ใกล้เข้ามาทุกทีสำหรับการประกวด "นางสาวไทย ประจำปี 2557" ซึ่งสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และเมืองไทยประกันชีวิต จัดขึ้นเพื่อเฟ้นหาผู้หญิงที่สวย ฉลาด มากความสามารถ

ภายใต้แนวคิด "8 ทศวรรษแห่งตำนาน ความงดงามคู่แผ่นดิน" โดยจัดการประกวดรอบสื่อมวลชนในวันที่ 21 พ.ย. พร้อมประกาศรางวัล "ขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน" ร่วมด้วยรางวัลพิเศษอื่นๆ จากผู้สนับ สนุนอีก 6 รางวัล

ส่วนรอบตัดสินจะมีขึ้นในค่ำคืนวันที่ 22 พ.ย.นี้ ที่โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ โมเดิร์นไนน์ทีวี ถ่ายทอดเวลา 20.50 น. เป็นต้นไป

ก่อนจะถึงวันรู้ผลว่าสาวใดจะครองมงกุฎ "นางสาวไทย ประจำปี 2557" ไปครอง 12 สาวงามจากผู้เข้าประกวด 24 คน เดินทางมายังกองบรรณาธิการ น.ส.พ.ข่าวสด เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนร่วมกันโหวต "นางงามขวัญใจมหาชน" พร้อมให้สัมภาษณ์อย่างเป็นกันเอง

น้องอ้อม น.ส.เกษราวดี เกิดด้วง อายุ 23 ปี หมายเลข 1 พนักงานทันตสาธารณสุข โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ จ.เพชรบูรณ์ เผยความรู้สึกว่า "ตื่นเต้นค่ะ แต่อ้อมเตรียมความพร้อมไว้ตั้งแต่ก่อนมาประกวด และคิดว่าเสน่ห์ของตัวเองอยู่ที่รอยยิ้มและดวงตา

พร้อมนำความสามารถพิเศษด้านนาฏลีลา ชุดระบำศรีเทพ ซึ่งเป็นการแสดงประจำจังหวัด เพชรบูรณ์มาแสดงค่ะ ส่วนรุ่นพี่นางสาวไทยที่ชื่นชอบ คือพี่บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี นางสาวไทยที่มีความสามารถและเก่งมากๆ"

ด้าน น้องเนส น.ส. ชุติมา สารศิลป์ อายุ 25 ปี หมายเลข 5 สาวเชียงใหม่ ปัจจุบันกำลังศึกษาระดับปริญญาโท คณะเภสัชศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกเล่าว่า "เคยเข้ารอบ 40 คน ในการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2013

คิดว่าสองเวทีมีความแตกต่างกัน มาประกวดครั้งนี้ได้พัฒนาตนเองในด้านบุคลิกภาพ ฝึกตอบคำถาม เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับตนเอง ส่วนอนาคตอยากนำความรู้ที่เรียนมาไปประกอบธุรกิจความงามค่ะ"

ขณะที่ น้องลี่ น.ส.เสาวลักษม์ ไชยศริรธัญญา อายุ 23 ปี หมายเลข 19 สาวลูกครึ่งไทย-ไต้หวัน เผยว่า "มีคนทักว่าตนเองมีเสน่ห์ที่รอยยิ้มเป็นธรรมชาติค่ะ สำหรับการประกวดนางสาวไทยเคยมาสมัครเมื่อปีที่ผ่านมา แต่ไม่เข้ารอบ จึงกลับไปพัฒนาตัวเองด้วยการปรับบุคลิกภาพ รวมทั้งฝึกด้านภาษาจีนที่นำมาใช้เป็นความสามารถพิเศษเพิ่มมากขึ้นด้วยค่ะ ทำให้ปีนี้มั่นใจเต็มที่"

กองประกวดยังเผยโฉมมงกุฎและคทานาง สาวไทย 2557 ออกแบบโดย นายชวลิต ชมเมือง นักออกแบบเครื่องประดับอันดับต้นๆ ของประเทศไทย โดยมงกุฎได้แรงบันดาลใจจากลายสร้อยพระศอเพชรของสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาสิริโสภาพัณณวดี องค์อุปถัมภ์วชิราวุธวิทยาลัย

ด้านหน้าประดับตราวชิราวุธลงยาสีน้ำเงินเข้ม 3 มิติ นูนสูง พร้อมนำเลข 8 มาใช้แทนสัญลักษณ์ 8 ทศวรรษนางสาวไทย และนำมาดัดแปลงให้เป็นเครื่องหมายอินฟินิตี้ สื่อความหมายว่า "ไม่สิ้นสุด" นำมาประกอบกับลายที่ด้านข้างและฐานของมงกุฎ

ส่วนด้านบนของมงกุฎประดับเข็มกลัดซึ่งออกแบบเป็นรูปอินฟินิตี้ สามารถถอดมาใช้งานเป็นเข็มกลัดหรือจี้ได้ ส่วนตัวเรือนมงกุฎใช้สีขาวทั้งหมด เพื่อขับเน้นให้เข็มกลัดสีม่วงโดดเด่นอยู่ตรงกลาง

สำหรับพลอยอเมทิสต์สีม่วง เป็นสีประจำวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ในการเป็นผู้สถาปนาวชิราวุธวิทยาลัย ส่วนพลอยพิงค์ทัวร์มาลีนมีสีชมพู เป็นสีประจำวันประสูติของสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาสิริโสภาพัณณวดี

และเพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 8 ทศวรรษการประกวดนางสาวไทย สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัยฯ และ บมจ.อสมท นำรูปแบบการประกวดในยุคแรกกลับมาอีกครั้ง โดยจัดทำวชิรคทามอบให้ผู้ได้รับตำแหน่งนางสาวไทยไว้ครอบครองเป็นเวลา 1 ปี ก่อนส่งมอบต่อให้นางสาวไทยคนถัดไป

นอกจากนี้ยังเพิ่มตำแหน่งรองนางสาวไทยเป็น 4 คนเหมือนเมื่อครั้งอดีต พร้อมจัดทำมงกุฎเกียรติยศให้สาวงามผู้ครองตำแหน่งรองนางสาวไทยอันดับ 1 และ 2 ด้วย

หน้า 25

 
          

ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์

สิริสวัสดิ์ศุกรวารค่ะ

Create Date : 21 พฤศจิกายน 2557
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2557 9:57:15 น.		0 comments
Counter : 1026 Pageviews.
Share Tweet