กุมภาพันธ์ 2559
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
2829 
 
12 กุมภาพันธ์ 2559
 
 
แนะนำอาหารเมืองเหนือ

แนะนำอาหารเมืองเหนือ

แกงผักเซียงดา

แกงผักเซียงดา หรือแกงผักเซง มีวิธีการแกงเช่นเดียวกับแกงผักหวานบ้าน และแกงผักหวานป่า แต่ไม่ใส่วุ้นเส้น นิยมใส่ปลาย่าง หรือปลาแห้ง (ประทุม อุ่นศรี, สัมภาษณ์, 25 มิถุนายน 2550) บางสูตรแกงร่วมกับผักเสี้ยวและผักชะอม หรือร่วมกับผักชะอมอย่างเดียว
ส่วนผสม
1. ผักเซียงดา 100 กรัม
2. ปลาแห้ง 50 กรัม
3. มะเขือเทศลูกเล็ก 5 ลูก
เครื่องแกง
1. พริกแห้ง 5 เม็ด
2. กระเทียม 5 กลีบ
3. หอมแดง 5 หัว
4. กะปิ 1 ช้อนชา
5. เกลือ 1 ช้อนชา
วิธีการทำ
1. โขลกเครื่องแกงรวมกันให้ละเอียด
2. ต้มน้ำ พอเดือด ละลายเครื่องแกงในน้ำเดือด
3. ใส่ปลาแห้ง ต้มจนปลานุ่ม
4. ใส่ผักเซียงดา ตามด้วยมะเขือเทศ พอผักสุก ปิดไฟ
เคล็ดลับในการปรุง/เลือกส่วนผสม
ไม่ควรแกงนาน เพราะเป็นผักใบอ่อน ควรรับประทานในขณะแกงยังร้อน


ที่มา //library.cmu.ac.th/ntic/lannafood/detail_lannafood.php?id_food=121




น้ำพริกน้ำปู

น้ำพริกน้ำปู อ่านว่า น้ำพิกน้ำปู๋ เป็นน้ำพริกที่มีลักษณะข้น ชนิดของพริกที่ใช้คือ พริกขี้หนูดิบ หรือพริกหนุ่ม (พริกดิบ) แล้วแต่ชอบ (สุมาลี ทะบุญ, สัมภาษณ์, 27 มิถุนายน 2550)

ส่วนผสม
1. พริกขี้หนู 20 เม็ด
2. กระเทียม 10 กลีบ
3. หอมแดง 5 หัว
4. ตะไคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำปู 1 ช้อนโต๊ะ
6. เกลือ 1/2 ช้อนชา
วิธีการทำ
1. โขลกเกลือ ตะไคร้ กระเทียม และหอมแดง รวมกันให้ละเอียด
2. โขลกพริกขี้หนูรวมกัน
3. ใส่น้ำปูลงคลุกเคล้าให้เข้ากัน

ที่มา //library.cmu.ac.th/ntic/lannafood/detail_lannafood.php?id_food=79



แกงฮังเล

แกงฮังเลมี 2 ชนิด คือ แกงฮังเลม่าน และ แกงฮังเลเชียงแสน เชื่อกันว่าเป็นอาหารที่ได้รับอิทธิพลมาจากพม่า สำหรับแกงฮังเลเชียงแสนจะแตกต่างตรงที่มีถั่วฝักยาว มะเขือยาว พริกสด หน่อไม้ดอง งาขาวคั่ว เพิ่มเข้ามา (รัตนา พรหมพิชัย, 2542, หน้า 490) และใช้เป็นส่วนผสมของแกงโฮะ (เทียนชัย สุทธนิล, สัมภาษณ์, 19 มิถุนายน 2550)

ส่วนผสม
1. เนื้อสันคอหมู 300 กรัม
2. เนื้อหมูสามชั้น 200 กรัม
3. น้ำอ้อยป่น 2 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ
5. ขิงซอย 1/2 ถ้วย
6. กระเทียม 1/2 ถ้วย
7. ถั่วลิสงคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
8. สับปะรด 2 ช้อนโต๊ะ
9. ผงฮังเล 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องแกง
1. พริกแห้ง 7 เม็ด
2. พริกขี้หนูแห้ง 4 เม็ด
3. หอมแดง 3 หัว
4. กระเทียม 20 กลีบ
5. ตะไคร้ซอย 2 ช้อนโต๊ะ
6. ข่าซอย 1 ช้อนโต๊ะ
7. เกลือ 1 ช้อนชา
8. กะปิหยาบ 1/2 ช้อนโต๊ะ
วิธีการทำ
1. หั่นเนื้อหมูสันคอและหมูสามชั้นเป็นชิ้น ขนาด 1.5 x 1.5 นิ้ว
2. โขลกเครื่องแกงรวมกันให้ละเอียด
3. ผสมเครื่องแกง ผงฮังเล สับปะรด และเนื้อหมู คลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง
4. นำหมูที่หมักไว้มาตั้งไฟ ใส่น้ำเล็กน้อย ผัดจนกว่าหมูตึงตัว เคี่ยวต่อ คอยเติมน้ำเรื่อยๆ จนหมูนิ่มได้ที่
5. ใส่น้ำอ้อยป่น น้ำมะขามเปียก ใส่กระเทียม และขิงซอย คนให้เข้ากัน เคี่ยวต่อ
6. ใส่ถั่วลิสงคั่ว พอเดือดสักพัก ปิดไฟ
เคล็ดลับในการปรุง/เลือกส่วนผสม
การคั่วเครื่องแกง ใช้ไฟปานกลาง ใช้เนื้อกระท้อนแทนมะขามเปียกได้ ให้รสชาติเปรี้ยว และมีกลิ่นหอม
เคล็ดลับในการเลือกส่วนผสม
หมูสามชั้น ควรเลือกที่มันไม่หนาเกินไป หรือเลือกใช้ซี่โครงหมูแทน ก็ได้

ที่มา //library.cmu.ac.th/ntic/lannafood/detail_lannafood.php?id_food=10



แอ็บอ่องออ

     แอ็บอ่องออ หรือแอ็บสมองหมู คืออาหารที่ปรุงด้วยการนำสมองหมูสด นำมาคลุกเคล้ากับเครื่องปรุง แล้วห่อด้วยใบตอง เช่นเดียวกับแอ็บหมู แอ็บปลา แอ็บกุ้ง ทำให้สุกโดยปิ้งหรือย่าง ด้วยไฟอ่อนๆ จนข้างในสุก (รัตนา พรหมพิชัย, 2542, หน้า 8111; อัมพร โมฬีพันธ์, สัมภาษณ์, 6 กรกฎาคม 2550)

ส่วนผสม
1. สมองหมู 300 กรัม
2. ใบมะกรูดซอย 2 ช้อนโต๊ะ
3. ผักชีซอย 2 ช้อนโต๊ะ
4. ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องแกง
1. พริกขี้หนูแห้ง 20 เม็ด
2. หอมแดง 5 หัว
3. กระเทียม 20 กลีบ
4. ตะไคร้ซอย 2 ช้อนโต๊ะ
5. ข่าหั่น 1 ช้อนโต๊ะ
6. ขมิ้นหั่น 1 ช้อนโต๊ะ
7. กะปิ 1/2 ช้อนโต๊ะ
8. เกลือ 1/2 ช้อนชา
วิธีการทำ
1. โขลกเครื่องแกงรวมกันให้ละเอียด
2. นำเครื่องแกงลงผสมกับสมองหมู คลุกเคล้าให้เข้ากัน
3. ใส่ใบมะกรูดซอย ลงคลุกเคล้าให้เข้ากัน
4. ใส่ผักชีต้นหอมซอย ลงคลุกเคล้าให้เข้ากัน
5. เตรียมใบตอง กว้าง 8 นิ้ว วางซ้อนกันสองชั้นสลับหัวท้าย ตักส่วนผสมใส่ลงตรงกลางใบตอง
6. ห่อเป็นรูปสี่เหลี่ยม
7. นำไปย่างไฟอ่อนๆ
8. ย่างจนกระทั่งใบตองเหลืองเกรียม คอยกลับด้าน ใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที

ที่มา //library.cmu.ac.th/ntic/lannafood/detail_lannafood.php?id_food=36



ส้ายอดมะขาม

ส้ายอดมะขาม หรือส้ายอดบ่าขาม เป็นส้าผักชนิดหนึ่ง คือยำยอดมะขามอ่อน บางสูตรต้มปลาร้า กะปิ หมูสับด้วยกัน ใช้พริกแห้งย่างไฟ โรยหน้าด้วยแคบหมู หอมแดงเจียวและกระเทียมเจียว แทนที่จะใช้วิธีผัดเครื่องแกงในน้ำมันพืช และใส่หมูสับลงผัด บางสูตรใช้เนื้อควาย หรือเนื้อวัวแทนเนื้อหมู บางสูตรใช้ปลากระป๋องแทนเนื้อหมู และเนื้อวัวควาย (ศรีวรรณ จำรัส, สัมภาษณ์, 14 มิถุนายน 2550; รัตนา พรหมพิชัย, 2542, หน้า 6809)

ส่วนผสม
1. ยอดมะขาม 2 ถ้วย
2. เนื้อหมูบด 50 กรัม
3. มะเขือเทศลุกใหญ่ 3
4. หอมหัวใหญ่ 1 หัว
5. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
6. กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องแกง
1. พริกขี้หนูแห้ง 15 เม็ด
2. กระเทียม 10 กลีบ
3. หอมแดง 5 หัว
4. ข่าหั่น 1 ช้อนชา
5. ตะไคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
6. กะปิ 1 ช้อนชา
7. ปลาร้าต้มสุก 1 ช้อนโต๊ะ
8. เกลือ 1/2 ช้อนชา
วิธีการทำ
1. โขลกเครื่องแกงรวมกันให้ละเอียด
2. เจียวกระเทียมกับน้ำมัน ใส่เครื่องแกงลงผัดให้หอม
3. ใส่หมูสับลงผัด ผัดจนหมูสุก ใส่น้ำปลาร้าต้มสุก น้ำตาลทราย พอเดือด ตักใส่ชาม พักไว้ให้เย็น
4. ใส่หอมใหญ่ มะเขือเทศ ลงในชามเครื่องปรุง คลุกเคล้าให้เข้ากัน
5. ใส่ยอดมะขาม คลุกเคล้าเบาๆ ให้เข้ากัน

ที่มา //library.cmu.ac.th/ntic/lannafood/detail_lannafood.php?id_food=178



ไส้อั่ว
คำว่า อั่ว หมายถึง แทรก หรือยัดไว้ตรงกลาง ไส้อั่ว จึงหมายถึงไส้ที่มีการนำสิ่งของยัดไว้ การทำไส้อั่ว นิยมใช้ไส้หมูและเนื้อหมู การทำไส้อั่ว เป็นวิธีการถนอมอาหาร ให้สามารถรับประทานได้นานขึ้น คือประมาณ 1-2 วัน (รัตนา พรหมพิชัย, 2542, 7257) แต่ถ้าเก็บไว้ในที่เย็น หรือปัจจุบัน มีการบรรจุถุงแบบสูญญากาศ ก็เก็บไว้ได้นานมากยิ่งขึ้น การทำให้ไส้อั่วสุก จะใช้วิธีปิ้ง หรือทอดก็ได้ (ศรีนวล อภิวงศ์, สัมภาษณ์, 9 กรกฎาคม 2550)

ส่วนผสม
1. เนื้อหมูบด 1 กิโลกรัม
2. ไส้หมู 300 กรัม
3. ใบมะกรูด 10 ใบ
4. ผักชีซอย 2 ช้อนโต๊ะ
5. ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องแกง
1. พริกแห้ง 10 เม็ด
2. ข่าหั่น 1 ช้อนโต๊ะ
3. ตะไคร้ซอย 2 ช้อนโต๊ะ
4. หอมแดง 10 หัว
5. กระเทียม 20 กลีบ
6. กะปิ 2 ช้อนโต๊ะ
7. เกลือ 1 ช้อนชา
วิธีการทำ
1. โขลกเครื่องแกงรวมกันให้ละเอียด
2. ล้างไส้หมูให้สะอาด โดยใส่น้ำลงในไส้ แล้วกลับด้านในออกมาด้านนอก นำไปแช่น้ำใส่เกลือ ประมาณ 10 นาที แล้วกลับด้านนอกออกเหมือนเดิม
3. ใส่เครื่องแกงลงคลุกเคล้ากับเนื้อหมูบดให้เข้ากัน
4. ใส่ผักชีต้นหอมซอย ใบมะกรูดซอย คลุกเคล้าให้เข้ากัน
5. นำหมูที่คลุกเคล้าเรียบร้อยแล้ว มากรอกใส่ไส้หมู โดยใช้กรวยช่วยในการกรอกหมูใส่ไส้
6. เมื่อกรอกไส้จนเต็มแล้ว มัดปากไส้
7. นำไส้อั่วที่ได้มาย่างไฟอ่อนๆ จนสุกเหลืองทั่ว ประมาณ 45 นาที
เคล็ดลับในการปรุง/เลือกส่วนผสม
ขณะที่นำไส้อั่วย่างไฟ ให้ใช้ไม้จิ้มเพื่อระบายอากาศ เพื่อไม่ให้ไส้แตก
ย่างกับถ่านไม้ ไส้อั่วจะมีกลิ่นหอมชวนรับประทาน

ที่มา //library.cmu.ac.th/ntic/lannafood/detail_lannafood.php?id_food=25

ปูอ่อง
ปูอ่อง เป็นอาหารพื้นบ้านของชาวล้านนา ชาวไทลื้อ ชาวไทเขิน แม้แต่ในภาคเหนือของลาว ปูอ่องจะอร่อยที่สุดช่วงฤดูเกี่ยวข้าว เนื่องจากปูมีมันมาก การปรุงโดยใส่ต้นหอมซอย จะทำให้ปูอ่องเพิ่มกลิ่นหอม และน่ารับประทานยิ่งขึ้น (เสาวภา ทาแก้ว, สัมภาษณ์, 2 กรกฎาคม 2550; อากิก, 2548)

ส่วนผสม
1. ปูนา 20 ตัว
2. เกลือ 1 ช้อนชา
3. ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีการทำ
1. แกะปู เอาแต่มันปูใส่ถ้วย
2. ใส่ต้นหอมซอย และเกลือ คนให้เข้ากัน
3. เลือกเอากระดองปูขนาดใหญ่และแข็ง ล้างให้สะอาด ตักส่วนผสมใส่ในกระดองปู
4. นำไปย่างบนเตาถ่าน ใช้ไฟอ่อน
5. ย่างใช้เวลาประมาณ 15 นาที จนสุก สังเกตจากสีของกระดองปูจะเป็นสีส้ม มันปูแห้ง และเป็นสีเหลือง

ที่มา //library.cmu.ac.th/ntic/lannafood/detail_lannafood.php?id_food=174

แมงมันจ่อม
แมงมันจ่อม หรือหลู้ใข่แมงมัน เป็นการปรุงอาหารด้วยวิธีการยำ โดยนำไข่แมงมัน ซึ่งเป็นแมลงชนิดหนึ่ง ที่วางไข่ในโพรงใต้พื้นดินประมาณเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม ก่อนจะนำไข่แมงมันมาปรุง ให้ดองไว้ 2 คืนก่อน เพื่อให้ไข่แมงมันมีรสเปรี้ยว นิยมรับประทานกับยอดสะเดา (อินทร วงค์กุฎ, สัมภาษณ์, 26 มิถุนายน 2550)

ส่วนผสม
1. ไข่แมงมัน 100 กรัม
2. เกลือ 1 ช้อนชา
3. น้ำต้มสุก 2 ถ้วย
4. พริกแห้งย่างไฟ 10 เม็ด
5. กระเทียมย่างไฟ 2 หัว
6. หอมแดงซอย 1/2 ถ้วย
7. ผักชีซอย 1/2 ช้อนโต๊ะ
8. ต้นหอมซอย 1/2 ช้อนโต๊ะ
วิธีการทำ
1. ใส่ไข่แมงมันลงในภาชนะสำหรับดอง
2. ใส่น้ำต้มสุก และเกลือ คนให้เข้ากัน
3. ปิดฝาให้สนิท หมักทิ้งไว้ 2 คืน
4. โขลกพริก กระเทียม รวมกันให้ละเอียด แล้วใส่ลงในชามแมงมัน ใส่หอมแดงซอย คนให้เข้ากัน
5. ใส่ผักชีต้นหอม
เคล็ดลับในการปรุง/เลือกส่วนผสม
น้ำที่ใช้ในการหมักดอง ต้องเป็นน้ำต้มสุกทิ้งไว้อุ่น บ้างใส่ข้าวนึ่ง จะทำให้เปรี้ยวเร็วขึ้น

ที่มา //library.cmu.ac.th/ntic/lannafood/detail_lannafood.php?id_food=201


หลู้
หลู้ เป็นอาหารประเภทดิบสดประเภทเดียวกับลาน และส้าจิ๊น ซึ่งใช้เครื่องปรุงเดียวกัน การทำหลู้นิยมใช้เลือดสดๆ ของหมู วัว หรือควาย ชาวล้านนานิยมใช้เลือดหมูในการทำมากกว่าเลือดวัวและควาย บางสูตรใช้น้ำเพลี้ย (กากอาหารที่ค้างในลำไส้ของวัวควาย) โดยนำเพี้ยสดๆ หรือต้มก่อนก็ได้ แทนน้ำเลือด เรียกว่า หลู้เพี้ย (ประธาน นันไชยศิลป์, สัมภาษณ์, 3 กรกฎาคม 2550; รัตนา พรหมพิชัย, 2542, หน้า 7482)

ส่วนผสม
1. เนื้อหมูสับ 50 กรัม
2. เครื่องในหมูทอดกรอบ 200 กรัม
3. ไตหมู 1/2 ถ้วย
4. มันหมู 1/2 ถ้วย
5. เลือดหมู 2 ถ้วย
6. น้ำต้มกะปิ 2 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำกระเทียมดอง 1/2 ถ้วย
8. ใบมะนาวทอดกรอบ 10 ใบ
9. ใบมะกรูดทอดกรอบ 10 ใบ
10. ตะไคร้ทอดกรอบ 2 ช้อนโต๊ะ
11. หอมแดงเจียว 2 ช้อนโต๊ะ
12. กระเทียมเจียว 2 ช้อนโต๊ะ
13. พริกลาบ 3 ช้อนโต๊ะ
14. ใบตะไคร้ 10 ต้น
15. ผักไผ่ซอย 2 ช้อนโต๊ะ
16. ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
17. ผักชีซอย 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีการทำ
1. คั้นเลือดสดด้วยใบตะไคร้ เพื่อดับกลิ่นคาวเลือด
2. ใส่น้ำต้มซุป พริกลาบ น้ำกระเทียมดอง และน้ำต้มกะปิ ลงในชามเลือด คนให้เข้ากัน
3. ใส่หมูสับ ลงในชามส่วนผสม
4. ใส่ไตหมู และมันหมู คนให้เข้ากัน
5. ใส่ใบมะนาวทอดกรอบ ใบมะกรูดทอดกรอบ ตะไคร้ทอดกรอบ หอมแดงเจียว กระเทียมเจียว ผักไผ่ และผักชีต้นหอม คนให้เข้ากัน
6. ใส่เครื่องในทอดกรอบ คนให้เข้ากัน

ที่มา //library.cmu.ac.th/ntic/lannafood/detail_lannafood.php?id_food=175

แอ็บหมู
แอ็บหมู คืออาหารที่ปรุงด้วยการนำเนื้อหมูสด นำมาคลุกเคล้ากับเครื่องปรุง แล้วห่อด้วยใบตอง เช่นเดียวกับแอ็บอ่องออ แอ็บปลา แอ็บกุ้ง ทำให้สุกโดยปิ้งหรือย่าง ด้วยไฟอ่อนๆ จนข้างในสุก ต่างจากแอ็บชนิดอื่น คือแอ็บหมูมีส่วนผสมเพิ่มคือ ไข่ไก่ (รัตนา พรหมพิชัย, 2542, หน้า 8111; อัมพร โมฬีพันธ์, สัมภาษณ์, 26 มิถุนายน 2550)

ส่วนผสม
1. เนื้อหมูบด 300 กรัม
2. ไข่ไก่ 2 ฟอง
3. ใบมะกรูดซอย 2 ช้อนโต๊ะ
4. ผักชีซอย 2 ช้อนโต๊ะ
5. ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องแกง
1. พริกขี้หนูแห้ง 20 เม็ด
2. หอมแดง 5 หัว
3. กระเทียม 20 หัว
4. ตะไคร้ซอย 2 ช้อนโต๊ะ
5. ข่าหั่น 1 ช้อนโต๊ะ
6. ขมิ้นหั่น 1 ช้อนโต๊ะ
7. กะปิ 1/2 ช้อนโต๊ะ
8. เกลือ 1/2 ช้อนชา
วิธีการทำ
1. โขลกเครื่องแกงรวมกันให้ละเอียด
2. ผสมเครื่องแกงกับหมูบด คลุกเคล้าให้เข้ากัน
3. ใส่ไข่ไก่ ใส่ใบมะกรูดซอย คลุกเคล้าให้เข้ากัน
4. ใส่ผักชีต้นหอมซอย คลุกเคล้าให้เข้ากัน
5. เตรียมใบตอง กว้าง 8 นิ้ว วางซ้อนกันสองชั้นสลับหัวท้าย ตักส่วนผสมใส่ลงตรงกลางใบตอง
6. ห่อเป็นรูปสี่เหลี่ยม กลัดไม้กลัด
7. นำไปย่างไฟอ่อนๆ
8. ย่างจนกระทั่งใบตองเหลืองเกรียม คอยกลับด้าน ใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที

ที่มา //library.cmu.ac.th/ntic/lannafood/detail_lannafood.php?id_food=185



Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2559
Last Update : 7 มีนาคม 2559 9:43:40 น. 1 comments
Counter : 1878 Pageviews.

 
น่าทานมากค่า


โดย: สมาชิกหมายเลข 5329215 วันที่: 14 สิงหาคม 2562 เวลา:12:13:22 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 

สมาชิกหมายเลข 2974511
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add สมาชิกหมายเลข 2974511's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com