บริษัท เอ๋อ จำกัด(มหาชน)
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2552
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
11 พฤษภาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add บริษัท เอ๋อ จำกัด(มหาชน)'s blog to your web]
Links
 

 

แก้งาน...เรื่องธรรมดา ผิดจรรยาบรรณ หรือนี่มันลอกแล้ว!!

กระทู้จริงถูกอุ้ม เลยมาแปะไว้ในบล็อกแทนก็ได้ 5555

ต่อไปเป็นเนื้อหานะ


แก้งาน...เรื่องธรรมดา ผิดจรรยาบรรณ หรือนี่มันลอกแล้ว!!


เรื่องนี้เป็นเรื่องที่อมฯเริ่มต้นเล่าได้ยากมาก(และมีแนวโน้มว่าจะยาวอีกต่างหาก) แม้ว่าจะมีเรื่องราวอยู่ในหัวแล้ว เพราะมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงและถือว่าเกิดเมื่อไม่นานนี้เองด้วย

มันเป็นเรื่องที่เริ่มมาจากการแก้งานธรรมดาๆ การแก้งานให้เพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่งซึ่งเคยเป็นนักเขียนสังกัดสำนักพิมพ์สาวน้อยลูกกวาดแห่งหนึ่งซึ่งเธอกำลังร้อนใจเนื่องจากว่าจวนได้เวลาที่เธอต้องส่งต้นฉบับให้สำนักพิมพ์แล้ว

ซึ่งมันเป็นกำหนดการที่ทำให้เรารู้สึกทึ่งหน่อยๆ เนื่องจากเธอเล่าว่าสำนักพิมพ์มี “ใบสั่ง” มาให้เธอส่งต้นฉบับภายในวันที่กำหนดไว้ และถ้าหากเธอส่งไม่ได้ล่ะก็ ทั้งเธอทั้งสำนักพิมพ์ต้องเดือดร้อนกันหมดแน่ๆ เพราะคิวคงจะรวนและเกิดปัญหาไปหมด

มิหน้ำซ้ำ...เธอยังมีปัญหาสุขภาพ ซึ่งในสายตาของคนเป็นเพื่อนรุ่นน้องอย่างอมฯ เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด (แน่ล่ะ ถ้าพูดจาภาษานางเอกถือแก้วน้ำส้ม เอ๊ย ผิดคิว ต้องบอกว่าภาษาดอกไม้และความห่วงใยสิ) เพราะพี่เขามีปัญหาในเรื่องการมองและมึนๆว่าจะต้องไปหาหมอให้เช็คสุขภาพ

ด้วยเหตุนี้ นิยายที่ว่านั่น.....จึงมีการเร่งตรวจต้นฉบับกันตาลีตาเหลือกเพื่อคอมเม้นต์หาจุดบกพร่องหรือจุดไม่สมเหตุสมผลที่จะทำให้นิยายไม่สมบูรณ์และรีบส่งกลับไปให้พี่เขา...หรือเธอคนนั้นเพื่อจะได้เร่งแก้และส่งต้นฉบับให้ทัน

แต่อาจจะเพราะความไม่สบาย หรือเพราะความเร่งรีบที่ทางสำนักพิมพ์เร่งมาก(ตามปากคำเขา) หรืออย่างไรก็แล้วแต่ นิยายเรื่องนี้มีจุดบกพร่องถือว่าค่อนข้างเยอะมาก ต้องหาเหตุอะไรสักอย่างมาใส่เติม ไม่งั้นอ่านไปแล้วอาจมีคำถามแทบจะทุกตอนแน่ๆ

อย่างไรก็ตาม.....นิยายฉบับที่มีคอมเม้นต์บอกข้อความที่ต้องแก้ไข และจุดติยาวเป็นพรวนนั้นก็ส่งถึงมือเจ้าของจนได้......


แต่เรื่องนี้ยังไม่จบลงแต่ประการใด เนื่องจากเจ้าของผลงานเห็นจุดที่ต้องแก้แล้วเกิดจะหน้ามืดขึ้นมาซะเอง และไม่สามารถทำความเข้าใจหรือคิดหาเหตุผลมาตอบคำถามในเรื่องได้ตลอดรอดฝั่ง ซึ่งอมฯในขณะนั้นก็พอจะเข้าใจเขาได้อยู่ว่าคุณพี่หรือเธอผู้นั้นมีปัญหาสุขภาพ แถมยังห่วงผลงานตัวเองที่ต้องส่งสมองอาจจะไม่แล่นบ้างอย่างที่พี่เขากรีดร้องก็ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดแต่ประการใด

“เรื่องแปลก” เริ่มขึ้นหลังจากนั้นต่างหาก!

เมื่อพี่เขาบอกว่าตนเองสมองในขณะนั้นไม่สามารถทำงานตอบสนองต่อการที่ต้องแก้ยาวเหยียดได้ (อาจย่อด้วยภาษาชาวบ้านได้ว่าแก้ไม่ไหว แก้ไม่ได้จ้ะ) จึงขอร้องให้คนตรวจ....อมฯ(นามเต็มๆว่าอมราวตีค่ะ) ช่วยจรดปลายนิ้วลงบน “คีย์บอดร์ด” จัดการให้พี่เขาที

แน่นอน......ว่าอมฯต้องงงไปพักใหญ่ๆ แต่ยังงงไม่เสร็จ เราก็ยังไม่ลืมความจริงที่ว่าพี่เขามีปัญหาสุขภาพและกำหนดส่งงานที่หากไม่ทันคงเดือดร้อน(โปรดย้อนกลับไปอ่านข้างบนได้เพื่ออรรถรส) กระนั้นมันก็ไม่ได้ลดความลำบากใจของอมฯลงไปสักเท่าไร เพราะว่าจุดที่ต้องแก้นั้นบานตะเกียงทีเดียว อมฯเองก็ยังเป็นนักศึกษา (อมราวตีเป็นนักศึกษาจริงๆนะเออ อายุเพิ่งยี่สิบ—ปี๊ด—ด้วยซ้ำ) เดี๋ยวก็ต้องสอบ แถมไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าจะแก้ยังไง

กระนั้น ก็ใช่ว่าจะแก้ไม่ได้หรอก.....................................

บทสรุปของฉากโหมโรงนี้คือ เอาล่ะ อมยอมแก้ให้ก็ได้ แต่ไม่หมดหรอกนะ ช่วยได้แค่บางส่วนเพราะเวลามีไม่เยอะขนาดนั้น ซึ่งพี่เขาบอกว่าส่วนที่เหลือน่าจะพอจัดการเองได้

และอีกอย่าง “การแก้” ของอมฯในที่นี้ อมก็ไม่รู้จะแก้ให้อย่างไงเหมือนกัน เอาเป็นว่าอมจะเขียนเรื่องราวเติมลงไปในผลงานพี่ไว้เป็นไกด์ว่าเรื่องที่น่าจะเกิด หรือเหตุผลเป็นไง แล้วเน้นสีไว้ให้เพื่อให้เห็นว่าอมแก้ตรงไหนไปก็แล้วกัน
ไม่ว่ากันนะ?

คุณพี่คนนั้นตอบตกลงทันที

เอาล่ะ ในที่สุดก็เข้าประเด็นหลักของเรื่องนี้!!!

เรื่องต่อจากนี้มันเป็นคำถามง่ายๆสั้นๆ ว่า “ใครจะคิดว่าจะมีคนกล้าเอาข้อความที่คนอื่นเขียนเติมลงไปในนิยายของตัวเองไปเป็นของตัวเองกัน???????”

มันเป็นคำถามจากเรื่องที่เกิดขึ้นจริง(ไม่มีสตั๊นหรือตัวตายตัวแทนแน่ๆเรื่องนี้) ต้องบอกก่อนแหละว่าอย่างแรก อมไม่ได้เห็นผลงานฉบับสมบูรณ์ที่เจ้าของเรื่องเขาส่งให้ บก. และเมื่อหนังสือวางแผง อมไม่คิดจะซื้อเพราะพี่เจ้าของเรื่องเขาว่าจะให้ ซึ่งอมได้รับผลงานมาช้าหน่อย ก็เปิดดูแค่หน้าประวัตินักเขียนซึ่งสำนักพิมพ์นี้เขาจะให้นักเขียนเขียนไว้และจะมีขอบคุณใคร เรามักจะอ่านกันขำๆเพราะจะรู้ดีว่าคนที่ถูกเอ่ยในคำนำเป็นใคร แต่อมกำลังจะสอบไม่ค่อยสะดวกจะอ่านนิยายตอนนั้น (อ่านไปล่ะ เรื่องเรียนกระจายแน่) เลยวางไว้บนชั้นไปก่อน............

มันเป็นการพลาดที่ไม่น่าอภัยให้ตัวเองมาก เพราะอมวางลืมไว้กระทั่งไปเห็นของคนอื่นเข้า หยิบมาเปิดดูขำๆว่าเราช่วยแก้และเพิ่งได้เห็นและได้อ่านจริงๆแล้วแทบจะอ้าปากค้าง

เพราะอมฯจำสำนวนที่ปรากฏ เนื้อเรื่องที่เขียนอยู่ พวกนั้นได้ นั่นมันสิ่งที่อมเขียนนี่นา!!!!!!!

คราวนี้อมไม่แทบ แต่อ้าปากค้างจนพี่เจ้าของหนังสือตกใจมาก ว่าหนังสือพี่เขาทำอะไรอมหรือเปล่า อมถึงแน่นิ่งไปแบบนั้น แล้วพี่เขาจะมีความผิดไหม (กระทั่งเวลาแบบนี้ยังอุตส่าห์.............)

แต่ก็ต้องขอบใจพี่เขา เพราะพี่เขาทำให้อมได้สติกลับมา และตั้งหน้าตั้งตาอ่านสำรวจเป็นการใหญ่ก่อนจะโดนความจริงทั้งเล่มหล่นทับว่าดูเหมือนที่อมแก้ไปให้นั้นพี่เจ้าของผลงานจะทำเพียงแค่ตัดเติมคำหรือใส่ข้อความบางอย่างไปลงบนเรื่องราวที่อมเขียนไป

....................แน่นอนว่าอมเกือบจะค้างไปอีกรอบ แต่ต้องบอกก่อนว่ามันมีความจริงที่น่าตระหนกอยู่อีกสำหรับเรื่องราวของหนังสือเล่มนี้

เพราะคนที่แก้เรื่องนี้ไม่ได้มีอมแค่คนเดียว!!!!!!

อมรู้เรื่องหลังจากนั้นอีก.....จากการที่คุยเรื่องนิยายกับพี่คนหนึ่งที่คุ้นเคยสนิทสนมและความจริงพี่คนนี้เป็นหนึ่งในคนที่คอยคอมเม้นต์ดูงานให้น้องๆเสมอ(อมเองก็รบกวนพี่เขาในการหาคำวิจารณ์อยู่เหมือนกัน) และพี่เขาบ่นเรื่องงานพี่คนนี้มา ซึ่งอมแสดงความเห็นด้วยว่าผลงานที่บ่นต้องแก้เยอะมาก

และคำตอบของพี่เขาคือ......... “แน่ล่ะสิ ฉันยังต้องแก้ให้เป็นครึ่งเล่ม”

อมนึกว่าหูฝาดจนเกือบจะพ่นน้ำใส่พี่เขาและคงจะโดนกรี๊ดใส่จนไม่ได้เรื่อง อมจึงแค่ถามกลับว่าพี่แก้หรือ ซึ่งพี่เขายืนยันว่าเขาแก้ให้ อมจึงบอกไปว่าอมก็แก้งานเรื่องนี้ให้

ถ้าบรรยายกันแบบนิยายและอมเป็นตัวเอก....ก็ต้องบอกว่ามีลางสังหรณ์แล่นเข้ามาจนหนาวอย่างไม่น่าเชื่อจริงๆกลางประเทศไทยที่มีแต่ฤดูร้อนไปจนถึงร้อนที่สุดนี้ให้อมต้องถามพี่เขาว่า “แก้งาน” น่ะแก้ยังไง

เรื่องแบบนี้ลางสังหรณ์คนเรามักจะไม่ค่อยพลาดนัก........เพราะเป็นอย่างที่อมคิด พี่เขาแก้ให้แบบเดียวกับที่อมแก้ให้เจ้าของผลงานนั่นแหละ

อมไม่รีรอที่จะถามพี่เขาหรอกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรื่องราวที่อม “เขียนแก้” ให้พี่เขานั่น....... ปรากฏเป็นว่าพี่เขาไม่รู้เรื่อง
และจัดแจงหักคออมไปที่ร้านหนังสือที่ใกล้ที่สุดและหานิยายเรื่องนั้นอย่างเอาเป็นเอาตายทันที

แน่นอนว่าหลังจากนั้นอมก็ต้องหาอะไรมาดับร้อนและทำให้พี่คนแก้อีกคนที่อมไม่ยักรู้มาก่อนนั่นสงบลงพอที่จะไม่ร้องกรี๊ดไป.....

และเรื่องก็ยังไม่จบค่ะ เนื่องด้วยเราสองคนไม่รู้มาก่อน แต่พอพยายามติดต่อหาเจ้าของผลงานช่วงนั้น ก็ติดต่อไม่ค่อยได้นัก ตั้งท่าจะคุยอะไรกันจริงๆจังๆก็ไม่เคยได้คุยกันยาวสักที ทั้งอมและพี่ผู้นั้นรวมเป็นเราสองที่จะเป็นคำแทนตัวบางขณะในข้างหน้านั้นรู้สึกแย่มาก

เพราะเราไม่เคยคิดว่าจะมีนักเขียนคนไหน (พี่เขาไม่ใช่คนหัดเขียน ออกผลงานมากับสำนักพิมพ์ที่ว่าก็หลายเล่ม แถมบางทียังแอบไปรับจ็อบเขียนอีกแนวให้อีกสำนักพิมพ์คู่แข่งอีกต่างหาก) “กล้า” เอาสิ่งที่เราเขียนในผลงานเขาไปตัดแต่งแล้วส่งตีพิมพ์ทั้งอย่างนั้น อมฯเองก็เป็นคนที่เขียนนิยายคนหนึ่ง อมบอกได้เลยว่าผลงานของอมก็ต้องเป็น “งาน” ของอม และมันหมายความอย่างนั้นจริงๆ มันเป็นเรื่องธรรมดามากๆว่าใครล่ะ จะให้เรื่องที่คนอื่นเขียนอยู่ในนิยายเรา ไม่ใช่นิยายร่วมกันแต่งสักหน่อย และอมรู้สึกว่านี่มันหมิ่นเหม่หรือจะเรียกว่าผิดจรรยาบรรณนักเขียนก็ว่าได้แล้ว

แต่มันไม่ใช่แค่นั้น อมเข้าใจไม่ถูกนัก .....ว่าพี่เขาแค่ตัดแต่งหรือเติมบางอย่าง
ความจริงมีอยู่ว่า มีบางช่วงที่เจ้าของผลงานนั้นไม่ได้แก้อะไรเลย แต่เอาสิ่งที่อมเขียนเพื่อเติมในนิยายเธอให้มีเหตุผล(ตามหลักการแก้ว่าเป็นแนวแบบที่ตกลงกับเธอไว้แต่แรก)ใส่ลงไปทั้งอย่างนั้นโดยไม่แก้เลยก็มี!!!!!

อมเพิ่งเจอไฟล์เต็มๆเมื่อไม่นานมานี้ และรู้สึกแย่กว่าเดิมมากๆ เพราะเมื่อลองเปิดออกเทียบกันดูแล้ว จุดที่เห็นได้ชัดๆก็อย่างบางช่วงที่อมหรือพี่คนนั้นต้อง "เติม" เรื่องราวลงไปในนิยายเรื่องนี้ร่วมสามสี่หน้านั้น ยังอยู่ครบถ้วนใจความเดิมแบบที่อมหรือพี่คนนั้นเขียนเป๊ะๆไม่มีการแก้ไขใดๆทั้งสามหรือสี่หน้านั้น (นับได้ว่าเป็นสองในห้าของบทนั้นเลยก็ว่าได้)

Edit เพิ่มเติมค่ะ : บทที่ว่ามานี้คือ "ตัวอย่าง" ที่ชัดๆที่ยกมาค่ะ รายละเอียดยังไม่สามารถโพสให้ดูชัดๆได้ แต่บอกได้ค่ะว่ารวมคนแก้"ทุก"คนแล้ว อย่างน้อยที่โดนไปเป็นหน้านั้นโดนเฉลี่ยคนละสามหรือสี่หน้า ไม่นับที่ประปรายซึ่งดูแล้วพบว่าเป็นที่เราแก้ให้เกือบจะครบทุกบทค่ะ

ทั้งอมและพี่คนนั้นเกือบกลายเป็นหินคาหนังสือในมือกันเดี๋ยวนั้นเลย เราสองคนรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องร้ายแรงเอามากๆ ไม่คิดว่าพี่เขาจะเอาไปโดยแค่แก้นิดๆหน่อยๆก็เต็มทนแล้ว นี่เขายังเอาไปทั้งหน้าแบบนั้นโดยไม่แก้อีก ถึงขนาดต้องหันมาพูดกันว่านี่ตกลงเราเป็นนักเขียนเงาไปแล้วเหรอ????

เรื่องเป็นแบบนี้ แต่ที่เราอัศจรรย์ใจที่สุดคือ คุณพี่สาว(ซึ่งระยะนี้อมมักไม่ค่อยเรียกว่าพี่แต่เรียก "เธอ" บ่อยๆ) กลับทำลงไปและดูเหมือนจะไม่ได้คิดอะไรเลย เพราะเธอไม่ออกปากเรื่องนี้แม้แต่คำเดียว จนอมประหลาดใจมาก เพราะอมรู้สึกว่านี่มันเป็นเรื่องผิดนะ ไม่หมิ่นเหม่แล้ว แต่นี่มันผิดจรรยาบรรณการเขียนงานเลยนะ เราต้องให้เกียรติกับผลงานเราไม่ใช่หรือ?? แล้วทำไมพี่เอาสิ่งที่คนอื่นเขียนเติมให้พี่เป็นแนวทางเพื่อแก้ไขไปแปะเอาดื้อๆ ถ้าถามอม ....อมคงไม่อยากให้ใครเขียนอะไรเติมลงไปแต่แรกแล้ว แต่ถ้ามีใครมาเขียนจริงๆ อมคงเอาบทที่เขาเขียนแปะ ดูว่าเขาสื่ออะไร แล้วอมจะเขียนเองใหม่หมดแน่ๆเพราะมันเป็นงานของอม.....และอมถามเพื่อนอีกคนหรือสองคนที่เขียนหนังสือ เขาก็ว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น

แต่ทำไมมีแต่เจ้าของผลงานเรื่องนั้นที่ดูจะไม่รู้สึกรู้สาอะไร มิหนำซ้ำ...อมคงออกปากรายละเอียดต่อไปหมดไม่ได้ แต่อมและพี่ที่แก้นั้นประชดพี่เขาเพื่อลองใจบางอย่าง แต่เจ้าตัวกลับคิดว่าเราหมายความตามนั้นจริงๆและโกรธเราด้วยเรื่องที่เราประชดแทน

ที่แน่ใจคือ...ดูเหมือนเจ้าตัวจะคิดว่า "แก้งาน" แบบนี้เป็นเรื่องธรรมดาเอาจริงๆ ทั้งที่มันไม่ธรรมดาเลยในความเห็นอมและพี่คนนั้นที่หลงแก้งานไปให้ด้วยความเข้าใจและ"เชื่อใจ"พี่เขามากเกินไป

หรือว่าความจริงแล้ว เรื่องนี้มันจะเป็นแค่เรื่องธรรมดาเล็กน้อยจริงๆ หรือว่า..........มันเป็นเรื่องเฉพาะตัวบุคคลของ “คนเขียน” คนนั้นกันแน่???

เขียนออกมานี้ ตั้งใจว่าจะไม่ให้เครียดเกินไป แต่จริงๆแล้วอมก็หดหู่อยู่ค่ะ เพราะตอนนี้เรื่องลุกลามไปใหญ่โตมาก และมีคนที่พร้อมจะเชื่อ “เจ้าของผลงาน” โดยยังไม่ทันที่จะฟังเรื่องเต็มๆที่เกิดขึ้นกับอมหรือพี่อีกคนเลยสักนิด ที่สำคัญประเด็นนี้ไม่ได้รับการเหลียวแลเพราะพี่เขาไม่ยอมเอ่ย อมอยากเอ่ยแต่ดันไม่มีใครฟัง(เวรกรรม!) ด้วยเหตุนี้ อมจึงได้ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาค่ะ

คนอ่านทุกคนล่ะคะ คิดว่าตกลงเรื่องนี้มันเป็นเรื่องธรรมดาของการแก้งาน เรื่องเล็กน้อย หรือเป็นเรื่องที่คงจะเรียกได้ว่า “ลอก” สิ่งที่เราเขียนใส่ลงไปโดยที่เราเองไม่รู้ หรือเรื่องผิดจรรยาบรรณกัน???


แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 52 19:29:34

แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 52 19:27:05

จากคุณ : อมราวตี - [ วันฉัตรมงคล 16:50:02 ]




 

Create Date : 11 พฤษภาคม 2552
19 comments
Last Update : 11 พฤษภาคม 2552 12:42:03 น.
Counter : 2382 Pageviews.

 

ความคิดเห็นที่ 1

เก่งจริงๆ.....คนทำแกสุดยอด คิดได้ไงเนี่ย แก้งานหลายๆคน = แต่งนิยาย

ทำตัวเหมือน Project Manager เลย เอาคนมารวมๆกัน กรรมกร วิศวกร สถาปนิก โฟร์แมน ผู้ค้าวัสดุก่อสร้าง แล้วก็ออกมาเป็นอาคาร

จากคุณ : powerconduit - [ วันฉัตรมงคล 18:25:15 ]


ความคิดเห็นที่ 2

อืม...

จากคุณ : มะยม (ปลายอ้อย) - [ วันฉัตรมงคล 20:02:30 ]


ความคิดเห็นที่ 3

โหะๆ ถ้าผมเดาถูก คนยำงานต้องเป็นนักเขียนคนเดียวของสำนักพิมพ์ลูกกวาดที่ผมไม่เคยซื้องานเค้าแน่ๆเลย

จากคุณ : Mb. (mb.) - [ วันฉัตรมงคล 20:13:43 ]


ความคิดเห็นที่ 4

สนพ.ลูกกวาด ที่ว่านี่ใช่ สนพ.ที่ใครๆ ก็รู้จักใช่ไหม?
แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 52 20:22:11

จากคุณ : . (นายฮ้อย แห่ง หงซิ่ง) - [ วันฉัตรมงคล 20:17:36 ]



ความคิดเห็นที่ 5

โอย ต่อมอยากรู้ทำงานอย่างหนัก

จากคุณ : kitnan - [ วันฉัตรมงคล 21:21:18 ]



ความคิดเห็นที่ 6

มาปูเสื่อ ท่าทางจะยาว เหอๆ

พูดมาขนาดนี้ ไม่ต้องกั๊กแล้วม้างงง


(แก้ไขเพิ่มข้อความบรรทัดที่สอง พิมพ์ยังไม่ครบเผลอกดส่งก่อน)
แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 52 22:23:55

จากคุณ : ดับอนาจ - [ วันฉัตรมงคล 22:22:40 ]


ความคิดเห็นที่ 7

มาปูเสื่อ....




จากคุณ : Equator - [ วันฉัตรมงคล 22:24:15 ]


 

โดย: บริษัท เอ๋อ จำกัด(มหาชน) 11 พฤษภาคม 2552 12:44:53 น.  

 

ความคิดเห็นที่ 8

เห็นกระทู้นี้ดูแล้วต้องเรื่องยาวแน่ๆ

จากคคห.ที่เข้ามาตอบมีคนสงสัยว่าเป็นสนพ.อะไร

กระทู้นี้พูดถึง "สำนักพิมพ์สาวน้อยลูกกวาด" ซึ่งหลายๆ คนคงจะคิดถึงสนพ.แจ่มใส

จึงขออนุญาตชี้แจงการทำงานระหว่างนักเขียนกับสนพ.ของสนพ.แจ่มใส จะได้หายสงสัยกันไป ^^

...

1. สนพ.แจ่มใส ไม่เคยมี "ใบสั่ง" มอบให้นักเขียนนะคะ

สนพ.แจ่มใสมักมีโปรเจ็คต่างๆ มาเสนอให้นักเขียน เช่น โปรเจ็ควาเลนไทน์ ที่หลายๆ คนคุ้นเคย

นักเขียนมีสิทธิที่จะรับทำหรือไม่ทำก็ได้ ไม่มีการบังคับค่ะ แต่หลายๆ คนก็อยากทำ เพราะท้าทายความสามารถ ได้ทำอะไรใหม่ๆ


2. สนพ.แจ่มใสไม่เอาผลงานของนักเขียนลงแผน หากว่าเรื่องยังไม่ผ่าน

หากผลงานเรื่องนั้นๆ จะต้องมีการแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งก็แปลว่า ยังไม่ผ่านการพิจารณา บก.จะกำหนดระยะเวลาให้ส่งกลับมาพิจารณาใหม่ หากส่งไม่ทัน หรือส่งแล้วยังไม่ผ่านอีก ก็กลับไปแก้ใหม่

ต้นฉบับที่ผ่านแล้วพร้อมตีพิมพ์จึงจะได้ลงแผนค่ะ

สนพ.เดือนร้อนไหม ไม่หรอกค่ะ เพราะเมื่อเรื่องยังไม่ผ่าน ก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ กับผลงานเรื่องนั้น


3. ผลงานของนักเขียนก่อนส่งให้บก.และก่อนตีพิมพ์ อยู่ในความรับผิดชอบของนักเขียนค่ะ

สนพ.แจ่มใส ไม่สนับสนุนการลอกเลียน การแอบอ้างผลงานในทุกกรณี

คนที่ติดตามงานของสนพ.อยู่บ้างคงทราบแล้วว่า เคยมีนักเขียนลอกเลียนผลงานจากนักเขียนคนอื่นมา ได้รับการตีพิมพ์ ... ทางสนพ.เรียกเก็บหนังสือเล่มนั้นทั้งหมดกลับมาทำลายค่ะ

นักเขียนที่ลอกเลียน แอบอ้างผลงานของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง สนพ.แจ่มใสมีนโยบายแบน 5 ปี ถ้าหากนักเขียนไม่พอใจการลงโทษนี้ ก็สามารถเลือกที่จะพ้นจากการเป็นนักเขียนของสนพ.แจ่มใสได้

...

ขออนุญาตชี้แจงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสนพ.แจ่มใสแค่นี้ค่ะ ส่วนเรื่องในกระทู้นี้ จขกท.กล่าวถึงนักเขียนคนไหน อยู่สนพ.อะไร เรื่องนี้ให้อยู่ในวิจารณญาณของเจ้าของกระทู้นะคะว่า อยากจะเล่าหรือไม่อย่างไร

^^

จากคุณ : Clear Ice - [ วันฉัตรมงคล 22:25:59 ]







ความคิดเห็นที่ 9

อ่านกระทู้แล้วไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ของเจ้าของกระทู้สักเท่าไหร่

นักเขียนที่ว่าขอให้คุณช่วยแก้งาน พอคุณเห็นว่านักเขียนคนนั้นเอา
ข้อความที่คุณแก้ให้ไปใช้คุณก็มาตั้งกระทู้นี้

ถามสักคำเถอะว่าตอนคุณแก้งานให้นักเขียนรุ่นพี่ที่ว่าคุณไม่คิดเลยหรือว่า
นักเขียนคนนั้นจะเอาข้อความของคุณไปใช้

งงมากค่ะ จะแบ๊วไปไหนคะ 555

ถามว่านี่เรียกว่า "ลอก" หรือไม่ ไม่รู้สิคะก็คุณเขียนให้เขาเองนี่หว่า
รอผู้ชำนาญท่านอื่นมาตอบละกัน อิอิ

ถ้าถามว่าสำหรับนักเขียนคนนั้นมันผิดจรรยาบรรณหรือเปล่า ไม่รู้จะตอบยังไง
แต่ที่แน่ๆ นักเขียนคนนั้นไม่มีศักดิ์ศรีและไม่ควรจะเรียกตัวเองว่านักเขียน
ถ้าเราเป็นแฟนหนังสือของนักเขียนคนนั้นแล้วรู้ว่าทำแบบนี้คงเสียความรู้สึกพิลึก หึหึ


ฝากถึงเจ้าของกระทู้ เวลาตั้งกระทู้แบบนี้อย่าตั้งครึ่งๆ กลางๆ ให้ขามุงเซ็งค่ะ
อยากแฉอยู่แล้วก็เอาเสียให้ครบถ้วน จะได้ไม่ต้องเดา ขามุงจะได้เชียร์ได้ด่าถูกคน 555


ดังนั้นมาถอดรหัส "นักเขียนผู้ลึกลับ" ดีกว่า 5555

1. เพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่งซึ่งเคยเป็นนักเขียนสังกัดสำนักพิมพ์สาวน้อยลูกกวาดแห่งหนึ่ง

=> แปลว่าคนผู้นี้ไม่ได้เป็นนักเขียนสังกัดสำนักพิมพ์สาวน้อยลูกกวาดแห่งนี้แล้ว

2. พี่เขาไม่ใช่คนหัดเขียน ออกผลงานมากับสำนักพิมพ์ที่ว่าก็หลายเล่ม แถมบางทียังแอบ
ไปรับจ็อบเขียนอีกแนวให้อีกสำนักพิมพ์คู่แข่งอีกต่างหาก

=> แปลว่าที่ผ่านมามีผลงานให้กับหลายสำนักพิมพ์


จำได้ว่าไม่นานมานี้ได้อ่าน blog ของนักเขียนที่มีผลงานเขียนมาหลายเล่มแล้วคนหนึ่ง
ประกาศใน blog ของตัวเองว่าได้ออกจากสำนักพิมพ์ลูกกวาดแห่งหนึ่งแล้ว
ด้วยเหตุผลว่าเป็นเรื่องระหว่างสำนักพิมพ์กับนักเขียน นักเขียนบอกว่าเป็นความผิดของ
ตัวเอง

= แปลว่านักเขียนทำผิดอะไรสักอย่าง สำนักพิมพ์เลยเชิญออก

ใช่กรณีนี้หรือเปล่าคะเนี่ย ขามุงสงสัย 555


ขอฟันธงด้วยความมั่นใจ 80% ว่านักเขียนรุ่นพี่ที่เจ้าของกระทู้กำลังพยายามแฉก็คือ
นักเขียน ฟ. ที่เพิ่งออกจากสำนักพิมพ์ จ.ระหว่างที่อยู่สำนักพิมพ์ จ. ก็มีผลงาน
กับสำนักพิมพ์ พ. ในนามปากกา อ.

ใช่หรือไม่คะ 555555
แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 52 09:51:12

จากคุณ : บริษัท เอ๋อ จำกัด(มหาชน) - [ 6 พ.ค. 52 09:23:18 ]








ความคิดเห็นที่ 10

อืม...เราไม่เคยเป็นนักเขียนนะคะ

จากการอ่านตั้งแต่ต้นเราคิดไว้เหมือนกันว่านักเขียนเจ้าปัญหาคงเอางานของ จขกท. ไปใช้โดยไม่แก้ไขอยู่แล้ว เนื่องจากปัญหาข้างต้น เรายังคิดเลยว่าทำไม จขกท. ใจดีจังแก้งานให้ตั้งเยอะ สงสัยคงมีการตอบแทนเป็นรายได้ หรือสนิทสนมกับนักเขียนเป็นการส่วนตัว(อันนี้ในความคิดเราเองล้วนๆนะคะ)

พออ่านลงมาเรื่อยๆถึงเข้าใจว่า จขกท. มองว่ามันไม่เหมาะสม และเป็นจรรยาบรรณของนักเขียน

ถ้ามองในแง่ของเราที่ค่อนไปทางธุรกิจ หากไม่มีการตัดทอนหรือแก้ให้เป็นภาษาเฉพาะของนักเขียนเจ้าของเรื่อง ต้องมีค่าตอบแทนในส่วนของความคิดด้วยค่ะ หรือเบาะๆแล้วต้องมีการแจ้งให้ผู้อ่านทราบ ซึ่งมีหลายวิธีนี่ค่ะ ออกแนวใช้นามปากกาคู่กันก็ได้นิ(อันนี้เลียนแบบที่แจ่มใสใช้) แต่เราให้ความสำคัญกับเหตุผลแรกมากกว่า

หากมองในมุมของผู้อ่านเหมือนโดนดูถูกเลยค่ะ ถ้าเราเกิดชอบนิยายเรื่องนั้นจริง เราก็คงอยากซื้อหนังสือที่นักเขียนคนนั้นเขียนทุกเล่ม แต่มันกลายเป็นว่าทั้งหมดที่อ่านไม่ได้มาจากการกลั่นความคิดของเธอจริงๆ คงเซ็งหลายๆ

จากคุณ : โตขึ้นจะกลายเป็นยุง (โตขึ้นจะกลายเป็นยุง) - [ 6 พ.ค. 52 09:23:37 ]







ความคิดเห็นที่ 11

^
^

คุณลูกน้ำ(โตขึ้นจะกลายเป็นยุง)จุดประเด็นน่าสนใจ
ไม่ทราบว่าเจ้าของกระทู้ได้รับค่าตอบแทนจากนักเขียนที่ว่าหรือเปล่าคะ

จากคุณ : บริษัท เอ๋อ จำกัด(มหาชน) - [ 6 พ.ค. 52 09:28:40 ]







ความคิดเห็นที่ 12

ยิ่งใบ้ ก็ยิ่งไม่รู้ว่าเป็นใคร

จากคุณ : MiKi (Sichon) - [ 6 พ.ค. 52 10:22:35 ]







ความคิดเห็นที่ 13

จากคำใบ้
-สนพ.จิมพ์คำ
-สนพ.จันดี
-สนพ.จธุรดา หรือสนพ.จี๋ม่วงอ่อนหว่า?

เหะๆแซวเล่นอ่ะ เดาไม่ออกอ่ะ ใบ้เพิ่มได้เปล่าคะว่าล๊อกอินอะไร ^^

สำหรับจขกท.
-เจ้าของกระทู้ได้ค่าตอบแทนเหรอเปล่า
-นักเขียนได้ขออนุญาตเจ้าของกระทู้เพื่อเอาสิ่งที่จขกท.ไปตีพิมพ์เหรอเปล่า
-จขกท.ต้องการแฉ? ต้องการฟ้องร้อง? ต้องการ...???

จากคุณ : มันไม่ใช่ดาว มันไม่ใช่ดาววว - [ 6 พ.ค. 52 10:48:31 A:58.9.51.34 X: ]







ความคิดเห็นที่ 14

ขอบคุณที่ทุกคนช่วยทำให้เป็นกระทู้แนะนำค่ะ ^^

แต่ว่าอ่านคำตอบบางคำตอบแล้วก่อนอื่นขอชี้แจงรายประเด็นที่กำลังสงสัยตอนนี้ก็แล้วกันนะคะ

คุณบริษัทเอ๋อฯ ก่อนอื่นขอท้วงนิดนะคะ >>>>งงมากค่ะ จะแบ๊วไปไหนคะ 555<<<< นี่เคืองใจอะไรอมฯมาก่อนหรือเปล่าคะ ถึงต้องใช้ถ้อยคำรุนแรงขนาดนี้ ตั้งกระทู้นี้มาถึงแม้ว่าต้นเหตุจะมาจากความรู้สึกลบ แต่ก็ไม่อยากให้พันทิพกลายเป็นอุปกรณ์เพื่อการทะเลาะกันหรือระบายอารมณ์โดยไม่ใช้เหตุผลอย่างเดียว เพราะงั้นขอให้ระวังคำมากกว่านี้อีกนิดในกระทู้แล้วกันค่ะ

ส่วนประเด็นที่คุณถามอมฯ คือ

>>>>ถามสักคำเถอะว่าตอนคุณแก้งานให้นักเขียนรุ่นพี่ที่ว่าคุณไม่คิดเลยหรือว่า นักเขียนคนนั้นจะเอาข้อความของคุณไปใช้

>>>>ถามว่านี่เรียกว่า "ลอก" หรือไม่ ไม่รู้สิคะก็คุณเขียนให้เขาเองนี่หว่า

>>>>ถามว่าสำหรับนักเขียนคนนั้นมันผิดจรรยาบรรณหรือเปล่า ไม่รู้จะตอบยังไง

สำหรับคำตอบนั้นขอตอบตามนี้เลยค่ะว่า >>>นักเขียนคนนั้นไม่มีศักดิ์ศรีและไม่ควรจะเรียกตัวเองว่านักเขียน ถ้าเราเป็นแฟนหนังสือของนักเขียนคนนั้นแล้วรู้ว่าทำแบบนี้คงเสียความรู้สึกพิลึก <<<< ซึ่งตอบตามความจริงแล้วในฐานะที่เขียนหนังสืออยู่คนหนึ่งเหมือนกัน คิดเหมือนกันค่ะว่ามันเป็นเรื่องของการเสียความรู้สึกของเรื่องนี้

เพราะว่าเดิมทีการแก้งานให้ คือการทำในฐานะเพื่อน(ที่อาจจะเป็นรุ่นน้อง)คนหนึ่ง ดังนั้นเริ่มต้นไปด้วยน้ำใจค่ะ เริ่มไปแบบไม่มีคำว่าผลประโยชน์อะไรอยู่ในความคิดทั้งสิ้นค่ะ คบกับพี่เขามาตั้งหลายปี ลงพี่เขามาบอกว่ามีปัญหาสุขภาพที่ห่วงก็ต้องเป็นสุขภาพ เป็นเรื่องธรรมดาค่ะ ดังนั้น เรื่องนี้ทำไปให้ด้วยน้ำใจค่ะ ไม่ได้ทำเพราะถูกพี่เขาจ้างวาน เราเป็นเพื่อนกันมาตลอด ดังนั้นจึงไม่เคยคิดคุยกับพี่เขาในลักษณะแบบนั้น ความรู้สึกที่ทำให้เป็นเพราะความเวทนาสงสารที่เขามาอ้อนวอนให้ฟังล้วนๆค่ะ

ดังนั้น อมฯบอกได้ค่ะว่าอมฯคาดไม่ถึงที่เขาจะทำอย่างที่แจ้งในกระทู้ไป ซึ่งเพื่อความชัดเจน อย่างน้อยบอกได้ว่ารวมเบ็ดเสร็จที่เขียนด้วยมือของคนอื่นไปปรากฏอยู่ในเรื่องซะ 70 เปอร์เซนต์แล้ว

ซึ่งที่ต้องตั้งกระทู้มาเพราะอย่างนี้แหละค่ะ เนื่องจากว่ามีฝ่ายคนดีหลายคนที่อยากจะเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ พยายามพูดกับอมฯว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา เขาเองก็เคยช่วยคิดสำนวนหรือประโยคเด็ดๆในนิยายเพื่อน แล้วก็ปลอบใจอมฯมาว่าอย่าคิดมากเลย ควรจะดีใจมากกว่านะในกรณีนี้

แถมคนที่เข้ามาพูดไม่ได้มีแค่คนเดียว อมฯจึงต้องเข้ามาตั้งกระทู้นี้ค่ะว่าตกลงแล้วมันเป็นเรื่องธรรมดาจริงๆหรือเปล่า อมฯโอเว่อร์ไปเองหรือเปล่า มันไม่ใช่เรื่องใหญ่เรื่องโตเลย มีหลายคนบอกอย่างนี้จนจิตตกหลอกหลอนไปแล้วค่ะ

ส่วนเรื่อง "ถอดรหัสลับกระทู้วันนี้" ที่ว่ามานั้น จขกท.ไม่ได้เอ่ยนะคะ ไม่งั้นเดี๋ยวอาจมีการพานอกประเด็นไปเรื่องกฏหมายได้ (ขอระวังตัวไว้ก่อนแล้วกันค่ะ ^^") เพราะงั้นในเรื่องว่าเป็น สนพ.ไหน อย่างไร ต้องขอสงวนไว้ก่อนด้วยค่ะ ^O^

จากคุณ : อมราวตี - [ 6 พ.ค. 52 12:19:37 ]







ความคิดเห็นที่ 15

มาอ่านต่อ แล้วคิดงี้นะ คือมันสำคัญที่ตอนแรกคุยกันว่าไง

และที่จขกท.บอกว่าแก้งานให้เขาเป็นหน้าๆแล้วเขาก็นำสิ่งที่จขกท.เขียนไปลงทั้งหน้า
หมายความที่จขกท.แก้ให้เขาเป็นประเภทเขียนทั้งบทบรรยาย บทสนทนา หรือว่าง่ายๆ เขียนเนื้อให้เสร็จสรรพ (แล้วทำกันได้ไงเนี่ย ช่วยเขียนตั้งหลายคน)
ทีนี้เจ้าของเรื่องเค้าเลยทึกทักเองเปล่า ด้วยความสัมพันธ์ส่วนตัวถึงขนาดไหว้วานได้
บวกกับสิ่งที่จขกท.เขียนให้เป็นฉากๆเลยคิดว่า น้องเขาคงใจดีให้พี่เอาไปใช้ได้ ไม่งั้นคงไม่เขียนละเอียดยิบอย่างนี้
เพราะไม่งั้นจขกท.แค่เขียนแนะนำเป็นจุดๆให้เขาก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเขียนเป็นฉากๆให้

แต่ยังไงการที่จขกท.เขียนให้ สำหรับเราคิดว่าโดยมารยาทและสำนึกที่ดี
นักเขียนผู้นั้นก็ควรขออนุญาตกับจขกท.(รวมถึงท่านอื่น)ก่อน ไม่งั้นมันจะมักง่าย สบายไปหน่อยนะ (อยากมีเพื่อนอย่างจขกท.บ้าง 55)
และหลังเกิดเรื่องนี่ได้คุย ได้ขอโทษอะไรกันหรอืยัง

ป.ล.ไขรหัสออกแล้ว หุ หุ

จากคุณ : ดาว - [ 6 พ.ค. 52 13:55:09 A:58.9.47.142 X: ]



 

โดย: บริษัท เอ๋อ จำกัด(มหาชน) 11 พฤษภาคม 2552 12:47:20 น.  

 

ความคิดเห็นที่ 16

มาตอบคำถาม

อ่านแล้วกรณีนี้

ธรรมดาไหม - ไม่ธรรมดาแน่

ลอกไหม - ไม่ 100 เปอร์เซนต์

จรรยาบรรณกับมารยาท อาจจะใช่

ความเห็นส่วนตัว ต้องมองเจตนา ของการให้แก้

ถ้าขอให้แก้เพราะแค่ต้องการให้แก้ นักเขียนท่านนี้แค่ลดระดับความเป็นมืออาชีพของตนเอง และไม่ได้ให้เครดิตคนที่ทำให้เท่าที่ควร

การแก้และการเอาไปใช้ในลักษณะนี้เหมือน นศ ที่อาจารย์แก้งานให้มากกว่าจะเป็นการทำงานแบบมืออาชีพจริงๆ

แต่ถ้าเจตนาส่งให้หลายๆคนแก้ แล้วเอามายำ ก็... อืมม

เป็นเรื่องพิสูจน์ยากหรือง่ายน้า

จากคุณ : Deckard - [ 6 พ.ค. 52 14:03:26 ]







ความคิดเห็นที่ 17

เรื่องนี้มองได้ว่าเป็นความเชื่อใจและรู้จักนิสัยกันของทั้งสองฝ่าย พวกคุณรู้จักกันมาตั้งหลายปี คุณน่าจะรู้จักนิสัยของเพื่อนของคุณดีพอสมควร

เชื่อใจ - พูดคุย - ตกลง - เขาจะเอาสิ่งที่คุณเขียนไปยำ แปลงเป็นของตนเอง หรือว่านำไปใช้ทั้งดุนโดยไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลย

เพราะเท่าที่ตีปริศนาอักษรลับออก คุณกับอีกฝั่งหนึ่งรู้จักกันน่าจะเกิน 5 ปีแล้ว อุปนิสัยของแต่ละคนเป็นยังไง น่าจะพอรู้กันในระดับหนึ่ง

ในวงสังคมนักเขียน เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องธรรมดามาก ไม่ว่าจะแก้ให้ทั้งเรื่อง แต่งเติมให้นิดหน่อย แนะนำพล็อตที่ติดขัด หรือเขียนเป็นไกด์ไลน์ให้ทั้งหน้า บางทียังยกพล็อตนิยายเรื่องหนึ่งให้ไปเขียนก็มี

อ่านกระทู้นี้แล้ว ทำให้คิดขึ้นได้และต้องเตือนใจตัวเองว่า มิตรภาพต้องมาจากทั้งสองฝ่ายจริงๆ ไม่ต้องอิงผลประโยชน์

จากคุณ : maymaymay - [ 6 พ.ค. 52 14:38:25 A:58.136.229.186 X: TicketID:142171 ]







ความคิดเห็นที่ 18

ก็ยังเด็กอยู่ทั้งสองฝ่ายนั่นล่ะค่ะ (หากนับจากการได้เผชิญมนุษย์ในโลกนี้) ถึงได้ไม่รู้ว่ายังมีประชาชนนอกเหนือจากคนที่จะเข้าข้างตัวเองอีกมาก ตัวอย่างก็เห็นได้จากคคห.ข้างต้น มีบางคคห.คิดว่าแรงไปสำหรับคนรับสารโดยตรง แต่ถ้าจะให้คิดว่าเป็นคนตรงๆ โผงผางก็เห็นด้วย เพราะเขาไม่มีความจำเป็นต้องมานั่งโอ๋ใคร จริงไหม?

อย่าเพิ่งดีใจกับการได้รู้ว่าคนรอบตัว เข้าข้างเรา เพราะคนไกลตัวได้ยินแล้วเขาสามารถคิดไปได้หลากหลาย ไม่ใช่ว่าจะเลือกเข้าข้างใดข้างหนึ่งเสมอ มันควบคุมได้ยากนะ การก่อให้เกิดเรื่องขึ้นแล้วปล่อยให้มันลอยไปเพราะคำพูดของเราน่ะ

แต่เมื่อตัดสินใจจะมีเรื่องกันไปแล้ว ก็ขอให้หาทางแก้ไขดีๆ ให้ได้ ไม่อย่างนั้น...ระวังผลเสียทั้งสองฝ่ายแล้วกันค่ะ

จากคุณ : ฯคีตกาล - [ 6 พ.ค. 52 15:02:18 ]







ความคิดเห็นที่ 19

อ่านมาตั้งเยอะ

ไม่เข้่าใจว่า

จขกท.ต้องการอะไร
เพื่ออะไร

้ต้องการแฉ และด่า และประจาน รุ่นพี่ ที่เอาผลงานของ จขกท.ไปใช้?
(ซึ่งเป็นสิทธิ จขกท. และสมาชิกพันทิปทุกคน จะกระทำได้)

หรือ

ต้องการเรียกร้องสิทธิว่า ข้าพเจ้าไม่ใช่นักเขียนเงานะเฟร้ย
(ซึ่งก็เป็นเรื่องทางกฏหมาย ไม่เกี่ยวอะไรกับผม และคงเข้ายุ่งไม่ได้)

หรือ

ต้องการเล่านิยายสนุกๆให้ฟัง
(ก็จะรับฟังอย่างดี)

หรือ

ต้องการเสียงสนับสนุน ยกธงขึ้นโบก เฮไหนเฮนั่น
(ถ้าเป็นกรณีนี้ ผมจะได้ไม่เข้ามาแสดงความเห็นส่วนตัวของผม)

ที่สงสัย
เพราะคำถามของย่อหน้าสุดท้ายของกระทู้ มันไม่ชัดเจน และขัดกับเรื่ืองที่เล่ามาในกระทู้หลายๆอย่าง

และในเนื้อหากระทู้เอง ก็มีคำถามอีกหลายคำถามเช่นกัน
ซึ่งไม่แน่ใจว่า ต้องการคำตอบหรือไม่

ที่ต้องการรายละเอียด เพราะถ้าจะเอาความเห็น มันต้องตีความตามตัวอักษรทุกบรรทัด ทุกวรรค ทุกประโยค

เพราะเป็นเรื่องเล่าให้ฟังข้างเดียว
และสรุปความต้องการหลายๆอย่าง ไปเรียบร้อยแล้ว

จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 6 พ.ค. 52 15:24:12 ]







ความคิดเห็นที่ 20

ท่าทางจะมี Hidden Agenda มิใช่น้อย




จากคุณ : waidhaya - [ 6 พ.ค. 52 15:28:05 ]


 

โดย: บริษัท เอ๋อ จำกัด(มหาชน) 11 พฤษภาคม 2552 12:54:10 น.  

 

ความคิดเห็นที่ 21

ปัญหาคุณสองคนมีนิยามของคำว่าแก้ต่างกันรึเปล่า

คือคุณคิดว่าแก้คือ "แนะ" ว่าควรทำอย่างไร ให้เขาไปทำต่อเอง
ขณะที่เขาคิดว่าแก้คือ "ทำผิดให้เป็นถูก" ตบแต่งต่อเติมให้เข้าที่
เขาก็เลยคิดว่าที่คุณทำให้นั้นย่อมนำไปใช้ได้
เหมือนเพื่อนเอางานมาให้ตรวจ คุณก็ลบๆแล้วเขียนเพิ่มให้ เพื่อนก็เอาไปส่ง
มันต่างกับกรณีที่ยืมงานคุณไป แล้วลอกแปะๆมากเหมือนกันนะคะ
จะว่าเขาถูกร้อยเปอร์เซนต์ก็ไม่ใช่ แต่จะผิดเต็มประตูก็ไม่ถูกเหมือนกันนะ

แต่ถ้าเป็นกรณีที่สองอย่างที่คุณ Deckard พูดนี่ก็น่าสาปส่งแล้วล่ะ -_-"

ปล. ไปถอดรหัสดาวินชี่โค้ดมาแล้ว โล่งอก คืนนี้จะได้นอนหลับ 555

จากคุณ : ทินา - [ 6 พ.ค. 52 15:28:33 ]







ความคิดเห็นที่ 22

ก็เป็นเรื่องที่คุยกันมาสองคนตั้งแต่แรกน่ะนะ เราก็ไม่รู้ว่าคุณทั้งสองคุยกันมายังไง ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกันแค่ไหน แต่ในฐานะคน (นักเขียน) ชอบมุงแล้วล่ะก็ เราขอบอกว่าการที่นักเขียนเอางานของตัวเองไปให้คนอื่นแก้ให้นี่มันตลก และไม่มีจรรยาบรรณสุดๆ แล้วล่ะ เขียนเองก็ควรรับผิดชอบเอง ไม่อย่างนั้นควรบอกว่าเป็น "ทีม" เขียน ไม่ใช่เขียนด้วยคนเพียงคนเดียว

แล้วความสัมพันธ์ของคุณ จขกท. กับเพื่อนนักเขียนคนนั้นเป็นยังไงต่อไปคะ

ปล.ขออนุญาตบอกว่าอ่านข้ามๆ มาก เพราะภาษาของคุณจขกท.ยืดเยื้อมากค่ะ ขอโทษนะคะไม่มีเจตนาวิจารณ์ แต่รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ขออภัยอีกครั้งค่ะ

จากคุณ : tiara - [ 6 พ.ค. 52 15:33:53 ]







ความคิดเห็นที่ 23

อุ๊ยตายยยยยยยยยยยยยย

ขอโทษคุณอมฯ เจ้าของกระทู้ด้วยนะคะที่คุณรู้สึกว่าคำว่า "แบ๊ว" นั้นแรงไป
แต่จะให้คิดคำอื่นก็คิดไม่ออกแล้วค่ะ เพราะคำว่า "แบ๊ว" นี่เบาสุดเท่าที่คิดออก
สำหรับกรณีนี้แล้วค่ะ 555

เราจะไปเคยไปเคืองคุณมาก่อนได้ยังไงคะ ก่อนคุณจะตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเรายังไม่รู้
เลยว่ามีคุณอยู่บนโลกใบนี้ อย่าสำคัญตนผิดไปว่าใครๆ ก็ต้องรู้จักคุณสิ

นักเขียน ฟ. (นามสมมติ) ที่ว่ายังจะดังกว่าคุณมาก 5555

ว่าแต่คุณเป็นใคร ไปทำอะไรไว้หรือคะ ถึงสงสัยว่าจะมีคนเคืองคุณอยู่


สรุปว่าคุณไม่ได้ทวงเงินจากนักเขียน ฟ. (นามสมมติ) แน่ๆ ใช่ไหมคะ

คุณบอกว่า "ความรู้สึกที่ทำให้เป็นเพราะความเวทนาสงสารที่เขามาอ้อนวอนให้ฟัง"
แล้วมาตั้งกระทู้นี้ด้วยความรู้สึกอะไร สงสัยจริงเชียว

คำถามที่ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดาหรือคอขาดบาดตายแค่ไหน จะขอรออ่าน
คำตอบของนักเขียนทั้งหลายด้วยคนค่ะ เราที่เป็นขามุงก็อยากรู้ 55555

จากคุณ : บริษัท เอ๋อ จำกัด(มหาชน) - [ 6 พ.ค. 52 15:49:02 ]







ความคิดเห็นที่ 24

อยากรู้มากกว่าว่า ตอนนี้จขกท.กับนักเขียนคนนั้นได้คุยอะไรกันไปบ้างรึยังคับ

จากคุณ : sanow - [ 6 พ.ค. 52 16:07:32 ]







ความคิดเห็นที่ 25

จากที่อ่าน รู้สึกว่าคุณคนเขียนกระทู้จะวกไปวนมามาก
อยากจะถามคุณกลับคำนึง คำว่าน้ำใจ ถ้าเรามีให้เขา ช่วยเหลือเขาด้วยความจริงใจจริง ทำไมจะต้องหักหลัง เอามาเขียนลงแบบนี้ แบบนี้เขาเรียกว่าอะไร
พูดตรงๆเลยนะ ถ้าข้าพเจ้ามีเพื่อนแบบนี้ ทำทีช่วยเหลือข้าพเจ้า แล้วเอามาป่าวประกาศ เหมือนจุดประสงค์เพื่อประจาน ข้าพเจ้าคงรู้สึกว่าคนๆนี้ไม่ใช่เพื่อน ต้องเรีกว่าเพื่อนเทียมมากกว่า ความรู้สึกดีๆที่เคยมีให้ และความประทับใจ กับคำขอบคุณในใจที่ว่าเขาเป็นคนดีมีน้ำใจช่วยเหลือเรา คงมลายหายไปกับการกระทำนี้ และรู้สึกแย่มากๆ ว่าทำไมเป็นคนแบบนี้
และพูดจริงๆนะ ปัญหาที่เป็นปัญหาภายใน ทำไมไม่เจรจาพูดคุยกันเองภายใน การที่คุณเอาเรื่องภายในที่ทำงาน วงในกลุ่มเพื่อนร่วมงานมาแพร่งพรายแบบนี้ คุณทำเพื่ออะไร ถ้าจะบอกว่าเพื่อถามความคิดเห็น จากเนื้อเรื่องของคุณ คนในบริษัทในตำแหน่งต่างๆที่อยู่แวดวงเดียวกันน่าจะให้คำตอบคุณได้กระจ่างกว่าคนวงนอกอย่างพวกเราที่ไม่รู้ความจริงเท็จของเรื่องนี้เลย เพราะพวกเราฟังจากที่คุณพูดฝ่ายเดียว พวกเราจึงให้ความเห็นได้แค่เป็นกลาง
แต่อยากบอกตรงๆนะ สิ่งที่คุณทำไม่เหมาะสมเลย เพราะมันเป็นการไม่ดีต่อบริษัทที่คุณทำงานอยู่ และเพื่อนร่วมงานของคุณ ที่เขาเชื่อใจคุณ วันนี้หากเขาได้มาอ่าน คุณได้ความสะใจ แต่เขาหล่ะ บริษัทหล่ะ ได้อะไรที่ดีจากคุณบ้างหรือ อันนี้เรียกว่า"คนดีไม่จริง"นะ
"ไฟในอย่านำออก ไฟนอกอย่านำเข้า" คุณรู้ความหมายและจุดประสงค์ของคำประโยคนี้รึเปล่า
และถามคุณอีกอย่าง หากคนเขาทำไม่ดี คุณจะทำไม่ดีตามเขาหรอ
แต่สิ่งที่คุณทำอยู่ตอนนี้มันเข้าข่ายประโยคนี้เลยนะ ทำไมหล่ะคนเรามีสมองมีทางเลือก เลือกเป็นคนดี ทำในสิ่งที่ดีไม่ได้หรอ เราเอามาลงว่าเขาปาวๆว่าเขาไม่ดี เรานั้นดี แต่การกระทำที่ตัวเราทำอยู่ (เอาเรื่องภายในมาเล่า) มันเป็นการกระทำของคนดีหรอ ถ้าคุณต้องการความเป็นธรรมอะไร ก็ไปคุยกับเขาเองสิ ไปปรึกษาคนในวงการในที่ทำงานที่รู้เรื่องนี้เพื่อจัดการเรื่องสิ อย่ามาใช้สื่อ ใช้พวกเราเป็นเครื่องมือ เรารู้สึกแย่จริงๆ

จากคุณ : คนกลาง - [ 6 พ.ค. 52 16:54:19 A:58.8.178.96 X: ]



 

โดย: บริษัท เอ๋อ จำกัด(มหาชน) 11 พฤษภาคม 2552 12:54:52 น.  

 

ความคิดเห็นที่ 26

อืม...พูดยากแฮะ แต่ในฐานะที่เป็นคนหนึ่งที่เป็นนักเขียนเหมือนกันก้ออยากจะขอออกความเห็นดูบ้าง

เท่าที่อ่านมานะคะ รู้สึกว่า....นี่อาจจะเป็นการทะเลาะกันระหว่างคนสองคนที่ดูเหมือนว่าจะตกลงกันไม่ได้ (จนทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น) แต่ถ้าจะให้ออกความเห็นเรื่องที่เขาคนนั้นนำงานเขียนของตนเองไปให้คนอื่นช่วยแก้ อันนี้คงออกความเห็นไม่ถนัดนัก เพราะตัวเองไม่เคยทำแบบนั้น อย่างมากก็แค่ให้อ่านและชี้จุดเท่านั้น(ยังไม่เคยให้ทำถึงขนาดลงมือแก้ไขให้)

แต่ก็อย่างว่าค่ะ มันเป็นการพูดจาตกลงกันระหว่างคนสองคน( ซึ่งอันนี้พวกเราที่ได้เข้ามาอ่าน ไม่อาจรับรู้ได้ว่าสิ่งที่คุณเขียนมามันใช่และตรงกับสิ่งที่เกิดขึ้นหรือไม่) อย่างที่บอกค่ะ มันอยู่ที่ว่าคุณสองคนพูดคุยกันว่าอย่างไร

แต่ถ้าถามว่าการให้คนอื่นช่วยแก้งานให้มันผิดมั้ย อันนี้ในความเห็นส่วนตัว คิดว่าไม่ใช่ความผิดนะคะ ( แต่ไม่เคยทำนะคะ แค่ออกความเห็น) ถ้าเขาคนนั้นนำชื่อของคนที่ช่วยงานมาเขียนให้ เครดิตด้วย (ซึ่งอันนี้ไม่รู้ว่าเขาคนนั้นทำแบบนี้หรือเปล่า) และถ้าให้ออกความเห็นว่าคุณเป็น 'นักเขียนเงา' หรือเปล่า คิดว่าไม่ใช่นะคะ เพราะคุณเพียงแก้ไข มิใช่เขียนทั้งหมด!!

จากคุณ : นักเขียนคนหนึ่งเหมือนกัน (fungirl78) - [ 6 พ.ค. 52 16:59:33 ]







ความคิดเห็นที่ 27

มีกรณีแปลกๆ เกิดขึ้นในวงการนักเขียนมาให้เรารับรู้เรื่อยๆ เลยแฮะ

มาที่กรณีนี้นะคะ จะขอตอบเฉพาะประเด็นที่ จขกท. ถามเท่านั้นค่ะ

เรามองเป็นเรื่องผิดจรรยาบรรณค่ะ ไม่มีศักดิ์ศรีควรค่าแก่การจะเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียน ถึงแม้จะเอาเรื่องเวลา เรื่องสุขภาพมาอ้างก็ตามที และ จขกท. ก็พลาดตรงที่ไว้ใจและเป็นคนให้งานเขาไป

ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องดูที่ข้อตกลงระหว่างคุณสองคนด้วยค่ะ ว่า ตกลงกันไว้ในฐานะอะไร เพื่อนช่วยเพื่อน หรือ ช่วยในฐานะเป็น บ.ก. เล่มอะไรประมาณนี้น่ะค่ะ

จากคุณ : บราวนี่รสเสน่หา - [ 6 พ.ค. 52 18:44:38 ]







ความคิดเห็นที่ 28

อิฉันว่าการมาpostที่นี่ไม่ได้ประโยชน์อะไรหรอกค่ะ
รังแต่จะเป็นการสาวไส้ให้กากินดังที่หลายๆความเห็นบอก


ก่อนอื่นลองพูดคุยตกลงกันก่อนกับนักเขียนท่านนั้นว่าพวกคุณไม่ชอบพฤติกรรมเช่นนี้ หากเขายังเฉยก็ต้องพึ่งผู้ใหญ่ในสำนักพิมพ์ที่เขาเอาไปพิมพ์นั่นแหละ สำนักพิมพ์คงจะต้องลงมาไกล่เกลี่ยเพราะชื่อเสียงของเขาทั้งนั้น


ถ้ายังเฉยทั้งคู่ก็ต้องเลือกว่าจะเลิกคบหรือไม่ก็ต้องอาศัยกฏหมาย


แต่ฟังจากที่คุณเล่ารู้สึกว่านักเขียนท่านนี้มีฟฤติกรรมมายาวนานแล้ว ครั้งนี้คงจะมากเกินไปหน่อย มันก็ผิดที่เราใจดีแก้งานให้เขา


ความจริงเอาแค่แก้คำผิดกับวิจารณ์ความสมจริงแบบแนบไปอีกหน้าก็พอแล้วนะคะไม่ต้องลงลึกมาก คนเราทุกคนรู้หน้าไม่รู้ใจหรอกค่ะ แต่อย่างไรก็เป็นกำลังใจให้เรื่องจบด้วยดีนะคะ

จากคุณ : จโกระ&ลาชา - [ 6 พ.ค. 52 19:14:03 ]







ความคิดเห็นที่ 29

งง อะ!!!!

อ่านมาตั้งนานแต่จับใจความไม่ได้

ทำไมช่วงนี้อ่านภาษาไทยไม่ค่อยแตก สงสัยเราจะโง่ !!

จากคุณ : thoorn - [ 6 พ.ค. 52 19:48:49 ]







ความคิดเห็นที่ 30

ไม่โง่หรอกครับ นักเขียนเขียนห่วยครับ เขาอยู่วงใน แต่ต้องการสื่อคนวงนอก แต่สื่อไม่เก่ง จขกท สอบตกครับ 555

ปล ถึงผมพอจะอ่านรู้เรื่อง แต่ยังเห็นว่า ใช้ภาษาห่วย วกวนเกินไป มองผู้อ่านที่เราต้องการสื่อไม่เป็น

จากคุณ : K.Senior - [ 6 พ.ค. 52 22:24:05 ]



 

โดย: บริษัท เอ๋อ จำกัด(มหาชน) 11 พฤษภาคม 2552 12:55:30 น.  

 

ความคิดเห็นที่ 31

ทั้งพูดยากและไม่รู้จะพูดอย่างไรดี
เราอ่านแล้วก็รู้สึกก้ำๆ กึ่งๆ

เวลาเราแก้งานให้เพื่อน เราจะมีทั้งแก้ให้ไปเลย เขียนประโยคที่ควรใช้ให้ ซึ่งเราก็ไม่ถือหากเพื่อนจะนำคำที่เราเขียนไปใช้โดยไม่ปรับแก้อะไรอีก บางทีมันอ่านแล้วก็ไม่รู้จะปรับไปทางไหนได้น่ะค่ะ

หรือถ้าเราอยากให้เพื่อนคิด เราก็แค่บอกว่า ควรจะเป็นอย่างนี้ๆ นะ อารมณ์มันประมาณนี้ แล้วท่านก็จงไปคิดต่อยอดเอาเอง

สำหรับเรา อะไรที่เราเขียนลงไปให้เพื่อน และเพื่อนนำไปใช้จริงๆ เราไม่ว่าค่ะ เราเขียนโดยรู้อยู่แล้วว่าโอกาสที่เพื่อนจะนำไปใช้มีสูง 80% แต่ถ้าเพื่อนจะคิดปรับเปลี่ยนเสียหน่อย เราก็ยินดีค่ะ

จากคุณ : Guga - [ 6 พ.ค. 52 22:51:06 ]







ความคิดเห็นที่ 32

เห็นด้วยกับคุณมหาชน..

ก็เขียนเติมให้เขาเอง เขาเห็นว่าดี ก็เอาไปใช้ดิ..
ถ้าไม่อยากให้เขาเอาไปใช้ ก็น่าจะเขียนคอมเม้นมากกว่าเช่น ***ตรงนี้อมว่ามันยังไม่สมเหตุสมผลนะคะ พี่ลองดูนิดนึง***
เล่นไปเขียนให้เขายังงั้น เขาเห็นดี เขาก็หยิบไปใช้ซิ
ถ้าคิดว่าเขาจะแก้ แล้วจะให้เขาแก้ยังไง ไม่เข้าใจอยู่ดี..

เกิดแก้แล้วเขาไม่เอาไปใช้ จะมามีตั้งกระทู้น้อยใจไหมหว่า? ว่าอุตส่าห์ออกสมองแก้ให้แล้วยังไม่ใส่ใจ..

คือ.. เอาใจยากด้วยกันทั้งสองฝ่ายนะ..

สรุปว่าที่มาตั้งกระทู้นี่ ถ้าให้เรามอง ก็คืออยากป่าวประกาศให้โลกรู้ ว่าเรื่องนี้ตูมีส่วน( เฟ้ย )
ไม่งั้นนิยายเรื่องนี้มันต้องหยำเปกว่านี้..

ซึ่ง.. ก็สายไปแล้วนะ
จำไว้เป็นบทเรียน ทีหลังอย่าทำ
ไปป้อนถึงปาก เขาก็งับลงท้องซะเท่านั้นเอง..

จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 6 พ.ค. 52 22:52:26 ]







ความคิดเห็นที่ 33

เติมติ๊ดนึง...
นักเขียนที่ดีจริงย่อมมีความเพียรที่จะคิดเองค่ะ

จากคุณ : Guga - [ 6 พ.ค. 52 22:52:35 ]







ความคิดเห็นที่ 34

#23

นักเขียน ฟ. (นามสมมติ) ที่ว่ายังจะดังกว่าคุณมาก 5555
.
.
.
กรณีนี้มันเกี่ยวกับ "ความดัง" หรือครับ?

และประโยคนี้ส่อเสียดเกินไป ผมเข้ามาอ่านเฉยๆ ยังรู้สึกไม่ดีเลย
ความเห็นของคุณค่อนข้างเอียง จนแทบนึกว่าเป็นนักเขียนท่านนั้น
หรือเปล่า?

หลายๆ ความเห็นก็เช่นกัน แค่ออกความเห็นเฉยๆ ไม่จำเป็นต้องใช้
คำปรามาศด่าเจ้าของกระทู้แรงๆ กันนี่ครับ? ความเป็นคนตรงกับคน
มีมารยาทมันมีขีดบางๆ ขั้นกันอยู่เท่านั้นเอง



======================================



ตอบคำถามเจ้าของกระทู้

ธรรมดาไหม? - ไม่ มันผิดปกติ

ผิดจรรยาบรรณไหม? - ผิด

ลอกไหม? - ไม่ เพราะคุณเขียนให้เขาเอง แต่การที่เขาไปลง
โดยไม่บอกเรียกว่า "ละเมิด"

ควรทำยังไงต่อไป....คุยกับเพื่อนของคุณสิครับ ก่อนมาตั้งกระทู้
ได้คุยกันหรือยังครับ ? หากยังก็ไปคุยเสีย เว้นแต่เพื่อนของคุณ
ไม่ยอมคุย งั้นคุณก็ตั้งกระทู้คุยผ่านบอร์ดไปเลยแล้วกัน
เพราะมาถามเหมือนโยนหินถามทางแบบนี้ คนร้อยพ่อพันแม่
พันความคิดเข้ามาตอบ เขาไม่รู้ตื้นลึกหนาบางกับเรื่องของ
พวกคุณหรอก และอาจจะทำให้เรื่องนี้ออกทะเลไปด้วย "ปาก"
ของคนไม่เกี่ยวข้องจำนวนมาก รวมไปถึงคนที่อาจจะไม่ชอบคุณ
มาตั้งแต่ต้นจะฉวยโอกาสเอาได้ ที่สำคัญ...บัตรผ่านเยอะจริงๆ


** แก้คำตกหล่น
แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 52 22:59:27

แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 52 22:56:14

จากคุณ : รัญช์ - [ 6 พ.ค. 52 22:54:10 ]








ความคิดเห็นที่ 35

อืม...เราอ่านเข้าใจนะ ไม่เห็นว่ามันจะวกวนอะไรมากตรงไหน
แล้วก็เข้าใจสิ่งที่ จขกท ต้องการจะสื่อว่างานเขียนชิ้นนั้น จขกท
มีส่วนร่วมนะ แต่ จขกท ไม่ได้แม้กระทั่งคำขอบคุณในหน้าคำนำ
นักเขียน หรืออะไร ๆ ก็ตามแต่ ทั้งที่นักเขียนคนนั้นเอาส่วนที่ จขกท
แก้เป็นเนื้อหา และบทสนทนา ไปแบบทั้งดุ้นโดยไร้การเสริมเติมแต่ง
หรือแม้แต่ขัดเกลา

((นอกเรื่อง))
เรื่อง จขกท ภาษาห่วย วกวน หรือมองคนต้องการจะสื่อไม่เป็น
ตามที่ คห. 30 ว่า ดิฉันคิดว่าการตั้งกระทู้ เอาแค่อ่านรู้เรื่องว่า
ต้องการจะสื่ออะไร ไม่ได้เน้นภาษาแน่นเปรี้ยะตามหลักไวทยากรณ์
ก็ได้นี่คะ เพราะฉะนั้นคุณจะเม้นท์ว่า จขกท เรื่องนี้ไปเพื่ออะไร
หรือว่า เห็น คห. อื่นเม้นท์ว่าก็เลยเม้นท์ตามน้ำกันแน่คะ?

สุดท้าย ตอบคุณ จขกท. เรื่องนี้ไม่ผิดหรอกค่ะที่เอาออกมาแฉ
เพราะนักเขียนแบบนี้ไม่เคารพผลงานของตัวเอง และเชื่อเถอะค่ะ
ว่ามีนักเขียนอีกหลายคนที่ชอบให้เพื่อนสนิท ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนธรรมดา
เพื่อนรุ่นน้อง เพื่อนในเว็บ ช่วยอ่าน วิจารณ์ และก็เลยเถิดเป็นการแก้งานให้
แบบนี้แหละค่ะ เพราะดิฉันเคยมีประสบการณ์ แต่ดิฉันก็ทำเพียงแค่
แนะนำ ไม่เคยคิดจะเอาต้นฉบับของนักเขียนนั้น ๆ มาแตะต้องไม่ว่า
จะด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตามแต่

สุดท้าย รอตอนจบด้วยคนค่ะ ^^

จากคุณ : ยูเรนัสคิต - [ 6 พ.ค. 52 22:59:22 ]



 

โดย: บริษัท เอ๋อ จำกัด(มหาชน) 11 พฤษภาคม 2552 12:55:56 น.  

 

ความคิดเห็นที่ 36

ขอออกตัวก่อนว่า ดิฉันไม่ใช่แฟนนิยายของนักเขียนฟ. (หลังจากพยายามอ่านระหว่างบรรทัดกระทู้ของคุณ ดิฉันค่อนข้างมั่นใจว่านักเขียนสำนักพิมพ์ลูกกวาดดังกล่าวคือนักเขียนฟ.) เพียงแค่รู้ชื่อ และเคยผ่านตาชื่อนิยายเท่านั้น

หลังจากอ่านเนื้อความในกระทู้ที่คุณเจ้าของกระทู้เขียน ดิฉันเกิดความสงสัยเป็นอย่างมาก เพราะมันย้อนแย้งในตัวเองหลายอย่าง และขาดรายละเอียดหลายเรื่องไป ยกตัวอย่างเช่น ข้อตกลงในการตรวจแก้งาน คุณตรวจแก้งานให้เขาเพราะอะไร (ดิฉันคิดว่าคุณมีอะไรบางอย่างแอบแฝง ถ้าทำเพราะสงสารเวทนา ก็น่าจะสงสารเวทนาให้ตลอดนะคะ ไม่ใช่ทำเพื่อเรียกร้องเงินทอง เว้นแต่เขาสัญญาว่าจะให้เงินแต่เบี้ยว นั่นก็อีกเรื่อง) เขาได้ตอบแทนอะไรไปแล้วบ้าง (เขาคงไม่ใจร้ายขนาดไม่เลี้ยงข้าวคุณสักมื้อหรอกนะคะ) และขั้นตอนในการทำงาน

เรื่องขั้นตอนในการทำงานนั้น ดิฉันไม่ทราบหรอกค่ะว่าคุณเจ้าของกระทู้กับนักเขียนฟ. ทำงานกันอย่างไร ถ้าคุณแก้รวดเดียวแล้วเขาก็เอาไปใช้เลย ดิฉันขอนับถือค่ะ คุณอึดมากๆ เลย แถมยังเก่งมากๆ แก้ทีเดียวเอาไปใช้ได้เลย (ซึ่งดิฉันก็ไม่ทราบอีกล่ะค่ะว่าเขาเอาไปทั้งดุ้น หรือดัดแปลง อ่านเนื้อความในกระทู้คุณแล้วงงค่ะ) แต่ถ้าแก้หลายครั้ง มีแก้ซ้ำแก้ซ้อน ก็น่าจะพอเห็นเค้าร่างหลังจากคุณแก้ให้เขาบ้าง แต่ถึงเขาจะไม่ได้ส่งที่แก้แล้วให้คุณ ถ้าเป็นคนใส่ใจในผลงาน ก็น่าจะมีขอดูบ้าง เรื่องนี้ดิฉันอาจเอาตัวเองเป็นมาตรฐานไปหน่อย เพราะพอดิฉันช่วยตรวจแก้งานให้เพื่อน ย่อมต้องอยากรู้ว่าเขาจะเห็นด้วยกับสิ่งที่ดิฉันแก้ไปหรือเปล่า

สำหรับนักเขียนฟ. รู้สึกช่วงนี้จะมีข่าวลือปล่อยออกมาเยอะมากเลย ดิฉันไม่ค่อยเชื่อในข่าวลือที่ไม่มีมูลนัก แต่ครั้งนี้ คุณเองก็น่าจะมีหลักฐาน อย่างเช่นไฟล์ต้นฉบับที่คุณแก้ และผลงานชิ้นนั้นของนักเขียนฟ. (คุณบอกว่าคนรู้จักของคุณมีหนังสือใช่ไหมคะ) อย่างน้อยก็อยากให้คุณเจ้าของกระทู้เอาต้นฉบับมาเปรียบเทียบจัง คนอ่านที่ไม่รู้เรื่องอย่างดิฉันจะได้เห็นจะๆ ชัดๆ พอที่จะตัดสินใจเชื่อหน่อย ไม่ว่าจุดประสงค์ในการตั้งกระทู้ของคุณจะเป็นเปิดโปง แฉ กล่าวหา หรือหาคนสนับสนุน

ขอย้ำอีกครั้งว่าถ้าหากคุณอยากเปิดโปง แฉ กล่าวหา หรือหาคนสนับสนุนใครก็ควรจะนำหลักฐานมาแสดงให้เห็นได้ แถมคนเราเวลาจะพูดอะไร โดยเฉพาะพูดอยู่ฝ่ายเดียว ก็มักจะเข้าข้างตัวเองอยู่แล้ว คุณคงไม่ปฏิเสธหรอกนะคะ

ดิฉันไม่ได้ชื่นชมนักเขียนฟ. ที่เธอให้คุณเจ้าของกระทู้แก้ให้เยอะขนาดนี้ (หากคุณเจ้าของกระทู้กล่าวมาจริง) ไม่ว่าเธอจะมีปัญหาสุขภาพจริงหรือไม่ (ซึ่งดิฉันว่ามันก็ออกจะแปลกหน่อยนะคะ จากที่ดิฉันอ่านกระทู้ของคุณ เข้าใจว่านักเขียนฟ. ป่วยแค่ครั้งนั้น ทว่าคุณกลับพูดเหมือนว่าทำแบบนี้ให้มาโดยตลอด โอย... งงค่ะ ทำไมเนื้อความมันขัดแย้งกันอย่างนี้ล่ะคะ) ขณะเดียวกันคุณเองก็ทำไม่ถูก ที่นำเรื่องส่วนตัวมาโพสต์ลงบอร์ดสาธารณะแบบนี้ มันมีแต่เสียกับเสียค่ะ น่าจะคุยกันให้รู้เรื่องเสียก่อน

สุดท้ายนี้ ขอติคุณเจ้าของกระทู้เล็กน้อยในฐานะที่คุณเป็นนักเขียน (ถ้าดิฉันเข้าใจไม่ผิดนะคะ) เพราะคุณเขียนวกไปวนมาเหลือเกิน แบบนี้มันอ่านยากค่ะ แต่เรื่องการใช้คำกระตุ้นอารมณ์ ดิฉันคิดว่าคุณทำได้ดีมาก ถือได้ว่าเก่งทีเดียว อ่านแล้วได้อารมณ์ดีค่ะ

จากคุณ : คนไม่กลาง - [ 6 พ.ค. 52 23:16:52 A:58.8.26.23 X: TicketID:215054 ]







ความคิดเห็นที่ 37

ตอบพระเอกขี่ม้าขาว #34 อิอิ

ความดี ความชั่ว ความผิดถูก ไม่เกี่ยวกับความดังหรอกค่ะ

ที่ยกขึ้นมาเทียบเพราะคุณอมฯ เจ้าของกระทู้สงสัยว่าเราเคย
เคืองใจอะไรคุณอมฯ มาก่อนหรือเปล่า ก็ตอบไปตามเนื้อผ้าว่า
ไม่เคยรู้จักจะไปเคืองเรื่องอะไร

ไม่รู้จะไปเทียบกับใครก็เลยเทียบกับนักเขียน ฟ. คู่กรณี
จะได้เข้าใจง่าย

ที่แสดงความคิดเห็นไปนั้นแสดงตามเนื้อหากระทู้ค่ะ ถ้าจิตใจอ่อนไหว
อยากให้คนมาโอ๋ การมาตั้งกระทู้ถามความคิดเห็นจากคนแปลกหน้า
ที่ไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางไปกว่าที่ได้อ่านในกระทู้ไม่ใช่ทางเลือกที่ดี

ขอบคุณนะคะที่สงสัยว่าเราเป็นนักเขียน ฟ. หรือเปล่า
แต่คงไม่รับล่ะค่ะ บังเอิญเราเป็นคนมีสมองคิดอะไรเองเป็น
ไม่ชอบยืมความคิดของคนอื่นมาสวมเป็นของตัวเอง 5555
แถมร่างกายเราแข็งแรงค่ะ เป็นโรคยาก 555555


ไม่อยากพากระทู้ออกทะเล ขอถอยกลับไปมุงเงียบๆ ดีกว่า
อยากรู้ข้อสรุปตามประสาขามุงที่ดี จะได้เห็นไหม
คงไม่หายเข้ากลีบเมฆไปหรอกนะ อิอิ

จากคุณ : บริษัท เอ๋อ จำกัด(มหาชน) - [ 6 พ.ค. 52 23:20:01 ]







ความคิดเห็นที่ 38

กลับมาอ่านอีกที ตัวย่อเต็มทู้เลย o_O*

ถามว่าลอกมั้ย ก็คงไม่ถึงขนาดนั้นมั้ง

ผิดจรรยาบรรณมั้ย ก็น่าเกลียดอยู่ น่าเกลียดมากๆ ด้วย ถ้าเพื่อนรุ่นพี่คุณ (นักเขียน ฟ. ใช่มะ ตามที่คุณเอ๋อฯ ช่วยใบ้) ทำแบบที่คุณเล่าจริงก็อย่าเรียกตัวเองว่านักเขียนเลย เสียสถาบันอาชีพหมด

แต่อยากบอกว่ายิ่งอ่านกระทู้ กลับยิ่งสงสัยวัตถุประสงค์ของจขกท. มากกว่า เพราะคุณเขียนให้คนอ่านพยายามเดาชื่อสำนักพิมพ์มากกว่าชื่อนักเขียน ทั้งที่คุณมีปัญหา "ส่วนตัว" กับนักเขียน แล้วจะไปโยงถึงสำนักพิมพ์ทำไม

คุณจขกท. เองก็เป็นนักเขียนใช่ปะ ดูเหมือนจะไม่ใช่สำนักพิมพ์ลูกอมลูกกวาดอะไรนี่ด้วย ทำแบบนี้เรียกว่าอะไรดีล่ะ *-*

แค่อยากรู้น่ะ จริงๆ นะ

ป.ล. ไม่ได้อยากพาทู้ออกทะเลเล้ย แต่ขอหน่อยเหอะแบบว่าสงสัยที่ว่าบัตรผ่านเยอะเนี่ย นับยังไงอ่ะ 27 ต่อ 4 (แบบไม่นับคนซ้ำ) เรียกว่าเยอะ?

จากคุณ : ดับอนาจ - [ 6 พ.ค. 52 23:44:54 ]







ความคิดเห็นที่ 39

^
^
มีคนลงทุนนับจำนวนบัตรผ่านเหมือนเราเลย

จากคุณ : Guga - [ 6 พ.ค. 52 23:47:05 ]







ความคิดเห็นที่ 40

เราเป็นมนุษมุงคนหนึ่ง ถ้ามองว่าเป็นคนกลางก้อต้องขอบอกว่าไม่เข้าใจหลายอย่างอ่ะนะ คร้าื อย่าแรก แก้งานกันเหมือนแต่งเพิ่มเนี่ย อือม .......คิดว่าจริงๆมันก้อมากไปใช่มะ ( มะได้เป็นในวงการอ่ะไม่เข้าใจ)

ข้อสอง ถ้าเป็นจิรงอย่างที่ว่ามา จรรยาบรรนักเขียนกับศีลธรรมจากการศึกษาไม่ช่วยให้คนรู้จักความเกรงใจผู้อื่นกันได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ

ข้อสาม เราเข้าใจว่าการทำงานอะไรสักชิ้นหรือการสอบก้อควรจะมาจากฝีมือหรือความสามารถของเจ้าตัวล้วนๆไม่ควรเกาะหลังชาวบ้านมา ถึงสำเร็จก้อคงไม่มีหน้ามาภูมิใจหรือกล้าชูคอมารอรับเหรียนรางวัลของความสำเร็จเพราะมันไม่ได้มีอะไรไปมากกว่าความว่างเปล่าเมื่อเวลาที่คนอื่นคาดหวังว่าคราวหน้าคุณจะทำในสิ่งที่ดีขึ้นแต่ตัวคุณเองเท่านั้นที่จะรู้ว่ามันไม่มีทางที่เหตุการณ์หรือสิ่งนั้นๆจะเกิดได้เลยเพราะไม่เคยทำเอง เจ้าตัวคงจะจิตตกพอสมควร (อืมเราหลงคิดว่ามันควรเป็นอย่างนั้นมาตั้งนาน)


แต่ถ้าจากคำถามถามข้างบน เราว่าเราตอบไม่ได้เพราะไม่ได้มีส่วนรับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถึงทั้งสองฝ่ายเพราะงั้นคงตัดสินไม่ได้ว่ามันควรหรือไม่ควร มันผิดหรือมันถูก มันร้ายแรงปานปลายขนาดไหน (เพราะคนที่เข้ามาอ่านก้อแค่ชอบมุงเวลาชาวบ้านตีกันอ่ะ) เราคิดว่าเรื่องอย่างนี้ผู้ที่คุยกันน่าจะเป็นคนที่เรียกกันว่าเพื่อนในกระทู้นี้แต่ถ้าคุยกันไม่ได้แล้วหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรับนิสัยของอีฝ่ายไม่ได้ รู้สึกว่าอีกฝ่ายผิดและควรแก้ไขผู้ใหญ่ในสนพ.ก็คงเป็นที่ผึ้งได้มั่งหล่ะมั้งนะ คนเราทำไรไว้มันจะถูกพิสูจน์ด้วยตัวของมันเองนั่นแหละ บางทีเราว่าถ้าเรื่องที่เจ้าของกระทู้เล่าเป็นเรื่องจริงหน่ะเจ้าของกระทู้นั่งเล่นเย็นๆใจดูความวอดวายของคนที่ถูกกล่าวอ้างจะได้ความสะใจกว่า

จากคุณ : แมวยักษ์ (แมวยักษ์หน้าบูด) - [ 7 พ.ค. 52 00:07:38 ]


 

โดย: บริษัท เอ๋อ จำกัด(มหาชน) 11 พฤษภาคม 2552 12:57:05 น.  

 

ความคิดเห็นที่ 41

ตามความเข้าใจส่วนตัว
ปกติ หากมีใครบอกให้ "แก้งานให้หน่อย"
นั่นหมายความว่า ข้อความที่เราเขียนแก้ไขให้เขาไป
เขาอาจนำไปใช้เลย

แม้ตัวดิฉันเองจะไม่ใช่นักเขียน เป็นแค่คนอ่านธรรมดา ๆ
แต่ส่วนตัวคิดว่า หนังสือที่ลงชื่อผู้แต่งคนใด เนื้อหาทั้งหมดก็น่าจะออกมาจากความคิดของ นักเขียน ผู้นั้นเอง
การที่ นักเขียน คนนั้น บอกให้คนอื่นช่วยแก้งานให้เลย ดูจะแปลก ๆ อยู่
เพราะส่วนที่ถูกแก้ไขเพิ่มเติมลงไป ไม่ใช่เรื่องราวเหตุผลที่เขาคิดเองซะแล้ว
ซึ่งอย่างน้อยที่สุด นักเขียน ก็ควรจะเครดิต หรือขอบคุณ ผู้ที่แก้ไขให้ด้วย


เรื่องที่เกิดขึ้น จะเป็นการลอกไหม ดิฉันก็ไม่กล้าฟันธง
แต่ต้นเหตุทั้งหมดเกิดจาก
จขกท.ก็ได้แก้ให้เขาไปด้วยความเห็นใจเอง
เมื่อพลาดครั้งนี้แล้ว ก็จำไว้เป็นบทเรียนแล้วกันนะคะ
มนุษย์ในสังคม มีดีมีร้าย ปะปนกันไป
เอาเวลาและกำลังใจมาคิดสร้างสรรค์ผลงานของตัวเองดีกว่าค่ะ

จากคุณ : yinru - [ 7 พ.ค. 52 00:33:58 ]







ความคิดเห็นที่ 42

คิดเหมือน คคห. 38

ว่า ตกลง จขกท. จะโฟกัสที่ใครกันแน่?

ระห่าง สนพ. กับ นักเขียนคู่กรณี?

อ่านแล้วงงๆ เหอๆๆ



จากคุณ : waidhaya - [ 7 พ.ค. 52 03:26:05 ]







ความคิดเห็นที่ 43

ผมงงนะครับ

คือ "แก้" เนี่ย มัน "แก้" ยังไง

เขียนลงรายละเอียดให้เค้าแล้ว
แล้วคาดหวังให้เค้าทำยังไงครับ?

เอาไปเปลี่ยนเป็นของตัวเอง?????
เหรอครับ??

คือผมงงจริงๆ
เพราะเวลามีใครมาให้ผมช่วย (งานทางวิชาการ) ก็จะช่วยอยู่ 2 แบบ
แบบแรกคือแนะนำ ว่าส่วนนั้น ส่วนนี้น่าจะเป็นงั้นเป็นงี้ เพิ่มตรงนั้น ตัดตรงนี้
กับอีกแบบคือแก้ลงรายละเอียดให้เลย

แบบแรกไม่มีปัญหา
แบบที่สอง เค้าก็เอาที่แก้ให้ไปใช้ได้เลย
ถ้าเอาที่แก้แบบลงรายละเอียดให้แล้ว เอาไปเปลี่ยนอีกสิ ผมว่าไม่ make sense ทำไปทำไม เพื่ออะไร จะลงรายละเอียดไปทำไม

ดังนั้น
ช่วยบอกหน่อย คาดหวังอะไรจากการ "แก้" ที่ว่าครับ

จากคุณ : ชาเขียว - [ 7 พ.ค. 52 03:55:36 ]







ความคิดเห็นที่ 44

อ่านไปอ่านมา เหมือนเจ้าของกระทู้อยากป่าวประกาศให้ชาวโลกรู้ว่าหนังสือเล่มนั้น ที่ออกมาได้เจ๋งนั่น ไม่ใช่สำนวนหรือมันสมองของคนเขียนร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก แต่เป็นของเรา่ตั้งเยอะต่างหาก

และเจ็บใจที่สิ่งที่ต้วเองเขียนเอาไว้ได้ลงตีพิมพ์แท้ๆ แต่คนดันไปให้เครดิตกับเจ้าของเรื่องที่ตัวเองรับแก้ แต่เจ้าของเรื่องดันไม่ให้เครดิตชื่อเรา เราเลยไม่ได้หน้าไปด้วย (เผลอๆ ถ้าเคยมีประวัติว่า จขกท.เคยส่งงานไปที่สนพ.นี้แล้วไม่ได้ตีพิมพ์ แต่สำนวนที่ใช้ตอนแก้งานดันได้ตีพิมพ์ด้วยเนี่ย จะยิ่งเข้าเค้า hidden agenda เลยนะเนี่ย)

เรื่องนี้ในมุมมองของตัวเอง "เีสีย" ทั้งคู่

เจ้าของกระทู้เสีย ต่อไปคิดว่าใครสักคนจะเอางานมาขอให้คุณแก้ คงต้องคิดก่อน เพราะ้ถ้าเผลอเอาิสิ่งที่คุณแก้ เอาไปใช้มากเกินไป แล้ัวไม่ได้ให้เครดิต เดี๋ยวจะโดนเอามาแฉว่าลอก (แล้วจะเอามาขอให้คุณแก้ทำไมเนี่ย - -")

และเผลอๆ สนพ.ที่ว่านั่นก็จะแบล็คลิสต์คุณไปด้วย

นักเขียนคนนั้นเสีย โดนคนอ่านคิดว่า นี่ๆ ผลงานเล่มเนี้ย ไม่ได้คิดเองหรอกเธอ ไปให้คนอื่นคิดให้แล้วเอามาเนียนว่าตัวเองเขียนเอง

จากคุณ : แมวดำตัวหนึ่ง - [ 7 พ.ค. 52 04:27:28 ]







ความคิดเห็นที่ 45

สงสัยจัง "งานต้องแก้ตั้งครั้งเล่ม" มันผ่านการพิจารณาจากสำนักพิมพ์ได้ยังไง

ตามความเข้าใจงานที่จะผ่านได้ต้องมีความสมบูรณ์สัก 70-80% ถ้าจะเอามาแก้ก็น่าจะแก้พวกคำผิด คำตกหล่น หรือปรับความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครให้สมบูรณ์ขึ้น แต่ถ้างานของนักเขียนคนนี้ต้องแก้เกือบหมด มันผ่านได้ไงวะ

แถมยังมีใบสั่งให้ส่งงานตามกำหนดอีก งง อีกแล้ว งานที่จะรอคิวพิมพ์ได้เนี่ยต้องเป็นงานที่สมบูรณ์จริงๆ ไม่ใช่เหรอ

หรือเราเข้าใจผิดมาตลอด


ปล. เห็นด้วยกับหลายๆ ความเห็น อ่านข้อความของเจ้าของกระทู้ไม่เข้าใจจริงๆ ต้องอ่านจากความเห็นถึงจะได้รู้หน่อย

จากคุณ : latics1 - [ 7 พ.ค. 52 09:57:18 ]


 

โดย: บริษัท เอ๋อ จำกัด(มหาชน) 11 พฤษภาคม 2552 12:58:00 น.  

 

ความคิดเห็นที่ 46

อืม...เราได้อ่านความเห็นของ จขกท.อีกครั้ง เราก็เริ่มงงอีกอ่ะค่ะ

เนื่องจาก จขกท. บอกว่าที่ต้องมาตั้งกระทู้นี้ก็เพราะสงสัยว่าสิ่งที่ตัวเองคิดว่าไม่ดีนั้น มันต่างจากที่คนรอบตัวคุณพูดอย่างตรงกันข้าม และบรรดาคนรอบตัวคุณก็อยากให้คุณคิดว่านี่เป็นเรื่องน่าดีใจเหลือเกิน ดังนั้นจงอย่าคิดมาก

เราว่า จขกท. มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการคบเพื่อนนะคะ โดยพื้นฐานของเรื่องมันชี้ชัดไปอยู่แล้วว่านักเขียนคนนั้นกินแรงคุณ ถ้าคนอื่นยังมองเข้าข้างเธอ เราก็ว่ามันแปลกอย่างเหลือเชื่อ ใครกันหว่าช่างคิดได้ แล้วยังคิดกันตั้งหลายคนอีกด้วย

ในความเห็นของคนนอกอย่างเรา เรื่องนี้จัดเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้อย่างแน่นอน ไม่ต้องถามใครก็ได้ เพราะหลักฐานและเหตุผลมันชี้ชัดในตัวเอง ดังนั้นเราเลยงงว่า จขกท.ต้องการสื่ออะไร

ถ้าเป็นเราจะชี้ลงไปเลยว่าสิ่งที่นักเขียนคนนั้นทำ เราสมควรได้ค่าตอบแทนไหม หรือได้เครดิตจากเรื่องนี้อย่างไร (ยอมรับว่าเราเป็นคนเห็นผลประโยชน์สำคัญที่สุดค่ะ)

จากคุณ : โตขึ้นจะกลายเป็นยุง - [ 7 พ.ค. 52 12:01:26 ]







ความคิดเห็นที่ 47

อ่านแล้วก็งงเหมือนกันว่าคุณ จขกท จะสื่ออะไร?

- นักเขียนเอาส่วนที่แก้ให้ไปใช้ แล้วไม่เขียนขอบคุณในคำนำ
- นักเขียนไม่ใส่ชื่อ จขกท ว่าเป็นหนึ่งในผู้ร่วมเขียน (เจ้าของผลงาน) ด้วย
- นักเขียนไม่ใส่ชื่อ จขกท ว่าเป็น editor
- นักเขียนไม่ให้ค่าตอบแทนในการช่วยแก้

จริงๆก็มีความเห็นเหมือนคุณชาเขียว คห 43 ว่าถ้าคุณ จขกท แก้งานให้นักเขียน โดยการ
เขียนเพิ่มเติมให้เป็นหน้าๆ (ไม่ใช่แค่ comment อย่างเดียวเพื่อให้นักเขียนเอาไปเขียนต่อ
ด้วยตัวเอง) ก็เหมือนกับการอนุญาตให้นักเขียนเอาส่วนนั้นไปใช้ได้โดยตรง

แต่โดยมารยาท อย่างน้อยนักเขียนก็น่าจะเขียนขอบคุณ จขกท ซักหน่อยในหนังสือที่ตีพิมพ์

จากคุณ : Historicus - [ 7 พ.ค. 52 12:25:32 ]







ความคิดเห็นที่ 48

อ่านตั้งแต่มีคคห.แค่สิบกว่าๆ ตอนนี้เท่านี้แล้ว

จขกท.เงียบไปแล้ว

แล้ว...ยังไงอ่ะเนี่ย


อ่านถึงคคห.ล่าสุดนี่ ก็หมดคำถาม และคำตอบที่คิดจะตอบ
ก็มีคนตอบไปหมดแล้ว

ตามนั้น

จากคุณ : SONG982 - [ 7 พ.ค. 52 15:43:01 ]







ความคิดเห็นที่ 49

ใครเข้าใจ กรุณาสรุปให้ผมฟังหน่อยครับ จะเป็นพระคุณ ขอบคุณครับ

จากคุณ : thoorn - [ 7 พ.ค. 52 20:19:15 ]







ความคิดเห็นที่ 50

อ่านไปอ่านมาขอแสดงความคิดเห็นด้วยคนนะคะ
คือว่าเราก็เป็นอีกหนึ่งคนที่อ่านภาษาของเจ้าขอกระทู้ไม่เข้าใจ
(ยังแอบๆงงอยู่ว่าเป็นนักเขียนด้วยเหรอ)
ในความเห็นเรา เราคิดว่าแก้ให้ก็แปลว่าอยากให้เค้า
ใช้เป็นอย่างนั่น ซึ่งเค้าเอาไปใช้จริงๆก็น่าจะดีใจนะคะ
เพื่อนกันขอกันกินมากกว่านี้ค่ะ เอาเค้าไม่ประจานไม่เกิดผลดีกับใคร
และลดคุณค่าของคำว่าเพื่อนไปด้วยค่ะ

จากคุณ : yellobat - [ 7 พ.ค. 52 21:19:45 ]


 

โดย: บริษัท เอ๋อ จำกัด(มหาชน) 11 พฤษภาคม 2552 13:00:20 น.  

 

ความคิดเห็นที่ 51

ตอนที่อ่านข้อความของเจ้าของกระทู้ คิดว่าเรางงอยู่คนเดียวซะอีก

งงเรื่องแรกคือการเขียนของเจ้าของกระทู้ ค่อนข้างเยิ่นเย้อและวกวน คือมีการจั่วหัวที่น่าสนใจ แต่พอเข้ามาอ่านแล้วรู้สึกว่าไม่เห็นจะเข้าประเด็นสักที แต่เราก็ทนอ่านจนจบเพราะอยากรู้ว่าประเด็นคืออะไรกันแน่

จะบอกว่าเจ้าของกระทู้ไม่เหมาะจะเป็นนักเขียนก็ไม่ใช่ น่าจะเหมาะกับการเขียนหนังสือแนวนิยายแต่คงไม่ใช่หนังสือแนวที่เราจะอ่านเป็นแน่

ส่วนอีกเรื่องที่งงก็อย่างที่คนอื่น ๆ บอกน่ะค่ะ ว่าตกลงเจ้าของกระทู้ต้องการอะไรกันแน่ เพราะคุณเป็นคนข่วยทำให้เค้าเอง ก็น่าจะตกลงกันตั้งแต่ตอนนั้น หรือถึงยังไงก็ควรจะคุยกันเองก่อนที่จะเอามาโพสต์ในกระทู้แบบนี้

และถ้าคุยกันแล้วแต่คุยไม่รู้เรื่อง ตกลงกันไม่ได้ ก็น่าจะเล่ารายละเอียดให้มากกว่า (ที่มีคนสงสัยว่า พวกคุณตกลงกันว่ายังไง คุณคาดหวังว่าเค้าจะทำอะไร เค้าตอบแทนอะไรคุณมาบ้างรึเปล่า ฯลฯ) คนอ่านอย่างเราจะได้ตัดสินใจได้ว่าจะเข้าข้างใครดี

จากคุณ : Noknoi - [ วันวิสาขบูชา 00:57:53 ]







ความคิดเห็นที่ 52

เจ้าของพิมพ์กระทู้นี้ด้วยอารมณ์
ไม่ได้มาพิมพ์นิยายที่ต้องมีการตรวจทานหรือขัดเกลา

แล้วจะสงสัยทำไมว่าเป็น "นักเขียน" หรือเปล่า?

กระทู้ไม่ใช่หนังสือที่จะตีพิมพ์ แต่เป็นเหมือนไดอารี่หรือบันทึกความทรงจำ

นักพูดปาฐกถาอยู่ที่บ้านกับบนเวที ก็ไม่เหมือนกันน่ะนะ

ป.ล.

ถึงคุณรัญช์ *34 "คั่น" ไม่ใช่ "ขั้น(บันได)"
"ปรามาส" ไม่ใช่ "ปรามาศ"
(ขนาดพิมพ์แก้ 2 ครั้งแล้วนะเนี่ย)

และเห็นด้วยว่า การชอบพูดกระแนะกระแหน ส่อเสียด แซวแรงๆ เป็นวิสัยติดกายาแก้ไม่ได้ ที่พบได้ง่ายในยุคอินเตอร์เน็ตนามแฝง

จากคุณ : เสี่ยวจู - [ วันวิสาขบูชา 01:15:03 ]







ความคิดเห็นที่ 53

และที่ตีความได้จาก จขกท. นั้นก็ตีความได้จากหัวกระทู้แล้วว่า

"จขกท. อยากทราบความเห็นของคนสาธารณะทั่วไปว่า กรณีที่เกิดขึ้นกับ จขกท.นี้ ทุกท่านเห็นว่าคำจำกัดความของการแก้งานกว่าครึ่งค่อนเล่มตามที่เล่ามา คือข้อใด ดังต่อไปนี้?"

ก. เรื่องธรรมดา ใครๆก็ทำกันปกติ
ข. ผิดจรรยาบรรณ
ค. ลอกงาน ขโมยผลงาน
ง. ถูกทุกข้อ
จ. ไม่มีข้อใดถูก

จงวง หรือ ทำเครื่องหมาย X หน้าข้อที่ถูกที่สุด

จากคุณ : เสี่ยวจู - [ วันวิสาขบูชา 01:21:59 ]







ความคิดเห็นที่ 54

เราเลือก Xข.
"มันไม่ใช่เรื่องธรรมดา มันผิดวิสัย แต่ยังไม่ถึงขั้นลอกหรือขโมย มันเปรียบเหมือนกับว่า รุ่นพี่เป็นคนจุดต่อจุด แล้วคุณก็ไปช่วยลากเส้น"

ถ้าทั้งหมดเป็นไปตามที่เล่ามาจริงๆ

เดี๋ยวจะช่วยตอบคำถามตามความเห็นต่างๆที่สะดุดใจให้
เพื่อ จขกท. จะไม่ได้ใจเสียไปมากกว่านี้

เพราะตอนนี้ จขกท. คงรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม แล้วยังมาเจอคนที่ไม่เข้าใจประเด็นของ จขกท. (เพราะ จขกท. เขียนเอาแต่อารมณ์มากเกินไป)

จากคุณ : เสี่ยวจู - [ วันวิสาขบูชา 01:32:12 ]







ความคิดเห็นที่ 55

ตอบความคิดเห็นที่ 19


จขกท.ต้องการอะไร ?
เพื่ออะไร ?

ต้องการแฉ และด่า และประจาน รุ่นพี่ ที่เอาผลงานของ จขกท.ไปใช้?
(อาจจะใช่ เพราะ จขกท. ได้รับความรู้สึกไม่เป็นธรรม ที่อยู่ๆการ "แก้งาน" กลับกลายเป็นการ "ร่วมงาน" โดยไม่ได้รับเชิญ ไม่มีการให้เกียรติ หลอกให้ทำงานให้ภายใต้ของคำว่า "ช่วยเหลือ ไหว้วาน")

หรือ

ต้องการเรียกร้องสิทธิว่า ข้าพเจ้าไม่ใช่นักเขียนเงานะเฟร้ย
(คงไม่ได้เรียกร้องสิทธิ แต่คงเพราะรู้สึกเหมือนถูกหลอกใช้)

หรือ

ต้องการเล่านิยายสนุกๆให้ฟัง
(ไม่มีนิยายเรื่องใดสนุก เมื่อผู้เขียนไม่มีความสุข)

หรือ

ต้องการเสียงสนับสนุน ยกธงขึ้นโบก เฮไหนเฮนั่น
(คิดว่า จขกท. ต้องการความเห็น)


เพราะเป็นเรื่องเล่าให้ฟังข้างเดียว
และสรุปความต้องการหลายๆอย่าง ไปเรียบร้อยแล้ว
(ความต้องการ มาจาก อารมณ์ของผู้เขียนในขณะนั้น และสิ่งที่ จขกท.
ต้องการต่อผู้เข้ามาอ่านกระทู้ คือ ข้อเลือกตอบใน *53 และความเห็นของผู้อ่าน)

ตอบคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง

*แก้ขีดเส้นใต้
แก้ไขเมื่อ 08 พ.ค. 52 02:18:08

จากคุณ : เสี่ยวจู - [ วันวิสาขบูชา 02:09:55 ]




 

โดย: บริษัท เอ๋อ จำกัด(มหาชน) 11 พฤษภาคม 2552 13:00:55 น.  

 

ความคิดเห็นที่ 56

ตอบความคิดเห็นที่ 23

คุณบอกว่า "ความรู้สึกที่ทำให้เป็นเพราะความเวทนาสงสารที่เขามาอ้อนวอนให้ฟัง"
แล้วมาตั้งกระทู้นี้ด้วยความรู้สึกอะไร สงสัยจริงเชียว

("ด้วยความรู้สึกที่ถูกหลอกใช้ให้ร่วมงาน ไม่ใช่"แก้งาน")

ตอบคุณ : บริษัท เอ๋อ จำกัด(มหาชน)

จากคุณ : เสี่ยวจู - [ วันวิสาขบูชา 02:21:58 ]







ความคิดเห็นที่ 57

ทำไมเจ้าของกระทู้ไม่มาตอบเอง

หรืออารมณ์ดีขึ้นแล้ว ค่อยคิด....


นึกถึงคำเก่าๆ ขึ้นมาตะหงิดๆ

ประยุกต์นิดๆ ได้ใจความว่า


ก่อนพิมพ์สิ่งไรเผยแพร่ เราเป็นนายของสิ่งนั้น
หลังจากพิมพ์สิ่งนั้นเผยแพร่ไปแล้ว สิ่งนั้นละ...มันจะกลับมาเป็นนายของเรา


เข้าใจคุณเสี่ยวจู นะคะ

แต่อยากได้ยินจากปากคำของเจ้าของกระทู้มากกว่า


(เท่าที่ฟังๆ มา... ที่จริงเรื่องราวมันล่วงเลยไปมากโขแล้วนี่นา เลยให้แปลกใจ ว่าจขกท. ไยเพิ่งมาตั้งกระทู้...ถ้าตั้งแล้ว ทำไมไม่เล่าทั้งหมดของข้อตกลงนั่นให้สู่กันฟังล่ะ และ...หลักฐานอ่ะ อยากเห็น...ซึ่งเห็นมีคนยืนยันว่ามีนี่นะ)

จากคุณ : SONG982 - [ วันวิสาขบูชา 02:43:30 ]







ความคิดเห็นที่ 58

ตอบความคิดเห็นที่ 25

อยากจะถามคุณกลับคำนึง คำว่าน้ำใจ ถ้าเรามีให้เขา ช่วยเหลือเขาด้วยความจริงใจจริง ทำไมจะต้องหักหลัง เอามาเขียนลงแบบนี้ แบบนี้เขาเรียกว่าอะไร

(คงเพราะ จขกท. ช่วยเหลือด้วยความจริงใจ และเข้าใจผิดว่าการช่วยลากเส้นจุดต่อจุดจนเป็นรูปร่างนั้นจะถูกนำไปขายทั้งอย่างนั้น แบบนี้น่าจะเรียกว่า เรียกร้องดังๆหาความเห็นและความเป็นธรรม)


พูดตรงๆเลยนะ ถ้าข้าพเจ้ามีเพื่อนแบบนี้ ทำทีช่วยเหลือข้าพเจ้า แล้วเอามาป่าวประกาศ เหมือนจุดประสงค์เพื่อประจาน ข้าพเจ้าคงรู้สึกว่าคนๆนี้ไม่ใช่เพื่อน ต้องเรีกว่าเพื่อนเทียมมากกว่า ความรู้สึกดีๆที่เคยมีให้ และความประทับใจ กับคำขอบคุณในใจที่ว่าเขาเป็นคนดีมีน้ำใจช่วยเหลือเรา คงมลายหายไปกับการกระทำนี้ และรู้สึกแย่มากๆ ว่าทำไมเป็นคนแบบนี้

(ตอนนี้ จขกท. ก็ไม่ได้คิดว่า รุ่นพี่คนนั้นเป็นเพื่อนอะไร นับแต่ได้อ่านหนังสือเล่มนั้น)


และพูดจริงๆนะ ปัญหาที่เป็นปัญหาภายใน ทำไมไม่เจรจาพูดคุยกันเองภายใน การที่คุณเอาเรื่องภายในที่ทำงาน วงในกลุ่มเพื่อนร่วมงานมาแพร่งพรายแบบนี้ คุณทำเพื่ออะไร ถ้าจะบอกว่าเพื่อถามความคิดเห็น จากเนื้อเรื่องของคุณ
คนในบริษัทในตำแหน่งต่างๆที่อยู่แวดวงเดียวกันน่าจะให้คำตอบคุณได้กระจ่างกว่าคนวงนอกอย่างพวกเราที่ไม่รู้ความจริงเท็จของเรื่องนี้เลย เพราะพวกเราฟังจากที่คุณพูดฝ่ายเดียว พวกเราจึงให้ความเห็นได้แค่เป็นกลาง

(จขกท.ได้ให้คำตอบเป็นนัยๆ ในย่อหน้ารองสุดท้ายแล้วดังนี้

แต่จริงๆแล้วอมก็หดหู่อยู่ค่ะ เพราะตอนนี้เรื่องลุกลามไปใหญ่โตมาก และมีคนที่พร้อมจะเชื่อ “เจ้าของผลงาน” โดยยังไม่ทันที่จะฟังเรื่องเต็มๆที่เกิดขึ้นกับอมหรือพี่อีกคนเลยสักนิด ที่สำคัญประเด็นนี้ไม่ได้รับการเหลียวแลเพราะพี่เขาไม่ยอมเอ่ย อมอยากเอ่ยแต่ดันไม่มีใครฟัง(เวรกรรม!) ด้วยเหตุนี้ อมจึงได้ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาค่ะ)


แต่อยากบอกตรงๆนะ สิ่งที่คุณทำไม่เหมาะสมเลย เพราะมันเป็นการไม่ดีต่อบริษัทที่คุณทำงานอยู่ และเพื่อนร่วมงานของคุณ ที่เขาเชื่อใจคุณ วันนี้หากเขาได้มาอ่าน คุณได้ความสะใจ แต่เขาหล่ะ บริษัทหล่ะ ได้อะไรที่ดีจากคุณบ้างหรือ อันนี้เรียกว่า"คนดีไม่จริง"นะ

(จขกท.คงไม่ตั้งกระทู้นี้ หากได้รับความเป็นธรรมหรือคำตอบที่รับฟังได้จากบริษัท และ จขกท.ก็คงไม่ได้อยากเป็นคนดีอะไรนักหนา ถ้าเป็นแล้วเสียความรู้สึก)


"ไฟในอย่านำออก ไฟนอกอย่านำเข้า" คุณรู้ความหมายและจุดประสงค์ของคำประโยคนี้รึเปล่า
และถามคุณอีกอย่าง หากคนเขาทำไม่ดี คุณจะทำไม่ดีตามเขาหรอ
แต่สิ่งที่คุณทำอยู่ตอนนี้มันเข้าข่ายประโยคนี้เลยนะ

(จขกท. คงทนถูกเผาอยู่ข้างในไม่ไหวแล้ว เพราะ จขกท.ก็บอกเองว่า อายุ 20 ต้นๆ และยังเป็น นศ. อยู่ อีกทั้งสำนวนประโยคนั้นเอาไว้ใช้กับการครองเรือนหรือองค์กร ถ้า จขกท. เป็นนักเขียนบริษัทนี้ เขาก็คงไม่อยากอยู่ด้วยแล้ว เพราะความเสียใจที่รู้สึกเหมือนถูกหักหลังก่อน)


ทำไมหล่ะคนเรามีสมองมีทางเลือก เลือกเป็นคนดี ทำในสิ่งที่ดีไม่ได้หรอ เราเอามาลงว่าเขาปาวๆว่าเขาไม่ดี เรานั้นดี แต่การกระทำที่ตัวเราทำอยู่ (เอาเรื่องภายในมาเล่า) มันเป็นการกระทำของคนดีหรอ ถ้าคุณต้องการความเป็นธรรมอะไร ก็ไปคุยกับเขาเองสิ ไปปรึกษาคนในวงการในที่ทำงานที่รู้เรื่องนี้เพื่อจัดการเรื่องสิ อย่ามาใช้สื่อ ใช้พวกเราเป็นเครื่องมือ เรารู้สึกแย่จริงๆ

(ดังที่ จขกท. ตอบไปตามย่อหน้ารองสุดท้าย)

ตอบคุณ : คนกลาง

จากคุณ : เสี่ยวจู - [ วันวิสาขบูชา 02:49:59 ]







ความคิดเห็นที่ 59

อุ้ย ขออภัยที่ปาด


แต่ว่า ถ้าเจ้าของกระทู้มาตอบทั้งหมดเอง
คุณเสี่ยวจูก็จะได้ไม่ต้อง "คง" เยอะแยะขนาดนี้นะคะ

จากคุณ : SONG982 - [ วันวิสาขบูชา 02:56:39 ]







ความคิดเห็นที่ 60

ขอตอบอันนี้ก่อนนะคะ..ล่าสุด


ความคิดเห็นที่ 57

ทำไมเจ้าของกระทู้ไม่มาตอบเอง

หรืออารมณ์ดีขึ้นแล้ว ค่อยคิด....(กำลัง...ใจเสีย)


แต่อยากได้ยินจากปากคำของเจ้าของกระทู้มากกว่า (กำลัง ใจเสียอยู่..)


(เท่าที่ฟังๆ มา... ที่จริงเรื่องราวมันล่วงเลยไปมากโขแล้วนี่นา เลยให้แปลกใจ ว่าจขกท. ไยเพิ่งมาตั้งกระทู้...ถ้าตั้งแล้ว ทำไมไม่เล่าทั้งหมดของข้อตกลงนั่นให้สู่กันฟังล่ะ และ...หลักฐานอ่ะ อยากเห็น...ซึ่งเห็นมีคนยืนยันว่ามีนี่นะ) ----มันนานแล้วเหรอ..อืม..เราก็เพิ่งรู้นะเนี่ย แต่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งนะคะ

เนื่องจากเพราะนานแล้วทุกฝ่ายยังเพิกเฉย ก็เลยต้องออกมาร้องระบายผ่านกระทู้ นี่ล่ะมั้งคะ?

ส่วนหลักฐาน น่าจะไม่สะดวกเพราะเกี่ยวพันถึงหลายฝ่าย เช่น..ยังเกรงใจกันอยู่ ยังไม่อยากให้เรื่องใหญ่มาก..แบบอยากจะเคลียร์ แต่ก็ไม่ใครอยากจะพูดถึงเรื่องนี้ ...เลยเกิดกระทู้นี้ขึ้น
(เราก็เดาเอานะ)

ตอบคุณ : SONG982

จากคุณ : เสี่ยวจู - [ วันวิสาขบูชา 02:57:37 ]


 

โดย: บริษัท เอ๋อ จำกัด(มหาชน) 11 พฤษภาคม 2552 13:01:40 น.  

 

ความคิดเห็นที่ 61

เอ... คุณเสี่ยวจู ขัดแย้งกับคำตอบของตัวเองแล้วไหมคะ

ก็ไหนว่าไว้ตรงโน้น คคห.ที่ ๕๘ ตรงที่ว่า...

(ตอนนี้ จขกท. ก็ไม่ได้คิดว่า รุ่นพี่คนนั้นเป็นเพื่อนอะไร นับแต่ได้อ่านหนังสือเล่มนั้น)

แต่แล้วใน ที่ตอบ คคห.๖๐ กลับกลายเป็น

ส่วนหลักฐาน น่าจะไม่สะดวกเพราะเกี่ยวพันถึงหลายฝ่าย เช่น..ยังเกรงใจกันอยู่ ยังไม่อยากให้เรื่องใหญ่มาก..แบบอยากจะเคลียร์ แต่ก็ไม่ใครอยากจะพูดถึงเรื่องนี้ ...เลยเกิดกระทู้นี้ขึ้น
(เราก็เดาเอานะ)


งั้นก็อย่าเดาใจเจ้าของกระทู้เลยนะคะ ให้เขามาตอบเองเถิด

อย่างน้อย จะได้เห็นชัดว่า ผลกระทบจากอารมณ์ชั่ววูบนั้น ไม่ใช่เรื่องดีเลย

และแม้นจะมีผู้หวังดีช่วยบรรเทา ก็กลับอาจทำให้ผู้หวังดีนั้น "....." ไปด้วย

จากคุณ : SONG982 - [ วันวิสาขบูชา 03:02:09 ]







ความคิดเห็นที่ 62

ตอบความคิดเห็นที่ 42

คิดเหมือน คคห. 38
ว่า ตกลง จขกท. จะโฟกัสที่ใครกันแน่?

ระห่าง สนพ. กับ นักเขียนคู่กรณี?

อ่านแล้วงงๆ เหอๆๆ
(โฟกัสทั้ง 2 ที่ เพราะคิดว่าคู่กรณี"หักหลัง" และ สนพ."ไม่ให้ความเป็นธรรม")

ตอบคุณ : waidhaya

จากคุณ : เสี่ยวจู - [ วันวิสาขบูชา 03:04:31 ]







ความคิดเห็นที่ 63

การทำด้วยอารมณ์ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น และไม่ควรนำมาใช้เป็นข้อแก้ตัวค่ะ เพราะไม่ใช่ข้อแก้ตัวที่ดี
โดยเฉพาะเรื่องที่นำเสนอสู่ที่สาธาณะยิ่งต้องคิดให้หนัก เพราะโอกาสที่จะส่งผลกระทบหลายฝ่ายนั้นมีอยู่
บอร์ดพันทิปไม่ใช่บอร์ดปิดที่เปิดรับให้พูดคุยกันระหว่างสมาชิกในบอร์ดที่อาจมีความใกล้ชิดกันเป็นพิเศษ
ซึ่งในกรณีเช่นนี้ หากต้องการความเห็นใจ ต้องการกำลังใจ ย่อมไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
แต่ธรรมชาติของพันทิปเปิดโอกาสให้สมาชิก รวมทั้งบัตรผ่านเข้ามาอ่าน และแสดงความคิดเห็นได้
เพราะฉะนั้น เมื่ออ่านแล้ว เกิดความไม่แน่ใจ ต้องการความชัดเจนก็ต้องตั้งคำถามเป็นธรรมดา
เพียงแต่สำเนียงที่แฝงอยู่ในการเขียนของแต่ละคนนั้นต่างกัน บางสำเนียงก็อาจทำให้ไม่สบายใจได้

การจะได้มาซึ่งความเป็นธรรม ก่อนอื่นต้องทำทุกอย่างด้วยความชัดเจน และสามารถอธิบายความให้ชัดเจน
การเข้าใจเอาเองโดยไม่ถามอะไรเลย ถ้าสมมติว่า คนรับสารเข้าใจ จขกท. ผิดไปแล้วเอาไปพูดต่อตามความเชื่อของตัว
หากเกิดกรณีอย่างหลังนี้ คิดว่าเป็นผลเสียหายกับตัว จขกท. มากกว่า จึงอยากให้มองการตั้งคำถามในแง่ดีไว้ก่อน
เพราะการได้ข้อมูลอย่างรอบด้านเท่าที่จะแสวงหามาได้ก่อนการวินิจฉัย หรือตกลงเชื่อเรื่องใดเรื่องหนึ่ง จำเป็นมาก
และจะก่อให้เกิดความเป็นธรรม ทั้งกับเจ้าของกระทู้เอง และ หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องด้วย

ยอมรับว่า พยายามทำความเข้าใจกับประเด็นที่ จขกท. พยายามจะสื่อได้ค่อนข้างยากทีเดียว
และให้ตอบอย่างประหยัดเวลาที่สุด คือ 'การแก้ไข' ในความหมายของตัวเอง เป็นอย่างเดียวกับคุณชาเขียวนะคะ
คือ ให้คำแนะนำแล้วให้เขาไปแก้ไขเอาเอง หรือ เขียนแก้ลงไปให้เขาเลย
ซึ่งในกรณีหลังนี้เป็นที่รู้กันว่า การแก้ให้แบบนี้เท่ากับเป็นการยกข้อความที่แก้ไขให้เขาเอาไปใช้ได้โดยนัยอยู่แล้ว
(แต่ถ้าเขาบอกกล่าวกันสักหน่อยว่า จะขอเอาข้อความนี้ไปใช้นะ ก็รู้สึกดีเหมือนกันนะ)

ตอนนี้ไม่แน่ใจนักว่า ช่วยแก้ไขให้กันไประดับไหนแน่ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ
เนื่องจากจะเป็นประเด็นที่บอกได้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นธรรม ไม่เป็นธรรมกับใครอย่างไร และควรจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร

ส่วนรายละเอียดที่ว่า เป็นมาอย่างไร คู่กรณีมีเหตุผลอย่างไรจึงมาขอร้องให้ จขกท. ช่วยเหลือนั้น
ส่วนตัวแล้ว ให้น้ำหนักความสำคัญกับเรื่องที่ว่าน้อยกว่าเรื่อง จขกท. กับคู่กรณีตกลงกันไว้ว่าอย่างไร เป็นไปตามตกลงหรือไม่
เพราะคนจะขอร้องให้ช่วยเขาก็อาจยกเหตุผลหรือกล่าวอ้างอะไรก็ได้ สนพ. มีกติกาหรือกำหนดอะไรก็เป็นเรื่องของเขากับ สนพ.
ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกรณีที่เกิดขึ้นระหว่าง จขกท. และคู่กรณี ซึ่งการพูดถึงบุคคลที่สามโดยไม่จำเป็นเป็นสิ่งที่พึงหลีกเลี่ยงอย่างยิ่ง

สมมติว่า ถ้าไม่ได้มีการตกลงอะไรกันไว้เป็นพิเศษ แต่ จขกท. รู้สึกว่า คู่กรณีทำผิดจรรยา มารยาท
หรือทำให้เสียความรู้สึกเพราะอะไร อยากให้บอกตรง ๆ ไปเลยว่า ทำไมเขาทำให้รู้สึกแบบนี้ เขาทำผิดตรงไหนในความคิดเรา
และอยากจะให้เขาแก้ไขความผิดพลาดที่เกิดขึ้นอย่างไร ซึ่งเรื่องหลังนี้สำคัญมาก แต่ตอนนี้ยังไม่ทราบว่า จขกท. ต้องการอย่างไร

ถ้า จขกท. ตอบคำถามข้อนี้ได้ คิดว่าความอึดอัดทั้งหลายก็คงจะคลี่คลายลงได้เยอะเมื่อเห็นทางออกบ้าง
และเมื่อได้ทราบความต้องการของ จขกท. แล้ว คู่กรณีจะปฏิเสธหรือตอบสนองหรือตกลงอย่างไร ก็ย่อมชัดเจนขึ้น
ส่วนคนวงนอกที่มองอยู่ก็จะสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นได้ด้วยว่าจะให้ความเป็นธรรมแก่ใคร อย่างไร


เนื่องจากทุกอย่างยังไม่ชัดเจน ส่วนตัวแล้ว ไม่ขอออกความเห็นว่าใครควรได้รับความเป็นธรรมอย่างไรนะคะ
เพราะถือว่าตัวเองเป็นคนนอก และไม่ทราบตื้นลึกหนาบางระหว่างความสัมพันธ์ของบุคคลที่เกี่ยวข้องในกรณีนี้เลย



ป.ล. ใจจริงอยากฟังคำชี้แจงจาก จขกท. เองมากกว่า
บางครั้ง ถึงจะสนิทกันขนาดไหน เราก็ไม่สามารถคิดหรือตอบแทนเพื่อนได้ทั้งหมด หรือรู้ใจเพื่อนทั้งหมด
ส่วนตัวแล้ว ไม่กล้าทำอย่างนี้จริง ๆ เพราะกลัวจะพูดอะไรผิดไป หรือสื่อสารแทนเพื่อนผิดพลาด
แต่ถึงอย่างไรก็ขอบคุณที่คุณเสี่ยวจูที่มาช่วยตอบคำถามให้ด้วยนะคะ :)

จากคุณ : ปิยะรักษ์ - [ วันวิสาขบูชา 03:05:23 ]







ความคิดเห็นที่ 64

อุ้ยไม่อยากแก้ไข ขอตั้งอีกคคห.หนึ่ง


ข้อความนี้ของเรา


(เท่าที่ฟังๆ มา... ที่จริงเรื่องราวมันล่วงเลยไปมากโขแล้วนี่นา เลยให้แปลกใจ ว่าจขกท. ไยเพิ่งมาตั้งกระทู้...ถ้าตั้งแล้ว ทำไมไม่เล่าทั้งหมดของข้อตกลงนั่นให้สู่กันฟังล่ะ และ...หลักฐานอ่ะ อยากเห็น...ซึ่งเห็นมีคนยืนยันว่ามีนี่นะ)


มากโข คือ เท่าที่ทราบที่จขกท.เล่ามามันแค่เริ่มต้น แต่เรื่องราวดำเนินต่อเนื่องมามากมายนักแล้ว แต่จขกท.ไม่พูดถึง

ซึ่ง ไม่ใช่คำว่า "นานโข" นะคะ

ดังนี้คำตอบในคคห.ที่ ๖๐ ที่เจือๆ หางเสียงแปร่งของคุณเสี่ยวจูนั้น พิกลค่ะ

(เท่าที่ฟังๆ มา... ที่จริงเรื่องราวมันล่วงเลยไปมากโขแล้วนี่นา เลยให้แปลกใจ ว่าจขกท. ไยเพิ่งมาตั้งกระทู้...ถ้าตั้งแล้ว ทำไมไม่เล่าทั้งหมดของข้อตกลงนั่นให้สู่กันฟังล่ะ และ...หลักฐานอ่ะ อยากเห็น...ซึ่งเห็นมีคนยืนยันว่ามีนี่นะ) ----มันนานแล้วเหรอ..อืม..เราก็เพิ่งรู้นะเนี่ย แต่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งนะคะ


ก็ เราไม่ได้บอกว่าเกินขึ้นนานแล้วนี่นา และยืนยันได้ว่าไม่ได้พิมพ์ผิด (จึงไม่จำเป็นต้องอนุมานนะคะว่าเราอาจคงจะเป็นไปได้ที่พิมพ์ผิด)

จากคุณ : SONG982 - [ วันวิสาขบูชา 03:07:48 ]







ความคิดเห็นที่ 65

เอาค่ะ..ขำๆ ตื่นขึ้นมาก็วันวิสาขบูชาแล้ว
จขกท. คงไม่มาหรอกค่ะ เข้านอนรอตื่นเช้าไปใส่บาตรแล้วค่ะ

ปกติเราก็ไม่ได้มาห้องรวมเท่าไรหรอกค่ะ
มักจะตรงไปนิยายกำลังภายใน กับ จีนศึกษาเลยมากกว่า

นี่ก็พิมพ์กระทู้นี้ฆ่าเวลาดูบอลน่ะค่ะ (ง่วงจะตาย..แต่อยากรู้ผล)

ที่ว่าแย้งกันนั้น คิดว่าไม่ได้เกรงใจรุ่นพี่นั้นคนเดียวน่ะค่ะ หมายถึงพวกกองบ.ก. ประมาณนั้นด้วยล่ะมั้งคะ โดยที่สมมุติเราเป็นเขาอะนะ^_^

จากคุณ : เสี่ยวจู - [ วันวิสาขบูชา 03:09:11 ]



 

โดย: บริษัท เอ๋อ จำกัด(มหาชน) 11 พฤษภาคม 2552 13:02:46 น.  

 

ความคิดเห็นที่ 66

**64

อ๋อ..หมายถึง เล่าเรื่องและกระทำการต่างๆมาตั้งเยอะแล้วแต่ข้ามไปไม่เล่าใช่มั้ยคะ?

ก็คงอนุมานได้ว่ากล้าๆกลัวๆน่ะค่ะ

-----
"ตอนนี้ฉันเป็นทนายแก้ต่างหรือนักสืบวะเนี่ย??"-_-"

จากคุณ : เสี่ยวจู - [ วันวิสาขบูชา 03:15:52 ]







ความคิดเห็นที่ 67

งั้นเรา อย่าเดาว่าเขาคิดงั้น อย่าสมมติว่าเราเป็นเขาเลยนะคะ

ใส่บาตรทำบุญกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรแล้ว

เจ้าของกระทู้คงแช่มชื่นขึ้น พอที่จะอธิบายอะไร ๆ ให้กระจ่างใจเพื่อนๆ ได้มากกว่านี้...


อ้อ...หากยังเกรงใจใคร จะมาตั้งกระทู้พาดพิงถึงผู้คน องค์กร อย่างนี้ทำไมล่ะคะ โดยส่วนตัวยังยืนยันนะว่า เท่าที่ทราบ ทั้งหมดที่จขกท.เล่า แค่เริ่มต้น เหมือนแค่เป็นช่วงเรียกร้องความเห็นใจ เพียงแค่นั้น

แต่...ส่วนที่เหลือล่ะ

หลังตักบาตรทำบุญแล้ว เราจะได้อ่านกันจากปากคำของเจ้าของกระทู้เองหรือเปล่า


ไม่ได้คิดขัดแย้งขัดแข้งขัดขาคุณเสี่ยวจูนะคะ
เพียงแต่รู้สึก "แปลก" กับอารมณ์และการกระทำของเจ้าของกระทู้
และรู้สึก "แปร่ง" กับสำนวนสำเนียงการตอบ"แทน"เจ้าของกระทู้ของคุณเสี่ยวจู
เพียงแค่นั้นจริงๆ

จากคุณ : SONG982 - [ วันวิสาขบูชา 03:18:17 ]







ความคิดเห็นที่ 68

เอ๋..แปร่ง..ยังไงเหรอ?

อธิบายได้ไหม??

จากคุณ : เสี่ยวจู - [ วันวิสาขบูชา 03:22:37 ]







ความคิดเห็นที่ 69

ความคิดเห็นที่ 46


เนื่องจาก จขกท. บอกว่าที่ต้องมาตั้งกระทู้นี้ก็เพราะสงสัยว่าสิ่งที่ตัวเองคิดว่าไม่ดีนั้น มันต่างจากที่คนรอบตัวคุณพูดอย่างตรงกันข้าม และบรรดาคนรอบตัวคุณก็อยากให้คุณคิดว่านี่เป็นเรื่องน่าดีใจเหลือเกิน ดังนั้นจงอย่าคิดมาก

เราว่า จขกท. มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการคบเพื่อนนะคะ โดยพื้นฐานของเรื่องมันชี้ชัดไปอยู่แล้วว่านักเขียนคนนั้นกินแรงคุณ ถ้าคนอื่นยังมองเข้าข้างเธอ เราก็ว่ามันแปลกอย่างเหลือเชื่อ ใครกันหว่าช่างคิดได้ แล้วยังคิดกันตั้งหลายคนอีกด้วย

(คินดะอิจิ+โคนัน ลงความเห็นว่า...จขกท.หมายถึง สนพ. กอง บ.ก. และเพื่อนนักเขียนบางคน)

ตอบคุณ : โตขึ้นจะกลายเป็นยุง

จากคุณ : เสี่ยวจู - [ วันวิสาขบูชา 03:25:22 ]







ความคิดเห็นที่ 70

#62

สนพ. ไม่ให้ความเป็นธรรมตรงไหน?

เราไม่เข้าใจว่า สนพ. เข้ามาเกี่ยวข้องตรงไหนในประเด็นนี้ จึงไม่ทราบ
เจตนาจขกท. ว่าจะลาก สนพ. มาเกี่ยวในเรื่องนี้ทำไม

การแก้ไขเรื่องของคุณจขกท. กับคู่กรณี เป็นเรื่องส่วนตัวของคนสองคน
ซึ่งคู่กรณีได้ส่งต้นฉบับที่มีการแก้ไขเรียบร้อยแล้วแก่สำนักพิมพ์ ซึ่งจะส่ง
ต้นฉบับแบบร่างสุดท้ายที่จะไม่มีคอมเมนท์ของคนอื่นมาอยู่ในไฟล์นั้นแล้ว
เว้นเสียแต่ว่า จะมีการไฮไลท์ในส่วนที่ทางบรรณาธิการบอกให้แก้ไข เช่นนี้
เองแล้ว บรรณาธิการหรือสำนักพิมพ์เองก็จะไม่ทราบว่าการแก้ไขนั้นแก้ไข
โดยตัวนักเขียนเอง หรือให้คนอื่นแก้ (พูดง่ายๆ ว่า รู้แค่ว่าได้แก้ไขที่บอกให้
แก้แค่นั้น)

และอ้างอิงถึง คคห. 8 ของคุณ Clear Ice ที่ว่า

"2. สนพ.แจ่มใสไม่เอาผลงานของนักเขียนลงแผน หากว่าเรื่องยังไม่ผ่าน

หากผลงานเรื่องนั้นๆ จะต้องมีการแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งก็แปลว่า ยังไม่ผ่านการ
พิจารณา บก.จะกำหนดระยะเวลาให้ส่งกลับมาพิจารณาใหม่ หากส่งไม่ทัน
หรือส่งแล้วยังไม่ผ่านอีก ก็กลับไปแก้ใหม่

ต้นฉบับที่ผ่านแล้วพร้อมตีพิมพ์จึงจะได้ลงแผนค่ะ

สนพ.เดือนร้อนไหม ไม่หรอกค่ะ เพราะเมื่อเรื่องยังไม่ผ่าน ก็ยังไม่มีการ
ดำเนินการใดๆ กับผลงานเรื่องนั้น"

ด้วยเหตุนี้ประเด็นเรื่องใบสั่งจึงตกไป (ที่พูดได้เพราะคนใกล้ตัวเป็นนักเขียน
สนพ. นี้ เดี๋ยวจะหาว่าใครบางคนมาสิงล็อกอินมาตอบ)

จึงขอถามคุณเสี่ยวจูว่า เช่นนี้แล้ว สนพ.ไม่ให้ความเป็นธรรมอย่างไร โปรด
อธิบายมาด้วย ในฐานะที่สามารถตอบคำถามแทน จขกท. ได้แทบทุกประเด็น


สวัสดี...



จากคุณ : waidhaya - [ วันวิสาขบูชา 03:25:43 ]



 

โดย: บริษัท เอ๋อ จำกัด(มหาชน) 11 พฤษภาคม 2552 13:03:44 น.  

 

ความคิดเห็นที่ 71

แปร่ง [แปร่ง] ว. มีเสียงพูดผิดเพี้ยนไปจากเสียงที่พูดกันเป็นปรกติในถิ่นนั้นๆ, ไม่สนิท. แปร่งหู ว. ผิดเพี้ยนไปจากที่เคยตกลงกันไว้, มีเสียงพูดที่ผิดเพี้ยนจากปรกติ เนื่องจากมีอารมณ์ไม่พอใจแฝงอยู่.

พจนานุกรมฯราชบัณฑิตฯ ๒๕๔๒ หน้า ๗๑๘

จากคุณ : SONG982 - [ วันวิสาขบูชา 03:25:51 ]







ความคิดเห็นที่ 72

อะ..ไหนๆคุณ ซอง982 อยู่ร่วมเวลาเดียวกันตอนนี้
ยังไงก็ช่วยส่งผลไปบอกด้วยนะ ว่าจบยังไง...

เพราะตอนนี้บอลแข่งเสร็จแล่ววว....

คงไม่มากระทู้นี้และล่ะ เพราะมังคงจะยาววววมาก -o-z z ZZ

Good Night Sweet Dream!

จากคุณ : เสี่ยวจู - [ วันวิสาขบูชา 03:27:51 ]







ความคิดเห็นที่ 73

อะ..เพิ่งเห็น *71

ลองยกตัวอย่างประโยค ได้ไหมคะ?

จากคุณ : เสี่ยวจู - [ วันวิสาขบูชา 03:28:55 ]







ความคิดเห็นที่ 74

๗๒*

รอไม่ไหวก็นอนเถอะค่ะ รักษาสุขภาพไว้ก่อน

๗๓*

น่า นะ หากคุณเสี่ยวจูไม่สังเกตเห็นสำนวนสำเนียงของตัวเองในการตอบ"แทน"เจ้าของกระทู้ก็ไม่เป็นไร อีกหลายๆ คนคงสังเกตเห็นได้ ส่วนจะให้ยกตัวอย่าง แหม... ก็ขนาดคุณเองยังสังเกตไม่เห็น จะยกตัวอย่างให้ค้างคาไปทำไมอีกเล่าคะ ปล่อยคำว่า "แปร่ง" ของดิฉันไว้แต่ในความหมายตามพจนานุกรมน่ะดีแล้ว

จากคุณ : SONG982 - [ วันวิสาขบูชา 03:33:14 ]







ความคิดเห็นที่ 75

เอ่อ..ขอโทษ..ด้วยความสัตย์จริงๆนะคะ

นี่หมายถึง สนพ.แจ่มใส จริงๆหรือคะ?o_O

ไม่ทราบจริงๆนะคะ เพราะไม่ได้อยู่ในวงการนิยายวัยรุ่นแบบนี้เลย

เลยไม่ทราบว่ามีสำนักพิมพ์ชื่ออะไรบ้าง (เพราะอ่านแต่กำลังภายใน)

แล้ว..ชื่อย่ออะไรเนี่ย..ก็ไม่มีวันทราบอะค่ะ เพราะไม่เคยอ่านนิยายแนวนี้เลย

จากคุณ : เสี่ยวจู - [ วันวิสาขบูชา 03:33:19 ]


 

โดย: บริษัท เอ๋อ จำกัด(มหาชน) 11 พฤษภาคม 2552 13:04:39 น.  

 

ความคิดเห็นที่ 76

^
^

ไม่รู้จริงๆ เหรอ งั้นก็แสดงว่าคุณไม่ได้อ่านกระทู้ "ทั้งหมด" อย่างละเอียด
ถึงได้ไม่รู้สินะ เพราะเขาบอกกันตั้งแต่ คคห.ที่ 8 แล้วว่าคู่กรณีเคยอยู่สนพ.
อะไร

เช่นนี้ก็มองได้สองอย่าง คือ...

1. คุณฟังไม่ได้ศัพท์ แล้วจับมากระเดียด

2. คุณแกล้งทำเป็นไม่รู้



จากคุณ : waidhaya - [ วันวิสาขบูชา 03:42:28 ]







ความคิดเห็นที่ 77

โห รวม คคห. นี้ของตัวเองด้วยก็เป็น ๙ คคห.

ที่จริงปล่อยผ่านมานานตั้งแต่เห็นกระทู้ถูกตั้งใหม่ๆ
เพราะพออ่านแล้วทราบได้ว่า จขกท. ใช้ "วิจารณญาณ" เพียงไรในการตั้งกระทู้
รวมทั้งกลวิธีในการนำเสนอกระทู้ การหักมุมจบ และการตั้งชื่อกระทู้
ซึ่งล้วนแล้วแต่เร้าความสนใจ กระตุ้นต่อมอยากรู้ ของคนอ่านกระทู้ได้มาก
ทว่าเนื้อหานั้นกลับ ไม่สมเหตุสมผล ไม่เผยสิ่งที่ควรเผย ไม่เก็บงำในสิ่งที่ควรเก็บงำ
ทั้งหมดที่เห็นในลีลาการตั้งกระทู้ของเจ้าของกระทู้ เราจึงไม่ได้มองว่า
เจ้าของกระทู้ต้องการนำเสนอข้อเท็จจริง เจ้าของกระทู้เพียงแต่ต้องการ
"สร้าง" สถานการณ์บางอย่างให้เกิดขึ้น เพื่อสื่อสารเฉพาะไปถึงบางคน
โดยอาศัยผู้อยากรู้อยากเห็นอย่างพวกเราเป็นเครื่องมือ
ซึ่ง...คงได้ผลแล้วกระมัง

แล้วอย่างไร ทำไมถึงต้องมาตอบคคห.อีกถึง ๙ ครั้ง
ก็เพราะเหตุว่า...

รอให้เจ้าของมา "รับผิดชอบ" ในการเปิดประเด็นไว้นั่นประไร

อ้อ...เผื่อเจ้าของกระทู้จะไม่อ่านคคห.ที่ผ่านมาๆ ของดิฉัน

ขอสรุปไว้อีกครั้งตรง คคห.สุดท้ายนี้ว่า

"รอให้ จขกท. มาอธิบายเพิ่มเติมเสียให้กระจ่าง ว่าส่วนอื่นๆ ที่ กล้าๆ กลัวๆ
หรือ กั๊กๆ ไว้ นั้นคืออย่างไร ไม่ต้องรอให้คู่กรณีกระดิกหรอก คุณเองน่าจะรู้
นิสัยของเขาอยู่แล้ว ตอนนี้ไม่ต้องเคลียร์หรอกว่า คู่กรณี จะดีเลวประการใด
แค่เคลียร์คำถามที่เพื่อนที่เข้ามาตอบกระทู้ถามคุณไว้ให้ได้ทั้งหมดก็น่าจะพอ"

อ้อ... สำหรับข้อสรุปที่ออกมาดังนี้ เพราะทราบดีอยู่แล้วว่า คู่กรณีของจขกท. ดีเลวประการใด

นะคะ คุณอมฯ

จากคุณ : SONG982 - [ วันวิสาขบูชา 04:00:14 ]







ความคิดเห็นที่ 78

แหม ว่าจะมุงเงียบๆ แล้วเชียว แต่มันอดไม่ไหว 555

คุณเสี่ยวจูนี่เป็นร่างทรงหรือพยาธิในท้องของคุณอมฯ เจ้าของกระทู้หรือคะ
ดูเหมือนจะรู้ แต่ไม่รู้ แล้วยังอยากตอบ ยิ่งเดายิ่งมั่วแล้วมั้ง
รอคุณอมฯ เจ้าของกระทู้หาย "ใจเสีย" มาตอบเองดีไหมคะ


สงสารสำนักพิมพ์ จ. จัง อิอิ นักเขียน ฟ. ไปโกหกคำโตไว้จน
"เพื่อน" เวทนาสงสารรีบเข้าไปแก้งานให้ แก้ไปแก้มาผิดใจกัน
เอามาแฉกลาง pantip สำนักพิมพ์ จ. ซึ่งไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไร
กลายเป็น "ตัวร้าย" ที่ขาดความ "ยุติธรรม" ไปเสียนี่


ทั้งๆ ที่นักเขียน ฟ. โดนไล่ เอ๊ย เชิญออกไปตั้งนานแล้ว


เศร้าใจๆ 55555555


อย่างนี้ต้องไปทวงความรับผิดชอบจากสำนักพิมพ์ไหนดีคะ
สำนักพิมพ์ พ. ที่นักเขียน ฟ. เพิ่งไปออกหนังสือเล่มล่าสุดดีหรือเปล่า
เอ๊ะ ว่าแต่เล่มล่าสุดของนักเขียน ฟ. ที่เพิ่งออกกับสำนักพิมพ์ พ.
ในฐานะนักเขียนดาวดวงใหม่ นักเขียน ฟ. เขียนเองหรือเปล่านะ
คุณอมฯ มีเอี่ยวแก้ให้ด้วยหรือเปล่าเนี่ย สงสัยจัง อิอิ

จากคุณ : บริษัท เอ๋อ จำกัด(มหาชน) - [ วันวิสาขบูชา 04:50:12 ]







ความคิดเห็นที่ 79

ว่างมากเลยไปดูประวัตินักเขียน ฟ. ที่สำนักพิมพ์ จ.

เล่มสุดท้ายที่นักเขียน ฟ. ตีพิมพ์กับ สำนักพิมพ์ จ. วางแผงไปตั้งแต่เดือน ต.ค. ปี 51


ส่วนเล่มล่าสุดที่นักเขียน ฟ. ตีพิมพ์กับ สำนักพิมพ์ พ. เพิ่งวางแผงไปเดือน มี.ค. ปี 52

ผลงานเจ้าปัญหาอันที่มาของกระทู้นี้ มันเล่มไหนล่ะเนี่ย เตรง เตร่ง เตร๊งงงงงง

จากคุณ : บริษัท เอ๋อ จำกัด(มหาชน) - [ วันวิสาขบูชา 04:56:59 ]







ความคิดเห็นที่ 80

ผมติดตามกระทู้นี้ตั้งแต่วันแรก (5 พ.ค.) ครับ มีเพื่อนชวนมาดูสองสามคน
และบางท่านก็ชวนให้ร่วมแสดงความเห็นด้วย แต่ผมก็ยังกบดาน (จ๊าก) มา
ตลอด เพราะไม่ทราบจริงๆ ว่าจะแสดงความเห็นว่าอะไร ข้อมูลประกอบมัน
น้อยมาก อ่านตั้งแต่คุณอมฯ มาเขียนรอบแรก มีจำนวน คคห เลขหลักเดียว
ก็ยังไม่มั่นใจพอที่จะตอบอะไร กะว่าค่อยมาอ่านละเอียดๆ ใหม่ให้เข้าใจมาก
ขึ้น หลังจากนั้นคุณอมฯ ก็มาชี้แจงข้อสงสัยของเพื่อนๆ อีกครั้งใน คคห 14
ตามด้วยข้อสงสัย (และข้อคาดเดา) อีกมากมาย

แต่ก็ยังไม่มี ข้อมูล อะไรมาช่วยให้ชัดเจนขึ้นเลย

ผมเองเข้าใจความปรารถนาดีของคุณเสี่ยวจู ที่คิดว่าคุณอมฯ อาจจะ "ใจเสีย"
ไม่น้อยที่ได้รับ คคห อย่างข้างต้น (และไม่ได้คิดว่าคุณเสี่ยวจูอาจจะเป็นเพื่อน
หรือคนรู้จักมาปกป้องนะครับ เข้าใจว่าคงจะพยายามมองต่างมุม และพยายาม
ทำความเข้าใจความรู้สึกของคุณอมฯ ผู้ตั้งกระทู้เท่านั้นเอง) และตัวผมเองไม่
อยากเขียนอะไรแต่ต้นเพราะเกรงจะร่วมทำให้คุณอมฯ "ใจเสีย" นี่แหละ

่ในขณะเดียวกัน ผมก็ขอสนับสนุนคุณ SONG982 ว่า คุณอมฯ จำเป็นต้องเป็น
คนชี้แจงเอง การที่มีคนนอก (อย่างพวกเรา อย่างคุณเสี่ยวจู) มาช่วยกัน "เดา"
ไม่ทำให้ข้อมูลกระจ่างขึ้น และไม่ทำให้คนส่วนใหญ่แถวๆ นี้สามารถช่วยคุณอมฯ
ตอบคำถามที่ตั้งไว้หัวกระทู้ได้ครับ เพราะมันเหมือนโจทย์คำนวณที่ไม่บอกตัว
เลข ถ้าคุณอมฯ ต้องการ "คำตอบ" หรือความเห็นต่อ "คำถาม" ที่ตั้งไว้หัวกระทู้
(และย่อหน้าสุดท้ายของข้อความสีฟ้าต้นกระทู้) จริงๆ คุณอมฯ ก็จำเป็นต้องให้
ข้อมูลที่ทำให้ผู้ออกความเห็นสามารถวินิจฉัยได้ครับ

ส่วนข้อมูลนั้นจะกระทบกระเทือนใครบ้าง ผมไม่ทราบ และเป็นการเหมาะสมหรือ
ไม่ที่จะให้ข้อมูลเหล่านั้น ผมก็ไม่ทราบอีก (เพราะผมไม่รู้รหัสตัวย่อใดๆ เลยใน
เหตุการณ์นี้) แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่พึงตระหนักว่า ถ้าคุณอมฯ ตั้งคำถามที่ต้อง
ใช้ข้อมูลในการตอบ แต่เป็นข้อมูลที่เปิดเผยไม่ได้ ก็ไม่มีทางที่จะได้รับคำตอบ
ที่ตรงประเด็นและแก้ข้อสงสัยที่ตั้งโจทย์ไว้ได้

ความเห็นที่ได้อาจจะเป็นเพียงความรู้สึก, การคาดเดา, หรือข้อสงสัย (กระทั่ง
อาจเป็นความแคลงใจในตัวผู้ตั้งกระทู้เอง อย่างที่ปรากฏข้างต้น)

มันเป็นธรรมดาอย่างนั้นเองจริงๆ

และผมสนับสนุนคุณปิยะรักษ์ (คคห 63) เป็นอย่างมาก ว่า "การจะได้มาซึ่ง
ความเป็นธรรม ก่อนอื่นต้องทำทุกอย่างด้วยความชัดเจน และสามารถอธิบาย
ความให้ชัดเจน" ครับ

ส่วนการที่มีเพื่อนหลายคนเขียนความเห็นด้วยถ้อยคำกระทบกระเทียบ เสียดสี
หรือรุนแรงอยู่บ้างนั้น อาจจะทำให้คุณอมฯ "ใจเสีย" ไปบ้างอย่างที่คุณเสี่ยวจู
ทำนายไว้ แต่ผมก็หวังว่าคุณอมฯ คงจะไม่เสียใจนานเกินไปนะครับ ดูจากถ้อย
คำที่ใช้ในการตั้งกระทู้ เช่น "ลอก" "จรรยาบรรณ" ก็เข้าใจว่าคุณอมฯ คงจะคุ้น
เคยกับ "กระทู้ร้อน" แถวๆ นี้ดี และคงจะเข้าใจดีว่าประเด็นร้อนที่ห้องสมุดและ
ถนนนักเขียนนั้น ย่อมจะมี คคห "ร้อนๆ" อุ่นหนาฝาคั่งเป็นธรรมดา และย่อมจะ
มีความเห็นทั้งสองด้าน (หรือหลายด้าน) มาถกกันอย่างถึงพริกถึงขิง (บางที
อาจจะถึงครกถึงสาก จึ๋ย) แบบนี้ทุกกระทู้

และการ "เลือก" ถ้อยคำ ทั้งในชื่อกระทู้ และในข้อความของกระทู้นั้น ดูเหมือน
เจตนาจะให้เป็น "กระทู้ร้อน" แบบนั้นอยู่แล้ว ผมเลยคลายห่วงไปได้บ้าง ว่า
คุณอมฯ คงจะไม่ตกใจกับเสียงตอบรับจนเกินไป

อีกอย่างที่อาจต้องตระหนักคือ แม้บาง คคห จะมีลักษณะ "ด่วนตัดสิน" (คือ
ด่วนตัดสินคุณอมฯ เจ้าของกระทู้) แต่คุณอมฯ ก็ไม่ควรจะต้องตกใจหรือเสียใจ
จนเกินไป เพราะการตั้งกระทู้แบบนี้ (และให้ข้อมูลที่เลือนรางแบบนี้) มันย่อมทำ
ให้เกิดการด่วนตัดสินแ่น่ๆ อยู่แล้ว เหมือนที่คุณอมฯ เล่าว่ามีคนพร้อมจะ "เชื่อ"
คู่กรณีท่านนั้นโดยไม่ฟังคุณอมฯ ในขณะเดียวกัน คนที่อ่านกระทู้นี้หลายคน ก็
อาจจะด่วนตัดสินคู่กรณีของคุณอมฯ ไปแล้วทั้งที่ยังไม่มีข้อมูลเลยเหมือนกัน

อย่างที่บอกครับ มันเป็นธรรมชาติของกระทู้แบบนี้อยู่แล้ว ยิ่งไม่มีข้อมูลประกอบ
แบบนี้ด้วย มันคงเลี่ยงไม่ได้เลยจริงๆ

เขียนมาหลายบรรทัดแล้ว (กลัวว่าถ้าเขียนสั้นไป เพื่อนบางคนจะตกใจว่าไม่ใช่
คุณพีทตัวจริง) สุดท้ายนี้ ผมก็เหมือนกับเพื่อนๆ หลายคน คือไม่รู้จริงๆ ว่ากระทู้
นี้ตั้งใจจะถามอะไร ถามความเห็นจริงๆ (แบบไม่ให้ข้อมูล แต่ก็มีเพื่อนที่พยายาม
ตอบในหลักการกว้างๆ โดยไม่ยึดข้อมูลไปแล้วบ้าง) หรือต้องการเปิดเผยเรื่อง
ราวเบื้องหลัง (อย่างที่คุณอมฯ บอกว่า "ที่สำคัญประเด็นนี้ไม่ได้รับการเหลียว
แลเพราะพี่เขาไม่ยอมเอ่ย อมอยากเอ่ยแต่ดันไม่มีใครฟัง(เวรกรรม!) ด้วยเหตุนี้
อมจึงได้ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาค่ะ" ซึ่งผมยังไม่เข้าใจนัก ว่าประเด็นที่ "ไม่ได้รับการ
เหลียวแล" นั้น คือโจทย์คำถามที่กระทู้ตั้งเอาไว้ หรือว่าอะไร)

ถ้าได้เข้าใจความมุ่งหมายของกระทู้ชัดเจนขึ้น และผมมีความเห็นที่จะร่วมเสนอ
ก็อาจจะมีโอกาสได้ช่วยตอบโจทย์ของคุณอมฯ ครับ


จากคุณ : คุณพีทคุง (พิธันดร) - [ วันวิสาขบูชา 08:24:32 ]


 

โดย: บริษัท เอ๋อ จำกัด(มหาชน) 11 พฤษภาคม 2552 13:06:07 น.  

 

ความคิดเห็นที่ 81

พลีชีพ..
.
แต่จะบอกว่าอมคิดผิดตั้งแต่มาตั้งกระทู้เองแล้วแหละ
เดินหมากผิดมากๆ..

แถมเขียนยังวกไปวนมา หาประเด็นไม่ได้อีก
เข้าตัวไปกันใหญ่ ป่านนี้นักเขียนฟ. คงหัวเราะคั่กๆ

ก็รับผลจากการใช้"อารมณ์"ของตัวเองไปละกัน
นาทีนี้แก้ตัวอะไรมันก็ไม่ขึ้นแล้วล่ะ.. เฮ้อ

จากคุณ : ว่านน้ำ - [ วันวิสาขบูชา 11:43:28 ]







ความคิดเห็นที่ 82

งง...ไม่รู้รายละเอียดลึกๆ แต่เท่าที่อ่านดู ก็ไม่แปลกอะไร

เค้าให้คุณช่วยแก้
คุณคิดว่าเค้าให้คุณช่วยแก้เพื่ออะไรล่ะ ถ้าไม่ใช่เอาไปพิมพ์
แก้เพื่อดูไอเดียคนอื่น เล่นๆ หรือไงกัน????

เพราะงั้นพอเอาไปพิมพ์
ผมว่าน่าดีใจ ที่เค้ายอมรับในสำนวน และความสามารถของคุณนะ หึหึ

จากคุณ : Archi - [ วันวิสาขบูชา 14:08:23 ]







ความคิดเห็นที่ 83

ส่วนเรื่องที่เรียกร้อง นั้นควรเรียกร้องก็ต่อเมื่อ
- ตกลงว่าจะให้เครดิต
- ตกลงว่าจะให้ค่าตอบแทน

แต่นี่ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้น
คุณกล่าวเหมือนกับจะบอกว่า ใจบุญ และเห็นใจนักเขียน ก็เลยช่วยเหลือ
ถ้าเป็นผม คิดจะช่วยใครฟรีๆแล้วล่ะก็ ไม่ตามไปดูผลหรอก ว่าเค้าจะให้อะไรตอบแทน
ในกรณีคุณนี่ เรียกทวงบุญคุณได้ล่ะมั้ง

ในแง่นักเขียนเอง ถ้าป่วยขนาดนั้นก็น่าเห็นใจ
แต่ถ้าใช้คนช่วยเยอะจริงๆ ก็น่า บวกเครดิตว่า ...และ คณะ... ไปด้วย
ซึ่งก็ไม่รู้ จขกท.จะยอมพอใจรึไม่ อืมมมม

จากคุณ : Archi - [ วันวิสาขบูชา 14:13:12 ]







ความคิดเห็นที่ 84

ความจริงก็คือ นักเขียน ฟ. มาตั้งกระทู้สร้างสถานการณ์เพื่อโปรโมตตัวเอง
สรุป ทุกคนโดนหลอก
5555555555555555555

ล้อเล่นนะ อย่าเป็นจริงขึ้นมาล่ะ

จากคุณ : ตานี - [ วันวิสาขบูชา 18:38:18 A:58.9.197.180 X: TicketID:100674 ]







ความคิดเห็นที่ 85

โอ...คุณว่านน้ำพลีชีพไปเสียแล้ว...ไว้อาลัย (ด้วยรักและเคารพ...จริงๆ ไม่ได้โม้)

เย็นย่ำวันวิสาขบูชา ไม่มีโอกาสไปเวียนเทียนเพราะบิดามารดาไม่อยู่บ้าน คุณ ฯคีไม่รู้จะไปเวียนกับใคร

เปิดเน็ตมาเจอก็อ่านต่อในฐานะขามุงที่ดี เสร็จแล้วก็คิดนั่นคิดนี่ไปเรื่อยเปื่อยประสายังปลงได้ไม่หมด

ก่อนอื่นก็คิด "ตูนึกแล้วว่ามันต้องบาน (ปลาย) สนพ.โดนลากมาเกี่ยวแล้วไง (แม้จะยังเกี่ยวไม่แน่นก็ตามที)"

อ่านมาเรื่อยๆ เจอคคห.ถูกใจก็คิดต่อ "อืม...ให้กิฟท์ไม่เป็นวุ้ย อยากให้กิฟท์คุณ : ปิยะรักษ์ กะ คุณ : คุณพีทคุง (พิธันดร) จัง กดตรงไหนฟะ กลัวกดมั่วแล้วระเบิด (เย่ย)"

หลังจากนั้นก็คิดอีก...

"คงเป็นโอกาสในการได้เรียนรู้ชีวิตของทั้งคู่ล่ะมั้ง" (หมายถึงคู่กรณี)

ถ้าไม่เกิดมาแต่เหตุ หรือจะมีผล (ที่ยังไม่สิ้นสุด) ในวันนี้ได้

เกิดแล้วก็แก้ไขกันไป...

คนเราพอใจ...ก็เพราะเขาเป็นของเรา สิ่งนั้นเป็นของเรา ไม่พอใจ...ก็เพราะเขาไม่ใช่ของเรา สิ่งนั้นไม่ใช่ของเรา

มองออกไปนอกรถที่ขับ แหม...ไอ่กระบะนั่นแม่มขับกวนส้นตูจัง โกรธและหมั่นไส้...ก็เพราะมันเป็นรถของคนไม่รู้จัก ถ้าเปลี่ยนเป็นรถเพื่อนเราสิ คิดทันทีเลยว่า "มันจะขับดีๆ ไม่ได้หรือไงวะ กลัวแทนนะโว้ย"

นั่นละ...ของของเรา เราห่วง เรารัก เรายึดมั่น

ศักดิ์ศรีนั่นของเรา เงินทองนั่นของเรา ใครจะให้กันได้ง่ายๆ ล่ะ

ตามหลักใจคนแล้วมันปล่อยยากนะ (จขคคห.ก็ยังปล่อยยาก) เพราะงั้นต้องมั่นใจก่อนว่ามันเป็นของเราโดยชอบธรรม

ว่าแต่มัน...

ถูกต้องแน่หรือ?

ใช่ของเราแน่หรือเปล่า?

ยืดอกตอบให้เต็มปากเต็มคำได้ไหมว่านั่นของฉัน? ตะโกนบอกคนทั้งโลกได้ไหมว่าฉันถูก ไม่ได้ผิด

ถ้าแน่ใจก็ตะโกนให้หน้าดำหน้าแดง ตะโกนให้สุดเสียง อย่าอ้อมแอ้มเลย คนอื่นไม่ได้ยิน

คนเราน่ะ...วูบเดียวตายได้ง่ายๆ อย่ามั่นใจว่าฉันจะตายอายุ 60 อายุ 80 เพราะนอนหลับแล้วไม่ตื่นก็มี

อยากเป็นคนดีตอนนี้ หรือจะรอเป็นคนดีเมื่อสาย...ก็เลือกเอา
.
.
.
.
HaPpY วิสาขบูชา DaY วันนี้พระจันทร์เต็มดวง พระพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้และปรินิพพาน พระองค์ทราบทุกอย่าง...ในขณะที่เรายังไม่รู้ผลลัพธ์ในภายภาคหน้ากันเลยว่า เรื่องนี้จะจบลงอย่างไร ทั้งที่ถ้าจะทำให้จบก็จบได้ในบัดดล

สองพันห้าร้อยกว่าปีผ่านไป เราทำอะไรกันอยู่เนี่ย

จากคุณ : ฯคีตกาล - [ วันวิสาขบูชา 18:41:30 ]


 

โดย: บริษัท เอ๋อ จำกัด(มหาชน) 11 พฤษภาคม 2552 13:07:12 น.  

 

ความคิดเห็นที่ 86

^
^
^
5555 พิสูจน์ได้เป็นอย่างดีค่ะ ว่ามนุษย์ไม่ว่าเวลาผ่านไปเท่าไร
ร่างกายห่มด้วยใบไม้หรือเสื้อผ้าสุดหรู เนื้อในก็ยังเป็นมนุษย์ที่จิตใจซับซ้อนยากแท้หยั่งถึงอยู่ดีค่ะ ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้เรื่องจบลงด้วยดีค่ะ

จากคุณ : จโกระ&ลาชา - [ วันวิสาขบูชา 19:50:18 ]







ความคิดเห็นที่ 87

ไม่ช่ายยย หมายถึงมีคนพลีชีพตะหาก

จากคุณ : ว่านน้ำ - [ วันวิสาขบูชา 20:15:06 ]







ความคิดเห็นที่ 88

ยังแกะโค้ดไม่ออก

เราเคยแต่ทำรายงานทางวิชาการค่ะ
ถ้าขอให้เรา "แก้งาน" เราจะแก้อย่างละเอียด สามารถนำไปใช้ได้เลย
แต่ ถ้าขอให้เรา "รีวิวงาน" หรือ "คอมเมนต์งาน" (ภาษาไทยใช้ว่าอะไรเนี่ย) เราจะชี้จุดที่ต้องแก้ไข ควรเติมอะไรบ้าง แล้วให้คนที่ขอไปเขียนรายละเอียดเอาเอง

เราว่ามันขึ้นอยู่กับตอนที่คุณ จขกท. กับพี่คนนั้นคุยกันแล้วล่ะค่ะ ว่าจะทำให้แค่ไหน

ถ้าใช้คำว่า "แก้งาน" เรามองว่าพี่เค้าไม่ผิดกับคุณ จขกท.
แต่ผิดจรรยาบรรณนักเขียนค่ะ

จากคุณ : หมึกปิ้งสีชัง - [ วันวิสาขบูชา 21:38:54 ]







ความคิดเห็นที่ 89

มาฟังข้อสรุปค่ะ...
เราอ่านกระทู้นี้สามรอบแล้ว ยังงงกับประเด็นอยู่เหมือนเดิม...

จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ - [ วันวิสาขบูชา 22:16:08 ]


 

โดย: บริษัท เอ๋อ จำกัด(มหาชน) 11 พฤษภาคม 2552 13:07:54 น.  

 

จบแค่นี้แล้วกระทู้ก็ถูกอุ้มหายไป เตรง เตร่ง เตร๊งงงงงงง


ถ้าอ่านแล้วงงๆ ก็เพราะเราไม่มีเวลามานั่งประดิษฐ์ประดอยทำตัวหนา - ตัวบาง - ตัวเอียง - ขีดเส้นใต้ ให้ทุกความคิดเห็น มันเสียเวลาและตาลาย

อ่านให้สนุกสนานยิ่งกว่าด้วย effect ครบถ้วนเชิญที่

//peterpuck.awardspace.com/pantip/kratoo.htm

55555555555

 

โดย: บริษัท เอ๋อ จำกัด(มหาชน) 11 พฤษภาคม 2552 13:10:31 น.  

 

อ่านแล้วงง ก็ตรง ตัวหนา ตัวเอียง ขีดเส้นใต้ นี่แหละ

นับถือคุณ เอ๋อฯ จริงๆ

 

โดย: latics1 11 พฤษภาคม 2552 14:18:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.