สารพันเรื่องน่ารู้ในฐานะของเด็กทุนรัฐบาล
Group Blog
 
All Blogs
 

[Tips] เรื่องของ ไอ(I) และ ดี(D)

ทำไปๆมาๆ เราก็อาจจะเจอคำพวกนี้บ่อยๆ นะครับ ลองอ่านกันดูเล่นๆ

DS-156
แบบฟอร์มกรอกข้อมูลประวัติบุคคลทั่วไปเพื่อขอวีซ่าอเมริกา

DS-157
แบบฟอร์มกรอกเสริมสำหรับผู้ขอวีซ่าชั่วคราวทุกคน

DS-158
แบบฟอร์มกรอกข้อมูลติดต่อและประวัติการทำงาน

DS-2019
แบบฟอร์มอนุญาตให้นักเรียนนักศึกษาไปศึกษาในโปรแกรมที่กำหนด ออกให้โดยมหาวิทยาลัย

DS-7002
แบบฟอร์มประกอบการขอวีซ่า J-1 สำหรับคนที่จะขอไปเพื่อทำ Trainee หรือ Internship ส่วนถ้าจะไปเป็น Student ก็ไม่ต้องกรอกไป มาให้เขวเล่นๆ 55+

I-901
แบบฟอร์มออนไลน์ที่เราต้องกรอกเพื่อขอชำระเงินค่าธรรมเนียม SEVIS

I-797
ใบเสร็จรับเงินที่ทาง DHS ส่งมาให้ทางไปรษณีย์หลังจากชำระเงินค่า SEVIS แล้ว (คนละอันกับที่ปริ้นท์ออกมานะ)

I-94
แบบฟอร์ม ตม. สหรัฐ บัตรขาเข้า/ขาออก แจกบนเครื่องบิน กรอกบนเครื่องบิน แล้วนำมายื่นที่ Immigration ณ Port of Entry

CBP Form 6059B
แบบฟอร์มของศุลกากรสหรัฐ เพื่อกรอกรายละเอียดสิ่งของที่อาจจะต้องสำแดง - ต้องโชว์ให้เค้าดู ว่าเราเอาอะไรเข้ามาที่ผิดแปลกแหวกแนว แจกบนเครื่องบิน เขียนบนเครื่องบิน แล้วนำมายื่นที่ Customs ที่อยู่หลังด่าน Immigration ณ Port of Entry




 

Create Date : 17 พฤษภาคม 2551    
Last Update : 17 พฤษภาคม 2551 0:08:36 น.
Counter : 493 Pageviews.  

[Health] Immunizations ฉีดก่อนไป กันก่อนเป็น

บล็อกนี้เรามาพูดถึงการเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายเรากันดีกว่า

เชื่อแน่ว่า ตั้งแต่เกิดมา ทุกคนคงต้องเคยได้รับวีคซีนมาแล้วหลายเข็ม แต่ถามตรงๆ ตอนนี้มีใครจำได้หรือไม่ว่าเราเคยถูกฉีดยาอะไรมาบ้าง คงมีไม่กี่คนที่ตอบได้ เพราะมันเยอะมากและมันก็นานมากแล้วด้วย

ทีนี้ หลายๆ คนคงคุ้นๆ เมื่อได้รับจดหมายจากทางยูที่ตอบรับมา ว่าเราจำเป็นต้องมีภูมิคุ้มกันต่างๆ ดังรายการ ก่อนที่จะเข้าไปศึกษาได้ เอ อ่านชื่อแล้วมันก็คุ้นๆ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเราเคยฉีดมาบ้างรึยัง เมื่อไหร่กัน แล้วที่ว่าฉีดนี่มันนานมากจนมันทำให้ภูมิคุ้มกันที่เราเคยมีหมดไปรึยัง ต้องกระตุ้นใหม่รึเปล่า

จริงๆแล้วผมก็ตอบให้ไม่ได้หรอกครับ ว่าต้องทำยังไงบ้าง คนที่น่าจะตอบได้ดีที่สุดคือแพทย์ครับ คำแนะนำที่ดีที่สุด คือ ถ้าจำเป็นต้องฉีดภูมิคุ้มกันอะไรก็ควรฉีดไปจากเมืองไทย เพราะหากไปฉีดที่นู่นอาจแพงกว่าเมืองไทยมากก็ได้ และอาจไม่สะดวกเท่าทำไปจากที่นี่ครับ

Smiley Process การเตรียมภูมิคุ้มกัน

1. เช็คกับทางหน่วยงานของมหาวิทยาลัย ว่าทางมหาวิทยาลัยมีข้อกหนดที่ต้องมีภูมิคุ้มกันต่างๆ เข้าไปก่อนหรือไม่ ยกตัวอย่างหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องนี้ของ University of Florida ก็คือ Student Health Care Center

2. ถ้ามีข้อกำหนดด้านนี้ แล้วมีวัคซีนตัวไหนบ้างที่ “ต้องทำ” แล้วตัวที่ไหนแค่ “แนะนำให้ทำ” ตัวที่ต้องทำก็ต้องทำทั้งหมด หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ตัวที่แค่แนะนำให้ทำ อาจจะมีเงื่อนไขบางอย่างอยู่ ต้องลองเช็คดีๆครับ แต่ข้อแนะนำก็คือ ฉีดไปเถอะครับ ไม่มีใครรู้ว่าวันไหนจะเป้นโรคอะไรพวกนั้นขึ้นมาเมื่อไหร่ กันไว้ดีกว่าแก้ ดีกว่าเสียเงินค่ารักษาทีหลังครับ

3. เช็คเงื่อนไขของวัคซีนต่างๆ เช่น อาจจะมีกำหนดมาว่า วัคซีนชนิดนี้ ต้องฉีดให้ครบสามเข็ม ไม่ครบไม่ได้ หรือบางชนิดอาจต้องฉีดห่างกันหนึ่งเดือน หรือบางชนิดต้องฉีดในช่วงเวลาที่กำหนด ก่อนหน้านั้นไม่ได้ เป็นต้น

4. ดูว่า มหาวิทยาลัยมีแบบฟอร์มเฉพาะให้คุณหมอกรอกหรือไม่เพื่อรับรองการมีภูมิคุ้มกันของเรา หรือว่าเราสามารถให้คุณหมอออกเป็นใบรับรองแพทย์ไปก็ได้

5. เมื่อรู้แล้วว่าจะฉีดอะไรบ้าง ให้ลองพยายามค้นประวัติด้านการฉีดวัคซีนของเราดู เช่นว่าจากคลีนิกหรือโรงพยาบาลที่เราเคยมีประวัติมาตั้งแต่เด็ก หรือที่บ้านอาจจะมีสมุดสุขภาพของเราตั้งแต่เด็กมา ว่าเราเคยฮีดยาตัวไหนมาบ้าง เมื่อไหร่ ถ้ามีหลักฐานต่างๆ เหล่านี้มาก็จะช่วยให้ประหยัดเวลา และประหยัดเงิน รวมถึง ลดการเจ็บตัวจากจำนวนเข็มที่ต้องฉีดลงได้ครับ

6. เมื่อได้ข้อสรุป ก็เริ่มทยอยไปฉีดวัคซีนได้เลยครับ โดยหาสถานพยาบาลที่เชื่อถือได้ ทยอยทำให้เสร็จก่อนไป แล้วก็ต้องให้คุณหมอออกใบรับรองให้ด้วย

Smiley วัคซีนกลุ่มที่พบบ่อยว่าแนะนำให้ฉีด

1. MMR (Measles-Mumps-Rubella)
2. PPD Skin Test + Chest X-ray
3. Meningococcal Meningitis
4. Hepatitis B
5. Varicella (อีสุกอีใส)

Smiley ประสบการณ์จริง ฉีดจริง เจ็บจริง ณ สถานเสาวภา สภากาชาดไทย


จริงๆแล้วไม่ได้มีเจตนาโฆษณานะครับ แต่ว่ามาทำที่นี่ก็สบายใจครับ เพราะว่าสะดวกหลายๆ อย่าง คือ อยู่ใกล้สยาม มาง่ายไปง่าย ที่นี่ คุณหมอและพี่ๆพยาบาลไม่ค่อยยุ่งมากนัก ทำให้เราสามารถฉีดยาแบบชิลๆได้ แอร์เย็นสบาย ไม่ต้องรีบ และที่สำคัญ พี่พยาบาลคนฉีดให้มือเบามากกกก เหมาะสำหรับคนกลัวเข็มอย่างผม และสุดท้ายคือคุณหมอใจดีมากๆ ช่วยกรุณาเซ็นแบบฟอร์มของมหาวิทยาลัยให้เราจากประวัติการฉีดยาที่เคยฉีดมาตั้งแต่เด็กได้ด้วย ดูในรูปนะครับ



แถมแบบสุดๆ ไปเลยก็คือที่นี่สามารถออกสมุดเหลือง หรือสมุดเพื่อรับรองวัคซีนที่เราฉีดกับเค้าให้ได้ด้วยครับ สมุดนี้จะมีทั้งภาษาไทยและอังกฤษ จึงเหมาะกับการพกติดตัวเราไปนอกด้วย ลองดูด้านหน้าของสมุดเหลืองนะครับ



อันนี้คือด้านใน ที่บันทึก



ยังไง ถ้าใครได้ไปลองฉีดที่ไหนมาบ้าง ลองแชร์ข้อมูลกันได้นะครับ จะได้เป็นประโยชน์กับคนอื่นๆ ด้วยครับผม ^ ^




 

Create Date : 09 พฤษภาคม 2551    
Last Update : 9 พฤษภาคม 2551 23:07:30 น.
Counter : 1703 Pageviews.  

[Tips] นำพา ซีดี/ดีวีดี ติดตัวไปต่างประเทศ

ลองอ่านๆ มาดู เค้าบอกกันว่า บางคนที่มี ซีดี หรือ ดีวีดี อาจจะเป็นรูป หนัง หรืออื่นๆ ที่จะขนติดตัวไปด้วย ถ้าให้สะดวก ควรจะเขียนชื่อหน้าซีดีเป็นภาษาไทย แล้วโหลดลงกระเป๋าใต้เครื่องครับ เพราะที่นั่น เค้าค่อนข้าง Strict กับเรื่องกฎหมายลิขสิทธิ์ เดี๋ยวจะโดน แบล็คลิสต์ครับ




 

Create Date : 09 พฤษภาคม 2551    
Last Update : 9 พฤษภาคม 2551 14:32:50 น.
Counter : 290 Pageviews.  

[Health] อย่าลืมเช็คผลการตรวจร่างกายและสุขภาพจิตกันนะครับ

ยังจำได้มั้ย ว่าก่อนที่เราจะเริ่มสอบโทเฟล จีอาร์อี สมัครยู เราทำอะไรก่อนเพื่อน

ใช่แล้วครับ ตรวจร่างกายกับสุขภาพจิตนั่นเอง

การตรวจร่างกายก็เหมือนกับการเช็คดูว่าร่างกายของเรามีความฟิตพร้อมพอที่จะลงสนาม(การเรียน) ที่เมืองนอกเมืองนาหรือไม่ ส่วนการตรวจสุขภาพจิตนั่นก็คงตรวจเพื่อให้แน่ใจว่ารัฐบาลไม่ได้ส่งคนวิกลจริตไปเรียนให้เสียงบประมาณฟรีๆ ^ ^

แต่ด้วยความที่ผลการตรวจทั้งตรวจร่างกาย และตรวจสุขภาพจิต ต่างก็มีอายุการใช้งานแค่ 1 ปีเท่านั้น ดังนั้น ถือเป็นข้อกำหนดของ กพ เลยนะครับว่า หากผลการตรวจทั้งตรวจร่างกาย และตรวจสุขภาพจิต ของ นทร คนไหนที่มีอายุเกิน 1 ปี (นับตั้งแต่วันตรวจครั้งที่แล้ว จนถึงวันเดินทาง) ก็ต้องตรวจใหม่ อันไหนที่หมดอายุก็ต้องตรวจใหม่ครับ ถ้าผลหมดอายุทั้งคู่ก็ต้องตรวจใหม่ทั้งสองอันเลยครับ

Smiley  Process การตรวจร่างกายและสุขภาพจิต รอบที่สอง

1. เช็คให้แน่นอน ว่าครั้งที่แล้วที่เราตรวจไปนั้น ตรวจร่างกายทำไปวันไหน และ สุขภาพจิตตรวจไปวันไหน แล้วเราจะเดินทางวันไหน ผลการตรวจอันไหนบ้างที่จะหมดอายุ ต้องตรวจทุกอันที่จะหมดอายุนะครับ

2. การตรวจร่างกายและสุขภาพจิต ต้องทำการนัดวันและเวลาที่จะไปตรวจกับทางสถานพยาบาลเอง โดยไม่ต้องผ่าน กพ และก็เดินทางไปตรวจเองได้เลย ชำระเงินเอง ไม่มีงบประมาณออกให้อีก

3. แต่สิ่งที่เราต้องมีก่อนไปตรวจก็คือ หนังสือส่งตัวจาก สนง กพ ครับ ว่าเราจะไปตรวจนะ หนังสือนี้ต้องส่งให้กับพยาบาลและแพทย์ลงนามด้วย การที่จะได้หนังสือนี้มาต้องติดต่อพี่แขกครับ ให้พี่เค้าช่วยออกหนังสือให้ โดยที่

- ถ้าจะตรวจร่างกาย นำรูปถ่าย ขนาด 1 หรือ 2 นิ้ว ไป 3 ใบ
- ถ้าจะตรวจสุขภาพจิต นำรูปถ่าย ขนาด 1 หรือ 2 นิ้ว ไป 1 ใบ

นำรูปถ่ายไปให้พี่แขกครับ แล้วพี่เค้าจะทำหนังสือส่งตัวใส่ซองมาให้ พร้อมกับกระป๋องเก็บอุจจาระในกรณีที่ตรวจร่างกาย เราก็เอาหนังสือส่งตัวไปพร้อมกะเราตอนไปตรวจนี่แหละครับ

Smiley  Remarks

1. อย่าลืมนะครับ โทรจองคิวก่อน คิวยาวพอสมควร ตอนนี้ยาวถึงเดือนมิถุนาแล้ว

2. ตรวจร่างกาย จะต้องมีตรวจเลือด ดังนั้นต้องงดอาหาร ก่อนไปตรวจ 12 ชม.

3. เก็บตัวอย่างอุจจาระใส่กระป๋องไปด้วยนะ เดี๋ยวต้องไปหลายรอบ

4. ตรวจที่ศิริราช ใครมีบัตรโรงพยาบาลแล้ว เอาติดตัวไปด้วยจะได้ไม่ต้องทำบัตรใหม่ครับ

5. ตรวจสุขภาพจิตที่สมเด็จเจ้าพระยา มีตรวจแค่เฉพาะวันศุกร์เท่านั้น ไปตั้งแต่เที่ยงตรงเพื่อทำแบบฝึกหัด หกร้อยข้อ ก่อน 5555+

โชคดีนะครับ




 

Create Date : 09 พฤษภาคม 2551    
Last Update : 9 พฤษภาคม 2551 14:15:51 น.
Counter : 894 Pageviews.  

[Shopping] ศูนย์ส่งเสริมการส่งออก รัชดา

เห็นหลายๆคนตอนนี้เริ่มที่จะช็อปปิ้งเพื่อที่จะเตรียมตัวไปนอกกันบ้างแล้ว ของที่นิยมซื้อกันก็จำพวกกระเป๋าเดินทาง เสื้อกันหนาว ถุงมือ ลองจอน และก็รองเท้า ก็มีแต่คำถามกันมามากว่า เอ๊ะ แล้วจะซื้อของที่ไหนดีหละ ที่ราคาไม่แพงมากนัก และได้ของคุณภาพดีอีกด้วย

วันนี้เลยภูมิใจนำเสนอครับ เนื่องจากอยู่ในละแวกบ้านผมเอง จึงเคยมาเดินบ่อยถึงบ่อยมากตั้งแต่เด็กๆแล้ว จนปัจจับันนี้ก้ยังทำการอยู่ ครับ ที่นี่คือ ศูนย์ส่งเสริมการส่งออก รัชดา เป็นตรงนี้เป็นสถานที่ที่ใช้จัดนิทรรศการขายสินค้าหลายประเภท ไล่ตั้งแต่เครื่องครัว เครื่องเรือน ของกิน ของใช้ นานาชนิด หมุนเวียนสับเปลี่ยนกันไปเรื่อยๆ ตลอดทั้งปี ก็จะมีร้านค้าที่มาเปิดขายของที่เราๆอยากจะช็อปกันค่อนข้างเยอะ แต่เรื่องราคานี่คงต้องต่อรองกันเยอะหน่อย ^ ^

สำหรับสถานที่ตั้งของศูนย์ส่งเสริมการส่งออกนี่ก็ตั้งอยู่บนถนนรัชดาภิเษกครับ ลองดูแผนที่กันนะครับ ลูกศรแดงคือตำแหน่งของศุนย์



ส่วนอันนี้คือซูมเข้ามาเต็มๆ ครับ



ขับรถมาเอง น่าจะเป็นวิธีที่สะดวกสุด ศูนย์ฯแห่งนี้ตั้งอยู่ปากซอยรัชดาภิเษก 32 นะครับ ถ้าขับมาจากแยกพระรามเก้า ก็ขับตรงขึ้นมาเรื่อยๆ เลยครับ ผ่านโลตัส คาร์ฟูร์ โรบินสันรัชดา แยกห้วยขวาง แยกสุทธิสาร ก่อนถึงแยกรัชดา-ลาดพร้าว ก็จะมีสะพานข้ามแยกนี้ครับ ขึ้นสะพานแล้วขับตรงมาอีก จะเห็นศาลแพ่งและศาลอาญาทางซ้ายมือ ตัวศูนย์ฯนี่จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับศาลครับ ก็ต้องไปหาที่กลับรถมา

รถไฟฟ้าใต้ดิน มาขึ้นที่สถานีลาดพร้าว หรือสถานีรัชดาภิเษกเอาครับ แล้วก็ต่อแท็กซี่ ใกล้สุดแล้ว

รถเมล์ สาย 38 ผ่านนะ ส่วนสายอื่นไม่แน่ใจ ลองหาดูครับ




 

Create Date : 09 พฤษภาคม 2551    
Last Update : 9 พฤษภาคม 2551 14:16:21 น.
Counter : 6430 Pageviews.  


protonema
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]


ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add protonema's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.