กางแผนที่ แบกเป้พาลูกเที่ยว บันทึกการเดินทางเที่ยวเอง แบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบประหยัดและมีความสุข หลงบ้างมั่วบ้างแต่ก็สนุกดังคำกล่าวในหนังสือ Lonely Planet เคยบอกไว้ว่า " หากไม่มีปาฏิหาริย์บังเกิด ก็จงเป็นปาฏิหาริย์นั้นเสียเอง "
|
|||
Review Swiss pass 2016 / วันแรกในสวิส Zurich Switzerland :: ทริปเที่ยวเอง14d in Switzerland 2016 เที่ยวเองสวิตเซอร์แลนด์ 14days in Switzerland 2016 ::: ลุย6ประเทศ 4ภูเขาหิมะ ::: -------------------------------------------------------- Day1 :: 7April 2016 Willkommen to Switzerland แนะนำswiss pass / วันแรกในสวิส Zurich Switzerland
เที่ยวเอง Switzerland 2016 ปี2 (6-20 April2016 ) day 1 : BKK- Zurich Switzerland / Emirates Airline day 2 : Stein Am Rhine + Schuffhausen day 3 : Liectenstein day 4 : Freiburg Germany day 5 : Pilatus + Rigi day 6 : Strasbourg France day 7 : St.Gallen + Appenzell day 8 : FIFA world football museum(Zurich) day 9 : Innsbruck Austria day 10 : Colmar France day 11 : Matterhorn day 12 : Titlis day 13 : Milano Italy day 14 : Zurich - BKK ------------------------------------------ ข้อมูลในบล็อคเป็นเพียงประสบการณ์ส่วนตัวที่พบในช่วงสั้นๆในมุมมองฐานะนักท่องเที่ยว ข้อมูลอาจไม่ละเอียดหรืออาจผิดพลาดตกหล่นบ้าง นำมาเล่าเท่าที่พบเห็นประสบการณ์ตรงในฐานะนักท่องเที่ยว ---------------------------------------------- Switzerland มารู้จักประเทศสวิตเซอร์แลนด์ switzerland เป็นประเทศที่ตั้งในยุโรปกลาง ไม่มีทางออกติดทะเล ล้อมรอบด้วยประเทศเพื่อนบ้าน 5 ประเทศ เหนือติดเยอรมัน ตะวันออกติดออสเตรีย (และป.ลิคเตนสไตน์) ตะวันตกติดฝรั่งเศส ใต้ติดอิตาลี่ มีภาษาทางการ4ภาษา โดยไม่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางการ ภาษาที่ใช้เป็นภาษาราชการ มี4 ภาษา ได้แก่ ภาษาเยอรมัน (64%) ภาษาฝรั่งเศส (23%) ภาษาอิตาเลียน(8%) และภาษาโรมานซ์ (ภาษาละตินโบราณใช้ในเขตชนบทบางแคว้น) โดยในอดีต สวิสเคยถูกครอบครองโดยเยอรมัน รากฐานเยอรมันจึงฝังรากลึก ภาษาที่ใช้เป็นทางการมากสุดคือ ภาษาเยอรมัน ไม่ว่าจะเป็นป้ายต่างๆ หรือภาษาที่คนสวิสใช้สื่อสาร พื้นที่ 41,200 ตร.กม. ประชากร 8ล้านคน ระยะทางจากเหนือไปใต้ 220กม. จากตะวันตกไปตะวันออก 346กม. ชื่อย่อประเทศคือ CH ( Confoederatio Helvetica) เป็นชื่อเรียกชาวเฮลเลติ( helveti) ที่เคยอาศัยแถบนี้มาก่อน เมืองหลวงคือเมือง เบิร์น / แบร์น ( Bern) สกุลเงินที่ใช้คือ สวิสฟรังก์ (Swiss Franc) หรือตัวย่อสากล CHF (Confoederatio Helvetica Franz ) ค่าเงินช่วงเราไป 6-20เม.ย.59 คือ 36.9บาทต่อสวิสฟรังค์ ฤดูหนาว (22 ธ.ค. -21มี.ค.) อุณหภูมิ -10ถึง5C มืดเร็วสว่างช้า ฤดูใบไม้ผลิ (22 มี.ค -21 มิ.ย.) เราชอบมาช่วงนี้อากาศไม่หนาวเกินไป ตรงช่วงเด็กๆปิดเทอม อากาศดีเริ่มมีดอกไม้บานแต่ไม่มาก อากาศออกจะหนาวเล็กน้อย อุณหภูมิ 1-15องศา โดยรวมอากาศเย็นสบาย ไปเที่ยวภูเขาหิมะปลอดภัยไม่หนาวหรือเกิดพายุหิมะมากเกินไป ช่วงกลางวันยาวกว่าจะมืดประมาณ3ทุ่ม ฤดูร้อน (22 มิ.ย. -21 ก.ย.) อุณหภูมิ 18-30 C อากาศร้อนแบบเมืองไทย แต่ช่วงนี้ดอกไม้บานสวยงาม ฤดูใบไม้ร่วง (22 ก.ย. -21ธ.ค.) อุณหภูมิ 5-16 C ค่าเฉลี่ยฝนจะมากกว่าหน้าอื่นๆ อากาศคล้ายฤดูใบไม้ผลิ บางทีอาจมีหิมะตก การเตรียมตัวอื่นๆ จากประสบการณ์ในการเที่ยวเอง ควรเตรียมอุปกรณ์ต่างๆมาด้วย ดังนี้ - ขวดน้ำเปล่า : เอามารองน้ำพุใช้ดื่มระหว่างเที่ยว น้ำพุที่สวิสสะอาดมากขนาดดื่มได้เลยหรือน้ำจากก๊อกก็ดื่มได้เลย น้ำพุมีทั่วเมืองกรอกใส่ขวดติดเป้ไปด้วย หรือใครต้องการดื่มน้ำเปล่าแบบขวด แนะนำซื้อร้าน Coop หรือMigro ราคาถูกที่สุด (แต่ก็ยังถือว่าแพงสำหรับน้ำเปล่า) แนะนำรองน้ำพุดื่มได้เลย - ยา ประจำตัว ยาสามัญทั่วไป ยาแก้ไอ : โดยเฉพาะยาคลายกล้ามเนื้อ ยานวดเท้า ทริปเที่ยวเองแบบเราไม่มีรถบัสรับส่งแบบทัวร์ การเที่ยวต้องเดินและขึ้นรถไฟ แนะนำก่อนนอนทานยาคลายกล้ามเนื้อเป็นบางวันได้ โดยเฉพาะวันที่ลุยมาหนักๆหรือไปปีนภูเขาหิมะมา ติดเป้ไว้เลย ยาต่างๆแก้ปวดแก้ไข้ การมาซื้อยาที่สวิสเป็นเรื่องยากมากต้องมีใบสั่งแพทย์ไปซื้อตามร้านขายยา - ขนม /ลูกอม/เสบียง : พกไปติดเป้ ไม่ต้องเยอะเผื่อไปหาขนมอร่อยๆกินที่สวิส แต่ขนมกรุบกรอบที่นี่ถุงละร้อยกว่าบาท ขณะที่เมืองไทย 20กว่าบาท ฮ่าๆ ไม่ต้องพกเยอะ ไปหาลองขนมใหม่ๆข้างหน้า พกไปเผื่อขนมสวิสหมดบนรถไฟ งัดขนมเมืองไทยมากินได้เผื่อหิวเพราะต้องนั่งรถไฟนาน - ตัวแปลงปลั๊กไฟ + ปลั๊กไฟยาว : ที่สวิสใช้ไฟ220โวลต์ ขาไฟเป็นแบบกลมเล็ก หาซื้อไปเลยเผื่อไว้ที่โฮมโปรมีเพียบ เราซื้อแบบรวมทุกประเทศไว้เลย และอย่าลืมปลั๊กไฟยาวแบบหัวปลั๊กหลายอันเผื่อชาร์ตกล้อง มือถือ ได้พร้อมกันหลายตัว -แว่นกันแดด ถุงมือหนัง ถุงเท้าหนา หมวก ผ้าพันคอ : เผื่อขึ้นภูเขาหิมะ ห้ามลืมเด็ดขาด แว่นกันแดดสำคัญที่สุดเพราะแสงสะท้อนบนภูเขาหิมะจ้ามากเป็นสีขาวเลย เครื่องกันหนาวอื่นๆเตรียมให้พร้อม ไม่เช่นนั้นการลุยหิมะจะเป็นเรื่องไม่สนุกเพราะหนาวมาก อีกอย่างรองเท้าลุยหิมะควรพื้นหนาๆสักหน่อยเพราะความเย็นจะทะลุพื้นรองเท้าขึ้นมาหนาวเท้าจริงๆ -ร่มหรือเสื้อกันฝน : อากาศที่สวิสไม่แน่นอนฝนอาจตกมืดครึ้มขึ้นมาในบางวัน -เอกสารสำคัญ : ควรสำเนาสำรองไว้อีกชุดสองชุด ไม่ว่าจะเป็นพาสปอร์ตหรืออื่นๆ เรามีติดเป้ไว้สำรองอีกชุด เก็บไว้ที่บ้านอีกชุดเผื่อฉุกเฉิน รวมทั้งควรจดรายละเอียดบัตรเครดิตที่พกไป เบอร์โทรต่างๆกรณีฉุกเฉิน ----------------------------------------------------- Zurich Switzerland สนามบิน Zurich Kloten Airport : Zurich Switzerland สนามบินซูริค หรือท่าอากาศยานโคลเทิน ( Zurich Kloten Airport) ตั้งในเมืองโคลเทิน ซูริค ห่างจากใจกลางเมืองซูริค 12กม. นั่งรถไฟ25นาทีก็ถึงสถานีรถไฟกลาง Zurich HB สนามบินซูริค เป็นสนามบินใหญ่ที่สุดในสวิส นอกจากที่ซูริค ยังมีสนามบินนานาชาติหลักๆอยู่ทางใต้ที่เมืองเจนีวาและ ทางเหนือที่เมืองบาเซิล ที่ เมืองเบิร์นมีสนามบินแต่เล็กกว่าไม่ใช่สนามบินนานาชาติ ผ่านต.ม.Zurich หลังจากลงเครื่องมาแล้ว ด่านต่อไปคือผ่านต.ม.ซูริค ที่โดยปกติเมื่อเข้าประเทศอื่นๆ ต้องกรอกใบขอเข้าเมืองแต่ที่ซูริคแค่ให้ดูพาสปอร์ตอย่างเดียวก็ผ่านได้แล้ว อาจเพราะนักท่องเที่ยวต้องผ่านขั้นตอนขอเชงเก้นวีซ่าที่เข้มงวดมาก่อนแล้ว . เมื่อลงจากเครื่องเพื่อไปยังตม. เดินตามป้าย Arrival ไปยังสถานีรถไฟที่วิ่งเชื่อมต่อระหว่าง Gate กับ Terminal มีรถไฟมาทุก2นาที ไม่ต้องรีบร้อน ยืนไปในรถไฟไม่นาน เดินตามๆกันไปเพื่อไปด่านตม.
ขึ้นรถไฟแล้วไม่ต้องหาที่นั่งเป็นรถยืน ยืนไปไม่กี่นาที ที่น่ารักสุดๆคือ ในรถไฟขบวนสั้นๆนี้ มีเสียงบรรยากาศสวิสต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยเสียงร้อง มอๆของวัวและเสียงกระดิ่งวัวในรถไฟเป็นเสียงแห่งการต้อนรับนักท่องเที่ยว น่ารักที่สุด เรามองหน้ากันแล้วยิ้ม เรามาถึงจริงๆแล้ว Switzerland คิดถึงจังเลย ด่านตม. คนไม่เยอะแถวไม่ยาวเหมือนประเทศอื่นๆ ที่ด่านต.ม.ซูริค มีเจ้าหน้าที่ใจดียิ้มแย้มอย่างดี ถามแค่มาทำอะไร พักที่ไหน กี่วันเท่านั้นเองยิ่งมาเป็นครอบครัวแบบเรายิ่งผ่านง่าย รอบนี้ต.ม.ถามคุณพ่อกับน้องแทนแค่2คน คุณแม่ถามแค่ว่ามาด้วยกันใช่ไหม แล้วก็ปั๊ม ผ่าน ดีมากๆเลย สะดวกดีมากเจ้าหน้าที่ใจดียิ้มให้เด็กๆทุกรอบ คิวที่ด่านต.ม.ซูริคโล่งมากใช้เวลาไม่กี่นาทีเท่านั้น หลังจากนั้นไปรับกระเป๋า ในช่วงทางออกจะมีเจ้าหน้าที่สุ่มตรวจกระเป๋า เห็นมีคนโดนเรียกสุ่มตรวจของในกระเป๋าด้วย ถ้าไม่มีสินค้าผิดกฏนำเข้าก็ไม่น่ามีปัญหา ผ่านต.ม.และรับกระเป๋า สนามบินที่นี่ไม่ใหญ่มาก คนน้อยไม่พลุกพล่านดูเงียบเรียบร้อย วิธีการเดินทางเข้าเมือง จากสนามบินเดินตามป้าย Bahn Train เราเดินข้ามถนนทางม้าลายเชื่อมไปอีกตึก จะไปยังโถงกลางของ Terminal หลักของสนามบิน Zurich ส่วนนี้จะมีร้านค้า ร้านอาหารมากมาย ถ้าลงบันไดเลื่อนไปชั้นล่างสุด ชั้น3 จะเป็นส่วนที่เชื่อมรถไฟใต้ดินไปยังตัวเมือง เป็นสถานีรถไฟ Zurich Flughafen ส่วนที่ขายบัตรswiss pass จากชั้นนี้ที่เรายืนลงไปอีกชั้นจะเป็นชั้น2 รอบก่อนที่มาเราลงไปซื้อที่นั่น แต่รอบนี้ซื้อมาล่วงหน้าเรียบร้อยถ้าใครยังไม่Validate ตั๋ว สามารถลงไปValidate ตั๋วก่อนใช้ได้ที่เคาท์เตอร์ . จากสถานีรถไฟใต้ดินที่สนามบิน สถานีรถไฟ Zurich Flughafen เราจะขึ้นรถไฟไปลงสถานีใหญ่ปลายทางของเรา คือ สถานี Stadelhofen (สถานีหน้าทะเลสาบซูริคเพื่อต่อรถรางไปบ้านน้ามุ่ย เก็บกระเป๋ากันก่อน ) ส่วนผู้โดยสารที่ต้องการต่อรถไฟไปเมืองต่างๆให้ลงที่สถานีรถไฟกลางของซูริค เฮาพท์บาห์นฮอฟ (Zurich HB, Zurich Hauptbahnhof) ) ซึ่งเป็นสถานีกลางสวิส เราเรียกเล่นๆว่าหัวลำโพงครับ เข้าใจง่ายดี ที่นี่สนามบิน มีรถไฟออกทุก ๆ 10 - 15 นาที และใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาทีก็ถึงสถานีกลางZurich HB อย่าลืมลงตามเสียงประกาศ เดี๋ยวเผลอตามมาลงสถานีเดียวกับเราล่ะ ------------------------------------------------------------------------- เริ่มต้นการเดินทางจากสนามบิน Kloten Airport ลงลิฟท์ไปชั้นล่างสุด เป็น สถานีรถไฟ Zurich Flughafen หรือจะลงบันไดเลื่อนก็ได้แต่เรากระเป๋าเยอะลงลิฟท์ดีกว่ามีลิฟท์สองตัวประกบหน้าหลัง กดลงชั้นล่างสุดเลย ลืมบอก ตารางเวลารถไฟเข้ามีกระดานเวลาตารางรถไฟใหญ๋ให้ดู เลือกดูเวลารถไฟไปสถานี Zurich HB หรือสถานีรถไฟอื่นๆที่จะไป มีเวลารถไฟเข้าบอกไว้รวมทั้งชานชาลาที่ต้องไปรอ สถานีรถไฟ Zurich Flughafen รอรถไฟไปสถานีกลาง Zurich HBได้ที่นี่ เป็นสถานีทางผ่าน รถมีเยอะดูตามป้ายเลย มีกล่องป้ายไฟแจ้งเวลารถไฟเข้า จากนี้ไปสถานี Zurich HB ประมาณ25นาที ไปสถานี Stadelhofen ที่เราจะไปประมาณ30นาที รถไฟสวิสเป็นรถไฟที่เราจะใช้เป็นหลักในการเดินทางทั้ง14วัน รอบก่อนขึ้นลงจนค่อนข้างคล่องแล้ว รถไฟมี2ชั้นนั่งชั้นบนหรือด้านล่างก็ได้ ส่วนชั้น 1st class หรือ 2nd class ขึ้นตู้ต่างกัน เวลาขึ้นรถไฟให้ดูหมายเลขข้างตู้ที่ระบุไว้ด้วยจะเขียน 1หรือ 2 ขึ้นให้ถูกต้ ส่วนที่ชานชาลาจะมีกล่องป้ายไฟแขวน ที่กล่องไฟจะมีบอกขบวนรถ เวลาเข้า และมีเลข1 , 2 บอกตำแหน่งตู้ไว้ด้วย เวลายืนรอรถไฟจะได้รู้ว่าควรเดินไปรอช่วงไหนของชานชาลา รอไกลไปเดี๋ยวได้วิ่งกันลิ้นห้อย รถไฟที่นี่ออกตรงเวลาเป๊ะเป็นนาที ขึ้นรถไฟแล้วครับ ยืนเฝ้ากระเป๋าชั้นล่าง รถไฟสวิสจะมีจอมอนิเตอร์บอกว่าขณะนี้ถึงสถานีไหน สถานีหน้าชื่ออะไร เวลากี่นาที พร้อมมีประกาศบอกเป็นภาษาเยอรมันฟังไม่ยาก แนะนำสถานีรถไฟกลางซูริค (Zurich HB ) ใครที่ต้องการต่อรถไฟไปยังเมืองอื่นๆนอกซูริค ลงสถานีนี้ได้เลย Zurich Hauptbahnhof ( Zurich HB) รถไฟที่มาจากสนามบินจะอยู่ชั้นล่างต้องขึ้นบันไดเลื่อนมาด้านบนจะเจอป้ายตารางรถไฟอันใหญ่ และนางฟ้าอ้วนสีทอง เธอชื่อนางฟ้าnanas หาทิศไม่เจอดูส่วนหัวนางฟ้าจะหันไปทางตารางเดินรถ ที่สถานีรถไฟนี้มีชั้นใต้ดินลงไปอีก3ชั้น มีตู้ล็อคเกอร์ฝากกระเป๋าลงบันไดเลื่อนไปที่ชั้น1 . นางฟ้า nanas
ป้ายตารางเวลารถไฟ Zurich HB ส่วนมากเราดูตารางรถด้านซ้ายสุด
. ลงบันไดนี้ไป1ชั้นจะเจอล็อคเกอร์ฝากของ และมีร้านค้า
ลงไปอีกชั้น เป็นชั้นที่2จะมีร้านค้ามากมายเช่นกัน เดินกันจนหลงทาง ที่รวมรถไฟไปเมืองต่างๆรวมทั้งประเทศข้างเคียง ฝรั่งเศส อิตาลี
. .
เดินทางเที่ยวเองอย่างไรให้สะดวก แนะนำ Swiss pass Swiss Pass การเดินทางครั้งนี้เรายังใช้รถไฟสายสวิส เป็นการเดินทางหลักทั้ง14วัน ครั้งนี้เรามา14วัน เลือกซื้อสวิสพาสชนิด 15days ซื้อมาล่วงหน้าจากเมืองไทยผ่านเวบ KTC ส่งฟรีแบบด่วนให้ถึงบ้าน เทียบดูแล้วช่วงโปรโมชั่นราคาเท่ากับบริษัทเจ้าดังตัวแทนขายตั๋วรถไฟยุโรป และราคาเท่ากับไปซื้อที่สวิส เลยตกลงใจซื้อผ่านเวบ KTC พร้อมValidate ตั๋วมาให้เลย ใช้ได้ทันทีที่มาถึงสวิส( ยังไม่แน่ใจเลยไปถามที่เคาท์เตอร์รถไฟสวิสอีกที) หรือใครไม่สะดวกมาซื้อ Swiss Pass ที่สวิสก็ได้ เมื่อสองปีก่อนเรามาซื้อที่สถานีรถไฟสวิสที่อยู่ในสนามบิน เพียงโชว์passport และใช้บัตรเครดิตรูดได้ด้วยไม่มีชาร์ท ( และเริ่มใช้ได้ทันทีตั้งแต่นั่งรถไฟออกจากสนามบิน Zurich Flughafen ) . . .
มารู้จัก SWISS PASS กันก่อน ( update ปี2016) สวิสพาส ( SWISS PASS update ล่าสุด ปี2016 ) มีให้เลือกเดินทางแบบ 3 4 8 15 days เปลี่ยนแปลงจากสองปีก่อนหลายอย่าง บัตรนี้สามารถใช้โดยสารกับระบบขนส่งสาธารณะของ สวิส ทราเวิล ซีสเต็ม (Swiss Travel System) โดยเลือกเดินทางได้ทั้งรถไฟ รถราง เรือโดยสาร รถประจำทาง และยังได้ลด50%ในการเดินทางขึ้นยอดเขาและรถกระเช้าไฟฟ้า รวมทั้งเข้าชมพิพิธภัณฑ์อีกกว่า400แห่งฟรี ทั่วประเทศสวิส ไม่จำกัดจำนวนรอบ ทั้งวันทั้งคืนเหนือจรดใต้ของประเทศ บัตรโดยสาร Swiss Pass ใช้สำหรับเดินทางติดต่อกันทุกวัน และมีให้เลือกรถไฟชั้น1ชั้น2 ราคาก็แตกต่างกันไป มีแบบ 3 4 8 15 days (ราคาชั้น1 :: 336 402 581 704 CHFตามลำดับ) (ราคาชั้น2 :: 210 251 363 440 CHFตามลำดับ) (x37บาท) Swiss saver Pass สำหรับเดินทางติดต่อกันทุกวันโดยต้องเดินทางพร้อมกันสองคนขึ้นไป เหมือนswiss passแต่ราคาถูกกว่า ปีนี้ยกเลิกไม่มีขายแล้ว เมื่อสองปีก่อนเราใช้ตั๋วชนิดนี้ถูกกว่าswiss pass ธรรมดานิดหน่อย Swiss Flexi Pass สำหรับเดินทางไม่ติดต่อกันทุกวันมีให้เลือกแบบ 3 4 8 15 โดยต้องเดินทางภายใน1เดือน และยังมีบัตรโดยสารรถไฟสวิสอีก5แบบ ตามความเหมาะสมกับการเดินทางแต่ละคน สวิสพาสที่ซื้อ เราซื้อแบบ SWISS PASS / 2nd class (ชั้น2) /ชนิดตั๋ว15days ใช้เดินทางติดต่อกัน 15วัน ส่วนชั้น1หรือ2 ดูแล้วแทบไม่ต่างกัน ราคาตั๋วชั้น1แพงกว่าชั้น2ถึงเกือบสองเท่า เราเลือกชั้น2เพราะไม่แตกต่างกัน ชั้น1อาจเบาะหรูส่วนตัว คนน้อยหน่อย แต่ชั้น2ของรถไฟสวิสนี่ก็ถือว่ายอดเยี่ยมที่สุดของรถไฟยุโรปแล้ว เบาะสวยสะอาด คนไม่แน่น ห้องน้ำสะอาด และเรายังใช้บริการตู้อื่นๆเช่นตู้โดยสารสำหรับครอบครัวที่มีเด็กอยู่บ่อยๆ แนะนำเลย ซื้อชั้น2 ส่วนต่างเอาไว้ซื้อขนมอร่อยๆทานบนรถไฟดีกว่า สำหรับเด็กๆ แทนไท กองทัพ Free ฟรีครับ สำหรับเด็กๆที่อายุไม่เกิน 16ปี จะได้บัตร Family Card ( เด็กอายุ6-16ปี ที่เดินทางพร้อมพ่อหรือแม่อย่างน้อย1คน ที่ซื้อบัตรSWISS PASSแบบใดแบบหนึ่งแล้ว ) ค่าบัตร SWISS PASS 15days ชั้น2 ราคา 440 CHF ( x37บาท)= 16,236 บาทต่อคน ( จ่ายแค่ของพ่อแม่ รวม 31,710 บาท เดินทาง4คนเพราะน้องแทนน้องทัพฟรี ) เฉลี่ยเสียค่าเดินทางในสวิส แค่เกือบ600บาท/คน/วัน คุ้มมากๆไปได้เหนือจรดใต้ของประเทศ นั่งรถราง รถไฟ เรือ เข้ามิวเซียม กี่รอบก็ได้ ซื้อตั๋วขึ้นภูเขาหิมะลดได้50% แถมไปป.ลิคเทนสไตล์ใช้swiss passนั่งรถได้ฟรีในประเทศได้ด้วย สุดยอด เชียร์เลยซื้อswiss passในการเดินทางดีกว่า บัตรswiss passที่ซื้อมาผ่านการValidateวันให้เรียบร้อยใช้ได้เลย เที่ยวไหนดีทริปนี้ เที่ยวเองไปยังไง มาถึงแผนเที่ยวทริป14วัน เริ่มต้นการวางแผนเมืองและประเทศที่จะไปจากการกางแผนที่ ดูประเทศและเมืองที่เราสามารถไปเที่ยวเองได้ โดยมีซูริคเป็นศูนย์กลางไปกลับได้ในวันเดียว เนื่องจากมีที่พักบ้านน้ามุ่ยที่ซูริค และระบบการคมนาคมในสวิสที่สะดวกดีมากด้วยรถราง และรถไฟ โดยมี Zurich HB เป็นศูนย์กลางรถไฟที่เชื่อมต่อระหว่างเมืองต่างๆในสวิสได้อย่างสะดวกสบาย รวมทั้งเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางไปยังประเทศข้างเคียงได้ด้วยที่นี่ การเดินทางเที่ยวเองคงค่อนข้างลำบากกว่าไปเที่ยวทัวร์ที่มีรถรับส่งจอดถึงที่และมีไกด์พาเดินเที่ยว แต่ ทริปเที่ยวเองแบบเราต้องวางแผนเองทุกอย่าง เป็นไกด์เอง เริ่มจากหาข้อมูลสถานที่เที่ยว เส้นทางการเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยวแลนมาร์คต่างๆ เที่ยวในสวิสไม่ยากเพราะใช้swiss pass ขึ้นรถราง รถบัส เรือเที่ยวได้ แต่อีก5ประเทศที่เราจะไป ต้องหาข้อมูลตั้งแต่เวลาเที่ยวรถไฟ เวลาเดินทางไปกลับ การซื้อตั๋วรถราง รถบัส ต้องไปมั่วเอาเอง ที่ซื้อตั๋วแต่ละประเทศไม่เหมือนกันอีก ข้อมูลต้องเยอะและพร้อมที่จะเดินและหลง อาหารการกิน กินแบบstreetfood เน้นเดินเที่ยว นั่งร้านเสียเวลา รสชาดความสนุกของการเที่ยวเองกับไปกับทัวร์คงแตกต่างกันแล้วแต่คนชอบ แม้จะลำบากแต่เราก็ยังเลือกที่จะเที่ยวเอง ทำเองสนุกดี ได้ประสบการณ์เองในทุกๆเรื่อง จุดหมายในการเที่ยวของเราไม่ใช่ไปถึงปลายทาง แต่จุดหมายอยู่ที่พบเห็นความสุขระหว่างทาง ใครคอเดียวชอบเที่ยวเอง ตามมาเลย แผนที่ท่องเที่ยวและตารางเวลาเดินรถไฟไปที่ต่างๆสำคัญที่สุด นอกจากพกแผนที่แล้ว เรายังมีแผนที่เขียนเองไปด้วย ในนั้นจะเขียนแผนที่เมือง ข้อมูลเส้นทาง ระยะเวลาเดินทางคร่าวๆ จบการเดินทางแผ่นนั้นขาดกระรุ่งกระริ่งแต่ติดตัวเราตลอดเดินทาง14วัน ส่วนตัวเป็นคนหลงไหลการเดินทางด้วยรถรางและรถไฟในสวิสอยู่แล้ว เนื่องจากความสะดวกสบายของรถราง รถไฟที่มีเชื่อมต่อกันทุกที่ ทุกเมือง แม้แต่ประเทศรอบข้างยังสามารถใช้รถไฟสายยุโรปเดินทางเชื่อมต่อกันได้ ประกอบกับ อาจเนื่องจากมีแรงบันดาลใจจากรายการสารคดีโปรด รายการ "รถไฟสายยุโรป" ทางช่อง true Explor2 เป็นรายการที่พาเดินทางตามบันทึกการเดินทางโดย แบรด ชอร์ ชาวอังกฤษเมื่อร้อยปีก่อนโดยรถไฟยุโรป ในปี1913 โดยมีการบันทึกการเดินทางอย่างละเอียดเล่มหนา รายการนี้มีพิธีกรชาวอังกฤษคนโปรดของเราใครเคยดูคงจะจำได้พิธีกรเสียงนุ่ม ท่าทางใจดี ที่ชอบใส่สูทสีสันสดใส "ไมเคิล พอร์ทิลโล "พาเดินทางท่องเที่ยวตามคู่มือแบรดชอร์ โดยรถไฟสายยุโรปไปยังประเทศต่างๆในยุโรป เข้าทางเราเลยชอบอยู่แล้ว เราชอบนั่งรถไฟไปเมืองต่างๆได้เห็นบ้านเรือน ชีวิตผู้คน ทุ่งหญ้า ภูเขา วัว แค่วิวข้างทางก็มีความสุขแล้ว ใครชอบการเดินทางแบบเราไม่รีบเร่งถึงจุดหมาย แต่ชอบพบเห็นความสุขระหว่างการเดินทาง เเนะนำเลย เดินทางเที่ยวเองดีกว่า ---------------------------------------------------------------- Zurich Switzerland แล้วการเดินทางเที่ยวในZurich Switzerland วันแรกก็เริ่มขึ้นถึงแล้ว จากสนามบินเรานั่งรถไฟมาลงที่นี่ สถานี Stadelhofen ริมทะเลสาบซูริค สถานีใหญ่อีกที่คนเยอะ . . . รอรถรางที่สวนสาธารณะStadelhofen รอรถรางสาย S18ไปบ้านที่พัก สวนสาธารณะ Stadelhofen เป็นสวนสาธารณะอยู่ติดสถานีรถไฟ เป็นบริเวณที่รอรถรางหลายสายในซูริค อยู่ใกล้ลานOpera house ข้างทะเลสาบซูริค เป็นแหล่งรวมรถราง สะดวกในการเดินทางท่องเที่ยวโดยเริ่มจากหน้าทะเลสาบซูริค โดยรอบของสวนstadeholfenมีบรรดาร้านค้าชื่อดังโดยรอบ Starbucks,Mcdonald,ร้านช็อคโกแลตชื่อดังSprunhli, ร้านMigros , Kiosh เป็นที่จอดรถจักรยานชาวเมืองซูริคแห่งใหญ่ ชาวเมืองจะนำมาจอดและโดยสารรถไฟไปทำงานหรือขี่จักรยานไปทำงาน เมืองนี้น่ารัก เมืองแห่งจักรยาน แหล่งรวมรถรางสายหลักหลายสาย วิ่งสวนทางไปมา . . Mcdonald Stadelhofen . . รอรถไฟสายS18 เก็บกระเป๋าสัมภาระกันก่อน รถรางสายนี้วิ่งออกนอกเมืองซูริค เป็นรถรางแต่วิ่งออกนอกเมืองเรียกรถไฟแปลกดีจัง การเดินทางใช้ swiss pass ตั้งแต่เริ่มนั่งรถไฟออกจากสนามบิน ถ้ามีนายตรวจขึ้นมาตรวจแค่โชว์swiss passให้ดูเท่านั้น ใช้ได้ตลอดการเดินทาง14วันนะครับ . รถรางที่แสนคิดถึง สายS18 ต้นทางอยู่ที่นี่ปกติสายนี้รถไม่แน่นเลือกที่นั่งสบาย
ภายในรถรางมีป้ายไฟบอกสถานีพร้อมเสียงคนขับ นั่งรถรางไม่นานสัก20นาที ชมนกชมไม้ดูบ้านเรือนสวยงาม รถรางขึ้นเนินภูเขาไปเรื่อยๆ จุดหมายคือ สถานี Spital zollikerberg ใครไม่มีswiss passก็ต้องซื้อตั๋วจากตู้ ใช้บัตรเครดิตได้ . มีร้านขายเนื้อ ร้านcoop ร้านกาแฟอยู่แถบนี้
spital แปลว่า โรงพยาบาล สถานีนี้มีรพ.อยู่นะครับ สวยงามรพ.เป็นสีชมพู คนไข้น้อยเงียบสงบมากๆ เป็นรพ.ในฝันเลยทีเดียวเคยเข้าไปด้านในเงียบและสะอาดมาก ด้านหลังมีป่าสวยๆด้วยเสียงนกร้องก้องป่า เดี๋ยวเราเอากระเป๋าไปเก็บบ้านเดี๋ยวออกมาลุยเมืองซูริคกันเลย ผ่านบ้านแสนน่ารักตลอดทาง
. .
เก็บของแล้ว ไปเที่ยวกันทันที ไม่รอช้า รอรถไฟสายs18ขบวนเดิม
มาลงที่เดิม สวนStadelhofen
. ข้ามจากสวนstadelhofen ไปเดินเล่นลานกว้างหน้าopera house อยู่ที่นี่ไม่ต้องระวังรถยนต์ ระวังรถรางและจักรยานเท่านั้น วันนี้ฟ้าครึ้มอากาศหนาวลมแรง ต้อนรับเราวันแรก คนไม่ค่อยจะมีวันนี้อากาศหนาว ไปเดินเล่นกัน
. . Parkhaus opera ตรงนี้เป็นร้านกาแฟและมีห้องน้ำ ZURICH OPERA HOUSE
. . . . ลานโล่งหน้าopera house ปกติจะเป็นลานจัดกิจกรรม จัดนิทรรศการงานศิลป์ ในเร็วนี้ที่นี่จะมีพิธีเผาตุ๊กตาหิมะด้วย (ได้ดูนิดเดียว )
. ลมแรงอากาศหนาวต้อนรับเรา วันนี้น่าจะ5องศา
. . . . ข้ามถนนไปเดินเล่นริมทะเลสาบซูริคกันดีกว่า วันนี้ลมแรงมากหนาวสุดๆ คนเดินริมทะเลสาบหายไปกันหมด มองเห็นโบสถ์อยู่ไม่ไกล ข้ามสะพานที่เห็นรถวิ่งจะเป็นฝั่งแม่น้ำลิมมัทLimmat
. Zurich Lake
. . . . . . หนาวมากที่สุดลืมหมวกมาไม่นึกว่าจะมาเจอ5องศาริมทะเลสาบ
. . นั่งรถรางเล่นในเมือง เดี๋ยวเราไปเที่ยวกันต่อในเขตเมืองเก่านะครับ
เรานั่งรถรางสาย11 ขึ้นทางเหนือไปยังสถานีรถไฟกลาง Zurich HB เริ่มตั้งต้นที่หน้าสถานีรถไฟ ซึ่งจะมีถนนสายช้อปปิ้งหลักของซูริคอยู่ด้านหน้ายาวตลอดสาย จากนั้นจะเดินเล่นลงมาทางใต้เรื่อยๆ จะกลับมาเจอทะเลสาบซูริคที่เดิม จากนั้นเราจะเดินไปเขตเมืองเก่าที่มีโบสถ์ประจำเมืองเดินเลียบแม่น้ำลิมมัท(limmat) แล้วกลับบ้านกันนะครับ สถานีรถไฟซูริค Zurich HB
Zurich Switzerland ยินดีต้อนรับสู่ซูริคอย่างเป็นทางการ ซูริคเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในสวิส เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ ตั้งริมแม่น้ำลิมมัต(Limmat) และทะเลสาบซูริค อาคารบ้านเรือนเป็นแบบยุคกลาง จุดเด่นคือ โบสถ์เก่าแก่และพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ถนนที่เป็นสายหลักเป็นถนนเศรษฐกิจและย่านการค้าคือ ถ.Bahnhofstrasse แหล่งช้อปปิ้งอยู่ในพื้นที่1ตร.กม.ใจกลางเมืองซูริคที่ ถ.บาห์นฮอฟ Bahnhofstrasse ศต.20 ซูริคกลายเป็นศูนย์กลางการเงินการธนาคารของประเทศ ปัจจุบันซูริคเป็นเมืองซื้อขายแลกเปลี่ยนทองคำที่ใหญ่ที่สุด ตลาดหลักทรัพย์ใหญ่เป็นอันดับ4ของโลก และ ธนาคารสวิสมากกว่าครึ่งของธนาคารทั้งหมดในสวิสมีสำนักงานอยู่ที่ซูริค
หน้าสถานีรถไฟ Zurich HB เดินมาเรื่อยตามถนนสายช้อปปิ้งหลัก Bahnhofstrasse เป็นถนนชอปปิ้งสายหลักของซูริค ตลอดเส้นทางเต็มไปด้วยร้านค้าหรูหรา แบรนด์เนม ร้านนาฬิกา ร้านเสื้อผ้าแฟชั่น ร้านช็อคโกแลตชื่อดัง . . . . . . . . เดินมาตามทางเรื่อยจะเจอจัตุรัสใหญ่ Paradeplatz เป็นจุดศูนย์รวมรถรางหลายสายอีกแห่ง มีธนาคารสวิสและร้านค้าแบรนด์เนมรอบข้าง มีร้านช็อคโกแลตชื่อดังอยู่ที่นี่ Sprungli ร้านแรกในซูริค ร้านsprungli ขายช็อคโกแลตชื่อดัง . . .
ตลอดเส้นทางมีรถรางผ่านไปมามากที่สุด จัตุรัสParsdeplatz เป็นศูนย์รวมรถรางหลายสาย เดินเล่นเมื่อยขานั่งรถรางที่ผ่านไปมาได้ เรามีswiss pass นั่งได้ตลอด . . หนังสือฟุตบอลน้องกองทัพ EURO2016 ซื้อที่สวิสครับมีขายทั่วไปในร้านKiosh (เหมือนร้าน7-elevenในบ้านเรา) ที่เยอรมันก็มีถูกกว่านิดหน่อย . ใครขาแบรนด์เนมกระเป๋าหนักต้องมาเดินถนนสายนี้เป็นถนนชอปปิ้งสายหรูที่สุดในซูริค แต่คุณแม่กระเป๋าเบาจ้องแต่ของที่ระลึก ชอบสะสมของที่ระลึกจากประเทศต่างมากกว่า แถบนี้ราคาแพงมาก แนะนำซื้อตามเมืองต่างๆหรือในสถานีรถไฟ Zurich HB ก็มีขายหลายร้านราคาไม่ต่างกันมาก . . . . . . แค่ได้นั่งดู tram หรือรถรางสวยๆก็มีความสุขแล้ว ที่ซูริคเป็นเมืองแห่งรถรางน่าจะมากที่สุดในสวิส . . เดินมาถึงหน้าทะเลสาบจะมีสวนสาธารณะที่มักมีออกร้านสวนสนุกเล็กๆเหมือนบ้านเรามียิงปืน จับโป่ง ตักไข่ ชิงช้าสวรรค์ . . เดินจากหน้าสถานีรถไฟลงมาเรื่อยๆทางใต้ จะสิ้นสุดที่ทะเลสาบซูริคพอดี ชมวิวแล้วเราจะวกไปทางแม่น้ำลิมมัทชมเมืองเก่ากัน ที่เห็นไกลลิบๆภูเขาน้ำแข็งนั่นคือเทือกเขาแอลป์ ทะเลสาบซูริคอยู่ทางใต้ของเมืองนะครับ ที่เราเดินมาเป็นทางเหนือของเมือง ลงเรือท่องทะเลสาบซูริคได้ที่นี่ใช้swiss pass ได้เลย เดินข้ามสะพานวกกลับทางเหนือไปเดินเขตเมืองเก่ากัน เราจะไปชมโบสถ์สำคัญ3แห่งในซูริค - St.Perter Kirche โบสถ์ที่มีหน้าปัดนาฬิกาใหญ่ที่สุดในยุโรป หน้าปัด8.7m. สร้างปีค.ศ. 1534 - Fraumunster สร้างปี ค.ศ.853 จุดเด่นที่กระจกสีบอกเล่าเรื่องราวคริสตจักร โดยกษัตริย์ลุควิค(ludwig)แห่งเยอรมัน เป็นโบสถ์ที่ถูกปกครองโดยแม่ชีชาวคาทอริคในสมัยโบราณ -Grossmunster โบสถ์เก่าแก่คู่เมืองตั้งแต่ค.ศ.ที่8 เป็นโบสถ์ที่มีความสำคัญทางศาสนา เป็นโบสถ์แห่งแรกที่ ฮุลดริคชวิงลิ (Huldrych Zwingli) ผู้นำการปฏิวัติได้ทำการเปลี่ยนศาสนาจากคริสต์นิการคาทอลิคเป็นคริสต์โปรตสแตนท์ โบสถ์แรก Fraumunster หรือโบสถ์แม่ชี สร้างปี ค.ศ.853 จุดเด่นที่กระจกสีบอกเล่าเรื่องราวคริสตจักร ต้องเข้าไปด้านใน วันนี้เราเดินเล่นชมด้านนอกก่อน
. แม่น้ำลิมมัท Limmat สองฟากแม่น้ำเป็นเขตเมืองเก่า มีร้านอาหาร ร้านขายของ โรงแรมตลอดสองริมน้ำ . . . มีเรือนำชมแม่น้ำLimmatด้วย . . . . . . มาถึงอีกฟาก โบสถ์ Grossmunster จุดเด่น คือมี2หอคอยคู่ โบสถ์เก่าแก่คู่เมืองตั้งแต่ค.ศ.ที่8 เป็นโบสถ์ที่มีความสำคัญทางศาสนา เป็นโบสถ์แห่งแรกที่ ฮุลดริคชวิงลิ (Huldrych Zwingli) ผู้นำการปฏิวัติได้ทำการเปลี่ยนศาสนาจากคริสต์นิการคาทอลิคเป็นคริสต์โปรตสแตนท์
. . . ร้านอาหารมีทั้งสองริมแม่น้ำลิมมัท ร้านนี้มีบรรเลงไวโอลินให้แขกที่มาทานอาหารฟังด้วย . การเดินทางสะดวกด้วยtram หรือรถรางหลากหลายสาย เขตเมืองเก่างดงามที่แสนสะดวกสบาย นี่คือเสน่ห์เมืองซูริค . ซ้ายมือตามภาพเป็นอาคารพิพิธภัณฑ์ มีขายโปสการ์ดที่ระลึกของซูริค วันนี้ด้านล่างมีชาวเมืองมาเต้นลีลาศอย่างสนุกสนาน นั่งมองชาวเมืองที่แสนมีความสุข . . . เราเดินเล่นริมแม่น้ำลิมมัทไปเรื่อยๆ มุมนี้จะมองเห็นโบสถ์ประจำเมืองทั้งสามโบสถ์ . . เปลี่ยนกล้องอีกบรรยากาศ ด้านหลังถัดไปโน่นคือทะเลสาบซูริค และเทือกเขาแอลป์ ซ้ายมือคือ โบสถ์ Grossmunster โบสถ์หอคอยคู่ โบสถ์หลักประจำเมือง . . ด้านหลังเราคือโบสถ์เฟรามึนสเตอร์ Fraumunster และ ขวามือคือโบสถ์ที่สามของเมือง St.peter St.Perter Kirche โบสถ์ที่มีหน้าปัดนาฬิกาใหญ่ที่สุดในยุโรป หน้าปัด8.7m. สร้างปีค.ศ. 1534 . . วิวตรงนี้น่าจะสวยที่สุด รอชมเพิ่มในบล็อคต่อไปมีอีกหลายเวอร์ชั่นในงานเฉลิมฉลองของเมือง ที่ตรงนี้จะประดับธงทิวพร้อมชาวเมืองที่แต่งชุดพื้นเมืองโบราณ . . เมื่อเริ่มมืดแสงสีทองเริ่มจางแสงลง ได้เวลากลับกันแล้ว ที่สวิสจะมืดประมาณ3ทุ่ม เวลานี้ประมาณ2ทุ่มกว่า นั่งรถรางกลับสวนstadehofen
. แวะซื้อเสบียงกันก่อน เดี๋ยวพาไปแนะนำร้านประจำตัวของเรา ร้าน Coop ครับ Supermarket หลักๆในสวิสมี2ร้าน คือ Coop และ Migros เดี๋ยวจะมาเล่ารายละเอียดในบล็อคอาหารนะครับ วันนี้หาอาหารค่ำทานก่อน Coop ร้านโคฟ เป็นแหล่งอาหารประจำของเรา เป็นซุปเปอร์มาเก็ตขนาดใหญ่มีสาขาทั่วไปในswitzerland ขาย ผัก ผลไม้ ไข่ ไส้กรอก เนื้อสัตว์ อาหารพร้อมทาน ขนมปัง ช็อคโกแลต ของใช้ น้ำ ทุกอย่างรวมทั้งของที่ระลึกของสวิสก็มี ส่วนมากจะเจอตามสถานีรถไฟหลักๆทั่วไป ร้านนี้สาขาสถานีรถไฟStadelhofen อยู่ชั้นใต้ดิน เราจ่ายอาหารที่นี่ทุกวันเพราะลงรถไฟที่นี่ผ่านทุกวัน . ผลไม้หลักๆที่แนะนำ สตรอเบอรี่ลูกโตหวานฉ่ำ ซื้อทานทุกวันเลย ราคาไม่แพง ช่วงก่อนปิดร้านหรือเช้าๆจะมีจัดลดราคากระหน่ำ50%ด้วยทุกสาขา(ราคาฟรังค์สวิส x37บาท) . . . ของอร่อยอีกอย่างคือ ไก่ย่าง อบร้อนๆอร่อยมาก ไก่ส่วนปีกและอก ไก่ย่าง5ดาวประมาณ 40บาท ที่นี่150บาท . โยเกิร์ตอร่อยรสแปลกๆซื้อทานทุกวัน . สำหรับอาหารในสวิส จะขอแยกเขียนบล็อคต่างหากเพราะเยอะมาก เขียนลงในแอฟwongnai จนหมดทุกร้านแล้ว เดี๋ยวมาลงบล็อคต่างหากดีกว่า ขากลับ นั่งรถไฟสายS18กลับบ้าน ก็คือรถรางนั่นล่ะ ที่สถานีต้นทางมีร้านMigrosด้วยแต่เราชอบอาหารในร้านCoopมากกว่า บนรถรางจะมีที่เก็บจักรยานด้วย เป็นที่จอดรถเข็นเด็ก หรือจอดจักรยานด้วย ระบบรถรางของเค้ามีพร้อมสำหรับทุกคนทุกวัย ผ่านโรงพยาบาลZollikerbergที่แสนสวยบนเนินเขา ทานอาหารค่ำวันแรกกัน ติดตามการเดินทางของแทนไท กองทัพได้พรุ่งนี้ เราจะไปเยือนเมืองแสนสวยรอบ2 Stein am Rhine ที่มีบ้านเรือนงดงามแบบโบราณ โดดเด่นด้วยภาพเขียนสีเฟรสโก ครับ ---------------------------------------------------------------------- Day2 : SteinAmRhine Switzerland Day2 ทริปเที่ยวเอง14d in Switzerland 2016 : 8 April 2016 ท่องเมืองเก่า Stein am Rhine , Switzerland https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=31-07-2016&group=24&gblog=8
--------------------------------------------------------------------------
แนะนำวิธีขอ Schengen Visa & แนะนำเวบไซด์หาตั๋วเครื่องบินเอง https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=01-04-2016&group=24&gblog=2 Review :: Emirates Airline 2016 /ประสบการณ์7ชม.ในสนามบินDubai https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=20-07-2016&group=24&gblog=4 Day1 : BKK-ZRH Zurich Switzerland 2016/ แนะนำswiss pass / เที่ยวZurichวันแรก https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=24-07-2016&group=24&gblog=6 Day2 : Stein AmRhine Switzerland 2016 https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=31-07-2016&group=24&gblog=8 Day2 : Schaffhausen Switzerland 2016 https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=01-08-2016&group=24&gblog=10 Day3: Leictenstein 2016 https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=03-08-2016&group=24&gblog=12 Day4: Freiburg Germany 10 April 2016 เยือนเมืองแห่งแสงอาทิตย์ Freiburg เยอรมัน https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=07-08-2016&group=24&gblog=14 Day5: Mt.Pilatus & Mt.Rigi Luzern Switzerland 2016 https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=22-08-2016&group=25&gblog=1 Day6: Strasbourg France 2016 https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=tantailovegongtup&month=09-2016&date=08&group=25&gblog=6 Day7: St.Gallen & Appenzell Switzerland 2016 https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=30-08-2016&group=25&gblog=3 Day8: FIFA football museum 2016 & Zurich Switzerland https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=02-09-2016&group=25&gblog=4 Day9: Innsbruck Austria 2016 https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=07-09-2016&group=25&gblog=5 Day10: Colmar France2016 https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=25-09-2016&group=25&gblog=8
Day11: Zermatt Switzerland / Gornergrat 2016 https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=07-10-2016&group=25&gblog=11 Day12: Titlis switzerland 2016 https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=05-11-2016&group=25&gblog=15 Day13: Milano Italy 2016 https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=11-11-2016&group=25&gblog=16 Day14: Zurich Switzerland 2016 / ZRH-BKK / Emirates Airlines https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tantailovegongtup&month=01-12-2016&group=25&gblog=17 ---------------------------------------------------------------------------- ทริปเที่ยวเอง17days in Switzerland 2014 : 5-21 April 2014 Good morning Swiss International Air Lines 2014 มาเชียร์ประเทศสวิสค่ะสวยไม่สร่างสะอาดมีระเบียบ
โดย: Willkommen IP: 188.165.240.145 วันที่: 24 กรกฎาคม 2559 เวลา:17:44:45 น.
ขอบคุณค่ะ บล็อคไม่หายแล้วเดี๋ยวลงต่อค่ะ ไปเที่ยวด้วยกันนะคะ
โดย: momarmy วันที่: 16 สิงหาคม 2559 เวลา:22:37:07 น.
ถ้าภาษาอังกฤษได้เล็กน้อย สามารถที่จะเที่ยวต่างประเทศได้ไหมคะ(จะไปทำวีซ่าไปเที่ยวสวิส แล้ว สถานฑูตจะถามคำถามยากไหมน้อ กังวลแท้ๆๆ เลย)
โดย: มิ๋ว IP: 103.51.66.85 วันที่: 29 ธันวาคม 2559 เวลา:15:10:06 น.
ถ้าภาษาอังกฤษได้เล็กน้อย สามารถที่จะเที่ยวต่างประเทศได้ไหมคะ(จะไปทำวีซ่าไปเที่ยวสวิส แล้ว สถานฑูตจะถามคำถามยากไหมน้อ กังวลแท้ๆๆ เลย
โดย: มิ๋ว IP: 103.51.66.85 วันที่: 29 ธันวาคม 2559 เวลา:15:10:49 น.
src=https://www.bloggang.com/emo/babyb/1.png>
ไม่น่ามีปัญหาค่ะ ตอนทำวีซ่าที่TLS (เป็นตัวแทนสถานฑูต)จนท.ไม่ซีเรียสมากค่ะพอพูดได้สื่อสารได้นิดหน่อยก็ผ่านแล้วค่ะ เราก็พูดได้เล็กน้อยเหมือนกัน ที่สวิสใช้ภาษาเยอรมันเป็นหลัก แค่พูดถามตอบเล็กๆน้อยๆได้ก็ไปเที่ยวได้แล้วค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ ^_^ โดย: momarmy วันที่: 29 ธันวาคม 2559 เวลา:20:03:46 น.
หาข้อมูลจะไปสวิส สงกรานต์ปี 61 อยู่พอดี มาเจอ blog นี้ ข้อมูลละเอียด ดีมากๆ เลยครับ
ขอบคุณมากๆ ครับ โดย: โหน่ง IP: 171.101.72.96 วันที่: 20 มิถุนายน 2560 เวลา:10:37:38 น.
ยินดีค่ะคุณโหน่ง ดีใจที่ข้อมูลเป็นประโยชน์ค่ะ
ขอให้เดินทางเที่ยวให้สนุกนะคะ ^_^ โดย: momarmy วันที่: 9 สิงหาคม 2560 เวลา:18:24:03 น.
ขอบคุณค่ะ สำหรับข้อมูล
โดย: ญาญ่าผู้น่ารัก IP: 182.232.129.85 วันที่: 30 มกราคม 2562 เวลา:23:13:53 น.
|
momarmy
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 91 คน [?] เทคนิคการแพทย์ที่มีฝัน รักการเดินทาง เขียนบันทึกการท่องเที่ยว และรักการถ่ายภาพลูกชายเป็นชีวิตจิตใจ มีความสุขทุกครั้งที่ได้เก็บกระเป๋า สะพายกล้องออกเดินทาง รักอิสระชอบวางแผนและเดินทางท่องเที่ยวเอง มีความฝันอยากพาผู้คนไปท่องเที่ยวให้มีความสุข บันทึกการเดินทางในบล็อคนี้คือการบันทึกวันเวลาแห่งความสุขเก็บไว้ และยินดีแบ่งปันประสบการณ์การเดินทางในการท่องเที่ยวด้วยตัวเองให้กับผู้ที่มีความฝันเหมือนกัน Group Blog
All Blog
Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |