นักรบสะเก็ดไฟ สนุกกับเรื่องเชื่อม

สมาชิกหมายเลข 1571538
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ตู้เชือมไฟฟ้า อินเวอร์เตอร์ เครื่องเชื่อมไฟฟ้า ราคาตู้เชื่อมไฟฟ้า ตู้เชื่อมอินเวอร์เตอร์ เครื่องเชื่อมอินเวอร์เตอร์ เครื่องเชื่อมอาร์กอน ตู้เชื่อมอาร์กอน ลวดเชื่อมสแตนเลส หน้ากากเชื่อม ราคาลวดเชื่อม ลวดเชื่อมอลูมิเนียม ตู้เชื่อมอาร์กอน เครื่องเชื่อม tig ราคาเครื่องเชื่อมอาร์กอน เครื่องเชื่อมอาร์กอน ราคา เชื่อมอาร์กอน ตู้เชื่อม tig ตู้เชื่อมอินเวอร์เตอร์ ราคาตู้เชื่อมอาร์กอน ขายเครื่องเชื่อมอาร์กอน ขายตู้เชื่อม เชื่อม tig ตู้เชื่อมราคาถูก ตู้เชื่อมซีโอทู เครื่องเชื่อมอลูมิเนียม เชื่อมสแตนเลส เครื่องเชื่อมสแตนเลส สายเชื่อมไฟฟ้า ราคาเครื่องเชื่อมไฟฟ้า ราคาตู้เชื่อม ราคาตู้เชื่อมไฟฟ้าขนาดเล็ก ตู้เชื่อมอลูมิเนียม เครื่องตัดพลาสม่า ราคาเครื่องตัดพลาสม่า เครื่องตัดพลาสม่า ราคา เครื่องตัดเหล็กพลาสม่า ตัดพลาสม่า หัวตัดพลาสม่า เครื่องตัดเหล็ก ตัดเหล็ก
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 1571538's blog to your web]
Links
 

 
หลีกเลี่ยงปัญหาในการตัดพลาสม่า

ต่อไปนี้คือรายการของแนวทางการแก้ไขที่อาจช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถหลีกเลี่ยงบางปัญหาที่พบบ่อยที่สุดที่พบในการตัดแบบพลาสม่า

 1 เปลี่ยนอะไหล่วัสดุสิ้นเปลืองอย่างสม่ำเสมอ  เมื่อคิดถึงรถยนต์  การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องอย่างสม่ำเสมอจะเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการที่จะต้องมาเปลี่ยนเครื่องยนต์ของรถยนต์มาก ในทำนองเดียวกัน  การเปลี่ยนอะไหล่วัสดุสิ้นเปลืองอย่างสม่ำเสมอ  จะประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าที่จะต้องมาเปลี่ยนหัวตัดมาก    ในสภาพการใช้งานวัสดุสิ้นเปลืองอย่างรุนแรงอาจทำให้ไม่สามารถที่จะควบคุมการอาร์คได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายแก่หัวตัด

อะไรคือสัญญาณว่ามีการใช้วัสดุสิ้นเปลืองที่ผิดปกติ?  บ่อยครั้งคุณภาพในการตัดที่แย่ลงคือสัญญาณแรกที่เกิดจากชิ้นส่วนสึกหรอ การตรวจสอบด้วยสายตาเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ถ้ามีออกไซด์ตกค้างภายในหัวฉีดหรือในกรณีที่มีร่องอยู่ภายในหรือภายนอกของหัวฉีด ก็ควรที่จะทำการเปลี่ยนใหม่

สัญญาณที่จะบอกว่ามีการใช้อิเล็กโทรดสิ้นเปลือง   จะใช้การตรวจสอบว่ามีหลุมที่อิเลคโทรดหรือไม่       ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับชนิดของแก๊สที่ใช้ หลุมไม่ควรลึกเกินกว่าที่ 3/32 นิ้วในกรณีที่ใช้สำหรับออกซิเจนหรืออากาศ  และไม่ควรลึกกว่า  1/8  นิ้วสำหรับอาร์กอนหรือไนโตรเจน  ถ้าหลุมมีขนาดลึกเกินกว่านี้  ก็ถึงเวลาที่จะเปลี่ยนอิเลคโทรดได้แล้ว  ถ้าพบว่าตัวหมุนวนแก๊ส (gas swirler) มีรอยแตก, รอยไหม้ที่เกิดจากการอาร์ค, สิ่งสกปรกหรือไขมันภายในรู ก็ถึงเวลาที่จะเปลี่ยนตัวหมุนวนแก๊สได้แล้ว

2. การประกอบหัวตัดอย่างถูกต้อง   หัวตัดจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานเมื่อมีการดูแลที่ถูกต้อง หัวตัดควรจะถูกประกอบเข้ากับชิ้นส่วนอื่นๆในตำแหน่งที่ถูกต้องและพอดี ซึ่งจะทำให้มั่นใจว่ามีการสัมผัสของขั้วไฟฟ้าที่ดีและการไหลที่ถูกต้องของของแก๊สและน้ำหล่อเย็นผ่านที่ผ่านหัวตัด นอกจากนี้  หัวตัดจะต้องสะอาดและพื้นที่บริเวณบ่าไม่ควรมีการปนเปื้อนฝุ่น เมื่อจะทำการเปลี่ยนชิ้นส่วน, อะไหล่สิ้นเปลืองควรเช็ดด้วยผ้าที่สะอาดเพื่อป้องกันฝุ่นละอองสิ่งสกปรกหรือเศษโลหะปนเปื้อนหัวตัด

 3. การใช้ชิ้นส่วนที่ถูกต้อง การเลือกใช้วัสดุสิ้นเปลืองจะขึ้นอยู่กับปริมาณของกระแสที่ใช้ในการตัดและก๊าซพลาสมาที่ใช้สำหรับในแต่ละงาน คู่มือการใช้งานจะกำหนดความเหมาะสมของวัสดุสิ้นเปลืองสำหรับการของการตัดหลายประเภท การใช้วัสดุสิ้นเปลืองที่ไม่เหมาะสม จะทำให้ชิ้นส่วนมีอายุการใช้งานสั้นและคุณภาพในการตัดลดลง นอกจากนี้ชิ้นส่วนจะต้องทำงานที่ค่ากระแสที่ถูกต้อง ซึ่งควรตั้งที่ 95 %ของพิกัดที่กำหนดของ nozzle  ถ้าหากกระแสมีค่าต่ำเกินไปจะนำไปผิวที่ตัดมีลักษณะเอียง ที่สำคัญจะทำให้ nozzle มีอายุการใช้งานลดลง

4. ตรวจสอบว่าที่การไหลของแก๊สและน้ำหล่อเย็นถูกต้อง  ควรมีการตรวจสอบการไหลและความดันของแก็สและน้ำหล่อเย็นทุกวัน ถ้าอัตราการไหลต่ำไปวัสดุสิ้นเปลืองจะไม่สามารถระบายความร้อนได้เพียงพอซึ่งจะมีผลต่ออายุการใช้งาน ค่าความดันแก๊สที่คงที่มีความสำคัญต่อการอาร์ค  ความดันแก๊สที่สูงกว่าปกติเป็นสาเหตุของการเริ่มต้นใช้งานที่ยาก (hard starting) ซึ่งจะทำให้หัวตัดไม่สามารถที่จะทำการเริ่มต้นในการอาร์คได้ในขณะที่สภาพอื่น ๆ สำหรับการดำเนินการตามปกติ และเช่นเดียวกับก๊าซพลาสมาจะต้องสะอาดและแห้ง หัวตัดและวัสดุสิ้นเปลืองมีอายุการใช้งานสั้นจะเกิดจากการใช้แก๊สที่มีการปนเปื้อน   โดยเฉพาะอย่างระบบอากาศอัดยิ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดการปนเปื้อน

5. หลีกเลี่ยงการใช้สารหล่อลื่นที่  O - ring  บางครั้งการทาสารหล่อลื่นที่ O-ring จะทำให้เกิดการปนเปื้อนภายในหัวตัด ทำให้หัวตัดมีอายุการใช้งานสั้นลง ดังนั้นไม่ควรใช้สารหล่อลื่น นอกจากนี้สารหล่อลื่นอาจเป็นตัวนำไฟฟ้าซึ่งจะทำให้หัวตัดเกิดความเสียหายและสารหล่อลื่นที่มากเกินไปสามารถไปทำให้บริเวณที่แก็สหมุนวนเกิดการอุดตันมีการสะสมฝุ่นโลหะซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาในการอาร์ค

6. หลีกเลี่ยงการหัวตัดในการเคาะแทนค้อน ซึ่ง “คุณจะจ่ายหลายเงินจำนวนมากสำหรับค้อน ไม่ใช่แน่นอน หัวตัดไม่ได้รับการออกแบบมาเพื่อเป็นค้อนและไม่ควรนำมาใช้เป็นค้อน การใช้หัวตัดเคาะเพื่อกำจัดสะเก็ดโลหะที่ชิ้นงานจะทำให้เกิดความเสียหายแก่หัวตัด

7. หลีกเลี่ยงการชนกับหัวตัด หัวตัดกับชิ้นงานสามารถป้องกันได้โดยการเขียนโปรแกรมรูปตัดระบบที่จะเดินทางรอบ (แทนที่จะขึ้นไป) การตัดชิ้นส่วน เซนเซอร์บอกระดับความสูงของหัวตัดสามารถป้องกันจากการชนกับชิ้นงานได้  นอจากนั้นการติดอุปกรณ์ป้องกันสามารถช่วยป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อคบเพลิงถ้าการชนกันจะเกิดขึ้น

8. หลีกเลี่ยงการยืดการอาร์ค ถ้าการอาร์คต้องยืดไปถึงโลหะ จะทำให้วัสดุสิ้นเปลืองมีอายุการใช้งานสั้นลง ถ้าเป็นไปได้ควรเริ่มทำการตัดจากขอบมากกว่าที่จะเริ่มจากภายในชิ้นงาน เมื่อเริ่มต้นตัดจากบริเวณขอบจะต้องรักษาแนวให้ได้ระดับที่ตั้งฉากกับชิ้นงาน

9. รักษาความถูกต้องของระยะหัวตัดกับชิ้นงาน  ระยะห่างของหัวตัดกับชิ้นงานจะพิจารณาจากความหนาของวัสดุที่ถูกตัด ซึ่งจะทำให้เกิดการอาร์คที่สม่ำเสมอ ถ้าระยะมีค่าสูงหรือต่ำเกินไปสามารถสร้างความเสียหายแก่ชิ้นงานหรือหัวตัดได้ สำหรับอุปกรณ์ในการตัดแบบมือถือ  สามารถใช้อุปกรณ์ช่วยจับหัวตัด (standoff device) ซึ่งสามารถกำหนดค่าระยะห่างด้วยตนเองหรือแบบอัตโนมัติ

10. ทำความสะอาดหัวตัดอย่างสม่ำเสมอ เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ใช้งานจะสังเกตเห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับหัวตัด ดังนั้นควรทำความสะอาดทั้งภายในและภายนอกหัวตัดให้สะอาดบ่าของ nozzle และอิเลคโตรท ควรจะทำความสะอาดเมื่อสกปรกหรือเป็นหลุม ในการทำความสะอาดให้ใช้ผ้าฝ้ายเช็ดล้างทำความสะอาดและด้วย contact cleaner หรือ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์

ข้อสรุป

การใช้งานอุปกรณ์ตัดพลาสม่าที่ถูกต้องสามารถประหยัดเวลาและลดค่าใช้จ่ายนับไม่ถ้วน นอกจากนั้นยังสามารถส่งผลให้คุณภาพในการตัดที่ดีและอุปกรณ์มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น 

Plasma เอกสารอ้างอิง
chuck landry
//www.thefabricator.com




Create Date : 10 กันยายน 2557
Last Update : 10 กันยายน 2557 8:43:56 น. 0 comments
Counter : 566 Pageviews.
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.