Bloggang.com : CookiesBKK - ไดอารี่ การเดินทาง Part1 #ppinkorea เกาหลีเมืองแฟชั่น 24-31 OCT 2014

Link

Bloggang.com

ไดอารี่ การเดินทาง Part1 #ppinkorea เกาหลีเมืองแฟชั่น 24-31 OCT 2014

ไดอารี่ การเดินทาง Part1 #ppinkorea เกาหลีเมืองแฟชั่น 24-31 OCT 2014

สวัสดีจ๊ะ พึ่งกลับมาจากไปเที่ยวเกาหลี สดๆ ร้อน หมาดๆ ยังมีอารมณ์จะมาเขียนบล็อกเล่นๆ

ขอเกริ่นนำนิดนึงว่า Trip Korea 24-31 Oct 2014 ที่พึ่งผ่านมานี้ เป็นทริปที่ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมแผนท่องเที่ยวมากนัก (เท่าตอนไปญี่ปุ่น) เหมือนไม่ค่อยกระตือรือร้นเพราะที่เที่ยวน้อยมั้ง..

เรื่องมันเริ่มมาจาก.. นั่งดู Series "Fate To love you" จบ และทันใดนั้นก็รู้สึกว่า ฉันจะไปเกาหลี!

มีพี่ๆ ติ่งนางฟ้าเกาหลีเค้าไปกันอยู่แล้ว 23-2nov จองกันมานานแต่เราจู่ๆ ก็จะไปซะงั้นกะว่าบินตามไปคนเดียวสวยๆ แค่ 8 วันพอ คิดปุ๊ป จองตั๋วปั๊ปตอนเดือน Sep คิดไปคิดมา ก็ชวนเพื่อนสนิท ซี้สุดไปด้วยดีกว่า อ้อนวอนกราบกรานอยู่ 3 วันเพื่อนก็ตามไปอีก 1 คน ทั้งหมดคือ 5 คนสำหรับแก็งค์ ติ่งนางฟ้าของเรา ^^

แก็งค์ (ติ่ง) นางฟ้า Korea

พอถึงวันจะเดินทางไปก็นอนไม่หลับทั้งคืน แต่แผนการท่องเที่ยวหละหลวมมาก เกร็งมากชุดขึ้นเครื่องบินก็แบบ (เอ๊ะจะผ่านตม.ไหม) วิญญาณ ชมพู่อารยาเข้าสิงสุดฤทธ ิ์ ขาไปโชคดีมาก บิน Airasia ราคาถูกเหมือนรถท้วร์มาก โหวกเหวกโวยวาย ดีนะที่ ได้นั่งคนเดียวสบายๆ นอนยาว....

วิวส่วนตัวนั่งคนเดียวไม่แบ่งใคร ;p

โรงแรมที่พักของเราอยู่สถานี Shinchon เป็นรถไฟสายสีเขียว line 2 ใครมาเกาหลี

แนะนำให้พักแถว รถไฟสายสีเขียวนะคะ เพราะว่ามันต่อไปสถานนีอื่นๆได้สะดวกมากๆ

Limousine Bus จากสนามบิน ราคา 10,000 Won

ถ้าเดินทางไปลงแถวไหน เช็คได้

ส่วนเราลงแถว Hongik University เลือก Bus สายนี้ค่ะซื้อตั๋วแล้วก็ไปรอที่ป้าย เอากระเป๋าให้ให้เก็บ และเก็บตั๋วกระเป๋าไว้ พอลงก็กดออด แล้วลุงเค้าจะมายกกระเป๋าลงให้

โรงแรมที่พักอยู่บนเนิน Shinchon Station Exit 7

ชื่อ Y Hotel Shinchon

ย่านนี้มี Love Motel ที่มีคู่รักมาซ่ำกันซะส่วนใหญ่ แต่ก็มีนักท่องเที่ยวมาพักด้วยเยอะพอสมควรเพราะราคา ประมาณ Business Hotel ของญี่ปุ่นค่ะ เพราะโรงแรมที่เกาหลี ราคาต่อคืน Base on 4000 up ขนาด Ibis ยัง คืนละ 4500 up

คนไทยส่วนมากจะพัก Guest House เพราะราคาถูก

แต่ที่เราเลือกพัก Hotel 3 ดาวในย่าน Love motel เพราะว่าห้องพักราคาถูก / สะอาด / สะดวกสบาย มีไดร์เป่าผม ครีมทุกอย่างเหมือนโรงแรมปกติ แค่ขนาดเล็กกว่า และทำความสะอาดห้องให้ทุกวัน

Y Hotel เกาหลี มี Free Popcorn ที่ lobby และ Free coffee ให้กดดื่มได้ด้วยค่ะถือว่าใครไปเกาหลีสามารถพักได้ ราคาคืนละ 2200/night

Day 1 เดินเล่นย่าน ม.สตรี Ewha Womans University(อีแด)

ย่านนี้จะมีของให้ช้อปปิ้งเฉพาะสาวๆ โดยเฉพาะ รับรองติดใจ ทั้งกระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า ราคาถูกสุดๆ และร้านอาหารมีทุกซอกทุกมุม เดินชิลล์ไปเรื่อย ช้อปปิ้งเครื่องสำอางค์เยอะมากกกก
ร้านแถวนี้เปิดตั้งแต่บ่าย 3 - 4,5 ทุ่ม อากาศประมาณ 17 องศา

เรื่องเดียวที่พวกเราต่างไม่ยอมแพ้คือการ Shopping +++++++ ^^

มื้อแรกของเราที่โซล ย่านอีแดคือไอ้นี่ (มันคือะไรไม่ทราบ) แค่พูดว่า อานีโอ ซูโกกิ (มั่วฉิบหาย)
ไม่เอาเนื้อวัวค่ะ ผู้ชายที่เป็นคนรับออเดอร์ก็พยายามช่วยเต็มที่น่ารักจริง ๆ สิ่งที่สังเกตุได้จากที่นี่คือ
คนที่นี่จะหน้าบึ้งมากๆ แต่ถ้าเรายิ้มให้และทักทาย ว่า "อันยองฮเซโย" "คัมซาฮัมนิดะ"
เค้าก็จะยิ้มตอบมาและพยายามช่วยเรามากๆ Thailand Smile จริงๆ 555+

อาหารเกาหลี เลี่ยนทุกอย่างเลยอะ อดทนนะ ทริปนี้ไม่อ้วนเลอะ!

Day 2 Meyongdong -Nseoul Tower- ตลาดสดกินปลา

วันที่ 2 ตื่นแต่เช้า เพราะซื้อ Tickets Nanta Show ไว้ที่เมียงดง รอบ 11.00am. เพราะราคาลดถูกสุด

รีบบึ่งไปแต่เช้า เพื่อไป Confirm ticket และเดินหาอะไรกิน วันเสาร์คนเยอะมากๆๆๆ เมี่อยสุดเพราะใส่รองเท้ากัดจ๊ะ Show Nanta สนุกและสร้างเสียงหัวเราะได้ดี คุ้มราคา ถึงเป็นภาษาเกาหลีแต่ Body Language ก็สามารถทำให้เข้าใจโชว์ได้ง่ายๆ และเข้าใจสิ่งที่นักแสดงกำลังสื่อสารได้ดี

รีบไปหาอะไรกินก่อน Show เริ่ม อาจุงม่า ก็ทำอาหารช้าเหลือเกิน กลัวจะไม่ทัน Show กินแบบรีบสุดๆ

ปรากฎว่า ร้านที่เค้าไปกิน ขาย kimbap (สงสัยจะอร่อยมาก) เพราะคนต่อคิวกินเราไปตอนมีที่นั่งพอดี

โชคดีมากเลย เพื่อนก็หัดพูดภาษาเกาหลีสุดฤทธิ์ เยกีโย.. บลา บลา บลา

ร้านนี้ละอ่านไม่ออก

Nanta Show เสียดายไม่ได้ถ่ายมา อันนี้ถ่ายก่อนจะเริม แสงสีเสียงกลิ่น 4dx สุดๆ ดีนะเก้าอี้ไม่ขเย่า :D

ดูโชว์เสร็จก็เดินเล่นเมียงดงตามประสาญาติฝากซื้อของ เดินเล่นอากาศดีชิลล์ๆ ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ

แดกไอติมเมามันส์

เดินเล่นกิน ขนม street food สนุกดี ที่นี่คนคึกคักมีชีวิตชีวาสุด ได้ลองชิมไอติมนมผึ้งแล้ว เห็นรีวิว

ใน Pantip บอกตรงๆ 4000 won เสียดาตังอะ ไม่อร่อยเลยบอกกงๆ นั่งพักขาในร้านติมถ่ายรูปเล็กน้อย

และก็เดินเล่นรอเพิ่อนอีกกล่มมาจอยกัน เพื่อจะไปขึ้น N Seoul Tower

หลังจากครบ Gang เราก็รับประทานอาหารกันก่อน กองทัพต้องเดินด้วยท้องจ้า :D

และแล้วก็เริ่มเข้าสู่ ทางเดิน อันหฤโหด ถามจริง นี่ยังนึกย้อนว่า ทำไมกูถึงเดินถึง Namsan วะ
ผีเข้าสิงหรือสิ่งใดดลใจ... พวกเราเเก็งค(ติ่ง)นางฟ้า ก็ได้เดินขึ้นเป็นจำนวน 800 กว่าขั้นขึ้นเขา
เกือบจะตาย เพราะรองเท้ากัด จะเป็นลม พักเป็น ชั้นๆ นี่ยังไม่ถึงภูกระดึงนะ แค่นัมซาน ก็จะอ้วกแตก
แต่ก็ได้ฟีลอีกแบบที่ประทับใจไม่รู้ลืม :D

เดินมันเข้าไป สนุกสนานร่าเริง มิรู้จักเหน็ดเหนื่อย วันที่ 2 ก็งี้ ขาลงกระเช้าจ๊ะ (จบ)

Finally ถึงแล้วววววววววววววววววววววววววววววววว

คนตรีมเลยวันเสาร์ ก็งี้ หามุมถ่ายโคตรยาก มาถึงก็ค่ำแล้ว แสงไม่มี 55+

i love u all na ja ^^

หลังจากลงมาเสร็จ ภารกิจฟิชโช่ของพิงค์ก็ยังไม่หมดเพราะต้องไป รับประทานอาหารค่ำ

กับเพื่อนต่างชาติ (ชาวมาเลอีก 2 คนที่ตลาดปลา)

Let's Go To "ตลาดปลานอร์ยางจิน" (Noryangjin Fish Market)

ที่นี่ ทำกันสดๆ เราสามารถซื้อของด้านล่าง... แล้ว ขึ้นไปปรุงอาหารด้านบนตามร้าน ต่างๆ เจอหนุ่มๆ มาดื่มโซจู สังสรรค์กัน พนักงานเลิกงานก็มาทานอาหาร เราก็เนียนๆ ชนแก้วกันไปนะค่ะ ;p

นั่งตั้งแต่ 1 ทุ่มจนเกือบ 5 ทุ่มนั่งเม้าส์ ชิทเเชทไปเรื่อยคุยอังกฤษกับเกาหลี กับมาเล อย่าสนุก หนุ่มข้างๆ ก็มาทักทาย(ไม่รุ้จักนะ) แต่ก็แนะนำให้เราไปเที่ยวที่ไหนบ้าง และก็ พยายามคุยกับเราเป็นภาษาอังกฤษ ชนแก้วเสียงดังเหมือนรู้จักกันมานานแสนนาน

นักศึกษาเกาหลีเค้าพูดอังกฤษค่อนข้างเก่งใช้ได้ค่ะ ความกล้าพูดกล้าแสดงออกถือว่า OK
เป็นการเปิดประสบการณ์สำหรับชีวิตจริงๆ มีอะไรใหม่มาท้าท้ายตลอด มีความสุขมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อิอิ

หมดเวลาสนุกแล้วซิ เช็คบิลมา 70,000 won (เฉพาะค่าปรุงอาหารรวมเหล้าเบียร์น้ำดื่ม) ไม่รวมค่าอาหารสดนะฮ่ะ

อ่าวได้เวลากลับแล้ว กลับแค่ 2 คนนะไม่ได้เอี่ยวใครมา 55+ เหนื่อยมากวันนี้เป็นอะไรที่สุดๆ ดูจากหน้าได้
และรองเท้ากัด ไอ้ที่ว่าเดินธรรมดาก็โอนะ แต่เดินขึ้นเขานี่อย่าง เห้! รองเท้างามงดมาก ดีงาม
แต่ควรใส่เดินสวยๆ พอ ขากลับก็แวะกินไอติมอีก... คนอะไรกินไอติมตลอดเวลา :D