|
 |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
 |
29 มีนาคม 2552
|
|
|
|
ญาติพี่น้องกัดกันเอง ชาวบ้านหัวเราะเยาะ
พี่น้องกัดกันเองชาวบ้านเขาหัวเราะเยาะ นี่คือคำพูดจากพี่ชายเรา มันก็จริงทั้งนั้น แต่เราคิดว่าสิ่งที่เราทำนั้นถูกต้องแล้วที่สุด ซึ่งตอนนั้นคิดว่าอาจทำให้เราต้องบาดหมางใจกันระหว่างพี่น้อง ซึ่งเราก็เลือกแล้ว และคิดดีแล้ว และวันนั้น มันก็ทำให้เราได้เห็นธาตุแท้อีกมุมหนึ่งของญาติเราที่เราก็ไม่เคยรู้มาก่อนเลย
เริ่มที่อาของเราแล้วกัน จริงๆ แล้วบอกก่อนว่าเราก็รักและเคารพอาของเราทั้งสองคนนะ แต่ไม่เข้าใจสาเหตุว่าทำไม อาอีกคนถึงชอบนินทาญาติพี่น้องตัวเองให้ชาวบ้านฟัง เราฟังก็ได้แต่ส่ายหัว เขาเป็นคนหัวดื้อ ชอบเอาชนะ ไม่รู้ว่าเป็นอะไร
ตอนนี้เรื่องมาเกิดขึ้นกับเรา เมื่อไม่นานมานี้เอง
เริ่มเมื่อปีใหม่ปีที่แล้ว ลูกพี่ลูกน้องเราซึ่งเป็นผู้ชาย (ลูกของอาผู้หญิงอีกคนที่แยกบ้านไปแล้ว) แต่งงานกับสาวที่ จ.เลย เราเป็นคนสุรินทร์ สาเหตุนี้ทำให้เราได้รู้จักกับครอบครัวของแฟนลูกพี่ลูกน้องเราอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นลูกของอาผู้ชายอีกคน และเหตุที่เป็นช่วงเทศกาลทำให้เราหารถกลับเข้ากรุงเทพฯไม่ได้ เลยจำเป็นต้องอาศัยรถน้องเขย กะจะมาลงรถที่สัตหีบ กะต่อรถเข้า กทม. ซึ่งนั่งรถเก๋งอัดกันมา 7 คน สืบเนื่องจากกลับมาดึกมาก เลยต้องแวะเพชรบูรณ์พักที่บ้านของแฟนลูกพี่ลูกน้องเราที่เป็นผู้หญิงที่ตอนนี้มีเรื่องกันอยู่ปัจจุบัน
ทางครอบครัวแฟนของลูกพี่ลูกน้องเรา เขาเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดีเลย ซึ่งทำให้เรารู้สึกประทับใจมากๆ คิดว่าวันหนึ่งเราจะกลับมาเที่ยวที่นี่อีก เพราะว่าบรรยากาศดีมาก แล้วเจ้าของบ้านเขาก็ชวนนะว่าถ้าวันไหนอยากมาเที่ยวก็บอก จะพาเที่ยวให้รอบเลย
เราเคยคุยๆ กันกับน้องเขยอีกคนของเรา (แฟนของน้องสาวแท้ๆของลูกพี่ลูกน้องเรา) น้องเขยก็บอกว่าจริงๆ แล้วไม่อยากจะรู้จักครอบครัวนี้เลย เพราะว่าเราไม่รู้ว่าลูกพี่ลูกน้องเราคนนี้จะอยู่กับครอบครัวนี้ได้นานแค่ไหน เพราะมันเป็นคนที่อยู่กับใครไม่ได้นาน แต่ก็คุยๆ กันว่าน่าจะนานนะ เพราะว่าครอบครัวพ่อแม่พี่น้องผู้ชายก็รักมันมาก อยู่กันมาปีกว่าแล้วไม่น่าจะเถลไถล ก็ขอให้ไปกันรอดนะ
แต่พฤติกรรมที่เราเห็นตอนที่มันคบกับแฟนคนนี้ มันก็ยังไปยุ่งกับผู้ชายคนอื่น ซึ่งจริงๆ แล้วเรารู้หมด ญาติเราเข้ากรุงเทพฯ แต่ไม่มาพักกับเรา กลับไปพักกับผู้ชายคนอื่นซึ่งเป็นเพื่อนของเพื่อนเราอีกนั่นแหละ รู้จักกันดี เรื่องก็ถึงหูเรา แต่เราก็ไม่ได้พูดอะไร คิดว่าเรื่องของมัน ไม่อยากยุ่ง และเป็นอย่างนี้หลายครั้งกับหลายคนแล้ว พอมันเบื่อเดี๋ยวมันก็เลิกเอง ส่วนแฟนที่อยู่เพชรบูรณ์ไม่เคยรู้อะไรเลย
แต่ที่มันมาเกิดเรื่อง ซึ่งเราคิดว่ามันอาจจะเกินไปคือ เมื่อประมาณ สี่เดือนที่แล้ว เราไม่สบายเข้าโรงพยาบาล น้องโทรไปหามันบอกว่าเราไม่สบายให้ช่วยมาเฝ้าหน่อยเพราะว่าน้องทำงาน ไม่มีใครเฝ้า จะโทรไปบอกพี่ชายให้เข้า กทม. แต่ว่าคงใช้เวลา มันก็บอกปฏิเสธว่าไม่ว่าง เพราะมีงานต้องไปทำสุรินทร์ นัดกับเขาไว้แล้ว
ก็ไม่เป็นรายนะ แต่สักพักหนึ่ง ก็โทรมาบอกว่า เปลี่ยนใจไม่ไปแล้ว แล้วมาเฝ้าเรา แต่มารู้ตอนหลังว่า แฟนมันตามมาด้วย มันกลัวว่าแฟนมันจะรู้ว่าไปทำอะไร ก็เลยต้องมาเฝ้าเรา
ตลอดอาทิตย์ที่มาเฝ้าเราที่โรงพยาบาล แฟนมันก็มาด้วยตลอด มันดูแลเราดีมาก อันนี้เราก็ไม่เคยลืมนะ ว่ามันดูแลเราดีแค่ไหน (มันก็คงคิดว่าเราอกตัญญูกับมัน แค้นเรามาก) แต่ยังไงเราก็คิดเสมอว่าถึงไง ญาติกันมันก็ตัดกันไม่ขาดอยู่แล้ว ถึงจะมีเรื่องราวมากมายยังไง
ช่วงนี้แฟนมันได้งานต้องไปทำงานที่ระยอง มันก็ยังโทรคุยกับผู้ชายคนอื่นอยู่ ซึ่งเราก็รู้ตลอด แต่ก็ไม่ยุ่งนะ เรื่องของมัน มันเป็นอย่างนี้มาตั้งนานแล้ว
จนพอเรากลับมาพักฟื้นที่ห้อง อาการดีขึ้นแล้ว อ้อตอนนี้พี่ชายก็มาอยู่ด้วย พอดีขึ้นพี่ก็จะกลับบ้าน ส่วนญาติเราคนนี้ก็กลับสุรินทร์เช่นกัน เพียงระยะเวลาที่อยู่สุรินทร์ไม่ถึงเดือน เราได้ยินเรื่องเราเกี่ยวกับญาติเรามาตลอด มีผู้ชายมาติดพันอยู่ 4 คน มีช่วงหนึ่งที่เราหายดีแล้ว กลับไปสุรินทร์ ญาติเรายังมาคุยกับเราเลยว่า รักผู้ชายคนนี้ (เพื่อนของน้องสาวเรา) และถ้าเขามาขอ มันก็จะแต่ง เราก็ตอบไปว่า ทำไมไม่รักเดียวใจเดียววะ เราไม่ชอบเลย แล้วคนที่อยู่ทางนั้นหละ มันก็มีเหตุผลมาอ้างตลอดว่าแม่ของฝ่ายชาย แฟนปัจจุบันไม่ดีอย่างนู้น ไม่ดีอย่างนี้ มันอยากอยากจะเลิก เราก็เงีบบไมได้ตอบอะไร แต่ไม่ชอบใจนะ
จนเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วได้ข่าวว่าญาติเรามันแต่งงานกับเพื่อนของน้องเรา แต่ไม่ได้บอกญาติพี่น้องที่อยู่ต่างจังหวัดเลย เราก็เพิ่งรู้เพราะว่าโทรกลับบ้านพอดี ส่วนแฟนที่อยู่ทางเพชรบูรณ์ก็ไม่รู้ มันเกินไปหรือเปล่า เราก็โทรไปคุยกับอาผู้หญิง กับแม่ ปรึกษาว่า จะบอกแฟนทางนี้ดีไหม เพราะว่าไม่อยากให้หลอกเขา พ่อแม่เขาก็ดีมาก แล้วยังส่งตังค์ให้ลูกพี่ลูกน้องเราใช้ทุกเดือนมันบาปนะ แต่งงานแล้ว แปลว่าเขาตัดสินใจที่จะเลือกคนทางนี้แต่ทำไมยังไปหลอกทางนั้น พ่อแม่เขาก็ดี ทำไมถึงทำอย่างนี้ อาบอกว่า ถามมันแล้วมันบอกว่ามันเคลียร์กับผู้ชายทางเพชรบูรณ์เรียบร้อยแล้ว บอกเลิกกันแล้ว แต่จริงๆแล้วลูกพี่ลูกน้องเราโกหก
ค่ำวันเสาร์ที่แล้วเราโทรไปหาแฟนลูกพี่ลูกน้องเราที่อยู่ทางเพชรบูรณ์ว่ายังติดต่อกับลูกพี่ลูกน้องเราอยู่หรือเปล่า แล้วเป็นไงบ้าง แฟนมันก็บอกว่าเมื่อเช้ายังโทรคุยกันอยู่เลย แต่บอกไม่ค่อยว่าง ต้องดูแลหลานสองคน ต้องดูแลเรื่องโอนบ้านให้อา (พระเจ้าจอร์จ! คิดในใจ หลานทั้งสองคน อาเราเป็นคนดูแล ส่งเสีย ส่วนเรื่องบ้านไม่มีเลยเรื่องโอนเรืองอะไร) พูดหลายเรื่อง เราฟังแล้วก็นิ่งพักหนึ่ง นี่เราจะกล้าบอกเรื่องที่ลูกพี่ลูกน้องเราแต่งงานไหมเนี่ย ดูน้ำเสียงแฟนมันพูดถึงลูกพี่ลูกน้องเราก็สงสารนะ
เราก็เลยเอ่ยขึ้นว่า อยากให้ทำใจบ้างกับญาติเรา แฟนเขาก็เลยถามว่ามีอะไรเหลอ บอกเขามาตรงๆ ก็ได้ ลูกพี่ลูกน้องเรามีคนอื่นที่นั่นเหลอ เราก็เลยบอกไปว่า เขาแต่งงานแล้วนะ อยากให้ตัดใจ
น้ำเสียงเขาก็ราบเรียบ แต่งกันตอนไหน .....ผมรู้สึกว่าหมู่นี้เขาแปลกๆไปไม่ค่อยรับโทรศัพท์บางทีผมโทรไป 20-30 ครังแล้ว เขาก็ไม่รับ พอรับเสร็จก็บอกว่าเหนื่อยบ้าง ปวดหัวไม่สบายบ้าง ไม่มีใครดูแลบ้าน ไม่มีตังค์ ต้องดูแลหลานสองคน ผมก็ส่งตังค์ไปให้ใช้ทุกเดือน นี่ผมว่าสิ้นเดือนนี้เงินออกผมก็ต้องส่งเงินไปให้เขา คุณบอกผมดีแล้ว เพราะผมจะได้ไม่โง่อีกต่อไป
เราก็ไม่รู้เขาคิดอะไรนะ เราก็ปลอบเขา ก็คงได้แค่นี้ เพราะคิดว่าถ้าเขามารู้ตอนหลัง ญาติเราอาจจะโดนหนักแน่ๆ ไปหลอกเขา เพราะเพื่อนของน้องสาวเราก็แรงเหมือนกัน ถ้าเกิดมีการลงไม้ลงมือจะทำยังไง คิดในอีกแง่หนึ่ง แต่งงานแล้วก็ควรจะหยุด ไม่ใช่ยังไปหลอกให้อีกฝั่งหนึ่งส่งตังค์มาให้ใช้ และก็เพิ่งมารู้ว่าแฟนที่อยู่เพชรบูรณ์เขาก็วางแผนไว้แล้วว่าพอพ่อเกษียณจะแบ่งเงินให้มันกะแฟนลงทุน และก็กะจะไปสู่ขอลูกพี่ลูกน้องเราให้เป็นเรื่องเป็นราวด้วย ภายในปีนี้ เกิดเรื่องใหญ่แน่ๆ
กลายเป็นประเด็นปัญหาเลย แฟนมันก็โทรกลับไปหาลูกพี่ลูกน้องเรา แล้วมันก็กรี๊ดเลย แฟนมันบอกว่าไม่เคยเห็นลูกพี่ลูกน้องเราเป็นอย่างนี้มาก่อน เลย
แล้วก็เริ่มร่ายนิยายให้แฟนที่เพชรบูรณ์มันฟังว่า ที่ต้องแต่งงานเพราะว่าที่บ้านมีปัญหาหนี้สินเยอะ ที่มันต้องแต่งงานก็เพื่อทดแทนบุญคุณ ตอนนี้มันกำลังวางแผนที่จะหนีไปจากผู้ชายคนนี้ ให้รอมัน มันแค่แต่งงานกันเฉยๆ ยังไม่เคยมีอะไรกัน (บ้าแล้วถ้าแฟนมันยังเชื่อเราก็ไม่รู้จะว่าอะไรแล้ว)
เรื่องจริงที่ต้องแต่งเพราะว่า มันอยากแต่งเอง เรื่องแต่งงานมันไม่ใช่เรื่องเล่นขายของนะ มันเกี่ยวข้องกับผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายทั้งชายและฝ่ายหญิงด้วย ทำไมญาติเรามันไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้และปัญหาที่มันจะตามมาเลย ให้ผู้ใหญ่มาเป็นสักขีพยานงานแต่งของมัน แล้วสามีคนปัจจุบันของมันก็ไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย
แล้วลูกพี่ลูกน้องเราก็ด่าเรากับน้องเราให้แฟนที่เพชรบูรณ์ฟังทางโทรศัพท์ แบบขุดอดีตความเลวต่างๆ ของเรากับน้องมาด่าให้แฟนมันฟัง แล้วก็ว่าที่บ้านมีแต่คนเกลียดมัน ไล่มันอย่างกะหมูกะหมา เราก็ขำๆๆ นะ มันมีเรื่องแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร่นะ แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรแฟนมันนะ แค่หัวเราะ ก็คุยกับน้องว่าเรามีความเลวให้ด่าด้วยเหลอ ตอนแรกลูกพี่ลูกน้องเราบอกว่าจะจัดการเรากับน้อง แต่สุดท้ายก็ฝากบอกแฟนมาว่า ให้เรากับน้องโทรกลับมาหาด่วนเลย จะอธิบายให้ฟังว่าทำไมถึงต้องแต่งงาน ไม่งั้นมันจะไปด่าพ่อแม่เรา
น้องมันก็บอกแฟนคนนั้นไปว่า ก็ให้มันไปด่าสิ อยากรู้เหมือนกันว่ามันจะกล้าไหม
แต่วันที่มีเรื่องญาติเรามันกรี๊ดโวยวายด่าเรา แม่เราอยู่บ้านยาย ซึ่งบ้านอยู่ตรงข้ามกัน แค่มีสวนกั้นแค่นั้นเสียงดังมาก แม่ก็ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร พอขากลับบ้านแม่ก็เดินผ่านบ้านย่า ซึ่งลูกพี่ลูกน้องเรามันอยู่ อาผู้หญิงอีกคนซึ่งอยู่บ้านหลังนั้น ก็ชี้หน้าแม่เรา ว่า เสี้ยมสอนให้ลูกมายุ่งเรื่องเด็กๆ ให้มันเคลียร์กันเองมายุ่งทำไม แม่ก็เลยตอกกลับไปว่า ถ้ามันจะเคลียร์กัน มันต้องเคลียร์กันก่อนแต่งงานไม่ใช่มาจะมาเคลียร์กันตอนที่แต่งงานแล้ว ทำอย่างนี้มันถูกต้องแล้วเหลอ อาผู้หญิงก็เลยเงียบไป
ก็ปรึกษากับอาผู้หญิงอีกคนที่แยกบ้านไปแล้ว และเป็นคนดูแลครอบครัวย่า และดูแลหลานๆ ว่าถ้าไม่เลิกกับทางนั้น ก็คงต้องเรียกผู้ชายที่เป็นแฟนปัจจุบันมาคุยกัน แล้วก็แฟนที่อยู่เพชรบูรณ์มาคุยกัน ก็ปรึกษากับญาติๆ กันที่บ้านติดกันนะ แล้วก็พ่อเรา ก็ลงความเห็นว่า ให้อาเราเป็นคนตัดสินใจไปคุย ก็เรียกอาผู้หญิงที่อยู่บ้านหลังเดียวกันกับญาติเรามาคุย อาผู้หญิงคนนี้แกก็ใส่อารมณ์ไม่ยอมรับรู้อะไร อาก็เลยบอกว่าทำอะไรไม่ได้ มีคนกันท่าอยู่ แต่ไม่ต้องห่วงทางนี้หรอก เดี๋ยวผู้ใหญ่จะจัดการเองถ้าเขายังไม่ยอมเลิกกับคนทางเพชรบูรณ์
ประมาณว่า ใครอยู่ใกล้ลูกพี่ลูกน้องเรา โดนหมดเลย เราไม่เคยคิดเลยว่าในโลกนี้จะมีคนที่เขียนละครให้ตัวเองได้เป็นนางเอกได้เก่งขนาดนี้ เขาสามารถใส่ร้ายทุกคนเพื่อให้ตัวเองดูดีได้
วันนี้เพื่อนอีกคนญาติเราใส่ไฟไปเยอะ และไปเดินพูดทั่วว่าจะแย่งแฟนมัน โทรมาหาเรา แล้วบอกว่า ญาติเรานะบอกพี่เขาว่า แม่เราไปเดินพูดทั่วหมู่บ้านว่าพี่เป็นคนโทรไปบอกแฟนที่เพชรบูรณ์ว่ามันว่ามันแต่งงาน (อ้าวใส่ร้ายแม่เราอีก เรางงๆ นะว่า แล้วมายุ่งกับแม่เราทำไมเนี่ย)
แล้วเรื่องทุกเรื่องญาติๆ เรารู้เรื่องหมดแล้ว ไม่มีใครเห็นด้วย แต่มีอาที่อยู่บ้านเดียวกันคนเดียวเท่านั้นที่เห็นด้วยให้ไปหลอกเอาตังค์คนอื่น
ที่ใส่ไฟพี่คนนี้เมื่อก่อนเราก็เชื่อนะ แต่ก็ได้แต่ฟังๆ เราก็ไม่ได้สุงสิงกับพี่คนนี้ด้วย ไม่เคยติดต่อกันเลย เพิ่งมามีเรื่องนี้แหละถึงได้คุยกัน เราเคยฟังแต่ญาติเรามันพูดฝ่ายเดียวถึงคนนู้นถึงคนนี้ มันเป็นคนที่มีจิตวิทยาสูงมาก เรายอมรับเลย ใครที่ไม่เคยรู้จักต้องไม่เชื่อแน่ๆ ว่าจะมีคนแบบนี้อยู่จริงๆ ในโลกนี้ แต่เราก็ไม่ได้พูดถึงสิ่งที่มันใส่ร้ายพี่คนนี้นะ เพราะอย่างน้อยมันก็เป็นญาติเรา ยังไงญาติพี่น้องมันก็คงตัดกันไม่ขาด เรายังเชื่อในเรื่องนี้อยู่นะ
ตอนที่มีเรื่องว้นแรกๆ เลย แฟนที่เพชรบูรณืก็โทรไปหาพี่คนนี้ ไปถามว่าทำไมญาติเราแต่งงานถึงไม่บอก พี่เขาก็ว่า ไม่อยากยุ่ง และก็ไม่กล้าบอกด้วย เพราะพี่เป็นคนอื่น
แล้วพี่คนนี้ก็โทรมาหาเรา บอกว่า แฟนที่เพชรบูรณ์ร้องไห้ใหญ่เลย เขาปลอบไม่ไหวแล้วให้เราโทรกลับไปคุยหน่อย กลัวมันจะคิดสั้น(คิดดูสิว่าพี่คนนี้เขาก็ดีนะ ญาติเรากับพี่คนนี้สนิทกันมาก ทำไมไปใส่ไฟพี่เขาซะเละเลย) พี่คนนี้เลยให้เราช่วยโทรไปปลอบหน่อย เราก็กลัว ถ้าเกิดเป็นงั้นจริงๆ เราคงรุ้สึกแย่มากๆ ก็โทรกลับไป แฟนมันร้องไห้ตลอดเลยที่คุยกับเรา
จะบอกว่าหาเรื่องใส่ตัวมันก็ใช่นะ เพราะว่าคืนนั้นเรานอนไม่หลับเลย รุ่งขึ้นไปทำงานก็เครียด เพราะแฟนมันโทรมาทั้งวัน โทรมาหาเรา แล้วก็โทรไปหาลูกพี่ลูกน้องเรา จนในที่สุดเราก็เลยให้โทรไปหาอาผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนที่ดูแลบ้านย่า และเลี้ยงหลานสองคนที่ลูกพี่ลูกน้องเราอ้างว่ามันเป็นคนเลี้ยงหลาน และรับผิดชอบบ้านทั้งหมด
จากนั้นของแฟนที่อยู่เพชรบูรณ์ก็เงียบไป ไม่ได้โทรมาหาเราอีก อาเราคงพูดเรื่องจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาเกี่ยวกับญาติเรา
เพราะเรื่องบางเรื่องเรายอมรับว่า เราไม่กล้าพูดเกี่ยวกับญาติเรา มันเยอะมาก เราก็บอกแค่เพียงเรื่องแต่งงาน ให้เขาตัดใจซะ แต่อาเราเป็นผู้ใหญ่แล้ว เขาไม่โกหก และมีวิธีการพูดนะ แฟนมันถึงได้เงียบไป
พอวันรุ่งขึ้น แฟนมันก็โทรมาหาเราบอกว่าเริ่มทำใจได้แล้ว เขาจะต้องก้าวไปข้างหน้า เขายังมีอนาคต เขาจะร้องไห้แค่นั้น แล้วจะไม่นึกถึงมันอีก ไม่โกรธไม่เกลียด ก็ยังห่วงญาติเราเหมือนเดิม แต่ก็คงกลับไปเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว เราฟังก็สบายใจนะที่เขาทำใจได้
พอวันนี้ พี่คนนี้โทรไปหาญาติเรา มันก็ใส่ไฟเต็มที่เลยว่า นี่พี่ พี่รู้ไหม ว่า แม่ของเรา เดินไปบอกคนโน้นคนนี้ทั่วหมู่บ้านเลยว่า เรื่องทั้งหมด พี่เป็นคนโทรไปบอกฝ่ายแฟนที่อยู่เพชรบูรณ์ (ตายแล้ว ! ชาวบ้านรู้เรื่องหมดเลยเหลอว่ามันมีแฟนแล้วอยู่เพชรบูรณ์ แล้วทำไมคนที่แต่งงานด้วยกันถึงไม่รู้อะไรเลย สงสัยไหม.... ดูญาติเรามันทำ มันกัดไม่ปล่อยเลย ถึงแม่เราจะพูดจริง แต่เราเชื่อว่าแม่เราไม่ใส่ร้ายพี่คนนั้นหรอก ถึงพูดจริง ก็ต้องบอกว่าเราพูด เพราะแม่เราไม่รู้จักพี่คนนี้เลย ไม่เคยสุงสิง ไม่เคยรู้เรื่องอะไรเลย แล้วจะไปใส่ร้ายพี่เขาได้ไง แล้วไม่ใช่แม่เราที่รู้ ญาติๆ เราทุกคน ที่บ้านติดๆ กันรู้เรื่องนี้หมด)
ดูญาติเรามันแต่งละครสิ ฟังแล้วเราก็ขำๆ นะ แต่ก็ช่างมันเหอะ เราคิดว่าสักวันหนึ่งทุกคนจะรู้เอง เพราะเราเชื่อว่าคนที่อยู่รอบๆ ตัวมัน ไม่ว่าใครก็ตาม ลับหลังโดนทุกคน ไม่เว้นแม่แต่ พี่สาวพ่อแม่เดียวกัน น้องสาวมัน ก็โดนเหมือนกัน ซึ่งตอนนี้เราก็มาคิดๆ ดู จริงๆ แล้วเรามันก็แค่ญาติ แค่ลูกพี่ลูกน้องกันไม่แปลกที่จะโดน ขนาดน้องสาวแท้ๆ กับพี่สาวแท้ๆ ลับหลังก็ยังโดนเยอะเรื่องที่โดนมันว่าลับหลังให้เราฟัง
มันสามารถแต่งนิยายโกหกเพื่อให้ตัวเองดูดีได้ สักวันหนึ่ง...เหอะ..
พี่คนนั้นเขาก็ว่า ญาติพี่มันก็เตือนว่าอย่ายุ่งกับผู้หญิงคนนี้ เพราะว่าลับหลังพี่มันนินทาพี่เยอะ พี่รู้ แต่ต่อหน้าพี่มันพูดดีกับพี่มาก แต่พี่ก็รักมันเหมือนน้องนะ แต่ตอนนี้พี่ว่าพี่ก็เริ่มจะไม่ไหวเหมือนกัน
เราก็ไม่ยุ่งแล้ว ไม่โต้ตอบ เพราะพี่ชายเราบอกว่า แกรู้หรือเปล่า ยิ่งพี่น้องกันกัดกันเอง ชาวบ้านเขาจะหัวเราะเยาะเอา แล้วก็จะมีแต่ซ้ำเติม เราไม่ต้องไปยุ่งอะไร แล้วก็ไม่ต้องไปเล่าอะไรให้แม่ฟังด้วยว่ามันใส่ร้ายแม่ว่ายังไง สงสารแม่ และเดี๋ยวเรื่องมันจะไม่จบ
เราก็บอกพี่คนนั้นที่โทรมาว่า ช่างมันเหอะพี่เดี๋ยวสักวันคนอื่นเขาก็รู้ว่ามันเป็นคนยังไง ยังไงซะพี่ก็ห่างๆ อย่าไปยุ่งกับมันอีกเลย
เราก็จะคอยดูว่า จะมีข่าวคราวอะไรที่ไม่ดีของเราออกมาให้ชาวบ้านเขานินทากันบ้าง เพราะว่าต้องโดนแน่ๆ ญาติเราแต่งนิยายได้อันดับหนึ่งเลย
Create Date : 29 มีนาคม 2552 |
|
2 comments |
Last Update : 29 มีนาคม 2552 22:46:50 น. |
Counter : 2218 Pageviews. |
 |
|
|
| |
โดย: แม็บ สาวเมืองช้าง (noomkrungkao ) 29 มีนาคม 2552 23:19:54 น. |
|
|
|
| |
|
 |
prymalang |
|
 |
|
|