
 |
|
 |
 |
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | |
|
|
|
|
 |
 |
|
|
ริมโขง..วาเลนไทน์และการเดินทางของความรัก (1)
 หารูปที่ถ่ายริมโขงบุ่งคล้าไม่เจอ..เลยนำรูปตอนจัดโครงการจักรยานสัญจร ท่องเที่ยวริมโขง มาแทนก่อน..
ทุกชีวิตมีวิถีการเดินที่แตกต่างถึงแม้จะมีการซ้ำรอยแต่ไม่เคยซ้ำแบบ
เช้าวันนี้ ผมมีธุระเนื่องด้วยภาระหน้าที่บางอย่าง ต้องเดินทางไปที่อำเภอบุ่งคล้า...อำเภอบุ่งคล้าเป็นอีกหนึ่งอำเภอที่ทำหน้าที่บอกเขตการสิ้นสุดของพื้นที่จังหวัดหนองคายถัดจากจุดนี้ไปขึ้นกับเขตอำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม
เส้นทางจากบึงกาฬไปยังบุ่งคล้าถือว่าสะดวก ใช้เส้นทางหลวงสาย 212 ถนนถูกตัดลัดเลาะริมโขงเชื่อมโยงไปยังนครพนม และมุกดาหาร การเดินทางบนเส้นทางสายนี้จึงให้ความเพลิดเพลิน เจริญใจมิใช่น้อย (สำหรับนักเดินทางเช่นผม) บางช่วงถนนถูกตัดลัดเลาะริมโขงห่างกันเพียงไม่กี่เมตร โดยเฉพาะช่วงชัยพร รอยต่อของเขตบึงกาฬ - บุ่งคล้า จะต้องผ่านโค้งขึ้นเนินเขาเล็กๆ ทำให้เรามองเห็นลำน้ำโขงได้ถนัดตา แต่ช่วงเวลานี้กำลังจะเข้าหน้าแล้ง ก็จะเห็นเนินหาดทรายเป็นแผ่นแนวยาวขนานร่องน้ำไปไกลสุดลูกตา ยิ่งถ้าใครเดินทางช่วงเช้าตรู่หรือยามเย็น เวลาพระอาทิตย์ลับเหลี่ยมยอดไม้สาดแสงกระทบสายน้ำ จะให้แสงเงางามยิ่งนัก จนอดจะชะลอรถหรือหยุดรถชมไม่ได้...แน่นอนว่า ณ ที่นี้ไม่ใช่จุดหมายปลายทาง แต่การเดินทางทุกครั้งก็ไม่ควรละเลยต่อจุดหมายรายทาง หรือ จุดหมายระหว่างทาง...ทุกเส้นทางเดินมักเป็นเช่นนี้เสมอ
ถัดโค้งดังกล่าวขึ้นมาเพียงกระพริบตา เราก็จะมองเห็นสถาปัตยกรรมกระติบข้าวขนาดใหญ่ ช้างและก็กิ่งก่าตัวเขื่อง ที่ชาวนครสร้างไว้ เพื่อบอกนักท่องเที่ยวและคนเดินทางว่าท่านกำลังเข้าเขตบุ่งคล้า ทำไมกระติบข้าว ช้างป่าและกิ้งก่าภูวัวจึงถูกใช้เป็นลักษณ์ของชาวบุ่งคล้า เอาไว้วันหลังมีเวลา จะบันทึกไว้เพิ่มนะครับ (บอกตัวเอง..หุหุ)
ผมเดินทางถึงบุงคล้าในเวลาประมาณ 10.30 น. ถ้าเป็นวันเวลาปกติ พระอาทิตย์ก็คงกำลังทำหน้าที่ให้ความอบอุ่นแก่สรรพชีพ อย่างเต็มกำลัง แต่ในวันนี้ดูเหมือนบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นได้ปกคลุมแถบละแวกนี้อย่างทั่วถึง (สำนวนยังกะกรมอุตุ เนอะ...ฮ่าๆๆ) ทำให้วันนั้นทั้งวัน(ตลอดช่วงเวลาที่ผมอยู่)ไร้แสงพระอาทิตย์ ซ้ำลมจากเทือกเขาภูงู(ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) จากฝั่งลาวยังหอบเอาไอหนาวมาอย่างแผ่วเบาแต่รักษาระยะเวลายาวนานอย่างสม่ำเสมอ
ผมมีภารกิจในโรงเรียนมัธยมประจำอำเภอ แต่เนื่องจากการนัดหมายผิดพลาด (ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติซะด้วย) ผมจึงได้มีโอกาสเข้าไปนั่งฟังเวทีจะบอกว่าเป็นการอบรมก็ไม่ใช่ แต่เป็นเชิงเสวนาให้ประสบการณ์กับนักเรียนที่กำลังจบการศึกษาระดับมัธยมของโรงเรียนบุ่งคล้านครมากกว่า...ชื่อโรงเรียนนี้ผมชอบจัง...บุ่งคล้านคร...ฟังดูแล้วให้คิดถึงว่าถ้าเป็นสมัยก่อน พื้นที่ห่างไกลจากกรุงราชธานีเช่นนี้คงมีสถานะเป็นเมืองประเทศราช ที่เมืองหลวงคงให้สิทธิและอำนาจแก่เจ้าเมืองปกครองกันเองเป็นแน่...
พูดถึงอำเภอบุ่งคล้าและโรงเรียนบุ่งคล้านคร...ผมว่าเป็นอีกพื้นหนึ่งที่มีความกลมกลืนและสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติภายใต้ขุนเขาและสายน้ำ ทำให้ผมคิดถึงแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่เคยได้สัญจร รอนแรมไปพักอาศัยถึงสองครั้งสองครากับมิตรสหายแต่เมื่อคราวเพิ่งเริ่มฝึกหัดการเดินทางเมื่อขวบวัยย่าง 17 -18 ...แต่สายน้ำและขุนเขาที่แม่สะเรียง ก็แตกต่างจากที่บุ่งคล้า เช่นเดียวกับมิตรภาพและผู้คน สวยงามแต่แตกต่าง
เมื่อความคิดแล่นถึงแม่สะเรียงและนิ้วสัมผัสบนแป้นพิมพ์ ทำให้ความคิดผมพรั่งพรู โดยเฉพาะมิตรสหายจากแม่สะเรียง...บางทีชีวิตก็เป็นเรื่องเหลือเชื่อ และยากจะคาดเดา เช่นเดียวกับมิตรภาพ กว่าจะสั่งสมและก่อเกิดเป็นความยั่งยืนใช้เวลาเรียนรู้และวัดใจกันไม่น้อย อาจหลายสิบปี จนบางครั้งทำให้เรามั่นใจว่า คนนี้ละคือเพื่อนตาย แต่เมื่อบททดสอบมาถึง ซึ่งมันมาในนามของหญิงสาวและความรัก มันก็อาจทำให้มิตรภาพขาดลงได้เพียงชั่วขณะจังหวะการเต้นของหัวใจ....(ขออนุญาตตัวเองหยุดบันทึกไว้ก่อน มีภารกิจต้องทำคืนนี้..แล้วจะบันทึก ริมโขง วาเลนไทน์และการเดินทางของความรัก ต่อให้จบ.)
Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2551 |
|
3 comments |
Last Update : 25 เมษายน 2555 17:44:20 น. |
Counter : 2151 Pageviews. |
|
 |
|
|
โดย: min (kaminkp ) วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:22:32:24 น. |
|
โดย: ทิวาจรดราตรี วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:14:12:45 น. |
|
โดย: ทิวาจรดราตรี วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:14:12:45 น. |
|
| |
|
ภูโขง |
 |
|
Location :
หนองคาย Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

|
เกิดขอนแก่นแล่นตามชะตาชีวิต หัวหกก้นขวิดทางการศึกษา เสาะแสวงหาบางสิ่งบางอย่างแถวท่าพระจันทร์อยู่สิบกว่าปี มุ่งหน้าหนีแสงสีของศูนย์กลางอำนาจ วันหนึ่งพบว่าตัวเองหันหน้าให้แม่โขงส่งก้นให้มหานครเป็นระยะทางกว่า 700 กิโลเมตร...ยังบอกไม่ได้ว่าชีวิตจะไปไหนต่อ...คนบึงกาฬ
|
|
 |
|