ค่าย Nest ได้ฤกษ์อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยให้แก่บ้านเจเนอเรชัน 2 แล้ว โดยในเวอร์ชันนี้มีกล้องความละเอียดสูง Nest Cam ที่สามารถถ่ายภาพในเวลากลางคืนได้ พร้อมแพกเกจเก็บไฟล์ไว้บนคลาวด์เพื่อการเรียกดูด้วย หลังจากถูกกูเกิล (Google) ซื้อกิจการไปเมื่อต้นปี ค.ศ.2014 ด้วยมูลค่าถึง 3.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ความเคลื่อนไหวของค่าย Nest ก็เป็นที่จับตามาตลอด ล่าสุด ทางค่ายได้เปิดตัวอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยสำหรับบ้านชุดใหม่แล้ว โดยมีทั้งอุปกรณ์ตัวเดิมอย่าง Nest Protect ที่ได้รับการอัปเดตความสามารถใหม่ และ Nest Cam กล้องความละเอียดสูง (1080p) ซึ่งสามารถสตรีมมิงภาพวิดีโอแบบเรียลไทม์มายังแอปบนสมาร์ทโฟนของผู้ใช้ได้ และทางบริษัทจะคิดค่าบริการเพิ่มเติมหากผู้ซื้อต้องการพื้นที่บนคลาวด์สำหรับเก็บข้อมูลด้วย
|
สำหรับการพัฒนา Nest Cam นั้น อิงจากโครงสร้างของเดิมของ Dropcam ซึ่งเป็นบริษัทที่ Nest ซื้อกิจการมาเมื่อปีก่อนด้วยมูลค่า 555 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยตัวกล้องที่สามารถถ่ายภาพในเวลากลางคืนจึงอาจเหมาะสำหรับครอบครัวที่แยกห้องนอนกับลูกๆ จะได้ใช้ตรวจสอบความปลอดภัยของลูกได้ ซึ่ง Nest Cam นี้ราคา 199 เหรียญสหรัฐ
|
ส่วน Nest Protect เครื่องตรวจจับควันและก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) ที่ได้รับการอัปเดตความสามารถนั้น ทางบริษัทอ้างว่ามันสามารถแจ้งเตือนเจ้าของบ้านได้หาก สัมผัส ได้ถึงอันตราย เช่น พบว่าระดับก๊าซ CO ในอากาศมากเกินค่ามาตรฐาน และเมื่อเจ้าของบ้านได้แก้ไขสถานการณ์จนเข้าสู่สภาพปกติแล้ว ก็สามารถปิดการแจ้งเตือนของระบบได้ผ่านทางแอปในสมาร์ทโฟน
นอกจากนั้น ทางบริษัทยังได้เผยโฉม Nest App ตัวใหม่ เวอร์ชัน 5.0 ที่รองรับทั้ง iOS และแอนดรอยด์ โดยมาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การตรวจสอบความปลอดภัย การปิดสัญญาณเตือน ฯลฯ และอุปกรณ์ของค่าย Nest ทั้ง 3 ตัวต่างเชื่อมต่อกับแอปนี้ทั้งหมด
|
| โทนี่ ฟาเดลล์ ผู้บริหารของ Nest | | | โทนี่ ฟาเดลล์ (Tony Fadell) ผู้บริหารของ Nest เผยว่า ตัวตรวจจับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ Nest Protect จะสื่อสารกับตัว Thermostat ให้ปิดเตาได้ด้วยหากพบว่ามีก๊าซรั่วออกมา หรือหาก Nest Protect ตรวจจับควันได้มันก็จะสื่อสารให้ Thermostat และเจ้าของบ้านได้ทราบเช่นกัน เราต้องการสร้างบ้านที่สามารถดูแลตัวเองได้ และสามารถดูแลคนที่อยู่ในบ้านนั้นได้ มร.ฟาเดลล์ กล่าว ด้านนักวิเคราะห์ มองว่า การเปิดตัวอุปกรณ์ใหม่จากค่าย Nest คือ การรุกคืบของกูเกิลเข้าสู่ตลาดอุปกรณ์อัจฉริยะสำหรับบ้านอย่างช้าๆ อีกทั้งก่อนหน้านี้ในการจัดงาน Google I/O 2015 ทางบริษัทก็ได้ประกาศว่า กำลังพัฒนาระบบปฏิบัติการสำหรับ IoT (Internet of Things) ในชื่อ Brillo อย่างเป็นทางการแล้วด้วย แต่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยี แม้จะน่าสนใจ และน่าซื้อหามาลองใช้ แต่การรอคอยอีกสักระยะอาจเป็นสิ่งที่ดีกว่า โดยเฉพาะในประเด็นด้านความปลอดภัยของข้อมูล และแพลตฟอร์ม ซึ่งอาจต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ระบบการทำงานต่างๆ เหล่านี้จะปลอดภัยจากการถูกจารกรรมข้อมูลหรือไม่ |