Group Blog
 
All Blogs
 
เรียนแต่เปลือก

"เรียนแต่เปลือก??"

หลังสอบกลางภาคเสร็จ เรานั่งคุยกัน ผมกับลูกสาว บทสนทนาพาดพิงไปถึงเนื้อความของข้อสอบ มีข้อสอบหลายข้อที่ผมฟังดูแลัว รู้สึกประหลาดใจ ประหลาดใจที่ความคิดที่อยู่เบื้องหลังข้อสอบเหล่านี้ ค่อนข้างหยุดนิ่ง

หยุดนิ่งแบบไม่สนใจความหมุนไปและความเชื่อมกันของสากลโลก คำถามประเภท ให้ข้อความมา2-3 ประโยค เป็นร้อยแก้วบ้าง ร้อยกรองก็มี แล้วถามเด็กว่า "อ่านแล้วรู้สึกอะไร" "คิดว่าอะไร"พร้อมกับมี คำตอบ 3-4ข้อมาให้เลือก

หนึ่ง เสียใจ สอง ดีใจ สาม เฉยๆ สี่ ไม่พอใจ

ผมฟังแล้ว รู้เลยว่าทำไม เด็กไทยถึงอ่อนแอเรื่องการใช้เหตุผล การแสดงออก เมื่อเทียบกับทางตะวันตก
จะไม่ให้แพ้เค้าได้อย่างไร ในเมื่อแม้แต่ความรู้สึก ยังถูกตีกรอบ ให้คะแนนถูกผิด
คือต้องรู้สึกแบบที่ คนออกข้อสอบรู้สึก ถึงจะนับว่าถูก
ต้องคิดให้เหมือนๆ กับ สี่ตัวเลือกที่มีให้เลือก ถึงจะนับว่าเก่ง

ความรู้สึกผมหดหู่ เพราะ นี่เป็นข้อสอบระดับ ม. ปลาย ในโรงเรียนที่มีชื่อเสียงไม่เคยเป็นรองใคร ในประเทศนี้

กลับมาที่บทสนทนาต่อไป ลูกสาวเค้าเล่าต่อ ถึงการทำแบบทดสอบภาษาอังกฤษ กับครูฝรั่งสัญชาติอเมริกัน ในโรงเรียนเดียวกันละครับ ครูเอาบทความภาษาอังกฤษให้อ่าน และให้ขีดหาว่า ตรงไหนเป็น bias ตรงไหนเป็น facts

โชคดีมากที่ยังมีครูที่สอนให้เด็กคิดเป็น เริ่มจากการแยกความต่างของ ข้อเท็จจริง กับความเห็น

ใจผมเริ่มชื้นขึ้นมา อย่างน้อย "มันก็ไม่ได้มืดไปหมดว่ะ"

ระบบการศึกษาบ้านเรา มันเป็นอะไรที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ ปวดหัว เครียด เหนื่อยหน่าย อะไรมันจะรังแกตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ ยันรุ่นลูก แล้วชาตินี้จะได้นั่งรถไฟความเร็วสูงมั้ย 555คงไม่เกี่ยวกัน

เรายัดเยียดข้อมูลให้เด็กๆของเรา อย่างล้นเกิน ขณะที่การค้นหา แยกแยะ นำข้อมูลมาใช้ ยังบางเบาไป
เราสอนเด็กให้คิดเหมือนๆกัน ขณะที่เราอยากเห็นเค้าโตเป็นผู้ใหญ่ที่กล้ายืนหยัดเพื่อความถูกต้อง
เราใส่แต่เปลือกของวิชาการมากมายให้เด็ก แต่อยากให้เด็กๆเติบโตเป็นนักคิดที่แสวงหาขอบเขตใหม่

เมื่อเรานำระบบสู้กันแบบแพ้คัดออก มาใช้ตั้งแต่อนุบาล พ่อแม่ที่ไม่มีทางเลือก ก็ต้องมีอาชีพเสริมเป็นเหมือนโค๊ชฟุตบอลไทยลีก ต้องศึกษาข้อมูลทั้งโรงเรียนจริง โรงเรียนกวดวิชา เมื่อรู้ว่ามีครูดีๆที่ไหนต้อง ซอกซอนไปหามาสอนลูก ทุกการสอบต้องคอยลุ้น คอยสอนกลยุทธ์เทคนิคในการสอบ

หลังผลสอบออก ก็ต้องคอยปาดน้ำตาหรือเลี้ยงฉลองความสำเร็จ..........

ก็ได้แต่หวังครับ สักวันเด็กๆของเรา จะได้มีโอกาสเรียนในสิ่งที่เป็นแก่นมากขึ้น ส่วนที่เป็นเปลือก ให้คนรุ่นก่อนๆ เคี้ยวเล่นไปเถอะครับ
















Create Date : 18 กรกฎาคม 2558
Last Update : 18 กรกฎาคม 2558 8:48:55 น. 0 comments
Counter : 393 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 2478513
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 2478513's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.