ภาค 1 ความสุขเล็กๆที่ Charcoa House & Cozy เชียงใหม่
พักกี่ครั้งๆก็ที่นี้ Charcoa House & Cozy Hotel , เชียงใหม่

ก่อนอื่นต้องบอกว่าไปเชียงใหม่มาทุกปีช่วงที่ไปก็ประมาณต้นเดือนธันวาคมช่วงรัฐธรรมนูญเป็นช่วงที่นักศึกษาชอบเที่ยวทั้งหลายสามารถส่งใบลาอาจารย์ได้ล่วงหน้า และอาจารย์ที่สาขาวิชาก็เหมือนจะรู้ว่าช่วงรัฐธรรมนูญจะมีเด็กหายไป 1คนแน่นอน แล้วก็คนเดิมที่นั่งเดิมทั้งสาชาวิชามีคนเรียน 7 คน อาจารย์ย่อมจำได้เป็นอย่างดีดังนั้นรีวิวนี้จะเป็นการรีวิวโรงแรมนี้ตั้งแต่ปีแรกจนปีล่าสุดที่ไปพักแต่การเที่ยวจะรีวิวปนๆ ของใหม่ของเก่า การเดินทางทุกครั้งก็เริ่มต้นด้วยเรือบินสลับกับรถไฟไทยออกตรงเวลาแต่ไปถึงปลายทางช้าตลอดเวลาทุกๆ ปีก็ใช้สายการบินแตกต่างกันไปตามงบประมาณ 55+ ดังนี้


ทางที่ 1 เป็นการเดินทางด้วยรถไฟนครพิงค์กรุงเทพเชียงใหม่ ขบวนที่ 1 ออกจากสถานีกรุงเทพประมาณ 18.10 . แต่ปลายทางช้าตลอดๆ ข้อดีของการเดินทางโดยรถไฟเหมือนประหยัดค่าที่พักล่วงหน้า1 วันประมาณว่าไปถึงเช่ารถขับเล่นได้เลย แต่ข้อเสียต้องจองล่วงหน้า ณ วันแรกที่เปิดให้จองล่วงหน้าเลยเนื่องจากช่วงที่ไปเป็นช่วงเทศกาลดังนั้นการจองตั๋วรถไฟล่วงหน้าใครๆก็จ้องที่จะจองวันแรก ขนาดรีบจองแล้วนายสถานียังบอกว่าเหลือ 2 ที่สุดท้ายบ้างละ เหลือแต่เตียงบนบ้างละสารพัด ตอนแรกก็งงๆ คนเขารีบจองกันจังดังนั้นใครจะไปเทศกาลต้องจองตั๋วรถไฟตั้งแต่วันแรกที่เปิดให้จองจะเต็มเร็วมากถ้าเป็นรถไฟแบบตู้นอนขบวนที่1 ก่อนขึ้นรถไฟควรเตรียมเสบียงเล็กน้อยเพื่อรถไฟล่าช้าที่สถานีปลายทางเราจะได้ไม่หิว แต่ก็ไม่ต้องห่วงบนรถไฟก็มีเสบียงขายราคาเท่าที่เคยลอง อาหารเช้าก็มีขนมปัง ไข่ดาว แฮม ไส้กรอกด้วยรึเปล่าไม่แน่ใจขุดหารูปเก่าๆ ไม่เจอพร้อมน้ำชุดละ 100-150 บาท จำไม่ได้ แล้วก็มีมันฝรั่งทอดตราฟริ้งเกอร์กระป๋องละ 100 บาท แต่ทุกครั้งที่ไปจะเห็นคุณป้าๆหรือแม้กระทั่งนักท่องเที่ยวแบบครอบครัวจะพกอาหารขึ้นมารองท้อง ดูแล้วก็อบอุ่น


ทางที่ 2 เป็นการเดินทางด้วยเรือบินแต่ละสายการบินก็จะแตกต่างกันไปตามบริการ

- สายการบินแรก Bangkok Airways ปีนี้งบประมาณพอมีเลยนั่งเพราะอยากทานข้าวต้มมัดที่เลื่องชื่อของสายการบินนี้


ถ้าขึ้นสายการบินบางกอกทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่ามีwifiให้เล่นฟรี มีของว่างบริการที่ lounge และใครหลายๆคนเชื่อว่าคงไม่พลาดข้าวต้มมัด ในภาพด้านบนยืมข้าวต้มมัดที่ถ่ายที่สนามบินสุโขทัยเพราะตอนไปใช้บริการที่สุวรรณภูมิถ่ายแต่รูปคน55+ รีวิวนี้ก็อาจมีหน้าคนโผล่มานิดหน่อยแต่ปีล่าๆสุดเพราะคิดว่าจะรีวิวก็พยายามถ่ายไม่เห็นหน้าคน ตอนขึ้นเครื่องพอเครื่องอยู่ในระดับที่พอดีแอร์ก็จะเสิร์ฟอาหารรู้สึกเที่ยวบินไปเชียงใหม่จะได้เป็นข้าวเหนียวไก่ย่างรสชาติโอเค ฝรั่งที่ไปด้วยก็ดูจะชอบ แต่ต้องรีบๆ ทานนิดหนึ่งเพราะไม่ทันไรก็จะถึงสนามบินเชียงใหม่

- สายการบินที่ 2 พี่หางแดง AirAsia อันนี้ไม่ต้องบอกใครหลายๆคนก็น่าจะรู้ดีกว่าคนรีวิวด้วยซ้ำ55+ สายการบินนี้มักเป็นเที่ยวบินขากลับจากเชียงใหม่มาดอนเมืองไปกี่ครั้งก็นั่งสายการบินนี้กลับ เพราะมีโปรโมชั่นนั้นเอง

- สายการบินที่ 3 Thai Lion Air สายการบินที่ตอนแรกหาความมั่นใจไม่ค่อยได้ ตั้งแต่ตอนจอง ตอนจะไปบิน เพราะเส้นทางกรุงเทพ-เชียงใหม่เริ่มบินวันที่ 4ธันวาคม 2556 คนจองก็นั่งลุ้นตั้งแต่ตอนจ่ายเงินละ ระบบจ่ายเงินจะโอเคไหมดูไม่เหมือนสายการบินอื่นก็ลุ้นๆ แต่ก็ทำใจไว้แล้ว 515 บาทของฉันจะจมน้ำไหม บวกกับตอนแรกจะพาอีกคนลองขึ้นรถไฟไปเชียงใหม่ก็คิดตั้งนานจะคืนตั๋วรถไฟดีไม่คืนดี บวกกับการเดินทางครั้งนี้มีแต่เรื่องให้ลุ้น รถไฟจากจะเปิดให้วิ่งเดือนพฤศจิกายนก็ขอเลื่อนมา 1 ธันวาคม ลุ้นสุดๆ ทั้งรถไฟและสายการบิน แต่พอเห็นว่าวันที่ 4 thai lion air บินจริงอะไรจริงก็รีบเอาตั๋วรถไฟไปคืนพอมาถึงวันเดินทางมาถึงสนามบินเดินเมืองก็เดินหา counter check-in ไปถึงก็ยังไม่เปิดแต่ก็เห็นมีผู้โดยสารไปรอค่อยยังชั่วได้บินละ


หน้าตาboardingpass ของ Thai Lion Air


ของว่างบนเครื่องแต่รู้สึกว่าจะให้แค่ 4 วันแรกของผู้โดยสารที่บินกับสายการบินนี้ วันอื่นๆหลังจากนี้เห็นได้ยินจากเพื่อนหลายๆ คนว่าก็ไม่มีบริการต้องซื้อบนเครื่องบินแต่อันนี้ไม่แน่ใจจริงๆ เพราะยังไม่เคยลองกลับไปใช้สายการบินนี้อีกรอบ


หน้าตารูปร่างของเจ้าเรือบินยักษ์ลำใหม่สุดๆ


ช่องว่างระหว่างที่นั่งเราเป็นคนสูง 175 ก็เหลือช่องว่างระหว่างขาประมาณนี้จะอึดอัดก็บอกไม่ถูก ถ้ามีเทคนิคนั่งดีๆก็ยืดขาได้บ้าง ตอนนั่งเครื่องบินสายการบินนี้รู้สึกแปลกๆนั่งมาก็หลายสายการบินแต่สายการบินนี้บินได้ตื่นเต้นที่สุด หรือว่าเป็นเพราะระบบประหยัดพลังงานของเครื่องบิน737-900 ER อันนี้เราก็ไม่รู้นะว่าใช่ไหมก็เดาไปเรื่อย 55+

ณ เชียงใหม่

เมื่อมาถึงเชียงใหม่ทุกครั้งที่ต้องทำโทรหาร้านเช่าจักรยานยนต์BikkyChiangmai ของพี่โดมใช้บริการเจ้านี้เป็นประจำเพราะบริการดี สภาพรถโอเคมีการตรวจเช็คก่อนตลอดแต่ปกติพี่เขาก็ตรวจเช็คสม่ำเสมออยู่แล้ว เช่าทุกครั้งแค่วางบัตรประชาชนแล้วก็จ่ายค่าเช่าแต่ด้วยความที่เช่าเกือบทุกปีทุกครั้งที่โทรไปหรือไลน์ไปก็จะมีข้อมูลในระบบของพี่เขาอยู่แล้วก็สะดวกดีนะอ่อร้านนี้ไม่ต้องวางมัดจำ ครั้งแรกที่เคยไปเชียงใหม่ไปเช่าแถวๆ ประตูท่าแพต้องวางมัดจำ 2,000 บาทแต่ไม่รู้เดี๋ยวนี้ต้องวางไหมเพราะนานหลายปีแล้ว ร้านเช่าร้านนี้จะมีบริการมาส่งที่สนามบิน สถานีรถไฟ หรือขนส่ง แต่ถ้าบ้างครั้งที่ร้านพี่แกยุ่งๆ ก็จะให้ไปเอาเองที่ร้าน แต่ถ้าให้มาส่งที่สนามบินคิดค่าบริการส่ง 50 บาทต่อเที่ยว ก็สะดวกสำหรับใครหลายคนเพราะค่ารถแดงจากสนามบินเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ก็แพงเอาเรื่อง ดังนั้นถ้าใครกระเป๋าไม่เยอะจัดการแบกขึ้นรถจักรยานยนต์ได้สบายๆก็ให้พี่เขามาส่งที่สนามบินได้เลย แต่เราไปเอาเองที่ร้านเพราะสัมภาระเยอะของคุณชายเลยไปที่โรงแรมก่อน

โรงแรมที่จะมารีวิวครั้งนี้ชื่อว่า Charcoa House & CozyHotel อยู่บริเวณแจ่งศรีภูมิ หรือศรีภูมิซอย 1 จำได้เลยว่าปีแรกที่ไปแล้วขับมอไซค์ไปโรงแรมเองหลงอยู่ตั้งนาน GPS สมัยนั้นก็ยังไม่ค่อยพัฒนาบวกกับปกติเวลามาเชียงใหม่คุณป๊าขับรถตลอดเราก็หลับตลอดๆ แต่ก็โทรไปหาทางโรงแรมก็น่ารักบอกทางตลอดความประทับใจแรกสำหรับโรงแรมนี้เพราะโทรไปหาหลายรอบมากๆ มาไม่ถูกจริงๆ


ภาพนี้เป็นภาพบรรยากาศโรงแรมตอนเย็นๆภาพนี้ถ่ายไว้ตอนกลับของปีล่าสุดตกแต่งน่ารักล้านนาผสมบ้านสไตล์แนวคันทรี่ทางแถบยุโรปนิดๆที่ชอบที่นี้เพราะรู้สึกเหมือนมาพักที่บ้านอบอุ่นเล็กๆแขกไม่เยอะมีห้องพักเพียงแค่ 12 ห้อง ช่วงที่เรามาเป็นช่วงเทศกาลก็ไม่ได้ค่อยอยากพักเท่าไรนะแต่โทรมาจองล่วงหน้า 3 เดือน 55+ กลัวที่พักเต็ม จะเห็นว่าเหมือนมี 3 ชั้น จริงๆ มี 2ชั้นห้องพักด้านล่างจะเป็นประเภท deluxe ห้องพักชั้นบนจะเป็นประเภทsuperior room , Honeymoon suite , pantry suite ห้อง 2ประเภทหลังจะเหมือนเป็นห้องใต้หลังคาเดี๋ยวจะพาไปชมในรีวิวล่างๆเรามีพักที่นี้ห้องเกือบจะทุกประเภทล่ะ ตั้งแต่ดีที่สุดยันธรรมดาที่สุด แต่กลายเป็นว่าชอบห้องธรรมดาที่สุด superior room เป็นเพราะอะไรเดี๋ยวจะบอกตอนรีวิวห้องแต่ละประเภท จักรยานที่เห็นให้เช่าปั้นได้วันละ 50 บาท


มุมนี้คือมุมที่มา Check-in จะติดกับร้านอาหารของโรงแรมด้านหน้า


มุมนี้ก็มุมที่นั่งเล่นสามารถสูบบุหรี่ได้ของโรงแรมที่เห็นพื้นโรงแรมเปียกเพราะว่าพนักงานเพิ่งช่วยกันล้างพื้นโรงแรม


มุมที่มองออกไปจากนอกโรงแรม

ต่อมาเราจะมาดูบริเวณที่เป็นในส่วนของร้านอาหาร ร้านอาหารของโรงแรมนี้ขึ้นชื่อเรื่องเค้กนะเราว่าเค้กเขาอร่อยนะสำหรับเรา แต่ถ้าคนอื่นที่ผ่านไปผ่านมาแล้วบอกว่าเฉยๆ ก็นานาจิตตังละน๊าเรื่องรสชาติห้ามความคิดหรือจะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อยคงไม่ได้ 55+ ดังนั้นร้านนี้อร่อยสำหรับเราเอาเป็นว่าตามนั้น


ถ่ายแบบ 360 องศาจาก I phone ก็บอกให้คนในรูปลุกออกไปไม่ยอมลุกเลยได้ภาพติดมา ก็ตกแต่งน่ารักอิอิเจ้าของโรงแรมนี้รู้สึกว่าจะจบสถาปัตยกรรมมา สมแล้วเพราะออกแบบโรงแรมในพื้นที่เล็กๆ ได้น่ารักสุดๆ


ช่วงที่เราไปใกล้กับเทศกาลปีใหม่ทางโรงแรมก็เลยจัดแต่งร้านตามภาพในเมื่อมารีวิวส่วนของร้านอาหารก็เลยขอรีวิวอาหารไปเลยละกัน 55+


จานแรกที่จะแนะนำรู้สึกว่าจะเป็นเมนูแนะนำด้วย คือ ข้าวห่อไข่ ต้นตำรับชาร์โควจานนี้ปลื้มสุดๆ ทั้งน้ำซอส ตัวไข่ และข้าวผัดที่อยู่ด้านใน คุณชายที่ไปด้วยชมไม่หยุดปาก ไม่เลี่ยนทานได้เรื่อยๆ แต่ข้อระวังเห็นเหมือนจะน้อยไม่มากแต่เอาเข้าจริงๆ ถ้าสำหรับคนทานไม่เยอะ 2 คนก็ทานได้


จานที่ 2 Fish & Chips มันคือปลาทอดตามสไตล์อังกฤษเสิร์ฟพร้อมกับมันฝรั่งทอด คนชอบของทอดต้องชอบจานนี้แน่นอนซอสที่ให้มาจิ้มด้วยจำชื่อไม่ได้แหละมีรสชาติที่แบบว่าเข้ากับปลาสุดๆปลาที่ทอดก็ไม่อมน้ำมัน


จานที่ 3 เป็นแกงฮังเลเนื้อรสชาติไม่เผ็ดมากเด็กๆ แบบเราชอบที่สุดที่สำคัญเนื้อที่นำมาทำไม่เหนียวอย่างที่คิด กัดลงไปแล้วเคี้ยวได้สบายๆคนแก่ข้างๆยังบอกว่าผ่านไม่ทรมานฟัน 55+ จริงๆก็มีอีกหลายเมนูทั้งต้มยำกุ้ง ทั้งแกงเขียวหวานแต่ถ่ายไม่ทันลืมถ่ายเลยถ่ายได้แต่สภาพหลังทานเสร็จ


มื้อสุดท้ายก่อนขึ้นเครื่องกลับสู่ กทม. 55+ ไม่เหลือให้เห็นแม้แต่เค้าโครงเดิมของแกงเขียวหวาน และต้มยำกุ้งอ่อข้าวสวยที่นี้ผ่านเลยละ ไม่เหม็นสาบ นุ่ม ก็ถือว่าผ่านละนะสำหรับคนเรื่องมากอย่างเรานอกจากเมนูที่แนะนำข้างต้นแล้วก็มีเมนูสไตล์อาหารอิตาเลียน หรือพวกสเต็ก พิซซ่ารสชาติที่นี้เท่าที่เคยได้ยินจากเพื่อนๆทุกคนบอกว่าอร่อยแต่เราไม่ได้ลองเพราะมั่วแต่ไปหาของอร่อยข้างนอกโรงแรมตามที่ใครๆหลายคนบอกว่าห้ามพลาดๆ ต้องไปทาน นอกจากนี้ร้านอาหารของโรงแรมยังมีบริการพวก cake ต่างๆที่สำคัญมีคุกกี้ขายและรสชาติก็เยี่ยม หลานที่เป็นลูกครึ่งยังโปรดปราน ชิ้นละ 10บาทมีหลายแบบทั้งเนยถั่ว , ธัญพืช , ช๊อกโกแลตชิพ เท่าที่เราจะได้นะก่อนกลับทุกครั้งซื้อมาเป็นของฝากตลอดๆ เราจะไปแนะนำเค้กของที่ร้านบ้าง ใครเป็นสาวกช๊อกโกแลตห้ามพลาด เค้กภูภาดำ


เค้กภูภาดำเป็นเค้กช๊อกโกแลตที่ไม่หวานมากไม่ขมมาก เนื้อเค้กมีความละเอียด ช๊อกโกแลตแผ่นที่ตกแต่งเค้กอร่อย 55+ บรรยายไม่เป็นแต่ขอบอกว่า กลมกล่อม อร่อย รูปไม่ชัดเพราะถ่ายจากโทรศัพท์มือถือnokia เมื่อยังไม่มีวิวัฒนาการของกล้องในโทรศัพท์มากหนัก


ต่อไปสตอเบอรี่ช๊อทเค้กมั้งถ้าจำชื่อไม่ผิดรู้สึกจะมีแค่ช่วงที่มีสตอเบอรี่เราเป็นคนไม่ชอบทานสตอเบอรี่ยังบอกว่าอร่อยเนื่องจากเมื่อสตอเบอรี่รวมตัวกับเนื้อครีมแล้วทำให้สตอเบอรี่ไม่เปรี้ยวเกินไปหรือหวานเกินไป อร่อยผ่าน แต่ก็ยังมีเค๊กอีกหลายแบบแต่ที่ได้ชิมก็2อย่างนี้ ไหนๆก็รีวิวแล้ว รีวิวอาหารเช้าไปเลย คืออาหารเช้าที่นี้ก็ไม่ได้วิเศษอะไรไปกว่าที่อื่น แต่ก็ทำให้คุณชายตื่นแต่เช้าลงมาทานได้ทุกวันปกติคุณชายไม่ตื่นมาทานอาหารเช้าที่โรงแรมไหนทั้งสิ้น แต่คุณชายบอกว่าที่ตื่นเพราะว่าโรงแรมนี้เป็นเหมือนguest house เล็กๆ ที่ให้คนเดินทางมาพักผ่อนแล้วก็จากไปแต่คุณภาพอาหารเช้ายังดีกว่าโรงแรมระดับ 4 ดาวบ้างที่เลยตอนที่ไปปีแรกๆ หรือปีปัจจุบันอาหารเช้าก็ยังเป็นแบบให้ติ๊กเลือกว่าจะทานอะไร อาหารเช้าที่เริ่มเวลา 07.00-10.00 น. ตอนประมาณ 06.30 น.จะมีพนักงานโรงแรมไปเดินสอดใบที่ให้เลือกอาหารเช้าตามแต่ละห้อง ปีแรกๆอาหารเช้าจะเป็นแบบว่าสั่งมาแล้วก็ปริมาณเท่าที่ให้มายังไม่ได้เป็นบุฟเฟต์เหมือนปัจจุบัน แต่พวกน้ำส้ม นม ชา กาแฟ เติมได้ตลอดแต่ปีหลังๆ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเพราะลูกค้าชาวจีนเริ่มมาพักหรือว่าแขกบ่นว่าอาหารเช้าน้อยเกินไปก็ไม่แน่ใจเดาเองอาหารเช้าก็เลยเปลี่ยนเป็นแบบบุฟเฟต์ มีสลัดบาร์ ขนมปัง แยมที่ทางโรงแรมน่าจะทำเองไม่เคยลองถามแต่คาดว่าน่าจะใช่ แล้วก็เนยอย่างดี น้ำส้ม นม ตามที่โรงแรมๆต่างมีให้ แต่ส่วนตัวเราชอบแบบไม่ใช่บุฟเฟต์มากกว่าเพราะอะไรไปดูตามภาพเลย



ภาพนี้คือภาพอาหารเช้าที่ยังไม่ได้เป็นบุฟเฟต์คือปกติก็น่าจะอิ่มน๊าเช้าๆ ขนมปังโรงแรมก็จัดมาให้คนละ 3 แผ่น เนย แยมถ้าไม่พอก็ขอเพิ่มได้ น้ำส้มก็เติมได้ตลอด กาแฟแก้วเดียวก็น่าจะอยู่นะ


อันนี้แบบเป็นบุฟเฟต์ล่าสุด ที่เห็นคือทานกัน 2 คนจริงๆนะ คืออยากลองอยากรู้เลยติ๊กมาซะเกือบหมดแต่ก็จัดการหมดเหมือนกันแตกต่างจากแบบไม่ใช่บุฟเฟต์ตรงที่การจัดแต่งจานมั้งเราเลยรู้สึกชอบแบบไม่บุฟเฟต์มากกว่า แต่รสชาติของข้าวต้มตอนที่ไม่ใช่บุฟเฟต์รสชาติดีกว่านะ


อันนี้เป็นสลัดผักของคุณชายเห็นบอกว่าน้ำสลัดอร่อย ผักก็สดมากๆ กรอบน่ารับประทาน



ถ้าใครไม่รับกาแฟก็มีนม น้ำส้ม ชาร้อนที่นี้ใช้ของ dilmahนะถ้าจำไม่ผิด เมื่อรีวิวอาหารเช้าเสร็จคราวนี้ก็จะมาที่รีวิวที่ห้องพักกันบ้าง แบบแรกจะเป็น superior room

ห้องพักแบบ superior room


นี่คือบริเวณที่ประตูห้องพักจากเดิมใช้ระบบไขกุญแจที่มีไฟฉายห้อยเปลี่ยนเป็นระบบคีย์การ์ดก็ดูทันสมัยขึ้น มีที่ล็อคตรงประตูทุก 3 แบบเลือกล็อกได้ตามใจชอบอาจจะสังเกตว่าไม่มีตาแมวแต่ทางโรงแรมเขาดีไซน์ให้เราสามารถเปิดช่องตรงประตูดูได้อันนี้ไม่ได้ถ่ายมา


เมื่อเดินเข้ามาสภาพห้องก็จะเจอเตียงแบบที่เห็นข้างหลังห้องจะมีระเบียงสามารถออกไปตากผ้าได้ ห้องน้ำก็จะอยู่ติดกับระเบียงลืมถ่ายห้องน้ำแต่คิดว่าเคยถ่ายไว้แล้วแต่หารูปไม่เจอ ห้องน้ำของห้องพักประเภทนี้จะไม่มีแยกส่วนแห้งส่วนเปียกเนื่องจากห้องน้ำเล็กใครหลายๆ คนอาจจะไม่ชอบ


รูปเตียงนอนความนุ่มก็โอเคนะผ่าน มีโทรศัพท์แล้วก็ที่ปลายเท้าจะมีโต๊ะสำหรับนั่งเขียนไดอารี่ได้มีชา กาแฟ แก้วน้ำ ฟรีน้ำเปล่า 2 ขวดไว้ให้ แล้วก็ขนมต่างๆอันนี้คิดเพิ่มไม่ได้เป็นฟรีมินิบาร์ แล้วในส่วนของตู้เสื้อผ้าก็มีเป็นตู้ไม้สไตล์คลาสสิคไม่น่ากลัวอยู่ติดกับกระจกที่ไว้สำหรับแต่งหน้าส่วนนี้ก็หารูปไม่เจอ ห้องพักที่โรงแรมนี้ฟรี wifiทุกห้อง อ่อที่โรงแรมนี้ถ้าผ้าเช็ดตัวต้องการใช้ต่อก็สามารถแขวนไว้ในลักษณะที่เขาแนะนำเพื่อช่วยประหยัดทรัพยากรต่อมาจะเป็นห้องพักประเภทต่อไป

ห้องแบบ deluxe





ห้องพักประเภทนี้จะอยู่ด้านล่างของโรงแรมห้องจะกว้างกว่าsuperiorroom แต่เวลานอนถ้าคนที่อยู่ข้างบนขยับอะไรเสียงดังก็อาจจะได้ยินหรือถ้าคนคุยกันข้างนอกห้องอันนี้เป็นข้อเสียที่หลายๆ คนไม่ชอบห้องน้ำก็ไม่แตกต่างจากห้อง superior room เหมือนๆกัน จริงๆ ที่ได้ถ่ายรูปห้องนี้เป็นเพราะว่าตอนจะ checkout คือแจ้งกับทาง reception ไปแล้วว่าจะ checkout late แต่ปรากฏว่าพอวันสุดท้ายจะไปถามอีกทีกลับกลายเป็นว่าไม่ได้เนื่องจากมีแขกจองห้องพักต่อแต่คุณชายไม่ยอมเพราะกว่าเครื่องจะออกก็ตอนหัวค่ำจะให้ไปอยู่ที่ไหนเพราะเที่ยวก็เที่ยวเกือบหมดแล้ว จะไปสปาคุณชายก็จะนอน คุณชายก็เดินไปที่ receptionแบบเป็นมิตรไปแจ้งว่าเป็นความผิดพลาดของโรงแรมก็ตามภาษานักตีประเมินราคาโรงแรมแล้วคุณชายก็ทำงานเกี่ยวกับโรงแรมอยู่แล้ว กฎระเบียบต่างๆ ยิ่งรู้ดีกว่าอะไรพอเข้าไปเสร็จคุณชายเดินออกมาบอกว่าเดี๋ยวทางโรงแรมให้คำตอบเราก็ออกไปกันข้างนอกซักพักพอกลับเข้ามา reception ก็บอกว่าถ้าพี่จะพักที่ห้องเดิมพักได้ถึง14.00 โดยทางโรงแรมจะไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่ถ้าพี่จะยินดีลงมาพักที่ห้องด้านล่างจะพักได้ถึง 18.00 ซึ่งตอนแรกคุณชายบอกว่าตามปกติโรงแรม 5 ดาวแขกจะไม่ย้ายไปไหนเป็นหน้าที่ของทางโรงแรมที่ต้องจัดการหาห้องให้แขกคนใหม่ แต่คุณชายก็ยอมเพราะเราขอร้องว่าอย่าเรื่องมากเลยอันนี้เป็นโรงแรมเล็กๆน๊าอ้อนไปอ้อนมาก็ยอม เหตุการณ์นี้เลยทำให้ได้ไปอยู่ห้องพักแบบ deluxe แต่เราก็ไม่ทำห้องเขาเลอะนะเกรงใจจริงๆคุณชายบอกว่าเป็นสิทธิ์ของเราที่ได้ดื่มน้ำที่ฟรีได้แต่เราก็นะเป็นคนขี้เกรงใจห้ามนู้นห้ามนี้จนคุณชายบอกว่านอนแล้ว 55+ ตอนแรกว่าจะไม่กลับมาพักที่นี้แล้วเพราะว่ามาพักทุกปีบอกcheck out late ได้ตลอดเพราะบอกตั้งแต่วันแรกที่ checkin บวกกับปีนี้มาเจออารมณ์ที่ไม่ชอบคนจีนที่มาพักที่นี้มารยาทไม่ดีเสียงดังเฮ้อเจอคนจีนที่ไหนต้องดูให้ดีสุดๆ ไม่ใช่รังเกียจแต่แบบว่านะแต่สุดท้ายทางโรงแรมก็ทำให้ประทับใจ โดยเฉพาะคุณหัวหน้าแม่บ้านยิ้มแยมแจ่มใสตลอดวันแรกที่ไปขี่มอไซค์ขึ้นม่อนแจ่มทำหมวกตกไว้ที่โรงแรมคุณแม่บ้านก็เก็บไว้ให้ คุณชายขอบคุณใหญ่เพราะกว่าจะได้หมวกใบนี้มาต้องซื้อรถคันละล้านคนเรียกได้ว่าใบโปรดเลยแล้วถ้าใครมาพักที่นี้แล้วลืมของไว้ที่โรงแรมไม่ต้องห่วงที่โรงแรมนี้ซื่อสัตย์มากถ้าพนักงานเจอเขาจะเก็บไว้ให้หมดไม่ต้องกลัวหายคุณแม่บ้านเล่าให้ฟังว่าเคยมีฝรั่งลืมของทิ้งไว้ปีต่อมา มาขอคืนก็ยังอยู่ ยิ่งประทับใจเลยในความซื่อสัตย์และการบริการที่เป็นเลิศ แล้วก็ตอนขากลับจะไปขึ้นสนามบินพี่ผู้ชายคนที่เป็นเหมือนคนดูแลความปลอดภัยของโรงแรมดูแลความเรียบร้อยด้านนอก แล้วเป็นคนแนะนำที่เที่ยวให้เรา 2 คนเรียกรถตุ๊กตุ๊กไปส่งสนามบินให้ คุณชายชอบในการบริการของพี่แกมากๆจะให้ทริปปรากฎว่าไม่เอา ต้องส่งให้ที่มือแล้วขึ้นรถหนีไปเลย 55+ เหมือนเป็นโจรเลย โม้มาเยอะมาดูห้องพักแบบต่อไป

ปล.เนื่องจากพื้นตัวอักษรไม่พอเลยมีแต่ภาค 2 จ๊า  




Create Date : 20 เมษายน 2557
Last Update : 20 เมษายน 2557 16:01:21 น.
Counter : 1516 Pageviews.

3 comments
  
ใช่ค่า ลูกค้าจีน เยอะเกินไป จนรู้สึกว่าถูกแย่งกิน แย่งใช้ และถูกรบกวนค่ะ คนเชียงใหม่หลายคนบ่นอย่างนั้น อุ๊ย !!
โดย: mariabamboo วันที่: 20 เมษายน 2557 เวลา:21:04:29 น.
  
ใช่เลยค่ะ ตั้งแต่แขกคนจีนเข้ามาพักทำให้โรงแรมโทรมไปเยอะเลย
โดย: หมีแมว IP: 125.24.12.194 วันที่: 20 เมษายน 2557 เวลา:21:38:47 น.
  
thx u crab
โดย: Kavanich96 วันที่: 21 เมษายน 2557 เวลา:3:59:42 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หมีแมวนักเดินทางพเนจร
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



Study Hard, Play hard