Day-4 : //chillblog.chillpainai.com/index.php?c=detail&a=index&shareid=1139

วันนี้เข้าสู่วันที่สามแล้วที่ผมมาอยู่ที่ เกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่นครับ
แผนการท่องเที่ยวของผมในวันนี้นั้นสบาย ๆ เชื่อว่าเมื่อเพื่อนๆทุกคนได้มาเยือนที่ประเทศญี่ปุ่น จะต้องซื้อของกลับไปเยอะแน่นอน ผมเองก็เช่นกัน ดังนั้นวันนี้เรามาเริ่มต้นด้วยการซื้อของกันครับ

เริ่มต้นที่ ห้าง PARCO ที่ผมได้แวะไปจับจ่ายใช้สอยบ่อยๆ ตอนที่อยู่ที่โตเกียว เมื่อได้เจอที่ฮอกไกโดก็เลยต้องลองแวะเข้าไปซักหน่อยครับ
แผนที่ : https://goo.gl/maps/wQPGJENhTDp

มาฮอกไกโดก็แน่นอนว่าจะต้องซื้อของฝากจากฮอกไกโดที่ไม่สามารถหาซื้อได้ที่จังหวัดหรือเมืองอื่น ๆ ในญี่ปุ่น ที่นี่มีร้านมากมายที่ขายของฝากจากฮอกไกโดครับ

แต่ป้ายตัวการ์ตูนที่ตั้งอยู่หน้าร้านนี่มัน ._. โมเอะ ._. มันเกี่ยวอะไรกับร้านนี้...

เมื่อเดินผ่านป้ายตัวละครเข้ามาในร้านแล้ว ก็ได้เจอกับของฝากที่ไม่เคยเห็น วางขายอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น

มันฝรั่งฮอกไกโดรส Spice& Cheese

Sparkling Chocolate ช็อกโกแลตแบบซ่าๆ??

หรือจะเป็นคุกกี้รูปแมวที่สามารถเกาะขอบแก้วน้ำได้

เพื่อนๆทุกคนที่เคยมาเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นคงจะเข้าใจความรู้สึกของผมดี นั่นก็คือซื้ออันไหนดี
ทุกอย่างน่าอร่อย น่ากินไปหมด

ในครั้งนี้ผมได้ของฝากชิ้นนี้กลับมาครับ เป็นขนมอบกรอบสอดไส้ชีส
หลังจากชิมของตัวอย่างที่ตั้งเอาไว้แล้ว บอกได้เลยครับว่าคนรักเบียร์ห้ามพลาดเลยนะครับขนมตัวนี้

และร้านค้าอีกร้านหนึ่งที่เป็นที่นิยมของคนไทย

นั่นก็คือร้าน Onitsuka Tiger ครับ
และเนื่องจากได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในประเทศไทย ลูกค้าในร้านตอนที่ผมเดินผ่านทั้งหมดก็เป็นคนไทยครับ 555

ทุกครั้งที่ผมกลับมาที่ประเทศญี่ปุ่น ต้องได้เครื่องใช้ไฟฟ้าของญี่ปุ่นติดไม้ติดมือไปทุกครั้งครับ

ร้านนี้ก็น่าจะเป็นที่นิยมของคนไทยเหมือนกันนะครับ มีป้ายภาษาไทยเขียนติดเอาไว้ด้วย

การชอปปิ้งเครื่องใช้ไฟฟ้า เริ่มด้วยการตามหาของฝากที่เพื่อนฝากซื้อครับ

เครื่องทำความสะอาดไฟฟ้า อันนี้ผมก็อยากได้แต่น้ำหนักของเครื่องมันหนัก ครั้งนี้คงต้องปล่อยมันไปก่อนหล่ะครับ 555

และแล้วก็เจอกับของที่ตามหาครับ เครื่องโกนหนวดไฟฟ้า
เครื่องโกนหนวดที่ไทยนั้น Spec ไม่ค่อยดีและแพงเกินไป จึงต้องดั้นด้นมาซื้อถึงที่ญี่ปุ่นนี่ครับ‥
และครั้งนี้ก็ได้ตัวสีดำด้านซ้ายไปครับ

กว่าจะได้ของที่เราต้องการไปนั้น เราต้องใช้พลังงานในการเดินที่มากมาย จนทำให้ตอนนี้ผมหิวแล้วครับ‥


และเราก็ได้มาเจอกับร้าน Garaku Pan ครับ

ดูจากรูปแล้วมันน่าจะเป็นแฮมเบอร์เกอร์ แต่ว่าจริงๆแล้วมันคือขนมปังแกงกะหรี่ครับ

ชิ้นนี้อร่อยมากๆครับ

ดูจากนามบัตรที่วางเอาไว้แล้ว น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของร้านแกงกะหรี่ที่มีชื่อเสียงของฮอกไกโดครับ
(ร้านแกงกะหรี่ชื่อ Garaku Soup Curry)

มีเครื่องดื่มผสมเม็ดแมงลักขายของไทยขายอยู่ด้วย


หลังจากของคาวแล้ว แน่นอนว่าจะไม่จบกันแบบห้วนๆแน่นอน เราก็มาต่อกันที่ของหวานที่ร้าน Kajitsu_Club ครับ

ร้านนี้ขาย Frozen Yogurt เสริฟคู่กับผลไม้ที่ชอบครับ

ผลไม้ดูสด น่ากินมาก ๆ ครับ

ส่วนราคาก็ไม่แพงมากครับ เริ่มต้นที่ประมาณ 600 เยน

อร่อยมากๆครับ เข้ากันได้อย่างลงตัวระหว่าง Frozen Yogurt กับ ผลไม้

หลังจากที่ได้นั่งพักกินไอติมไปแล้ว เรี่ยวแรงที่หดหายก็กลับมาอีกครั้งหนึ่ง ถึงเวลาที่จะต้องซื้อของฝากที่ทางบ้านฝากมาแล้วหล่ะครับ

นั่นก็คือ….

มีด !!

ร้านนี้ชื่อ Miyabun เป็นร้านที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับของมีคมครับ
ถ้ากลัวหาร้านไม่เจอก็ตามมาทางด้านนี้เลยครับ : https://goo.gl/maps/93nrKtRc4BA2

พอผมได้บอกกับที่บ้านว่าจะได้ไปฮอกไกโด แม่ของผมก็เปรยๆมาว่าอยากให้ซื้อมีดจากร้านนี้แล้วส่งมาให้จังเลยน้า ~ 555

ดาบคาตานะของญี่ปุ่นก็มีขายด้วย

ในการแวะมาดูมีดในครั้งนี้แล้วนอกจากมีดและดาบ ยังได้เห็นการทำงานภายในร้านนี้ด้วยครับ

Mission Complete 555

หลังจากที่เดินชอปปิ้งจนสำเร็จเสร็จสิ้นแล้ว ก็ถึงเวลาเลิกงานของเพื่อนผมพอดีครับ
ในวันนี้จะเดินทางไปกินเนื้อเจงกิสข่านกับเพื่อนครับ

แต่วันนี้ไม่ได้เดินทางด้วยรถเพื่อน แต่เปลี่ยนบรรยากาศมานั่งรถไฟใต้ดิน โดยนั่งมาที่สถานี Nakajima Kouen ครับ

เมื่อออกมาจากสถานีแล้ว ให้เดินไปทางด้านขวา (ด้านที่เห็นป้ายเบียร์ Kirin) ครับ

เดินเพียงแค่ 3 นาทีเท่านั้นเราก็มาอยู่ที่หน้าร้านกันแล้วครับ

และร้านที่เราจะฝากท้องในมื้อเย็นของวันนี้คือ ร้าน Kirin Beer ครับ
ขอแปะแผนที่เอาไว้เผื่อใครจะอยากมาแต่มาไม่ถูกครับ https://goo.gl/maps/hB2aT5iLFM82

เมื่อเข้ามาในร้านแล้วก็เจอกับล็อกเกอร์ฝากของฟรี เหมือนที่โรงแรมที่ผมพักเลยครับ

และก็สิ่งที่เจออยู่เสมอ ๆ ก็คือของฝากครับ ทั้งขนม โดยเฉพาะอย่างยิ่งชิ้นนี้ครับ Kirin Beer Jelly Chocolate ที่เห็นแล้วอยากลองทานดูเลยครับ

แล้วก็ทั้งเสื้อผ้าที่เป็นลายของ Kirin Beer ก็มีขายครับ

บรรยากาศของห้องอาหารครับ แต่ไม่ค่อยมีคนเลยครับวันนี้

และแม้กระทั่งร้านนี้ผมก็ยังได้รับเมนูภาษาอังกฤษมาครับ 555
ผมเป็นคนญี่ปุ่นนะ !!!

และก็ Free-Wifi ครับ

ส่วนของการสั่งอาหารก็ขอมอบหมายหน้าที่นี้ให้เพื่อนของผมครับ

วอร์มเครื่องด้วย Frozen Beer ครับ
ต้องลองจริงๆนะครับ แก้วนี้

แก้วแรกลืมถ่ายครับ เลยต้องสั่งมาใหม่เพื่อถ่ายภาพให้เพื่อนๆดู (ข้ออ้างนี้ฟังขึ้นมั้ย) 555

ของดีของฮอกไกโดที่ต้องโดนนั่นก็คือ ปูทั้ง3ชนิดครับ (ซูไว ปูขน และ ทาราบะ) สนนราคาสำหรับ 2-3 คน อยู่ที่ 7,344 เยน

แล้วก็เนื้อวากิวขนดำที่ขึ้นชื่อของเมือง Shiraoi ส่วนเซอร์ลอยด์ที่ลายสวยมาก สนนราคาสำหรับ1คนอยู่ที่ 3,218 เยน

และแล้วพระเอกของเราในวันนี้ เซ็ทเจงกิสข่านครับ เป็นเนื้อ3ส่วนของแกะครับ
ส่วนสนนราคาต่อหัวนั้น .... ลืมไปแล้วครับ 555

และก็เมนูอื่นที่สั่งไปอีกมากมาย แต่ยังไงพระเอกในมื้อนี้ของเราคือ เจงกิสข่านครับ
ยิ่งกินยิ่งอร่อย ยิ่งได้เบียร์มาด้วยแล้วยิ่งอร่อยเลยครับ สุดยอดจริง ๆ

และก็มาเจอกันสิ่งที่ทำให้เจ็บใจทีหลังนั่นก็คือส่วนลด 5% ครับ ที่อยู่ในเว็บไซต์นี้ครับ Orz
//www.kirinbeer-en.co.jp.e.dv.hp.transer.com/japani/


และเมื่ออิ่มแล้ว ผมก็กลับไปนอนที่โรงแรมครับ

ในวันนี้พักที่โรงแรมใกล้กับสถานี Sapporo ชื่อโรงแรม Hotel Fino ครับ
ขอติดแผนที่เอาไว้เผื่อมีเพื่อนๆอยากจะไปพัก
MAP: https://goo.gl/maps/MCDso9joS4G2
เพราะติดกับสถานีรถไฟ จึงสะดวกมาก ๆ ในการเดินทางครับ

กว้างยิ่งกว่าที่คิดอีกนะครับเนี่ย
ตอนจองผมจองห้อง Single ไปแต่ได้รับการ Upgrade ฟรีจากโรงแรมครับ โชคดีจัง แต่จะนอนกับใครเนี่ย !

และที่โรงแรมนี้ก็มีเครื่องปรับอากาศเหมือนกันครับ

ห้องอาบน้ำก็สะอาด กว้าง ดีจริง ๆ ครับ

และจากห้องพักสามารถมองเห็นสถานี Sapporo ได้ครับ

เฟอร์นิเจอร์ก็ครบทั้งโต๊ะเก้าอี้

ส่วนวันพรุ่งนี้ผมจะเดินทางไปยังเมืองโอตารุครับ มีแผนก็คือจะไปซื้อเบียร์และสาเกญี่ปุ่นครับ
อย่าลืมมาติดตามการท่องเที่ยวของผมต่อนะครับ


Day-1 : //chillblog.chillpainai.com/index.php?c=detail&a=index&shareid=1124
Day-2 : //chillblog.chillpainai.com/index.php?c=detail&a=index&shareid=1130

Day-4 : //chillblog.chillpainai.com/index.php?c=detail&a=index&shareid=1139