Group Blog
นิยาย 'เสน่หาเล่ห์วารี' บทนำ




บริเวณลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง ร่างอรชรในชุดราตรียาวเกาะอกสีฟ้าอ่อนของแบรนด์ดังยี่ห้อหนึ่ง คลุมไหล่ด้วยผ้าสีเดียวกันดูหรูหรา ผมยาวถูกม้วนเกล้าขึ้นไปเก็บเรียบร้อย เผยให้เห็นดวงหน้ารูปไข่เนียนใส ที่ถูกแต่งแต้มสีสันไว้อย่างสวยงาม คิ้วเรียวสีน้ำตาลรับกับดวงตาคู่กลมโตมีชีวิตชีวา ปากนิดจมูกหน่อยบวกกับความน่ารักเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทำให้เธอละม้ายคล้ายกับดาราสาวเกาหลีเลยทีเดียว
เจ้าของร่างอรชรเดินเคียงหญิงชราที่อยู่ในชุดผ้าไหมสีเขียวอ่อนเหลื่อมเหลืองมายังรถเก๋งคันหนึ่ง โดยมีเพื่อนหนุ่มหัวใจสาว ผิวเข้ม ร่างสูงใหญ่ สวมสูทสีขาวสะอ้าน ผูกหูกระต่ายสีน้ำตาล แอบหวานด้วยเข็มกลัดประดับอัญมณีรูปนกยูงที่ติดตรงปกเสื้อยืนรออยู่ก่อนแล้ว
“เร็วเข้าไอ้เป๋อ เดี๋ยวก็ไม่ทันงานเริ่มหรอก” ชายหนุ่มหัวใจสาวเร่ง เมื่อเห็นเพื่อนเจ้าของฉายา เป๋อ หรือ รินวารี ออกมากับผู้เป็นย่าในชุดที่พร้อมจะไปงานแต่งงาน
“แกจะรีบไปไหนกันแซนดี้ อีกตั้งชั่วโมงกว่างานถึงจะเริ่ม เร่งตลอดเลยแกเนี่ย” หญิงสาวบ่นว่าเพื่อนสาว เพราะคอยเร่งเธอตั้งแต่ก่อนออกมาแต่งตัวที่ร้านเสริมสวยแบบครบวงจรในห้างแห่งนี้ จนสวยเสร็จสมบูรณ์ในตอนนี้ก็ยังไม่วายจะเร่งอยู่นั่นแล้ว
“ฉันตื่นเต้นว่ะ งานนี้ผู้ชายหล่อๆ คงเพียบ” แซนดี้ หรือ แสนดี จีบปากจีบคอว่าดวงตาเป็นประกายเพ้อฝันสุดฤทธิ์
“ไอ้เพียบก็คงเพียบอยู่หรอกนะ แต่มันจะใช่สำหรับแกหรือเปล่านี่สิแสนดี” จน ย่าจันทร์หอม ซึ่งกำลังก้าวเข้าไปหาพร้อมหลานสาวอดกัดหลานชายจอมตุ้งติ้งไม่ได้
“แหม... ย่าจันทร์ละก็” แสนดีค้อนย่าจันทร์หอมประหลับประเหลือก “นี่ถ้าไม่เกรงใจพ่อนะ งานนี้แซนดี้ใส่ชุดราตรีกรุยกรายมาแล้วล่ะฮ่ะย่า” ก่อนจะจีบปากจีบคอพูดต่อ แต่ก่อนที่ทั้งหมดจะทันขึ้นรถ เสียงกรีดร้องก็ดังมาจากบริเวณด้านในสุดของลานจอกรถ
“กรี๊ด!! ช่วยด้วยๆๆ ” ทั้งสามหันมามองหน้ากันโดยอัตโนมัติ
“ย่าคะเดี๋ยวรินจะไปดูนะคะว่าเกิดอะไรขึ้น แซนดี้แกดูแลย่านะ” หญิงสาวว่าพลางผละจากไปในทันที แสนดีจะทักท้วงก็ไม่ทันเสียแล้ว เสียงกรีดร้องยังดังมาไม่หยุดหย่อน
“ไปดูกันเถอะแสนดี มีอะไรจะได้ช่วยกันได้ทัน” ย่าจันทร์หอมบอกแสนดี แล้วต่างก็รีบรุดตามรินวารีไปยังที่เกิดเหตุ
หญิงสาวถลกชายชุดราตรีรุ่มร่ามขึ้น พลางวิ่งตรงไปยังที่มาของเสียง ผู้ชายตัวล่ำเตี้ยคนหนึ่งกำลังฉุดกระชากกระเป๋าสะพายจากผู้หญิงสองคน คนหนึ่งวัยประมาณ 60 กว่าปี และอีกคนประมาณ 40 กว่าปี ต่างดึงทึ้งอย่างไม่ยอมกัน อีกทั้งผู้หญิงสองวัยต่างก็ตะโกนร้องขอความช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา
“ช่วยด้วย โจรกระชากกระเป๋าค่า ช่วยด้วย! ” รินวารีรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก หันซ้ายหันขวาไม่เห็นใครเลยในมุมอับของลานจอดรถแห่งนี้ นอกจากแสนดีกับย่าของเธอที่กำลังวิ่งตามมา
“ตำรวจ ตำรวจมา!! ” หญิงสาวตัดสินใจตะโกนสุดเสียง
ทั้งสามต่างก็ชะงักงันหันมาทางเธอ ก่อนที่ไอ้โจรจะฉวยโอกาสกระชากกระเป๋ามาจากผู้หญิงสองคนนั้นได้ และวิ่งหน้าตั้งมาตรงทางออกที่รินวารียืนอยู่ หญิงสาวจึงรีบก้าวเข้าไปขวาง แต่มันกลับปัดป่ายมีดสั้นปลายแหลมขู่เสียก่อน เจ้าของร่างอรชรชะงักกึกอยู่กับที่
“อย่าเข้ามานะมึง ไม่งั้นกูเสียบแน่” แล้วจึงฉวยโอกาสตอนรินวารีละล้าละลังวิ่งต่อไป ฉับพลันหญิงสาวตัดสินใจถอดรองเท้าส้นสูงขึ้นมาเล็งไปยังเจ้าโจรที่ยังห่างไปไม่ถึงสองเมตร แล้วปาออกไปสุดแรงเกิด รองเท้าส้นสูงพุ่งตรงเข้าปะทะหัวของเจ้าโจรชะตาขาดสุดแรง
“ผลั๊วะ!! ” “โอ๊ย!! ” ร่างของมันเซถลาราวกับนกปีกหัก ด้วยเสียการทรงตัว
“บิงโก!! ” รินวารีตะโกนสุดเสียงพร้อมกำหมัดขึ้นถองกลางอากาศอย่างผู้ชนะ ‘อะไรมันจะแม่นอย่างกับจับวางอย่างนี้ ร้อยวันพันปีไม่เคยแม่น’ หญิงสาวคิดอย่างสะใจ ก่อนจะหันไปเห็นแสนดีกับย่าจันทร์หอมวิ่งเข้ามาใกล้จุดที่เจ้าโจรกำลังเซพอดี
“แซนดี้จัดการมันเลย!! ” รินวารีตะโกนบอกเพื่อนสาวหุ่นล่ำ ซึ่งก็ตรงรี่เข้าไปหาเจ้าโจรที่ทั้งเซ ทั้งมึนงงแล้วเตะผ่าหมากเข้าอย่างจัง คราวนี้มันล้มลงทันทีพร้อมกับกุมเป้าและหัวที่มีเลือดไหลออกมา
รินวารีถอดรองเท้าอีกข้างทิ้ง ก่อนรีบวิ่งเข้าไปช่วยแสนดีล็อคตัวเจ้าโจร และมัดมันไว้ด้วยผ้าคลุมไหล่สีฟ้าผืนบางเบาของเธอเอง ที่พอแปรสภาพมาเป็นเชือกแบบนี้กลับมัดได้อย่างแน่นหนาจนเจ้าโจรขยับตัวไม่ได้เลย ขณะเดียวกันย่าจันทร์หอมก็รีบเข้าไปหาผู้หญิงเจ้าของกระเป๋าซึ่งยังยืนตัวสั่นงันงกอยู่ ส่วนอีกคนวิ่งเข้าไปด้านในตั้งแต่ตอนที่โจรได้กระเป๋าไปแล้ว
“คุณเป็นยังไงบ้างคะ บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า” หญิงชราถามคนที่กำลังหน้าซีดตัวสั่น พลางหยิบยาดมจากกระเป๋าถือมาจ่อใต้จมูกของผู้หญิงคนนั้น
“มะ...ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันแค่ตกใจน่ะค่ะ” หญิงวัยประมาณ 60 กว่าปีตอบเสียงสั่นไม่หาย พอดีรินวารีก้าวเข้ามาหา
“นี่ค่ะ กระเป๋าของคุณป้า ลองตรวจดูก่อนนะคะว่ามีอะไรหายไปหรือเปล่า” เธอส่งกระเป๋าสะพายใบขนาดกลางที่ถูกฉกไปคืนให้กับเจ้าของ ซึ่งก็ยื่นมือที่สั่นระริกมารับ ก่อนจะเปิดออกดู
“ครบจ้ะหนู ไม่มีอะไรสูญหาย โชคดีจริงๆ ขอบใจมากนะหนู คุณพี่... ” ขณะเดียวกันนั้นเองผู้หญิงที่อ่อนวัยกว่าก็กลับมาพร้อมพนักงานรักษาความปลอดภัยจำนวนหนึ่ง
“หม่อมแม่เป็นยังไงบ้างคะ” หญิงคนนั้นรีบถลันเข้ามาหา ส่วนพนักงานรักษาความปลอดภัยเองก็รีบเข้าไปจับตัวโจรกระชากกระเป๋า ซึ่งถูกมัดไว้อย่างแน่นหนา โดยมีแสนดีคอยคุมตัวไว้อยู่
“ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยเรา ไม่ได้พวกคุณเราคงไม่ได้กระเป๋าคืนมาแน่” ผู้หญิงที่อ่อนวัยกว่าดูเหมือนจะเป็นลูก เพราะหน้าตาคล้ายกัน พูดกับรินวารีและผู้เป็นย่าด้วยความซาบซึ้งใจ
“ใช่ค่ะ กระเป๋าใบนี้สำคัญกับดิฉันมาก” คนที่น่าจะเป็นแม่เสริม ย่าจันทร์หอมยิ้มให้
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พวกเราดีใจที่พวกคุณปลอดภัยและได้ของคืนมากกว่า ดิฉันกับเด็กๆ ต้องขอตัวก่อนนะคะ พอดีเรามีธุระสำคัญน่ะค่ะ” ก่อนจะขอตัวในที่สุด
“เอ่อ... อย่าว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลยนะคะ” พูดจบคนที่เป็นแม่ก็เปิดกระเป๋าหยิบธนบัตรใบละพันออกมาสอง-สามใบส่งให้รินวารี “ถือว่าป้าตอบแทนน้ำใจของพวกหนูก็แล้วกันนะลูก” รินวารีหันไปสบตากับผู้เป็นย่าแว่บหนึ่ง ก่อนจะหันมายิ้มให้เจ้าของกระเป๋าทั้งสอง
“พวกเรารับไว้ไม่ได้หรอกค่ะคุณป้า ที่เราช่วยไม่ได้หวังอะไรตอบแทนเลยค่ะ และไม่ว่าจะเป็นใครเราก็ต้องช่วยอยู่แล้วค่ะ ไม่ต้องคิดมากนะคะ” หญิงสาวปฏิเสธพร้อมอธิบายด้วยรอยยิ้มสดใส ไม่มีท่าทีไม่พอใจแต่อย่างใด
“ใช่แล้วล่ะฮ่ะคุณป้า เพราะเราคือซูปเปอร์เกิร์ล ที่ทั้งสวย แข็งแรงแล้วก็น้ำใจงามด้วยฮ่ะ” แสนดีเสริมพลางเท้าสะเอว เชิดหน้า ทำท่าสวย แม้จะพึ่งผ่านเหตุการณ์อกสั่นขวัญแขวนมาหมาดๆ แต่ก็ทำให้ทุกคนอดยิ้มไม่ได้กับท่าทางนั้น ก่อนแสนดีจะหันมามองรินวารี และตัวเอง “กรี๊ด!! เป๋อ... แกดูชุดเราสิ”
คนถูกเรียกมองสภาพของเพื่อนสาว ที่มาตอนนี้สูทสีขาวของแสนดีมีลวดลายเป็นด่างดวงไปทั่ว แล้วจึงก้มมองตัวเอง ชุดสีฟ้าอ่อนของเธอเองก็เปื้อนเปรอะเลอะเทอะไม่ต่างกัน ผมที่รวบเกล้ามาอย่างดีหลุดรุ่ยร่าย แถมรองเท้าก็ไม่ได้ใส่อีกต่างหาก
“ว้าย!! จริงด้วยเละเทะหมดเลย แล้วรองเท้าฉันล่ะแซนดี้ ตายแล้วทำไงดี จะไปงานได้ไงเนี่ย” หญิงสาวทำหน้ายุ่ง
“ก็ไปเปลี่ยนใหม่สิลูก ไปที่ร้านเดิมนั่นแหล่ะ รีบไปกันเถอะเดี๋ยวจะไม่ทันงาน” สิ้นคำของย่า รินวารีกับแสนดีก็รีบกล่าวลาผู้หญิงสองคนที่ช่วยไว้จากโจรกระชากกระเป๋าเมื่อครู่อย่างรีบเร่ง แล้วจึงพากันไปเก็บรองเท้าของรินวารีที่กระจัดกระจายไปคนละทาง
“ขอบคุณคุณพี่กับเด็กๆ มากนะคะ ไม่ทราบว่า... ” เจ้าของกระเป๋ากำลังจะถามไถ่ชื่อ แต่เสียงตะโกนดังขัดขึ้นเสียก่อน
“ย่าขา รีบหน่อยสิคะ เดี๋ยวไม่ทันงานนะคะ” เสียงใสของหลานสาวดังซ้ำๆ มาเร่งเร้าอยู่นั่นแล้ว จึงทำให้ผู้เป็นย่าต้องหันมาขอตัวอีกครั้ง
“ดิฉันขอตัวก่อนนะคะ” แล้วจึงก้าวตามหลานๆ ไป




** ‘เสน่หาเล่ห์วารี’ มีรูปแบบ E-Book แล้วนะคะ สนใจเข้าไปโหลดฉบับเต็มกันได้ค่ะที่
Ookbee
//www.ookbee.com/shop/BookInfo?pid=47a1875c-7d8e-4d87-85a7-28802e3b9ff3&affiliateCode=1168c15837084f8bbb5cf6fde0ca707d
Meb
https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiNzEyOTE2IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NToiMjUxNDAiO30

//www.ebooks.in.th/ebook/33847/%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B9%88
%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A5
%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B9%8C%E0%B8%A7%E0
%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B5/
//banbanbook.com/banbanbook/cart/get_detail_book/1109
//www.hytexts.com/ebook/book/B004573




Create Date : 29 มิถุนายน 2558
Last Update : 29 มิถุนายน 2558 20:32:11 น.
Counter : 581 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

cream soda-kanplu
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




พิริตา/อเมทริน

ยินดีต้อนรับทุกท่าน ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยือนค่ะ




*ลิขสิทธิ์งานเขียนทุกชิ้นในบล็อคนี้ เป็นของผู้เขียนตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 ห้ามดัดแปลง คัดลอก หรือนำไปเผยแพร่ต่อ ไม่ว่ากรณีใดๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงาน ผู้ใดพบเห็นการละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งเจ้าของบล็อคจะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง*


พิริตา อเมทริน นักเขียน

Create Your Badge
New Comments