มาถึงฟาร์มสตรอเบอรี่ มีเจ้าหน้าที่ของฟาร์มายืนแจกสตรอเบอรี่เป็นแก้วๆ ละประมาณ 4-5 ลูก ให้ชิมกันก่อนเลย วันนี้คนเยอะต้องยืนเข้าคิวรับแก้วสตอเบอรี่แล้วเดินเข้าไปชมข้างในได้ แต่ห้ามทิ้งเศษขยะภายในฟาร์ม ไกด์ทัวร์เกาหลีบอกว่า สตรอเบอรี่ภาษาเกาหลีเรียกว่า "ดาล-กิ" (Dal-ki) เดินเข้าไปภายในฟาร์มจะเห็นสตอเบอรี่หลากหลายขนาดหลายสี ถ้าสุกเต็มที่สีจะแดงทั้งลูกเก็บรับประทานได้เลย ที่นี่ไม่ฉีดสารเคมี ลูกใหญ่เนื้อฉ่ำหอมหวานอร่อยมาก
มาชิมสตรอเบอรี่กัน
ชิมจนอิ่ม
สตรอเบอรี่เกาหลีที่นิยมปลูกกันมากมีอยู่ 2 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ ซอลฮยัง (Seohyang) ลูกจะใหญ่และก้นจะทู่ๆ เนื้อฉ่ำ และ สายพันธุ์เมฮยัง (Maehyang) ลูกจะผอมเรียวก้นแหลม เนื้อจะแข็งกว่า การทำฟาร์มในเกาหลีจะมี 2 แบบ เป็นแบบแปลงยาวปลูกกับดิน และแบบปลูกในกระบะยกสูงจากพื้นที่ ทัวร์เกาหลีพามาชมวันนี้เป็น แบบแปลงยาวปลูกกับดิน เดินชมกันพักใหญ่ก็พากันเดินออกมาหน้าฟาร์มเพื่อสั่งซื้อกลับบ้าน จะมีเจ้าหน้าที่ของฟาร์มยืนขายสตรอเบอรี่ แอปเปิ้ล และสาลี่แอปเปิ้ล โดยสาลี่จะมีให้ชิมเป็นจานๆ กันเลย
การปลูกสตรอเบอรี่แบบแปลงยาวปลูกกับดิน
เจ้าหน้าที่ฟาร์มเตรียมสาลี่ให้ชิม
สตรอเบอรี่ราคากล่องละ 12,000 วอน แอปเปิ้ลกล่องละ 50,000 วอน (มี 6 ลูก) สาลี่กล่องละ 30,000 วอน (มี 6 ลูก) คณะทัวร์เกาหลีต้องการสั่งซื้อกลับบ้านให้บอกจำนวนแล้วจ่ายเงินให้เรียบร้อย ทางฟาร์มจะไปส่งให้ที่สนามบินในวันที่เดินทางกลับเมืองไทย โดยแพ็คเป็นกล่องๆ เขียนชื่อให้เราทราบว่าเป็นของใคร เราสามารถโหลดกลับบ้านได้เลย
สตรอเบอรี่ราคากล่องละ 12,000 วอน
แอปเปิ้ลกล่องละ 50,000 วอน
สาลี่กล่องละ 30,000 วอน
เตรียมซื้อกลับบ้าน
สตรอเบอรี่ถือเป็นผลไม้ที่มีชื่อเสียงของประเทศเกาหลี ทำให้มีทัวร์เกาหลีมาเยี่ยมชมมากขึ้นเรื่อยๆ การมาถึงฟาร์มทำให้ได้ของใหม่ที่สดกว่าและได้อรรถรสในการชิม ใครที่ต้องการมาถึงฟาร์มก็ต้องเลือกช่วงที่มีสตรอเบอรี่ออกผลเยอะๆ นั่นคือ ประมาณช่วงเดือนมกราคม - มีนาคม ของทุกปี ไม่เช่นนั้นจะเจอสตรอเบอรี่ที่มีราคาแพงกว่าปกติ