อยาก ปลดล็อกชีวิต มีบ้านเป็นของตัวเองซักหลัง ต้องเริ่มต้นยังไง? ทำงานมานานก็ไม่รวยซักที หนี้สินก็เยอะ เงินเดือนมาก็จ่ายหนี้หมด เดือนชนเดือน แต่ก็อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง ไม่รู้จะทำยังไง รู้สึกชีวิตเหมือนถูก ล็อกกุญแจ ไปไหนไม่ได้เพราะหนี้ฉุดขา จะเริ่มปลดล็อกชีวิต ทำให้ชีวิตดีขึ้น และมีบ้านเป็นของตัวเองได้ต้องทำยังไงนะ มาหาคำตอบกัน ... ประการแรก Disk Clean Up ชีวิตซะ การที่เราจะเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ เราต้องล้างไพ่ใหม่ หรือล้างสิ่งที่ไม่ดีออกไปให้หมด ถ้าเปรียบเหมือนหน่วยความจำในคอมฯ หรือโทรศัพท์มือถือ ก็ต้องล้างทิ้งให้หมด วิธีการล้างสิ่งไม่ดีออกไปจากชีวิตก็คือ การล้างใจให้สะอาดซะ! ลืมเรื่องแย่ๆ ที่พาลให้ชีวิตตกต่ำไปชั่วคราว แล้วลุกขึ้นมาเปลี่ยนตัวเองเสียใหม่ เราเสียเวลาไปกับสิ่งที่ทำให้รู้สึกแย่ๆ มากมายแค่ไหนแล้ว อย่าให้ความรู้สึกแย่ๆ มันกัดกินใจเรา เราจะไม่ยอมให้มันกินใจเรามากไปกว่านี้ วิธีล้างใจง่ายๆ ที่ผมเองชอบทำ ได้แก่ การเข้าค่ายปฏิบัติธรรม เอาน้ำดีล้างน้ำเสีย ความตั้งใจจริงที่จะเริ่มชีวิตใหม่มันมีพลังกว่าที่คุณคิด อย่าล้างชีวิตด้วยการเดินเข้าสู่แหล่งอบายมุข เพราะนอกจากจะไม่ทำให้เราดีขึ้น มันอาจทำให้เราจมดิ่งหนักกว่าเก่าก็เป็นได้ครับ ประการที่สอง เคลียร์หนี้ เคลียร์หนี้ และเคลียร์หนี้ หนี้สิน คือ บ่อเกิดแห่งความหายนะ การไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ คนที่มีเงินเหลือเอาเงินไปลงทุนได้ผลตอบแทนเพียง 10% ต่อปี นั่นทำให้เงินงอกเป็นเท่าตัวภายในไม่ถึง 5 ปี แต่ในทางกลับกันถ้าเราเป็นหนี้ เราจะเป็นคนจ่าย ดอกเบี้ย ถ้าเราต้องจ่ายดอกเบี้ย 10% ต่อปี และจ่ายแต่ดอกไม่ได้ตัดต้น นั่นก็มากพอที่จะทำให้เงินต้นงอกเป็นสองเท่าเช่นกัน หลักการเคลียร์หนี้ ให้เริ่มจากหนี้ที่ดอกเบี้ยสูง ไปสู่หนี้สินที่มีดอกเบี้ยต่ำที่สุด แรกๆ เลยก็ต้องหนี้นอกระบบ ไล่ลงไป หนี้สินส่วนบุคคล หนี้บัตรเครดิต หนี้รถยนต์ เป็นต้น อะไรที่เคลียร์ได้ก็ควรเคลียร์ไปให้หมดเลย บางคนบอกว่าไม่มีเงินจะเคลียร์ต้องทำยังไง ผมคิดว่ามีสองทางเลือกครับ คือ หนึ่งคุณต้องตัดรายจ่าย และสองคุณต้องหารายได้เสริมครับ อะไรก็ได้ที่สุจริต และทำเงินรีบทำรีบเคลียร์ ก่อนดอกเบี้ยมันจะบานไปเรื่อยๆ อาจยกเว้นหนี้รถ วางไว้ก่อนได้ถ้ามันคือสิ่งจำเป็น เพราะเราอาจต้องใช้รถเพื่อการทำงานหาเงิน ประการที่สาม เก็บออม เก็บออม และเก็บออม เมื่อเราเคลียร์หนี้ได้แล้ว ขั้นต่อๆ มาก็ต้อง เก็บออม หลักการสากลทั่วไปก็คือ ออมก่อนค่อยจ่ายออก หลักง่ายๆ แต่หลายคนมองข้าม และทำให้เกิดปัญหาตามมา เมื่อคุณได้รายได้มาอาจจะทางเดียว หรือหลายทาง ให้หักเงินเก็บออมไว้อย่างน้อย 10-20% ของรายได้ของเรา ถ้าคุณมีรายได้เดือนละ 20,000 ควรเก็บอย่างน้อยที่สุด 2,000 บาทต่อเดือน อย่าได้ดูถูกเงินออม เงินเพียง 2,000 บาทก็ตกปีละ 24,000 บาท เก็บไม่เกิน 5-6 ปี ได้เห็นเงินแสนแล้วนะ ประการที่สี่ ทำเงินให้งอกเงย ถ้าคุณลุยมาถึงจุดนี้ได้ผมขอปรบมือเป็นกำลังใจให้ก่อน มาถึงตรงนี้ได้แสดงว่าคุณต้องมีวินัยสูงพอตัว หยุดชื่นชมผลงานก่อนก็ได้ หลังจากนั้นต้องหาวิธีทำเงินให้งอกเงย ด้วยสารพัดวิธียอดนิยม ได้แก่ นำเงินไปฝากธนาคารกินดอกเบี้ย ซื้อฉลากออมสิน ซื้อกองทุนรวม ซื้อคอนโดปล่อยเช่า หรือขายต่อ ซื้อหุ้นลงทุน เป็นต้น แต่ก่อนนำเงินไปลงทุน ถ้าคุณสามารถแบ่งเงินมาดาวน์บ้านในฝันได้ให้รีบทำทันที หากคุณต้องการบ้านราคา 1 ล้านบาท ถ้าดาวน์ได้ 10-20% คือ 1-2 แสนบาท โอกาสกู้ผ่านมีบ้านในฝันจะสูงมากๆ เงินแสนอาจดูยากสำหรับคนที่เริ่มนับหนึ่ง แต่พอเดินมาเรื่อยๆ จะรู้ว่ามันไม่ยากอย่างที่คิด ที่สำคัญเวลาเราปลอดหนี้ เครดิตเราจะดีขึ้น ยิ่งถ้ารายรับเราสัมพันธ์กับการผ่อนค่างวด พูดง่ายๆ ก็คือผ่อนบ้านได้สบายๆ มีเงินเหลือไว้เก็บออม ไว้จับจ่าย ยิ่งมีโอกาสกู้ผ่านสูงมาก ประการสุดท้าย "อย่าหยุดคิด อย่าหยุดฝัน" คนที่ไม่มีความฝัน ก็เหมือนกับคนที่ตายไปแล้ว อยากมีบ้านหลังแรก อุปสรรคมากมายนานัปประการ ก็ไม่ทำให้คนที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจจริงหยุดคิด หรือหยุดฝันได้ ถ้าเรายังมีฝัน ซักวันฝันของเราจะต้องเป็นจริงอย่างแน่นอน บทความนี้ถือได้ว่า ให้คุณได้เริ่มต้นจากศูนย์จนสำเร็จ ครบจบในบทความเดียว ความพยายามเท่านั้นจะนำมาซึ่งความสำเร็จ ก่อนอื่นอย่าลืมรีบไป Disk Clean Up หรือ ล้างใจให้ใสสะอาดเสียก่อน เริ่มต้นวันนี้อนาคตสดใสซาบซ่ารอคุณอยู่นะจ๊ะจะบอกให้ เป็นกำลังใจให้ทุกๆ คนที่ฝันอยากมีบ้านนะครับ
Create Date : 13 มีนาคม 2560 |
Last Update : 13 มีนาคม 2560 11:20:31 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1002 Pageviews. |
|
|