|
 |
 |
 |
 |
|
Only you ตอนที่ 5
หลังจากนางเอกลงจากรถพระเอกแล้ว ก็รีบวิ่งมาที่บ้าน ก็พบพระรองรออยู่ที่หน้าบ้านแล้ว จึงถามพระรองถึงลูกนางเอก พระรองก็บอกว่า นอนหลับไปแล้ว อารมณ์ดีขึ้นหลังจากที่นางเอกโทรหาแล้ว แล้วนางเอกก็คล้องแขนพระรองเข้าบ้านไป ส่วนพระเอกที่ตามมาจะเอากระเป๋ามาคืน ก็เห็นภาพบาดตาบาดใจ ยิ่งโกรธนางเอก ที่หลอกลวงว่าแม่ป่วย พอนางเอกเข้าไปปลุกลูก ลูกนางเอกก็งอนไม่ยอมพูดด้วย นางเอกก็เงื้อมือจะตีลูก แต่ก็ชะงักไว้ แล้วก็หอมแก้มลูก แล้วก็รำพันชมพระเอกว่า เป็นคนดีเหมือนกัน ส่วนด้านพระเอก ระหว่างที่ขับรถกลับไปที่ร้าน ก็พึมพำกับตัวเอง ว่านางเอกเป็นคนไม่ดี มาหลอกลวงว่าแม่ป่วย เพื่อจะรีบกลับไปหาพระรอง พอมาตอนเช้า นางเอกก็มาที่ร้านเพื่อมาเอากระเป๋าคืน โดยมีนางรองตามมาข้างหลังติดๆ เพื่อมาที่ร้านพระเอกเหมือนกัน พระเอกซึ่งแต่งตัวเสร็จแล้ว ก็เดินมาที่โต๊ะ เห็นกระเป๋านางเอก ก็มีความอยากรู้ว่า ในกระเป๋านางเอกมีอะไร จึงได้ค้นกระเป๋านางเอก ไปเห็นหนังสือทำอาหาร และกระเป๋าสตางค์นางเอก จึงหยิบขึ้นมาดู เห็นรูปนางเอกกับลูกนางเอก ก็สงสัยว่าเป็นใคร ก่อนที่ความคิดจะไปไกลกว่านี้ นางเอกก็มาเคาะประตูห้องพระเอกเสียก่อน พอนางเอกเข้ามาก็ถามถึงกระเป๋า แต่ตาก็เหลือบไปเห็นกระเป๋าอยู่บนโต๊ะทำงานของพระเอก จึงไปหยิบมา พระเอกซึ่งนั่งทำหน้าบึ้งอยู่ จึงถามถึงแม่นางเอก นางเอกก็โกหกไปว่า ดีขึ้นแล้ว แล้วนางเอกก็ขอบคุณพระเอกที่ไปส่งเมื่อคืน และยังเก็บกระเป๋าไว้ให้ แล้วพระเอกก็เดินมาหานางเอก แล้วคำรามใส่นางเอกว่า ชาอึนเจ คุณนี่จริงๆ เลยนะ มันยากจังเลยที่ต้องมีชิวิตอย่างคุณ ชีวิตที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและความลับมากมาย แล้วนางเอกก็เริ่มโมโหกับคำพูดพระเอก จึงย้อนถามไปว่า ชีวิตแบบฉันมันเป็นอย่างไร แล้วพระเอกก็ไล่ให้นางเอกออกไป นางเอกก็จะย้อนถาม แต่นางรองก็เข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน การสนทนาระหว่างพระเอกและนางเอกจึงหยุดลง และพระเอกก็ตะโกนไล่นางเอกอีกครั้ง นางเอกก็เดินออกไป นางรองก็สงสัยว่าพระเอกโมโหอะไร แล้วนางเอกก็ไประบายอารมณ์ที่ห้องครัว และสงสัยว่าพระเอกเป็นอะไร ด้านพระเอก นางรองก็กล่าวขอโทษที่รบกวนพระเอกเมื่อคืนก่อน แต่พระเอกก็มัวแต่เหมอ คิดแต่เรื่องของนางเอก ไม่ได้สนใจนางรอง จนนางรองต้องเรียกซ้ำ หลังจากนั้น นางรองก็กลับมาที่ร้าน มาถามพระรองถึงเรื่องราวของพระเอกกับนางเอกที่อิตาลี เพราะว่าเห็นความตึงเครียดระหว่างคนทั้งสอง และอากัปกิริยาต่างๆ คล้ายกับหึงคนรักเก่า แต่พระรองก็ปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ด้านพ่อพระเอก และพี่สาวพระเอกก็ได้มาทานอาหารตอนกลางวันด้วยกัน แล้วพูดถึงพระเอกกันว่า พระเอกดูแลร้านเป็นอย่างไรบ้าง แต่ดูท่าพ่อพระเอกจะไม่เชื่อมือพระเอกเท่าไหร่ แต่พี่สาวพระเอกก็พูดว่า พระเอกย่อมมีวิธีการเป็นของตัวเองอย่างแน่นอน ทางด้านพระเอก หลังจากกลับมาจากข้างนอก ก็บอกผู้จัดการ ให้นางเอกเอาอาหารที่ทำไว้มาเสิร์ฟ นางเอกก็มาเสิร์ฟอาหารด้วยตัวเอง พระเอกพอได้ทาน ก็พลางนึกถึงภาพพระรองกับนางเอกก็ยิ่งอารมณ์ไม่ดี พอชิมเสร็จแล้วก็ไม่พูดอะไร เดินออกไปนอกร้านเลย นางเอกก็ได้แต่ยืนนิ่ง พอรู้สึกตัว ก็วิ่งตามพระเอกออกมา มาดึงแขนพระเอกแล้วถามว่า ทำไมไม่ยอมพูดอะไรเลย รสชาติอาหารที่นางเอกทำมันแย่มากหรือ แล้วพระเอกก็เปรียบเปรยรสชาติอาหารกับตัวนางเอก แล้วก็ถามว่า นางเอกอยู่กับพระรองใช่ไหม แล้วนางเอกก็ย้อนว่า รู้ได้อย่างไร หรือเมื่อวานพระเอกตามนางเอกมา แล้วนางเอกก็ย้อนว่า แล้วมันธุระอะไรของพระเอกด้วย แล้วก็เถียงกัน ระหว่างนั้นพี่สาวพระเอกที่มาหาพระเอกที่ร้าน ก็ได้ยินเสียงพระเอกกับนางเอกทะเลาะกัน ก็โมโหที่พระเอกไม่ไล่นางเอกออกไปเสียที จึงเดินเข้ามาในห้องพระเอกถามพระเอกว่า ทำไมไม่ไล่นางเอกออก และหันไปถามความเห็นกับผู้จัดการร้าน ผู้จัดการร้านก็เห็นด้วยที่ให้ใล่นางเอกออก แต่พระเอกก็ยังยืนยันว่า จะยังจ้างนางเอกต่อไป ทางด้านนางเอกก็มายืนบีบคอตัวเองใหญ่เลย กลัวว่าจะถูกไล่ออก พอบริกรสาวเข้ามาเห็น นางเอกถึงได้หยุดบีบ (นางเอกติงต๊องมากเลยครับ) พอนางเอกเดินออกมาจากร้าน ก็เห็นพระรองยืนอยู่จึงเดินเข้าไปซบ พอดีพระเอกออกมาเจอภาพบาดตาอีกครั้ง พระเอกก็ตะลึง พระรองพอมองเห็นพระเอกก็ทำเฉย พระเอกโกรธมากจึงเดินหนีไป ระหว่างทางกลับบ้าน นางเอกแวะซื้อเค้กกลับบ้าน แล้วพระรองกับนางเอกก็เดินคุยกัน พระรองก็เสนอให้นางเอกแต่งงานกับเขา แต่นางเอกก็ยังไม่ยอม นางเอกก็รำพันว่า นางเอกรู้สึกอับอายพระเอกมาก แต่พระรองก็บอกว่า นางเอกไม่ต้องรู้สึกอับอายพระเอก ไม่ต้องรู้สึกเกลียดพระเอกด้วย อย่ามีความรู้สึกอะไรกับพระเอกเลย พอนางเอกกับพระรองมาถึงบ้าน ก็พบว่าที่บ้านมีงานฉลองให้กับน้องสาวนางเอกที่ได้งานในสถานีโทรทัศน์ ทุกคนดื่มให้กับน้องนางเอก ทุกคนก็ดีใจที่นางเอกและน้องนางเอกได้งานกันทุกคน และพอพูดถึงตรงนี้ นางเอกก็ขอตัวออกมาเดินข้างนอก นางเอกรู้สึกลำบากใจมากที่จะบอกเรื่องที่นางเอกอาจจะโดนไล่ออก ส่วนพระเอกหลังจากที่ออกมาจากร้านแล้ว ก็มาออกกำลังกายที่ฟิตเนสระบายอารมณ์ใหญ่เลย วันต่อมา ระหว่างที่นางรองกำลังทำงานอยู่นั้น ก็ได้แอบมองพระรอง ด้วยความสงสัยสงสัยเรื่องราวของคนทั้งสามคน ต่อมามีบริกรมาบอกว่ามีโทรศัพท์ถึงนางรอง ซึ่งเป็นของพี่สาวพระเอก พี่สาวพระเอกนัดถามเรื่องราวความเป็นมาของนางเอก เพราะว่าพี่สาวพระเอกรู้สึกคุ้นๆ หน้า นางรองก็บอกไปว่า นางเอกเป็นคนชนะเลิศการแข่งขันทำอาหารเมื่อ 6 ปีก่อน และนางเอกก็ได้ไปเรียนทำอาหารที่อิตาลี และเคยได้พบกับพระเอก นอกจากนี้ยังเคยได้เรียนวิธีทำพาสต้าจากแม่พระเอกอีกด้วย สำหรับพระเอกแล้ว นางเอกก็เปรียบเสมือนเป็นตัวแทนแม่ของเขา นางรองก็บอกว่า ที่บอกพี่สาวพระเอกก็เพื่อป้องกันไม่ให้มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างพระเอกกับนางเอก เพื่อเป็นการตัดสินว่า นางเอกควรจะอยู่ที่ร้านนี้ต่อไปหรือเปล่า พระเอกจึงจัดให้มีการประเมินโดยการเชิญให้คนมารับประทานอาหารที่นางเอกทำ แล้วให้คะแนน พอถึงวันประเมิน พ่อแม่และน้องสาวนางเอกก็ได้รับเชิญมาในงานนี้ด้วย พ่อแม่นางเอกดีใจมากที่ได้มาทานอาหารฟรีที่นี่ แล้วพ่อนางเอกต้องการจะพบนางเอกจึงจะให้บริกรเรียกนางเอกออกมา แต่แม่นางเอกห้ามไว้เสียก่อน เพื่อไม่ให้มีใครรู้ว่า เป็นคนในครอบครัวของนางเอก แล้วพี่สาวพระเอกกับพระเอกก็เดินออกมาจากห้อง แล้วมานั่งกับโต๊ะข้างๆกับครอบครัวนางเอก ระหว่างทานอาหาร พระเอกก็ได้ยินที่ครอบครัวนางเอกคุยกันจึงรู้ว่า คนกลุ่มนี้เป็นครอบครัวของนางเอก และได้ยินเรื่องที่ครอบครัวนางเอกมาเช่าบ้านพระรองอยู่ด้วย ด้านนางเอกก็มาแอบมองลูกค้าที่มาทาน ทุกคนพอใจในอาหารที่นางเอกทำมาก และนางเอกก็เห็นว่า ครอบครัวตัวเองก็มาทานด้วย นางเอกก็ตกใจมาก ผลของการประเมินบอกว่า นางเอกผ่านการประเมิน ระหว่างนั้น นางเอกก็มาเคาะประตูเพื่อขอคุยกับพระเอก แต่พี่สาวพระเอกอยู่ในห้อง จึงเดินออกมาข้างนอก นางเอกสารภาพผิดเรื่องที่ครอบครัวนางเอกมาร่วมในการประเมินด้วย บอกให้พระเอกให้อภัย และให้พระเอกตัดคะแนนที่ครอบครัวนางเอกประเมินทิ้งไปก็ได้ แต่พระเอกกลับหันมาถามว่า พระรองเป็นแฟนนางเอกหรือเปล่า นางเอกบอกว่า เปล่า แล้วพระเอกรู้สึกดีใจมาก บอกกับนางเอกว่า ตกลงพระเอกรับนางเอกเข้าทำงานเป็นเชฟแล้ว นางเอกดีใจมาก นางเอกก็ถามพระเอกว่า ขอเบิกเงินล่วงหน้าได้ไหม พระเอกก็ทำหน้างงๆ ด้านพระรอง ก็ไปเลือกแหวนหมั้นให้นางเอก ได้แหวนมาวงหนึ่ง ที่ร้านพระเอก ทุกคนรู้สึกไม่พอใจกับการจ้างงานนางเอก แม้แต่ผู้จัดการ มาที่พี่สาวพระเอก ก็มาบ่นเรื่องนางเอกให้นางรองฟัง นางรองก็มาเสนอให้พี่สาวพระเอกเชิญนักชิมมาที่ร้านพระเอก เพื่อมาประเมินนางเอก แล้วนางรองก็มาพูดกับพระเอกเรื่องนี้ พระเอกก็เห็นด้วย ทางด้านนางเอก ก็กลุ้มใจเรื่องนี้จนไม่กล้าเข้าบ้าน พ่อนางเอกมาเจอนางเอกอยู่หน้าบ้าน ก็บอกให้นางเอกเข้าบาน ทั้งหมดก็มานั่งกินแตงโมกัน แม่นางเอกก็บอกว่า วันนี้รู้สึกภูมิใจในตัวนางเอกมาก ให้นางเอกลืมเรื่องราวในอดีตที่ไม่ดีให้หมด นางเอกรู้สึกดีใจมาก เพราะแม่ไม่เคยชมเธอเลย คอยแต่จะว่าเธอเสมอ พอดีพระรองกลับมาพร้อมช่อดอกไม้และขนม แม่นางเอกก็เรียกลูกนางเอกที่กำลังเล่นอยู่นอกบ้านให้เข้ามา พระเอกซึ่งมาซุ้มอยู่หน้าบ้านนางเอก ก็ทันเห็นลูกนางเอกก็สงสัยว่าเป็นใคร แต่ก็เข้าใจว่า ลูกนางเอกเป็นน้องชายของนางเอก พอพร้อมหน้ากันแล้ว พระรองก็จะขอนางเอกแต่งงาน แต่พอดีมีพระเอกโทรศัพท์มาขัดจังหวะเสียก่อน พระเอกเรียกนางเอกมาคุยกันนอกบ้าน แต่ลูกนางเอกจะขอไปด้วย แต่นางเอกร้องห้ามเสียงหลง แล้วนางเอกก็เดินออกไป พอเจอหน้าพระเอก นางเอกก็ลากพระเอกออกไปคุยที่สวนสาธารณะ นางเอกก็คุยเรื่องที่ว่า คนในร้านไม่ค่อยพอใจนางเอก แต่พระเอกกลับยื่นซองเงินค่าจ้างล่วงหน้า 3 เดือนให้นางเอก แล้วยังโกหกนางเอกว่า ผู้หญิงสวยๆ คนนั้น(พี่สาวพระเอก ซึ่งนางเอกเข้าใจว่า เป็นคนอุปถัมภ์พระเอก) อาจจะไล่พระเอกออกก็ได้ ฉะนั้นเป็นความรับผิดชอบของนางเอกที่จะต้องทำให้ร้านนี้กลับมาดีอย่างเดิม และให้นางเอกเตรียมตัวทำอาหารรับนักชิมด้วย นางเอกดีใจมาก พระเอกก็แอบขำนางเอก แต่ก็ยังเก๊กหน้าเอาไว้ พอนางเอกเดินกลับมาบ้าน ก็เห็นพระรองมายืนอยู่หน้าบ้าน นางเอกก็บอกว่า ต้องการความช่วยเหลือจากพระรอง เรื่องจะทำอะไรดี นางเอกก็นั่งคิดอยู่ทั้งคืน ปวดหัวไปหมด เช้าวันต่อมา นางเอกมาบอกพระเอกว่า ต้องลองทำอาหารดูก่อนถึงจะเขียนวิธีทำขึ้นมาได้ และขอเงินพระเอกไปซึ้อกระเทียมจากแหล่งเลย แต่พอนางเอกออกมาแล้ว กลับมาขึ้นรถประจำทางไม่ทัน พระเอกซึ่งขับรถตามมา อาสาจะพาไปซื้อเลย ระหว่างทาง พระเอกกับนางเอกก็มาพักที่ร้านแห่งหนึ่ง นางเอกก็มาอธิบายว่า ทำไมต้องมาซื้อกระเทียมจากที่นี่ นางเอกบอกว่าจะทำสปาเกตตี้กระเทียม จึงจำเป็นต้องหาแหล่งวัตถุดิบดี พอนั่งรถกันต่อ นางเอกก็ซนดูโน้นดูนี่บน จนพระเอกต้องบอกให้นางเอกหยุด นางเอกบอกว่า น่าจะขายรถนี่นะ จะได้เอาเงินมาช่วยร้าน เพราะว่า นางเอกไม่ต้องการให้ร้านต้องถูกปิดตัวลง แต่พระเอกก็บอกว่า ไม่ต้องห่วง พระเอกมีคนสนับสนุนอยู่ ผู้หญิงที่ดูสวยหรูหราคนนั้นไง นางเอกก็ทำหน้าอึ้ง และบอกพระเอกว่า ให้ขับรถไป พอไปถึงที่แหล่งขายกระเทียมแล้ว พอดีกับรถบรรทุกเที่ยวสุดท้ายไปแล้ว นางเอกจึงยังไม่ได้กระเทียม แต่คนขายคนนั้นบอกว่า น่าจะยังมีเหลืออีกที่หนึ่ง เป็นของคุณปู่คนหนึ่ง นางเอกกับพระเอกจึงรีบไปหา ตอนแรกคุณปู่คนนั้น ไม่ยอมขายให้ นางเอกก็เอาใจใหญ่เลย ทำอาหาร ถูพื้นให้ คุณปู่ชอบใจมาก พระเอกเลยต้องเป็นผู้ช่วยจำเป็นให้กับนางเอก เอาใจคุณปู่คนนั้นเหมือนกัน นั่งดื่มเป็นเพื่อนคุณปู่ ระหว่างที่คุณปู่กำลังร้องเพลงอยู่นั้น นางเอกของเราก็แอบจิ๊กกระเทียมมากระจุกหนึ่ง พอออกมาจากบ้านคุณปู่ พระเอกกับนางเอกก็จะกลับไปโซล แต่ว่าพระเอกเมาเสียก่อน จึงต้องนอนพักให้หายเมา ระหว่างที่รอพระเอกอยู่นั้น นางเอกก็นั่งปอกเปลือกกระเทียมไป ดูหน้าพระเอกไป บอกว่าพระเอกเวลาหลับแล้วเหมือนลูกนางเอกเลย พอพระเอกตื่นขึ้นมา ก็ขอตัวไปล้างหน้า ระหว่างนั้นก็มีโทรศัพท์เข้ามาที่เครื่องของพระเอก นางเอกก็รับแทนพระเอก ผู้จัดการจูโทรมา บอกว่าให้โทรกลับพี่สาวพระเอก ตอนนั้นนางเอกจึงรู้ว่า ผู้หญิงที่ดูหรูหราคนนั้นคือพี่สาวพระเอกนั่นเอง นางเอกโกรธมาก รีบเดินไปหาพระเอก และบอกพระเอกว่า เป็นเรื่องสนุกสำหรับคุณมากเลยหรือ ที่ได้หลอกคนอื่น ทำไมไม่บอกว่า เขาเป็นพี่สาวของคุณ แล้วนางเอกก็ตัดพ้อพระเอก ด้านพระเอกก็คว้ามือนางเอก แล้วพูดว่า หนีไปกับผมเถอะ อะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ต้องติดตามครับ (จบตอนที่ 5) ขอบคุณ คุณเจ้าของบ้านที่ เวปข้าวโพดด้วยนะค่ะไปก๊อปของคุณมาอีกแล้วค่ะตั้งแต่ตอนที่1 แล้ว ค่ะ แล้วจะติดตาม ก๊อปจนจบนะค่ะ
Create Date : 15 พฤศจิกายน 2549 | | |
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2549 14:48:24 น. |
Counter : 606 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
Only you ตอนที่ 4
Only you (มนต์รักพาสต้า) อันนี้ Copy //www.popcornfor2.comจ้า ต้องขอบคุณเจ้าของบ้านมากๆที่เขียนมาให้เราๆอ่านกัน เจ๊ก็เลย ก๊อปมาทั้งหมด อาจจะมีของเจ๊แทรกเข้าไปบ้างอย่างว่ากันนะจ๊ะ
ตอนที่ 4
หลังจากที่เกิดปรากฏการณ์เราสามคนขึ้นแล้ว (รวมทั้งนางรองด้วย) บรรยากาศเริ่มตึงเครียด นางรองจึงแก้ไขโดยการชวนนางเอกคุย สักพัก พระรองเริ่มทนไม่ได้ จึงลากนางเอกไปที่ลานจอดรถ นางเอกก็ขอโทษพระรองเรื่องที่ไม่ได้บอกว่ามาทำงานกับพระเอก แล้วพระรองก็ถามว่า ทำไมมากับพระเอก ตั้งใจจะมาหลอกลวงอะไรกันอีก แล้วพระรองก็หลุดปากออกมาว่า รู้เรื่องที่ว่าพระเอกเป็นผู้ชายคนนั้นที่อิตาลี แล้วนางเอกก็สงสัย จึงถามออกไปว่า พระรองรู้ได้อย่างไร พระรองก็ตอบว่าเห็นพระเอกในเช้าวันนั้น เห็นนางเอกร้องไห้ตอนที่พระเอกเดินจากไป แล้วนางเอกก็จับมือพระรองไว้ พระรองสะบัดมือออกแล้ว เดินออกไปข้างนอก ทางด้านพระเอกก็บอกว่า คงร่วมงานกับพระรองไม่ได้จนกว่าพระรองจะมาขอโทษพระเอก แล้วยังตำหนินางรองที่ไปสนิทสนมกับพระรองเกินไป พอนางเอกได้ยินพระเอกตำหนิพระรอง ถึงขั้นจะไล่พระรองออกจากร้าน จึงปรี่เข้ามา บอกว่า ทั้งหมดเป็นความผิดของนางเอกเอง พระเอกจึงประชดให้ว่า ดูเธอสองคนสนิทกันมากเลยนะ แล้วพระเอกก็เดินออกไป นางเอกจะตามไปง้อ แต่นางรองบอกว่า นางรองจะเป็นคนจัดการคุยเรื่องพระรอง กับพระเอกเอง ทางด้านบ้านของนางเอก พ่อนางเอกกำลังนั่งทำตุ๊กตาอยู่ และมีลูกนางเอกอยู่ใกล้ๆ แม่นางเอกก็กลับมาบ้านด้วยความโกรธมากที่รู้ว่า พ่อนางเอกไปสร้างนี้อีกแล้ว พ่อนางเอกกลัวมาก แม่นางเอกขว้างของใส่พ่อนางเอกใหญ่เลย โกรธจนลมแทบจับ น้องนางเอกจึงพาแม่ไปนอนพักที่ห้อง นางเอกพอกลับมาถึงบ้านก็ถามหาพระรอง พ่อนางเอกก็มากระซิบให้นางเอกเข้าไปดูแม่ที่ห้อง และบอกกับแม่ว่า นางเอกได้งานแล้ว นางเอกจึงเข้าไปที่ห้อง แม่นางเอกบอกให้ออกไปให้หมด แต่นางเอกก็บอกกับแม่ว่า ตัวเองได้งานแล้ว บริษัทแดยังกรุ๊ป ที่เดียวกับที่พระรองทำงานอยู่ แม่นางเอกถึงกับลุกขึ้นมาร้องไห้ด้วยความปีติ ทางด้านพระรอง หลังจากที่แยกกับนางเอกแล้ว ก็ไปวิ่งระบายความโกรธที่สวนสาธารณะ นางเอกขี่จักรยานตามมาขอโทษและจะขอคุยด้วย แต่พระรองไม่ยอมสนใจ นางเอกจึงแกล้งขี่จักรยานลงไปในบึง พระรองทนไม่ได้ วิ่งมาจับท้ายรถเอาไว้ แล้วพระรองก็ยอมคุยกับนางเอก นางเอกก็บอกว่าที่ทำงานที่นั่นเพราะว่านางเอกต้องการเงินเท่านั้น ไม่มีอะไรจริงๆ พระรองก็ยังไม่เห็นด้วย บอกว่าจะหางานอื่นให้นางเอกทำ แต่นางเอกบอกว่าอยากจะได้งานด้วยตัวเองมากกว่า และงานนี้ สำหรับนางเอกที่ไม่จบอะไรสักอย่าง นับว่าหาได้ยากแล้ว และที่สำคัญ นางเอกไม่อยากเป็นภาระให้กับพระรองอีก ส่วนพระเอกก็ได้ขับรถกลับมาบ้านพร้อมกับนางรอง เนื่องจากพ่อพระเอกมีธุระกับนางรอง พ่อพระเอกอยากจะนัดบอดให้กับนางรองกับลูกชายเจ้าของบริษัทหนึ่ง แต่พี่สาวพระเอกก็บอกว่า นางรองอาจจะมีคนที่กำลังคบอยู่ก็ได้ พ่อพระเอกก็ถามว่า มีหรือยัง นางรองก็ตอบไปว่า ไม่มี แต่พระเอกก็ไม่เห็นด้วยกับพ่อ เพราะว่าคนที่พ่อพระเอกนัดให้กับนางรองนั้น เป็นคนเจ้าชู้และติดการพนัน แต่นางรองก็ตอบตกลงไปว่าจะไปพบ แล้วนางรองก็เดินออกมาจากบ้าน โดยมีพระเอกเดินตามออกมา นางรองก็บอกว่า ไม่เป็นไรหรอก แค่ไปพบเอง นางรองไม่อยากทำให้พ่อพระเอกไม่สบายใจ พระเอกจะไปเอากุญแจรถเพื่อไปส่งนางรอง แต่นางรองบอกว่าไม่ต้อง แล้วนางรองก็มาที่ร้าน แล้วก็เขวี้ยงกระเป๋าทิ้งด้วยความโมโห และได้ยินพระรองนั่งสับผักอยู่ จึงถามว่าพระรองมาทำอะไรดึกๆ และชวนพระรองดื่มไวน์ นางรองดื่มไวน์จนเมา แล้วก็ระบายความในใจ เรื่องที่ไม่เคยได้รับโอกาสที่จะได้ใกล้ชิดพระเอก เนื่องจากนางรองไม่เหมาะสมกับพระเอก สุดท้ายนางรองก็ดื่มจนเมา แล้วพระรองก็ประคองนางรองมาส่งที่รถแท็กซี่ เพื่อให้แท็กซี่พากลับบ้าน ในคืนนั้น นางเอกของเราก็เอาตำราอาหารมารื้อฟื้นความรู้ แล้วนางเอกก็บอกให้ลูกนางเอกไปนอนกับแม่นางเอก อ่านไปได้ไม่เท่าไหร่ นางเอกของเราก็เริ่มง่วง ทางด้านพระเอกก็นั่งอ่านประวัติพนักงาน แล้วมาสะดุดกับประวัตินางเอก ส่วนพระรองกลับมาที่บ้าน ก็เห็นนางเอกนอนอยู่บนโต๊ะ จะเอื้อมมือไปจับหน้านางเอกก็ไม่กล้า มาตอนเช้า นางเอกก็หลับคากองหนังสือ น้ำลายไหล ลูกนางเอกก็เข้ามาปลุก นางเอกก็บอกให้ลูกนางเอกจุมพิตปลุก แต่แม่นางเอกก็เข้ามาปลุกเองเลย นางเอกจึงต้องลุกขึ้นมา ที่ร้านพระเอก พระรองก็มาดักพระเอกแต่เช้า เพื่อจะขอโทษพระเอก บอกว่า จะไม่เกิดเหตุการณ์อย่างเมื่อวานขึ้นมาอีก พระเอกจึงให้พระรองมาเทรนนางเอกที่ร้านพระเอกเลย เพื่อจะได้อยู่ในสายตาพระเอกทั้งสองคน แล้วพระเอกก็พาพระรองและนางเอกที่เพิ่งมาถึง มาแนะนำให้คนในร้านได้รู้จัก แต่คนที่ไม่พอใจนางเอกที่สุดเห็นจะเป็นหัวหน้าเชฟ หัวหน้าเชฟจึงลากผู้จัดการร้านอดีตภรรยามาถาม ผู้จัดการร้านจึงตอกกลับไปว่า นางเอกนี่แหละเป็นม้ามืดที่จะเป็นผู้นำร้านแฟรนไชน์นี้ พระรองก็เริ่มสอนนางเอกตั้งแต่การใช้เตาอบ และการทำอาหารวิธีต่างๆ โดยมีพระเอกคอยมาแอบมอง วันนั้น พระเอกจะมาหาพ่อกับพี่สาวที่บริษัท ระหว่างที่เดินอยู่ในบริษัท พบกับผู้จัดการคัง ที่เป็นคู่แข่งของพ่อพระเอก มาบอกพระเอกว่า ที่พ่อพระเอกส่งพระเอกไปทำงานที่ร้านแฟรนไชน์นั้น เพราะว่าเป็นร้านที่แม่พระเอกเป็นคนตั้งมันขึ้นมา พระเอกตัดสินใจแล้ว จึงไปบอกกับพ่อว่าจะไปค้างที่ร้านเลย เพื่อจะได้ดูแลอย่างใกล้ชิด หลังจากที่พระเอกกลับมาจากบริษัทแล้วก็เรียกทั้งนางเอกและพระรองเข้ามาในห้อง ให้นางเอกคิดเมนูใหม่ของร้านขึ้นมาภายในหนึ่งสัปดาห์ และไล่พระรองกลับยังร้านที่ทำงานอยู่ นางเอกก็บอกว่า พระเอกเคยบอกว่า ให้เวลา 2 สัปดาห์ไม่ใช่หรือ แต่พระเอกก็บอกว่า เปลี่ยนใจแล้ว หรือว่านางเอกทำไม่ได้ นางเอกก็ตอบด้วยแรงทิฐิว่า ได้ แล้วนางเอกก็มานั่งดื่มกับพระรองที่เต้นท์ แล้วบอกว่า แล้วพระเอกจะได้รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เมื่อนางเอกจับมีดขึ้นมา แล้วพระรองก็บอกว่า อาหารที่ทำด้วยความโกรธจะทำให้อาหารนั้นเป็นพิษ ต้องทำด้วยหัวใจที่อบอุ่นต่างหากล่ะ อาหารถึงจะออกมาดี นับจากวันนั้น นางเอกก็เริ่มทำอาหารมาเสิร์ฟให้พระเอกทาน จานแล้วจานเล่า แต่ยังไม่เป็นที่น่าพอใจของพระเอก พระเอกบอกว่า อาหารที่นางเอกทำนั้นรสชาติดี แต่ไม่ดีพอที่จะสามารถกู้สถานการณ์ร้านได้ ที่พระเอกจ้างนางเอกมา เพราะรู้ว่านางเอกมีพรสวรรค์ ให้นางเอกหาเมนูของตัวเองที่ไม่มีใครสามารถเลียนแบบได้ นางเอกของเราก็หน้าบานเลย หลังจากนั้น นางเอกก็เอาผักมาล้าง พลางก็ครุ่นคิดถึงคำพูดพระเอกไปด้วย ทางด้านหัวหน้าเชฟที่แท้เป็นสายสืบให้กับผู้จัดการคัง หลังจากโทรศัพท์รายงานความเคลื่อนไหวแล้ว ก็เห็นนางเอกกำลังล้างผักอยู่ ก็เข้ามาดูถูกนางเอก บอกว่า พระเอกต้องการที่จะรักษาร้านแฟรนไชน์ของแม่เขา ทำไมไม่จ้างคนที่ดีกว่าเขา ไปจ้างนางเอก แต่ผู้จัดการร้านก็มาขัดจังหวะเสียก่อน หัวหน้าเชฟเลยเลิกพูด คืนนั้น นางเอกก็มานั่งครุ่นคิดถึงเรื่องที่หัวหน้าเชฟพูดว่า ร้านนั้นเคยเป็นของแม่พระเอก จึงนึกถึงเรื่องราวระหว่างพระเอกกับแม่พระเอกที่อิตาลี ระหว่างนั้นลูกนางเอกก็มาเตือนนางเอกว่า วันพรุ่งนี้เป็นวันเกิดของลูกนางเอก อยากจะกินไก่ กับสปาเกตตี้ จึงทำให้นางเอกคิดเมนูใหม่ได้ จึงหอมแก้มลูกใหญ่เลย ลูกนางเอกก็เบี่ยงตัวหลบ วิ่งหนี แต่เผอิญพระรองเข้ามาเจอพอดี จึงวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน วันต่อมานางเอกก็ลองทำไก่ยัดสปาเกตตี้ใหญ่เลย แต่ว่ายังไม่เป็นที่น่าพอใจ นางเอกเลยเอาหัวโขกกับตู้อบ พระเอกมาเห็นเข้า ก็ขำ ต่อมา พี่สาวพระเอกเข้ามาเยี่ยมที่ร้าน ตอนนั้น พระเอกไม่อยู่เพราะว่าไปพบลูกค้า เลยมาเจอตอนนางเอกทำไฟไหม้เตาอบพอดี เพราะว่าไปเปลี่ยนชุดที่เปื้อนซอส แล้วหัวหน้าเชฟมาแกล้งปรับเตาอบ ทำให้ไก่ที่อบไว้ไหม แล้วนางเอกยังสะบัดผ้าไปติดไฟอีก แต่ดีที่พระเอกเอาถังดับเพลิงมาฉีดดับไฟไว้ได้ทัน นางเอกก็ทำหน้าสำนึกผิด พี่สาวพระเอกโมโหเดินออกมาจากร้าน และบ่นว่า พระเอกจ้างคนอย่างนางเอกมาได้อย่างไร เรียนทำอาหารก็ไม่จบ แถมยังเคยทำงานผับมาอีก และก็สั่งให้พระเอกไล่นางเอกออก พี่สาวพระเอกจะหาคนมาแทน แต่พระเอกก็ขอเวลา 1 สัปดาห์ หากพี่สาวพระเอกยังไม่พอใจนางเอก จะไล่นางเอกออก พอพระเอกเดินกลับเข้าในร้าน ก็ได้ยินหัวหน้าเชฟตำหนินางเอกเรื่องที่ประมาท ไม่เช็คเตาอบให้ดี แต่นางเอกขอให้หัวหน้าเชฟเลิกสนใจนางเอกสักพัก เพื่อให้นางเอกได้ช่วยรักษาร้านของแม่พระเอกไว้ พระเอกได้ยิน ก็รู้สึกปลาบปลื้มใจไม่ได้ แต่ก็ยังไม่ได้แสดงตัวออกมา จนกระทั่งหัวหน้าเชฟเดินออกไป พระเอกจึงเดินเข้ามา นางเอกก็ขอโทษพระเอกเรื่องที่ทำไฟไหม้ แต่พระเอกกลับถามว่า เป็นอย่างไรบ้าง แล้วถามว่า เกิดไฟไหม้ได้อย่างไร ทางด้านนางรอง ก็มาพบกับลูกชายบริษัทแห่งหนึ่งตามที่พ่อพระเอกบอก ผู้ชายคนนั้นกำลังนั่งกับผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ที่เคาท์เตอร์ แล้วมีบริกรไปบอก จึงเดินมาที่โต๊ะที่นางรองนั่งอยู่ และผู้ชายคนนั้นก็พูดจาไม่สุภาพกับนางรอง ทำให้นางรองโกรธมาก ถึงกับเอาตบหน้าผู้ชายคนนั้น และเดินออกมา ทางด้านนางเอก ก็ทำงานอยู่จนดึก ยังไม่ได้กลับบ้าน กำลังแนะนำแนวคิดเมนูใหม่ให้กับพระเอก ซึ่งก็คือ พาสต้าไก่เนื้อนุ่ม นางเอกก็อธิบายวิธีการทำให้พระเอกฟัง ระหว่างนั้น พระรองก็โทรมา บอกว่าลูกนางเอกไม่ยอมนอน เอาแต่ร้องหานางเอก พ่อแม่และน้องสาวนางเอกไปงานศพ แล้วก็ให้ลูกนางเอกคุยกับนางเอก พระเอกซึ่งกำลังแอบฟัง พอรู้ว่า พระรองโทรมาก็ไม่พอใจอยู่ลึกๆ แถมได้ยินนางเอกบอกว่า คิดถึงเหมือนกัน (คำพูดนี้พูดกับลูกนางเอกครับ) ยิ่งทำให้พระเอกเข้าใจผิดเข้าไปอีก พอวางหูไปแล้ว พระเอกก็ถามนางเอกว่า มีนัดหรือ นางเอกก็บอกว่าไม่มี และพระเอกก็สั่งให้นางเอกทำอาหารเมนูนั้นให้ชิมเลย นางเอกก็อิดออดอยากจะกลับบ้าน พระเอกก็ว่านางเอก นางเอกเลยจำใจต้องอยู่ต่อ พระรองก็ลูกนางเอกออกมาเดินนอกบ้านรอนางเอก ทางด้านพระเอก เห็นนางเอกทำอาหารใช้เวลานาน จึงบอกว่าจะไปรอที่ออฟฟิศ ตอนห้าทุ่มครึ่งจะลงมา แล้วเดินออกไป พอพระเอกเดินออกไปแล้ว นางเอกก็รีบโทรกลับบ้าน และพระเอกก็มีโทรศัพท์เข้ามา เป็นของนางรองเอง พระเอกได้ยินนางรองร้องไห้ พระเอกจึงรีบไปหานางรอง นางรองกำลังนั่งดื่มอยู่ที่ผับแห่งหนึ่ง เนื่องจากวันนี้เป็นวันครบรอบวันตายของพ่อแม่นางรอง นางรองก็ได้แต่ร้องไห้ตัดพ้อชะตาชีวิต แล้วพระเอกก็พานางรองมาส่งบ้าน นางรองชวนพระเอกไปดื่มต่อ แต่พระเอกก็บอกว่ามีนัดแล้ว นางรองก็ถามว่า มีนัดกับใคร ที่ไหน แต่พระเอกของเราไม่ตอบ นางรองจึงไม่เซ้าซี้ต่อ พระเอกบอกว่าจะเดินไปส่ง แต่นางรองบอกว่าไม่เป็นไร ให้พระเอกรีบไปเถอะ แล้วพระเอกก็รีบขับออกไปจริงๆ พอพระเอกกลับมาที่ร้าน เห็นไฟในห้องครัวยังเปิดอยู่ ก็อุ่นใจ รีบจัดแจงขยับเสื้อผ้า ทรงผมให้เข้าที่ (ที่จริงไม่ต้องทำอะไรก็หล่ออยู่แล้ว) พอเข้าไปในห้องครัว นางเอกก็นั่งน้อยใจ พระเอกก็ถามว่า เสร็จหรือยัง นางเอกก็บอกว่าให้รออีก 40 นาที เนื่องจากว่า อันเก่าเสร็จไปนานแล้ว จนไก่เริ่มเย็น นางเอกจึงทำอันใหม่ให้กับพระเอก แล้วนางเอกก็เริ่มร้องไห้ พระเอกจึงใจอ่อน นางเอกก็อ้างว่า แม่ป่วยจึงขอกลับ แล้วพระเอกก็ว่านางเอกว่า ทำไมไม่บอกเขา อยากให้เขาเป็นคนเลวหรืออย่างไร แล้วอาสาจะพานางเอกไปส่งบ้าน นางเอกก็บอกว่าจะกลับเอง พระเอกก็บอกว่า ดึกแล้ว ไม่มีรถหรอก จะไปส่งให้ นางเอกก็อิดออดจนพระเอกสงสัย นางเอกจึงยอมให้พระเอกไปส่ง แล้วนางเอกก็ให้พระเอกส่งนางเอกแค่ที่ปากซอย โดยอ้างว่า ซอยมันแคบ กลับรถลำบาก แล้วนางเอกก็ขอบคุณแล้วรีบเดินออกไปเลย โดยลืมกระเป๋าไว้ที่รถพระเอก พระเอกจะตามเอาไปให้ จึงมาเห็นนางเอกคล้องแขนพระรองที่กำลังรอนางเอกอยู่ เดินเข้าบ้านไป พระเอกโกรธนางเอกมากที่หลอกลวงเขา อะไรจะเกิดขึ้น ต้องติดตามครับ (จบตอนที่ 4)
Create Date : 14 พฤศจิกายน 2549 | | |
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2549 15:13:27 น. |
Counter : 291 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
Only you ตอนที่ 4
Only you (มนต์รักพาสต้า) อันนี้ Copy //www.popcornfor2.comจ้า ต้องขอบคุณเจ้าของบ้านมากๆที่เขียนมาให้เราๆอ่านกัน เจ๊ก็เลย ก๊อปมาทั้งหมด อาจจะมีของเจ๊แทรกเข้าไปบ้างอย่างว่ากันนะจ๊ะ
ตอนที่ 4
หลังจากที่เกิดปรากฏการณ์เราสามคนขึ้นแล้ว (รวมทั้งนางรองด้วย) บรรยากาศเริ่มตึงเครียด นางรองจึงแก้ไขโดยการชวนนางเอกคุย สักพัก พระรองเริ่มทนไม่ได้ จึงลากนางเอกไปที่ลานจอดรถ นางเอกก็ขอโทษพระรองเรื่องที่ไม่ได้บอกว่ามาทำงานกับพระเอก แล้วพระรองก็ถามว่า ทำไมมากับพระเอก ตั้งใจจะมาหลอกลวงอะไรกันอีก แล้วพระรองก็หลุดปากออกมาว่า รู้เรื่องที่ว่าพระเอกเป็นผู้ชายคนนั้นที่อิตาลี แล้วนางเอกก็สงสัย จึงถามออกไปว่า พระรองรู้ได้อย่างไร พระรองก็ตอบว่าเห็นพระเอกในเช้าวันนั้น เห็นนางเอกร้องไห้ตอนที่พระเอกเดินจากไป แล้วนางเอกก็จับมือพระรองไว้ พระรองสะบัดมือออกแล้ว เดินออกไปข้างนอก ทางด้านพระเอกก็บอกว่า คงร่วมงานกับพระรองไม่ได้จนกว่าพระรองจะมาขอโทษพระเอก แล้วยังตำหนินางรองที่ไปสนิทสนมกับพระรองเกินไป พอนางเอกได้ยินพระเอกตำหนิพระรอง ถึงขั้นจะไล่พระรองออกจากร้าน จึงปรี่เข้ามา บอกว่า ทั้งหมดเป็นความผิดของนางเอกเอง พระเอกจึงประชดให้ว่า ดูเธอสองคนสนิทกันมากเลยนะ แล้วพระเอกก็เดินออกไป นางเอกจะตามไปง้อ แต่นางรองบอกว่า นางรองจะเป็นคนจัดการคุยเรื่องพระรอง กับพระเอกเอง ทางด้านบ้านของนางเอก พ่อนางเอกกำลังนั่งทำตุ๊กตาอยู่ และมีลูกนางเอกอยู่ใกล้ๆ แม่นางเอกก็กลับมาบ้านด้วยความโกรธมากที่รู้ว่า พ่อนางเอกไปสร้างนี้อีกแล้ว พ่อนางเอกกลัวมาก แม่นางเอกขว้างของใส่พ่อนางเอกใหญ่เลย โกรธจนลมแทบจับ น้องนางเอกจึงพาแม่ไปนอนพักที่ห้อง นางเอกพอกลับมาถึงบ้านก็ถามหาพระรอง พ่อนางเอกก็มากระซิบให้นางเอกเข้าไปดูแม่ที่ห้อง และบอกกับแม่ว่า นางเอกได้งานแล้ว นางเอกจึงเข้าไปที่ห้อง แม่นางเอกบอกให้ออกไปให้หมด แต่นางเอกก็บอกกับแม่ว่า ตัวเองได้งานแล้ว บริษัทแดยังกรุ๊ป ที่เดียวกับที่พระรองทำงานอยู่ แม่นางเอกถึงกับลุกขึ้นมาร้องไห้ด้วยความปีติ ทางด้านพระรอง หลังจากที่แยกกับนางเอกแล้ว ก็ไปวิ่งระบายความโกรธที่สวนสาธารณะ นางเอกขี่จักรยานตามมาขอโทษและจะขอคุยด้วย แต่พระรองไม่ยอมสนใจ นางเอกจึงแกล้งขี่จักรยานลงไปในบึง พระรองทนไม่ได้ วิ่งมาจับท้ายรถเอาไว้ แล้วพระรองก็ยอมคุยกับนางเอก นางเอกก็บอกว่าที่ทำงานที่นั่นเพราะว่านางเอกต้องการเงินเท่านั้น ไม่มีอะไรจริงๆ พระรองก็ยังไม่เห็นด้วย บอกว่าจะหางานอื่นให้นางเอกทำ แต่นางเอกบอกว่าอยากจะได้งานด้วยตัวเองมากกว่า และงานนี้ สำหรับนางเอกที่ไม่จบอะไรสักอย่าง นับว่าหาได้ยากแล้ว และที่สำคัญ นางเอกไม่อยากเป็นภาระให้กับพระรองอีก ส่วนพระเอกก็ได้ขับรถกลับมาบ้านพร้อมกับนางรอง เนื่องจากพ่อพระเอกมีธุระกับนางรอง พ่อพระเอกอยากจะนัดบอดให้กับนางรองกับลูกชายเจ้าของบริษัทหนึ่ง แต่พี่สาวพระเอกก็บอกว่า นางรองอาจจะมีคนที่กำลังคบอยู่ก็ได้ พ่อพระเอกก็ถามว่า มีหรือยัง นางรองก็ตอบไปว่า ไม่มี แต่พระเอกก็ไม่เห็นด้วยกับพ่อ เพราะว่าคนที่พ่อพระเอกนัดให้กับนางรองนั้น เป็นคนเจ้าชู้และติดการพนัน แต่นางรองก็ตอบตกลงไปว่าจะไปพบ แล้วนางรองก็เดินออกมาจากบ้าน โดยมีพระเอกเดินตามออกมา นางรองก็บอกว่า ไม่เป็นไรหรอก แค่ไปพบเอง นางรองไม่อยากทำให้พ่อพระเอกไม่สบายใจ พระเอกจะไปเอากุญแจรถเพื่อไปส่งนางรอง แต่นางรองบอกว่าไม่ต้อง แล้วนางรองก็มาที่ร้าน แล้วก็เขวี้ยงกระเป๋าทิ้งด้วยความโมโห และได้ยินพระรองนั่งสับผักอยู่ จึงถามว่าพระรองมาทำอะไรดึกๆ และชวนพระรองดื่มไวน์ นางรองดื่มไวน์จนเมา แล้วก็ระบายความในใจ เรื่องที่ไม่เคยได้รับโอกาสที่จะได้ใกล้ชิดพระเอก เนื่องจากนางรองไม่เหมาะสมกับพระเอก สุดท้ายนางรองก็ดื่มจนเมา แล้วพระรองก็ประคองนางรองมาส่งที่รถแท็กซี่ เพื่อให้แท็กซี่พากลับบ้าน ในคืนนั้น นางเอกของเราก็เอาตำราอาหารมารื้อฟื้นความรู้ แล้วนางเอกก็บอกให้ลูกนางเอกไปนอนกับแม่นางเอก อ่านไปได้ไม่เท่าไหร่ นางเอกของเราก็เริ่มง่วง ทางด้านพระเอกก็นั่งอ่านประวัติพนักงาน แล้วมาสะดุดกับประวัตินางเอก ส่วนพระรองกลับมาที่บ้าน ก็เห็นนางเอกนอนอยู่บนโต๊ะ จะเอื้อมมือไปจับหน้านางเอกก็ไม่กล้า มาตอนเช้า นางเอกก็หลับคากองหนังสือ น้ำลายไหล ลูกนางเอกก็เข้ามาปลุก นางเอกก็บอกให้ลูกนางเอกจุมพิตปลุก แต่แม่นางเอกก็เข้ามาปลุกเองเลย นางเอกจึงต้องลุกขึ้นมา ที่ร้านพระเอก พระรองก็มาดักพระเอกแต่เช้า เพื่อจะขอโทษพระเอก บอกว่า จะไม่เกิดเหตุการณ์อย่างเมื่อวานขึ้นมาอีก พระเอกจึงให้พระรองมาเทรนนางเอกที่ร้านพระเอกเลย เพื่อจะได้อยู่ในสายตาพระเอกทั้งสองคน แล้วพระเอกก็พาพระรองและนางเอกที่เพิ่งมาถึง มาแนะนำให้คนในร้านได้รู้จัก แต่คนที่ไม่พอใจนางเอกที่สุดเห็นจะเป็นหัวหน้าเชฟ หัวหน้าเชฟจึงลากผู้จัดการร้านอดีตภรรยามาถาม ผู้จัดการร้านจึงตอกกลับไปว่า นางเอกนี่แหละเป็นม้ามืดที่จะเป็นผู้นำร้านแฟรนไชน์นี้ พระรองก็เริ่มสอนนางเอกตั้งแต่การใช้เตาอบ และการทำอาหารวิธีต่างๆ โดยมีพระเอกคอยมาแอบมอง วันนั้น พระเอกจะมาหาพ่อกับพี่สาวที่บริษัท ระหว่างที่เดินอยู่ในบริษัท พบกับผู้จัดการคัง ที่เป็นคู่แข่งของพ่อพระเอก มาบอกพระเอกว่า ที่พ่อพระเอกส่งพระเอกไปทำงานที่ร้านแฟรนไชน์นั้น เพราะว่าเป็นร้านที่แม่พระเอกเป็นคนตั้งมันขึ้นมา พระเอกตัดสินใจแล้ว จึงไปบอกกับพ่อว่าจะไปค้างที่ร้านเลย เพื่อจะได้ดูแลอย่างใกล้ชิด หลังจากที่พระเอกกลับมาจากบริษัทแล้วก็เรียกทั้งนางเอกและพระรองเข้ามาในห้อง ให้นางเอกคิดเมนูใหม่ของร้านขึ้นมาภายในหนึ่งสัปดาห์ และไล่พระรองกลับยังร้านที่ทำงานอยู่ นางเอกก็บอกว่า พระเอกเคยบอกว่า ให้เวลา 2 สัปดาห์ไม่ใช่หรือ แต่พระเอกก็บอกว่า เปลี่ยนใจแล้ว หรือว่านางเอกทำไม่ได้ นางเอกก็ตอบด้วยแรงทิฐิว่า ได้ แล้วนางเอกก็มานั่งดื่มกับพระรองที่เต้นท์ แล้วบอกว่า แล้วพระเอกจะได้รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เมื่อนางเอกจับมีดขึ้นมา แล้วพระรองก็บอกว่า อาหารที่ทำด้วยความโกรธจะทำให้อาหารนั้นเป็นพิษ ต้องทำด้วยหัวใจที่อบอุ่นต่างหากล่ะ อาหารถึงจะออกมาดี นับจากวันนั้น นางเอกก็เริ่มทำอาหารมาเสิร์ฟให้พระเอกทาน จานแล้วจานเล่า แต่ยังไม่เป็นที่น่าพอใจของพระเอก พระเอกบอกว่า อาหารที่นางเอกทำนั้นรสชาติดี แต่ไม่ดีพอที่จะสามารถกู้สถานการณ์ร้านได้ ที่พระเอกจ้างนางเอกมา เพราะรู้ว่านางเอกมีพรสวรรค์ ให้นางเอกหาเมนูของตัวเองที่ไม่มีใครสามารถเลียนแบบได้ นางเอกของเราก็หน้าบานเลย หลังจากนั้น นางเอกก็เอาผักมาล้าง พลางก็ครุ่นคิดถึงคำพูดพระเอกไปด้วย ทางด้านหัวหน้าเชฟที่แท้เป็นสายสืบให้กับผู้จัดการคัง หลังจากโทรศัพท์รายงานความเคลื่อนไหวแล้ว ก็เห็นนางเอกกำลังล้างผักอยู่ ก็เข้ามาดูถูกนางเอก บอกว่า พระเอกต้องการที่จะรักษาร้านแฟรนไชน์ของแม่เขา ทำไมไม่จ้างคนที่ดีกว่าเขา ไปจ้างนางเอก แต่ผู้จัดการร้านก็มาขัดจังหวะเสียก่อน หัวหน้าเชฟเลยเลิกพูด คืนนั้น นางเอกก็มานั่งครุ่นคิดถึงเรื่องที่หัวหน้าเชฟพูดว่า ร้านนั้นเคยเป็นของแม่พระเอก จึงนึกถึงเรื่องราวระหว่างพระเอกกับแม่พระเอกที่อิตาลี ระหว่างนั้นลูกนางเอกก็มาเตือนนางเอกว่า วันพรุ่งนี้เป็นวันเกิดของลูกนางเอก อยากจะกินไก่ กับสปาเกตตี้ จึงทำให้นางเอกคิดเมนูใหม่ได้ จึงหอมแก้มลูกใหญ่เลย ลูกนางเอกก็เบี่ยงตัวหลบ วิ่งหนี แต่เผอิญพระรองเข้ามาเจอพอดี จึงวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน วันต่อมานางเอกก็ลองทำไก่ยัดสปาเกตตี้ใหญ่เลย แต่ว่ายังไม่เป็นที่น่าพอใจ นางเอกเลยเอาหัวโขกกับตู้อบ พระเอกมาเห็นเข้า ก็ขำ ต่อมา พี่สาวพระเอกเข้ามาเยี่ยมที่ร้าน ตอนนั้น พระเอกไม่อยู่เพราะว่าไปพบลูกค้า เลยมาเจอตอนนางเอกทำไฟไหม้เตาอบพอดี เพราะว่าไปเปลี่ยนชุดที่เปื้อนซอส แล้วหัวหน้าเชฟมาแกล้งปรับเตาอบ ทำให้ไก่ที่อบไว้ไหม แล้วนางเอกยังสะบัดผ้าไปติดไฟอีก แต่ดีที่พระเอกเอาถังดับเพลิงมาฉีดดับไฟไว้ได้ทัน นางเอกก็ทำหน้าสำนึกผิด พี่สาวพระเอกโมโหเดินออกมาจากร้าน และบ่นว่า พระเอกจ้างคนอย่างนางเอกมาได้อย่างไร เรียนทำอาหารก็ไม่จบ แถมยังเคยทำงานผับมาอีก และก็สั่งให้พระเอกไล่นางเอกออก พี่สาวพระเอกจะหาคนมาแทน แต่พระเอกก็ขอเวลา 1 สัปดาห์ หากพี่สาวพระเอกยังไม่พอใจนางเอก จะไล่นางเอกออก พอพระเอกเดินกลับเข้าในร้าน ก็ได้ยินหัวหน้าเชฟตำหนินางเอกเรื่องที่ประมาท ไม่เช็คเตาอบให้ดี แต่นางเอกขอให้หัวหน้าเชฟเลิกสนใจนางเอกสักพัก เพื่อให้นางเอกได้ช่วยรักษาร้านของแม่พระเอกไว้ พระเอกได้ยิน ก็รู้สึกปลาบปลื้มใจไม่ได้ แต่ก็ยังไม่ได้แสดงตัวออกมา จนกระทั่งหัวหน้าเชฟเดินออกไป พระเอกจึงเดินเข้ามา นางเอกก็ขอโทษพระเอกเรื่องที่ทำไฟไหม้ แต่พระเอกกลับถามว่า เป็นอย่างไรบ้าง แล้วถามว่า เกิดไฟไหม้ได้อย่างไร ทางด้านนางรอง ก็มาพบกับลูกชายบริษัทแห่งหนึ่งตามที่พ่อพระเอกบอก ผู้ชายคนนั้นกำลังนั่งกับผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ที่เคาท์เตอร์ แล้วมีบริกรไปบอก จึงเดินมาที่โต๊ะที่นางรองนั่งอยู่ และผู้ชายคนนั้นก็พูดจาไม่สุภาพกับนางรอง ทำให้นางรองโกรธมาก ถึงกับเอาตบหน้าผู้ชายคนนั้น และเดินออกมา ทางด้านนางเอก ก็ทำงานอยู่จนดึก ยังไม่ได้กลับบ้าน กำลังแนะนำแนวคิดเมนูใหม่ให้กับพระเอก ซึ่งก็คือ พาสต้าไก่เนื้อนุ่ม นางเอกก็อธิบายวิธีการทำให้พระเอกฟัง ระหว่างนั้น พระรองก็โทรมา บอกว่าลูกนางเอกไม่ยอมนอน เอาแต่ร้องหานางเอก พ่อแม่และน้องสาวนางเอกไปงานศพ แล้วก็ให้ลูกนางเอกคุยกับนางเอก พระเอกซึ่งกำลังแอบฟัง พอรู้ว่า พระรองโทรมาก็ไม่พอใจอยู่ลึกๆ แถมได้ยินนางเอกบอกว่า คิดถึงเหมือนกัน (คำพูดนี้พูดกับลูกนางเอกครับ) ยิ่งทำให้พระเอกเข้าใจผิดเข้าไปอีก พอวางหูไปแล้ว พระเอกก็ถามนางเอกว่า มีนัดหรือ นางเอกก็บอกว่าไม่มี และพระเอกก็สั่งให้นางเอกทำอาหารเมนูนั้นให้ชิมเลย นางเอกก็อิดออดอยากจะกลับบ้าน พระเอกก็ว่านางเอก นางเอกเลยจำใจต้องอยู่ต่อ พระรองก็ลูกนางเอกออกมาเดินนอกบ้านรอนางเอก ทางด้านพระเอก เห็นนางเอกทำอาหารใช้เวลานาน จึงบอกว่าจะไปรอที่ออฟฟิศ ตอนห้าทุ่มครึ่งจะลงมา แล้วเดินออกไป พอพระเอกเดินออกไปแล้ว นางเอกก็รีบโทรกลับบ้าน และพระเอกก็มีโทรศัพท์เข้ามา เป็นของนางรองเอง พระเอกได้ยินนางรองร้องไห้ พระเอกจึงรีบไปหานางรอง นางรองกำลังนั่งดื่มอยู่ที่ผับแห่งหนึ่ง เนื่องจากวันนี้เป็นวันครบรอบวันตายของพ่อแม่นางรอง นางรองก็ได้แต่ร้องไห้ตัดพ้อชะตาชีวิต แล้วพระเอกก็พานางรองมาส่งบ้าน นางรองชวนพระเอกไปดื่มต่อ แต่พระเอกก็บอกว่ามีนัดแล้ว นางรองก็ถามว่า มีนัดกับใคร ที่ไหน แต่พระเอกของเราไม่ตอบ นางรองจึงไม่เซ้าซี้ต่อ พระเอกบอกว่าจะเดินไปส่ง แต่นางรองบอกว่าไม่เป็นไร ให้พระเอกรีบไปเถอะ แล้วพระเอกก็รีบขับออกไปจริงๆ พอพระเอกกลับมาที่ร้าน เห็นไฟในห้องครัวยังเปิดอยู่ ก็อุ่นใจ รีบจัดแจงขยับเสื้อผ้า ทรงผมให้เข้าที่ (ที่จริงไม่ต้องทำอะไรก็หล่ออยู่แล้ว) พอเข้าไปในห้องครัว นางเอกก็นั่งน้อยใจ พระเอกก็ถามว่า เสร็จหรือยัง นางเอกก็บอกว่าให้รออีก 40 นาที เนื่องจากว่า อันเก่าเสร็จไปนานแล้ว จนไก่เริ่มเย็น นางเอกจึงทำอันใหม่ให้กับพระเอก แล้วนางเอกก็เริ่มร้องไห้ พระเอกจึงใจอ่อน นางเอกก็อ้างว่า แม่ป่วยจึงขอกลับ แล้วพระเอกก็ว่านางเอกว่า ทำไมไม่บอกเขา อยากให้เขาเป็นคนเลวหรืออย่างไร แล้วอาสาจะพานางเอกไปส่งบ้าน นางเอกก็บอกว่าจะกลับเอง พระเอกก็บอกว่า ดึกแล้ว ไม่มีรถหรอก จะไปส่งให้ นางเอกก็อิดออดจนพระเอกสงสัย นางเอกจึงยอมให้พระเอกไปส่ง แล้วนางเอกก็ให้พระเอกส่งนางเอกแค่ที่ปากซอย โดยอ้างว่า ซอยมันแคบ กลับรถลำบาก แล้วนางเอกก็ขอบคุณแล้วรีบเดินออกไปเลย โดยลืมกระเป๋าไว้ที่รถพระเอก พระเอกจะตามเอาไปให้ จึงมาเห็นนางเอกคล้องแขนพระรองที่กำลังรอนางเอกอยู่ เดินเข้าบ้านไป พระเอกโกรธนางเอกมากที่หลอกลวงเขา อะไรจะเกิดขึ้น ต้องติดตามครับ (จบตอนที่ 4)
Create Date : 14 พฤศจิกายน 2549 | | |
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2549 15:29:55 น. |
Counter : 344 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
Only you ตอนที่ 3
Only you ตอนที่ 3
หลังจากที่พระเอกได้ชิมสปาเกตตี้ที่นางเอกทำแล้ว รู้สึกพอใจในรสชาติ จึงเรียกบริกรมาถาม ทางด้านนางเอกก็ถูกผู้จัดการร้านตำหนิที่นางเอกทำครัวโดยพลการ อาจทำให้เสียชื่อเสียงของร้านได้ จึงไล่นางเอกออก ทางด้านพระเอก ผู้จัดการร้านก็เอาแต่ขอโทษพระเอกสำหรับเรื่องอาหาร พระเอกก็บอกว่าไม่ต้องขอโทษ และถามถึงคนทำอาหารจานนี้ ผู้จัดการร้านก็บอกว่า ไล่ออกไปแล้ว พระเอกจึงรีบออกมานอกร้านเพื่อมาตามหา ระหว่างนั้นมีโทรศัพท์เข้ามา เป็นของพี่สาวพระเอกบอกให้พระเอกมาเข้าประชุม ส่วนนางเอกหลังจากถูกไล่ออกแล้ว ก็มาหาผู้จัดการร้าน เพื่อง้อไม่ให้ไล่นางเอกออก และขอโอกาสให้นางเอกอีกครั้ง นางเอกอยากเรียนรู้การทำอาหาร ผู้จัดการร้านก็ดูถูกว่า นางเอกไม่มีระดับ ไม่ได้จบอะไรมาเลย ไม่เหมาะกับร้านหรูๆอย่างนี้หรอก นางเอกก็ตอบกลับไปว่า การตัดสินว่าอาหารนั้นดีไม่มี ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าความร่ำรวยคนของคนที่ได้กินหรอก แต่ขึ้นอยู่กับรสชาติของอาหารมากกว่า แล้วนางเอกก็ตัดสินใจไม่ทำงานที่นี่อีก และเดินออกจากร้านไป สรุปแล้วนางเอกก็ยังตกงานอยู่ ทางด้านพระเอก พ่อพระเอกก็แนะนำพระเอกให้กับผู้บริหารคนอื่นๆ ว่าจะมาบริหารร้านแฟรนชายด์ อิตาลีทุกคนต่างซุบซิบกันใหญ่ ผู้จัดการคัง ก็แย้งขึ้นมาว่า ร้านนั้นจะปิดตัวเองแล้วไม่ใช่หรือ แต่พ่อพระเอกก็บอกว่า จะให้พระเอกเป็นคนเข้ามาบริหาร และฟื้นฟูกิจการให้กลับมาเป็นที่น่าพอใจเหมือนเดิมภายใน 6 เดือน คนในบอร์ดบริหารจึงไม่มีใครแย้ง หลังจากประชุมแล้ว พี่สาวพระเอกก็พาพระเอกมาเลือกรถ ระหว่างนั้น พี่สาวพระเอกก็เตือนพระเอกให้ระวังผู้จัดการคังเอาไว้ เพราะว่าเขามีอิทธิพลต่อบอร์ด พยายามที่จะควบคุมบริษัทโดยการกว้านซื้อหุ้น และพระเอกก็ได้ขอผู้ช่วยจากพี่สาว ซึ่งเพิ่งย้ายมาอยู่ที่ฝ่ายการตลาดเพื่อจะไปเป็นผู้จัดการร้าน ซึ่งก็คือ คุณจู พระเอกก็เรียกคุณจูมาคุย พยายามหว่านล้อม ตอนแรกคุณจูจะไม่ยอมมาเป็นเพราะว่ามีปัญหากับหัวหน้าเชฟซึ่งเป็นสามีเก่า พระเอกก็พูดจนคุณจุยอมมาทำงานด้วย งานแรกที่คุณจูจะต้องทำคือการตามหาใครคนหนึ่ง ทางด้านนางเอก หลังจากถูกไล่ออก ก็กลับมาบ้าน ก็ยืนอยู่หน้าบ้าน ไม่กล้าเข้าบ้าน รู้สึกผิดที่ไปพูดไม่ดีกับผู้จัดการร้านคนนั้น ทำให้เสียงานไป แล้วเอาหัวโขกกับกำแพงหน้าบ้าน ลูกนางเอกก็เอาอย่างบ้าง นางเอกก็รีบเข้าไปห้าม แล้วพากันเข้าบ้านไป ทางด้านแม่นางเอกก็ทำอาหารต้อนรับนางเอกเนื่องในโอกาสที่นางเอกได้งานใหม่ แต่นางเอกก็ชิงบอกก่อนว่า ได้ออกจากที่ทำงานไปแล้ว แม่นางเอกก็โมโหว่านางเอกเรื่องที่นางเอกเรียนไม่จบ และยังท้องไม่มีพ่ออีก นางเอกก็อุดหูลูกไม่ให้ได้ยินคำด่า แล้วแม่นางเอกก็หัวเสียเดินออกไป พ่อนางเอกก็พาลูกนางเอกไปอาบน้ำ แล้วนางเอกก็กล่าวขอโทษพระรอง เรื่องที่ออกจากงานดีๆ ที่พระรองแนะนำให้ และนางเอกก็มานั่งดื่มเหล้าที่ห้องน้องสาว น้องสาวนางเอกกลับมาพอดี ก็ไล่นางเอกให้ไปนอนเสีย แล้วนางเอกก็ถามน้องสาวว่า ตัวเองแย่มากขนาดนั้นเลยหรือ น้องสาวก็ตอบตามจริงว่า สิ่งที่ได้เรียนรู้ คือ อย่ามีชีวิตอย่างแม่และพี่สาว และให้ตัวน้องสาวเองวางแผนชีวิตให้รอบคอบ พี่สาวนางเอกเสียใจมาก เดินออกมาหน้าบ้าน ได้แต่มานั่งพร่ำเพ้อว่า น้องสาวน่าจะพูดโกหกเพื่อปลอบใจนางเอกบ้าง ไม่ใช่พูดไปแบบนั้น ทางด้านพระเอกก็เข้ามาบริหารวันแรกก็มอบหมายให้ทุกคนช่วยกันคิดแผนงานและพัฒนาเมนูร้ านใหม่ บริกรสาวดูจะชอบพระเอกมาก แต่หัวหน้าเชฟรู้สึกอึดอัดที่ต้องมาทำงานกับพระเอกและอดีตภรรยา ส่วนนางเอกก็มายื่นใบสมัครที่บริษัทจัดหางาน ในใบสมัครนางเอกบอกว่าอยากทำงานในร้านอาหารอิตาเลียน แต่ที่บริษัทนี้ไม่มีตำแหน่งนี้ เจ้าหน้าจึงจัดงานที่คล้ายๆ กันให้ เป็นงานในห้องครัวของผับ นางเอกจึงได้ไปทำงานนี้แทน ทางด้านพระรองก็ไปคุยกับนางรอง นางรองก็ถามถึงเรื่องเงินกู้ที่พระรองทำเรื่องไป แล้วก็ถามถึงนางเอก พอพูดถึงเรื่องนางเอก แล้วพระรองอารมณ์ดี นางรองจึงแซว ต่อมาก็มีบริกรมาบอกกับนางรองว่า พระเอกมาขอพบ นางรองจึงขอตัวไป ระหว่างเดินทางไปห้องครัว พระรองก็เหลือบไปเห็นพระเอก ก็จำได้คลับคล้ายคลับคลา พระเอกมาหานางรองเรื่องให้หาคนมาช่วยงานครัวที่ร้านพระเอก นางเอกรับปาก พระเอกก็กล่าวขอบคุณไป นางรองก็ชวนพระเอกไปเดท แต่พระเอกบอกว่ามีนัดกับเพื่อน แต่ก็ชวนนางรองให้ไปด้วยกัน แต่นางรองปฏิเสธ เพราะว่าไม่ชอบเพื่อนพระเอก พระเอกจึงขอตัวกลับ ทางด้านพระรองหลังจากจำได้ว่า พระเอกคือผู้ชายที่อยู่กับนางเอกในคืนนั้น จึงเดินมาถามนางรองว่า พระเอกทำงานบริษัทเดียวกับพระรองหรือ นางรองก็ตอบว่า ใช่ ทางด้านนางเอก หลังจากได้เข้าไปทำงานในครัวของผับแล้ว ได้รับตำแหน่งเป็นผู้ช่วยแม่ครัว ทำหน้าที่ล้างจาน และเก็บกวาด พอดีมีบริกรเอาจานอาหารที่เหลือ มาเปลี่ยนและจะยกเอาจานที่ปรุงเสร็จแล้วไป แม่ครัวก็เอาผักจากจานเก่ามาใส่ลงไปในจานใหม่ นางเอกเห็นว่ามันสกปรกแล้ว ก็บอกให้บริกรหยุด และเอาผักมาล้างใหม่ และให้เอาไปเสิร์ฟได้ แม่ครัวก็ได้แต่มองอย่างหมั่นไส้ ด้วยบุญพาวาสนาส่ง ทำให้พระเอกและเพื่อนๆพระเอกได้มาเที่ยวที่ผับที่นางเอกทำงานอยู่ ในห้องเพื่อนๆพระเอกและพระเอกก็ได้เรียกผู้หญิงมานั่งดริงค์ด้วย ผู้หญิงที่นั่งข้างพระเอกจะเขาคล้องแขนพระเอก พระเอกของเราหวงตัวมากจึงดุผู้หญิงคนนั้นไป ผู้หญิงคนนั้นทำได้แค่รินเหล้าให้พระเอกเท่านั้น ทางด้านนางเอกกำลังเก็บกวาดอยู่นั้น ได้สังเกตว่า กลับแกล้มอย่างหนึ่งขึ้นรา จึงบอกกับแม่ครัว แม่ครัวบอกว่าไม่เป็นไร เพราะว่ามันมืด คงไม่มีใครสังเกต และถ้าไปเรียกเก็บกลับมา เกิดผู้จัดการรู้ นางเอกและแม่ครัวจะต้องถูกไล่ออก นางเอกด้วยความที่เป็นคนดีมาก กลัวอาหารจะเป็นพิษจึงจะไปตามเก็บกลับมา และหนึ่งในนั้น ก็เป็นห้องของพระเอก นางเอกจึงให้สาวนั่งดริงค์เป็นคนเอาออกมา ระหว่างที่หญิงคนนั้นกำลังเอาออกมาให้ นางเอกก็ดันไปเห็นพระเอก และจ้องมองจนแน่ใจ ขณะนั้นก็คนเมามาชนนางเอก นางเอกของเราก็ไปจับกบอยู่ข้างๆ เก้าอี้ที่พระเอกนั่งอยู่ ข้าวของกระจัดกระจาย นางเอกก็ขอโทษและพยายามเก็บของที่หก หลบหน้าหลบตาพระเอก และรีบเดินออกมา พระเอกก้รู้สึกแปลกๆกับท่าทีของนางเอก พอได้เห็นนางเอกแวบๆ ก็จำนางเอกได้ วิ่งตามออกมา นางเอกก็รีบเดินหนี พระเอกก็วิ่งไล่ตามมาจนทัน ก็ตะโกนเรียกชื่อนางเอก และวิ่งมาดักหน้านางเอก พระเอกก็ถามนางเอกว่า ทำไมต้องวิ่งหนีพระเอกด้วย จำพระเอกไม่ได้หรือ นางเอกของเราก็ทำเฉไฉไป พระเอกก็ถามถึงว่า ทำไมนางเอกมาทำงานที่แบบนี้ และบอกว่า อยากจะเจอนางเอก แล้วนางเอกก็ถามว่า ทำไม พระเอกก็บอกว่า นางเอกเคยช่วยพระเอกไว้ และเราก็ยังไม่ค่อยรู้จักกันเลย นางเอกก็พยายามจะขอตัว แต่พระเอกก็ยังถามต่อว่า ทีผ่านมา นางเอกเป็นอย่างไรบ้าง นางเอกบอกว่า ก็สบายดี แล้วก็ก้มมองตัวเองซึ่งดูน่าสมเพชมาก แล้วนางเอกก็ถามว่า มีอะไรอีกไหม พระเอกบอกว่า ไม่ นางเอกจะหันเดินหนีไปอยู่แล้ว แล้วก็ตัดสินใจหันมาเรียกพระเอก นางเอกก็นึกถามอยู่ในใจว่า ตอนนี้พระเอกอยู่ที่ไหน แต่งงานแล้วหรือยัง แต่ปากก็บอกกับพระเอกไปว่า ขอให้สนุก และนางเอกก็มายืนคิดหนักอยู่ในห้องน้ำ ด้านพระเอก หลังจากแยกกับนางเอกแล้ว ก็เดินกลับมาที่ห้อง แต่ก็เกิดเปลี่ยนใจกลับบ้านกระทันหัน ระหว่างที่พระเอกเดินทอดอารมณ์อยู่หน้าผับนั้น เจอกับคุณจู ผู้จัดการร้านที่หน้าผับ คุณจูบอกว่า คนที่พระเอกตามหาทำงานอยู่ที่ผับนี้ ชื่อชาอึนเจ พระเอกก็ย้อนถามว่า ชาอึนเจหรือ ซึ่งก็คือนางเอกนั่นเอง ทางด้านพระรอง หลังจากได้เห็นพบพระเอกแล้ว ก็กลุ้มใจ มาดื่มเหล้าที่เต้นท์ข้างถนน ส่วนนางเอกก็ได้เจอกับพระรองระหว่างเดินทางกลับบ้าน นางเอกก็ทักว่า ทำไมพระรองถึงไปดื่มเหล้ามา พระรองบอกว่า มีเรื่องที่จะต้องพูดกับนางเอก จึงพากันมาที่สวนสาธารณะ พระรองก็ถามว่า นางเอกจะทำอย่างไร ถ้าเกิดว่าได้เจอกับพระเอกซึ่งเป็นพ่อของลูกนางเอกอีกครั้ง แล้วนางเอกไม่เคยคิดถึงพระเอกบ้างหรือ นางเอกก็บอกให้พระรองหยุดพูดเรื่องนี้ และบอกว่า จินซูเป็นลูกของนางเอกคนเดียว และนางเอกก็ไม่เคยคิดถึงพระเอก หรือพระรองอยากจะให้นางเอกเป็นบ้า แล้วก็เดินจากไป หลังจากแยกกับพระรองแล้ว นางเอกก็มาพร่ำเพ้อกับลูกของนางเอกซึ่งหลับไปแล้วว่า วันนี้แม่ได้ไปพบพ่อของลูกมา เป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี แต่ความรู้สึกมันทำไมช่างเจ็บปวดอย่างนี้ ทางด้านพระเอกก็คิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิตาลี และเหตุการณ์ที่พบนางเอกในวันนี้ และก็เหมอลอยคิดถึงนางเอก มาตอนเช้า พ่อนางเอกกำลังแอบคุยโทรศัพท์กับพวกนายทุนอะไรสักอย่าง แล้วแม่นางเอกก็ออกมาจากห้องนอน เรียกหาถุงเท้า พ่อพระเอกก็ส่งให้ และพูดเอาใจแม่นางเอก แล้วแม่นางเอกก็บอกว่า ทีตอนทำผิดแล้ว ไม่เห็นรู้จักคิดได้อย่างนี้เลย แล้วนางเอกก็เรียกให้แม่นางเอกทานข้าวที่ทำไว้เสร็จแล้ว แต่แม่นางเอกไม่กินเพราะยังโกรธนางเอกอยู่ แล้วก็เดินออกไปจากห้อง พ่อนางเอกก็ออกไปส่ง พอดีลูกนางเอกตื่นขึ้นมา นางเอกจะจับขัดตัว ลูกนางเอกไม่ยอมจึงวิ่งหนี ไปเกาะพระรอง ระหว่างนั้นมีโทรศัพท์เข้ามา พ่อนางเอกจึงวิ่งไปแย่งรับ แต่สุดท้ายก็เป็นโทรศัพท์ของนางเอก เรื่องนัดให้ไปสัมภาษณ์เพื่อเข้าทำงานที่ร้านพระเอก ที่นัดหมายระหว่างนางเอกกับผู้จัดการร้านคือ บริษัทของพ่อพระเอก วันนั้นนางเอกก็แต่งตัวอย่างดีเลย ใส่กระโปรงและร้องเท้าส้นสูง ซึ่งปกติแล้วนางเอกไม่เคยใส่ชุดแบบนี้ พอมาพบผู้จัดการร้าน นางเอกก็ถามว่า ใครเป็นคนแนะนำนางเอก ผู้จัดการจึงบอกว่า พระเอกเป็นคนแนะนำ และผู้จัดการก็ถามถึงประวัติการทำงานของนางเอก ซึ่งก็แทบจะไม่มี แต่นางเอกของเราบอกว่า สู้งานหนักได้ทุกประเภท พอเสร็จสิ้นการสัมภาษณ์เสร็จ นางเอกก็มาที่ลิฟท์ ระหว่างนั้นพระเอกก็เดินคล้องแขนมากับพี่สาวพระเอกเพื่อมาส่งพี่สาวที่ลิฟท์เช่นกัน นางเอกเห็นความสนิทสนมระหว่างพระเอกกับพี่สาวก็เข้าใจผิด คิดว่าพระเอกเป็นจิกโกโร่ (ผู้ชายที่เกาะผู้หญิงกิน) ประกอบกับวันนั้นที่ผับ ก็ได้ยินว่า พระเอกมีผู้หญิงอุปถัมภ์ และตอนนั้นพี่สาวพระเอกก็ยื่นกุญแจรถให้กับพระเอกอีก นางเอกก็เข้าใจผิดพระเอกกันไปใหญ่ ระหว่างนั้นพระเอกก็เหลือบมาเห็นนางเอกพอด เห็นสายตาที่นางเอกมองก็งงๆ ก่อนที่นางเอกจะเข้าไปในลิฟท์ นางเอกก็มองพระเอกด้วยสายตาดูแคลน พระเอกก็มองนางเอกด้วยสายตาว่า นางเอกมองตัวเองทำไม ระหว่างที่อยู่ในลิฟท์ นางเอกก็มองพี่สาวพระเอก เปรียบเทียบกับตัวเองแล้ว นางเอกดูด้อยกว่ามาก ระหว่างนั้น นางเอกก็พยายามนึกว่า เคยเห็นพี่สาวพระเอกที่ไหนมาก่อน หลังจากที่ได้สัมภาษณ์นางเอกแล้ว ผู้จัดการร้านก็มาหาพระเอก พระเอกก็อ่านใบสมัครนางเอก ก็รู้ว่านางเอกเรียนการทำอาหารไม่จบ ผู้จัดการถามพระเอกว่า จะจ้างนางเอกจริงหรือ เพราะว่าในสถานการณ์ร้านตอนนี้มันเสี่ยงมาก แต่พระเอกบอกว่า จะจ้างนางเอก แต่คงต้องปรับกลยุทธ์นิดหน่อย ทางด้านนางเอก ระหว่างทางที่กลับบ้าน รองเท้านางเอกก็ทำพิษ ด้วยความที่นางเอกไม่ค่อยได้ใส่ส้นสูง ระหว่างนั้น นางเอกหันไปเห็นคู่รักเขาป้อนไอสครีมกัน ก็นึกถึงพระรอง ว่าพระรองชอบกิน จะโทรไปหาพระรองแต่สายไม่ว่าง จึงมาหาพระรองที่ร้าน เห็นพระรองกำลังโทรศัพท์ แล้วเผอิญนางเอกได้ยินพระรองพูดถึงเรื่องเงินกู้ จึงเข้าไปถามพระรองว่า กู้เงินซื้อบ้านหลังนั้นหรือ เป็นเงินเท่าไหร่ พระรองก็บอกว่าไม่มากไปหรอก แต่นางเอกก็ต่อว่าพระรองว่า ครอบครับนางเอกเป็นความรับผิดชอบของพระรองหรือ ทำไมถึงทำแบบนี้ พระรองก็บอกว่า ก็เพราะผมชอบคุณไง ไม่ต้องมาพูดเรื่องนี้กันอีก แล้วนางเอกก็โกรธจึงเดินหนีไป นางเอกของเราก็เดินคอตกกลับบ้าน ตอนอยู่หน้าบ้านก็เห็นพ่อกำลังจะหนีจากบ้าน เพื่อหลบเจ้าหนี้เงินกู้ จะวิ่งตามแต่ก็หกล้มเสียก่อน พ่อนางเอกจึงหันกลับมาพยุงนางเอก แล้วนางเอกกับพ่อก็เข้าไปคุยกันในบ้าน ระหว่างที่ใส่ยาให้นั้น นางเอกก็กล่อมให้พ่อเลิกคิดที่จะหนีครอบครัวไป แต่พ่อนางเอกก็บอกว่า จำนวนเงินที่กู้มานั้น เป็นจำนวนมากอยู่ และพ่อนางเอกก็บอกว่า จะไปปรึกษาพระรอง นางเอกก็ตะโกนห้ามใหญ่เลย ระหว่างนั้น ก็มีโทรศัพท์เข้ามา พ่อนางเอกกลัวจะเป็นพวกเจ้าหนี้ จึงให้นางเอกรับแทน ปรากฏว่าเป็นผู้จัดการร้านโทรมาบอกว่าจะรับนางเอกเข้าทำงานแล้ว ด้านพระเอก หลังจากทำงานก็ตรงกลับมาบ้าน พบพ่อและพี่สาวนั่งดื่มน้ำชากันอยู่ ก็กล่าวทักทายตามมารยาท และพ่อพระเอกก็เอ่ยถามพระเอกว่า เตรียมการไปถึงไหนแล้ว ทุกคนกำลังจับตาดูความล้มเหลวของพระเอก แล้วพระเอกก็ย้อนกลับไปว่า รวมทั้งพ่อด้วยหรือเปล่า อีกไม่นานหรอก พ่อก็จะไม่ได้เห็นหน้าผมแล้ว และพระเอกก็เดินจากไป พ่อพระเอกก็ได้แต่สบถออกมา วันรุ่งขึ้น ผู้จัดการร้านก็พานางเอกเข้ามาแนะนำกับเจ้าของร้าน คือ พระเอกนั่นเอง ตอนแรกนางเอกยังไม่ได้เห็นหน้า ก็จะกล่าวสวัสดีและแนะนำตัว แต่พอเห็นหน้าแล้ว นางเอกก็ตะลึง พอรู้สึกตัวได้ นางเอกก็ถามพระเอกว่าพระเอกมาทำอะไรที่นี่ พระเอกก็ทำหน้าเหลอหรา แล้วนางเอกก็เข้าใจผิดคิดว่า ที่พระเอกได้เป็นเจ้าของร้านตั้งแต่อายุยังน้อยเพราะว่ามีนารีอุปถัมภ์เปิดร้านให้ แล้วพระเอกก็เชิญนางเอกนั่ง แต่นางเอกบอกว่าจะไม่ทำงานกับพระเอก แล้วพระเอกก็เล่าประวัติที่นางเอกเรียนไม่จบ และยังทำงานไม่เป็นหลักแหล่งอีก แล้วพระเอกก็ยื่นข้อเสนอว่า พระเอกต้องการให้นางเอกมาทำอาหารให้ แล้วนางเอกจะได้งานนี้เป็นการตอบแทน หรือนางเอกลำบากใจเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้นที่อิตาลี จึงไม่ยอมทำงานให้ นางเอกก็โกรธมาจึงตกปากรับคำไป แต่พระเอกก็บอกเงื่อนไขว่า นางเอกต้องผ่านการเทรนงาน 2 สัปดาห์ และผ่านการประเมินก่อน ถึงจะได้เป็นลูกจ้างของที่นี่ แล้วพระเอกก็ยังดูถูกนางเอกว่า รู้ไหม resume ของคุณแย่มากเลย แล้วพระเอกกับนาเอกก็ไปที่แห่งหนึ่ง โดยที่นางเอกไม่รู้ว่าเป็นร้านที่พระรองกับนางรองทำงานอยู่ ที่ร้านของนางรอง นางรองก็อธิบายให้พระรองฟังว่าจะต้องทำอะไรบ้างสำหรับการเทรนเชฟที่พระเอกจะพามา แล้วนางรองก็ถามว่ามีอะไรกับพระเอกหรือ พระรองก็ปฏิเสธไป บอกว่าเป็นแค่การเข้าใจผิด แล้วพระรองและนางรองก็มารอพบพระเอกที่หน้าร้าน พอพระเอกขับรถเข้ามาที่ลานจอดรถภายในร้านของนางรอง นางเอกก็รู้ว่า เป็นร้านเดียวกับที่พระรองทำงานอยู่ พระเอกซึ่งเดินนำหน้ามาก่อน ก็เข้ามาทักทายนางรอง แล้วเหลือบไปเห็นพระรองก็ตกตะลึง พระรองก็โค้งให้พระเอก แล้วนางรองก็ทักทายนางเอกที่เดินตามมาทีหลัง นางเอกก็มองหน้าพระรองแบบแหยๆ เมื่อทั้งพระเอก พระรอง และนางเอกมาเผชิญหน้ากัน อะไรจะเกิดขึ้น (จบตอนที่ 3)
ข้อมูลจากเวป ข้างโพดจ้า
Create Date : 13 พฤศจิกายน 2549 | | |
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2549 15:17:31 น. |
Counter : 341 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
Only you ตอนที่ 2
ตอนที่ 2 แล้วค่ะ ตอนนี้ เจ๊ ชอบเพราะวิว ของเวนิช สวยมากๆเลย นางเอกก็ตลกดีค่ะ ชอบๆๆๆ แล้ววันจันทร์จะมาเขียนใหม่นะค่ะ ตอนที่2 พระเอกกับนางเอกก็ถูกตำรวจคุมตัวมาที่สถานีตำรวจ พระเอกก็พยายามอธิบายว่า พระเอกกับนางไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับพวกนั้น เขาเพียงอาศัยรถมาเท่านั้น ไม่รู้ว่า คนขับรถลักลอบขนวัตถุโบราณ ตำรวจก็ไม่ยอมเชื่อ ส่วนพระรองกับนางรองก็ไปรออยู่หน้าร้านคนเกาหลีคนนั้นเป็นวัน ยังไม่รู้ว่าที่อยู่ใหม่ของแม่พระเอกอยู่ไหน พระรองถามถึงข้อเท้านางรอง นางรองก็บอกว่าไม่เป็นไร ทางด้านนางเอกก็พยายามคุยกับคุณตำรวจ พระเอกก็ทำหน้าแบบไม่เชื่อฝีมือนางเอกเลย นางเอกก็โกหกตำรวจว่า ตัวเองกับพระเอกเป็นคู่แต่งงานกัน จะต้องไปงานให้ทัน จึงได้รับการปล่อยตัว พระเอกก็ถามนางเอกหลังจากได้รับการปล่อยตัวไปแล้วว่า ไปพูดอย่างไรกับตำรวจ ตำรวจจึงพูดเหมือนกับว่า พระเอกกับนางเอกเป็นสามีภรรยากัน นางเอกก็สารภาพไปว่า ไปบอกเขาว่า เป็นเหมือนโรมิโอกับจูเลียตไง พระเอกก็โกรธที่นางเอกไปโกหกอย่างนั้น แต่นางเอกก็บอกว่า ก็จะได้พบกับแม่พระเอกเร็วๆ ไง ถึงเวลาที่จูเลียตจะต้องไปแล้ว พระเอกก็ได้แต่อมยิ้ม พระรองก็ได้ไปหาน้ำแข็งมาประคบข้อเท้า นางรองก็มองพระรองอย่างซาบซึ้งบุญคุณ ระหว่างนั้น เจ้าของร้านคนนั้นก็ได้ปรากฏตัวขึ้น พระรองและนางรองจึงถามถึงที่อยู่ของแม่พระเอก แล้วจึงเดินทางไปหาแม่พระเอก โดยที่พระรองเป็นคนขับรถ โดยระหว่างทาง ก็คุยกันเรื่องนางรอง กับเรื่องที่ทำไมพระรองถึงมาเรียนทำอาหาร และในที่สุด พระเอกกับนางเอกก็มาถึงบ้านแม่พระเอกจนได้ แต่พอไปถึง ก็พบว่า แม่พระเอกกำลังจะแต่งงานใหม่ พระเอกกำลังจะเดินหนีไป แต่นางเอกมาฉุดพระเอกไว้ แม่พระเอกก็ถามว่าจะรีบไปไหน มีธุระกับแม่พระเอกไม่ใช่หรือ นางเอกก็บอกว่า จะมาให้แม่พระเอกสอนทำพาสต้า แต่แม่พระเอกบอกว่า ควรจะหาวิธีการทำด้วยตนเอง และตอนนี้แม่พระเอกยุ่งเรื่องการแต่งงานด้วย แต่สุดท้ายแม่พระเอกก็ให้พระเอกกับนางเอกค้างที่นี่ และทำพาสต้าให้กิน แล้วก็จากไป นางเอกก็ได้แต่ขอโทษพระเอก พระเอกเสียใจมากที่แม่พระเอกจำพระเอกไมได้ จึงเดินออกไปข้างนอก ไปนั่งคิดอะไรอยู่คนเดียว แม่พระเอกก็เดินเข้ามา ถามพระเอกว่าเป็นอะไร อาหารไม่อร่อยหรือ และกำลังจะพูดอะไรต่อ แฟนใหม่ของแม่พระเอกก็มา แล้วแม่พระเอกก็ตามชายคนนั้นไป ทุกอย่างก็อยู่ในสายตาของพระรองและนางรอง นางรองรู้สึกสงสารพระเอกมาก ส่วนพระรองก็ขอตัวไปพบกับนางเอก นางเอกพอพบกับพระรองแล้ว นางเอกก็ตกใจ ลากพระรองไปแอบคุยกัน และไล่พระรองให้กลับไปก่อน เพราะว่านางเอกยังไม่ได้เรียนวิธีทำพาสต้าจากแม่พระเอกเลย และนางเอกก็ออกมา พบว่าพระเอกหายไปแล้ว จึงโทษว่าไม่น่าพาพระเอกมาเจอเรื่องแบบนี้เลย และคิดว่าแม่พระเอกจำลูกตัวเองไม่ได้อย่างไรกัน แล้วแม่นางเอกก็เดินมาข้างหลัง แล้วก็สอนวิธีทำพาสต้าพริกไทย สูตรแม่พระเอก ให้นางเอกไปปรับใช้เอง นางเอกก็ถามว่า ทำไมถึงสอนเธอ แม่พระเอกบอกว่า ให้นางเอกไปปรุงให้พระเอกทาน หลังจากนั้น นางเอกก็เคาะประตู้ห้องพระเอก เพื่อขอคุยกับพระเอก บอกให้พระเอกอวยพรกับแม่พระเอก พระเอกก็บอกว่า ไม่ใช่ธุระอะไรของนางเอก จะนอนแล้ว นางเอกจึงจะเดินออกไป ก่อนออกไป พระเอกก็บอกชื่อตัวเองให้กับนางเอก นางเอกก็บอกชื่อตัวเองให้กับพระเอก แล้วนางเอกก็ปิดไฟแล้วเดินออกไป คืนนั้น นางเอกก็ไปฝึกหัดทำพาสต้าให้รสชาติเหมือนกับแม่พระเอก พอถึงวันงานแต่งงาน ก็มีคนมาร่วมยินดีมากมาย พระเอกกับนางเอกก็ได้แต่ยืนหลบมุมหลังต้นไม้ พระเอกยืนน้ำตาคลอด้วยความเสียใจที่แม่พระเอกจำตัวเองไม่ได้ แล้วพระเอกก็เดินหนีไป นางเอกก็วิ่งตาม ระหว่างนั้น พี่สาวพระเอกกับนางรองก็ได้มาถึงที่งาน เห็นแม่พระเอกอยู่ในพิธีแต่งงาน พี่สาวนางเอกก็ตะลึงไปชั่วขณะ นางเอกวิ่งตามพระเอกไปจนทัน พระเอกก็บอกขอบคุณแล้วจึงเดินจากไป แต่นางเอกก็ยังตามมาอีก พระเอกจึงให้เงินนางเอกไป นางเอกก็ยังมาตื้ออีก แล้วพระเอกก็ระบายความรู้สึกเสียใจออกมาที่แม่จำพระเอกไม่ได้ และพระเอกยังโง่ที่จะตามหาแม่อีก แล้วจะเดินหนีไป นางเอกจึงแกล้งทำว่าปวดท้อง เพื่อที่จะให้พระเอกอยู่กับนางเอกสักพัก เพื่อที่นางเอกจะได้ทำพาสต้ารสของแม่พระเอกให้พระเอกได้ทาน ทางด้านพระรองมาหานางเอกที่ห้องก็พบว่านางเอกยังไม่กลับมา พระเอกก็มายืนรอนางเอกที่หน้าห้องน้ำสาธารณะ แล้วก็แซวนางเอกว่าปวดท้องเพราะท้องเสีย แล้วพระเอกกับนางเอกเที่ยวเมืองนี้ด้วยกัน และคุยกันอย่างถูกคอ นางเอกก็ถามโน้นถามนี่พระเอกอยู่ตลอด จนค่ำแล้ว พระเอกกับนางเอกก็มาทำอาหารด้วยกันที่ห้องนางเอก โดยมีนางเอกเป็นคนทำ และพระเอกเป็นลูกมือ โดยมื้อนั้น นางเอกทำพาสต้า บรรยากาศใต้แสงเทียน มีไวน์แดง โอ้ย โรแมนติก พอพระเอกได้ชิมแล้ว บอกว่า รสชาติเหมือนที่แม่ทำเลย นางเอกบอกว่า ถ้ารสชาติอาหารที่ทำไม่เปลี่ยน หัวใจของคนปรุงก็ย่อมไม่เปลี่ยนไปด้วย รสชาติอาหารและจิตใจคนปรุงย่อมไม่เปลี่ยนไปง่ายๆหรอก แล้วพระเอกก็น้ำตาไหล นางเอกก็สงสารพระเอกก็น้ำตาไหลด้วย นางเอกก็บอกกับพระเอกว่า เห็นไหม สุดท้ายคุณก็ได้ทานพาสต้าฝีมือแม่ของคุณ ฉะนั้นคุณอย่ารู้สึกแย่เลย คุณอาจจะไม่ได้ทานอีกเลยก็ได้ อย่างนั้นลองชิมหน่อยเถอะ แล้วพระเอกก็จูบนางเอก ค่ำคืนอันแสนหวานของคนสองคนก็เริ่มขึ้น ส่วนพระรองที่ไม่รู้อะไร กำลังเดินมาหานางเอกที่ห้องเพราะว่าวันนี้เป็นวันเกิดของนางเอก เห็นไฟห้องปิดลงจึงคิดว่าจะมาหาวันพรุ่งนี้ พอตื่นเช้ามา พระเอกกับนางเอกก็นอนอยู่บนเตียง พระเอกตื่นมาก็ยิ้ม แล้วพระเอกก็มาลูบแก้มนางเอก มองที่นางเอกด้วยความรัก นางเอกอายจึงแกล้งทำเป็นหลับ แล้วพระเอกก็ลุกออกไปเข้าห้องน้ำ นางเอกก็อายพระเอก จึงเดินหนีออกมาข้างนอก ระหว่างนั้น พระรองซึ่งเดินมาหานางเอกแต่เช้า เอาซุปสาหร่ายที่เมื่อวานยังไม่ได้ให้ เอามาให้นางเอก เห็นประตูห้องนางเอกเปิดอยู่จึงเข้าไป เห็นพระเอกออกมาแบบถอดเสื้อ ก็โกรธพระเอกมาก จึงเข้าโรมรันพันตูชกต่อยกัน พระเอกก็ถามว่าพระรองเป็นใคร พระรองก็ถามว่าพระเอกเป็นใคร พระรองก็บอกว่า เขาเป็นแฟนนางเอก พระเอกก็อึ้งไป ส่วนนางเอกก็เดินออกมาข้างนอก ก็ได้แต่สับสนว่า เรื่องเมื่อคืนเกิดขึ้นได้อย่างไร รักพระเอกหรือไง ถ้าเกิดว่าชอบเขาข้างเดียวล่ะ คิดไปสารพัด แล้วนางเอกก็เดินกลับมา สวนกับพระเอกที่กำลังจะจากไป โดยไม่กล่าวลาสักคำ นางเอกก็ไปฉุดแขนพระเอกไว้ พระเอกก็พูดแค่ว่า ขอบคุณสำหรับทุกสิ่ง แล้วนางเอกก็ปล่อยมือจากแขนพระเอก พระเอกก็เดินจากไป นางเอกก็ได้แต่น้ำตาคลอ คิดว่าพระเอกคงไม่ได้รัก และคิดจริงจังกับเธอแน่ โดยมีสายตาของพระรองมองคนทั้งสองอยู่อีกมุมหนึ่ง พอออกมาจากที่พักนางเอกแล้ว พระเอกก็ได้รับโทรศัพท์ พระเอกจึงเดินทางมาพบพี่สาวพระเอก แล้วพี่สาวพระเอกก็อธิบายว่าทำไมจึงไม่อยากให้พระเอกพบกับแม่ พระเอกก็บอกว่าจะไม่พบกับแม่อีก แล้วจากไป เหตุการณ์ก็ย้อนกลับไปที่งานแต่งงานของแม่พระเอก พี่สาวพระเอกได้คุยกับแม่ แม่พระเอกบอกว่าจำพระเอกกับพี่สาวพระเอกได้ แต่แกล้งทำเป็นจำพระเอกไม่ได้ เพราะคนอย่างเธอที่ทิ้งลูก ไม่มีสิทธิ์ที่จะกล่าวทักทายกับลูกตัวเอง และขอบคุณพี่สาวพระเอกที่ดูแลพระเอกมาเป็นอย่างดี พี่สาวนางเอกก็เดินจากไป
พอพระเอกกลับไปที่เกาหลี ไปพบพ่อพระเอก พ่อพระเอกก็ตบหน้าพระเอก แล้วสั่งให้พระเอกย้ายกลับมาเกาหลี และดรอปที่เรียนเอาไว้ กลับมาเกณฑ์ทหาร สามเดือนผ่านไป ด้านพระเอกก็ฝึกทหารอย่างหนัก ด้านนางเอกก็ตั้งใจเรียนทำอาหาร โดยที่พระรองก็ปฏิบัติกับนางเอกเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในชั่วโมงทำอาหาร นางเอกเกิดรู้สึกคลื่นไส้อาเจียน จึงวิ่งออกมานอกห้อง แล้วพระรองก็ตามมาแอบมอง นางเอกจึงสังหรณ์ใจว่าตัเองต้องท้องแน่นอนเลย จึงตัดสินใจกลับเกาหลี 6 ปีผ่านไป นางเอกของเราต้องทำงานหนักมาก ทั้งรับจ้างปอกมันฝรั่งในร้านอาหาร ส่งอาหาร ทำงานมากจนเป็นลมไปเลย ส่วนพระเอกของเรา หลังจากสำเร็จการศึกษาแล้ว พระเอกก็กลับมาทำงานที่บริษัทพ่อพระเอก โดยที่ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกยังไม่ดีเหมือนเดิม วันนี้พระเอกก็ได้มาพบพ่อและพี่สาวที่บริษัท พ่อพระเอกก็มอบหมายให้พระเอกของเราดูแลร้านแฟรนไชน์ที่ชื่อว่า อิตาเลียน ครับ ซึ่งร้านนี้ใกล้จะต้องปิดตัวลง พ่อพระเอกจึงมอบหมายให้พระเอกเข้ามาดูแลร้านนี้ ไม่ให้มันปิดกิจการ พ่อพระเอกก็ต้องการพิสูจน์ความสามารถของพระเอกด้วย โดยพ่อพระเอกให้เวลาเพียงแค่ 6 เดือน หากผลประกอบการไม่ดีขึ้นจนต้องปิดตัวลง พ่อพระเอกจะตัดสัมพันธ์กับพระเอก โดยที่พระเอกสามารถจ้างคนเพิ่มได้ แต่ต้องคงคนที่อยู่เดิมไว้ ซึ่งเป็นงานที่ยากมาก พระเอกก็ตกลง ส่วนนางเอกหลังจากออกมาจากร้านขายยาแล้ว นางเอกก็กลับมาบ้าน ที่บ้านนางเอก พวกทวงหนี้จะมายึดบ้าน ก็เกิดการยื้อยุดฉุดกระชากกัน ลูกนางเอกก็เอาปืนฉีดน้ำผสมสีมายิงใส่พวกนั้น พวกทวงหนี้โมโหมาก จะเข้ามาทำร้าย แต่พอดีที่พระรองมาเห็นก่อนจึงเข้ามาขวาง ทางด้านพระเอกก็มาดูร้าน เห็นเชฟกับผู้จัดการซึ่งเป็นสามีภรรยาที่หย่ากันแล้วทะเลาะกันอยู่ ก็ไม่สนใจ เดินเข้าไปในร้าน เห็นพนักงานเสิร์ฟกับผู้ช่วยเชฟนั่งนินทากัน พอเห็นพระเอก พนักงานเสิร์ฟก็แย่งกันมาต้อนรับ พระเอกก็ถามถึงเมนูพิเศษของวันนี้ พนักงานเสิร์ฟก็บอกว่าไม่มี พระเอกก็สั่งสปาเกตตี้มา พอเห็นหน้าตา แล้วพระเอกก็ทานไม่ลง เดินออกจากร้านไป ด้านนางเอกก็มาทำงานพิเศษ มาเสิร์ฟอาหารตอนกลางคืน ทำงานทั้งคืน พอรุ่งเช้ากลับมาบ้านก็ตกใจว่า ข้าวของหายไปหมด โดยครอบครัวนางเอกย้ายเข้ามาอยู่กับพระรอง นางเอกก็บอกว่าให้ขนของกลับ แต่พ่อแม่นางเอกไม่ยอมกลับ โดยอ้างว่า อย่างไรพระรองก็ต้องมาเป็นลูกเขยอยู่แล้ว แต่นางเอกไม่สนใจ จะขนของกลับ พระรองกลับมาพอดี ก็ลากนางเอกออกไปข้างนอก บอกว่าเขาไม่ยอมให้นางเอกและครอบครัวต้องไปนอนข้างถนน หรือไม่อย่างนั้นนางเอกก็จ่ายค่าเช่ามาก็ได้ ในที่สุดนางเอกก็ยอมจะอยู่บ้านพระรองต่อไป ตอนกลางคืน นางเอกก็กล่อมลูกให้นอน โดยให้ลูกขี่หลัง แล้วนางเอกก็มองดูพระจันทร์แล้วคิดถึงใครคนหนึ่ง อีกด้านหนึ่งพระเอกก็มองพระจันทร์เหมือนกัน แล้วพี่สาวพระเอกก็เข้ามาแซวพระเอก และบอกกับพระเอกว่า พ่อพระเอกต้องการจะทดสอบพระเอก จึงให้ไปทำงานที่ร้านแฟรนไชน์นั่น พระเอกต้องการรายชื่อร้านอาหารที่มีชื่อเสียง อยากให้พี่สาวหาให้ พี่สาวก็เลยบอกว่าให้ไปถามนางรอง เช้าวันรุ่งขึ้น พระเอกก็เข้ามาหานางรองที่ร้าน นางรองกำลังสอนงานเด็กเสิร์ฟอยู่ หลังจากนั้น นางรองก็เอาอาหารต่างๆ ที่เป็นเมนูเด็ดภายในร้านมาให้พระเอกลองชิม ด้านนางเอกก็ยังทำงานเสิร์ฟอาหารนอกสถานที่ หลังจากกลับมาที่ร้าน เจ้าของร้านก็บอกกับนางเอกว่าจะขายร้าน นางเอกก็ทำอะไรไม่ถูก พระรองซึ่งตามนางเอกมา ก็เห็นว่านางเอกกำลังจะตกงานก็มาชวนนางเอกไปกินอะไรข้างนอก แล้วแนะนำให้นางเอกไปทำงานเป็นผู้ช่วยคนครัว ที่ภัตตาคารแห่งหนึ่ง นางเอกดีใจมาก โดยหน้าที่นางเอกคือถูพื้น ระหว่างนั้น นางเอกก็สนใจการทำงานของพวกเชฟไปด้วย วันนั้น พระเอกของเราก็เข้ามาทานอาหารที่ร้านนี้พอดี หลังร้านก็เกิดอุบัติเหตุกับหัวหน้าเชฟ เนื่องจากลื่นล้ม เพราะน้ำมันพืชหกที่พื้น จนต้องแบกออกจากห้องครัวไปส่งโรงพยาบาล ไม่มีใครอยู่ทำอาหาร บริกรเข้ามา ไม่รู้จะทำอย่างไรดี นางเอกจึงอาสาจะทำอาหารเอง ด้านพระเอกกำลังจะเดินออกจากร้านแล้ว เพราะมีโทรศัพท์มา พระเอกก็กลับมาทาน นางเอกก็คอยลุ้นอยู่หลังร้าน พอชิมแล้ว เกิดอะไรขึ้นต้องติดตามครับ (จบตอนที่ 2)
Create Date : 10 พฤศจิกายน 2549 | | |
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2549 15:21:52 น. |
Counter : 372 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
 |
 |
 |
 |
|
|