ตามแม่เที่ยว : เมื่อคนงามมาเจอคนสวย
อะไรมันจะสวยซับสวยซ้อนขนาดน้านนนน..
ก็ฉันเป็นทั้งคนบ้านโป่งและลูกสาวชาวนครปฐม พูดเลยว่า งาม จริงๆ การันตีความสวยด้วยคำขวัญของทั้ง 2 จังหวัด ทั้งนครปฐม ส้มโอหวาน ข้าวสารขาว ลูกสาวงาม ข้าวหลามหวานมัน สนามจันทร์งามล้น พุทธมณฑลคู่ธานี พระปฐมเจดีย์เสียดฟ้า สวยงามตาแม่น้ำท่าจีน" และ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี คนสวยโพธาราม คนงามบ้านโป่ง เมืองโอ่งมังกร วัดขนอนหนังใหญ่ ตื่นใจถ้ำงาม ตลาดน้ำดำเนิน เพลินค้างคาวร้อยล้าน ย่านยี่สกปลาดี พิจารณาความงามตามคำขวัญของที่อยู่และที่เกิดของตัวเองแล้ว เลยให้มั่นใจในความงามของตัวเองขึ้นมาได้ทันทีว่า เออ..เรานี่งามคาบเกี่ยว 2 จังหวัดเลยนะเนี่ย
โดยเฉพาะคนราชบุรีนี่ท่าจะสวยจริง เพราะนอกจากบ้านโป่งแล้ว โพธารามเขาก็ยังขึ้นชื่อเรื่องสาวสวยด้วยเหมือนกัน ว่าแล้วต้องขอไปดูให้เห็นกับตาเสียหน่อยว่าสาวโพธารามสวยแค่ไหน? เลยตามแม่ไปเยือนถิ่นคนสวยกันเสียหน่อย เพราะจากบ้านโป่ง บ้านของเราไปโพธาราม ระยะทางเรียกได้ว่าใกล้ๆ ไม่เกิน 30 นาทีก็ถึง
จากแยกบางแพเลี้ยวขวาเข้าตัวเมืองโพธาราม เราก็จะเห็นโพธารามเมืองเล็กๆ ถนนหนทางไม่ได้กว้างมากจึงต้องเดินรถแบบวันเวย์ ถนนทุกเส้นวิ่งขนานกันไปและมีซอยทะลุถึงกันได้หมด ด้านในสุดของตัวเมืองติดริมแม่น้ำแม่กลอง เดี๋ยวนี้เขาทำเป็นหาดทรายติดริมแม่น้ำ มีต้นไม้และสวนสาธารณะดูร่มร่ืน แป๊บเดียวเราแม่ลูกก็ขับรถวนได้รอบเมือง
แม่เล่าให้ฟังว่าเมื่อก่อนสมัยย่ายังสาวๆ ย่าก็เคยมาอยู่ที่โพธารามนี่ล่ะ มาหัดเย็บผ้า เย็บที่นอนอยู่แถวตลาดโพธาราม เพราะเดิมทีนั้นโพธารามเขาขึ้นชื่อเรื่องที่นอนยัดนุ่น เดี๋ยวนี้เวลาผ่านไปที่นอนยัดนุ่นไม่ค่อยมีให้เห็นแล้ว เหลืออยู่ให้เห็นก็แต่ตุ๊กตายัดนุ่นแทน
บ้านเรือนในตลาดส่วนใหญ่ยังคงบ้านไม้ 2 ชั้นแบบดั้งเดิมเอาไว้ ที่เปลี่ยนไปคือ ประโยชน์ใช้สอยภายใน บางหลังกลายเป็นออฟฟิส บางหลังกลายเป็นร้านกาแฟ บางหลังกลายเป็นร้านอาหาร อย่างร้านแรกที่ฉันกับแม่แวะชื่อร้าน Doนม ชื่อดู...เก๋ไก๋ ไม่รู้ว่าจะแปลว่า ทำนม หรือ ดูนม ดี ที่แน่ๆ คือ ที่นี่ขายเครื่องดื่มพวกกาแฟเป็นหลัก มีนั่งพักชิลๆ น่ารักๆ ทั้งที่อยู่ท่ามกลางสวนเล็กๆ และภายในเรือนแถว นอกจากที่นี่จะเป็นร้านกาแฟแล้ว ยังเป็นที่รวมของแหล่งข้อมูลท่องเที่ยวของโพธารามด้วย เราเลยถามถึงที่กินที่เที่ยวต่างๆ ซะเลย
ซ้าย : แม่ ขวา: ร้านดูนม
บรรยากาศบ้านไม้เรือนแถวในอ.โพธาราม
เริ่มจากร้านที่ต้องไปอันดับแรก คือ หมูสะเต๊ะเจ๊เช็ง ที่ต้องไปอันดับแรกก็เพราะช้าหมดจะอดน่ะสิ ดูเวลาตอนนี้พระอาทิตย์ก็เลยหัวไปแล้วด้วย กลัวว่าจะพลาดเสียก่อน แล้วก็จริงดังคาด... หมดแล้วจ้า ป้าเช็งออกมาบอกด้วยตัวเอง ฉันกับแม่ได้แต่เซ็ง
เดินถัดไปอีกไม่กี่ห้องก็เป็นร้านเก่าแก่ไม่แพ้กัน ก๋วยเตี๋ยวเป็ดหยู่ไอ่ เดิมทีร้านนี้เน้นทำบะหมี่ขาย เอกลักษณ์ของร้าน คือ บะหมี่ไข่ไม่ใส่สี มีเส้นเล็กบางเป็นพิเศษ ทำให้เส้นเหนียวนุ่มไม่เหมือนใคร แม่บอกว่าร้านก๋วยเตี๋ยวในตลาดบ้านโป่งส่วนใหญ่ก็สั่งมาจากโพธารามนี่แหละ ร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดหยู่ไอ่ นี้ร้านค่อนข้างใหญ่ ที่สำคัญไม่ได้มีแต่เป็ดนะ ที่นี่ยังมีข้าวหมูแดง หมูกรอบ ให้เลือกทานอีกด้วย นอกจากนครปฐมแล้ว โพธารามเขาก็ขึ้นชื่อเรื่องข้าวหมูแดงเหมือนกัน แต่สูตรจะเป็นคนละสูตรกับของนครปฐม เพราะน้ำราดของที่นี่เขาจะเป็นสูตรพริกเผา สีจึงออกแดงกันคนละเฉด ใครอยากรู้ว่าเป็นอย่างไรคงต้องมาลองชิมดูกันเอาเองนะ เพราะตอนนี้ฉันจะไปกินก๋วยเตี๋ยวต้มยำที่ร้านดั้งเดิมอีกร้าน ที่นี่ฉันได้แต่ซื้อบะหมี่ไข่กลับไปทำกินเองที่บ้าน
ก๋วยเตี๋ยวป้าอ่อน ร้านก๋วยเตี๋ยวดั้งเดิมที่ว่า มีที่เด็ดแบบไม่ต้องปรุงเลย ได้แก่ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ เป็นก๋วยเตี๋ยวหมูสูตรต้มยำมะนาว ใส่หมูแดง หมูสับ แบบโบราณจริงๆ ฉันกับแม่ไปถึงก็ว่าบ่ายกว่าแล้ว คนยังเข้ามานั่งสั่งกินกันชามต่อชามได้เรื่อยๆ เหมือนเพิ่งจะเที่ยง
พออิ่มท้องเสร็จก็ให้นึกได้ว่า นี่เราตั้งใจจะมาหาคนสวยโพธารามนี่นา...ว่าแล้วก็คงต้องออกเดินด่อมดูตามบ้านตามช่องเขาเสียหน่อย เดินมาจนถึงโรงหนังเก่าชื่อ วิกครูทวี ในซอยมีร้านกาแฟ กาลนาน มีผู้คนดูหนาตา ฉันกับแม่เลยแวะเวียนเข้ามายลเสียหน่อย เห็นคนสวยอยู่คน สืบความได้ว่าเป็นเจ้าของร้านเลยล่ะ พี่เขาผิวพรรณดี อัธยาศัยดี แม่ชวนคุยจนได้รู้ว่าพี่เขาไม่ใช่คนราชบุรีและไม่ใช่คนโพธารามด้วย...เอ้า..ซะงั้น! หรือโพธารามจะสิ้นคนสวยเสียแล้ว?!!! (คนงามบ้านโป่งทั้ง 2 คนเลยแอบดีใจ)
ซ้าย : ร้านหัวมุมถนนเป็นร้านแว่น brand ท้องถิ่น ขวา : ร้านอาหารตามสั่ง "เฮียจุ้ย"
ซ้ายบน : ตึกแถวเก่ามา renovate เป็นออฟฟิส ซ้ายล่าง : หน้าร้านกาลนานตกเย็นคงเป็นถนนคนเดินแหล่งรวมวัยรุ่นของโพธาราม ขวา : ร้านกาลนาน
พี่เจ้าของร้านกาลนานคงเห็นฉันกับแม่ซอกแซกถามเยอะ เลยรู้ว่าไม่ใช่คนแถวนี้ พี่เขาเลยแนะนำว่าไหนๆ มาแล้ว ลองซื้อเต้าหู้ดำป้าเล็กติดมือกลับบ้านไปลองกินดู พร้อมกับเขียนแผนที่นำทางให้เสร็จสรรพ
ร้านเต้าหู้ดำที่ขึ้นชื่อที่นี่มีอยู่ 2 ร้าน คือ ร้านแม่เล็ก กับ ร้านเจ๊อั๊ง พี่ที่ร้านกาลนานบอกว่าเต้าหู้ดำร้านไหนอร่อยกว่าแกไม่รู้ แต่ส่วนตัวแล้วพี่แกชอบกาหนาไฉ่ที่ร้านเจ๊อั๊งมากกว่า แต่ฉันเดาเอาเองจากชื่อร้านว่าร้านแม่เล็กน่าจะเป็นสูตรดั้งเดิมเก่าแก่เพราะเป็นร้านที่เรียกว่าแม่ ส่วนเจ๊อั๊งน่าจะเป็นรุ่นหลังเพราะเราเรียกร้านว่าเจ๊...เกี่ยวมะ?
ฉันกับแม่จอดรถที่หน้าสถานีรถไฟตามที่พี่เขาบอก แล้วเดินไปตามแผนที่ พบร้านแม่เล็กกับเจ๊อั๊งอยู่เยื้องๆกัน ดังนั้นเพื่อพิสูจน์ให้รู้ว่าร้านไหนอร่อยกว่า เราก็เข้าไปเลือกซื้อและชิมมันทั้งสองร้านเลย
จากสถานีรถไฟ เดินตรงเข้าซอยด้านซ้ายจะเจอกับร้านเต้าหู้ดำเจ๊อั๊ง ถัดไปด้านขวาคือร้านแม่เล็ก
เต้าหู้ดำ ก็คือ เต้าหู้ที่ต้มกับน้ำพะโล้นั่นเอง แต่เต้าหู้ที่นี่เขาเลือกเต้าหู้ที่ทำมาจากถั่วเหลืองแท้ 100% ต้มเคี่ยวอยู่ 3 วันจนน้ำพะโล้เข้าเนื้อจึงนำมาวางขาย วิธีกินก็สุดแสนจะง่าย คือ จะกินเล่นแบบนี้เลยก็ได้หรือจะนำมาปรุงอาหารแทนเนื้อสัตว์ก็ดี ฉันเลยกะว่าจะเอามาต้มกับเส้นบะหมี่ที่ซื้อมาก่อนหน้านี้ซะเลย สำหรับใครที่อยากได้น้ำพะโล้ด้วยก็บอกคนขายได้นะ เขาไม่หวงและไม่คิดเงินเพิ่มแต่อย่างใด
มาถึงตรงนี้หลายคนคงคิดว่าสรุปแล้วร้านไหนอร่อย? ขอบอกว่าก็คงตามแต่ความชอบและรสชาติที่ถูกปากของใครของมัน ใครที่ชอบหวานหน่อยก็แนะนำของร้านแม่เล็ก รสจะออกหวานกว่า ส่วนคนที่ชอบกาหนาไฉ่ที่ร้านแม่เล็กมีสูตรน้ำมันงา เนื้อกาหนาไฉ่จะดูสดและเป็นชิ้นกว่าของร้านเจ๊อั๊ง แต่ตัวฉันชอบกาหนาไฉ่ของร้านเจ๊อั๊งมากกว่าเพราะดูไม่มันเท่าร้านแม่เล็ก
นอกจากนี้ร้านเจ๊อั๊งยังมีสินค้า Otop อื่นๆ ให้เลือกซื้อด้วย แม่ฉันซื้อผักกาดดองมาหลายถุง เห็นว่าของที่นี่ก็ขึ้นชื่ออยู่เหมือนกัน..แม่บอก พอเริ่มซื้อของเยอะก็เร่ิมมีการสนทนาพาทีระหว่างคนซื้อกับคนขาย เริ่มจาก มาจากไหน? รู้จักคนโน้นมั้ย? คนรู้จักคนนี้มั้ย เขาก็เคยอยู่ที่นี่ที่นั่น? ..... ฟังแม่กับเจ๊อั๊งคุยกันถึงคนรู้จักทั้งหลาย ก็เลยได้รู้ว่าทั้งโพธารามและบ้านโป่งต่างก็เป็นเมืองเล็กๆ ผู้คนจึงถึงกันง่าย บ้านไหนๆ ก็รู้จักกันหมด บ้านตากับยายฉันทำอู่ซ่อมรถบ้านโป่ง (อู่ซ่อมรถก็เป็นกิจการที่ขึ้นชื่อเช่นกันในอำเภอบ้านโป่ง) ก็เลยทำให้รู้จักกับเถ้าแก่รถสายโพธารามอยู่บ้าง ไล่กันไปมาก็รู้จักกันไปหมด (ส่วนพ่อฉันเองก็เป็นเถ้าแก่รถก็เลยมารู้จักกับแม่ที่เป็นลูกสาวของเถ้าแก่อู่ซ่อมรถเช่นกัน)
ก่อนกลับเจ๊อั๊งบอกให้ไปแถบหน้าวัดโพธาราม จะมีตลาดขายของกินอยู่มากมาย มีไอติมกะทิเจ๊หนูเจ้าอร่อยหน้าวัดที่น่าลอง ฉันกับแม่เลยเดินต่อไปที่หน้าวัด ร้านรวงเพิ่งจะเร่ิมตั้งได้เพียงไม่กี่ร้าน แถบนี้คงเป็นเหมือนตลาดเย็นหรือตลาดโต้รุ่งเหมือนกับหลายๆ อำเภอ ที่ตกเย็นคนจะคึกคักออกมาหาอะไรทานกันบริเวณนี้ เสียดายที่คงอีกนานกว่าจะตั้งร้านกันเสร็จ ฉันกับแม่เลยต้องขอกลับก่อน
แม้จะไม่เจอคนสวยโพธาราม แต่คนงามบ้านโป่งอย่างฉันกับแม่ก็เจอคนงามจิตใจไปหลายคน ทุกคนยิ้มแย้ม อัธยาศัยดี เต็มใจบอกทาง และแนะนำอาหารการกินให้โดยตลอด ไว้มีโอกาสเมื่อไหร่จะแวะมาเยี่ยมเยียนโพธารามใหม่แน่นอน. ***อ่านแล้วถูกใจ อุดหนุนเจ้าของ Blog ได้ด้วยการคลิ๊กแถบโฆษณาด้านขวามือให้ด้วยนะคะ
Create Date : 07 พฤษภาคม 2556 |
Last Update : 29 กรกฎาคม 2556 0:19:11 น. |
|
2 comments
|
Counter : 2236 Pageviews. |
|
|
|