Group Blog
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •   
เที่ยวมัลดีฟส์แบบสบายๆ นอนพักกลางน้ำ Adaaran Prestige Water Villa




สวัสดีค่าเพื่อนๆทุกคน วันนี้ออมจะพามาเที่ยว Maldives เกาะในฝันของใครหลายๆคนกัน ! สำหรับครั้งนี้ออมไปที่เกาะ Meedhupparu โรงแรม Adaaran Prestige Water Villa เมื่อวันที่ 22-25 ธันวา 2558 ที่ผ่านมา เลยอยากจะมารีวิวเล็กๆน้อยๆ เผื่อคนไหนสนใจอยากไปมัลดีฟส์บ้าง
ออมแนะนำให้ดูวิดีโอก่อนนะคะ เพราะจะเห็นภาพบรรยากาศมากกว่า
แต่ถ้าใครอยากจะอ่านรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถอ่านได้ด้านล่างเลยค่า




          บอกก่อนเลยว่าปรกติแล้วออมจะทำรีวิวและวิดีโอต่างๆเกี่ยวกับ beauty บล็อกนี้เป็นบล็อกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวอย่างแรกของออม ถ้าทำผิดพลาดอย่างไรก็ขออภัยด้วยนะคะ


          เริ่มกันที่การเดินทางไปกันเลยดีกว่า ออมนั่งเครื่องบิน Bangkok Airways เที่ยวบิน PG711 ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิตอน 9:25 ถึงที่สนามบินมาเล่ 11:45 (local time) เวลาที่มาเล่จะช้ากว่าที่ไทย 2 ชั่วโมงค่ะ ใช้เวลาบินก็ประมาณ 4 ชั่โมง 20 นาที บนเครื่องค่อนข้างใหม่ คนไม่แน่นมากและมีอาหารบริการให้ 1 มื้อ มีน้ำคอยเสริฟตลอด ถือว่าประทับใจกับการบริการของสายการบินนี้

          ที่ออมเลือกไปไปกับ Bangkok Airways เพราะตอนนั้นออมจองกระชั้นชิดมาก แค่ประมาณ 1 อาทิตย์ก่อนเดินทาง แล้วตั๋วของ Bangkok Airways ราคาถูกที่สุดอีกทั้งเวลาเครื่องไป-กลับกำลังดี คือความจริงก็มีตั๋วของ Srilanka Airlines ที่ราคาพอๆกันนะ แต่ว่าต้องไปต่อเครื่องที่ศรีลังกานานมากแบบรอ 8  ชั่วโมง เราเลยเลือกของ Bangkok Airways ดีกว่า สะดวกดีได้บินตรงเลย 

          ออมจองตั๋วผ่าน Expedia.com ราคาคนละ 20,350 บาท (รวมภาษีและอื่นๆแล้ว) อันนี้ราคาถูกที่สุดในตอนนั้นแล้วค่ะ Smiley



         ส่วนเรื่องโรงแรมออมก็จองผ่านทาง Expedia.com เหมือนกัน โรงแรมที่ออมจองไปคือ Adaaran Prestige Water Villa (All Inclusive) พอจองปุ๊ปทางโรงแรมก็จะอีเมลล์หาออมประมาณ 1 วันหลังจากจองเพื่อสอบถามเรื่อง Flight Information เพราะเค้าต้องทำการจัดตารางเครื่องบินน้ำหรือ Sea Plane ให้เราเพื่อนั่งต่อไปยังโรงแรม ราคาโรงแรมก็โหดใช่ย่อยค่ะ อาจจะเป็นเพราะช่วงใกล้ๆ Christmas ด้วย ราคาห้องละ 17,000/คืน ออมพัก 3 คืน ก็เป็น 51,000 และมีค่าภาษีและค่าธรรมเนียมอีก 6,657 บาทต่อห้อง (สำหรับค่านี้ออมไม่แน่ใจว่าเค้าคิดยังไง แต่ 6,657 นี้สำหรับ 3 คืนที่พักเลยค่ะ ) รวมทั้งหมดก็เป็น 51,000 + 6,657 = 57,657 บาท สำหรับ 3 คืน ราคานี้เนี่ยคือรวมอาหาร 3 มื้อและของว่าง น้ำดื่ม & แอลกอฮอลไม้อั้น และรวมบริการเกือบทุกอย่างในโรงแรมแล้วค่ะ ตรงจุดนี้เดี๋ยวออมจะอธิบายอย่างละเอียดอีกทีนึงนะ


         แต่ ! มันเหลืออยู่อีกอย่างนึงค่ะ ค่าเครื่องบินน้ำ หรือ Seaplane ที่จะต้องขึ้นเพื่อเดินทางไปยังโรงแรม คือตอนแรกก็ถามคุณพ่ออยู่ว่าทำไมถึงเลือกโรงแรมนี้ เพราะค่าเครื่องบิน Seaplane มันแพงมาก คือราคาไป-กลับอยู่ที่ 376 USD สำหรับผู้ใหญ่ หรือประมาณ 13,547 บาทเลย เกือบๆจะเท่ากับค่าเครื่องบินไป-กลับจากกรุงเทพมาที่มาเล่อยู่แล้ว แต่คุณพ่อเค้าอยากลองขึ้นเครื่องบินน้ำดูค่ะ เพราะไม่เคยลอง 55555 เหตุผลน่ารักดีเน๊อะ 

        คือถ้าจะมาโรงแรมนี้ต้องทำใจค่าเครื่องบินน้ำไว้ก่อนเลย ทางโรงแรมไม่อนุญาติให้ใช้บริการ Seaplane ที่ไม่ได้จัดแจงโดยโรงแรม เพราะเหตุผลความปลอดภัยค่ะ แต่ก็เป็นประสบการณ์แปลกๆอย่างนึงดีนะ เหมือนอยู่ในหนัง James Bone เลย

       โอเคเรามากลับเข้าเรื่องกันดีกว่า เมื่อถึงสนามบินที่มาเล่แล้วให้ไปติดต่อที่เค้าท์เตอร์ E2 หาไม่ยากค่ะเพราะสนามบินเล็กมากกกกก แล้วจะมีพนักงานของโรงแรมมาเช็คชื่อเรา และเอากระเป๋าของเรามาเช็คอินเค้าท์เตอร์ของ Seaplane สายการบิน Trans Maldivian Airways เค้าจะให้เราขึ้นรถบัสของโรงแรมไปยัง Terminal B เวลาเดินทางบนรถบัสไม่นานค่ะ ไม่เกิน 5 นาทีก็ถึง Terminal B แล้ว หลังจากนั้นต้องรอขึ้นเครื่องบินน้ำอีก เครื่องออก 1:30 มั้งคะถ้าจำไม่ผิด Smiley ซึ่งเวลาตรงนี้ก็คงแล้วแต่วัน แล้วแต่สถานการณ์ด้วยว่าแขกที่มาพักวันเดียวกันจะถึงที่สนามบินกี่โมง 


ระหว่างรอมีห้องรับรองสวยๆ สบายๆแอร์เย็นๆให้นั่งรอพร้อมขนมและน้ำเล็กน้อย นั่งสบายเงียบสงบ แถมมีไวไฟให้ด้วย พอถึงเวลาพนักงานก็จะเรียกเราไปขึ้น Sea Plane จ้า


(แคปมาจากวิดีโอของออม อาจจะเบลอๆนิดนึง)




        หน้าตาของเจ้าตัว seaplane ที่แพ๊งแสนแพงงงง มีที่นั่งข้างในประมาณ 15-20 ที่นั่งเอง เล็กและคับแคบมากกกกกก แล้วไม่มีแอร์ ไม่มีอะไรเลยนอกจากพัดลมตัวเล็กๆที่อยู่ด้านหน้า หน้าต่างก็ปิดหมดค่ะ สรุปค่อนข้างแออัดและร้อน และเสียง ดัง มากกกกกกกก! เครื่องยนต์ดังมากกว่านั่งเครื่องบินปรกติเยอะค่ะ (ถ้าสงสัยว่าด้านในเครื่องบินน้ำลำเล็กๆนี้เป็นยังไงคลิ๊กดูวิดีโอนี้ได้ค่ะ : https://www.youtube.com/watch?v=-coxoOXwRKM )



(แคปมาจากวิดีโอของออมค่ะ เห็นพัดลมเล็กๆนั่นไหม 5555 สงสารคนนั่งข้างหลังมากๆ แถมตอนบินขากลับไม่ได้เปิดพัดลมด้วย Smiley)

        แต่ก็ได้บรรยากาศมัลดีฟส์ดีนะ เค้าจะบินไม่สูงมาก ได้เห็นวิวเกาะต่างๆ และถ้านั่งถูกด้านจะเห็นตัวเมือง มาเล่ ที่เป็นตึกเล็กๆด้วย เสียดายค่ะออมนัางผิดด้าน เลยขโมยรูปจากอากู๋มาให้ดูแทน


Original Website : https://500px.com/photo/87612471/view-of-male-city-from-seaplane-by-paul-huen 
Photo by : Paul Huen


รูปที่เหลือนี้ที่ออมถ่ายมาเองจ้า มุมจากเครื่องบินน้ำ



ใช้เวลาบิน 45 นาทีค่ะ นั่งชมวิวไปจนมาถึงเกาะอันแสนสวย      


             ถึงที่เกาะ Meedhupparu แล้ววว ทางโรงแรมจะมีรถกอล์ฟมาบริการให้ ความจริงเดินไปก็ไม่ไกลมากหรอก 5 นาทีก็ถึง แต่ที่นี้เค้าจะเน้นเรื่องบริการเป็นหลักค่ะ กระเป๋าสำภาระใบใหญ่เค้าก็ขนมาให้หมด เราไม่ต้องห่วงเลย ออมแอบสีงเกตุว่านักบินของ seaplane จะใส่กางเกงขาสั้นและไม่ใส่รองเท้ากันทุกคน คงสะดวกเวลาขึ้นลงมากกว่า เผื่อต้องลุยน้ำ

            หมายเหตุ : ปรกติแล้วที่มาเล่ เวลาจะช้ากว่าที่ไทย 2 ชม แต่ว่าที่เกาะนี้เค้าปรับเวลาให้เร็วกว่ามาเล่ 1 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นเวลาที่เกาะนี้จะช้ากว่าที่ไทย 1 ชมค่ะ



                    มาวันแรกโชคร้ายนิดนึง ฟ้าครึ้ม ฝนลงเม็ดตอนบ่ายๆ แล้วตอนค่ำฝนตกหนักมากกกก แต่เป็นอยู่วันเดียว วันที่เหลือแดดแรงสุดๆ 




                บ้านพักริมน้ำทั้งหมด 10 หลัง 

                พอมาถึงที่ Reception ก็จะเสริฟน้ำ มาให้นั่ง รออยู่พักนึงเหมือนกัน 5 นาทีถึงจะได้ เค้าก็เอาใบเสร็จค่าเครื่องบินน้ำมาให้จ่าย แล้วก็พาเข้าห้องพัก ที่เด็ดก็คือ แต่ละห้องจะมี Butler ประจำห้องคอยดูแลอยู่ คนนี้จะเป็นคนที่ทำความสะอาด บริการ และเป็นคนแนะนำห้องพักให้เราค่ะ งงเลยไม่เคยเจอแบบนี้ 55555 

(คุณแม่นอนเล่นสบายเลย)


ตอนเข้ามาในห้อง Butler จะพาเรามานั่งตรงนี้แหละค่ะ เหมือนให้ lecture เราเกี่ยวกับห้องพักเลย


(ขออภัยค่ะรูปไม่ค่อยดี แคปมาจากวิดีโออีกเช่นกัน)


รูปนี้ จากเว็ปไซด์ของโรงแรม ห้องสวยแบบนี้จริงๆค่ะ
Credit : //www.adaaran.com/prestigewatervillas/

               พอเดินเข้ามาในห้อง butler ส่วนตัวของเราก็จะพาเรามานั่งตรงเก้าอี้โซฟา แล้วให้เราเซ็นเอกสาร ขอพาสปอร์ตไป xerox แล้วก็อธิบายทุกอย่างในห้องของเราเลย ว่ามีอะไรบ้าง อุปกรณ์อันไหนเอาไว้ทำอะไร ชี้ให้ดูหมดค่ะ แถมสอนวิธีให้เครื่องทำกาแฟด้วย รู้สึกได้เลยว่าเค้าได้รับการเทรนมาอย่างดีและใส่ใจในการบริการ 

              ในห้องพักสวยมากกกก งามสมกับราคาที่แพงมหาโหด บอกก่อนว่าบ้านแต่ละกระท่อมจะแบ่งเป็น 2 ห้องนะ ไม่ใช่ว่าของเราทั้งหลัง 5555 แต่เค้าแบ่งออกชัดเจนเป็นด้านซ้ายขวา ก็ยังเป็นส่วนตัวอยู่ บ้านเป็นพื้นไม้ทั้งหลัง ฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เป็นไม้ค่ะ ส่วนด้านหลังก็จะเป็นระเบียงที่มองออกไปเห็นทะเล มีบรรไดลงน้ำไปดำน้ำเล่นน้ำได้เลย แล้วมี Sun Bed ไว้ของนอนอาบแดดชมทะเลด้วย แล้วระเบียงด้านหลังไม่ต้องกลัวจะไปจ๊ะเอ๋กับห้องข้างๆ เพราะเค้าทำที่กั้นเป็นไม้ไว้ ถ้าไม่ไปชะโงกหัวริมไม้กั้นก็ไม่เห็นหรอกค่ะ 





คุณแม่ลงไปเล่นน้ำเรียบร้อยละ 5555 เดี๋ยวออมก็ลงค่ะเพียงแต่ไม่มีรูปเท่านั้นเอง Smiley

               ทุกอย่างส่วนตัวมาก คือแทบไม่ต้องออกจากห้องเลยนอกจากตอนไปทานข้าว (หรือสั่งให้ Butler เอาข้าวมาบริการที่ห้องก็ได้) เพราะทุกอย่างมีครบอยู่ในห้องหมดแล้ว มินิบาร์ น้ำดื่มและขนมในห้องทานได้เลยไม่ต้องจ่ายเพิ่มค่ะ เพราะเป็น all inclusive เครื่องทำกาแฟ เครื่องทำน้ำร้อน ชา น้ำดื่มขวดใหญ่ 2 ขวด มีมาครบ และสุดท้ายเค้าให้ยืม Snorkel และ ตีนกบด้วย จะได้เอาไปดำน้ำตื้นแถวๆชายหาดกันได้


มีแชมเปญมาให้ด้วยค่ะ 1 ขวด ถึงวันนี้ออมยังไม่ได้เปิดเลย แต่เอากลับมาไทยด้วยนะ เสียดาย Smiley


           ส่วนที่ข้ามไปไม่ได้เลยคือห้องน้ำ พื้นที่ในห้องน้ำมันใหญ่มากจนแบบ... เต้นรำให้ห้องน้ำได้อ่ะ 5555 โล่งโปร่งดีค่ะ โถส้วมก็ใหญ่มากนั่งสบายแต่ทำไมที่ฉีดชำระเค้าไปแขวนไว้สูงจังก็ไม่รู้ และในห้องน้ำตรงนี้ไม่มีอ่างนะคะมีแต่ shower เพราะด้านนอกมีอ่าง Jacuzzi แล้ว Smiley



รูปสุดท้ายจากเว็ปไซด์ของโรงแรมค่ะ
Credit : //www.adaaran.com/prestigewatervillas/


      อ่างจากุซซี่ด้านนอก เย่! แต่น้ำไม่ค่อยอุ่นเลยอ่าาา สงสัยเครื่องปั๊มน้ำร้อนคงเล็ก แล้วกว่าจะมาถึงอ่างคงไม่เหลือความอุ่นละ เพราะมันต้องต่อมาไกลถึงกลางน้ำ... ไม่รู้เกี่ยวไหมนะ คือออมเปิดแปปเดียวเองมันก็หายร้อนละ เลยแช่ได้แปปเดียว น้ำไม่อุ่นออมไม่ฟินอ่ะ





แน่นอนบ้านพักกลางน้ำแบบนี้ต้องมีกระจกที่พื้นให้มองลงไปเห็นพื้นทะเลข้างล่างด้วย เห็นหมู่ปลาจากข้างบนเหมือนกันนะคะเพราะน้ำใสมากกกก




           sun bed ใช้ได้เลย นุ่มนิ่มนอนสบาย ถ้าไม่กลัวดำนะ ออมมาตากแดดตากลมอยู่นานเลย 


ขอถ่ายรูปสวยๆกับเค้ากันบ้าง งิงิ มองออกไปเห็นทะเลสวยๆเลย


ถ่ายจากห้องพัก โอ้ยยยย ชอบสีน้ำทะเลมาก สวยกว่ามีอีอีกไหม ?!?!?


รูปเยอะหน่อยนะ Smiley


โอเคเกี่ยวกับห้องพักพอแล้วเน๊อะ เรามาดูบรรยากาศรอบๆโรงแรมบ้างดีกว่า

                ห้องอาหารที่โรงแรมจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนด้านซ้ายคือห้องอาหาร และด้านขวาจะเป็นห้องนั่งเล่นที่จะเปิดตอนบ่ายๆ ให้แขกเข้ามานั่งเล่นได้ค่ะ (เวลาอื่นอาจจะทำความสะอาด)
ในห้องนั่งเล่นกว้างขวางดี มีเก้าอี้นุ่มนิ่มให้นั่ง มีหนังสือ และ board game อย่างหมากรุก เกมต่อคำ scrabble เกมเศรษฐี และอื่นๆอีกสองสามอย่าง ก็ถือว่ามีเกมให้เล่นหลากหลายเหมือนกันค่ะ ถึงแม้มันจะเก่าๆหน่อย ออมแนะนำถ้ามากับกลุ่มเพื่อนเอาไพ่มาเล่นเองก็ดีนะ เพลินเลย 



รูปสุดท้ายนี้เครดิตจากเว็ปไซด์ของโรงแรมค่ะ
Credit : //www.adaaran.com/prestigewatervillas/

ห้องสวย ตกแต่งดี น่าอยู่ค่ะ อบอุ่นเหมือนอยู่ในบ้านเลย


                  ช่วงเวลาบ่าย 2 ถึง 5 โมง (ถ้าจำไม่ผิด) เค้าจะมีบริการขนมว่างค่ะ บางวันจะเป็นคุ้กกี้ หรือบางวันจะเป็นไอศรีม อร่อยทุกอย่างเลย แต่ออมก็เป็นคนกินง่ายด้วยแหละ 



           น้ำดื่มรวมอยู่ในค่าโรงแรมแล้ว สั่งได้ตลอดเลย เมนูน้ำที่นี่มีค่อนข้างหลากหลายอยู่ค่ะ ส่วนใหญ่จะเน้นไปทาง tropical fruit
พนักงานเสริฟค่อนข้างโอเค ตอนช่วงคนเยอะๆอาจจะบริการช้านิดนึง แต่ยังรับได้อยู่ พูดจาและท่าทางสุภาพดี ตรงนี้ไม่มีปัญหาอะไร แต่ก็ไม่ได้ประทับใจเว่อร์ๆนะ


ส่วนห้องอาหารจะเป็นส่วนด้วนซ้าย บรรยากาศแบบนี้เลยจ้าา

Credit : //www.adaaran.com/prestigewatervillas/

              เนื่องจากว่าที่นี่เป็น All Inclusive ค่าอาหารจึงรวมอยู่กับค่าที่พักที่แพงแสนโหดแล้ว ก็ได้ความรู้สึกสบายดีนะ ไม่ต้องพกเงินติดตัวเลย ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าอาหารแต่ว่าเรื่องกินคุ้มไม่คุ้มนี่ก็แล้วแต่คนอีกที สำหรับออมกินไม่คุ้มหรอกเพราะเป็นคนกินไม่เยอะอยู่แล้ว

              ที่นี่จะบริการอาหาร เช้า 6:00 - 12:00 เที่ยง 12:00 - 2:00 และเย็น 18:00 - 22:00 ไม่ได้เป็นบุฟเฟ่ต์เลยนะคะ เป็นอาหารชุดทั้งหมด มีตัวเลือกให้หลากหลายพอสมควร

              มื้อเช้าจะมีทั้ง ชา กาแฟ น้ำผลไม้ น้ำอัดลม อาหารเบาๆก็เป็นพวกขนมปัง ครัวซอง ใข่ omelet แฮมและชีส เราสามารถชี้สั่งได้เลยเป็นจานๆ สั่งกี่จานก็ได้ (แต่ควรทานทุกอย่างให้หมดนะ) หรือจะเป็นอาหารหนักๆอย่างเสต็กปลาทูน่า ข้าวแกงของพื้นเมือง ฯลฯ สำหรับมื้อเช้าออมว่าโอเคเลย ทีตัวเลือกเยอะ อารมณ์เหมือนบุฟเฟ่ห์นั่นแหละแค่เรานั่งสั่งอาหารในเมนู แต่ ! เมนูอาหารเช้าจะไม่ได้เปลี่ยนนะ คือมีให้เลือกเท่าที่เห็นในเมนู แล้วเมนูก็จะซ้ำๆกันทุกวันค่ะ 


              มื้อเที่ยงออมกินแค่ครั้งเดียวเองที่ไป เพราะกินมื้อเช้าก็อิ่มเลยมาถึงเย็นๆแล้ว แต่มื้อเที่ยงก็เป็นอาหารชุดค่ะ เริ่มจาก soup (มีให้เลือก 2 แบบ) - main course (มีให้เลือก 3 - 4 แบบ) - dessert (มีให้เลือก 2-3 แบบ) แต่ละวันเมนูจะไม่ซ้ำกันค่ะ ออมไปมา 4 วันก็ไม่เจออาหารเมนูซ้ำกันสักมื้อเลย

              มื้อเย็นหนักสุด มีตั้งแต่ starter (เป็นพวกอาหารคำเดียว เก๋ๆ เรียกน้ำย่อย / มีให้เลือก 3 แบบ) - soup (มีให้เลือก 3 แบบ) - main course (มีให้เลือก 3 - 4 แบบ) - dessert (มีให้เลือก 3 - 4 แบบ) และแน่นอนค่ะแต่ละวันที่ออมไปไม่เจอเมนูซ้ำกันเลย 


              ตัวเลือกที่โรงแรมมีให้สำหรับมื้ออาหารกลางวันและเย็นนั้นก็จะเป็นอาหารแนวจีนๆ เอเชียนๆ หรือไม่ก็อาหารฝรั่ง และบางอย่างมีอาหาร local ให้เลือกด้วย โดยส่วนตัวแล้วออมว่าอาหารอร่อยดีนะ กินได้ไม่มีปัญหา ไม่ได้เจออาหารรสชาติแบบ แย่มากกินไม่ลง แต่อาจจะมีบางจานที่ไม่ถูกปากคนไทยสักเท่าไหร่ เพราะอาจจะเลี่ยนหรือรสชาติไม่จัดจ้าน
             นอกจากน้ำเปล่า น้ำอัดลม และน้ำผลไม้ที่สั่งได้ตลอดเวลาแล้ว ยังมี alcoholic drinks ที่สามารถสั่งได้ตลอดตั้งแต่เวลา 10:00 - 00:00 สำหรับเมนูแอลกอฮอลล์ก็มีให้เลือกเยอะพอใช้ได้ค่ะ ประมาณ 20 กว่าเมนู เรื่องนี้ออมไม่ถนัดเท่าไหร่ 5555 แต่ทางโรงแรมอาจจะไม่ได้เน้นเรื่องเครื่องดื่มเอลกอฮอลมากนัก รสชาติปรกติ บางวันอร่อย บางวันไม่อร่อย สงสัยแต่ละวันคนทำไม่เหมือนกัน ออมแนะนำให้สั่งวันละแก้วละกันจะได้รู้ว่าตกลงมันอร่อยหรือเปล่า



             อ้อลืมบอกไป ที่นี่เค้าเน้นเรื่องการบริการใช่ไหมคะ คือมีอยู่ 2 - 3 ครั้งที่นั่งกินๆอยู่แล้วมีพนักงานไม่คุ้นหน้ามายืนด้อมๆมองๆอยู่ใกล้ๆ ตอนแรกเราก็งง แบบเธอต้องการอะไร Smiley แล้วเค้าก็มาถามว่า เอ้อยู อาหารเป็นยังไงบ้าง รสชาติโอเคไหม เราก็เลยรู้ว่าเค้าเป็น chef มาตรวจสอบความพอใจของลูกค้านั่นเอง น่ารักดี

             เรื่องอาหารจบไปแล้ว ออมจะพูดถึง topic สุดท้ายแล้วละกัน นั่นก็คือ facilities หรือ activities ที่โรงแรมนี้มีให้กับแขกนะคะ

             หลักๆก่อนเลยละกันคือเรื่องดำน้ำ ดูปลา บริเวณโรงแรมมีปลาเยอะ และปลาตัวใหญ่ ปลาแปลกๆก็มีด้วย (แอบกระซิบว่าออมเห็นปลากระเบนด้วยตั้ง 2 ตัว แต่ไม่แน่ใจว่าตาฝาดหรือเปล่าเพราะเห็นแวบเดียวมันก็หายไปละ) ถ้าใครอยากมา snorkel ดูปลาก็สามรถดำได้รอบๆชายหาด หรือหลังห้องพักเลย ทางโรงแรมจะมี snorkel mask กับ ตีนกบให้ถ้าเราไม่มีของเราเอง แต่ปะการังแปลกๆสวยๆที่นี่ไม่ค่อยมีค่ะ ส่วนใหญ่เป็นหินหรือไม่ก็ปะการังแข็งๆ ดูตามรูปได้เลยค่า ทั้งหมดนี้ถ่ายจากบริเวณรอบๆโรงแรม



            Snorkel Trip และ Water Sports อื่นๆก็มีนะคะ แต่จะไม่ได้เป็นของโรงแรม เราต้องจ่ายเงินเพิ่มเอง คืออีกฝากนึงของเกาะ (ซึ่งเดินไปประมาณ 5-10 นาที) ก็จะเป็น Water Sports Center มีหลายๆกิจกรรมให้เราได้เล่น แต่มัน แพง!! อย่าง snorkel trip ไปครึ่งวัน 3 location ก็ 90 USD ยังไม่รวม tax กับ fee อื่นๆอีก ก็ตกคนละประมาณ 3 พันกว่าบาท ซึ่งถ้าเทียบกับ snorkel trip ที่ไทยแล้วราคาแพงกว่าหลายเท่า แล้วออมไปเล็งๆดูไม่ค่อยมีคนลงชื่อจะไปสักเท่าไหร่ ช่วงใกล้ๆเทศกาลแบบนี้คนก็มาเที่ยวเยอะ แต่ snorkel trip ไม่มีคนไปเลย ก็เลยคิดว่างั้นไม่ไปดีกว่า ดูปลาแถวโรงแรมกับนอนพักผ่อนก็พอละ (ความจริงลึกๆก็เสียดายและอยากไปอยู่ มีไปดูเต่าทะเลด้วยนะ Smileyกิจกรรมอย่างอื่นก็มีพายเรือแคนนู (ไม่เห็นคนพายเลย) กับ water jet ski (ไม่เห็นคนมาเล่นเหมือนกัน)

          สรุปโรงแรมนี้อาจจะไม่เหมาะกับคนที่อยากทำ activity สักเท่าไหร่ เพราะมันมีไม่เยอะและคนที่มาเกาะนี้เหมือนจะชอบนอนแช่น้ำตากลมมากกว่า 

         กิจกรรมถัดไปที่ทางโรงแรมจัดให้รวมกับค่าที่พักแล้วนั่นก็คือ spa 30 นาที เค้าจะให้เลือกว่านวดหลัง หรือว่าเท้า หมอนวดเป็นผู้หญิงจากบาหลีค่า น่าตาน่ารักดี ถ้าสาวๆคนไหนเลือกนวดหลังต้องบอกก่อนเลยว่าเค้าจะให้ถอดเสื้อในออกด้วยนะ เพราะจะเป็นนวดน้ำมัน แต่ไม่ต้องห่วงค่ะเค้ามีผ้าคลุมให้

         กิจกรรมอย่างสุดท้ายแล้วค่ะที่ทางโรงแรมมีให้ฟรี คือ Sun Set Cruise เนื่องจากที่โรงแรมจะเห็นแค่พระอาทิตย์ขึ้น เค้าก็เลยมีจัดล่องเรือไปชมพระอาทิตย์ตกที่อีกฝั่งของเกาะได้ แต่วันนั้นที่ไปเฟลมากกกก คือเรือมาช้าเกือบ 1 ชั่วโมง เพราะมีปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ และวันนี้เมฆครื้มสุดๆ ก็เลยไม่เห็นกระอาทิตย์ตกเลย แต่เค้าก็ยังพาเราล่องเรือไปชมรอบเกาะนะ เป็นเกาะที่เล็กดี แบบว่าสามารถวื่งรอบเกาะได้เลยถ้าเค้าไม่กั้นหาดให้เป็นส่วนๆ

         ถึงแม้จะไม่ได้รูปพระอาทิตย์ตกสวยๆออมก็ได้รูป siluet สวยๆแบบนี้มาแทนค่ะ แม่บอกว่าเหมือนเป็นนางเงือกเลย 55555




สุดท้ายแล้ว ! ก่อนกลับมาดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน ตรงนี้เห็นง่ายมากจากด้านหลังห้องพักเลย 



        ขากลับ ออมบิน Bangkok Airways PK712 ออกจากที่มาเล่ 12:40 ค่ะ แล้วทีนี่ถ้าจะออกจากที่โรงแรมวันเดียวกับที่บินเลยมันจะต้องออกเช้ามากกก แล้วถ้าเกิด sea plane มาช้า หรือเกิดเหตุอะไรขึ้นมาจะเสี่ยงต่อการตกเครื่อง ออมก็เลยออกจากโรงแรม 1 วันก่อนบินกลับกรุงเทพ แล้วคืนสุดท้ายก็พักโรงแรมใกล้ๆกับสนามบินเอาค่ะ จะได้ไม่ต้องรีบตอนเช้า และไม่เสียเงินค่าที่พักแพงๆโดยที่ต้องรีบออกแต่เช้าด้วย Smiley

        โรงแรมแถวสนามบินมีหลายที่เหมือนกัน ออมไปพักที่ Crystal Beach Inn มาค่ะ เป็นโรงแรมราคาประหยัดแบบไม่คิดอะไรมาก ห่างจากสนามบินแค่ 5 นาทีโดยการขับรถ และโรงแรมที่นี่มีบริการรับ-ส่งที่สนามบิน สะดวกดี ออมไม่ได้ถ่ายรูปที่โรงแรมนี่มาเลยเพราะมันไม่สวยค่ะ ไม่มีอะไรให้น่าถ่าย 55555




             เท่านี้ก็จบแล้วค่าาา สำหรับการรีวิวทริปมัลดีฟส์และที่พักสวยๆอย่าง Adaaran Prestige Water Villa หวังว่าบล็อกนี้จะเป็นประโยชน์ให้เพื่อนๆไม่มากก็น้อยนะ
มีอะไรผิดพลาด พิมพ์ตกหล่นตรงไหนก็ขออภัยด้วยค่ะ สำหรับวันนี้ออมไปแล้วนะ บ้ายบายยยย

             ปล. ทริปนี้ออมใช้กล้อง CANON 700D กับเลนส์ CANON EF-S 24mm f/2.8 STM ถ่ายรูปบนบก
ส่วนรูปใต้น้ำออมใช้กล้อง XIAOMI Yi Camera ปรับโฟกัสเลนส์แล้ว-ไม่ได้ใส่ฟิลเตอร์
ทุกรูปออมใช้ Lightroom แต่งแสงและสีนิดหน่อยค่ะ



สถานที่ท่องเที่ยว : Adaaran Prestige Water Villa, Maldives
พิกัด GPS : 5° 27' 20.94"N 72° 58' 46.48"E






Create Date : 01 มกราคม 2559
Last Update : 4 มกราคม 2559 17:49:11 น.
Counter : 3322 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

PiggyGirlBeauty
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



ขอต้อนรับเพื่อนๆเข้าสู่บล็อกของออมนะคะ ออมก็เป็น beauty blogger อีกคนนึงที่ชอบการแต่งหน้าทำผม และความสวยความงามต่างๆ ออมจะรีวิวสินค้าตามความเป็นจริง ไม่อวยไม่พูดเวอร์จนเกินไป ถึงแม้ว่าสินค้าบางอย่างจะมีสปอนเซอร์มาบ้าง ออมก็จะไม่ทำอะไรที่บิดเบือนจากความเป็นจริงค่ะ

  •  Bloggang.com