มาไวจังเลยนะคะ..." พนักงานที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ของสำนักพิมพ์ทักทายขณะที่เขายืนแลกบัตร จากนั้นก็มีหัวหน้างานเดินพาเขาไปส่งที่ห้องประชุมของบริษัท
สวัสดีครับ คุณธวัชใช่ไหมครับ? ชายวัยกลางคนสวมแว่นหนายื่นมือมาให้เขาจับ วันนี้ผมรับอาสาเป็นตากล้องเอง... พอดีว่าฟรีแลนซ์เจ้าประจำเขาป่วยได้สามเดือนกว่าแล้ว อ้อ! ผมบูรพานะครับ เป็นบรรณธิการบริหารของมูฟวี่มาเนียร์
คิวแน่นหรือครับช่วงนี้ เห็นคุณโธมัสบอกว่าต้องเลื่อนคิวเข้าออกกันวุ่นเลย
ก็... นิดหน่อยครับ เขาตอบรับไปอย่างอ้อมแอ้ม
ฝากเรียนคุณโธมัสด้วยนะครับ ว่าผมยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกันอีก ถ้าอย่างไรระหว่างนี้ คุณธวัชดูนิตยสารฉบับเก่าๆ ของเราไปก่อนละกัน ผมจะให้เด็กยกของว่างมาให้ เดี๋ยวถ้าช่างแต่งหน้าและสไตล์ลิสต์มาถึงก็จะให้เริ่มกันเลย
เวลาของเขาหายไปสามวันจริงๆ หรือนี่??
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่... ถ้าเขาจะนอนตายอยู่ถึงสามวัน แล้วใครกันที่เป็นคนรับโทรศัทพ์จากพี่ก้อยฝ่ายประสานงานกองถ่าย แล้วไหนที่พี่โธมัสบอกว่าเราบ่ายเบี่ยงเรื่องงานและพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง
ถ้ามีบทสนทนาทางโทรศัพท์อย่างนั้นจริงๆ เขาก็ต้องจำอะไรได้บ้างสิ... แต่นี่กลับไม่มีก้อนข้อมูลแห่งความทรงจำถึงเรื่องราวเหล่านั้นเลย
โทรศัพท์??
ธวัชรีบล้วงสมาร์ทโฟนออกมาจากกระเป๋ากางเกง เขารีบเช็คประวัติการโทรเข้า-ออก ในช่วงสอง-สามวันมานี้
มีการโทรเข้า-และรับสายจริงๆ ด้วย และบางสายเขาก็ไม่ได้รับ
ในเมลบ๊อกซ์ของเขาขึ้นข้อความมากมาย ทั้งการนัดเตือน การทวงถาม การตำหนิว่าไม่ไปตามนัด
มีเบอร์โทรออกแปลกๆ อยู่สามเบอร์ด้วย
เขาโทรหาใคร??
ขณะที่ธวัชกำลังชั่งใจว่าจะลองติดต่อหนึ่งในสามเบอร์ที่เขาได้โทรหาขณะ หลับฝัน จู่ๆ หนึ่งในหมายเลขเหล่านั้นก็เรียกเข้ามา
สวัสดีครับ... เขากรอกเสียงลงไป
สวัสดีครับคุณธวัช... จากสาธรมอเตอร์ครับ รถยนต์ที่ทางคุณได้สั่งไว้ ตอนนี้เรียบร้อยแล้วนะครับ ถ้าเย็นนี้สะดวกก็เข้ามาเซ็นเอกสารและรับรถได้เลย
เดี๋ยว... รถอะไรครับ?
อ้าว... ก็รถที่คุณธวัชสั่งซื้อเอาไว้ไงล่ะครับ ทางเราได้รับเงินมัดจำเรียบร้อยแล้วด้วย ในส่วนที่เหลือก็มาชำระตามยอดเงินดาวน์ที่คุยกันไว้ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปครับ
เมื่อทางนั้นวางสายไป ธวัช ถึงกับมือสั่น ...รถยนต์หนึ่งคัน??
นี่เขาซื้อรถยนต์แล้วหรือเนี่ย?
เขาตื่นแล้วจากฝันของความเป็น กฤต แต่นี่เขากำลังฝันในความเป็น ธวัช ด้วยรึเปล่า?
ด้วยมืออันสั่นเทา เขารีบกดเบอร์โทรศัพท์หนึ่งในสองหมายเลขที่เหลืออยู่ทันที!
เฮลโล่... ดาร์ลิ่ง ปลายสายส่งเสียงหวานเยิ้มให้เขา คิดถึงเค้าเหรอคะ? เบบี๋
เอ่อ... นั่นใครครับ? เขาอึ้งไปพักหนึ่งก่อนตัดสินใจถาม
อาร์ ยู คิดดิ้ง? ไม่เอานะดาร์ลิ่ง คืนนี้สัญญากันแล้วไงว่าเราจะเจอกันที่เดิม... ไปตามนัดให้ได้นะคะ ไม่งั้นไองอนยูจริงๆ ด้วย แค่นี้ก่อนนะ เค้ากำลังทำผมอยู่
เดี๋ยวๆ... ธวัชระล่ำระลัก เอ่อ... คุณจำได้ไหมว่าผมชื่ออะไร?
หญิงสาวปลายสายหัวเราะร่วน โธ่ เราไม่ได้เมากันหัวทิ่มขนาดนั้นซะหน่อย ทำไมไอจะรีเมมเบอร์มายบอยเฟรนด์ไม่ได้ล่ะคะ
กฤต
จบคำ หญิงสาวแปลกเสียงคนนั้นก็วางสายไป
นี่มันไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเสียแล้ว...
แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมา เขาก็พบกับดวงตาเฉยชาที่กำลังจ้องมองอยู่
เอิง ก็มาถึงห้องประชุมด้วยแล้วเช่นกัน...
ปกติแล้ว เอิง มักจะยิ้มแย้มและพูดจาหยอกล้อเขาอยู่เสมอ หลายเดือนกับชีวิตในกองถ่าย บ่อยครั้งที่นางพญาแห่งวงการบันเทิง ได้เผยตัวตนที่แท้จริงก็เป็นแค่เด็กสาวที่ยังอยากสนุกสนานกับชีวิตของคนธรรมดา เธอชอบกินของอร่อยๆ ชอบฟังเพลงและร้องเพลงด้วยคีย์เสียงสูง ชอบเซลฟี่ด้วยการทำหน้าตาประหลาดๆ เธอชอบสะสมของแปลกๆ ...และเธอก็ยังเป็นเด็กขี้แกล้งประจำกองถ่ายเสียด้วย
แต่ตอนนี้เธอกลับเงียบเฉยและไม่แม้แต่จะทักทายเขาด้วยซ้ำ
สวัสดีครับคุณเอิง... ธวัชเริ่มบทสนทนาหลังจากที่ดาราสาวจับจองเก้าอี้ตัวที่ไกลที่สุดจากเขาเรียบร้อยแล้ว
ค่ะ เธอแค่รับคำสั้นๆ
บรรยากาศที่ไม่เหมือนเดิม ทำเอาธวัชไม่รู้จะเริ่มยังไงต่อ และที่ผ่านมานั้นเขาเองก็เป็นคนผู้น้อยระมัดระวังคำพูดกับซุปเปอร์สตาร์สาวคนนี้อยู่ตลอด ด้วยกลัวที่จะไปทำอะไรอันเป็นการล่วงเกินเธอ
วันนี้มาแค่คนเดียวเหร....
เดี๋ยวรอเจ๊ตุ้มมาถึงแล้วเราค่อยคุยงานดีกว่าค่ะ เธอตัดบทด้วยสีหน้าเรียบเฉย พร้อมกับหยิบหูฟังขึ้นมาเสียบหู ทำเป็นก้มหน้าเล่นโทรศัพท์แล้วหมุนเก้าอี้หันหลังให้กับเขา
มันต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นอย่างแน่นอน...
โดยเฉพาะระหว่าง เขา และ เธอ
และหากเขาคือ กฤต ตอนที่อยู่กับเอย
แล้วใครล่ะที่อยู่กับ เอิง ในขณะนั้น
จำได้ลางๆ ว่าสองวันก่อน ในตารางงานของเขา มีต้องไปถ่ายโฆษณากับสินค้าของสปอนเซอร์อยู่ชิ้นหนึ่ง ...ในคิวงานระบุไว้ว่าเขาและเอิงจะพบกันสั้นๆ ที่บริษัทของผู้สนับสนุน และร่วมถ่ายภาพกับเจ้าหน้าที่อาวุโสของที่นั่น
ก่อนที่เขาจะมองหาหนังสือพิมพ์ หรือนึกช่องทางในการหาอ่านข่าวสารใดๆ เจ๊ตุ้มผู้จัดการส่วนตัวของคุณเอิงก็เข้ามาพอดี
สวัสดีค่า... พ่อสุดหล่อ รู้สึกว่าจะคิวทองนะคะช่วงนี้ เล่นเอาเจ๊นี่สับรางรถไฟจัดคิวแลนดิ้งให้แทบไม่ทันเลยนะคะ พอมาถึงนางก็จีบปากจีบคอตามสไตล์
ขอโทษครับเจ๊... ถึงแม้ธวัชไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ก็แน่ใจว่านี่คือความผิดของเขาเต็มๆ
แหม... กลับมาเรียบร้อยน่ารักเหมือนเดิมแล้วเหรอคะวันนี้ เจ๊ตุ้มเอียงคอเลิกคิ้วถาม ธวัชได้แต่ยิ้มแหยๆ พยักหน้า
แต่ว่า.... เจ๊มาคิดๆ ดูนะ ผู้จัดการส่วนตัวของเอิงทำท่าทางไตร่ตรอง
ให้มีข่าวคู่จิ้นนอกจอก็ดีเหมือนกัน ยังไงก็มีแต่ได้กับได้อยู่แล้ว
เจ๊... พอเถอะ! หนูไม่เอาแล้วนะ ...ละครเรื่องที่แล้วก็แบบนี้อ่ะ หนูไม่อยากแก้ข่าว เอิงเสียงดังขึ้นมาทันที ราวกับว่าที่เปิดเพลงฟังอยู่นั้นเป็นแค่การเสแสร้ง
แล้วเธอจะให้ฉันทำยังไง? ข่าวมันก็ออกไปแล้ว... วันนั้นนักข่าวก็เยอะแยะ เดี๋ยวก็ตามกันมาเป็นพรืดอยู่ดี ...เธอก็แค่ปฏิเสธไปเหมือนที่ผ่านมานั่นแหล่ะย่ะ
เนอะ.... เจ๊ตุ้มหันมาทางธวัช
เรื่องอะไรหรือครับ?? หนุ่มนักแสดงหน้าใหม่ถาม
โถ... เห็นแบบนี้ ทีแรกเจ๊ก็คิดว่าเราไม่เป็นมวย อย่าทำใสซื่อเลยค่า... พรุ่งนี้ดึกๆ แวบไปกินข้าวเย็นสองต่อสองให้มีภาพหลุดอีกหน่อย แค่นี้สื่อก็ตีข่าวกันวี้ดว้าย คนเขาก็รอดูหนังกันพรึ่บละ ผู้จัดการส่วนตัวข้ามเพศของดาราสาวจีบปากจีบคอดวงตาทอประกาย เอียงคอซ้ายขวาอย่างชอบอกชอบใจ
แล้วแต่เจ๊ละกัน... เอิงพูดพร้อมกับก้มไปมองโทรศัพท์ เหมือนจะไม่อยากรับรู้อะไรอีก
คู่จิ้นพระ-นาง ...จะหนังจะละครเขาก็มีกันทั้งนั้นแหล่ะ เจ๊ตุ้มพูดต่อด้วยใบหน้าระรื่น
แต่คนที่เครียดหนักคือดาราหนุ่มผู้ที่ยังไม่ได้แจ้งเกิด
ผู้ชายที่ชื่อ กฤต ต้องมีตัวตนอยู่จริง และเขาต้องสร้างเรื่องเอาไว้ภายใต้ใบหน้าของ ธวัช มากมายเลยทีเดียว!