์ที่ค้นพบพระเครื่องเป็นจำนวนมากนี้ มีบันทึกประวัติไว้ว่า

เมื่อปีระกา จุลศักราช ๑๒๑๑ (ตรงกับพ.ศ. ๒๓๙๒) สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆังฯได้ขึ้นมาเยี่ยมญาติที่เมืองกำแพงเพชรได้อ่านศิลาจารึกอักษรไทยโบราณมีอยู่ที่วัดเสด็จฝั่งเมืองกำแพงเพชร ได้ความว่ามีพระเจดีย์โบราณบรรจุพระบรมธาตุของพระพุทธเจ้า อยู่ริมลำน้ำปิงฝั่งตะวันตก ๓ องค์ชำรุดทั้งหมด พระยากำแพง (น้อย)เป็นเจ้าเมืองในขณะนั้น ได้ทำการค้นหาจนพบพระเจดีย์ทั้ง ๓ องค์ตามที่ปรากฏในศิลาจารึก พระเจดีย์องค์กลางใหญ่สุด ซึ่งบรรจุพระบรมธาตุ ขณะรื้อพระเจดีย์ทั้ง ๓ องค์นั้น ได้พบกรุพระพิมพ์สกุลทุ่งเศรษฐีแบบต่างๆจำนวนมาก ภายในกรุพบแผ่นลานเงินจารึกภาษาขอม กล่าวถึงตำนานการสร้างพระพิมพ์และวิธีการสักการบูชาพร้อมลำดับอุปเท่ห์ไว้พระพิมพ์ที่ได้จากกรุนี้คือ พระกำแพงพลูจีบ พระกำแพงเม็ดขนุน พระกำแพงซุ้มกอ พระกำแพงเปิดโลก (เม็ดทองหลาง) พระเกสรว่านหน้าเงินหน้าทองพระเม็ดน้อยหน่าพระนางกำแพง ฯลฯ ตำนานจารึกบนแผ่นลานเงินได้คัดจากสำเนาเดิมดังนี้ณตำบลเมืองพิษณุโลก เมืองกำแพงเพชร เมืองกำแพงเพชร เมือพิชัย เมืองพิจิตรเมืองสุพรรณ ว่ามีฤาษี ๑๑ ตน ฤาษีเป็นใหญ่ ๓ ตนฤาษีพิราลัยตนหนึ่ง ฤาษีตาไฟตนหนึ่งฤาษีตาวัวตนหนึ่ง เป็นประธานแก่ฤาษีทั้งหลาย จึงปรึกษากันว่าเราทั้งนี้จะเอาอันใดให้แก่พระยาศรีธรรมาโศกราช ฤาษีทั้ง ๓ จึงปรึกษาแก่ฤาษีทั้งปวงว่าเราจะทำด้วยฤทธ์ ทำเครื่องประดิษฐานเงินทองไว้ฉะนี้ฉลองพระองค์จึงทำเป็นเมฆพัตร อุทุมพรเป็นมฤตย์พิศม์ อายุวัฒนะ พระฤาษีประดิษฐานไว้ในถ้ำเหวใหญ่น้อย เป็นอานุภาพแก่มนุษย์ทั้งหลาย สมณชีพราหมณาจารย์ไปถ้วน ๕,๐๐๐ พรรษา พระฤาษีตนหนึ่งจึงว่าแก่ฤาษีทั้งปวงว่าท่านจงไปเอาว่านทั้งหลายอันมีฤทธิ์เอามาให้ได้ ๑,๐๐๐เก็บเอาเกสรดอกไม้อันวิเศษที่มีกฤษณาเป็นอาทิให้ได้สัก ๑,๐๐๐ครั้นเสร็จแล้วฤาษีจึงป่าวร้องเทวดาทั้งปวงให้มาช่วยบดยาทำเป็นพระพิมพ์ไว้สถานหนึ่ง ทำเป็นเมฆพัตรสถานหนึ่ง ฤาษีทั้ง ๓ ตนนั้น จึงบังคับฤาษีทั้งปวงให้เอาว่านทำเป็นผงปั้นเป็นก้อนถ้าผู้ใดได้ถวายพระพรแล้ว จึงเอาไว้ใช้ตามอานุภาพเถิด ให้ระลึกถึงพระฤาษีที่ทำไว้นั้นเถิด


จดหมายเหตุ

ในพระราชนิพนธ์เรื่องเสด็จประพาสเมืองกำแพงเพชรของพระพุทธเจ้าหลวงรัชกาลที่ ๕ ในปี ๒๔๔๙ ได้คัดมาโดยย่อว่านายชิดมหาดเล็กวรเดช เดิมรับราชการในกระทรวงมหาไทย ลาป่วยได้ขึ้นมารักษาตัวที่บ้านภรรยาเมืองกำแพงเพชรในปีนั้น ได้ทูลเกล้าถวายตำนานพระกำแพงทุ่งเศรษฐีเป็นจารึกบนแผ่นลานทองแต่รัชกาลที่ ๕ นายชิดกล่าวว่าแผ่นลานทองไม่พบในกรุวัดพระบรมธาตุ ขุดได้เฉพาะในบริเวณทุ่งเศรษฐีเท่านั้นการพบกรุพระครั้งแรกที่วัดพระบรมธาตุนครชุมในปี พ.ศ.๒๓๙๒ แล้ว พระเจดีย์ทั้ง ๓องค์ได้ถูกซ่อมขึ้นรวมเป็นองค์เดียวกัน โดยชาวพม่าชื่อ พญาตะก่า แต่ไม่แล้วเสร็จเศรษฐีป่าไม้ชาวพม่าชื่อ พะโป๊ะ ได้บูรณะต่อมาจนเสร็จบริบูรณ์ แล้วสั่งยอดฉัตรจากประเทศพม่ามาประดับยอดพระบรมธาตุ ในปัจจุบันพระบรมธาตุเจดีย์องค์นี้มีรูปแบบศิลปะพม่า นายชิดมหาดเล็กได้บันทึกไว้ว่า หลังจากพบพระพิมพ์ครั้งแรกที่เจดีย์วัดพระบรมธาตุแล้วต่อมาชาวบ้านได้ทำการขุดค้นเจดีย์น้อยใหญ่ในบริเวณลานทุ่งเศรษฐีได้พระพิมพ์แบบต่างๆ จำนวนมาก พระพิมพ์เมืองกำแพงเพชรนี้ก่อนชาวบ้านนิยมนับถือกันมาช้านานแล้วว่ามีอานุภาพมากผู้ใดมีไว้จะทำการสิ่งใดก็มีความสำเร็จผลตามความปรารถนาทุกประการรูปแบบพระพิมพ์เหล่านี้มีผู้ได้พบแล้วมีอยู่ ๓ แบบคือ พระยืนอย่าง ๑ พระลีลาอย่าง ๑ พระนั่งอย่าง ๑ พระเกสรว่านอย่าง ๑พระพิมพ์เหล่านี้เหมือนกับที่ชาวบ้านได้พบครั้งแรกในเจดีย์พระบรมธาตุทุกอย่างนายชิดได้ทูลเกล้าถวายพระพิมพ์สกุลทุ่งเศรษฐีหลายแบบพร้อมด้วยแม่พิมพ์พระและสำเนาตำนานจารึกแผ่นลานเงินของพระพิมพ์สกุลทุ่งเศรษฐีแต่สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวด้วย(พระพิมพ์กรุนี้รัชกาลที่ ๕ ได้นำออกแจกจ่ายแก่พระบรมวงศ์ศานุวงศ์ข้าราชการมหาดเล็กที่ติดตามเสด็จในครั้งนั้นโดยทั่วกัน )พระเครื่องหรือพระพิมพ์สกุลทุ่งเศรษฐี มีศิลปะสมัยสุโขทัยที่งดงามมากอาณาจักรสุโขทัยรับคติพุทธศาสนาแบบลังกาวงศ์พระพุทธรูปและพระพิมพ์ได้รับแบบจากศิลปะลังกาด้วย โดยเฉพาะพระซุ้มกอถอดแบบจากพระพุทธรูปศิลปะลังกาในสมัยอนุราชปุระความสำคัญของพระเจดีย์พระบรมธาตุเมืองนครชุมนี้ เป็นพระสถูปเจดีย์สำคัญและเป็นประธานของกลุ่มพระเจดีย์ในเมืองนครชุมรวมถึงในบริเวณลานทุ่งเศรษฐีด้วย เพราะได้บอกเรื่องราวของพระมหาธรรมราชาลิไทกษัตริย์องค์ที่๕ ของกรุงสุโขทัย ทรงสถาปนาพระสถูปนี้และการรับพระพุทธศาสนาแบบลังกาวงศ์ พระบรมธาตุ ต้นศรีมหาโพธิ์เข้ามาประดิษฐานในเมืองกำแพงเพชรพระพิมพ์สกุลทุ่งเศรษฐีนี้สร้างขึ้นโดยพิธีกรรมของกษัตริย์บ่งบอกถึงศิลปะอันรุ่งเรืองของสมัยสุโขทัยที่สมเด็จพระมหาธรรมราชาลิไทสร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๑๙๐๐ รัชกาลของพระเจ้าลิไททรงครองราชย์ในปี พ.ศ.๑๘๙๐ – ๑๙๐๙


คำอ่านศิลาจารึกนครชุม หลักที่ ๓


ศักราชที่ ๑๒๗๙ ปีระกาเดือนแปด ออกห้าค่ำ วันศุกร์ หนไทยกัดเราบูรพผลคุณินักษัตรเมื่อยามวันสถาปนานั้น เป็นหกค่ำแล้ว พระยาฦาไทยราชผู้เป็นลูกพระยาเลอไทย เป็นหลานแก่พระยารามราชเมื่อได้เสวยราชย์ในเมืองศรีสัชนาลัยสุโขทัย

ได้ราชาภิเษก อันฝูงท้าวพระยาทั้งหลายอันเป็นมิตรสหายอันมีในสี่ทิศนี้ แต่งกระยาดงวายของฝากหมากปลาไหว้ อันยัดยัญอภิเษกเป็นท้าวพระยา จึงขึ้นชื่อศรีสุริยพงษ์มหาธรรมราชาธิราชหากเอาพระศรีรัตนมหาธาตุอันนี้มาสถาปนาในเมืองนครชุมนี้ปีนั้นพระมหาธาตุนี้ใช่ธาตุอันสามานย์คือพระธาตุแท้จริงแล้วเอาลุกแต่ลังกาทวีปพู้นมาดายเอาทั้งพืชพระมหาโพธิอันพระพุทธเจ้าเราเสด็จอยู่ใต้ต้น และ ผจญพลขุนมาราธิราชได้ปราบแก่สัพพัญญุตาญาณเป็นพระพุทธเจ้า มาปลูกเบื้องหลังพระมหาธาตุนี้ ผิผู้ใดได้ไหว้นพกระทำบูชาพระศรีรัตนมหาธาตุและพระศรีมหาโพธิ์นี้ว่าไซร้มีผลอานิสงส์พร่ำเสมอดังได้นพตนพระเจ้าบ้าง

ฯลฯ

ตำนานบนแผ่นลานเงินได้บอกวิธีสำหรับอาราธนาพระกำแพงทุ่งเศรษฐี ดังนี้

ถ้าผู้ใดได้ไหว้ให้ถวายพระพร แล้วจึงเอาไว้ใช้ตามอานุภาพ ให้ระลึกถึงคุณพระฤาษีที่ทำไว้นั้นเถิดฤาษีได้อุปเท่ห์ไว้ดังนี้

แม้อันตรายสักเท่าใดก็ดีให้นิมนต์พระใส่ศีรษะ อันตรายทั้งปวงหายสิ้นแล

ถ้าจะเข้าการรณรงค์สงครามให้เอาพระใส่น้ำมันหอม เข้าด้วยนวหรคุณ แล้วเอาใส่ผม ศักดิ์สิทธิ์ตามปรารถนา

 ถ้าผู้ใดจะประสิทธิ์แก่หอกดาบศาสตราอาวุธทั้งปวงเอาพระสรงน้ำมันหอมแล้วเสกด้วย อิติปิโสภกูราติ เสก ๓ ที ๗ ทีแล้วใส่ขันสำริด พิษฐานตามควาปรารถนาเถิด

ถ้าผู้ใดจะใคร่มาตุคามเอาพระสรงน้ำมันหอม ใส่ใบพลูทาประสิทธิ์แก่คนทั้งหลาย

ถ้าจะสง่าเจรจาให้คนเกรงกลัวเอาพระใส่น้ำมันหอม หุงขี้ผึ้ง เสกด้วย นวหรคุณ ๗ ที

ถ้าจะค้าขายก็ดีไปทางบกทางเรือก็ดี ให้นมัสการด้วยพาหุง แล้วเอาพระสรงน้ำมันหอมเสกด้วยพระพุทธคุณอิติปิโส ภกูราติ เสก ๗ ที ประสิทธิ์แก่คนทั้งหลายแล

ถ้าจะให้สวัสดีสภาพรทุกวันให้เอาดอกไม้ดอกบัวบูชาทุกวัน ถ้าจะปรารถนาอันใดก็ได้ทุกอันแล

ถ้าผู้ใดพบพระเกสรก็ดีพระว่านก็ดี พระปรอทก็ดี (เข้าใจว่าเป็นพระเนื้อชินเข้าปรอท)เหมือนกันอย่าประมาท มีอานุภาพดังกำแพงล้อมกันภัยแก่ผู้นั้น

ถ้าจะให้ความสูญให้เอาพระสรงน้ำมันหอม เอาด้าย ๑๑ เส้น (หมายถึงพระฤาษี๑๑ ตน ) ชุบน้ำมันหอม แล้วทำไส้เทียนตามถวายพระ แล้วพิษฐานตามความปรารถนาเถิด

ถ้าผู้ใดจะสระหัวให้เขียนยันต์ใส่ไส้เทียนเถิด จะประเสริฐแล ฯลฯ





Create Date : 28 สิงหาคม 2557
Last Update : 28 สิงหาคม 2557 10:10:23 น.
Counter : 10839 Pageviews.

1 comments
  
ร้อยป่า ร้อยเรื่องราว หลากเรื่องเล่า //travelpangsida.blogspot.com/2018/01/
โดย: ดอกเข้ม วันที่: 14 สิงหาคม 2566 เวลา:6:04:41 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ดอกเข้ม
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



สิงหาคม 2557

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
29
30
31