เวบบล็อกนี้ ทำขึ้นเพื่อแบ่งปันข้อมูลทางด้าน สุขภาพ ในทุก ๆ ด้าน อาทิ หน้าใส ผิวสวย ผมสลวย หุ่นเพรียว โรคน่ารู้ ชีวจิต และวิธีดูแลสุขภาพ ทั้งที่เป็นบทความ และ จากประสบการณ์ตรง สำหรับเพื่อน ๆ หนุ่มสาวสมัยใหม่ ที่รักสุขภาพทั้งหลาย ลองเข้ามาแบ่งปันข้อมูล และประสบการณ์ This blog made for share info about all healthy such as facial, skin, hair, body shape, diseases, bio-organic consumption (cheewajit) and way to take care your healthy. The blog content contain articles and from direct experience.
Group Blog
 
All Blogs
 

โรคใส้ติ่งอักเสบ


สาเหตุ
เกิดจากการที่มีการอุดตันของไส้ติ่ง โดยอาจจะอุดตันจาก เศษอุจจาระ พยาธิ ทำให้เกิดการเพิ่มความดันภายใจไส้ติ่ง ซึ่งต่อมาจะทำให้ไส้ติ่งบวม มีการเจริญเติบโตของแบคทีเรียอย่างรวดเร็ว และถ้าเป็นมากขึ้นก็อาจทำให้ไส้ติ่งแตก

อาการ

1.จะเริ่มด้วยอาการปวดท้อง โดยเริ่มปวดบริเวณรอบๆสะดือก่อน ( บางคนเริ่มปวดบริเวณท้องน้อยด้านขวาเลย ) ต่อมาจึงย้ายมาปวดบริเวณท้องน้อยด้านขวา
2.อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือ ถ่ายท้องร่วมด้วย
3.ถ้าปล่อยไว้ไม่ได้รับการรักษา อาการปวดท้องจะมากขึ้นโดยปวดทั่วท้องน้อย ( ซึ่งแสดงว่าไส้ติ่งแตกแล้ว )

การรักษา

-หากว่ามีอาการดังกล่าวหรือสงสัยว่าจะเป็นควรรีบส่งโรงพยาบาลเพื่อปรึกษาแพทย์ ซึ่งในระหว่างนี้ควรงดน้ำงดอาหารก่อน
-การรักษาในปัจจุบันที่ดีที่สุดคือการผ่าตัดเอาไส้ติ่งออก
-การกินยาแก้ปวดหรือฉีดยาแก้ปวด อาจทำให้อาการปวดลดลงได้ แต่จะเป็นผลเสียกับคนไข้ เพราะจะทำให้ตรวจพบได้ช้า และกว่าจะปวดมากอีกที
ไส้ติ่งอาจจะแตกแล้วก็ได้

ข้อแนะนำ

1.ถ้ามีอาการปวดท้องร่วมกับกดเจ็บบริเวณท้องน้อยด้านขวา ต้องนึกถึงไส้ติ่งอักเสบไว้ก่อนเสมอ
2.อาจจะมีบางโรคที่มีอาการคล้ายกับไส้ติ่งอักเสบได้ เช่น ท้องนอกมดลูก นิ่วในท่อไต ลำไส้อักเสบ




 

Create Date : 08 มกราคม 2551    
Last Update : 8 มกราคม 2551 13:00:59 น.
Counter : 1226 Pageviews.  

โรคตาต้อ

ตาต้อ หมายถึง โรคอย่างหนึ่ง เกิดที่ลูกตา ทำให้ตาพิการมองอะไรไม่เห็นชัดเจน หรืออาจทำให้ตาบอดได้

และยังให้อรรถาธิบายต่อไปด้วยว่า โรคตาต้อมีหลายชนิด ได้แก่ ต้อกระจก (Cataract), ต้อเนื้อหรือต้อลิ้นหมา (Pterygium), ต้อลำไย (Leukoma cornea) ,และต้อหิน (Glaucoma)

ต้อกระจก

เป็นต้อที่พบได้บ่อยมากในผู้สูงวัยไม่เลือกว่าชายหรือหญิง ผู้ที่เป็นต้อกระจกสายตาจะค่อยๆ มืดมัวลงเนื่องจากเลนส์แก้วตาขุ่นฝ้าลงเรื่อยๆ บดบังแสงสว่างไม่ให้เข้าไปถึงจอตาหรือเรตินาได้เต็มที่ ภาพที่เห็นจึงมัวลงคล้ายมองผ่านหมอก ถ้าแสงสว่างมากก็จะพร่ามองดูดวงไฟเห็นรัศมีพวยพุ่ง ดูเปลวเทียนเห็นคล้ายมีหลายเปลว สาเหตุใหญ่ก็คือ อายุการใช้งานของเลนส์แก้วตานั่นเอง ลองคิดดูง่ายๆ ก็เหมือนพลาสติกใสที่นานไปก็ขุ่นมัวลง บางคนเลนส์อาจขุ่นเร็วกว่าคนอื่น เนื่องจากมีสาเหตุเสริมคือ มีโรคเบาหวานด้วย หนุ่มสาวก็อาจเป็นต้อกระจกได้ ส่วนมากมักเกิดขึ้น ภายหลังอุบัติเหตุเกิดการกระทบกระเทือนอย่างแรงต่อดวงตา เช่น อุบัติเหตุรถชนกัน

ตามปกติต้อกระจกมักเริ่มเป็นเมื่อย่างเข้าสู่วัยกลางคน บางรายอาการเป็นไปอย่างช้าๆ เป็นหลายปี ก็ยังไม่มัวเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นโรคเบาหวานต้อกระจกก็จะเป็นไวขึ้น ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานเข้าเลนส์แก้วตา จะขุ่นขาวจนมองเห็นได้ ชาวบ้านเรียกว่า "ต้อสุก" ถ้าไม่สนใจรักษาก็อาจเกิดโรคแทรกซ้อนคือ ต้อหินประสาทตาเสียจนกลายเป็นตาบอดอย่างถาวรไป

การผ่าตัดรักษาต้อกระจกที่ไม่มีโรคแทรกซ้อนสมัยนี้ทำได้ง่ายกว่าสมัยก่อนมาก เมื่อก่อนนี้การผ่าตัดต้อกระจกเป็นเรื่องใหญ่ต้องนอนอยู่ในโรงพยาบาลเป็นหลายสัปดาห์ หลังการผ่าตัดห้ามผู้ป่วยขยับตัว ต้องนอนนิ่งๆ หลายชั่วโมงกว่าจะพลิกตัวได้ แต่ก็ยังห้ามลุกขึ้นจากเตียง จะทำธุระส่วนตัวไม่ว่าเบาว่าหนักต้องทำบนเตียงหมด เป็นเวลา 2 วัน ท้องอืดคลื่นไส้ก็ต้องทน ผิดกว่าสมัยนี้ที่วิทยาการและเทคโนโลยีทางการแพทย์ก้าวไกล นอนพักวันเดียวก็กลับบ้านได้ บางคนที่ใจกล้าผ่าตัดเสร็จรอเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ปร๋อกลับบ้านไปแล้ว

สมัยก่อนเมื่อผ่าตัดเอาเลนส์แก้วตาออกแล้วก็ต้องสวมแว่นตาหนาเปอะหนักอึ้ง แต่สมัยนี้มีเลนส์เทียมอันเล็กจิ๋วสอดใส่เข้าไปในแคบซูลเลย เลนส์เทียมแรกเริ่มที่มีออกใช้ราคาแพงมาก ชิ้นละหลายหมื่นบาท แต่เดี๋ยวนี้ถูกลงมากและคุณภาพก็ดีกว่าการผ่าตัดเอาเลนส์ที่ขุ่นมัวออก ก็มีเครื่องมือทันสมัยไม่ต้องกรีดให้เป็นแผลกว้างมาก เปิดเข้าไปนิดเดียวแล้วใช้เครื่องอุปกรณ์ ส่งเสียงความถี่สูงหรือเสียงเหนือโสตเข้าไปสลายเลนส์แก้วตาที่ขุ่นมัวเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแล้วดูดออก หลังจากนั้นก็สอดใส่เลนส์เทียมเข้าไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงหรือกว่านั้นเล็กน้อย ก็เรียบร้อย สะดวกทั้งแพทย์และผู้ป่วย ใครที่เคยกลัวการผ่าตัดจึงไม่ต้องวิตกอีกต่อไป รีบไปรับการผ่าตัดเสียแต่เนิ่นๆ จะได้มองอะไรต่ออะไร ได้แจ่มแจ๋วเหมือนเมื่อสมัยก่อน

ต้อเนื้อหรือต้อลิ้นหมา

เป็นโรคต้อที่เกิดเนื่องจากเยื่อตางอกจากด้านใดด้านหนึ่งหรือทั้งสองด้านของลูกตาด้านข้าง ล้ำเข้าไปยังกระจกตา (Cornea) ต้อชนิดนี้ไม่สู้รุนแรงแต่ก่อความระคายเคือง ชาวบ้านเรียกว่า "ตาลม" เมื่อตอนแรกเริ่มเป็นเพราะเมื่อถูกลมเข้าจะรู้สึกแสบและระคายเคืองตา ต้อชนิดนี้พบเป็นบ่อย ในผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง ตาถูกลมและฝุ่นละอองบ่อย เช่น ในกรรมกรก่อสร้าง เนื้อเยื่อจากมุมลูกตา จะงอกลุกลามเข้าไปหาส่วนกลางคืนกระจกตา ถ้ารุกล้ำเข้าไปจนบังรูม่านตา (Iris) ก็จะรบกวนต่อการมองเห็น

ในจำพวกต้อของตา ต้อเนื้อหรือต้อลิ้นหมารักษาหรือบำบัดได้ง่ายที่สุด โดยการลอกออก ไม่ต้องรับไว้ในโรงพยาบาลเมื่อลอกออกแล้วแพทย์ก็จะจี้ด้วยยป้องกันไม่ให้เนื้อเยื่องอกออกไปอีก

ต้อลำไย

เป็นโรคตาที่เกิดเนื่องจากกระจกตาขุ่นมัวแสงผ่านไม่ได้ เรียกว่า Leukoma cornea สาเหตุของต้อลำไย มักมาจากการอักเสบของกระจกตา (Keratitis) อาจเนื่องจากอุบัติภัยหรือโรคติดเชื้อ แต่ก่อนนี้พบบ่อยคือ การอักเสบจากแผลซิฟิลิส จนกระจกตาขุ่นขาว มองดูคล้ายเนื้อลำไย จึงได้ชื่อว่า ต้อลำไย ตาข้างนั้นก็บอดไป แต่ถ้าประสาทตายังไม่เสียและหากระจกตามาเปลี่ยนได้ก็สามารถมองเห็นได้ กระจกตาที่นำมาเปลี่ยน จำเป็นต้องได้มาจากผู้อุทิศดวงตาภายหลังสิ้นชีวิต ซึ่งยังมีไม่พอกับความต้องการของผู้ป่วย การอุทิศดวงตาภายหลังสิ้นชีวิตจึงเป็นการทำกุศลที่น่าอนุโมทนาอย่างยิ่ง

ต้อหิน

เป็นโรคตาที่เกิดเนื่องจากความดันในลูกตาสูง กดดันต่อประสาทตา ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ประสาทตาก็จะเสียเป็นเหตุให้ตาบอด ที่เรียกว่าต้อหินเพราะผู้ที่เป็นโรคนี้ลูกตาจะแข็ง เมื่อกดจะรู้สึกคล้ายกดลูกหิน ต้อหินเกิดในผู้สูงวัยมากกว่าหนุ่มสาว ต้นเหตุเกิดจากการถ่ายเทน้ำ หรือของเหลวในลูกตาขัดข้อง ไม่สามารถระบายออกได้ตามปกติ ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะอย่างแรง สายตาฝ้าฟางเมื่อมองดูดวงไฟจะเห็นคล้ายวงรัศมีสีรุ้งล้อมรอบเหมือนพระจันทร์ทรงกลด สาเหตุของต้อหินอาจเนื่องจากมุมของลูกตาแคบหรือกว้างผิดปกติ อาจเกิดจากการใช้ยาหยอดตา บางอย่างบ่อยเกินไป เช่น ยาหยอดตาที่ผสมสเตียรอยด์ หรือใช้ยาหยอดขยายม่านตา ด้วยความมุ่งหมายให้ม่านตาขยายทำให้ตาหวานคมก็ทำให้เกิดโรคต้อหินได้

อาการปวดศีรษะจากต้อหินรุนแรงมาก ยาแก้ปวดที่ใช้กันธรรมดาไม่ได้ผล แม้แต่ยาแก้ปวด ประเภทอนุพันธุ์ของฝิ่นก็ระงับได้เพียงชั่วคราว การรักษาต้องลดความดันในลูกตาลง ในระยะเริ่มแรก ใช้ยาจำพวก Acetazolamide ซึ่งเป็นยาขับน้ำถ้าเป็นมากก็ต้องใช้การผ่าตัดระบายความดันในลูกตา

นัยน์ตาเป็นอวัยวะที่ควรต้องหวงแหนและรักษาให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดี แต่บางคนกลับไม่ค่อยสนใจ เป็นอะไรก็ปล่อยให้ธรรมชาติเป็นผู้รักษา ทำให้ต้องเสียการมองเห็นไปโดยไม่สมควร ผู้ป่วยสูงอายุหลายคน ที่เคยพบทั้งรู้ๆ ว่าเป็นต้อกระจกและยังรักษาได้ก็ไม่ยอมรักษาปล่อยไว้จนประสาทตาเสื่อม อ้างว่าไม่มีเงินบ้าง ทั้งๆ ที่ลูกหลาน ยินดีช่วยเหลือออกค่าใช้จ่ายให้ บ้างก็ว่าแก่แล้ว ตาไม่เห็นก็ไม่เป็นไร บางคนก็กลัวการผ่าตัด คิดดูแล้วไม่สมเหตุผลต่อการที่ต้องเสียการมองเห็นอันเป็นสัมผัสที่สำคัญอย่างหนึ่งไป




 

Create Date : 08 มกราคม 2551    
Last Update : 8 มกราคม 2551 12:53:16 น.
Counter : 627 Pageviews.  

โรคตับอักเสบ


อาจเกิดได้จากสาเหตุหลายอย่างเช่นจากการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรียเชื้อรา โปรโตซัว หรือหนอนพยาธิ นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากการได้รับยาหรือสารพิษบางอย่างด้วย แต่สาเหตุที่สำคัญที่สุดคือ การติดเชื้อไวรัส มีไวรัสหลายชนิดทำให้เกิดโรคตับอักเสบได้ โรคตับอักเสบมี 2 ชนิด
โรคตับอักเสบเฉียบพลัน [acute hepatitis]
หมายถึงโรคตับอักเสบที่เป็นไม่นานก็หาย ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการ 2-3 สัปดาห์โดยมากไม่เกิน 2 เดือน ผู้ป่วยส่วนใหญ่หายขาดจะมีบางส่วนเป็นตับอักเสบเรื้อรัง และบางรายรุนแรงถึงกับเสียชีวิต
โรคตับอักเสบเรื้อรัง [chronic hepatitis]
หมายถึงตับอักเสบที่เป็นนานกว่า 6 เดือนจะแบ่งเป็น 2 ชนิด

chronic persistent เป็นการอักเสบของตับแบบค่อยๆเป็นและไม่รุนแรงแต่อย่างไรก็ตามโรคสามารถที่จะทำให้ตับมีการอักเสบมาก

chronic active hepatitis มีการอักเสบของตับ และตับถูกทำลายมากและเกิดตับแข็ง

อาการ
ตับอักเสบเฉียบพลัน ผู้ป่วยจะมีอาการที่พบได้บ่อย คือ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ ปวดข้อ คลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหาร อาจจะพบผื่นตามตัว หรืออาการท้องเสีย บางรายปัสสาวะสีเข้ม ตัวเหลืองตาเหลือง ซึ่งอาการตัวเหลืองตาเหลืองจะหายไป 1-4 สัปดาห์ แต่บางรายอาจนาน 2-3 เดือน ส่วนใหญ่จะหายเป็นปกติ โรคไวรัสตับอักเสบ บี พบว่าร้อยละ 5-10 เป็นตับอักเสบเรื้อรัง ส่วนไวรัสตับอักเสบ ซี ร้อยละ 85 เป็นตับอักเสบเรื้อรัง
ตับอักเสบเรื้อรัง ผู้ป่วยมักไม่มีอาการ แต่จะมีการทำลายเซลล์ตับไปเรื่อยๆจนเกิดตับแข็ง และเป็นมะเร็งตับในที่สุด

สาเหตุ

ตับอักเสบเฉียบพลัน ผู้ป่วยจะมีอาการที่พบได้บ่อย คือ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ ปวดข้อ คลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหาร อาจจะพบผื่นตามตัว หรืออาการท้องเสีย บางรายปัสสาวะสีเข้ม ตัวเหลืองตาเหลือง ซึ่งอาการตัวเหลืองตาเหลืองจะหายไป 1-4 สัปดาห์ แต่บางรายอาจนาน 2-3 เดือน ส่วนใหญ่จะหายเป็นปกติ โรคไวรัสตับอักเสบ บี พบว่าร้อยละ 5-10 เป็นตับอักเสบเรื้อรัง ส่วนไวรัสตับอักเสบ ซี ร้อยละ 85 เป็นตับอักเสบเรื้อรัง
ตับอักเสบเรื้อรัง ผู้ป่วยมักไม่มีอาการ แต่จะมีการทำลายเซลล์ตับไปเรื่อยๆจนเกิดตับแข็ง และเป็นมะเร็งตับในที่สุด

คำแนะนำ

1. ฉีดวัคซีนป้องกันโรคนี้ โดยเฉพาะในเด็ก
2. ควรแยกอุปกรณ์เครื่องใช้กับผู้ที่ติดเชื้อ เช่น แก้วน้ำ จาน ช้อนซ่อม เป็นต้น
3. หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหักโหมในช่วงที่มีการอักเสบของตับ แต่การออกกำลังอย่างสม่ำเสมอในตับอักเสบเรื้อรังสามารถทำได้
4. งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
5. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และพักผ่อนอย่างพอเพียง ไม่ต้องดื่มน้ำหวานมากๆ เพราะทำให้ไขมันสะสมที่ตับเพิ่มขึ้น




 

Create Date : 08 มกราคม 2551    
Last Update : 8 มกราคม 2551 12:38:36 น.
Counter : 350 Pageviews.  

โรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ


โรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศในปัจจุบัน หมายถึง โรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศในเพศชาย คือการที่อวัยวะเพศ ไม่แข็งตัว หรือการแข็งตัวไม่สมบูรณ์ของอวัยวะเพศ คำเดิมที่ใช้คือ การหมดสมรรถภาพทางเพศ

สาเหตุ
มีหลาย ระดับ หากไม่นับโรคทางกาย เช่น อัมพฤก อัมพาต โรคเกี่ยวกับ ระบบเส้นเลือด เบาหวาน ความดันโลหิตสูงหัวใจ โรคเหล่านี้ ทำให้เกิดอาการเสื่อมได้ทั้งสิ้น เนื่องจากสุขภาพทางกายไม่แข็งแรง

ในคนปกติทั่วไป หากมีโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศเกิดขึ้น มีปัจจัยทั้งด้านจิตใจและสิ่งแวดล้อมเข้ามา เกี่ยวข้องในการวิจัยที่ต่างประเทศ

การเสื่อมในผู้ชายที่แข็งแรง อายุเฉลี่ย 40-60 ปี พบว่าการเสื่อมมีสูงถึงประมาณใกล้เคียง 50 % คือ 1 ใน 2 คนมีภาวะเสื่อม การเสื่อมมีหลายระดับ เช่น เสื่อมเล็กน้อย หรือเสื่อมบางครั้งบางคราว เสื่อมปานกลาง คือ เริ่มมีกิจกรรมทางเพศไม่ได้ และการเสื่อมสมบูรณ์แบบ คือ ไม่สามารถมีกิจกรรมทางเพศได้อีกเลย เป็นที่น่าสังเกตว่าการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศเริ่มแฝงตัวในคนปกติมากขึ้นเรื่อย ๆ

วิธีรักษา

แพทย์จะซักประวัติผู้ป่วยทั้งประวัติส่วนตัว ประวัติการเจ็บป่วย ประวัติการผ่าตัดแพทย์จะตรวจร่างกาย เพื่อดูระบบประสาท ระบบกล้ามเนื้อ ตรวจอวัยวะเพศเพื่อหาความผิดปกติ อะไรที่มีส่วนเกี่ยวข้องบางครั้ง มีการเจาะเลือด เอ็กซเรย์ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับแพทย์ในการเลือก




 

Create Date : 08 มกราคม 2551    
Last Update : 8 มกราคม 2551 12:37:07 น.
Counter : 369 Pageviews.  

ชายวัยทอง


ภาวะการพร่องฮอร์โมนใน...ชายวัยทอง

ความเชื่อที่มีกันมานานว่า ผู้ชายจะคงความเป็นชายหรือมีการสร้างฮอร์โมนเพศชายไปตลอดชีวิต ส่วนผู้หญิงนั้นเมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนแล้วรังไข่จะหยุดการสร้างฮอร์โมนเพศหญิง ทำให้เกิดกลุ่มอาการต่างๆ ทั้งทางด้านร่างกายจิตใจ และอารมณ์

แท้ที่จริงแล้ว เมื่ออายุย่างเข้าวัย 40 ปีขึ้นไป การสร้างฮอร์โมนเพศชายจะลดลงอย่างสม่ำเสมอทุกปี เมื่อระดับของฮอร์โมนเพศชายลดลงถึงระดับหนึ่งจะเกิดภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชายไปบางส่วน ทำให้เกิดอาการต่างๆคล้ายกับผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน

ภาวะการพร่องฮอร์โมนเพศชายดังกล่าว มักจะเริ่มเกิดขึ้นเมื่อผู้ชายย่างเข้าสู่วัยกลางคน และอาการต่างๆจะแสดงออกเมื่อระดับฮอร์โมนเพศชายลดลงกว่าระดับปกติของร่างกายประมาณ 20 เปอร์เซนต์ การพร่องฮอร์โมนเพศชายไปบางส่วนนี้จึงมีชื่อเรียกว่า " พา - ดาม " ตรงกับคำในภาษาอังกฤษคือ PADAM ซึ่งย่อมาจากคำว่า PARTIAL ANDROGEN DEFICIENCY OF THE AGING MALE

ผลการศึกษาวิจัยที่เชื่อถือได้มาจากการศึกษาของมหาวิทยาลัยบอสตันประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าเมื่อผู้ชายอายุย่างเข้า 40 ปี การสร้างฮอร์โมนเพศชายจะลดลงปีละ 1 เปอร์เซนต์ และอาการต่างๆ อันเป็นผลมาจากการขาดฮอร์โมนเพศชายนั้น จะค่อยเป็นค่อยไป ไม่เกิดขึ้นรวดเร็วและอาการมากเหมือนผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน

อาการ ! ที่บ่งบอกถึง " ภาวะการพร่องฮอร์โมนเพศชาย "

อาการระยะแรก : เมื่อร่างกายเริ่มพร่องฮอร์โมนเพศชาย อวัยวะต่างๆ ที่มีส่วนสัมพันธ์กับฮอร์โมนเพศชายจะเริ่มเสื่อมลง ทำงานลดลงและเกิดอาการทางด้านจิตใจและอารมณ์ตามมา

อาการทางด้านร่างกาย : จะมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ปวดเมื่อยตามตัวโดยไม่มีสาเหตุ ไม่กระฉับกระเฉง กล้ามเนื้อต่างๆลดขนาดลง ไม่มีแรง และอวัยวะเพศเริ่มไม่แข็งตัวในช่วงตื่นตอนเช้า

อาการทางด้านสติปัญญาและอารมณ์ : เครียดและหงุดหงิดง่าย โกรธง่าย เฉื่อยชา ขาดสมาธิในการทำงาน ความจำลดลง โดยเฉพาะความจำระยะสั้น

อาการทางด้านระบบไหลเวียนโลหิต : บางคนอาจมีอาการ ร้อนวูบวาบหรือมีเหงื่อออกในตอนกลางคืน

อาการทางด้านจิตและเพศ : จะมีอาการนอนไม่หลับ ตื่นตกใจง่าย สมรรถภาพทางเพศและความต้องการทางเพศลดลง หรือ ไม่มีอารมณ์เพศ บางคนเกิดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศด้วย ปัจจุบันพบว่าชายไทยหลังอายุ 40 ปีไปแล้ว มีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศเพิ่มขึ้น เพราะไม่มีอารมณ์เพศ เนื่องจากฮอร์โมนเพศชายเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอารมณ์เพศเมื่อระดับฮอร์โมนเพศชายลดลง จึงไม่เกิดอารมณ์ที่จะมีเพศสัมพันธ์ รวมทั้งอวัยวะเพศชายเมื่อขาดฮอร์โมนเพศชายไปกระตุ้นแล้วก็มักจะเสื่อมลงตามไปด้วย
.... ภัย...ที่รุกรานในระยะยาว
ระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ

ผลของการขาดฮอร์โมนเพศชายจะทำให้กระดูกบางลง เป็นโรคกระดูกพรุนได้ เช่นเดียวกับผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ทำให้เกิดกระดูกหักในผู้ชายสูงวัยได้ นอกจากนี้กล้ามเนื้อจะค่อยๆลดขนาดลง โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ชอบออกกำลังกาย มีผลให้ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อลดลง

ระบบหลอดเลือดและหัวใจ

ฮอร์โมนเพศชายมีหน้าที่ช่วยการเผาผลาญไขมันในร่างกาย ทำให้กระจายตัวของไขมันเป็นปกติ เมื่อขาดฮอร์โมนเพศชายจะทำให้ไขมันเลือดสูง มีผลทำให้ไขมันไปเกาะที่ผนังของเส้นเลือด ทำให้ขนาดของเส้นผ่าศูนย์กลางเส้นเลือดลดลงและทำให้ผนังเส้นเลือดไม่ยืดหยุ่นเท่าที่ควร ทำให้เลือดไหลผ่านเส้นเลือดได้น้อยลง โดยเฉพาะถ้าเลือดไปเลี้ยงหัวใจน้อยหัวใจน้อยลง เป็นผลให้หัวใจขาดเลือดไปเลี้ยง

สมรรถภาพทางเพศ

เมื่อร่างกายขาดฮอร์โมนเพศชายไปนานๆเข้า นอกจากอารมณ์เพศและการตอบสนองทางเพศลดลงแล้ว ความถี่ของการมีเพศสัมพันธ์ ความถี่ในการถึงจุดสุดยอด รวมทั้งความพึงพอใจในการมีเพศสัมพันธ์ จะลดลงไปตามระดับของฮอร์โมนเพศชายที่ขาดหายไป รวมทั้งระยะเวลาที่ขาดหายไปด้วย

คุณภาพชีวิต

ผู้ชายส่วนใหญ่แล้วมักจะนำเอาความสามารถ และสมรรถภาพทางเพศมาเกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิต ดังนั้น เมื่อความสามารถในด้านนี้ลดลงจึงทำให้คุณภาพชีวิตลดลงไปด้วย

นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ทั้งทางด้านร่างกายจิตใจและอารมณ์ที่เกิดขึ้นในผู้ชายวัยทอง จะเป็นสิ่งที่ซ้ำเติมให้คุณภาพชีวิตลดลงไปอีก

เตรียมกายเตรียมใจเข้าสู่วัยทอง

การเตรียมตัวที่ดีย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง บางคนกล่าวว่าชีวิตเริ่มต้นเมื่อพ้นสี่สิบ ในวัยทองนี้จะต้องหมั่นรักษาสุขภาพกาย สุขภาพใจให้ได้ ใช้ชีวิตอย่างสุขุมรอบคอบ เดินสายกลาง ปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิตให้เหมาะสม ทั้งการทำงาน การพักผ่อนสันทนาการ การออกกำลังกาย รวมทั้งการทำจิตใจให้สงบ ควบคุมอาหารการกินให้ได้สัดส่วนและเหมาะสมกับวัย และแน่นอนว่าถ้าระดับฮอร์โมนเพศชายที่ลดลงไปนั้น ทำให้คุณภาพชีวิตเลวลงแล้ว การไปขอคำปรึกษาจากแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ และรับฮอร์โมนเพศชายเสริมให้ได้ระดับปกติ อาจทำให้อาการต่างๆ อันไม่พึงประสงค์หมดไปและคุณภาพชีวิตดีขึ้น




 

Create Date : 08 มกราคม 2551    
Last Update : 8 มกราคม 2551 12:36:14 น.
Counter : 274 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  

Narin2240
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]


ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Google

Friends' blogs
[Add Narin2240's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.