Blog แรกในชีวิตของผม
ฟังวิทยุออนไลน์ ที่ izeemusic
Blog แรกของผมขอเป็นการแนะนำตัวก็แล้วกันนะครับ เป็นสมาชิกของ PANTIP มานาน แต่ไม่เคยคิดจะเขียน Blog เลย อาจเป็นเพราะมีเวลาว่างไม่มากนัก ช่วงนี้เป็นช่วงที่เศรษฐกิจได้รับผลกระทบ รวมทั้งที่ทำงานของผมด้วย ทำให้ผมมีเวลาว่างมากขึ้น ได้ใช้ความคิดในส่วนที่เคยสนใจเป็นการส่วนตัว และไม่เกี่ยวกับการทำงาน
ผมเป็นคนกรุงเทพ เป็นนักเทคนิคการแพทย์ครับ จบจากมหาวิทยาลัยมหิดล พอจบ ป.ตรี ก็เข้าทำงานที่โรงพยาบาลกรุงเทพเลย ความจริงอาชีพของผมมีชื่อว่า Perfusionist ซึ่งในต่างประเทศจะรู้จักอาชีพนี้เป็นอย่างดี แต่ในเมืองไทยมีคนรู้จักอาชีพนี้น้อยมาก หลายคนคงสงสัยว่า มันทำงานเกี่ยวกับอะไร เอาไว้ Blog ต่อไปจะอธิบายให้อย่างละเอียดครับ
มาต่อเรื่องราวชีวประวัติของผมกันดีกว่า เนื่องจากงานที่ต้องรับผิดชอบเป็นงานที่หนักมาก (สำหรับเด็กจบใหม๋อย่างผม) บวกกับเป็นรุ่นบุกเบิกในโรงพยาบาลเอกชนเป็นแห่งแรกในเมืองไทย ทั้ง พยาบาล, นักเทคนิคการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ทุกคน ไม่เคยมีประสบการณ์ในงานด้านนี้มาก่อน (ถึงแม้จะผ่านการฝึกงานมาอย่างหนักในโรงพยาบาลรัฐมาก่อน) แต่เมื่อต้องมาทำทุกอย่างเอง จึงต้องเรียนรู้งานให้มากที่สุด โดยมีอาจารย์แพทย์ที่มีประสบการณ์จากโรงพยาบาลภาครัฐมาเป็นหัวหน้าทีมของเรา (เป็นคนเดียวกับที่ชวนผมมาทำงานที่นี่ครับ) หน่วยงานของพวกเราก็คือ ศูนย์โรคหัวใจในสถานพยาบาลเอกชนแห่งแรกในประเทศไทย และมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ศูนย์โรคหัวใจกรุงเทพ
ผมยังจำเรื่องตลกเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี วันที่อาจารย์แพทย์ไปประกาศหาผู้ที่อยากจะทำงานในโรงพยาบาลเอกชน สมัยนั้นไม่มีใครอยากทำงานในภาคเอกชนครับ เห็นว่ามันไม่มั่นคง เพื่อนๆผมมันนั่งฟังกันนิ่ง แต่ผมยกมือขึ้นเลย ผมกลับมองว่าผมไม่เหมาะกับงานภาครัฐ มันไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น ทำงานอย่างเดียว และเหมือนกันทุกๆวัน ส่วนภาคเอกชนนั้น จะต้องทำงานหลายๆอย่าง มันทำให้เราไม่เบื่อกับงาน และเมื่อมาถึงวันนี้ ผมว่าผมเลือกถูกนะ ถึงแม้มันจะไม่เป็นอย่างที่ผมคิด 100% ก็ตาม อ้อ! ลืมเรื่องตลกที่จะเล่าให้ฟังไปเลย คืออาจารย์แพทย์ท่านนั้นบอกว่า โรงพยาบาลที่กำลังจะเปิด ชื่อ โรงพยาบาลกรุงเทพ ผมก็ OK เลยครับ เพราะผมนึกว่าเป็นโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน แถวสีลม จนกระทั่งวันที่นัดกันไปกรอกเอกสารการสมัครงานให้เรียบร้อย ผมก็ไปรอที่โรงพยาบาลกรุงเทพริสเตียนจริงๆ จนอาจารย์แพทย์โทรมาตามว่า รออยู่นะทำไมมาไม่ถึงซักที ส่วนตัวผมน่ะรออยู่ที่โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียนตั้งนานแล้ว จนอาจารย์แพทย์บอกว่า อยู่ซอยศูนย์วิจัย แถวคลองตันนะ ไอ้เรามันเด็กฝั่งธนฯ ซะด้วย รู้จักที่ไหนไอ้ซอยศูนย์วิจัย สุดท้ายก็นั่ง Taxi ไป กว่าจะได้กรอกใบสมัครก็บ่ายแล้ว ตอนนั้นในใจคิดอย่างเดียวเลยว่า แล้วจะมาทำงานยังไงหว่ะเนี่ย โคตระไกลเลย ตอนนั้นบ้านอยู่แถวสำเหร่ครับ
เอาหล่ะ เผลอแพลบเดียวทำงานที่นี่มา 20 ปีกะอีกหน่อยหนึ่งแล้ว เกือบจะเปลี่ยนงานหลายครั้ง หมายถึงเปลี่ยนสถานที่ทำงาน แต่เป็นงานในลักษณะเดิม แต่จนแล้วจนรอดก็ยังอยู่ที่เดิมอยู่ และคิดว่ามันคงเป็นสื่งที่ใครก็ไม่รู้ลิขิตไว้แล้ว ก็อยู่ในวงการโรคหัวใจมา 20 ปีแล้ว จะให้ไปทำงานด้านอื่นก็สงสารคนไข้ครับ ผมว่ามันเป็นงานที่เหมาะกับผมแล้ว แถมยังได้ประสบการณ์จากการไปดูงานที่ต่างประเทศหลายครั้ง เพราะว่าเราต้องก้าวให้ทันเทคโนโลยีใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา
ปัจจุบันผมก็พยายามจนเรียนจบ ป.โทมาได้ ก็ที่มหิดลอีกแหละครับ แต่ผมน่าจะเป็นคนสุดท้ายของรุ่นที่จบโทนะคับ ส่วนใหญ่เพื่อนๆมันทำงานสัก 1-2 ปีมันก็ขอเรียนต่อได้แล้ว บางคนเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย (แอบอิจฉาเพื่อนนิดนึง) ส่วนผมเพิ่งจะได้มาเรียนตอนปี 2544 ครับ เพราะในช่วงแรกไม่มีเวลาว่างเลย การเดินทางไปทำงานก็ไกลกันมาก ถ้าต้องเดินทางไปเรียนอีกมีหวังไม่ได้ดีทั้งคู่ เลยคิดว่ามุงานให้มั่นคงซะก่อน แล้วอีกหน่อยค่อยมาเรียนต่อ แต่ยังไงก็ตาม ผมสามารถเรียนจบ ป.โท ของมหิดลได้โดยใช้เวลาเพียงแค่ 2 ปีครึ่งครับ (ปกติเขาให้มากสุด 5 ปี) และได้รับปริญญาโทพร้อมกับรุ่นพี่ด้วย เป็นคนเดียวของรุ่นนั้นนะครับ(ขอคุยหน่อย)
ถึงวันนี้ ผมคิดว่าผมเลือกทางชีวิตของตัวเองได้ถูกต้องนะครับ ความเครียดเรื่องงานผมว่าเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับมนุษ์เงินเดือนทุกคน ผมมีครอบครัว มีเพื่อนบ้างถึงแม้จะไม่มากเพราะมันเลิกคบกับผม (ก็มันชวนไปไหนก็ไม่เคยไปกับมันเลย แต่สัญญานะว่าถ้ามันชวนคราวหน้าจะไปแล้ว) การงานก็มั่นคงในระดับหนึ่ง ฐานะทางเศรษฐกิจก็สบายๆไม่เดือดร้อน แต่ก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรนะครับ แบบว่าพอเพียง (In trend หน่อย) และพยายามที่จะยอมรับสิ่งใหม่ๆเข้ามาในชีวิตเพิ่มขึ้น (ออกแนวธรรมะนิดนึง เพราะอายุก็ได้ที่แล้ว)
เท่านี้ก่อนล่ะกันนะครับ Blog หน้ามาติดตามว่า ไอ้ Perfusionist มันทำอะไรมั่งหว้า !!
Free TextEditor
Create Date : 26 กรกฎาคม 2552
Last Update : 29 กรกฎาคม 2552 8:20:00 น.
Counter : 948 Pageviews.