นครปฐม พระราชวังสนามจันทร์
One day trip คราวนี้ขอนำเสนอจังหวัดที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนัก ตั้งอยู่ทางใต้ของกรุงเทพฯ นครปฐมนั่นเอง วันนี้เรามีโปรแกรมหลักๆ เลย คือ พระราชวังสนามจันทร์ ที่ตั้งใจไว้ว่าจะไปนานแล้ว แต่เจออาการโรคเลื่อน เลื่อนแล้วเลื่อนอีก เนื่องจากหาคนไปด้วยไม่ได้ สมาชิกไม่พร้อม แต่เอาหล่ะ ยังไงวันนี้ต้องไปให้ได้ แล้วค่อยหาโปรแกรมอื่นเสริมต่อ Hilight วันนี้แน่นอนพระราชวังสนามจันทร์ นัดแนะกันแต่เช้า เริ่มจากไปรับสมาชิก กันตั้งแต่ 7.30 น. และคนสุดท้าย 8.00 น. ออกเดินทางชิวๆ เรื่อยๆ โดยขึ้นทางด่วนมาลงพระราม2 แล้วตัดเข้ากาญนาภิเษก ไปเลี้ยวขวาที่เส้น ปิ่นเกล้า-นครชัยศรี เชื่อมต่อเพชรเกษม ไปจนถึงนครปฐม แล้วแยกเข้าเส้นในที่ไปมหาวิทยาลัยศิลปกรทับแก้ว พระราชวังจะอยู่ติดกับมหาวิทยาลัยเลยครับ ระหว่างทางแวะหาของกิน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ว่าจะกินขนมจีนเทวดา ร้านก็ปิด ไปแวะปั้มร้านข้าวข้างนอกปั้มก็ปิด เข้าไปเชสเตอร์ ก็ไฟดับสั่งได้แต่ข้าวไก่อบและข้าวไก่เผ็ด ก็เอาหิวแล้วนี่ สั่งไปคนขายเก็บเงินเรียบร้อย เราก็ไปนั่งรอเค้าไปส่งให้ รอๆไปเอ๊ะ นานผิดปกติ ที่ไหนได้คนขายลืม เอ้าไม่เป็นไรได้กินก็ดีแล้ว ก่อนออกไปแวะร้านอเมซอนเอาขนมไข่ไปเป็นเสบียงระหว่างทาง ถึงพระราชวังประมาณ 10.30 น.เสียค่าเข้าชมคนละ 30 บาทเอ๊ะ หรือไม่เสียก็ได้มั้ง ถ้าจะไม่เข้าไปดูภายในพระราชวัง ภายในสงบ สวยงามมากครับ ประกอบด้วยตำหนักหลักๆ 5 ตำหนัก คือ พระที่นั่งพิมานปฐม พระที่นั่งสามัคคีมุขมาตย์ พระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ พระตำหนักมารีราชรัตบัลลังก์ พระตำหนักทับขวัญ แต่ที่แรกที่เข้าไปเยี่ยมคือ พระตำหนักทับแก้วที่เป็นพิพิธภัณฑ์คณะฟุตบอลแห่งสยามที่แห่งนี้เองที่ทำให้รู้สึกทั้งภูมิใจ และเศร้าใจไปพร้อมๆกัน ที่ว่าภูมิใจคือ เราเพิ่งรู้ว่าทีมฟุตบอลไทยเคยชนะทีมฟุตบอลฝรั่งเศส และอังกฤษมาแล้วด้วย(ไม่น่าเชื่อใช่ไหม) แต่ที่น่าเศร้าใจคือ ทีมฟุตบอลไทยที่ขึ้นทะเบียนกับฟีฟาเป็นทีมแรกๆของโลก และจะมีอายุครบร้อยปีอีกไม่นาน ยังไม่เคยเข้าถึงรอบสุดท้ายฟุตบอลโลกกับเขาเลย(อันนี้เห็นๆกันอยู่) ออกจากตำหนักทับแก้วมาที่พระที่นั่งพิมานปฐม ภายในโอ่อ่าสวยงามมาก สมกับที่เป็นพระที่นั่งหลักโดดเด่น ทั้งการตกแต่งภายในและเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ตกแต่ง แต่ทำไมเจ้าหน้าที่ไม่พาเราเดินชมนะ ปล่อยให้พวกเราเดินกันเอง เดากันเองว่าห้องนี้คือห้องอะไร พอเราเดินวนจนกลับมาถึงทางเข้า อ้าวอีกคณะหนึ่งทำไมเจ้าหน้าที่พาชมหว่า หรือเห็นว่าเรามากันเพียง 3 คน เลยปล่อยให้เดินเอง งง พระที่นั่งพิมานปฐมมีทางเดินเชื่อมต่อไปถึงพระที่นั่งสามัคคีมุขมาตย์ที่ป็นที่ออกงานสโมสรสันนิบาต และโรงแสดงโขนด้วย หลังจากเดินชมกันมาประมาณครึ่งหนึ่งของบริเวณพระราชวังแล้ว รู้สึกเหนื่อยและร้อนมาก เป็นเพราะอากาศที่ร้อนและแดดที่แรงมากมาย ทำให้ต้องหาที่นั่งพักเย็นๆ ซะแล้ว เหลือบไปเห็นศาลาริมน้ำ เลยแวะนั่งพักซักหน่อย ที่นี่มีเครื่องขายอาหารปลาอัตโนมัติซะด้วย แต่พวกเราซื้ออาหารปลาตั้งแต่ทางเข้าตอนซื้อบัตรแล้ว เลยแวะมาให้อาหารซะที่นี่เลย เอากินซะให้อิ่ม 555 ปลาตัวโตมากแย่งกันกินใหญ่เลย ได้พักซักหน่อยถึงเวลาต้องมาสู่ไฮไลท์ของพระราชวังสนามจันทร์แล้ว นั่นคือพระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ที่พวกเราตั่งชื่อกันให้เองว่า แดนเนรมิต 555 เพราะด้วยตัวตำหนักออกแบบสไตร์เรอเนซองส์แบบฝรั่งเศส และสีที่ออกโทนเหลืองไข่ไก่ ทำให้ดูโดนเด่นที่สุดในบรรดาพระตำหนักทั้งหมดของบริเวณพระราชวังเลย รวมทั้งเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ย่าเหลอีกด้วย ที่นี่ได้แต่ถ่ายรูปกันอยู่ด้านนอกไม่ได้เข้าไปเยี่ยมเยียนชมภายใน เพราะเวลาใกล้เที่ยงเข้ามาทุกที ตามกำหนดการณ์ต้องเคลื่อนย้ายออกไปเพื่อหาข้าวเที่ยงกันกันแล้ว แต่ยังเพราะเมื่อเดินไปทางด้านหลังทางเชื่อมกับพระตำหนักมารีราชรัตบัลลังก์ เป็นพระตำหนักที่ดูแล้วงดงามไม่แพ้กัน แต่ออกแนวคันทรีหน่อยๆ เพราะเป็นสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิก ของประเทศตะวันตก อันนี้ก็สวยงามไม่แพ้กันเลยทีเดียว ก่อนออกจากพระราชวังสนามจันทร์ ผ่านพระตำหนักทับขวัญ เป็นพระตำหนักที่ดูเป็นไทยที่สุดสวยงาม และเรียบง่าย แต่ก็ดูหรูหราไม่แพ้พระตำหนักใดๆที่ผ่านมา เสียดายวันที่ไปบริเวณนี้กำลังปรับปรุงซ่อมแซมอยู่ จึงไม่ค่อยได้เก็บรูปไว้มากนัก และเข้าไปด้านในไม่ได้ เสร็จแล้วพวกเราจะเคลื่อนขบวนไปหาข้าวกินกันที่ตลาดน้ำลำพญา แล้วจะเดินทางไปที่ Rose Garden ต่อไปสนใจดูรูปเพิ่มเติม แวะไปชมได้ที่ //wdin.multiply.com/ นะครับ
สวัสดีวันสีส้มจ่ะ ตาตุ้มไม่ได้มาทักซะนานเลย สบายดีนะคะ ป้าหู้คิดถึงนะคะ
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
