Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2563
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
28 พฤษภาคม 2563
 
All Blogs
 
ตอนที่ 5 : ยิ้มยิ้ม เข้ากรุง

         
          ฉัน…เข้ากรุงเทพ ตอนอายุ 18 ย่าง 19  และเช่นเคย พ่อกับแม่เหมารถมาส่งจนถึงที่พักของพี่ชายพี่สะใภ้ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน  ค่ารถเหมาไม่ใช่ถูกๆนะ แต่เอาเถอะ พ่อกับแม่สบายใจ มาดูที่อยู่ที่กิน ฝากฝังให้ถึงมือพี่ๆ ก็พอละ  ห้องเช่าเล็กๆ ห่างจากห้างเซ็นทรัลปิ่นเกล้า เดินเท้าไม่ถึง 10 นาที และพี่สะใภ้พาฉันมาสมัครทำงานที่นี่ ร้านอาหารญี่ปุ่นฟูจิ ในตำแหน่ง พนักงานเสิร์ฟ ที่เดียวกับพี่สะใภ้  ช่วงเช้าก่อนเปิดร้านทุกวัน จะมี morning briefing ยืนเข้าแถวเรียงยาว ผจก.หรือผู้ช่วย ผจก. จะนำ brief พูดคุยปัญหาอุปสรรคในการทำงาน รวมถึงโปรโมชั่นต่างๆ  ช่วงเบรก กินข้าวเสร็จปุ๊บ ก็ต้องเรียนเมนู และท่องจำให้ได้ทั้งชื่อไทยและญี่ปุ่น รวมถึงประโยคง่ายๆ ไว้ทักทายลูกค้า ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ส่วนอีกชั่วโมงที่เหลือ คนอื่นๆ ก็นอน ส่วนฉันเหรอจะนอน ฮ่าๆๆ ไปเดินเล่นตะแลดแต๊ดแต๋สิ ห้างตั้งใหญ่โต มีแต่ของน่าดูน่าชม  
  พี่สะใภ้แสนดีก็เก็บกับข้าวไว้ให้ทุกวันตอนเบรก  อิ่มจะปริทุกวัน  กินเสร็จ ผจก.สวยเซ็กซี่ ขี่มอเตอร์ไซด์มาทำงานอย่างเท่ห์ ให้เงินวันละ 20 บาท ไปหยอดตู้เกมส์ ไม่ได้ไถนะ เขาให้เอง ไม่รู้ทำไม ฮ่าๆๆ26 เดินกลับกับพี่สะใภ้ทุกวันเพราะเข้ากะเดียวกัน  พี่สะใภ้ใจดีมาก ดูแลฉันเหมือนเป็นน้องแท้ๆ  เห็นฉันกำลังปัดกวาดเช็ดถู นู่นนี่นั่น เขาจะเข้ามาขวาง มาแย่งทำตลอด ผิดกับตาพี่ชาย สั่งนู่นนี่นั่นยังกะฉันนี้เป็นคนใช้  พร้อมกับฝังหัวฉันทุกวันด้วยประโยคเด็ด  
     
           87 “อยู่บ้านท่าน อย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควาย ให้ลูกท่านเล่น” 
 89

แม่มมมม พ่อคุณเอ๊ย  มีแต่คนที่ชอบดูถูกคนเท่านั้น ที่จะพูดคำนี้กับฉันได้  ที่ฉันทำให้ทุกวันนี้เพราะจิตใต้สำนึกมันบอกว่าต้องทำอย่างเต็มใจ  ไม่ใช่เพราะคำที่แกฝังหัวให้หรอก อย่าเข้าใจผิด…ชิชะๆ  และฉันไม่ได้อยู่ฟรีนะจ๊ะ ค่าห้องก็ช่วยหาร กับข้าวกับปลาก็ซื้อมาแบ่งปันตลอด …. อย่ามาพูดมากเชียว
              
             วันนี้มีเชฟหนุ่ม ครัวร้อนเดินกลับด้วย เขาพักอยู่อพาร์ตเม้น หลังข้างหน้าห้องเรา เป็นตึกใหญ่ ค่าเช่าแพงด้วย  มารู้อีกทีว่าเขาอยู่ฟรี เพราะเขาเป็นหลานเจ้าของอพาร์ตเม้น  อืม ดีจังเนาะ  จากนั้น เขาก็เดินกลับห้องพร้อมฉันทุกวัน ถึงแม้บางวันพี่สะใภ้จะเลิกงานก่อน เขาก็ยังคงรอฉัน บอกเป็นห่วงไม่อยากให้เดินคนเดียว
               
            “ยิ้มยิ้ม ได้ยินว่าพรุ่งนี้หยุดเหรอ พี่ก็หยุด เราไปขี่รถเล่นกันไหม”     หือออ ได้ยินไม่ผิดใช่ไหมเนี่ย  จะไปขี่รถเล่นเหรอ เอาสิ ดีๆๆๆ ฉันยังไม่ได้ตระเวนรอบๆกรุงเทพเลย ได้แต่ตื่นก็ทำงาน เย็นก็กลับห้อง หยุดก็ทำงานบ้าน เดินเล่นไกลสุดก็เมเจอร์ปิ่นเกล้า เพราะตรงข้ามที่ทำงาน หาไรกิน ตกเย็นกลับห้อง แค่นั้นเอง
          
             มอเตอร์ไซด์ บิ๊กไบ๊ท์ อย่างเท่ห์ สีดำล้วน  คงแพงมากแน่ๆ จอดอยู่หน้าห้องฉัน คู่กับชายหนุ่มหน้าตาดี สูงสมส่วน ขาวตี๋หนวดหลอมแหลม ครั้งแรกที่ได้จ้องใกล้ๆ พี่เขาตาใสหวานเยิ้มยังกะตาเด็กแรกเกิด  ใส่กางเกงยีนส์ เสื้อยืดสีขาว ยิ่งทำให้ดูขาวจนซีด ครั้งแรกที่เห็นเขาใส่ชุดไพรเวทธรรมดา เปิดแขนเสื้อให้เห็นผิวพรรณที่แท้จริง ปกติเขาใส่ชุดเชฟ ปิดมิดมองไม่เห็นสีผิว  ดูรวมๆโครตหล่อเลย  …ฮ่าๆๆๆ 105  ขี่เที่ยวชมตลาด หลายที่จำชื่อไม่ได้ เพราะทุกที่คือครั้งแรกของฉัน ทุกที่ของที่ขายก็ซ้ำๆกัน ก็ซื้อซะหน่อยละกันนะ ขนมหวาน ทองหยิบทองหยอด กับขนมใส่ไส้ แต่ไม่รู้จะได้กินตอนไหน เพราะยังตะลอนๆ ไม่หยุด แวะสะพานสวยๆ วิวดีหลายที่ ขึ้นสะพานโน้น โผล่สะพานนี้ ก็จำไม่ได้อีกว่าชื่ออะไร  ความจำสั้นเหมือนปลาทองจริงๆฉัน   นั่งรถไป ใจก็นึกฮำเพลงมาเลย   “โอ้โฮ นี่หรือบางกอก ผิดกับบ้านนอกตั้งหลายศอกหลายวา…..” หัวเราะคนเดียวไปเหอะนะ ฉันจำเนื้อไม่ได้ ฮ่าๆๆ…สถานที่สำคัญในหนังสือเรียน ก็พบเจอแล้วนะ สนามหลวง  อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา  วัดพระแก้ว ศาลหลักเมืองกรุงเทพ วัดโพธิ์ …..โหหหหห นี่แค่นั่งรถผ่านๆ ยังรู้สึกขนลุกเลย  เดี๋ยวไว้มีโอกาสค่อยเข้าไปข้างในละกัน  บ่ายกว่าๆเริ่มร้อน ตะลอนไม่ไหว เราตัดสินใจกลับกันดีกว่า  แต่เขาพาแวะไปที่พักเขาก่อน  หอบหิ้วขนมที่ซื้อมานั่นแหล่ะ เอาไปกินด้วย  เขาไปเคาะเรียกพี่ๆน้องๆ ที่อยู่ห้องติดกัน มากินข้าวด้วยกัน แนะนำฉันให้รู้จัก อืม ขาวและหน้าตาดีกันทั้งบ้านเลย ครอบครัวชาวเหนือ  เหมือนฉันเป็นกาในฝูงหงส์ยังไงไม่รู้   ฉันนี้ขาวสุดในครอบครัวแล้วนะ  ภูมิใจในความขาว 22 พี่เขาอยู่คนเดียว ส่วนพี่น้องคนอื่นๆ มีครอบครัวหมดแล้ว ก็คงไม่เหงาหรอก เพราะห้อมล้อมไปด้วยญาติๆเพื่อนๆทั้งน้านนน  ยืนมองจากระเบียงห้องพี่เขา เห็นห้องเช่าที่ฉันอยู่เลยอ่ะ  วิวดีจริงๆ  ถ้าฉันกับพี่ๆ อยากย้ายมาอยู่ที่นี่  พี่เขาจะลดราคาให้เป็นพิเศษ  แหมๆๆๆ ดีๆๆๆ เดี๋ยวลองไปคุยกับพี่ๆดูก่อน เผื่อสนใจ  อยู่สังสรรค์พอหอมปากหอมคอ ฉันขอตัวกลับห้องก่อน  ฝนกำลังตกเดี๋ยวผ้าเปียก   บอกตรงๆ พวกเขาจะมองว่าการมาของฉันเป็นสถานะอะไรฉันไม่ค่อยใส่ใจ เพราะฉันเองยังไม่ได้คิดอะไรเกินเลยมากกว่าเพื่อนร่วมงาน  ยังไม่ปิ๊งปั๊ง  ฟังดูเหมือนจะสวยเลือกได้เนอะ 10 แต่ไม่เลย รู้แค่ว่าเราต่างกันเยอะ    ความรู้สึกล้วนๆ   จากนั้นมา ทุกๆวันหยุด พี่เขาจะขี่มอเตอร์ไซต์พาเที่ยวตลอด และแวะไปนั่งเล่นที่ห้องเขาพร้อมกับญาติพี่น้องเหมือนเดิม  ช่วงหน้าลำไย แม่เขาส่งลำไยมาให้หลายลัง เขามาตั้งโต๊ะขายหน้าอพาร์ตเม้น  ฉันก็ไปช่วยขาย  สนุกดี ขายด้วยกินด้วย  อิ่มท้องไปเลย      

           ฉันเริ่มมองหางานใหม่ที่มีเวลาให้ไปเรียนด้วย  ฉันอยากเรียนต่อ  ตัดสินใจไปสมัครทำงานที่โรงแรมของตาพี่ชาย ซึ่งเขาเป็นหัวหน้า รปภ. อยู่  ได้เวลาบอกลาพี่เชฟหนุ่มหล่อชาวเหนือ   “ถ้ายิ้มยิ้มออก พี่จะออกเหมือนกัน หาอย่างอื่นทำ หรือไม่ก็กลับไปเยี่ยมแม่ที่เหนือ”  อ้าวเป็นงั้นไป  ก็ตามใจพี่ละกัน   ฉันไปทำเป็นแม่บ้านโรงแรม กะว่างานเข้าที่เข้าทางค่อยไปสมัครเรียน  ทำความสะอาดห้องพักแขก  งานจะหนักหน่อยแต่เห็นทิปที่แขกวางไว้ให้ก็ใจชื้นขึ้นมาเลย 
              
           “นาง นาง  วันนี้ได้ทิปเยอะนะ  เห็นแขกยื่นให้หน้าห้องหลายห้องเลย”   เอ๊ะ อีพี่นี่มันรู้ได้ยังไง  อ้อ ลืมไปมันนั่งอยู่ในห้องยามดูกล้องไง ถึงว่า ฉันขยับไปไหน กล้องหน้าคอลิดอร์ส่ายตามตลอด  “ก็พอได้อยู่ เกือบ  2 ร้อย “  ทำหน้าระริกระรี้เลยนะแก   “พี่ยืมสัก 50 ได้ไหม เมียพี่ให้มาน้อยวันนี้ ไม่เหลือให้ซื้อกระทิงแดง เอ็มร้อย เลย”  มามุกนี้ ฉันไม่ต้องหวังเลยว่าจะได้คืน ยืม ก็คือ ลืม จบ  ให้ๆ ไปก็ทำใจแล้ว    แหล่ะ   บางวันบอกเมียลืมให้ตังค์ บ้างก็บอกรีบมาทำงานลืมหยิบตังค์มา สารพัดเหตุผล  รู้ทั้งรู้แต่ก็ให้ และไม่เคยย้อนกลับไปถามพี่สะใภ้ด้วย ว่าจริงไหม ทำได้อย่างเดียวคือ  ทำใจให้ๆจบๆไป   ยิ่งวันไหนฉันเข้ากะดึก ขายถุงยางอนามัยได้กำไรเป็นฟ่อนเลย  อันนี้ไม่ต้องขอ เดี๋ยวแบ่งให้เอง เพราะต้องทำงานเป็นทีม ส่งสัญญาณให้ตาพี่นี่ จับกล้องตามบอกว่าแขกห้องไหนสั่ง ถ้าแขกจะลามกใส่หรือ ยึกยักอะไร นางก็จะรีบ วอ หา ทำเสียงดังหรืออะไรก็ตามสถานการณ์ บางทีนางก็ทำเป็นเดินตรวจตามทางเดินฟลอร์ที่ฉันจะไปขายของ  พอแขกเห็นก็ไม่กล้าจะอะไรละ  เพราะเคยทำคนเดียว เกือบเอาตัวไม่รอด แขกดันลากเข้าห้อง ทั้งๆที่ตัวเองก็หิ้วผู้หญิงขึ้นมาด้วย หนำซ้ำ นั่งแก้ผ้าอล่างฉ่างรออยู่บนเตียง พวกนี้ส่วนมากเป็นชาวต่างชาติ  ถ้าคนไทย จะเขินด้วยซ้ำ รีบก้มหน้าก้มตาจ่ายเงิน ไม่ต่อราคาซักคำ  ทำเงินได้เยอะเชียว ซื้อจาก 7-11 กล่องละ 40-45 บาท ฉันฟาดซะกล่องละ 100 บาท ทนๆ อายพนักงานเซเว่น เพื่อแลกกับกำไรมากกว่าครึ่ง คุ้มจ้าาาา ขยันเปลี่ยนร้าน เปลี่ยนเวลาไปซื้อ ก็พอแก้อายได้บ้าง เห็นสายตาพนักงานมอง ก็เดาออกว่าเขาคิดอะไร  "หญิงสาวอายุ 19 เข้าเซเว่น ซื้อถุงยางอนามัยทุกวัน เขาทำอาชีพอะไรล่ะ หมอนวด หรือเด็กนั่งดริ๊งค์?..." คงจะอะไรประมาณนี้ ช่างเหอะ โนสนโนแคร์ ไม่มีใครรู้จักเรา เท่ากับตัวเราเอง   แขกบางห้องก็ต่อราคา เหลือ 70 มั่ง 80 มั่ง เสียใจค่ะ ไม่ได้เพราะฉันต้องจ่ายค่าคุ้มครองให้ยามด้วย ถ้าไม่ซื้อก็ไม่เป็นไรฉันก็ไม่ขาย…ฮ่าๆๆๆ   แต่ถึงเวลาแบบนั้น ณ ตอนนั้น ก็จำยอมทุกราย  แถมตอนแขกเช็คเอ๊าท์ ใช้ไม่หมด ฉันเก็บมาขายต่อแบบขายปลีกแยกชิ้นๆละ 20- 30- 40 บาท แล้วแต่ยี่ห้อและคุณภาพ  โหหหหหห ฟาดเรียบ!!!!   คิดๆไปก็ขำเองสนุกเอง  นี่ฉันมาถึงจุดนี้แล้วเหรอ……ฮ่าๆๆๆ
                 
             หลังจากคิดทบทวนสักระยะ ว่ามิได้มีสิ่งใดติดค้างพี่ชายและพี่สะใภ้ ก็ตัดสินใจย้ายออกมาเช่าห้องอยู่คนเดียว แถวโพธิ์สามต้น เพราะใกล้โรงเรียนพานิชยการราชดำเนิน เดินแค่ 5 นาที ฉันไปดูลาดเลามาแล้ว  อยากเรียนภาคค่ำที่นี่  สมัครเรียนเรียบร้อย  สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ   ต้องเก็บเงินนะ อยู่ห้องคนเดียวมันสบายดีจริงๆนะ อยากทำอะไรก็ทำ ไม่อยากทำอะไรก็ไม่ต้องทำไม่ต้องเกรงใจใคร  หิวก็กินแค่อิ่ม ไม่ต้องซื้อมาฝากใคร นอนตื่นกี่โมงก็ได้  ชีวิตดี๊ดี
            
          “ HK 5  วอ 15 ที่ล็อบบี้ด่วน”  เสียงวอเรียก ให้ฉันลงไปพบ มีอะไรกันนะ เรียกซะด่วนตกอกตกใจหมด   ลงมาถึงหน้าล็อบบี้    ให้ตายสิโรบิ้น พี่ชายคนโตและพี่สะใภ้ ทั้งหอบทั้งหิ้ว ทั้งจูง ลูกทั้งหมด 4 คน ยืนชะเง้อชะแง้หัวโด่เด่  ฉันรีบลากออกมาคุยหน้าโรงแรม มาขอตังค์ ไม่อยากอยู่กรุงเทพ อยากกลับไปอยู่บ้านพ่อแม่ของเมียที่ใต้ แม่บอกว่าฉันทำงานที่นี่เลยมาขอค่ารถค่าข้าว พอเป็นทุน   
         
           พี่ชายคนนี้ไม่ค่อยได้เจอ ตั้งแต่มันมีลูกคนที่ 2 –3 – 4 ฉันก็ไม่เคยเจอมันอีก เพราะต่างคนต่างต้องทำมาหากิน แต่ก็ได้ข่าวคราวมันบ้าง  พวกมันยืนรอหน้าโรงแรมจนฉันเลิกงาน  พากันขึ้นรถเมล์ไปที่ห้องฉัน ซื้อข้าวซื้อผลไม้ ขนม เข้าไปกินที่ห้อง มีเงินติดตัวอยู่ 500 แบ่งให้พวกมันไป 400 กับนาฬิกาเรือนนึงให้เมียมัน  และเสื้อผ้า 2-3 ตัว เงินเดือนยังไม่ออก มีแค่นี้แหล่ะ ลูกเป็นฝูงแต่ไม่ให้เมียทำงาน ปล่อยมันนั่งเล่นไพ่ไปวันๆ ก็แล้วแต่นะ ถ้าไม่คิดช่วยกันทำมาหากิน เดือดร้อนก็วิ่งขอคนอื่น ใครเขาจะมาคอยช่วยมึงวะ  ส่งครอบครัวนี้ขึ้นรถเมล์กลับไปที่พักของมัน แต่ยังไม่จบ  สิ้นเดือนมันโทรมาขอตังค์อีก  ฉันบอกจะต้องส่งให้พ่อกับแม่  มันบอกไม่ต้องส่งโอนไปให้มันก่อน มันไม่มีตังค์ให้ลูกไปโรงเรียน  อ้าววว แบบนี้เห็นแก่ตัวไปไหม มึงโทรไปบอกพ่อกับแม่สิ ว่าเงินที่กูจะส่งให้เดือนนี้มึงขอก่อนนะ  แม่มมมมๆๆ เกินไปปปปปป    สุดท้ายฉันก็ส่งไปให้พ่อกับแม่  ถ้าแกอยากให้ใครก็ตามใจ ก็ให้กันเอง  ไอ้เรื่องที่มาดักรอเจอที่ทำงาน ที่หน้าหอพัก เป็นฝูงนี่มีครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 อีก ไม่พอ ยังให้ลูกมันโทรมาขอตังค์อีกเรื่อยๆ  จนเมียมันคลอดลูกคนที่ 5 เลิกทำซะนะ อย่าทำอีก อย่ามาวุ่นวายที่ทำงาน กูไม่ชอบจริงๆ   บอกเจ้าพี่นี่เสร็จ ก็โทรไปบอกแม่ด้วย  ถ้าไอ้ครอบครัวพี่ชายมาดักรอเจอขอเงินอีก  ให้มันแล้วจะไม่มีเงินส่งให้แม่ใช้เลยนะ……ให้เข้าใจนะ……จบนะ
           
            โชคดี ที่เจรจากับหัวหน้าขออยู่รอบเช้า จะได้ทันไปเรียนตอนเย็น และรอบดึกคือเรียนเสร็จค่อยไปทำงานต่อ ช่วงไหนปิดเทอมค่อยจับอยู่รอบดึกยาวๆ ไม่ว่ากัน  คนมีครอบครัวจะขออยู่รอบเช้ากับบ่าย ไม่อยู่รอบดึก คนโสดไม่มีปัญหาอะไร รอบไหนได้หมด  หัวหน้าก็ใจดี น่ารักด้วย    ที่โรงเรียนก็ไม่มีปัญหาอะไร ทุกอย่างราบรื่น เพื่อนๆที่เรียนรอบค่ำ ล้วนแล้วแต่เป็นคนทำงานทุกคน  ติดตรงที่ พอมีงานกลุ่ม จำต้องช่วยกันทำแบบลำบาก เพราะนัดรวมตัวกันลำบากมาก ต่างที่ต่างเวลา บางคนทำงานหลังเลิกเรียน คนที่ทำงานราชการก็จะเหนื่อยหน่อย ต้องเสียสละทำการบ้านหนักกว่าเพื่อนคนอื่นๆ ก็โชคดีอีกแหล่ะ มีเพื่อนดี 
           
            อยู่รอบดึก ก็จะเจอหน้าทีมรอบดึก รู้จักกันทั่วถึงทุกแผนก  หน้าฟร้อนท์ ก็จะมีผู้ชายคนหนึ่งขาประจำ ยืนตาดำเป็นหมีแพนด้าคนเดียวทั้งคืน บางชั่วโมง ก็จะมีชายสูงผอม ผิวแทนเข้ม คิ้วเข้มหนาดก ดูหน้าคม แก่กว่าพี่หน้าฟร้อนท์หน่อย คนนี้เป็น  Audit ของโรงแรม ชอบมาคุยเล่นกับพี่หน้าฟร้อนท์เหมือนสนิทสนมกันมากอยู่  ช่วงพักกินข้าว ฉันจะเจอ 2 คนนี้ตลอดในห้องแคนทีน บางครั้งก็กินข้าวโต๊ะเดียวกัน  ฉันพยายามเงี่ยหูฟังเวลาเขาคุยกัน แต่ไม่ยักได้ยิน คนอะไร คุยกันเบ๊าเบา ยังกะกระซิบ  มารู้อีกทีคือพี่ ฟร้อนท์ ชื่อ ตั้ม พี่ Audit ชื่อ มานะ  แต่ที่น่าสนใจคือ อีตาปากปลาร้า หัวหน้า รปภ. ชื่อ สมพงษ์  หน้าตาดีโครตๆ แต่ปากนี่ยังกะหนามทุเรียน ชอบหาเรื่อง ชอบแกล้ง ชอบกวนประสาท สุดๆ ไม่รู้จะเปรียบด้วยคำไหน…..แค่ภาวนาว่า อย่าเข้ารอบเดียวกันเล้ยยยยยยย  ไม่อยากเจอ…..เฮ้อออออ
4262716


Create Date : 28 พฤษภาคม 2563
Last Update : 15 ตุลาคม 2566 21:28:18 น. 3 comments
Counter : 623 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณภาวิดา คนบ้านป่า


 
เพิ่งเข้ามาอ่านตอนนี้ ยุ่งละสิ
ต้องกลับมาเก็บย้อนหลัง
คุณเขียนได้เหมือนนิยายเลย
อยากโหวตให้เอนทรี่นี้ไปขึ้นหน้าท็อปค่ะ



โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า วันที่: 28 พฤษภาคม 2563 เวลา:8:51:25 น.  

 



โดย: สมาชิกหมายเลข 5022081 วันที่: 28 พฤษภาคม 2563 เวลา:10:40:52 น.  

 
ขอบคุณมากค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ มือใหม่มากๆเลยค่ะ


โดย: สมาชิกหมายเลข 5022081 วันที่: 28 พฤษภาคม 2563 เวลา:10:46:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 5022081
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 5022081's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.