เรามาเรียนที่ยุโรปก็ 4 ปีกว่าแล้ว ทริปที่เที่ยวนานๆส่วนใหญ่ก็จะเป็นช่วงวันหยุดยาวๆอย่าง easter ไม่ก็ christmas ค่ะ จริงๆแล้วการเที่ยวช่วงนี้ทุกอย่างจะแพงค่ะ แต่ว่าให้อยู่บ้านเฉยๆ สำหรับการอยู่ ตปท มันก้คงจะเฉาเกินไป 555 ดังนั้นในการไปเที่ยวในช่วงพีคแบบนี้เราก้ต้องมีการวางแผนล่วงหน้าอย่างน้อยก้ 2 เดือนค่ะ ซึ่งพี่ๆที่ไปด้วยกันก็จะเป็นคนวางแผนให้ตลอด

สำหรับ Christmas 2015 ตอนแรกก็คิดว่าจะอยู่บ้านเฉยๆ ถ้าจะไปเที่ยวก็คงต้องไปคนเดียว เพราะเดอะแก๊งค์ได้เรียนจบแล้วกลับกันไปเกือบหมด พอใกล้ๆกลางเดือน ธค ทนสภาพใจโทรมของตัวเองไม่ไหวค่ะ ต้องหาอะไรทำให้ตัวเองเพื่อรักษาใจช้ำๆที่เพิ่งอกหักมา ก็เลยเริ่มหาที่ท่องเที่ยวที่ไม่หนาวมากในยุโรปค่ะ (เพราะเบื่อความหนาวแล้ว 555) มีหลายที่ที่อยากไปแต่ยังไม่มีโอกาสทั้งโปรตุเกส สเปนตอนใต้ อิตาลีตอนใต้ สุดท้ายหวยมาลงที่โปรตุเกส เพราะได้เพื่อนร่วมทางค่ะ เราอยู่กันคนละประเทศในยุโรป ก็นัดเจอกันที่ Porto วันที่ 25 ค่ะ

ตั๋วเครื่องบินที่ได้แอบแพงเหมือนกันนะคะ ขาไปต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่เวียนนา 6 ชม.ค่ะ แต่ ณ จุดนี้ไม่อยากพลาดทริป Porto+ Lisbon ค่ะ เพราะเป็นหนึ่งในเมืองในยุโรปที่อยากไป 

ช่วงเวลาที่เปลี่ยนเครื่องที่เวียนนาก็ออกไปเดินเล่นนิดหน่อย ไม่ยากเลยค่ะมีวิธีนั่งรถจากสนามบินไปในเมืองหลายวิธีค่ะ มีรถไฟ รถไฟเร็ว บัสค่ะ เราเลือกรถไฟค่ะ เพราะถูกสุด 555

https://www.wien.info/en/travel-info/to-and-around/airport-to-center

ตั๋วรถไฟถ้าจาก airport-city center 4.4 euro แต่ถ้าซื้อตั๋ววันในเมือง ราคา 7.6 แล้วก้จ่ายค่ารถไฟเพิ่มอีก 2.2  euro ค่ะเพราะ airport อยู่นอกโซน แล้วขากลับก้ซื้อตั๋วออกนอกโซนในเมืองอีก 2.2 euro ค่ะ 

สรุปถ้าซื้อตั๋ววันในเมือง+airport to city center= 9.8 euro

มีภาพในเมือง+ Christmas market มาฝากเล็กน้อยค่ะ

ในภาพเป็นรอบๆ St. Stephen's Cathedral

เริ่มทริปไปถึง Lisbon ตอนกลางคืนค่ะ เพื่อเช้าถัดไปไปเจอเพื่อนร่วมทางที่ Porto รถไฟและสถานีรถไฟที่นี่ดีมากค่ะ มี free wifi ตลอด ทำให้นัดเจอเพื่อนได้ง่ายขึ้นค่ะ การเดินทางจาก lisbon-porto ค่ารถประมาณ 30.3 euro ใช้เวลาประมาณ 3 ชม.ค่ะ

ช่วง Christmas วันที่ 24-25 ทุกอย่างจะปิดหมดค่ะ (เกือบทุกที่ในยุโรปนะคะ) ถ้าใครมาช่วงนี้ก็ต้องวางแผนกันหน่อยนะคะ ร้านอาหารหลายๆร้านก็จะปิด ที่เปิดก็คงเป็นพวก kebab ไม่ก็ร้านจีนเนื่องจากเราไปถึงคืน christmas eve (24 ธค) ก้ต้องเลือกที่พักหน่อยนะคะถึงแม้เค้าจะบอกว่า check-in ได้ถึงเที่ยงคืน แต่สำหรับคืนนี้กรณีพิเศษ บางที่ก็จะไม่มีพนักงานอยู่ค่ะ โชคดีที่ที่พักที่จองไปมีคนอยู่ตลอดสามารถ check-in ได้ถึงเที่ยงคืน

เช้าวันที่ 25 ทริปของเราก้ได้เริ่มขึ้น เริ่มแรกก็ไป รร. เพื่อเก็บสัมภาระ ปกติเราจะใช้ public transport ในการเดินทางนะคะ แต่เนื่องจากว่าค่าครองชีพในโปรตุเกตไม่แพง เรากับเพื่อนเลยตัดสินในใช้บริการ taxi ค่า taxi ที่นี่ถูกมากจากสถานี Campanha ถึงหน้า รร แค่ประมาณ 6 euro เองค่ะ 

เริ่มต้นทริปก็มีเรื่องตื่นเต้นเลยค่ะ Surpriseeee รร ปิด It's Christmas holiday. เราไม่ได้ถาม รร ก่อนหน้านั้นว่าเค้าเปิดมั้ยวัน christmas เพราะว่าเราสามารถจองผ่าน agoda และ booking ได้ วุ่นวายกันพักนึง ต้องโทรไปหา agoda ค่ะ เงินในโทรศัพท์จะหมด เราเลยตั้งใจจะกลับไปสถานีรถไฟเพื่อที่จะได้มี free internet ไว้จอง รร ใหม่ แต่โชคเข้าข้างมาก ระหว่างทางมี รร ที่มีห้องว่าง ราคา 39 euro/night/2persons ไม่รีรอ check-in เลยค่ะ แล้วก็โทรบอก agoda ว่าเราได้ รร. แล้ว และทางนั้นก็เห็นด้วยว่าเราไม่ต้องจ่ายค่าปรับที่เราไม่ได้พักที่ รร ที่จองไว้ค่ะ เพราะไม่ใช่ความผิดเรา แล้วทางนั้นก็มีชดเชยค่าเสียเวลานิดหน่อยเป็น credit 10% จากที่เราจองที่พักนั้นไว้ ใช้ได้สำหรับการจองครั้งต่อไปค่ะ (ดีกว่าไม่ได้อะไรเลยเนอะ)

หลังจากหมดเวลาไปครึ่งวัน ก็ได้เวลาเดินชม Porto แล้ว วันนี้ทุกอย่างปิดหมด เราก็เป็น sight seeing tour ค่ะ ที่นี่เมืองไม่ใหญ่มาก สามารถเดินได้ทั่วๆเลยค่ะ

ข้างบนนี้เป็น Porto City Hall ค่ะ บนเส้นนี้มีรูปปั้น Pedro IV of Portugal แล้วก็เป็น Emperor of Brazil ค่ะ พอดีวันที่ 26 เราได้ไปทัวร์เมืองใกล้ ไกด์เป็นคน local ที่ Porto เล่าให้ฟังว่า พระองค์เป็นที่รักของบราซิลและโปรตุเกต ตอนที่พระองค์สวรรคต ร่างได้อยู่ที่บราซิล แต่ว่าหัวใจของพระองค์นั้นเก็บรักษาไว้ที่ Porto ค่ะ ตอนแรกคิดว่ามีอะไรที่เป็นสัญลักษณ์ของหัวใจ แต่ไม่ใช่ค่ะ หัวใจจริงๆ ดองไว้ ต้องมีการเปลี่ยนน้ำยาที่แช่ทุกๆ 4 ปี ถ้าจำไม่ผิด (ถ้าผิดต้องขอโทษด้วยค่ะ) เมื่อก่อนเอาออกมาให้คนชมนะคะ แต่เดี๋ยวนี้ไม่แล้ว เพราะว่ามันเก่ามากเลย เสียหายไปเยอะคะ

น้ำพุด้านหน้าโบสถ์ค่ะ

มุมนี้สวยค่ะ เค้าใส่ไว้ในโปสการ์ดด้วยนะ เดินตรงริมน้ำฝั่ง Porto ค่ะ

Dom Luis I Bridge

เราเดินข้ามมาฝั่ง Gaia ก้เลยได้รูปเมืองฝั่ง Porto ในตอนเย็นมาค่ะ
Porto นั้นขึ้นชื่อเรื่อง Port wine ค่ะ 

ขอนอกเรื่องนิดนึง ด้วยความที่อยู่ที่ยุโรปมาพักนึง ประทับใจคนในยุโรปตรงที่ว่าการดื่มแอลกอฮอลนั้น ไม่ได้ดื่มแค่เมาเท่านั้น ถ้าแอลกอฮอลชนิดไหนที่เค้าชอบ เค้าก้จะมีความรู้ทางด้านนั้นบ้างค่ะ ว่าแต่ละอย่างทำมาจากอะไร กระบวนการต่างกันอย่างไร เช่น whisky หรือเหล้าที่คนไทยชอบดิ่มนั้น ก้มีหลายชนิดนะคะ มีทั้ง single malt และ blend ก็จะมีความแตกต่างกันมากคะ ไวน์ก็จะมีหลายๆชนิด มีความแตกต่างกันไปค่ะ

กลับมาที่เรื่อง port wine กัน ถ้าฟังจาก ไกด์คนเดิมที่เล่าเรื่อง Emperor of Brazil นะคะ เค้าบอกว่าในสมัยก่อนการขนส่งไวน์จากโปรตุเกสไป UK จะใช้เวลานานทำให้คุณภาพของไวน์เสีย เพื่อรักษาคุณภาพนั้นได้มีการเติม brandy ลงไปเพื่อหยุดกระบวนการ fermetation

ชื่อ port wine นั้นก้คือเรียกตามชื่อเมืองเลยค่ะ ชนิดของ port wine นั้นมีหลายชนิดค่ะ เช่น Tawny เป็น port wine ที่หมักในถังไม้เล็กๆค่ะ ดังนั้น ไวน์ก็จะมีกลิ่นแบบ woody แต่เพราะว่าเก็บไว้ใน barrel เล็ก จะเก็บได้ไม่นานมากค่ะ ถ้าทิ้งไว้นาน รสจะเปลี่ยนค่ะ Ruby จะคล้ายๆ tawny แต่ว่าหมักในถังใหญ่ดังนั้นถึงจะเก็บไว้นาน รสก็ไม่เปลี่ยนค่ะ

ในโปรตุเกสที่ไปมาบ้านและโบสถ์จะประดับด้วยกระเบื้องเยอะคะ สีน้ำเงินของกระเบื้องเป็นสีของโคลบอล

เกร็ดความรู้เล็กๆ ในสมัยก่อนนั้นภาพวาดที่มีสีน้ำเงิน จะเป็นภาพวาดที่มีค่ามาก ราคาจะสูงมากค่ะ เพราะสีน้ำเงินเป็นสีที่หายากมาก ถ้าสีที่เอามาจากธรรมาชาตินั้น สีน้ำเงินจะไม่ stable ลองหาอ่านดูกูเกิ้ลว่า a brief history of ultramarine ดูนะคะ แต่ไม่แน่ใจนะคะว่าการที่มีกระเบื้องสีน้ำเงินในสมัยก่อนนั้นเป็นการแสดงถึงความร่ำรวยรึป่าว

เดินฝั่ง porto นั้นจะเดินตามเว็บนี้ก็ได้ porto ไม่ใหญ่มาก เดินเล่นแบบ sight seeing ไปเรื่อยๆก็สามารถเก็บได้ตามที่ในเว็บบอกเลยค่ะ

//www.gpsmycity.com/tours/tour-of-portos-places-of-worship-4485.html

วันที่ 26 เราซื้อทัวร์ไปเมือง Guimaraes และ Braga ค่ะ เด๋วจะมารีวิวต่อนะคะ